เขาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแล้วพูดกับเกรย์สันและเซย์นว่า “ออกไปทั้งสองคนเลย”เกรย์สันลากเซย์นไปด้วยกันแล้วรีบออกจากห้องทำงานไปเจย์ก้มลงมองแองเจลีนแล้วถามเธอ “เมื่อคืนคุณไปโรงพยาบาลมาใช่ไหม?”ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า ถ้าโกหกเขาอีกเธอจะต้องเจอปัญหาแน่ ๆ ดังนั้นแองเจลีนจึงไม่กล้าโกหกแล้วพยักหน้า “อืม”บรรยากาศแบบเป็นศัตรูที่แผงอยู่ในแววตาของเจย์จางหายไป เหลือแต่ความห่วงใยเข้ามาแทนที่“แล้วหมอว่ายังไงบ้าง?”“หมอบอกว่าฉันไม่เป็นไร แค่ต้องกินยาให้ตรงเวลา” แองเจลีนพยายามพูดด้วยท่าทีที่ดูสงบนิ่งที่สุดเท่าที่เธอทำได้เจย์สั่งอย่างเด็ดขาด “หยุดกินยาซะ คุณไม่ต้องกินยาที่มีผลข้างเคียงรุนแรงแบบนั้นหรอก”ดวงตาแองเจลีนน้ำตาเอ่อ “แต่ฉันจะมองไม่เห็นถ้าไม่กินยา ตอนนี้แกรนด์ เอเซียต้องการฉัน…”เจย์คำรามอย่างโมโห “แกรนด์ เอเซียไม่มีค่าอะไรถ้าเทียบกับสุขภาพของคุณ”เมื่อรู้ตัวว่าเขาอาจจะกำลังทำให้เธอกลัว เขาก็พูดให้นุ่มนวลขึ้นแล้วพูดต่อ “ตราบใดที่คุณสบายดี แองเจลีน แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่สำคัญ”แองเจลีนพยักหน้าพร้อมยิ้ม “อืม”เจย์ดึงเธอเข้ามากอด เสียงคาดคั้นเปี่ยมโทสะของเขาก็เปลี่ยนเป็นเสียง
เมื่อเจนสันเข้ามาในระบบของแกรนด์ เอเซีย เขาก็เห็นถึงความผิดปกติในทันที ระบบมันเป็นอัมพาตและกองทุนหุ้นก็ถูกโอนย้ายออกไปดวงตาสีดำเปี่ยมเสน่ห์ของเจนสันเย็นเยียบในทันใด“แกกล้าดียังไงมาสร้างปัญหาให้แม่?”“พวกแกคงอยากตายสินะ”เขาเป็นแฮกเกอร์ที่มีพรสวรรค์ รวมถึงได้รับการชี้แนะสั่งสอนจากคุณพ่อที่เป็นอัจฉริยะตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเจนสันจึงมีทักษะและพรสวรรค์ของการแฮ็กที่โดดเด่นเมื่อเขาเข้ามาเรียนที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนานครั้งแรก ทักษะความสามารถการแฮ็กของเจนสันก็เหนือชั้นกว่าครูและนักเรียนคนอื่นในชั้นเรียนวิชาแฮกเกอร์ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ยิ่งศึกษาค้นคว้าลึกลงไป แล้วก็มีทักษะการแฮ็กที่เหนือชั้นล้ำหน้าขึ้นไปอีกเจนสันใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็รู้ที่อยู่ไอพีของแฮกเกอร์คนนั้น เมื่อเห็นว่าที่อยู่ไอพีชี้ชัดไปที่เบล เอนเตอร์ไพรส์ ใบหน้าหล่อเหลาของเจนสันก็มืดครึ้ม“พวกแกต้องจ่ายค่าตอบแทนสาหัสเลยที่กล้ามารังแกคุณแม่”เพื่อเป็นการแก้แค้น เจนสันล้างกองทุนหุ้นของเบล เอนเตอร์ไพรส์จนไม่เหลือแล้วก็ปล่อยไวรัสที่รุนแรงน่ากลัวไว้ในหน้าเวปไซต์ของพวกเขาหลังจากแก้แค้นเรียบร้อย เขาก็เริ่มแก้ไขระบบของแก
”ถ้าเป็นแบบนั้นฉันแม่งก็จะเรียกนายว่า ‘ลูกพี่’ เอง” แดน คัลเลน นักเรียนที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งกล่าวคำสัญญาออกมาอย่างมั่นใจเมื่อนักเรียนคนอื่นเห็นว่าแดนประกาศเจตนารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน คนอื่น ๆ ก็พากันขานรับ “ฉันด้วย”เจนสันตอบ “โอเค”ดวงตาแดนฉายแววขุ่นมัว เขาชี้ไปที่นักเรียนชายที่อ่อนแอที่สุดในชั้นเรียน “นาย ออกไปสู้”เด็กชายคนนั้นตีลังกากลับหลังขึ้นไปยืนบนลานประลองที่ยกพื้นสูง“นายปีนขึ้นมาไหวไหม เจนสัน? อยากให้ฉันอุ้มนายขึ้นมาไหม?” เด็กชายล้อเลียนประโยคนี้ทำให้นักเรียนคนอื่นหัวเราะกันอย่างฮาเฮเจนสันสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงวอร์มสีดำ ผิวของเขาขาว เส้นผมก็ปลิวไปตามลม เขามีสีหน้าท่าทางไม่แยแสสิ่งใดเหมือนพวกแมว แล้วเขาก็ดูเหมือนเป็นเจ้าชายผู้สูงส่งเดินหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูน เขาเหมือนเจ้าชายที่ต้องมีคนคอยปกป้องตอนนี้เจ้าชายร้องขอการต่อสู้ ทุกสิ่งดูขัดแย้งและผิดที่ผิดทาง ทำให้ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นยิ่งน่าจับตามองเวลานี้ทุกสายตาต่างจับจ้องที่เจนสัน ทุกคนสนใจใคร่รู้ว่าเจ้าชายผู้สูงส่งนี้จะทำตัวเองขายหน้าแบบไหนเจนสันเดินขึ้นหน้าไปสองสามก้าว แล้วกระโดดขึ้นไปประจำที่บนลานประ
เมื่อนักเรียนในชั้นศิลปะป้องกันตัวทั้งหมดพากันเข้ามารุมเขาในคราวเดียว บริเวณของห้องฝึกซ้อมรวมถึงผืนดินก็สะเทือนอย่างแรง ความปั่นป่วนนี้ดึงดูดนักเรียนจากชั้นอื่นจนพวกเขาพากันวิ่งมาดูสุดท้ายแม้แต่ครูสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ และวิทนีย์เองก็มาดูด้วย“ว้าว ห้องเรียนศิลปะป้องกันตัวต่อสู้กันเป็นกลุ่มใหญ่เลย”“ตั้งหลายคนรุมต่อสู้กับเจนสันคนเดียว นี่นักเรียนวิชาศิลปะป้องกันตัวลืมเป้าหมายของการเรียนศิลปะป้องกันตัวไปหมดแล้วเหรอ?”“นี่มันเกินไปจริง ๆ”นักเรียนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่างก็โมโหไม่พอใจกับความไม่เป็นธรรมที่เจนสันได้รับเจนสันยืนอยู่กลางลานประลองโดยมีนักเรียนจำนวน 29 คนรายล้อมไว้เมื่อวิทนีย์เข้ามาแล้วเห็นรูปแบบของการต่อสู้ เธอก็ฉุนเฉียวจนถกแขนเสื้อแล้วด่าพวกนั้น “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? พวกนายรังแกเจนส์ตอนฉันไม่อยู่ใช่ไหม?”จากนั้นเธอก็ตีลังกาหลายตลบขึ้นไปยืนอยู่ข้างเจนสัน แล้วพินิจดูใบหน้าของเขา “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม เจนส์?”หน้าหล่อเหลาของเจนสันมืดครึ้ม “ออกไป”วิทนีย์พูด “ให้ฉันช่วยนายเถอะ”“ไม่”วิทนีย์พูด “นายจะสู้กับพวกนั้นทั้งหมดนี่ตามลำพัง นายไม่มีทางสู้ได้หรอก แล้วถ้าพว
ครูคอร์นีเลียสพ่อของวิทนีย์มองเธออย่างไม่พอใจ “นี่ลูกร้องไห้ทำไม? พ่อว่าถ้าชายหนุ่มอย่างเจนสันมีทักษะการต่อสู้ที่สูงได้ขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งเริ่มฝึกได้ไม่นาน พ่อว่าอีกไม่กี่ปี เขาก็แซงหน้าลูกได้แล้ว”วิทนีย์ทำท่าเชิด “พ่อ หนูหาลูกเขยที่โดดเด่นไม่เบาเลยใช่ไหมล่ะคะ?”ครูคอร์นีเลียสพูดไม่ออก “จะพูดตอนนี้ก็เร็วไป เรื่องต่าง ๆ ยังไม่ได้เข้าที่เข้าทางเลย เมื่อเขาได้กลับไปมีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าในเมืองอิมพีเรียล ตอนนั้นเขาก็ต้องเจอสาว ๆ มากหน้าหลายตา พอเขามองลูกอีกหนเขาก็จะเห็นแค่สาวที่รู้แต่ต่อสู้ทั้งวัน พ่อยังคิดอยู่ว่าเขาจะต้องตาลูกอยู่อีกเหรอ”วิทนีย์ดูสิ้นท่า “แล้วหนูควรทำยังไงดีคะ?”ครูคอร์นีเลียสขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางสิ้นหวังของลูกสาว “มันก็ยังมีทางอยู่ พ่อจะกักเขาไว้ที่สถาบันเยาวชนแห่งตำนานเพื่อลูก ถ้าเจนสันโตขึ้นมาโดยที่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับสาวอื่นเลย เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแต่งงานกับลูก”ดวงหน้างดงามของวิทนีย์ดูราวกับจะร้องไห้ “ทำไมมันฟังดูน่าเศร้าจังคะพ่อ? ถ้าพ่อทำแบบนั้นก็แปลว่าเจนสันต้องแต่งงานกับหนูเพราะว่าเขาไม่มีทางเลือก ไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบหนู”ขณะที่พ่อและลูกกำลังคุยก
วิทนีย์พูดเสียงอ่อย “ฉันขอโทษ พ่อรู้ว่าฉันชอบนายมากเขาก็เลยอยากให้นายอยู่ในสถาบันต่อ เราจะได้สร้างสัมพันธ์กันน่ะ”เจนสันพูดตอบอย่างเย็นชา “วิทนีย์ ตอนนี้แม่ฉันกำลังเจอสถานการณ์ยากลำบาก ฉันจำเป็นต้องกลับไปช่วยแม่”วิทนีย์นั้นเป็นคนที่มีจิตใจดี เธอจึงกล่าวสาบานอย่างจริงจังว่า “ไม่ต้องห่วงนะเจนส์ ฉันจะช่วยเธอหาทางเอาชนะพ่อเอง”เจนสันอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้ “ศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องท่จะมาฝึกกันข้ามวันแล้วได้เลย มันไม่มีทางลัดด้วย ฉันคงไม่มีทางเอาชนะเขาได้ ถ้าเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้”วิทนีย์มองเจนสันแล้วยิ้ม “ตระกูลฉันมีตำราศิลปะการต่อสู้หายากที่ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่น แล้วก็เป็นของที่อยู่เฉพาะในตระกูลคอร์นีเลียสเท่านั้น ถ้านายได้หนังสือนี่มา แม้ว่านายจะไม่สามารถเรียนจนปรุโปร่งได้ทุกท่าในเวลาจำกัด แต่ถ้าดูจากความสามารถในการเรียนรู้ของนายแล้ว อย่างน้อยนายก็น่าจะมีวิธีที่รับมือท่าโจมตีของตระกูลคอร์นีเลียสได้ ถ้าเป็นแบบนั้น พ่อฉันก็ทำอะไรนายไม่ได้”เจนสันนิ่วหน้า “มันมีสงวนไว้สำหรับตระกูลคอร์นีเลียสเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?”วิทนีย์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ทำไมเราไม่ทำสัญญาตกลงแต่งงานกันก่อนล่ะ? แบบนั้น
”เธอโดนแม่หลอกแล้ว ยัยโง่” เจนสันมองวิทนีย์อย่างกระอักกระอ่วนก่อนจะหาทางหนีไปวิทนีย์มองแผ่นหลังของเจนสันที่กำลังเดินจากไปด้วยรอยยิ้มสดใส แต่รอยยิ้มบนหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นแข็งค้างอย่างช้า ๆจากนั้นเธอก็เดินคอตกกลับบ้าน พ่อของเธอนั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องนั่งเล่น ดาคมกริบดุจอินทรีของเขามองลูกสาวออกปรุโปร่ง “มานี่”วิทนีย์หยิบแส้ขึ้นมาจากพื้นแล้วเดืนเข้ามาหา เธอส่งแส้ให้พ่อก่อนพูดเสียงหม่นเศร้า “หนูทำผิดกฎของตระกูลค่ะพ่อ หนูควรได้รับการลงโทษ”ครูคอร์นีเลียยโมโหมาก เขาหยิบแส้มาชี้หน้าของวิทนีย์อย่างฉุนเฉียวพร้อมตะคอกอย่างมีโทสะ “แกเพิ่งเอาสมบัติที่มีค่าทึ่สุดของสถาบันเยาวชนแห่งตำนานไปให้เจนสัน แกคิดบ้างไหมว่าจะมีคนมากแค่ไหนที่มาคุกคามสถาบันเยาวชนแห่งตำนานหากว่าข้อมูลในหนังสือนี้หลุดรอดออกไป? ถึงตอนนั้นเราจะเอาอะไรมาป้องกันตัวเอง?”วิทนีย์บอก “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะพ่อ ลงโทษหนูเถอะ”ครูคอร์นีเลียสว่า “โบยร้อยครั้ง แกคิดว่าถึงตอนนั้นแกจะยังมีชีวิตรอดอยู่เหรอ?”วิทนีย์ตอบ “ถ้าหนูตาย ก็ถือว่านั่นเป็นชะตาของหนูเอง”ครูคอร์นีเลียสยืนขึ้น ดวงตาฉายแววเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เหวี่ยงแส้เข้าใส่ร่างบอบ
สตีเฟนคิดอยู่ชั่วขณะ “คนนี้แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมากกว่านายท่านอาเรส”เซร่าขบคิดซ้ำไปซ้ำมาแล้วบอกว่า “พ่อคะ ฉันแน่ใจว่าคนนี้ต้องไม่ใช่แฮกเกอร์ของแกรนด์ เอเซียแน่นอน ถ้ามีแฮกเกอร์ที่เก่งโดดเด่นขนาดนี้ทำงานให้แกรนด์ เอเซีย แล้วทำไมระบบภายในของพวกเขาถึงยังล็อกอยู่ล่ะ?”สตีเฟนพยักหน้าเห็นด้วย “เธอพูดถูก บางทีอาจจะเป็นแฮกเกอร์จากมือที่สามที่พยายามขโมยระบบปฏิบัติการของพวกเรา”พอคิดได้แบบนั้นพวกเขาก็รู้สึกเหมือนยกหินออกจากอกสตีเฟนไม่กังวลเรื่องของแฮกเกอร์อีกแล้ว และหันไปสนใจเรื่องของแกรนด์ เอเซียแทน “นายท่านอาเรสสูญเสียความทรงจำ ดังนั้น นี่จึงเป็นเวลาเหมาะที่เราจะฉวยประโยชน์จากเขา เราต้องทำให้แน่ใจว่าเขากับแองเจลีนจะไม่กลับมาคืนดีกัน ถ้าพวกเขาร่วมมือกันทำงาน เบล เอนเตอร์ไพร์สของเราต้องโค่นไม่เป็นท่าในไม่นานแน่”แววตาร้ายกาจฉายผ่านดวงตาของแนนซี่ “ฉันรู้วิธีที่จะแยกเจย์และแองเจลีนออกจากกัน ฉันรับรองได้เลยว่าจากนี้เจย์ต้องรังเกียจแองเจลีนอย่างมากแน่”สตีเฟนมองแนนซี่ด้วยแววตาสนใจ “เหรอ? วิธีอะไรล่ะ?”แนนซี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ เราต้องให้ตระกูลลอยล์เข้ามามีส่วนร่วมกับเราเรื่องน