เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากหวงต้าหยวน ฉินอวิ๋นฟานดีใจมาก ได้หัวการค้าปราดเปรื่องของหวงต้าหยวนและเครือข่ายความสัมพันธ์วงกว้าง เครือเหิงไท่ของเขาจะต้องเข้าร่องเข้ารอยได้ในเร็ววันแน่หลังจากทั้งสองเจรจาเรื่องสัดส่วนผลกำไรของเครือเหิงไท่และรายละเอียดปลีกย่อยแล้ว สีหน้าฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนเป็นตึงเครียดถึงที่สุดสองเรื่องหลังจากนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเขา และจะต้องดำเนินในแบบลึกลับที่สุดจึงจะดี มิหนำซ้ำสองเรื่องนี้มีแต่หอวั่งเจียงที่สามารถทำได้ คนอื่นไม่ว่าใครคนไหนก็ทำไม่ได้!ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เกี่ยวกับตระกูลเริ่น เจ้ารู้หรือไม่?”ในภาพจำของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคในยุคโบราณแทบจะเป็นความอยู่รอดของเศรษฐกิจทั้งแคว้น แม้จะเป็นปัจจุบัน เกลือทั้งหมดยังถูกควบคุมอยู่ในมือของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางคนไหนที่ดำรงตำแหน่งในเกลือหลวง ล้วนแล้วแต่ทรงอิทธิพลและเบื้องหลังลึกมิอาจคาดเดาเขารู้เรื่องตระกูลเริ่นน้อยมาก แต่สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าตระกูลเริ่นอันตรายที่สุด โดยเฉพาะแววตามาดร้ายก่อนที่เริ่นจื้อคุนจะไป เขาต้องไม่จบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่!“ตระกูลเริ่น?”หวงต้าหยวนขมวดคิ้วใบหลิวเล็กน้อย ท่าทางเคร่ง
“พวกมันมีราคาต่างกันลิบลับ เกลือขาวขายอยู่ที่ชั่งละห้าตำลึง ด้วยราคานี้ก็กีดกันครอบครัวทั่วไปให้เข้าถึงไม่ได้แล้ว ส่วนเกลือสีเหลืองหยาบ ปกติจะขายอยู่ที่ตำลึงละสามชั่ง พอให้หนึ่งครอบครัวใช้ได้สามเดือน”“อีกอย่าง เกลือทั้งหมดยังต้องไปซื้อในจุดที่กำหนดเท่านั้น รสชาติออกขม ข้าพูดถูกหรือไม่?”หวงต้าหยวนยังตอบไปแบบงง ๆ “อื่ม ที่ท่านพูดมาไม่ผิด เป็นเช่นนี้จริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยสายตาลุ่มลึก “ยังไงเกลือบริโภคก็เป็นชีวิตของบ้างเมือง ถ้าอยู่ในมือของตระกูลเริ่นตลอดจะเป็นภัยแฝง มิสู้ใช้โอกาสนี้ริบอำนาจเกลือหลวงกลับคืนมา ถีบตระกูลเริ่นออกจากวงการเกลือหลวง หักปีกของพี่ใหญ่ในคราวเดียว!”“เอ่อ รัชทายาท การจัดวางเกลือหลวงทั่วแผ่นดินฝังรากหยั่งลึกนานแล้ว คิดจะเอากลับมาเกรงว่าจะเป็นจริงไม่ค่อยได้กระมัง?”หวงต้าหยวนใบหน้าประหลาดใจ แต่นางเห็นความมั่นใจและเผด็จการจากสีหน้าของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคสำคัญต่อแคว้นหนึ่งมาก ไม่มีใครกล้าลงมือกับด้านนี้ง่าย ๆเริ่นจื้อคุนพ่อลูกแทบจะเป็นตัวชูโรงด้านเกลือหลวง ยิ่งกำทักษะการผลิตเกลือล้ำสมัยที่สุดของต้าเฉียน ลงมือกับเขาเกรงว่าจะทำให้เป็นจริงไม่ค่อยได้ ทว่าฉิ
“กลัว? ถ้ากลัวก็ไม่มาหาเจ้าแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใบหน้าที่มั่นใจ “แต่ไหนมาข้าใช้คนไม่สงสัย สงสัยคนไม่ใช้ หนึ่งหนไม่ซื่อสัตย์ ทั้งชาติไม่ใช้! เจ้าหอเป็นคนฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะรู้ว่าจะเลือกยังไง”“ใช้คนไม่สงสัย สงสัยคนไม่ใช้ ดี! ข้าหวงต้าหยวนชื่นชอบนิสัยของรัชทายาทนัก หวังว่าต่อไปเราจะร่วมมือกันอย่างราบรื่น!”หวงต้าหยวนเชื่อมั่นและรู้สึกดีต่อฉินอวิ๋นฟานในแบบที่อธิบายไม่ได้ประมาณหนึ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นางนึกว่าฉินอวิ๋นฟานจะอธิบายหรือสงสัยกับคำถามของนาง ไม่นึกว่าเขาจะตอบได้เฉียบขาดเช่นนี้ ท่าทีชัดเจนไม่เยิ่นเย้อนางก็ไม่ยึกยักแล้ว เอ่ยปากโดยตรง “เพื่อตอบแทนรัชทายาทที่นำพาพวกเราหอวั่งเจียงให้มั่งคั่ง ข้าจะมอบของขวัญชิ้นโตให้ท่านด้วยแล้วกัน!”“แต่ก่อนจะมอบของขวัญชิ้นนี้ มิสู้ให้ข้าทายเรื่องที่สี่ของรัชทายาทก่อน!”โบราณกล่าว เมื่อมีสายใยลึกซึ้ง ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามธรรมชาติ ฉินอวิ๋นฟานกับหวงต้าหยวนต่างเป็นคนฉลาด ทั้งยังให้ถนอมกัน หลังจากร่วมมือกันหลายครั้งรู้สึกเชื่อถืออีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูกแล้วหวงต้าหยวนไม่เกรงใจฉินอวิ๋นฟานอีก ตัดสินใจว่าจะแสดงฝีมือของตัวเองต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน
“เหอะ ๆ ขอบคุณรัชทายาทที่ชม ของขวัญชิ้นนี้ของข้า ท่านพอใจหรือไม่?”หวงต้าหยวนยิ้มทรงเสน่ห์ แววตาลวงวิญญาณนั้นทำให้ฉินอวิ๋นฟานอดสะท้านไม่ได้ ช่างเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบไร้ที่ติจริงแท้ ไม่เพียงแต่มีท่วงทำนองเต็มวัย เรือนร่างนูนเว้างดงาม ยิ่งเฉลียวฉลาดมีไหวพริบมิน่านางถึงได้ผยองเย็นชาเช่นนี้ นางมีต้นทุนนี้จริง ๆ คนทั่วไปไม่คู่ควรกับนาง!“จุดประสงค์ที่สี่คืออยากขอให้เจ้าช่วยรวบรวมข้อมูลของอู่โจวจริง ๆ เตรียมตัวรับมอบอู่โจวในอีกสามเดือนให้หลัง”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวจริงจัง “เจ้าก็รู้ ที่ตั้งของอู่โจวมีชัยภูมิสำคัญนัก เชื่อมต่อกับห้าแคว้น ถ้าอยากเปิดช่องทางการค้ากับทั้งโลก จะต้องเอาอู่โจวกลับคืนมาให้ได้”“ด้วยนิสัยเสียของพวกคนต้าเยียน พวกเขาไม่มีทางคืนอู่โจวให้ข้าง่าย ๆ แน่นอน ดังนั้นข้าหวังจะเอาอู่โจวกลับมาในแบบที่พยายามลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด”ในตอนที่เมืองจัวประสบกับอุทกภัย เขาก็เตรียมแผนแก้ไขเบื้องต้นแล้ว นั่นก็คือใช้เมืองจัวเป็นศูนย์กลาง เอาอู่โจวกลับคืนมา เปิดช่องทางการค้ารอบด้าน สร้างกองทัพสมัยใหม่ลึกลับหลายกอง และใช้มันในการครองโลก!สำหรับการต่อสู้ในราชสำนัก ฉินอวิ๋นฟานไม่รีบร้อน
“ผู้หญิงคนนั้น?”อู่จ้านไม่มีภาพความทรงจำใด ๆ มีแต่ฉินอวิ๋นฟานที่เห็นแวบหนึ่งในช่วงใกล้จะหมดสติสำคัญที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงลึกลับคนนั้น พวกเขาคงต้องไปยมโลกและ!“ใช่สิ ไม่รู้ว่าชาตินี้ยังมีโอกาสได้พบนางอีกไหม?”ฉินอวิ๋นฟานเป็นคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพและคุณธรรมเสมอมา บุญคุณช่วยชีวิตยิ่งใหญ่กว่าฟ้า แต่ขณะนั้นเขาอยู่ในภาวะหมดสติ ทั้งยังเป็นเวลากลางคืนมองเห็นไม่ชัด หนึ่งเดียวที่เป็นภาพจำตราตรึงก็คือเสียงหวานเสนาะหูลวงวิญญาณนั้นของนางไม่ว่าอย่างไรฉินอวิ๋นฟานก็ต้องพบนางสักครั้งให้ได้ ต้องขอบคุณบุญคุณช่วยชีวิตต่อหน้านาง!“ช่างเถอะ ถ้าอีกฝ่ายไม่อยากพบ ต่อให้พวกเราตามหายังไงก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยให้เป็นไปตามวาสนาเถอะ พวกเรากลับกัน!”ทีแรกฉินอวิ๋นฟานอยากไปขอบคุณจางเต้าหลินที่จวนไท่เว่ยสักหน่อย แต่คิดแล้วก็ช่างเถอะ จึงกลับตำหนักรัชทายาทด้วยจิตใจหดหู่เล็กน้อย เวลานี้มู่หรงจิ่นกับเสี่ยวจวี๋เข้านอนนานแล้วฉินอวิ๋นฟานลากร่างอันอ่อนล้ามาถึงหน้าเตียง ภายใต้เสียงไฟสลัวลอดผ้าม่านผืนบาง ร่างขาวสะอาดปานหิมะทั้งสองสะท้อนเข้าม่านตาของเขา เส้นโค้งสมบูรณ์แบบนั้น ยอดภูสูงชันนั้นทำให้ฉินอวิ๋นฟานลำคอแห
คืนนี้ต้องให้พวกนางสองพี่น้องรู้ความร้ายกาจของเขาซะบ้าง! คืนนี้จะไม่ปล่อยพวกนางไปแน่!“หัวเราะข้าใช่ไหม อีกเดี๋ยวจะให้พวกเจ้ารู้ว่าอะไรคือความสยองขวัญ!”ฉินอวิ๋นฟานพูดพลางประกบตัวลง มือใหญ่ทรงพลังเริ่มปฏิบัติการ แต่ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ดันถูกมู่หรงจิ่นสกัดอีกแล้ว!“วันนี้ไม่ได้จริง ๆ”มู่หรงจิ่นบุ้ยปากน้อย ๆ“เอ๋ ทำไมเล่า?!”ตอนนี้ ฉินอวิ๋นฟานบื้อไปทั้งคน!“เพราะ...ธุระข้ามาแล้ว[1]!” มู่หรงจิ่นส่ายหน้าพูดตอนนี้ฉินอวิ๋นฟานลูกอ๊อดกำลังพุ่งขึ้นสมอง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น พูดออกมาแบบเอ๋อ ๆ “ธุระมา? ธุระอะไรมา?”“ไอ้หยา ก็ผู้หญิงน่ะ ท่านว่าจะมีธุระอะไรมาได้เล่า”มู่หรงจิ่นขวยเขิน เอามือปิดหน้าที่แดงเป็นปื้นตอนนี้หัวสมองของฉินอวิ๋นฟานดังวิ้ง เฮ้ย! ธุระมา?! คงไม่ใช่ประจำเดือนหรอกใช่ไหม?! แม่เอ๊ย! ทำไมมันบังเอิญอย่างนี้เนี่ย! นี่มันจะฆ่ากันให้ตายชัด ๆ!“เจ้า เจ้าหมายถึง ธุระที่จะมาเดือนละครั้งนั่นนะหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานถามแบบไม่อยากจะเชื่อ“อื้ม!”มู่หรงจิ่นผงกศีรษะด้วยความอายบัดนี้ฉินอวิ๋นฟานบังเกิดความคิดอยากไปเกิดใหม่แล้ว อยู่กับมู่หรงจิ่นมาเกือบเดือน ดูเหมือนว่า
สัมผัสได้ถึงผิวนุ่มนิ่มและกลิ่นกายหอมละมุนของมู่หรงจิ่น หัวใจฉินอวิ๋นฟานวาบหวาม เห็นอยู่หลัด ๆ กลับกินไม่ได้! ฉินอวิ๋นฟานชักจะทนไม่ไหวแล้ว!เขาหัวเราะด้วยความขมขื่น “ข้าจะไปต้มของดีให้พวกเจ้าดื่มสักหน่อยแล้วกัน”“ต้มของดีดื่ม? รัชทายาทยังจะต้มของอร่อยอื่นเป็นอีกหรือเจ้าคะ?”เสี่ยวจวี๋มองเงาหลังที่จากไปของฉินอวิ๋นฟาน ถามด้วยใบหน้าฉงนฉงาย“ใครจะรู้เล่า เขากล้าต้ม เราก็กล้าดื่ม หึ ๆ!”ความสุขล้นทะลักออกมาจากใบหน้าของมู่หรงจิ่น นี่คือโลกที่ชายสูงหญิงต่ำ ผู้หญิงไม่มีฐานะอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉินอวิ๋นฟานซึ่งเป็นรัชทายาทมีตำแหน่งและอำนาจสูงส่ง ผู้หญิงเป็นเพียงอาภรณ์ เรียกให้มาก็มา เรียกให้ไปก็ไปไม่นึกว่าหลังจากฉินอวิ๋นฟานคืนสติปัญญาแล้วกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน อนาทรห่วงหานางนักหนา ทั้งยังให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของนาง เอาใจเก่ง อ่อนโยน ไม่วางมาดสักนิดชีวิตหวานชื่นเช่นนี้คือแบบชีวิตที่นางเฝ้าฝันมาตลอด ไม่นึกว่าจะเป็นจริงได้ ถึงฉินอวิ๋นฟานจะตัณหาจัดไปหน่อย นางก็ไม่ใส่ใจ เพราะฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาท การจะมีสามภรรยาสี่อนุภรรยาคือเรื่องปกติขอเพียงฉ
“เสี่ยวจวี๋ เอาถ้วยมาให้ข้าสิ วันนี้ข้าจะปรนนิบัติพวกเจ้าพี่น้องเอง!”ฉินอวิ๋นฟานรับถ้วยมาจากเสี่ยวจวี๋ จากนั้นก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปตักน้ำแกงที่ห้องครัวด้านข้างยามนี้ความตื้นตันใจของสองนางล้นทะลักออกมาแล้ว กรอบตาแดงระเรื่องอย่างควบคุมไม่อยู่ หยดน้ำตากลิ้งอยู่ในนั้นไม่หยุด แม้ตัวจะอยู่ในรั้ววัง หากพวกนางไม่รู้สึกถึงความกดดันเรื่องชนชั้นวรรณะ มีแต่ความหวานชื่นเมื่อนึกถึงรูปแบบที่พวกนางเคยทำต่อฉินอวิ๋นฟานแล้วก็รู้สึกผิดนัก“พี่จิ่นเอ๋อร์ รัชทายาทดีกับพวกเราจริง ๆ”เสี่ยวจวี๋พูดเสียงสะอื้นเล็กน้อย“นั่นสิ ก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ท่ามกลางความสุขกลับไม่รู้ความสุข ตอนนั้นพวกเราทำกับเขาอย่างนั้น เขากลับไม่ถือสาสักนิด ดีกับพวกเราพี่น้องจริง ๆ”มู่หรงจิ่นพูดด้วยใบหน้าขื่นขมกลับไม่รู้ว่าฉินอวิ๋นฟานในตอนนี้ไม่ใช่ฉินอวิ๋นฟานผู้โง่งมในอดีตคนนั้นตั้งนานแล้ว แต่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษขั้นสุดยอดที่มีดวงวิญญาณยุคปัจจุบัน และถึงจะเป็นยุคปัจจุบัน เขาก็คือตัวตนที่พิลึกกึกกือสุดขั้วเหมือนกัน!สองนางดื่มคนละถ้วนใหญ่แล้วจึงจะอิ่มเอม และตอนนี้เอง มู่หรงจิ่นยิ้มพราวเสน่ห์พูดขึ้น “พี่อวิ๋นฟาน ท่านเหนื่อยมาทั้งค