เจย์มองแองเจลีนเดินเข้าไปในบริษัทก่อนที่จะกลับรถขับออกไปเขาไปที่ตลาดซึ่งรับแกะตราประทับ ก่อนเลือกร้านที่ดูมีอุปกรณ์ทันสมัยแล้วสั่งทำสินค้าด่วนสองชิ้นใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าของร้านก็ออกมาแล้วส่งตราประทับให้พร้อมพูดว่า “คุณครับ เราตั้งใจทำออกมาให้มีตำหนิเล็กน้อยบนตราประทับตามที่คุณสั่งแล้ว”“โอเคครับ ขอบคุณมาก” เจย์รับตราประทับมาแล้วเมื่อเขามองตัวหนังสือที่แกะอย่างพิถีพิถันลอกแบบตราประทับเก่า มุมปากเขาก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจพอออกจากร้านที่รับทำตราประทับ เจย์ก็ไปที่ตระกูลอาเรสคุณนายอาเรสและเซร่าต่างก็ทักทายเจย์อย่างยินดีเมื่อเห็นว่าเจย์กลับมาแล้ว“ได้ตราประทับของแองเจลีนมาไหมลูก?” คุณนายอาเรสถามอย่างกระเหี้ยนกระหือรือทันทีเมื่อเธอเจอเจย์เจย์พยักหน้า เขาถามเสียงเรียบ “แล้วสัญญาอยู่ที่ไหนครับ?”คุณนายอาเรสหันไปส่งสายตาให้เซร่า ก่อนที่เซร่าจะหันหลังเดินเข้าไปในห้อง เวลาไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมเอกสารปึกใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเตรียมเอกสารสำคัญพวกนี้ไว้รอล่วงหน้าแล้วเจย์หยิบตราประทับทั้งสองออกมาแล้วก็ประทับลงไปอย่างรวดเร็วในตำแหน่งที่เซร่าชี้ให้เซร่ารู้สึกโล่งใจ ตอนแรกเธอยังกังว
”ยินดีด้วยนะคะคุณพ่อ คุณพ่อกำลังจะได้เป็นชายที่รวยที่สุดในเมืองอิมพีเรียล” เซร่ากล่าวสตีเฟนยิ้มอย่างเจ่าเล่ห์ “เธอมีส่วนช่วยอย่างมากเลยเซร่า จากนี้เธอจะเป็นทายาทของเบล เอนเตอร์ไพรส์”เมื่อเซร่าจินตนาการภาพความมั่งคั่งของเบล เอนเตอร์ไพรส์หลังจากที่ยึดแกรนด์ เอเซียมาได้ ซึ่งไม่นานเธอจะเป็นทายาทที่ถูกต้องของเบล เอนเตอร์ไพรส์ เซร่าก็รู้สึกเหมือนชีวิตนี้ได้ถูกรางวัลใหญ่เมื่อเวลานั้นมาถึง เธอสาบานว่าจะเชิดหน้าไปหาแองเจลีน ถ้าหล่อนที่กำลังสิ้นท่าได้เห็นเซร่า เธอก็จะยิ่งสะใจหลังจากที่ออกมาจากตระกูลอาเรส เจย์ก็ขับเฟอร์รารีตรงไปที่โฮไรซอน คอลเลอร์ทันทีตอนนี้เขารู้สึกคึกคักหัวใจพองโตมาก เพราะว่ากำลังจะได้เจอลูกสาวของตนเมื่อเขากดออดหน้าบ้าน ฟินน์ก็ออกมาเปิดประตูและเมื่อได้เห็นเขาอยู่ที่นี่ เจย์ก็แปลกใจมาก แค่คิดว่าฟินน์อาศัยอยู่ด้วยกันกับเซ็ตตี้น้อยในใจของเจย์ก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจ“คุณเบ็น” ฟินน์ดูแปลกใจ“เซ็ตตี้น้อยอยู่ที่ไหน?” เจย์ถามด้วยสีหน้าอึมครึมเขาเคยคิดว่าฟินน์นั้นดี แล้วก็คิดว่าหนุ่มคนนี้ทั้งมีความสามารถและหน้าตาดี แต่หลังจากได้รู้ว่าเจ้าหนุ่มนี่อาจจะคว้าเซ็ตตี้น้อยไป เจย์ก
เซ็ตตี้รีบแก้คำพูดเขาว่า “ไม่ค่ะ พี่ฟินน์ค่ะ ไม่ใช่อาฟินน์”เจย์พูด “งั้นก็ปล่อยพี่ฟินน์ก่อน”เซ็ตตี้น้อยหน้ามุ่ย ก่อนปล่อยแขนฟินน์ฟินน์รู้สึกเหมือนภาระหนักหนาถูกปลดลงจากบ่าแล้วเมื่อเซ็ตตี้กลั่นแกล้งรังแกฟินน์จนหนำใจแล้ว เธอก็หันมาทรมานเจย์แทน“คุณลุงเบ็นคะ โรงเรียนหนูกำลังจะจัดงานประชุมระหว่างครูกับผู้ปกครอง แต่ว่าทั้งแม่หนูกับคุณฟินน์ก็ไปไม่ได้กันทั้งคู่เลย คุณช่วยแกล้งทำเป็นพ่อหนูแล้วไปประชุมแทนได้ไหมคะ?” เซ็ตตี้น้อยขอร้องฟินน์กลัวว่าเจย์จะอึดอัดกระอักกระอ่วน เขาเลยรีบเสนอตัว “ฉันว่างนะ”ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์มืดครึ้ม เซ็ตตี้โกหกจนติดนิสัยไปเสียแล้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลยเซ็ตตี้น้อยเริ่มทำตัวโศกเศร้าเรียกร้องความเห็นใจ “ทุกครั้งที่มีประชุมระหว่างครูกับผู้ปกครอง เด็กคนอื่นก็หัวเราะเยาะหนูแล้วก็บอกว่าหนูเป็นกำพร้าที่ไม่มีพ่อ ทำไมคราวนี้คุณไม่ช่วยหนูล่ะคะ คุณเบ็น? ถ้าเพื่อนในห้องเห็นว่าหนูมีพ่อที่หล่อขนาดนี้ พวกเขาต้องไม่หัวเราะเยาะหนูอีกแล้ว”ฟินน์เปิดโปงแผนของเธอโดยบอกว่า “นี่มันข้ออ้างเดียวกับที่เธอบอกฉันตอนที่ให้ฉันไปประชุมครั้งก่อนเลยนี่นา”เมื่อเซ็ตตี้โดนฟินน์ทำแผนแ
ดวงตาคมปลาบของแองเจลีนเผยแววเย้ยหยัน “ใครบอกเธอว่าแกรนด์ เอเซีย อาเรส เอนเตอร์ไพรส์ จะแยกเป็นเอกเทศ? ฉันไม่เคยตัดสินใจอะไรโง่ ๆ แบบนั้น ไสหัวไป”แทนที่จะโมโห เซร่ากลับหัวเราะ “ไม่เห็นเอกสารที่ฉันหอบมานี่เหรอ ประธานเซเวียร์?”แองเจลีนหยิบเอกสารออกมาจากอ้อมแขนเซร่าแล้วเปิดดูอย่างไม่ใด้ใส่ใจจริงจัง เมื่อเธอเห็นตราประทับส่วนตัวของเธอบนเอกสาร ดวงตาเธอก็หรี่ลง“ใครประทับตราพวกนี้?” แองเจลีนเค้นเสียงพูดอย่างฉุนเฉียวเซร่ายิ้มอย่างมีเล่ห์ร้าย “ฉันเดาว่าเธอก็คงยังไม่รู้สินะ ประธานเซเวียร์? เจย์บี้เอาตราประทับของเธอมาให้ฉันไงล่ะตะ”แองเจลีนนึกย้อนไปถึงตอนที่เจย์กลับมาบ้านเมื่อคืนนี้ พร้อมสีหน้าท่าทางจริงจังของเขาขณะที่ยืนกรานให้เธอคืนอาเรส เอนเตอร์ไพรส์ไป… ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าสันหลังเย็นวาบเมื่อเซร่าเห็นสีหน้าสิ้นหวังของแองเจลีน เธอก็ยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ “ประธานเซเวียร์ ชะตาคนเรามันเปลี่ยนแปลงได้ ตอนแรกเธออาจจะถือไพ่เหนือกว่า แต่ไพ่ของเธอมันใช้การไม่ได้แล้ว เพราะว่านายท่านอาเรสสูญเสียความทรงจำแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรเธออีกแล้ว”แองเจลีนพยายามอย่างมากที่จะเก็บความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ภา
”ฉันควรทำยังไงดี?” แองเจลีนถอนใจอย่างหดหู่“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งคุณจะเป็นคนที่ทำให้ฉันพ่ายแพ้”ร่างกายเธอเริ่มสั่นเทา เธอรู้สึกได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่มีกำลังค่อย ๆ หมดไปทันทีที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แองเจลีนก็รีบเรียกเซย์นมา “พาฉันไปโรงพยาบาลทีเซย์น”เซย์นแบกแองเจลีนขึ้นหลังแล้วรีบพาเธอไปที่โรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียที่อยู่ตึกตรงข้ามกันทางโรงพยาบาลสั่งให้แองเจลีนต้องเข้านอนพักเพื่อสังเกตอาการในโรงพยาบาล และด้วยหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในแกรนด์ เอเซียตอนนี้แองเจลีนจึงต้องการให้ทางโรงพยาบาลเก็บเรื่องอาการป่วยของเธอไว้เป็นความลับเซย์นถามแองเจลีน “เราควรบอกนายท่านอาเรสไหม?”แองเจลีนส่ายหน้า “ไม่ล่ะ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ข้างเดียวกับฉัน ถ้าเขารู้ว่าฉันไม่สบายเขาอาจจะเอาไปบอกคุณนายอาเรส แล้วถ้าเป็นแบบนั้น เบล เอนเตอร์ไพรส์ก็จะฉวยโอกาสเข้าโจมตีแล้วอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้แกรนด์ เอเซียได้”เมื่อได้ยินแบบนั้น เซย์นก็ถอนใจมาอย่างหม่นหมองหลังจากเข้าร่วมการประชุมครูและผู้ปกครองที่โรงเรียนเรียบร้อย เจย์ก็พาเซ็ตตี้กลับไปที่สวนบันทึกรักเมื่อมาถึงที่พักทั้งพ่อและลูกสาวต่างก็พากันผิด
เซ็ตตี้น้อยพูดพร้อมด้วยน้ำตาเอ่อคลอ “คุณแม่ไม่ใช่คนโกหกนะคะ คุณแม่ต้องมีเหตุผลอะไรแน่ ๆ”เจย์มองเซ็ตตี้ ใจเขาอ่อนยวบเมื่อเห็นสีหน้าอ่อนหวานน่ารักของเธอ เขารูัตัวว่าไม่ควรจะอารมณ์เสียต่อหน้าเด็กเจย์ลุกขึ้นจากโซฟาหลังเงียบไปชั่วครู่ ก่อนพูดว่า “เราไปรับคุณแม่กันดีกว่าเซ็ตตี้น้อย ทำไมหนูไม่โทรหาแม่ตอนนี้เลยล่ะแล้วถามว่าแม่อยู่ที่ไหน?”เซ็ตตี้ทำตามคำแนะนำของเจย์แล้วก็โทรหาแองเจลีน แต่คราวนี้โทรศัพท์ของแองเจลีนติดต่อไม่ได้แล้วไม่ต้องเดาว่าเจย์จะดูหงุดหงิดมากแค่ไหนที่โรงพยาบาลแกรนด์ เอเซียแองเจลีนกำลังนอนอยู่บนเตียงตรวจ แล้วกำลังให้หมอตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด ผลการตรวจก็ออกมาเหมือนเดิมทุกครั้ง… “เราหาความผิดปกติของอวัยวะใด ๆ ไม่พบ อาการนั้นเกิดเพราะร่างกายของคุณตอบสนองกับความเครียดและอาการตื่นตระหนกอย่างฉับพลัน พักผ่อนสักสองสามวันบางทีอาการที่เป็นอาจจะดีขึ้น”หมอรู้ดีว่าแองเจลีนไม่ชอบการทานยามากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สั่งจ่ายยาให้เธอ แต่แองเจลีนกลับทำให้เขาประหลาดใจด้วยการขอยาเอง “ช่วยสั่งจ่ายยาให้ด้วยค่ะ ขอยาที่แรง ๆ เลยนะเพราะว่าฉันต้องการหายให้ไวที่สุด”หมออึ้งไปเล็กน้อย
แองเจลีนรู้สึกหัวใจเจ็บแปลบขณะที่เธอแค่นหัวเราะพร้อมถาม “ทำไม?”เจย์รู้สึกขุ่นเคือง ทำไมชายสูง 7 ฟุตอย่างเขาต้องมานั่งยอมให้ภรรยาซักไซ้ ทั้งที่เขาควรเป็นคนถามเธอว่าทำไมถึงกลับบ้านดึก?“ตอบคำถามผมมาก่อน ทำไมคุณถึงกลับบ้านดึก?”แองเจลีนตอบ “ฉันทำงานล่วงเวลาน่ะ”เจย์แค่นเสียงเยาะ ข้อแก้ตัวของผู้หญิงคนนี้ช่างไร้น้ำหนักไม่น่าเชื่อถือ “งั้นทำไมคุณไม่รับสายผม?”แองเจลีนตอบ “ฉันไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์”เจย์ผุดลุกจากที่นั่งและคำรามก้องด้วยความโกรธ “คุณช่วยซื่อสัตย์กับผมบ้างได้ไหม แองเจลีน?”แองเจลีนถามเสียงอ่อนล้า “แล้วคุณจะเชื่อฉัน 100 เปอร์เซ็นต์ไหม?”เจย์หันหลังแล้วจากไปอย่างเดือดดาล เมื่อเขาเดินผ่านเธอเขาก็กัดฟันพูดว่า “ตราประทับที่ผมให้เซร่าไปเป็นของปลอม”จากนั้นเขาก็เดินออกไปด้านนอกแองเจลีนอึ้งงมโง่ เธอยื่นมือออกไปคว้ามือเขาไว้ทันทีอย่างไม่อาย“ปล่อยผม” เจย์สั่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแองเจลีนโดนพลังของเขากดข่มจนกลัว แล้วยอมปล่อยมืออย่างเชื่อฟัง“ฉันอธิบายได้ เจย์บี้” แองเจลีนกล้าวเจย์กัดฟันและแค่นเสียงพูด “ผมแม่งคงโคตรโง่ ถ้ายังเชื่อคุณอีก”พอพูดจบเขาก็ผลุนผลันจากไปแอ
แองเจลีน : [ฉันผิดเองค่ะ เจย์บี้ ทั้งทุเรียน คีย์บอร์ดและก็ลูกคิดมีพร้อมแล้ว ฉันจะคุกเข่าทับไว้แล้วรอคุณกลับมา]น้ำแข็งเย็นเยียบในดวงตาของเจย์ละลายลง“โอ๊ย แม่สาวคนนี้”เห็นได้ชัดว่าเขานั้นยังโมโหไม่หาย แต่ว่าน้ำเสียงของเขาก็อ่อนลงเจย์กลับไปที่สวนบันทึกรักตอนเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นสิ่งที่เขาได้เห็นก็คือเซ็ตตี้น้อยที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าในห้องอาหารเพียงลำพังเมื่อเจย์มองหาแล้วไม่เห็นแองเจลีน เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “คุณแม่อยู่ไหนล่ะ?”“คุณลุงมารับคุณแม่ไปทำงานแล้วค่ะ” เซ็ตตี้น้อยตอบเจย์ขมวดคิ้ว เมื่อคืนนี้เธอเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจแต่ว่าเธอก็ยังคงออกไปทำงานแต่เช้าแล้วก็กลับมืดค่ำเหมือนเดิม โดยไม่มีความคิดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมเมื่อเซ็ตตี้น้อยสังเกตเห็นสีหน้าเย็นชาของพ่อ เธอก็รีบหยิบห่อยาออกมาจากลิ้นชักแล้วก็โยนไปให้เจย์พร้อมบอกว่า “คุณพ่อคะ ช่วงนี้ต้องมีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้นที่บริษัทแน่นอนที่กระตุ้นอาการวิตกกังวลของแม่อีกแล้ว เมื่อก่อนคุณแม่จะใช้แค่แรงใจก้าวผ่านอาการพวกนี้ไปได้ แต่คราวนี้คุณแม่ถึงกับเอ่ยปากขอให้หมอจ่ายยาให้”เจย์อ่านฉลากยาและเมื่อเขาเห็นผลข้างเคียงของยา สีหน