“เรื่องที่สอง ข้าได้ก่อตั้งเครือต้าเฉียนเหิงไท่แล้ว ผู้จัดการใหญ่คือเสิ่นวั่นซาน ข้ารวมเถ้าแก่ไม้ เถ้าแก่ก่อสร้าง รวมไปถึงเถ้าแก่โรงงานหลายแห่งที่ไม่เลวมารวมกลุ่มกัน ควบคุมอย่างเป็นเอกภาพ ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นเอกภาพ”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“เครือเหิงไท่?”หวงต้าหยวนใบหน้าสับสน ไม่รู้ว่า ‘เครือ’ คือสิ่งใด ที่ฉินอวิ๋นฟานทำมิควรเรียกว่าสมาคมการค้าหรือ? ช่างเป็นชื่อที่พิสดารพันลึกจริงแท้“ได้ยินมาตลอดว่าเจ้าหอหวงมีความสามารถเยี่ยมยอด ฝีมือการทำการค้าล้ำเลิศ ไม่ทราบว่าพอจะเดาออกหรือยังว่าจุดประสงค์เรื่องที่สองที่ข้าจะคุยกับเจ้าคืออะไร?”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มถามหวงต้าหยวนตอบอย่างไม่คิด “แม้ข้าจะไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงตั้งชื่อประหลาดอย่างเครือเหิงไท่ แต่ข้ารู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับสมาคมการค้า และเถ้าแก่ที่อยู่กับท่านเหล่านี้ก็เกี่ยวข้องกับการสร้างโรงแรมห้าดาวต้าเฉียนทั้งหมด การที่ท่านรวมกลุ่มพวกเขากะทันหัน จะต้องทำงานใหญ่แน่!”“ด้วยความเข้าใจที่ข้ามีต่อท่าน โรงแรมห้าดาวหนึ่งแห่งน่าจะไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย ถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านคิดจะเปิดสาขา? นี่ก็คือต้องการมายืมคนจากข้า?”ฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจกับการวิเครา
“สวรรค์! รัชทายาท! ความคิดของท่านจะล้ำหน้าไปแล้วกระมัง? การค้าที่ได้กำไรแน่อย่างแช่แป้งเช่นนี้ พวกขุนนางคนใหญ่คนโตตามเมืองต่าง ๆ มิต้องแย่งกันเข้าเป็นพันธมิตรให้หัวร้างข้างแตกหรือ? กำไรเจ็ดส่วนมหาศาลนัก เกรงว่าจะคืนทุนได้ในเดือนเดียว!”หวงต้าหยวนตกตะลึงอ้าปากหวอ ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยความเหลือเชื่อ สำหรับขุนนางคนใหญ่คนโต การค้าที่ลงทุนไม่กี่ล้านแต่ได้กำไรแน่นอนมันง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย!ทั้งพวกเขายังมีสายป่านยาวไกลกว้างขวาง แทบทำได้ถึงขั้นที่หนึ่งเรียกร้อยขาน การค้าเช่นนี้มิต้องระเบิดเถิดเทิงหรือ?“เอ่อ เจ้าผิดแล้ว พวกเราเจ็ด พวกเขาสามต่างหาก”ฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงานตอนนี้เอง หวงต้าหยวนมุมปากกระตุก หัวใจของฉินอวิ๋นฟานต้องดำปิ๊ดปี๋ขนาดไหนกันจึงให้สัดส่วนที่เอียงข้างสุดขั้วเช่นนี้ได้? เงินของคนอื่น เส้นสายก็ของคนอื่น ตัวเองไม่ออกเงินสักแดง กลับจะกินส่วนใหญ่? นี่มันเหตุผลอะไรกัน!“คือว่า... ให้พวกเขาสามส่วนจะน้อยไปหน่อยหรือไม่? อย่างไรพวกเราก็ถือว่าจับเสือมือเปล่า”หวงต้าหยวนพูดอย่างละอายใจเล็กน้อย“น้อย? ข้าไม่บอกว่าสองแปดก็มีมโนธรรมมากแล้ว ทำไม่ทำก็ตามใจ ข้าไม่ได้ขอร้องพวก
เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากหวงต้าหยวน ฉินอวิ๋นฟานดีใจมาก ได้หัวการค้าปราดเปรื่องของหวงต้าหยวนและเครือข่ายความสัมพันธ์วงกว้าง เครือเหิงไท่ของเขาจะต้องเข้าร่องเข้ารอยได้ในเร็ววันแน่หลังจากทั้งสองเจรจาเรื่องสัดส่วนผลกำไรของเครือเหิงไท่และรายละเอียดปลีกย่อยแล้ว สีหน้าฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนเป็นตึงเครียดถึงที่สุดสองเรื่องหลังจากนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเขา และจะต้องดำเนินในแบบลึกลับที่สุดจึงจะดี มิหนำซ้ำสองเรื่องนี้มีแต่หอวั่งเจียงที่สามารถทำได้ คนอื่นไม่ว่าใครคนไหนก็ทำไม่ได้!ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เกี่ยวกับตระกูลเริ่น เจ้ารู้หรือไม่?”ในภาพจำของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคในยุคโบราณแทบจะเป็นความอยู่รอดของเศรษฐกิจทั้งแคว้น แม้จะเป็นปัจจุบัน เกลือทั้งหมดยังถูกควบคุมอยู่ในมือของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางคนไหนที่ดำรงตำแหน่งในเกลือหลวง ล้วนแล้วแต่ทรงอิทธิพลและเบื้องหลังลึกมิอาจคาดเดาเขารู้เรื่องตระกูลเริ่นน้อยมาก แต่สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าตระกูลเริ่นอันตรายที่สุด โดยเฉพาะแววตามาดร้ายก่อนที่เริ่นจื้อคุนจะไป เขาต้องไม่จบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่!“ตระกูลเริ่น?”หวงต้าหยวนขมวดคิ้วใบหลิวเล็กน้อย ท่าทางเคร่ง
“พวกมันมีราคาต่างกันลิบลับ เกลือขาวขายอยู่ที่ชั่งละห้าตำลึง ด้วยราคานี้ก็กีดกันครอบครัวทั่วไปให้เข้าถึงไม่ได้แล้ว ส่วนเกลือสีเหลืองหยาบ ปกติจะขายอยู่ที่ตำลึงละสามชั่ง พอให้หนึ่งครอบครัวใช้ได้สามเดือน”“อีกอย่าง เกลือทั้งหมดยังต้องไปซื้อในจุดที่กำหนดเท่านั้น รสชาติออกขม ข้าพูดถูกหรือไม่?”หวงต้าหยวนยังตอบไปแบบงง ๆ “อื่ม ที่ท่านพูดมาไม่ผิด เป็นเช่นนี้จริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยสายตาลุ่มลึก “ยังไงเกลือบริโภคก็เป็นชีวิตของบ้างเมือง ถ้าอยู่ในมือของตระกูลเริ่นตลอดจะเป็นภัยแฝง มิสู้ใช้โอกาสนี้ริบอำนาจเกลือหลวงกลับคืนมา ถีบตระกูลเริ่นออกจากวงการเกลือหลวง หักปีกของพี่ใหญ่ในคราวเดียว!”“เอ่อ รัชทายาท การจัดวางเกลือหลวงทั่วแผ่นดินฝังรากหยั่งลึกนานแล้ว คิดจะเอากลับมาเกรงว่าจะเป็นจริงไม่ค่อยได้กระมัง?”หวงต้าหยวนใบหน้าประหลาดใจ แต่นางเห็นความมั่นใจและเผด็จการจากสีหน้าของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคสำคัญต่อแคว้นหนึ่งมาก ไม่มีใครกล้าลงมือกับด้านนี้ง่าย ๆเริ่นจื้อคุนพ่อลูกแทบจะเป็นตัวชูโรงด้านเกลือหลวง ยิ่งกำทักษะการผลิตเกลือล้ำสมัยที่สุดของต้าเฉียน ลงมือกับเขาเกรงว่าจะทำให้เป็นจริงไม่ค่อยได้ ทว่าฉิ
“กลัว? ถ้ากลัวก็ไม่มาหาเจ้าแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใบหน้าที่มั่นใจ “แต่ไหนมาข้าใช้คนไม่สงสัย สงสัยคนไม่ใช้ หนึ่งหนไม่ซื่อสัตย์ ทั้งชาติไม่ใช้! เจ้าหอเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะรู้ว่าจะเลือกยังไง”“ใช้คนไม่สงสัย สงสัยคนไม่ใช้ ดี! ข้าหวงต้าหยวนชื่นชอบนิสัยของรัชทายาทนัก หวังว่าต่อไปเราจะร่วมมือกันอย่างราบรื่น!”หวงต้าหยวนเชื่อมั่นและรู้สึกดีต่อฉินอวิ๋นฟานในแบบที่อธิบายไม่ได้ประมาณหนึ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นางนึกว่าฉินอวิ๋นฟานจะอธิบายหรือสงสัยกับคำถามของนาง ไม่นึกว่าเขาจะตอบได้เฉียบขาดเช่นนี้ ท่าทีชัดเจนไม่เยิ่นเย้อนางก็ไม่ยึกยักแล้ว เอ่ยปากโดยตรง “เพื่อตอบแทนรัชทายาทที่นำพาพวกเราหอวั่งเจียงให้มั่งคั่ง ข้าจะมอบของขวัญชิ้นโตให้ท่านด้วยแล้วกัน!”“แต่ก่อนจะมอบของขวัญชิ้นนี้ มิสู้ให้ข้าทายเรื่องที่สี่ของรัชทายาทก่อน!”โบราณกล่าว เมื่อมีสายใยลึกซึ้ง ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามธรรมชาติ ฉินอวิ๋นฟานกับหวงต้าหยวนต่างเป็นคนฉลาด ทั้งยังให้ถนอมกัน หลังจากร่วมมือกันหลายครั้งรู้สึกเชื่อถืออีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูกแล้วหวงต้าหยวนไม่เกรงใจฉินอวิ๋นฟานอีก ตัดสินใจว่าจะแสดงฝีมือของตัวเองต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน
“เหอะ ๆ ขอบคุณรัชทายาทที่ชม ของขวัญชิ้นนี้ของข้า ท่านพอใจหรือไม่?”หวงต้าหยวนยิ้มทรงเสน่ห์ แววตาลวงวิญญาณนั้นทำให้ฉินอวิ๋นฟานอดสะท้านไม่ได้ ช่างเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงแท้ ไม่เพียงแต่มีท่วงทำนองเต็มวัย เรือนร่างนูนเว้างดงาม ยิ่งเฉลียวฉลาดมีไหวพริบมิน่านางถึงได้ผยองเย็นชาเช่นนี้ นางมีต้นทุนนี้จริง ๆ คนทั่วไปไม่คู่ควรกับนาง!“จุดประสงค์ที่สี่คืออยากขอให้เจ้าช่วยรวบรวมข้อมูลของอู่โจวจริง ๆ เตรียมตัวรับมอบอู่โจวในอีกสามเดือนให้หลัง”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวจริงจัง “เจ้าก็รู้ ที่ตั้งของอู่โจวมีชัยภูมิสำคัญนัก เชื่อมต่อกับห้าแคว้น ถ้าอยากเปิดช่องทางการค้ากับทั้งโลก จะต้องเอาอู่โจวกลับคืนมาให้ได้”“ด้วยนิสัยเสียของพวกคนต้าเยียน พวกเขาไม่มีทางคืนอู่โจวให้ข้าง่าย ๆ แน่นอน ดังนั้นข้าหวังจะเอาอู่โจวกลับมาในแบบที่พยายามลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด”ในตอนที่เมืองจัวประสบกับอุทกภัย เขาก็เตรียมแผนแก้ไขเบื้องต้นแล้ว นั่นก็คือใช้เมืองจัวเป็นศูนย์กลาง เอาอู่โจวกลับคืนมา เปิดช่องทางการค้ารอบด้าน สร้างกองทัพสมัยใหม่ลึกลับหลายกอง และใช้มันในการครองโลก!สำหรับการต่อสู้ในราชสำนัก ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน
“ผู้หญิงคนนั้น?”อู่จ้านไม่มีภาพความทรงจำใด ๆ มีแต่ฉินอวิ๋นฟานที่เห็นแวบหนึ่งในช่วงใกล้จะหมดสติสำคัญที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงลึกลับคนนั้น พวกเขาคงต้องไปยมโลกและ!“ใช่สิ ไม่รู้ว่าชาตินี้ยังมีโอกาสได้พบนางอีกไหม?”ฉินอวิ๋นฟานเป็นคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพและคุณธรรมเสมอมา บุญคุณช่วยชีวิตยิ่งใหญ่กว่าฟ้า แต่ขณะนั้นเขาอยู่ในภาวะหมดสติ ทั้งยังเป็นเวลากลางคืนมองเห็นไม่ชัด หนึ่งเดียวที่เป็นภาพจำตราตรึงก็คือเสียงหวานเสนาะหูลวงวิญญาณนั้นของนางไม่ว่าอย่างไรฉินอวิ๋นฟานก็ต้องพบนางสักครั้งให้ได้ ต้องขอบคุณบุญคุณช่วยชีวิตต่อหน้านาง!“ช่างเถอะ ถ้าอีกฝ่ายไม่อยากพบ ต่อให้พวกเราตามหายังไงก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยให้เป็นไปตามวาสนาเถอะ พวกเรากลับกัน!”ทีแรกฉินอวิ๋นฟานอยากไปขอบคุณจางเต้าหลินที่จวนไท่เว่ยสักหน่อย แต่คิดแล้วก็ช่างเถอะ จึงกลับตำหนักรัชทายาทด้วยจิตใจหดหู่เล็กน้อย เวลานี้มู่หรงจิ่นกับเสี่ยวจวี๋เข้านอนนานแล้วฉินอวิ๋นฟานลากร่างอันอ่อนล้ามาถึงหน้าเตียง ภายใต้เสียงไฟสลัวลอดผ้าม่านผืนบาง ร่างขาวสะอาดปานหิมะทั้งสองสะท้อนเข้าม่านตาของเขา เส้นโค้งสมบูรณ์แบบนั้น ยอดภูสูงชันนั้นทำให้ฉินอวิ๋นฟานลำคอแห
คืนนี้ต้องให้พวกนางสองพี่น้องรู้ความร้ายกาจของเขาซะบ้าง! คืนนี้จะไม่ปล่อยพวกนางไปแน่!“หัวเราะข้าใช่ไหม อีกเดี๋ยวจะให้พวกเจ้ารู้ว่าอะไรคือความสยองขวัญ!”ฉินอวิ๋นฟานพูดพลางประกบตัวลง มือใหญ่ทรงพลังเริ่มปฏิบัติการ แต่ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ดันถูกมู่หรงจิ่นสกัดอีกแล้ว!“วันนี้ไม่ได้จริง ๆ”มู่หรงจิ่นบุ้ยปากน้อย ๆ“เอ๋ ทำไมเล่า?!”ตอนนี้ ฉินอวิ๋นฟานบื้อไปทั้งคน!“เพราะ...ธุระข้ามาแล้ว[1]!” มู่หรงจิ่นส่ายหน้าพูดตอนนี้ฉินอวิ๋นฟานลูกอ๊อดกำลังพุ่งขึ้นสมอง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น พูดออกมาแบบเอ๋อ ๆ “ธุระมา? ธุระอะไรมา?”“ไอ้หยา ก็ผู้หญิงน่ะ ท่านว่าจะมีธุระอะไรมาได้เล่า”มู่หรงจิ่นขวยเขิน เอามือปิดหน้าที่แดงเป็นปื้นตอนนี้หัวสมองของฉินอวิ๋นฟานดังวิ้ง เฮ้ย! ธุระมา?! คงไม่ใช่ประจำเดือนหรอกใช่ไหม?! แม่เอ๊ย! ทำไมมันบังเอิญอย่างนี้เนี่ย! นี่มันจะฆ่ากันให้ตายชัด ๆ!“เจ้า เจ้าหมายถึง ธุระที่จะมาเดือนละครั้งนั่นนะหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานถามแบบไม่อยากจะเชื่อ“อื้ม!”มู่หรงจิ่นผงกศีรษะด้วยความอายบัดนี้ฉินอวิ๋นฟานบังเกิดความคิดอยากไปเกิดใหม่แล้ว อยู่กับมู่หรงจิ่นมาเกือบเดือน ดูเหมือนว่า