“ท่านพ่อตา ข้า ข้าเข้าใจแล้ว!”ถูกพ่อตาสั่งสอนยกหนึ่ง ฉินอวิ๋นคังราวกับตื่นขึ้นจากความฝัน ในที่สุดก็เข้าใจว่าตัวเองผิดถนัดแค่ไหน เคราะห์ดีที่ไม่ได้ช่วยเริ่นซวี่ มิเช่นนั้นความผิดของเขาจะหนักกว่าเดิมก่อนหน้านี้กว่าจะได้สร้างภาพจำและชื่อเสียงดีงามในใจประชาชนขึ้นมาได้หน่อยหนึ่ง สงสัยว่าจะถูกเขาทำลายไม่มีชิ้นดีแล้ว ฝ่ามือฉาดนั้นที่เขาได้รับ คิดแล้วช่างสมควรอย่างยิ่ง!ช่วยคนย่อมไม่ผิด แต่วิธีการและรูปแบบผิด!“เฮ้อ! เจ้าไม่คิดดูเล่า ด้วยนิสัยของฉินอวิ๋นฟาน เขาจะปล่อยเริ่นซวี่คนถ่อยเช่นนั้นได้ยังไง?”ฮั่วเจิ้นหลงพูดอย่างหนักใจ “ว่ากันตามหลัก ฉินอวิ๋นฟานน่าจะตัดหัวเริ่นซวี่ไปเลยจึงจะระบายความแค้นในใจถึงจะถูก แต่ทำไมเขาไม่ทำอย่างนั้น? หรือว่าเจ้าไม่ควรสงบใจพิจารณาสักหน่อย?”“หา ท่านพ่อตา ทะ ท่านหมายความว่า ฉินอวิ๋นฟานจงใจ? เขาทำไปเพื่อรอข้ามา? ใช้ความอยากช่วยคนของข้าเป็นโอกาส จะได้ใช้เรื่องนี้กดข้า เพิ่มภาพลักษณ์ในใจประชาชนของเขา?”ฉินอวิ๋นคังพูดอย่างเหลือเชื่อ“ยังไม่นับว่าโง่นัก อย่างน้อยยังคิดถึงเรื่องนี้ได้!”ฮั่วเจิ้นหลงใบหน้าปลื้มใจ ถือว่าไม่ได้เสียแรงตบหน้าเปล่า หลังจากเขาวิเคร
“อื่ม!”ฉินอวิ๋นฟานสองมือไพล่หลัง พยักหน้าน้อย ๆ จากนั้นจึงย่างเท้าขึ้นชั้นบนไปด้วยมาดสูงส่งจริงจัง หวงต้าหยวนตามอยู่ด้านข้างฉินอวิ๋นฟาน แสดงภาพลักษณ์สูงศักดิ์ของฉินอวิ๋นฟานออกมาจนสิ้นเซี่ยงเทียนเวิ่นที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้แล้วสองตาเบิกโพลง ท่าทางสูงส่งเย็นชามักปฏิเสธคนอยู่นอกพันลี้ของหวงต้าหยวน คนทั่วไปมิอาจเข้าตานาง และเขาก็ไม่รู้ว่าตามตื๊อมากี่ครั้งกี่หนแล้วแต่ก็ยังถูกหวงต้าหยวนปฏิเสธให้อยู่นอกประตูคิดไม่ถึง สตรีแกร่งผู้เต็มไปด้วยท่วงทำนองขนาดนี้กลับอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน ครานี้พลิกโฉมความรู้ความเข้าใจของเซี่ยงเทียนเวิ่นโดยสิ้นเชิงแล้ว เขาตกตะลึงทอดถอนใจอยู่ในใจ การที่บิดาให้เขาติดตามฉินอวิ๋นฟาน มันคือการตัดสินใจที่ถูกต้องขนาดไหน!“รัชทายาท เหนื่อยแล้วกระมัง? จะให้เรียกนางรำมา แล้วให้แม่นางต้าซวงกับแม่นางเสี่ยวซวงบรรเลงเพลงให้ท่านผ่อนคลายสักหน่อยก่อนหรือไม่?”หวงต้าหยวนยิ้มพราวเสน่ห์ฉินอวิ๋นฟานเชยตาเล็กน้อย เคลื่อนสายตาไปถึงตัวสองดรุณี อดสั่นระริกไม่ได้ ช่างเป็นกุหลาบหนามคู่หนึ่งแท้ ๆ ดูงดงามไร้ที่ติ กลับมิอาจเด็ดดอมพอนึกถึงประสบการณ์ในคืนวันนั้น ฉินอว
ระยะนี้ผ่านเรื่องราวมามากมาย เซี่ยงเทียนเวิ่นเติบโตขึ้นไม่น้อย การปฏิเสธอย่างเด็ดขาดของหวงต้าหยวน ทำให้เรื่องที่เขาพยายามมาหนึ่งปีสั่นคลอนเป็นครั้งแรก บางทีพวกเขาอาจไม่ใช่คนโลกเดียวกันจริง ๆ กระมัง!เซี่ยงเทียนเวิ่นกรอบตาแดง พูดอย่างเศร้าสร้อยเล็กน้อย “ขออภัยรัชทายาท ข้าไม่รู้ความเอง หวังท่านจะให้อภัย ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!”“ไม่เป็นไร ล้วนเป็นพี่น้องบ้านเดียวกัน ข้าเข้าใจ!”ฉินอวิ๋นฟานเข้าใจจิตใจของเซี่ยงเทียนเวิ่นมาก หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางได้มาในวัยหัวใจแรกแย้ม ชีวิตที่เริ่มต้นด้วยความหวานชื่นกลับไม่มีผลลัพธ์ นี่คือเรื่องน่าเศร้าเพียงไร จุดจบแค่คิดก็รู้แล้วตระกูลเซี่ยงจัดเป็นตระกูลวิถียุทธ์ ย่อมมีกำลังที่ไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ตระกูลเช่นพวกเขาแบบนี้ทำการค้าน้อยนัก และไม่ลื่นเป็นปลาไหลเหมือนกับคนทำการค้า ยิ่งไม่มีอุบายที่เห็นแก่ผลประโยชน์เหมือนคนทำการค้า เมื่อเทียบกันแล้ว พวกเขากล้าหาญไขว่คว้ากำลังดังนั้นจากฐานนี้จึงตัดสินแล้วว่าเขากับหวงต้าหยวนอยู่กันคนละโลก ด้วยนิสัยใจคอของหวงต้าหยวน เกรงว่าผู้ชายที่สามารถเข้าตานางได้จะมีไม่มากในตอนที่เซี่ยงเทียนเวิ่นออกไป ฉินอวิ๋นฟานสำรว
“เนื่องจากตำลึงเงินมาปริมาณมาก ข้าจึงให้พวกเขานำตำลึงเงินทั้งหมดแลกเป็นเจ็ดล้านสองแสนตำลึงทองตามอัตราแลกเปลี่ยนตำลึงเงินกับตำลึงทอง นี่ก็คือหกล้านตำลึงทองของรัชทายาท”หวงต้าหยวนพูดพลางเปิดประตูลับห้องหนึ่งออก วินาทีที่เปิดประตูลับ ประกายแวววาวของทองคำสองหีบพลันสะท้อนเข้าสู่ม่านตา หีบใบใหญ่สองใบบรรจุทองคำเหลืองอร่าม ฉินอวิ๋นฟานพอใจมาก“อื่ม ไม่เลว! สมกับที่เป็นเจ้าหอหวง ประสิทธิภาพในการทำงานสูงแท้!”ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้าอย่างพอใจ เขาเอ่ยเรียบ “แต่เรื่องเหล้า จู่ ๆ ข้าก็มีความคิดเรื่องอื่นเล็กน้อย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวงต้าหยวนตั้งสมาธิทันที นางถามอย่างแปลกใจ “เชิญรัชทายาทกล่าวได้”เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ระหว่างกัน ฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงาน “ข้าหวังว่าเจ้าจะระงับขายอู่เหลียงเย่ให้กับต้าเยียนทันที และจำกัดการขายกับแคว้นต่าง ๆ ด้วย ให้พวกเขาแค่ร้อยละหกสิบจากที่ต้องการ”“แล้วยังต้องประกาศเด็ดขาด ห้ามแคว้นใด ๆ ขายอู่เหลียงเย่ต่อให้ต้าเยียน มิเช่นนั้นจะระงับการส่งเหล้าไปยังแคว้นพวกเขาอย่างเด็ดขาด!”“เอ๊ะ ท่านต้องการทำให้ตลาดหิวหรือ?”ในตอนที่ตลาดเพิ่งจะเริ่มร้อนแรง จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก
“เรื่องที่สอง ข้าได้ก่อตั้งเครือต้าเฉียนเหิงไท่แล้ว ผู้จัดการใหญ่คือเสิ่นวั่นซาน ข้ารวมเถ้าแก่ไม้ เถ้าแก่ก่อสร้าง รวมไปถึงเถ้าแก่โรงงานหลายแห่งที่ไม่เลวมารวมกลุ่มกัน ควบคุมอย่างเป็นเอกภาพ ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นเอกภาพ”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“เครือเหิงไท่?”หวงต้าหยวนใบหน้าสับสน ไม่รู้ว่า ‘เครือ’ คือสิ่งใด ที่ฉินอวิ๋นฟานทำมิควรเรียกว่าสมาคมการค้าหรือ? ช่างเป็นชื่อที่พิสดารพันลึกจริงแท้“ได้ยินมาตลอดว่าเจ้าหอหวงมีความสามารถเยี่ยมยอด ฝีมือการทำการค้าล้ำเลิศ ไม่ทราบว่าพอจะเดาออกหรือยังว่าจุดประสงค์เรื่องที่สองที่ข้าจะคุยกับเจ้าคืออะไร?”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มถามหวงต้าหยวนตอบอย่างไม่คิด “แม้ข้าจะไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงตั้งชื่อประหลาดอย่างเครือเหิงไท่ แต่ข้ารู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับสมาคมการค้า และเถ้าแก่ที่อยู่กับท่านเหล่านี้ก็เกี่ยวข้องกับการสร้างโรงแรมห้าดาวต้าเฉียนทั้งหมด การที่ท่านรวมกลุ่มพวกเขากะทันหัน จะต้องทำงานใหญ่แน่!”“ด้วยความเข้าใจที่ข้ามีต่อท่าน โรงแรมห้าดาวหนึ่งแห่งน่าจะไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย ถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านคิดจะเปิดสาขา? นี่ก็คือต้องการมายืมคนจากข้า?”ฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจกับการวิเครา
“สวรรค์! รัชทายาท! ความคิดของท่านจะล้ำหน้าไปแล้วกระมัง? การค้าที่ได้กำไรแน่อย่างแช่แป้งเช่นนี้ พวกขุนนางคนใหญ่คนโตตามเมืองต่าง ๆ มิต้องแย่งกันเข้าเป็นพันธมิตรให้หัวร้างข้างแตกหรือ? กำไรเจ็ดส่วนมหาศาลนัก เกรงว่าจะคืนทุนได้ในเดือนเดียว!”หวงต้าหยวนตกตะลึงอ้าปากหวอ ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยความเหลือเชื่อ สำหรับขุนนางคนใหญ่คนโต การค้าที่ลงทุนไม่กี่ล้านแต่ได้กำไรแน่นอนมันง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย!ทั้งพวกเขายังมีสายป่านยาวไกลกว้างขวาง แทบทำได้ถึงขั้นที่หนึ่งเรียกร้อยขาน การค้าเช่นนี้มิต้องระเบิดเถิดเทิงหรือ?“เอ่อ เจ้าผิดแล้ว พวกเราเจ็ด พวกเขาสามต่างหาก”ฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงานตอนนี้เอง หวงต้าหยวนมุมปากกระตุก หัวใจของฉินอวิ๋นฟานต้องดำปิ๊ดปี๋ขนาดไหนกันจึงให้สัดส่วนที่เอียงข้างสุดขั้วเช่นนี้ได้? เงินของคนอื่น เส้นสายก็ของคนอื่น ตัวเองไม่ออกเงินสักแดง กลับจะกินส่วนใหญ่? นี่มันเหตุผลอะไรกัน!“คือว่า... ให้พวกเขาสามส่วนจะน้อยไปหน่อยหรือไม่? อย่างไรพวกเราก็ถือว่าจับเสือมือเปล่า”หวงต้าหยวนพูดอย่างละอายใจเล็กน้อย“น้อย? ข้าไม่บอกว่าสองแปดก็มีมโนธรรมมากแล้ว ทำไม่ทำก็ตามใจ ข้าไม่ได้ขอร้องพวก
เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากหวงต้าหยวน ฉินอวิ๋นฟานดีใจมาก ได้หัวการค้าปราดเปรื่องของหวงต้าหยวนและเครือข่ายความสัมพันธ์วงกว้าง เครือเหิงไท่ของเขาจะต้องเข้าร่องเข้ารอยได้ในเร็ววันแน่หลังจากทั้งสองเจรจาเรื่องสัดส่วนผลกำไรของเครือเหิงไท่และรายละเอียดปลีกย่อยแล้ว สีหน้าฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนเป็นตึงเครียดถึงที่สุดสองเรื่องหลังจากนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเขา และจะต้องดำเนินในแบบลึกลับที่สุดจึงจะดี มิหนำซ้ำสองเรื่องนี้มีแต่หอวั่งเจียงที่สามารถทำได้ คนอื่นไม่ว่าใครคนไหนก็ทำไม่ได้!ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เกี่ยวกับตระกูลเริ่น เจ้ารู้หรือไม่?”ในภาพจำของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคในยุคโบราณแทบจะเป็นความอยู่รอดของเศรษฐกิจทั้งแคว้น แม้จะเป็นปัจจุบัน เกลือทั้งหมดยังถูกควบคุมอยู่ในมือของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางคนไหนที่ดำรงตำแหน่งในเกลือหลวง ล้วนแล้วแต่ทรงอิทธิพลและเบื้องหลังลึกมิอาจคาดเดาเขารู้เรื่องตระกูลเริ่นน้อยมาก แต่สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าตระกูลเริ่นอันตรายที่สุด โดยเฉพาะแววตามาดร้ายก่อนที่เริ่นจื้อคุนจะไป เขาต้องไม่จบเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่!“ตระกูลเริ่น?”หวงต้าหยวนขมวดคิ้วใบหลิวเล็กน้อย ท่าทางเคร่ง
“พวกมันมีราคาต่างกันลิบลับ เกลือขาวขายอยู่ที่ชั่งละห้าตำลึง ด้วยราคานี้ก็กีดกันครอบครัวทั่วไปให้เข้าถึงไม่ได้แล้ว ส่วนเกลือสีเหลืองหยาบ ปกติจะขายอยู่ที่ตำลึงละสามชั่ง พอให้หนึ่งครอบครัวใช้ได้สามเดือน”“อีกอย่าง เกลือทั้งหมดยังต้องไปซื้อในจุดที่กำหนดเท่านั้น รสชาติออกขม ข้าพูดถูกหรือไม่?”หวงต้าหยวนยังตอบไปแบบงง ๆ “อื่ม ที่ท่านพูดมาไม่ผิด เป็นเช่นนี้จริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยสายตาลุ่มลึก “ยังไงเกลือบริโภคก็เป็นชีวิตของบ้างเมือง ถ้าอยู่ในมือของตระกูลเริ่นตลอดจะเป็นภัยแฝง มิสู้ใช้โอกาสนี้ริบอำนาจเกลือหลวงกลับคืนมา ถีบตระกูลเริ่นออกจากวงการเกลือหลวง หักปีกของพี่ใหญ่ในคราวเดียว!”“เอ่อ รัชทายาท การจัดวางเกลือหลวงทั่วแผ่นดินฝังรากหยั่งลึกนานแล้ว คิดจะเอากลับมาเกรงว่าจะเป็นจริงไม่ค่อยได้กระมัง?”หวงต้าหยวนใบหน้าประหลาดใจ แต่นางเห็นความมั่นใจและเผด็จการจากสีหน้าของฉินอวิ๋นฟาน เกลือบริโภคสำคัญต่อแคว้นหนึ่งมาก ไม่มีใครกล้าลงมือกับด้านนี้ง่าย ๆเริ่นจื้อคุนพ่อลูกแทบจะเป็นตัวชูโรงด้านเกลือหลวง ยิ่งกำทักษะการผลิตเกลือล้ำสมัยที่สุดของต้าเฉียน ลงมือกับเขาเกรงว่าจะทำให้เป็นจริงไม่ค่อยได้ ทว่าฉิ