แชร์

บทที่ 83

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
“เอ่อ รัชทายาท มันคือบทลงโทษจากสวรรค์ พวกเรากล้าจับมันที่ไหนล่ะขอรับ?”

เซียวหยางตอบคำถามด้วยสีหน้าอีหลักอีเหลื่อ

พอได้ยินคำพูดที่เชื่องมงาย ฉินอวิ๋นฟานก็ปวดหัวตุบ เรื่องนี้สำคัญกับเขามาก แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรอ้างอิง จะปฏิเสธความเชื่อของพวกเขาก็ไม่ได้ ฉินอวิ๋นฟานจึงเอ่ยแบบกลุ้มใจเล็กน้อย “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”

“เอ่อ คือว่า...”

ก็ขณะที่ฉินอวิ๋นฟานกำลังจะตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางแผนว่าจะนำคนไปจับมาพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตัวเอง ชายหนุ่มตัวผอมกะหร่องอายุประมาณยี่สิบก็พูดขึ้นมากะทันหัน “ถ้าตายแล้วล่ะขอรับ ได้หรือไม่?”

“ตายแล้ว? ก็ต้องได้สิ ข้าแค่อยากยืนยันว่าเจ้ามังกรงูนี่มันคือตัวอะไรกันแน่”

ฉินอวิ๋นฟานพูดขึ้นมาด้วยความดีใจทันที

ครั้นสิ้นเสียง เห็นเพียงชายหนุ่มผอมกะหร่องพูดแบบหวั่น ๆ “ระหว่างทางอพยพ ไม่ทันระวังถูกมังกรงูกัดเข้าที่ขา แต่เพราะตกใจก็เลยเหยียบมันตาย ข้าน้อยกลัวจะถูกคำสาปก็เลยซ่อนมันไว้ในเป้ากางเกงตลอด ตอนนี้ใกล้จะแห้งแล้ว...”

ครั้นฉินอวิ๋นฟานเห็นชายหนุ่มตัวผ่ายผอมล้วงปลาไหลแห้งออกมาก็หัวเราะเสียงดังทันที “ฮ่า ๆ ๆ ๆ สวรรค์ช่วยข้าแท้ ๆ สวรรค์ช่วยข้า นี่มันใช่การลงโทษจา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 84

    อู่จ้านเข้ามาปกป้องบังอยู่ด้านหน้าฉินอวิ๋นฟาน ใบหน้าขึงขัง ทหารชุดเกราะสีเงินก็ทำท่าป้องกันด้วย ผู้ลี้ภัยมีจำนวนมากนัก ควบคุมไม่ได้ หากรัชทายาทเกิดเรื่อง เกรงว่าเขาคงยากจะรอด“ทำอะไรน่ะ ๆ! ถอยไปให้หมด!”ฉินอวิ๋นฟานผลักอู่จ้านออกและอธิบาย “พวกเจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าบอกแล้วว่าวันนี้จะจัดการเรื่องปัญหาปากท้องของพวกเจ้าก็ต้องจัดการสิ ข้าใช้ตัวเองเป็นประกัน พวกเจ้าไม่ต้องกลัว”“เช่น เช่นนั้นความหมายของท่านคือ?”เซียวหยางผ่อนความระแวดระวังเล็กน้อยและเอ่ย“ความหมายของข้าคือ ถ้าพวกเจ้ามีพลังรวมจิตใจคนได้ จะรวมพลทุกคนได้หรือไม่ ไปจับเจ้าตัวมังกรงูที่ว่าให้ข้า ข้าจะจัดการปัญหาความอดอยากของพวกเจ้าทุกคน”ฉินอวิ๋นฟานอธิบาย“นี่...”ครั้นได้ยินรัชทายาทบอกว่าจะจับมังกรงู สีหน้าทุกคนก็กลายเป็นปั้นยากขึ้นมาทันที ทันใดนั้นมีคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้น “รัชทายาท ในเมืองหลวงไม่มีมังกรงูนี่ ถึงพวกเราจะจับก็ต้องไปถึงเขตผู้ลี้ภัยนอกเมืองสี่สิบลี้ ที่นั่นมีเนินเขาเยอะ ถึงตอนนั้นก็ให้พวกเราไปหาให้ท่านที่นั่น ใช่หรือไม่?”ลูกไม้ที่พวกขุนนางชอบใช้กันมากที่สุดก็คือวิชาถ่วงเวลา หลอกล่อทุกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจก

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 85

    “หลิวเป้ย โปรดลุกขึ้นเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานรีบไปประคองหลิวเป้ยลุกขึ้น การแสดงออกของเขาในการประลองกำลัง ทำให้ฉินอวิ๋นฟานได้เปิดโลกทัศน์ ทั้งการพูดการจาและนิสัยใจคอของหลิวเป้ยในโลกคู่ขนานยังคล้ายกับหลิวเป้ยในประวัติศาสตร์อย่างน่าทึ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เดิมหลิวเป้ยก็มีภาพลักษณ์สุภาพชน ทั้งยังใจกว้างกับคน มีปณิธานยาวไกล มีปฏิภาณไหวพริบมากกลยุทธ์ คนเช่นนี้ ขอเพียงมอบโอกาสให้ เขาจะต้องพุ่งทะยานสู่ฟ้า คนเช่นนี้คู่ควรแก่การมอบหมายภารกิจยิ่งใหญ่ “การแสดงออกของรัชทายาทในลานฝึกยุทธ์ ข้าน้อยหลิวเป้ยเลื่อมใสยิ่งนัก เชื่อหมดใจว่ารัชทายาทจริงใจทำเพื่อประชาชนจริง ๆ”หลิวเป้ยกล่าวอย่างเคารพนบนอบถึงที่สุด “ข้าน้อยอยู่เมืองจัวพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ท่านต้องการอะไรโปรดกล่าวมาได้เลย พวกเราพี่น้องต้องสนับสนุนเต็มที่แน่นอน เรื่องผู้ลี้ภัยโปรดมอบให้เป็นหน้าที่ของข้าน้อย รับรองว่าข้าน้อยต้องเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้แน่ ให้ความร่วมมือแก้ไขเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติอย่างเต็มกำลัง”“พี่หลิว ถ้าพวกเราเชื่อรัชทายาทแล้วไป พวกเขาอาจจะคิดบัญชีย้อนหลังก็ได้ ถึงตอนนี้พี่น้องพวกเราเหล่านี้กระจัดกระจายไป น่ากลัวว่าผู้ลี้ภัย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 86

    “พวกเราพี่น้องจะไม่ทำให้รัชทายาทผิดหวังเด็ดขาด พวกเราจะไปทำตามที่ท่านต้องการเดี๋ยวนี้!”หลิวเป้ยไม่รู้ว่าทำไมฉินอวิ๋นฟานถึงจะทำอย่างนี้ และไม่รู้ว่าทำอย่างนี้มีผลรูปธรรมอะไรกับเรื่องภัยพิบัติ ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้อธิบาย เขาก็ไม่ได้ถามมาก ยังคงเลือกที่จะเชื่ออย่างไม่ลังเลเห็นพวกหลิวเป้ยแบ่งกลุ่ม ฉินอวิ๋นฟานเรียกเฉินม่อมาแจงงานทันที “ให้รถม้าทั้งหมดในเมืองมารวมตัวกัน เตรียมกรงกับถุงที่จะใช้บรรจุปลาไหลกับหนีชิวให้มากหน่อย” “ขอรับ รัชทายาท!”เฉินม่อสั่งลูกน้องเดี๋ยวนั้น รีบปฏิบัติการโดยไว“พี่น้องทั้งหลาย ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว ข้ารู้ว่าทุกคนหิวมาก แต่ข้าได้แต่มอบขนมอบให้ทุกคนคนละหนึ่งชิ้นคลายหิว แน่นอน ใช่ว่าเสียดายไม่อยากให้ทุกคนอิ่มท้อง แต่เพื่อให้ทุกคนมีท้องว่างกินมื้อใหญ่ตอนกลางคืนต่างหาก”ฉินอวิ๋นฟานเปล่งเสียงดัง“ดี!”ครั้นได้ยินว่ากลางคืนจะมีมื้อใหญ่ ทุกคนต่างร้องไชโยกระโดดโลดเต้นกันขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น แม้จะเป็นขนมอบหนึ่งชิ้น หากเป็นอาหารอันโอชะสำหรับพวกเขายามนี้สีหน้ามู่หรงจิ่นเปลี่ยนเป็นปั้นยากแล้ว นางกระซิบ “รัชทายาท ท่านแน่ใจหรือว่าจะพาผู้ลี้ภัยเยอะแยะอย่างนี้ไปกินที

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 87

    “เอ๊ะ ก็ตายแค่ไม่กี่คนเองมิใช่หรือ อย่างมากก็ชดเชยให้พวกเขาหน่อยก็พอ คนชั้นต่ำเท่านั้น ต้องจับผู่เอ๋อร์ขังคุกเลยหรือ?”ถูกน้องสามถามติด ๆ กัน เหอปี้อวี้ชักจะละอายขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่มีสาเหตุ แต่ในใจนาง บุตรชายจึงเป็นอันดับหนึ่ง คนตายเท่าไรก็ไม่สำคัญเท่าเขา เขาได้รับความลำบากเพียงน้อยนิดนางก็ปวดใจแล้ว“เหอะ ไม่กี่คน?”เหอเหวินเย่าพูดอย่างอึดอัดใจอย่างยิ่ง “พี่รอง เพราะเป็นเรื่องพิเศษข้าจึงเจาะจงไปตรวจสอบ ท่านรู้หรือไม่ว่ามีคนต้องหิวตายเพราะน้ำท่วมเท่าไร? สามแสนคน สามเสนคนเต็ม ๆ นะ”ในตอนที่ประชาชนผู้ประสบเคราะห์ก่อจลาจล เหอเหวินเย่าตงิดถึงความผิดปกติ จึงส่งคนไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ไม่ตรวจสอบยังไม่รู้ พอตรวจสอบแล้วต้องตกใจ เหตุเพราะทุจริตโกงกิน ไม่ได้แจกจ่ายเสบียงช่วยเหลือ ทำให้ผู้ลี้ภัยหิวตายเป็นวงกว้างทันทีที่ได้ยินตัวเลขสามแสน หัวใจเขาสะท้านรุนแรง มิน่าชาวบ้านถึงได้ก่อจลาจล มิน่าฉินอวิ๋นฟานถึงต้องเอาชีวิตฉินอวิ๋นผู่ให้ได้ ไม่ว่าใครรู้ตัวเลขนี้แล้วก็คงรับไม่ได้เหมือนกันหากอดีตฮ่องเต้ยังอยู่ น่ากลัวว่าถึงพี่รองควักป้ายอภัยโทษออกมา ฉินอวิ๋นผู่ก็ต้องตายอยู่ดี!“อะไรนะ? หิวตายเย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 88

    คำพูดนี้ทำเอาเหอปี้อวี้หัวใจหล่นตุบ กระทั่งขนลุกซู่ทั้งร่าง มุมปากสั่นระริกอย่างไม่รู้ตัวดีที่นางไม่อาละวาดต่อ และอวิ๋นฮุยปรามพฤติกรรมของนางได้ทันกาล มิเช่นนั้นน่ากลัวว่าผลที่ตามมาจะหนักหนานัก“จุดประสงค์ของอวิ๋นฮุยมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือรักษาชีวิตของอวิ๋นผู๋ เขาต้องรับปากทุกเงื่อนไขอย่างไม่ลังเล ถือว่าให้เหลือพื้นที่ให้ตัวเอง อย่างนั้นก็ไม่ทำให้ไท่ซั่งหวงผิดหวังเกินไป”เหอเหวินเย่ามองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแต่แรก และรู้สึกเลื่อมใสวิธีการของฉินอวิ๋นฮุย เห็นสภาพการณ์ทันท่วงที ไม่โลภ ไม่ผลีผลาม รู้จักรุกรับ นี่จึงเป็นลักษณะขององค์ชายผู้ผ่านมาตรฐานพึงมี“อวิ๋นฮุย แม่ผิดไปแล้ว แม่ไม่ควรวู่วาม เกือบผลักเจ้าเข้าหลุมลึกพันจั้งแล้ว”เหอปี้อวี้ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องได้ในที่สุด ความหุนหันพลันแล่นของนางเกือบทำร้ายบุตรชายทั้งสอง“มิเป็นไรเสด็จแม่ ศึกชิงบัลลังก์ครั้งนี้ซับซ้อนกว่าที่พวกเราคิดมาก ความโดดเด่นที่มาอย่างสายฟ้าแลบของฉินอวิ๋นฟานคือสิ่งที่ข้าคาดไม่ถึงแต่แรก ต่อไปพวกเราต้องวางแผนทีละขั้นตอนจึงจะดี”องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยขมวดคิ้วมุ่นพลางกล่าวตระกูลฮั่ว!“บัดซบ บ้าเอ๊ย ดัน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 89

    คำพูดเดียวของฉินอ้าวไขความกระจ่างให้กับฉินอวิ๋นกว่างและถังเจิ้นไห่ทันทีนั่นสิ ถึงแคว้นเหมียวจะไม่ใช่แคว้นที่ใหญ่โตอะไรนัก แต่ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ อุปทานให้ตัวเองได้ไม่มีปัญหา ทั้งยังมีสาวงามมากมาย ด้วยเงื่อนไขของพวกนาง จะเข้าร่วมกับแคว้นไหน ๆ ไม่ใช่ปัญหา ทำไมต้องเข้าร่วมกับต้าเฉียนที่อยู่อันดับรั้งท้ายด้วย?หรือจะมีความลับอะไรซ่อนอยู่?มิน่าท่านอ๋องจึงให้พวกเขากบดานต่อ ฉลาดล้ำเลิศดังคาด!ไท่ซั่งหวงผู้ยืนยงอยู่ในวังหลวง!“เหล่าเฉา การประลองในวันนี้ เจ้ามีความเห็นยังไง?”ไท่ซั่งหวงนอนอาบแดดอยู่หน้าประตูตำหนักบรรทม เอ่ยขึ้นลอย ๆเฉาเจิ้งฉุนหัวเราะน้อย ๆ แล้วเอ่ย “ทรงอยากถามการแสดงออกของรัชทายาทในวันนี้กระมังพ่ะย่ะค่ะ?”“ฮ่า ๆ เจ้านี่ฉลาดนักนะ ดูออกว่าข้าอยากถามอะไร!”ไท่ซั่งหวงไม่เพียงแต่ไม่โกรธ กลับหัวเราะชอบใจ“ทรงเกษมสำราญเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าพอพระทัยกับการแสดงออกของรัชทายาทมาก การแสดงออกของเขาในวันนี้เด่นล้ำจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”เฉาเจิ้งฉุนเอ่ย “อีกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบเขาใช้มุมมองของประมุข ห่วงใยราษฎร แต่ยังด้อยประสบการณ์เล็กน้อย ด้อยทักษะของจักรพรรดิ ถูกองค์ชายองค์อื่นเล่นงานไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 90

    “แล้วจะยังไง?”มู่หรงโหลวพูดขึ้นแบบหน้าหัวรั้น“ตอนนี้ข้าแค่ตบเจ้าสองที ถ้าเป็นองค์ชายองค์อื่น คงซ้อมเจ้าตายไปแล้ว ยังให้โอกาสเจ้าได้โอหังรึ?”ฉินอวิ๋นฟานสั่งสอน “รีบตามพ่อตาข้ามา ข้ามีเรื่องสำคัญจะหารือกับเขา บอกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชะตาในอนาคตของตระกูลมู่หรงพวกเจ้า”การสั่งสอนหนึ่งคำรบของฉินอวิ๋นฟานทำให้มู่หรงโหลวตกใจจริง ๆ ฉินอวิ๋นฟานในสมัยก่อนโง่งม ทำให้เขาขายหน้า ตอนนี้พอดูอีกฝ่ายอีกที ยังมีท่าทางโง่งมสักกิ่งก้อยที่ไหน?ท่าทีแข็งกร้าว แววตาเผด็จการ ทำให้จิตวิญญาณส่วนลึกของเขาถึงกับครั่นคร้าม?“ท่านพี่ ท่านรีบไปตามท่านพ่อเถอะ”มู่หรงจิ่นรีบเตือน“อ้อ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”เมื่อนั้นมู่หรงโหลวจึงได้สติรีบวิ่งออกไป ไม่นานชายอายุสี่สิบต้น ๆ ใบหน้าขึงขังก็เดินออกมาจากห้อง เหลือบมองฉินอวิ๋นฟานแวบหนึ่งจึงนั่งลงตรงตำแหน่งประธาน“รัชทายาทมาเยือนภัตตาคารต้าเฉียนกะทันหันเพราะมีเรื่องหารือกับข้างั้นรึ? ไม่ทราบมีเรื่องอันใด?”มู่หรงซื่อควานบิดามู่หรงจิ่นถามด้วยสีหน้าขึงขังฉินอวิ๋นฟานไม่ได้เข้าประเด็นเลย แต่เอ่ยปากพูดตรง ๆ ว่า “คืนนี้ข้าเตรียมจะเชิญผู้ลี้ภัยสองพันคนมากินข้าวที่ภัตต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 91

    กลิ่นสุราเข้มข้นทำให้มู่หรงซื่อควานยากจะมั่นใจในทันที ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการหมักสุราคนหนึ่ง เขาเริ่มสงสัยจมูกตัวเองแล้ว“ถูกต้อง ท่านพ่อตาลองชิมดูก่อน ดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจสามวันก่อน ตอนที่ฉินอวิ๋นฟานยิงลูกธนูมาที่ป้ายร้านภัตตาคารต้าเฉียน เขาได้คิดเค้าโครงธุรกิจในอนาคตแล้วการหมักสุราคือธุรกิจเสาหลักของตระกูลมู่หรง หลังจากกลับไป ฉินอวิ๋นฟานได้ศึกษาสุราในโลกนี้ประมาณหนึ่ง โดยรวมคือไม่มีอะไรแปลกใหม่นอกจากเหล้าขาวก็ยังเป็นเหล้าขาว แถมดีกรียังต่ำมาก ดูแล้วแค่สิบกว่าดีกรีเอง คนคอแข็งสามารถดื่มสิบแปดชามแล้วขึ้นเขาไปต่อสู้กับพยัคฆ์ร้ายได้สบาย ๆตามประสบการณ์ในสมัยใหม่ ฉินอวิ๋นฟานจึงจะเริ่มจับธุรกิจหมักสุราทันที ทั้งยังหมักจากธัญพืชทั้งหมด เอาออกมาหลังจากหมักสามวัน เหล้าขาวโฮมเมดง่าย ๆ ก็สำเร็จแล้วผลการประลองครั้งนี้อยู่ในความคาดคิดของฉินอวิ๋นฟาน ด้วยความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน ต่อให้ชนะก็ไม่แน่ว่าจะขึ้นครองราชย์ได้ราบรื่นดังนั้นเขาจึงวางแผนรวยระยะยาวเอาไว้ ไม่ว่าเมื่อไร ไม่มีเงินทำอะไรก็ลำบาก ถึงเขาจะเป็นรัชทายาทของต้าเฉี

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status