Share

บทที่ 77

Author: เมิ่งซานเชียน
พริบตาเดียว ขุนนางใหญ่กว่าครึ่งคุกเข่าขอร้องแทนองค์ชายห้า เกิดเป็นภาพสะเทือนขวัญ

เห็นภาพตรงหน้า ฉินอวิ๋นฟานหน้าครึ้มจนแทบจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำ อิทธิพลขององค์ชายรองน่ากลัวดังคาด คิดจะฆ่าองค์ชายองค์หนึ่ง น่ากลัวว่าจะยากปานขึ้นสวรรค์

เวลานี้ไท่ซั่งหวงลำบากใจแล้ว เหล่าขุนนางบีบคั้น ทำให้เขารู้สึกไร้กำลังอย่างหนัก ด้านหนึ่งคือกฎหมายและความยุติธรรม ด้านหนึ่งคือสายใยเลือดข้นกว่าน้ำและการขอร้องของพวกขุนนาง

หากเขายืนอยู่ฝั่งฉินอวิ๋นฟานก็จะหมายถึงเขาไม่คำนึงถึงสายใยครอบครัว เป็นคนอำมหิตไร้หัวใจ

ถ้าเขาเปิดปากมอบทางสะดวกให้เจ้าห้า เช่นนั้นเท่ากับยอมรับอภิสิทธิ์และความเน่าเฟะโดยปริยาย ชีวิตของประชาชนก็คือชีวิตต่ำต้อย อยู่ต่อหน้าอำนาจราชวงศ์ไร้ซึ่งความหมาย

เห็นเสด็จปู่เงียบอยู่นาน ฉินอวิ๋นฟานรู้ว่าเขากำลังลำบากใจ สมกับที่เป็นเสด็จปู่ ยิ่งยืนอยู่ที่สูงยิ่งมองเห็นไกล การที่เขาไม่แสดงท่าทีเพียงพอกับฉินอวิ๋นฟานแล้ว

“พวกเจ้าไม่ต้องขอร้องแล้ว ขอไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้เสด็จปู่รับปากพวกเจ้า วันนี้ข้าก็ยังต้องเอาชีวิตฉินอวิ๋นผู่ เง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ไร้ความหมาย”

สิ้นเสียงฉินอวิ๋นฟาน ทั้งงานตะลึงงัน ส
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Amnuay Kamporn
แต่ละวันลงให้อ่านน้อยมาก
goodnovel comment avatar
Noo Pasak
สนุกมากอ่านเพลินเลย คอบู๊55
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 78

    ทุกคนหันไปมองตามเสียง เห็นเพียงสตรีวัยกลางคนในชุดผาวตัวยาวสีแดงเข้ม สวมกวานหงส์ผ้าคลุมไหล่หงส์ อายุอานามประมาณสี่สิบต้น ๆ เยื้องกรายมาพร้อมผู้ติดตามนางมีบรรยากาศรอบตัวน่าเกรงขาม ทุกอากัปกิริยาแผ่พลังที่อยู่สูงส่ง เผชิญกับฉินอวิ๋นฟาน ดวงตานางแฝงเจตนาดูถูก“คารวะเหอกุ้ยเฟย!”เห็นอีกฝ่ายมา ทุกคนโค้งคำนับทันที ส่วนฉินอวิ๋นฟานกลับไม่สะทกสะท้าน รู้สึกว่าอีกฝ่ายมาไม่ดีทันที!นางผยองมองผู้คน คุกเข่ากับไท่ซั่งหวงเดี๋ยวนั้น “ปี้อวี้ถวายบังคมเสด็จพ่อ!”การปรากฏตัวของเหอปี้อวี้ทำให้ไท่ซั่งหวงประหลาดใจ หากมิได้แสดงออกมา เพียงเอ่ยเรียบ “ลุกขึ้น!”“ปากเก่งนักนะ รัชทายาทผู้อวดเบ่งทระนง ยังไม่ทันได้เป็นฮ่องเต้ก็กล้าเข่นฆ่าพี่น้องแล้ว? ช่างทำให้ข้าเปิดหูเปิดตานัก”เหอกุ้ยเฟยหรี่ดวงตาทั้งสองมองมาทางฉินอวิ๋นฟาน ก่อนจะไต่ถามเสียงกร้าว“ท่านเป็นแค่นางสนมวังหลังเท่านั้น? กล้าสอดมือยุ่งเรื่องราชสำนัก? ใครให้สิทธิแก่ท่าน?”ความน่าเกรงขามของฉินอวิ๋นฟานดังเดิม แม้เขาจะรู้ว่าผู้ที่มาก็คือเหอกุ้ยเฟยมารดาขององค์ชายรองและองค์ชายห้า แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเมินเหมือนเดิม การวางก้ามนี้ของฉินอวิ๋นฟานไม่ยี่หระ กล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 79

    กับการยั่วยุของเหอกุ้ยเฟย ฉินอวิ๋นฟานสีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นปั้นยาก จากความทรงจำในอดีตชาติ เขารู้อยู่แล้วว่าป้ายอภัยโทษคือของน่ากลัวแค่ไหนพอเห็นมารดาล้วงป้ายอภัยโทษออกมา อารมณ์ตึงเครียดขององค์ชายรองผ่อนคลายลงเล็กน้อย ต่อให้ฉินอวิ๋นฟานใจกล้าอย่างไร ก็ไม่กล้าท้าทายกับป้ายอภัยโทษ การท้าทายป้ายอภัยโทษเท่ากับก่อกบฏ ประหารได้ทันที “คิดไม่ถึงจริง ๆ ฉินอวิ๋นฟานจะบีบถึงขั้นทำให้ตระกูลเหอใช้ป้ายอภัยโทษ วัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือแท้ ๆ เกรงว่าทั้งราชสำนักคงมีแต่เขาแล้ว”ฮั่วเจิ้นหลงจ้องป้ายคำสั่งในมือเหอกุ้ยเฟยแบบไม่อยากจะเชื่อ พร้อมกันนั้นก็นับถือวิธีการของฉินอวิ๋นฟานด้วย เขากระทั่งรู้สึกขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุว่าบนตัวฉินอวิ๋นฟานมีกลิ่นอย่างของจักรพรรดิ“น้องเจ็ดนี่คือรนหาที่ตาย บีบน้องรองกับตระกูลเหอขนาดนี้ ต่อไปได้ลำบากแล้ว”องค์ชายใหญ่พูดเสียดสีอยู่ด้านข้าง“นั่นก็ไม่แน่!”ฮั่วเจิ้นหลงแววตาลุ่มลึก ความหมายลึกซึ้งหลังจากพิจารณาพักหนึ่ง สุดท้ายฉินอวิ๋นฟานเลือกที่จะยอมถอย เขาที่รอบรู้ประวัติศาสตร์ย่อมไม่ทำความผิดระดับต่ำง่าย ๆ เช่นนี้ ถ้าเขายังกล้าดึงดันต่อไป องค์ชายรองต้องกล้าเรียกองครักษ์ฝ่า

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 80

    ก่อนจากไป ฉินอวิ๋นผู่ใบหน้าเหี้ยมเกรียม คืนสภาพเดิมที่เคยเป็น เขาหัวเราะเสียงดังพูดว่า “ฉินอวิ๋นฟาน ภัยพิบัติครั้งนี้ก็คือคำสาปของสวรรค์ สวรรค์ลงโทษพวกเขา เจ้าแก้ไขไม่ได้หรอก รอดูต่อไปเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้ว ใบหน้าเหี้ยมของฉินอวิ๋นผู่ทำให้เขาตระหนักว่าเรื่องไม่ธรรมดา จู่ ๆ ในใจเกิดเงามืดชั้นหนึ่ง คำสาปหรือ? นี่ความหมายว่าอย่างไร?“น้องเจ็ด เงินเจ็ดสิบล้านตำลึงเงินอีกครึ่งชั่วยามข้าให้คนมาส่งตรงเวลา”องค์ชายรองกำหมัดพูดกับฉินอวิ๋นฟาน “ขอตัว!”แม้สุดท้ายฉินอวิ๋นฮุยจะมีมารยาทกับฉินอวิ๋นฟาน แต่ทุกคนดูออก องค์ชายรองโกรธแล้ว หลายปีขนาดนี้ เขาไม่เคยแพ้ยับเยินอย่างนี้มาก่อน“เจ็ด เจ็ดสิบล้านตำลึง จะให้ก็ให้ แถมองค์ชายรองยังตัดสินใจแบบง่าย ๆ ด้วย? สมกับที่มีตระกูลเหอสุดยอดภูมิหลัง ถึงจะเป็นคหบดีอันดับหนึ่งของต้าเฉียน น่ากลัวว่าพอฝืนเอาออกมาได้แค่ร้อยล้านเท่านั้น น่ากลัวจริง ๆ!”มองเงาหลังที่จากไปขององค์ชายรอง ทุกคนเดาะลิ้นในใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ รวยสุด ๆ“การแสดงออกของรัชทายาทต้าเฉียนทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ อย่าลืมสัญญาระหว่างเรา ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เจอท่านที่แควันเหม

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 81

    ตรงประตูทิศใต้ของวังหลวงมีคนอยู่แน่นขนัด ครั้งมองไป ผู้ลี้ภัยที่รวมตัวกันมีมากถึงหลายพันคน“ใต้เท้า พวกเราไม่ได้กินข้าวสามวันแล้ว พวกท่านก็สงเคราะห์หน่อยเถอะ ให้ฝ่าบาทเปิดยุ้งฉางช่วยพวกเราผู้ลี้ภัยที่น่าสงสารพวกนี้หน่อยเถอะ!”“ใต้เท้า น้ำท่วมสองเดือน ไม่เห็นเงินบรรเทาภัยพิบัติของราชสำนักมาสักที คนในหมู่บ้านเราหิวตายไปกว่าครึ่งแล้ว ขอร้องละ ช่วงรายงานกับเบื้องบนหน่อยเถอะ ให้ทางรอดกับพวกเราด้วย”“การบรรเทาภัยพิบัติ ขุนนางทุจริตกินเงิน ยักยอกอาหารยังชีพ ไม่ให้ทางรอดกับพวกเราเลย พวกท่านเป็นขุนนางจะเห็นคนตายไม่ช่วยไม่ได้นะ!”......ยามนี้ประตูวังปิดสนิท นอกประตูมีทหารหลายร้อยนายถือโล่และดาบใหญ่อยู่ อยู่ในภาวะพร้อมรบตลอดเวลา บนกำลังแพงมีมือธนูหลายร้อยคนอยู่ในท่าพร้อมยิงสถานการณ์ล่อแหลมอย่างยิ่ง ผู้ประสบภัยกำลังจะเคลื่อนไหว ต่อหน้าความเป็นความตาย มีแต่ต้องสู้ตายเท่านั้น“ที่นี่คือวังหลวง คือสถานที่ซึ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของราชวงศ์ต้าเฉียน มิใช่ที่ที่พวกเจ้าจะกำแหงได้ ข้าขอเตือนให้พวกเจ้ารีบไปเสีย อย่าได้ก่อเรื่องอีก ไม่อย่างนั้นต้องรับผิดชอบกับผลลัพธ์เอง!”บนกำแพง หัวหน้าทหารนายหนึ่งใ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 82

    เซียวหยางถามอย่างเหลือเชื่อ“จริง ทุกคนโปรดเชื่อข้า”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยอย่างจริงจัง “ทุกคนโปรดเล่าเรื่องภัยพิบัติให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะได้เข้าใจสถานการณ์ คิดกลยุทธ์รับมืออย่างเหมาะสม พยายามช่วยเหลือให้ได้มากขึ้นอย่างสุดความสามารถ”“รัชทายาทท่านไม่ทราบ สองเดือนแล้ว ขุนนางสามวันแจกข้าวต้มให้หนหนึ่ง คนละหนึ่งถ้วย แถมข้าวต้มเหลวจนเห็นก้น พวกเราหิวมากทนไม่ไหวจริง ๆ”“นั่นสิรัชทายาท ทั้งตำบลเราแร้นแค้นไปหมด ทุกที่ที่ผ่านศพกระดูกเกลื่อนไปหมด คนที่หิวตายมีมากถึงสามส่วน”“นี่ยังไม่ใช่ที่ร้ายแรงที่สุด บางคนเพื่อความอยู่รอด ถึงกับขายลูกกิน ทั้งหมดก็เพื่ออยู่ให้ถึงวันที่ราชสำนักมาช่วย น่าเสียดาย รอจนชั่วฟ้าดินสลาย กลับไม่เห็นเสบียงทางการมาถึง”.......ได้ฟังผู้ลี้ภัยบอกเล่าความทุกข์ กอปรกับเห็นร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก ใบหน้าเหลืองตอบของพวกเขา ฉินอวิ๋นฟานยากจะจินตนาการว่านั่นเป็นภาพอเนจอนาถเพียงใดเทียบกับปีหนึ่งเก้าสี่สอง ในยุคปัจจุบัน มันมีแต่มากกว่า น่าหวาดผวาเป็นอย่างยิ่ง“ทุกคนลำบากแล้วนะ! ราชสำนักผิดต่อทุกคน!”ฉินอวิ๋นฟานค้อมตัวลงต่ำกับทุกคน กลั้นน้ำตาไม่ไหวอีก ภาพความหิวโหยทุกหย่อม

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 83

    “เอ่อ รัชทายาท มันคือบทลงโทษจากสวรรค์ พวกเรากล้าจับมันที่ไหนล่ะขอรับ?”เซียวหยางตอบคำถามด้วยสีหน้าอีหลักอีเหลื่อพอได้ยินคำพูดที่เชื่องมงาย ฉินอวิ๋นฟานก็ปวดหัวตุบ เรื่องนี้สำคัญกับเขามาก แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรอ้างอิง จะปฏิเสธความเชื่อของพวกเขาก็ไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานจึงเอ่ยแบบกลุ้มใจเล็กน้อย “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”“เอ่อ คือว่า...”ก็ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางแผนว่าจะนำคนไปจับมาพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตัวเอง ชายหนุ่มตัวผอมกะหร่องอายุประมาณยี่สิบก็พูดขึ้นมากะทันหัน “ถ้าตายแล้วล่ะขอรับ ได้หรือไม่?”“ตายแล้ว? ก็ต้องได้สิ ข้าแค่อยากยืนยันว่าเจ้ามังกรงูนี่มันคือตัวอะไรกันแน่”ฉินอวิ๋นฟานพูดขึ้นมาด้วยความดีใจทันทีครั้นสิ้นเสียง เห็นเพียงชายหนุ่มผอมกะหร่องพูดแบบหวั่น ๆ “ระหว่างทางอพยพ ไม่ทันระวังถูกมังกรงูกัดเข้าที่ขา แต่เพราะตกใจก็เลยเหยียบมันตาย ข้าน้อยกลัวจะถูกคำสาปก็เลยซ่อนมันไว้ในเป้ากางเกงตลอด ตอนนี้ใกล้จะแห้งแล้ว...”ครั้นฉินอวิ๋นฟานเห็นชายหนุ่มตัวผ่ายผอมล้วงปลาไหลแห้งออกมาก็หัวเราะเสียงดังทันที “ฮ่า ๆ ๆ ๆ สวรรค์ช่วยข้าแท้ ๆ สวรรค์ช่วยข้า นี่มันใช่การลงโทษจา

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 84

    อู่จ้านเข้ามาปกป้องบังอยู่ด้านหน้าฉินอวิ๋นฟาน ใบหน้าขึงขัง ทหารชุดเกราะสีเงินก็ทำท่าป้องกันด้วย ผู้ลี้ภัยมีจำนวนมากนัก ควบคุมไม่ได้ หากรัชทายาทเกิดเรื่อง เกรงว่าเขาคงยากจะรอด“ทำอะไรน่ะ ๆ! ถอยไปให้หมด!”ฉินอวิ๋นฟานผลักอู่จ้านออกและอธิบาย “พวกเจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าบอกแล้วว่าวันนี้จะจัดการเรื่องปัญหาปากท้องของพวกเจ้าก็ต้องจัดการสิ ข้าใช้ตัวเองเป็นประกัน พวกเจ้าไม่ต้องกลัว”“เช่น เช่นนั้นความหมายของท่านคือ?”เซียวหยางผ่อนความระแวดระวังเล็กน้อยและเอ่ย“ความหมายของข้าคือ ถ้าพวกเจ้ามีพลังรวมจิตใจคนได้ จะรวมพลทุกคนได้หรือไม่ ไปจับเจ้าตัวมังกรงูที่ว่าให้ข้า ข้าจะจัดการปัญหาความอดอยากของพวกเจ้าทุกคน”ฉินอวิ๋นฟานอธิบาย“นี่...”ครั้นได้ยินรัชทายาทบอกว่าจะจับมังกรงู สีหน้าทุกคนก็กลายเป็นปั้นยากขึ้นมาทันที ทันใดนั้นมีคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้น “รัชทายาท ในเมืองหลวงไม่มีมังกรงูนี่ ถึงพวกเราจะจับก็ต้องไปถึงเขตผู้ลี้ภัยนอกเมืองสี่สิบลี้ ที่นั่นมีเนินเขาเยอะ ถึงตอนนั้นก็ให้พวกเราไปหาให้ท่านที่นั่น ใช่หรือไม่?”ลูกไม้ที่พวกขุนนางชอบใช้กันมากที่สุดก็คือวิชาถ่วงเวลา หลอกล่อทุกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 85

    “หลิวเป้ย โปรดลุกขึ้นเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานรีบไปประคองหลิวเป้ยลุกขึ้น การแสดงออกของเขาในการประลองกำลัง ทำให้ฉินอวิ๋นฟานได้เปิดโลกทัศน์ ทั้งการพูดการจาและนิสัยใจคอของหลิวเป้ยในโลกคู่ขนานยังคล้ายกับหลิวเป้ยในประวัติศาสตร์อย่างน่าทึ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เดิมหลิวเป้ยก็มีภาพลักษณ์สุภาพชน ทั้งยังใจกว้างกับคน มีปณิธานยาวไกล มีปฏิภาณไหวพริบมากกลยุทธ์ คนเช่นนี้ ขอเพียงมอบโอกาสให้ เขาจะต้องพุ่งทะยานสู่ฟ้า คนเช่นนี้คู่ควรแก่การมอบหมายภารกิจยิ่งใหญ่ “การแสดงออกของรัชทายาทในลานฝึกยุทธ์ ข้าน้อยหลิวเป้ยเลื่อมใสยิ่งนัก เชื่อหมดใจว่ารัชทายาทจริงใจทำเพื่อประชาชนจริง ๆ”หลิวเป้ยกล่าวอย่างเคารพนบนอบถึงที่สุด “ข้าน้อยอยู่เมืองจัวพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ท่านต้องการอะไรโปรดกล่าวมาได้เลย พวกเราพี่น้องต้องสนับสนุนเต็มที่แน่นอน เรื่องผู้ลี้ภัยโปรดมอบให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อย รับรองว่าข้าน้อยต้องเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้แน่ ให้ความร่วมมือแก้ไขเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติอย่างเต็มกำลัง”“พี่หลิว ถ้าพวกเราเชื่อรัชทายาทแล้วไป พวกเขาอาจจะคิดบัญชีย้อนหลังก็ได้ ถึงตอนนี้พี่น้องพวกเราเหล่านี้กระจัดกระจายไป น่ากลัวว่าผู้ลี้ภัย

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status