Share

บทที่ 355

Penulis: เมิ่งซานเชียน
“การที่พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ คือความอัปยศอย่างใหญ่หลวงของต้าเฉียน!”

ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่สุด “ทั้งวันแม่งรู้แต่พิธีกงพิธีการ วัฒนธรรมโต๊ะเหล้า วัฒนธรรมส่งของขวัญ ลูบเคราประจบประแจง รวมตัวจับกลุ่ม ขุนนางปกป้องกันเอง แต่พอทำงานจริงกลับพยายามผลักให้พ้นตัว เบ่งบารมีหาผลประโยชน์ ไม่รู้จักรักษาหน้าตาจริง ๆ!”

“เรื่องดี เรื่องแน่ของจริงพวกเจ้ากลับไม่แตะ ข้าแทบอยากสับพวกเจ้าไอ้สารเลวลูกเต่าฝูงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!”

ถูกฉินอวิ๋นฟานด่าต่อหน้าทุกคน ทั้งยังลดค่าพวกเขาไม่มีชิ้นดี เหยียบย่ำติดดิน ราวกับโรคร้ายฝังเข้ากระดูก บรรดาขุนนางโมโหโกรธาจนหน้าแดงหูแดง อายจนยากจะอยู่เป็นคน ดีชั่วพวกเขาก็คือบุคคลมีอำนาจอยู่ยอดพีระมิดของต้าเฉียน

การกระทำของฉินอวิ๋นฟานคือการเหยียดคุณลักษณะของพวกเขาอย่างร้ายแรงที่สุดแบบมิต้องสงสัย

หยางเคอในฐานะที่เป็นรองเจ้ากรมกลาโหมฝ่ายขวาและเป็นคนที่องค์ชายใหญ่ให้ท้าย เขาสมควรแสดงความสามารถในเวลานี้จึงจะถูก มิเช่นนั้นกลับไปต้องถูกองค์ชายใหญ่ตำหนิแน่

เขาพูดติดอ่าง ใบหน้าหวาดกลัว “ทะ ทะ ท่านกำลังใส่ความเหล่าขุนนางอย่างร้ายแรงนะ พวกเราขยันขันแข็งทำงานมาตลอด เหตุใด
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (2)
goodnovel comment avatar
Ahmad Ibnulkarim
ตอนมันจะสั้นเกินไปแล้ว
goodnovel comment avatar
จันทะกบ สายันต์
น่าจะแต่งให้จบทีเดียว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 356

    ฉินอวิ๋นฟานกวาดสายตามองทุกคนด้วยความเย็นชา“นี่...”พอทุกคนเห็นดังนั้นก็กลัวจนหัวหด สายตาที่มองฉินอวิ๋นฟานมีแต่ความประหวั่นพรั่นพรึง แม้แต่ลมก็ไม่กล้าผาย พวกเขารู้ความเด็ดขาดของฉินอวิ๋นฟานดียามนี้ไท่ซั่งหวงทรงประทับอยู่ด้วย ถึงพวกเขาจะมีองค์ชายใหญ่เป็นที่พึ่ง เกรงว่ายังต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยหลังจากทุกคนถูกฉินอวิ๋นฟานหยามเหยียดลบหลู่ถ้วนหน้าแล้ว ก็ถูกเขาข่มขวัญอีก องค์ชายใหญ่แค้นใจนักเขาพูดด้วยสายตาที่มีไฟโกรธ “น้องเจ็ด ขุนนางใหญ่พวกนี้ล้วนเป็นขุนนางสร้างผลงานของต้าเฉียนเรา เป็นเสาคานของบ้างเมืองที่เสด็จพ่อทรงเลือกด้วยองค์เอง ถูกเจ้าว่าจนไม่มีชิ้นดีเยี่ยงนี้ ทำจนหัวใจผู้คนระส่ำระสาย เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?!”“ทำอะไร?”ฉินอวิ๋นฟานหรี่ดวงตาแล้วพูด “ต้าเฉียนจะล่มสลายอยู่รอมร่อ ท่านถามว่าข้าจะทำอะไร? ข้าล่วงเกินต้าเยียนก็ทำเอาท่านขี้หดตดหายขวัญหนีดีฝ่อ ท่านถามข้าว่าจะทำอะไร? หรือว่าท่านไม่รู้สึกถึงภัยเลยรึ?!”“ไอ้พวกขุนนางฉ้อฉนพวกนี้ ท่านบอกข้าว่าทั้งหมดนี้เพื่อต้าเฉียน? ต่อให้ไม่มีเรื่องที่ข้าล่วงเกินต้าเยียน พวกท่านก็ไม่กลัวต้าเยียนแล้ว? พี่ใหญ่! ท่านควักหัวใจเอามาถามดู ข้าลบห

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 357

    “รัชทายาท เรื่องพวกนี้คือนโยบายบ้านเมืองที่ต้าเฉียนเรากำหนดไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้อยู่ ๆ ท่านก็เอามาพูดให้เป็นเรื่อง ความหมายว่ายังไงกันแน่? หรือว่าท่านคิดว่าระบบที่อดีตฮ่องเต้ทรงวางไว้ไม่ดีหรือ?!”ตอนนี้เอง จู่ ๆ ฮั่วเจิ้นหลงก็ก้าวออกมา เขาทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ ต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นคังมิใช่คู่ปรับเลยสักนิด แทบจะเป็นมวยคนละชั้น ถูกโจมตีแบบลดมิติขืนสู้กันแบบนี้ต่อไป น่ากลัวว่าฉินอวิ๋นคังต้องถูกฉินอวิ๋นฟานขยี้เละไม่เหลือซากแน่!การแสดงท่าทีอย่างกะทันหันของฮั่วเจิ้นหลงทำให้ฉินอวิ๋นฟานประหลาดใจนิด ๆ ไม่นานก็สงบสติลง ชัดเจน ฮั่วเจิ้นหลงวางหลุมพรางเอาไว้ให้เขา โบ้ยจุดบกพร่องของต้าเฉียนในเวลานี้ว่าเป็นนโยบายบ้านเมืองที่อดีตฮ่องเต้กำหนดเช่นนั้นข้อสงสัยที่เขาพูดมาทั้งหมด ก็คือการปฏิเสธอำนาจของอดีตฮ่องเต้ เรื่องนี้ไม่ธรรมดา พูดให้เป็นเรื่องใหญ่ก็คือการท้าทายอำนาจสูงสุดแห่งราชวงศ์ เมินความน่าเกรงขามของอดีตฮ่องเต้เขาหรือจะพลาดเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้? เพียงแต่เขาจำต้องยอมรับลูกไม้และความฉลาดของฮั่วเจิ้นหลง“แม่ทัพผู้เฒ่าฮั่วอย่าโยนบาปให้ข้าเลย บาปนี้ข้ารับไว้ไม่ไหวหรอก!”ฉินอวิ๋

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 358

    ฉินอวิ๋นฟานถามต่อ“ดูจากสถานการณ์ที่ขุนนางท้องที่รายงานมา เมืองจัวเหมือนว่าไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนั้น ขอเพียงมีภัยพิบัติ ราชสำนักก็จะจ่ายเงินลงไป ส่วนภาษีรายหัวของประชาชน ถ้าไม่รุนแรงก็จะไม่ใช้นโยบายลดภาษี ถ้าหนักหนาสาหัส ปกติแล้วจะลดกึ่งหนึ่ง!”ไท่ซั่งหวงถามอย่างฉงนสงสัย “ฟานเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงให้ความสนใจกับเรื่องนี้นัก?”ยามนี้ บรรดาขุนนางในราชสำนักต่างทำหน้าสงสัย ฉินอวิ๋นฟานรับช่วงต่อเรื่องบรรเทาภัยพิบัติแล้ว ทำไมจู่ ๆ เขาถึงสนใจเรื่องการเก็บภาษีเช่นนี้เล่า? หรือว่าเขาจะยื่นมือเข้ากรมคลังก็ขณะที่บรรดาขุนนางกำลังงุนงงและกังวลใจอยู่ จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็โยนระเบิดใหญ่ออกมาในชนิดที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัวเห็นเพียงฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากกะทันหัน “ทูลเสด็จปู่ ตามที่หม่อมฉันศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนต้าเฉียน พบว่าชาวบ้านอยู่กันอย่างแร้นแค้นมากพ่ะย่ะค่ะ ภาษีรายหัวสูงเกินไป ทำให้พวกเขาลำบากยากจะเอ่ย”“ยามนี้สถานการณ์ระส่ำระสาย หากเกิดความขัดแย้งสงครามจะปะทุทันที ประชาชนต้าเฉียนอยู่อย่างลำบากนัก นี่มิใช่เรื่องดี ทันทีที่สงครามปะทุ เกรงว่าต้าเฉียนจะปราชัยพังพินาศอย่างรวดเร็ว!”“น้องเจ็ด จะพ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 359

    “เอ่อ...”จู่ ๆ ก็ถูกไท่ซั่งหวงตวาด ฉินอวิ๋นคังอึ้งกิมกี่ อยากจะพูดแต่จำต้องหุบปากเสีย ฮั่วเจิ้นหลงที่อยู่ด้านข้างก็ประหลาดใจมาก เหมือนกัน ไท่ซั่งหวงที่ปกติจะแค่ดู ฟังและพูดน้อยกลับให้ความสำคัญกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟานเพียงนี้? นี่มันยังไงกันเนี่ย?!ยามนี้องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยขมวดคิ้วแน่น ปฏิกิริยาของเสด็จปู่ผิดปกติ ทำให้หัวใจของเขารัดแน่นอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะท่าทีของไท่ซั่งหวงตัดสินผู้จะได้เป็นฮ่องเต้คนใหม่ หรือเขาจะแอบช่วยฉินอวิ๋นฟานอยู่ลับ ๆ จริง? ไม่น่านี่!ได้รับการผงกศีรษะของไท่ซั่งหวง ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยอย่างจริงจัง “เสด็จปู่ คนของเรามาจากชั้นรากหญ้าเป็นส่วนมาก พวกเขาเข้าใจความทุกข์ยากของประชาชนที่สุด ยิ่งรู้สภาพการดำรงชีวิตของพวกเขา ที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อครู่มิได้พูดข่มขวัญ แต่มันคือเรื่องจริง! สถานการณ์ของต้าเฉียนในยามนี้น่ากลัวว่าจะร้ายแรงกว่าที่พวกเราคิด!”ฉินอวิ๋นฟานที่มาจากยุคปัจจุบันรู้ประวัติศาสตร์ของในประเทศ นอกประเทศ โบราณ ปัจจุบัน รวมถึงสภาพการดำรงชีวิตของชาวบ้านดี กอปรกับเรื่องของเมืองจัว เขาได้ศึกษาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านคร่าว ๆ แล้ว ไม่ตรวจสอบยังไม่รู้ พอ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 360

    ตึง!!!ครั้นคำพูดนี้ออกมาจากปาก ทั้งราชสำนักจ้าละหวั่นในพริบตา!แม้จะเป็นไท่ซั่งหวงผู้สูงส่งก็มีสีหน้าปั้นยากเหมือนกัน ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นฟานถึงกับเสนอว่าจะงดภาษีรายหัว?นี่คือรากฐานของบ้านเมือง เงินภาษีส่วนใหญ่ของต้าเฉียนก็มาจากภาษีรายหัวนี่แหละ ทันทีที่งด น่ากลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายเบี้ยหวัดของขุนนาง!“ฟานเอ๋อร์ การงดเก็บภาษีรายหัวจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วพูดองค์ชายรองเห็นเสด็จปู่ไม่สนับสนุนฉินอวิ๋นฟานจึงก้าวออกมาทันที พูดอย่างจริงจัง “เสด็จปู่ น้องเจ็ดเรียกได้ว่าเหลวไหล! การงดเก็บภาษีรายหัวก็คือนโยบายล่มแคว้น หม่อมฉันว่าเขามีจุดประสงค์ไม่บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”โอกาสโยนหินลงบ่อดีขนาดนี้ ฉินอวิ๋นฮุยย่อมไม่พลาด! ในสถานการณ์ที่ไม่ส่งผลต่อผลประโยชน์ พยายามคว้าทุกโอกาสเล่นงานฉินอวิ๋นฟานให้ตาย!ตอนนี้องค์ชายใหญ่ก็ก้าวออกมาด้วย พูดอย่างดูแคลน “เฮอะ ข้ายังนึกว่าน้องเจ็ดจะมีแผนดีอะไร เอาไปมาเอากลับคิดจะงดภาษีรายหัว? พองด เจ้าจะกินลมหรือยังไง?”ทุกคนเห็นดังนั้นต่างเสนอหน้าสมทบ เพราะเบี้ยหวัดและสวัสดิการของพวกเขาในแต่ละปีก็มาจากการเก็บภาษีนี่แหละ ทันทีที

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 361

    นอกจากจะเป็นความจนใจ ครั้งนี้ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้ด่ากราดและไม่ได้ระเบิดอารมณ์ เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เป็นวงกว้าง อยู่เหนือจินตนาการของเขานัก โยงใยถึงส่วนรวมถ้าเขาต้องการดำเนินแผนการยิ่งใหญ่ เขาจะต้องอาศัยกำลังของไท่ซั่งหวง และตอนนี้ก็คือโอกาสดี! ด้วยความสามารถของเขาในเวลานี้ เป็นไม่ได้เลยที่จะใช้กำลังเดียวเปลี่ยนแปลงนโยบายการเก็บภาษีของบ้านเมืองขวางทางทรัพย์คน ดุจสังหารบิดรมารดา การปฏิรูปการเก็บภาษีอย่างใหญ่หลวง จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและสะเทือนเหล่าขุนนางต้าเฉียนเป็นวงกว้าง อยากจะลดภาระของชาวบ้าน ยากยิ่งกว่าก้าวขึ้นสวรรค์ แต่สถานการณ์ของต้าเฉียนในเวลานี้รุนแรงกว่าที่เขาคิดมาก ทุกคนต่างจมอยู่กับการชิงบัลลังก์และการใช้เล่ห์กลหลอกกัน ไม่มีเวลาสนใจทิศทางของต้าเฉียน ในยามที่เหล่าองค์ชายต่อสู้กันภายใน เกรงว่าต้าเยียนจะเป็นฝ่ายตักตวงผลประโยชน์แล้วฉินอวิ๋นฟานเคยวิเคราะห์สถานการณ์ต้าเฉียนอย่างละเอียด องค์ชายใหญ่มีตระกูลฮั่วซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพชื่อดังและตระกูลฝั่งมารดาคอยสนับสนุน แม้ตระกูลจะไม่แข็งแกร่งเหมือนตระกูลเหอปานนั้น หากเป็นตระกูลใหญ่ที่เก่าแก่

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 362

    ครั้นดำเนินงานจะต้องสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน การเก็บภาษีเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของขุนนางทุกคน ดีไม่ดีอาจทำให้ระบบการปกครองของทั้งต้าเฉียนพังทลาย กอปรกับศึกระหว่างองค์ชาย ครั้นเริ่มต้นจะส่งผลเป็นวงกว้าง เขาไม่กล้าเดิมพันง่าย ๆ ถ้าแพ้เดิมพัน สถานเบาต้าเฉียนจะต้องแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ องค์ชายแบ่งแยก สถานหนักคือล่มสลาย“ฟานเอ๋อร์ เรื่องนี้เกี่ยวกับส่วนรวม ข้าให้คำตอบที่ชัดเจนกับเจ้าไม่ได้!”ไท่ซั่งหวงส่ายหน้าด้วยความจนใจ“เสด็จปู่ หม่อมฉันทราบดี ถ้างดเก็บภาษีรายหัวของประชาชนจะทำให้บรรดาขุนนางเสียผลประโยชน์มาก”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นทุกปีหม่อมฉันจะเป็นคนออกภาษีรายหัวสี่ร้อยล้านของประชาชนเอง! เบี้ยหวัดของขุนนางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนเดิม หม่อมฉันแค่ชดเชยสี่ร้อยล้านที่ขาดไปเท่านั้น สามารถลดภาระของขุนนางท้องที่ได้ ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ควบคู่พ่ะย่ะค่ะ”เพื่อไม่กระตุ้นต่อมโมโหของขุนนางพวกนี้ที่เห็นแก่ผลประโยชน์และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากฉินอวิ๋นฟานจะจ่ายเงินมหาศาลนี่แล้ว ยังปลอบอารมณ์พวกเขาได้อีกแม้จะไม่สบอารมณ์นัก แต่เขาก็ไม่มีทางอื่น การที่เขาทำเช่นนี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 363

    เห็นทุกคนทำหน้ากังวล ไท่ซั่งหวงเพียงหัวเราะชืด ๆ แล้วมองไปทางฉินอวิ๋นฟาน ก่อนจะเอ่ยปาก “ที่ฮุยเอ๋อร์ว่ามามีเหตุผลนัก ฟานเอ๋อร์ เจ้าจะอธิบายอย่างไร?”ได้รับการยอมรับจากเสด็จปู่ ฉินอวิ๋นฮุยเชิดมุมปาก เผยสีหน้าย่ามใจ เขาย่อมรู้ว่านโยบายนี้ของฉินอวิ๋นฟานเป็นผลดีต่อประชาชนและบ้านเมืองมาก แต่เขาไม่อยากให้ใช้กฤษฎีกาฉบับนี้เป็นวงกว้างในต้าเฉียนเพราะหากสำเร็จ ฉินอวิ๋นฟานจะได้เป็นขุนนางผู้ทำคุณูปการใหญ่หลวงอย่างยิ่ง เพิ่มเบี้ยใหญ่ในการชิงบัลลังก์ นอกจากนี้ นโยบายนี้เสี่ยงมากเกินไป มีปัจจัยที่มิอาจควบคุมมาก อาทิเช่นเมื่อเจ้าหน้าที่ในที่ทำการไม่มีเงินใต้โต๊ะ พวกเขาย่อมเกิดความไม่พอใจโกรธแค้นการใช้ระบบเดิมจึงจะเป็นรูปแบบการปกครองที่มั่นคงที่สุด เขาไม่อยากให้ประชาชนกินอิ่มนัก โบราณว่าไว้ เมื่ออิ่มท้องมักเกิดความปรารถนาคิดชั่ว ทันทีที่ทุกคนกินอิ่มก็จะมีกำลังทำเรื่องอื่นมากขึ้นความคิดของเขาก็คือมัดชาวบ้านติดกับผืนนา เก็บเกี่ยวผลจากการใช้แรงงานส่วนใหญ่ของพวกเขา ให้พวกเขาไม่มีเวลาเหลือที่จะคิด ไม่มีแรงเสพสุขกับชีวิต เช่นนี้พวกเขาก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อการปกครองของราชวงศ์ไม่เพียงแต่ให้พวกเขาต้อง

Bab terbaru

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status