“เอ่อ...”จู่ ๆ ก็ถูกไท่ซั่งหวงตวาด ฉินอวิ๋นคังอึ้งกิมกี่ อยากจะพูดแต่จำต้องหุบปากเสีย ฮั่วเจิ้นหลงที่อยู่ด้านข้างก็ประหลาดใจมาก เหมือนกัน ไท่ซั่งหวงที่ปกติจะแค่ดู ฟังและพูดน้อยกลับให้ความสำคัญกับคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟานเพียงนี้? นี่มันยังไงกันเนี่ย?!ยามนี้องค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุยขมวดคิ้วแน่น ปฏิกิริยาของเสด็จปู่ผิดปกติ ทำให้หัวใจของเขารัดแน่นอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะท่าทีของไท่ซั่งหวงตัดสินผู้จะได้เป็นฮ่องเต้คนใหม่ หรือเขาจะแอบช่วยฉินอวิ๋นฟานอยู่ลับ ๆ จริง? ไม่น่านี่!ได้รับการผงกศีรษะของไท่ซั่งหวง ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยอย่างจริงจัง “เสด็จปู่ คนของเรามาจากชั้นรากหญ้าเป็นส่วนมาก พวกเขาเข้าใจความทุกข์ยากของประชาชนที่สุด ยิ่งรู้สภาพการดำรงชีวิตของพวกเขา ที่หม่อมฉันพูดไปเมื่อครู่มิได้พูดข่มขวัญ แต่มันคือเรื่องจริง! สถานการณ์ของต้าเฉียนในยามนี้น่ากลัวว่าจะร้ายแรงกว่าที่พวกเราคิด!”ฉินอวิ๋นฟานที่มาจากยุคปัจจุบันรู้ประวัติศาสตร์ของในประเทศ นอกประเทศ โบราณ ปัจจุบัน รวมถึงสภาพการดำรงชีวิตของชาวบ้านดี กอปรกับเรื่องของเมืองจัว เขาได้ศึกษาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านคร่าว ๆ แล้ว ไม่ตรวจสอบยังไม่รู้ พอ
ตึง!!!ครั้นคำพูดนี้ออกมาจากปาก ทั้งราชสำนักจ้าละหวั่นในพริบตา!แม้จะเป็นไท่ซั่งหวงผู้สูงส่งก็มีสีหน้าปั้นยากเหมือนกัน ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นฟานถึงกับเสนอว่าจะงดภาษีรายหัว?นี่คือรากฐานของบ้านเมือง เงินภาษีส่วนใหญ่ของต้าเฉียนก็มาจากภาษีรายหัวนี่แหละ ทันทีที่งด น่ากลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายเบี้ยหวัดของขุนนาง!“ฟานเอ๋อร์ การงดเก็บภาษีรายหัวจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”ไท่ซั่งหวงขมวดคิ้วพูดองค์ชายรองเห็นเสด็จปู่ไม่สนับสนุนฉินอวิ๋นฟานจึงก้าวออกมาทันที พูดอย่างจริงจัง “เสด็จปู่ น้องเจ็ดเรียกได้ว่าเหลวไหล! การงดเก็บภาษีรายหัวก็คือนโยบายล่มแคว้น หม่อมฉันว่าเขามีจุดประสงค์ไม่บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”โอกาสโยนหินลงบ่อดีขนาดนี้ ฉินอวิ๋นฮุยย่อมไม่พลาด! ในสถานการณ์ที่ไม่ส่งผลต่อผลประโยชน์ พยายามคว้าทุกโอกาสเล่นงานฉินอวิ๋นฟานให้ตาย!ตอนนี้องค์ชายใหญ่ก็ก้าวออกมาด้วย พูดอย่างดูแคลน “เฮอะ ข้ายังนึกว่าน้องเจ็ดจะมีแผนดีอะไร เอาไปมาเอากลับคิดจะงดภาษีรายหัว? พองด เจ้าจะกินลมหรือยังไง?”ทุกคนเห็นดังนั้นต่างเสนอหน้าสมทบ เพราะเบี้ยหวัดและสวัสดิการของพวกเขาในแต่ละปีก็มาจากการเก็บภาษีนี่แหละ ทันทีที
นอกจากจะเป็นความจนใจ ครั้งนี้ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้ด่ากราดและไม่ได้ระเบิดอารมณ์ เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เป็นวงกว้าง อยู่เหนือจินตนาการของเขานัก โยงใยถึงส่วนรวมถ้าเขาต้องการดำเนินแผนการยิ่งใหญ่ เขาจะต้องอาศัยกำลังของไท่ซั่งหวง และตอนนี้ก็คือโอกาสดี! ด้วยความสามารถของเขาในเวลานี้ เป็นไม่ได้เลยที่จะใช้กำลังเดียวเปลี่ยนแปลงนโยบายการเก็บภาษีของบ้านเมืองขวางทางทรัพย์คน ดุจสังหารบิดรมารดา การปฏิรูปการเก็บภาษีอย่างใหญ่หลวง จะต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและสะเทือนเหล่าขุนนางต้าเฉียนเป็นวงกว้าง อยากจะลดภาระของชาวบ้าน ยากยิ่งกว่าก้าวขึ้นสวรรค์ แต่สถานการณ์ของต้าเฉียนในเวลานี้รุนแรงกว่าที่เขาคิดมาก ทุกคนต่างจมอยู่กับการชิงบัลลังก์และการใช้เล่ห์กลหลอกกัน ไม่มีเวลาสนใจทิศทางของต้าเฉียน ในยามที่เหล่าองค์ชายต่อสู้กันภายใน เกรงว่าต้าเยียนจะเป็นฝ่ายตักตวงผลประโยชน์แล้วฉินอวิ๋นฟานเคยวิเคราะห์สถานการณ์ต้าเฉียนอย่างละเอียด องค์ชายใหญ่มีตระกูลฮั่วซึ่งเป็นตระกูลแม่ทัพชื่อดังและตระกูลฝั่งมารดาคอยสนับสนุน แม้ตระกูลจะไม่แข็งแกร่งเหมือนตระกูลเหอปานนั้น หากเป็นตระกูลใหญ่ที่เก่าแก่
ครั้นดำเนินงานจะต้องสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดิน การเก็บภาษีเกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของขุนนางทุกคน ดีไม่ดีอาจทำให้ระบบการปกครองของทั้งต้าเฉียนพังทลาย กอปรกับศึกระหว่างองค์ชาย ครั้นเริ่มต้นจะส่งผลเป็นวงกว้าง เขาไม่กล้าเดิมพันง่าย ๆ ถ้าแพ้เดิมพัน สถานเบาต้าเฉียนจะต้องแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ องค์ชายแบ่งแยก สถานหนักคือล่มสลาย“ฟานเอ๋อร์ เรื่องนี้เกี่ยวกับส่วนรวม ข้าให้คำตอบที่ชัดเจนกับเจ้าไม่ได้!”ไท่ซั่งหวงส่ายหน้าด้วยความจนใจ“เสด็จปู่ หม่อมฉันทราบดี ถ้างดเก็บภาษีรายหัวของประชาชนจะทำให้บรรดาขุนนางเสียผลประโยชน์มาก”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “ดังนั้นทุกปีหม่อมฉันจะเป็นคนออกภาษีรายหัวสี่ร้อยล้านของประชาชนเอง! เบี้ยหวัดของขุนนางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนเดิม หม่อมฉันแค่ชดเชยสี่ร้อยล้านที่ขาดไปเท่านั้น สามารถลดภาระของขุนนางท้องที่ได้ ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ควบคู่พ่ะย่ะค่ะ”เพื่อไม่กระตุ้นต่อมโมโหของขุนนางพวกนี้ที่เห็นแก่ผลประโยชน์และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากฉินอวิ๋นฟานจะจ่ายเงินมหาศาลนี่แล้ว ยังปลอบอารมณ์พวกเขาได้อีกแม้จะไม่สบอารมณ์นัก แต่เขาก็ไม่มีทางอื่น การที่เขาทำเช่นนี
เห็นทุกคนทำหน้ากังวล ไท่ซั่งหวงเพียงหัวเราะชืด ๆ แล้วมองไปทางฉินอวิ๋นฟาน ก่อนจะเอ่ยปาก “ที่ฮุยเอ๋อร์ว่ามามีเหตุผลนัก ฟานเอ๋อร์ เจ้าจะอธิบายอย่างไร?”ได้รับการยอมรับจากเสด็จปู่ ฉินอวิ๋นฮุยเชิดมุมปาก เผยสีหน้าย่ามใจ เขาย่อมรู้ว่านโยบายนี้ของฉินอวิ๋นฟานเป็นผลดีต่อประชาชนและบ้านเมืองมาก แต่เขาไม่อยากให้ใช้กฤษฎีกาฉบับนี้เป็นวงกว้างในต้าเฉียนเพราะหากสำเร็จ ฉินอวิ๋นฟานจะได้เป็นขุนนางผู้ทำคุณูปการใหญ่หลวงอย่างยิ่ง เพิ่มเบี้ยใหญ่ในการชิงบัลลังก์ นอกจากนี้ นโยบายนี้เสี่ยงมากเกินไป มีปัจจัยที่มิอาจควบคุมมาก อาทิเช่นเมื่อเจ้าหน้าที่ในที่ทำการไม่มีเงินใต้โต๊ะ พวกเขาย่อมเกิดความไม่พอใจโกรธแค้นการใช้ระบบเดิมจึงจะเป็นรูปแบบการปกครองที่มั่นคงที่สุด เขาไม่อยากให้ประชาชนกินอิ่มนัก โบราณว่าไว้ เมื่ออิ่มท้องมักเกิดความปรารถนาคิดชั่ว ทันทีที่ทุกคนกินอิ่มก็จะมีกำลังทำเรื่องอื่นมากขึ้นความคิดของเขาก็คือมัดชาวบ้านติดกับผืนนา เก็บเกี่ยวผลจากการใช้แรงงานส่วนใหญ่ของพวกเขา ให้พวกเขาไม่มีเวลาเหลือที่จะคิด ไม่มีแรงเสพสุขกับชีวิต เช่นนี้พวกเขาก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อการปกครองของราชวงศ์ไม่เพียงแต่ให้พวกเขาต้อง
“ภัตตาคารต้าเฉียนทำมาค้าขึ้น ราชสำนักก็ออกประกาศอีกได้ว่าเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ราชสำนักจึงตัดสินใจงดเก็บภาษีรายหัวต่ออีกหนึ่งปี ในปีต่อ ๆ ไปก็ใช้วิธีการทำนองนี้ก็พอ”“แบบนี้จะทำให้พวกเขาเห็นถึงความห่วงใยและเข้าใจที่ราชสำนักมีต่อประชาชนในทุก ๆ ปี พร้อมกันนั้นทุกคนจะเข้าใจว่าภาษีรายหัวยังคงอยู่”เมื่อได้ฟังการอธิบายของฉินอวิ๋นฟาน สีหน้าฉินอวิ๋นฮุยดำเป็นหมิ่นหม้อเดี๋ยวนั้น ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ฉินอวิ๋นฟานไม่มีประสบการณ์ในการปกครองบ้านเมือง กลับเข้าใจสถานการณ์ชาวบ้านเช่นฝ่ามือ?โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนที่เขาเสนอเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก รุกรับตามต้องการ หาที่ติไม่ได้สักนิด“ฟานเอ๋อร์ตั้งใจจริง ๆ ดูท่าเจ้าคงตั้งใจทำการบ้านมานะ”ไท่ซั่งหวงพึงพอใจกับการแสดงออกของฉินอวิ๋นฟานมาก พยักหน้าหงึกหงัก ฉินอวิ๋นฟานนอกจากจะควักเงิน ยังมีข้อเสนอแนะที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เขาถึงกลับไม่เอาผลงานใด ๆ ยกให้เป็นของราชสำนักทั้งหมด ปุถุชนยากจะทำได้เช่นนี้“ขอบพระทัยเสด็จปู่ที่ชมเชย!”หลังจากฉินอวิ๋นฟานคำนับขอบคุณแล้ว ก็พูดต่อ “ตอนนี้ข้าจะตอบคำถามข้อแรกที่พี่รองกังวล โบราณว่าไว้ ไม่ต
“ฟานเอ๋อร์สามารถมีใจทำคุณประโยชน์โดยไม่มีเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องเช่นนี้ได้ ข้าปลื้มใจยิ่งนัก! ต้าเฉียนสามารถมีองค์ชายที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำเพื่อประชาชนและบ้านเมืองเช่นนี้ คือวาสนาของต้าเฉียนเราแล้ว! ต่อไปพวกเจ้าพี่น้องต้องเรียนรู้จากฟานเอ๋อร์ให้มาก!”ไท่ซั่งหวงแสดงท่าทีต่อกฤษฎีกาที่ฉินอวิ๋นฟานเสนอและความทุ่มเทชัดเจน เขาหาที่ติไม่ได้จริง ๆ องค์ชายที่สามารถควักเงินส่วนตัวมาทำเรื่องดีให้กับประชาชนเช่นนี้ได้ หายากล้ำค่ายิ่ง!ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาของฉินอวิ๋นฟานอยู่เหนือจินตนาการของเขานัก ยิ่งทำให้เขาเห็นการมองการณ์ไกลที่คนทั่วไปมิอาจเทียบของฉินอวิ๋นฟานในภาพจำของไท่ซั่งหวง ฉินอวิ๋นฟานเกลียดขุนนางทุจริตที่สุด วันนี้ เขาไม่เพียงไม่เอาเรื่องการโกงกิน ยังออกเงินชดเชยส่วนที่พวกเขาโกงมาเองอีก จุดประสงค์ก็เพื่อขจัดปัญหาทุจริตจิตใจและวิสัยทัศน์เช่นนี้ ทำให้ไท่ซั่งหวงดีใจและทอดถอนใจนักไท่ซั่งหวงชื่นชมฉินอวิ๋นฟานมาก ทำให้ฉินอวิ๋นฮุยที่อยู่ด้านข้างหน้าดำทะมึนจนน่ากลัว ในด้านการปกครอง เขามีสิทธิ์ในการพูดและประสบการณ์ที่ห่างชั้น แต่ให้เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง กฤษฎีกาฉบ
หลังจากไท่ซั่งหวงทำใจให้สงบได้แล้วก็ถามยืนยันอีกครั้ง“เสด็จปู่ เรื่องเฉพาะทางก็สมควรให้มืออาชีพที่สุดไปทำ ด้านนี้หม่อมฉันสู้พี่ใหญ่ พี่รองและพี่น้องคนอื่น ๆ ไม่ได้จริง ๆ”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะเล็กน้อย “อีกอย่าง พวกเราต่างเป็นส่วนหนึ่งของต้าเฉียน ต่างหวังให้บ้านเมืองนี้เจริญรุ่งเรืองแข็งแกร่ง ไม่ว่าใครจะขึ้นนั่งบัลลังก์ก็มีเป้าหมายร่วมกัน ดังนั้นการชิงบัลลังก์ก็ส่วนชิงบัลลังก์ จะบั่นทอนการพัฒนาบ้านเมืองไม่ได้!”คำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟานทำให้องค์ชายทั้งหลายละอายยากจะเป็นคน พวกเขาไม่ปฏิเสธว่าคำพูดนี้ของฉินอวิ๋นฟานถูก นี่จึงจะเป็นวิสัยทัศน์และท่าทีซึ่งองค์ชายที่ได้มาตรฐานพึงมี“ดี ดี ดีมาก!”ไท่ซั่งหวงพูดว่าดีติดกันสามหน ใช้มันสื่ออารมณ์ตื่นเต้นของเขาในเวลานี้ หลายปีเช่นนี้ นานแล้วที่เขาไม่เคยฮึกเหิมเช่นนี้ยามนี้ สายตาที่เขามองฉินอวิ๋นฟานอัดแน่นไปด้วยประกาย จากนั้นก็กวาดมองทุกคนก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก “คังเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์ กว่างเอ๋อร์ เรื่องนี้มอบให้พวกเจ้าสามคนพี่น้องไปจัดการ จะแบ่งงานอย่างไร จะใช้คนอย่างไร พวกเจ้าพี่น้องตัดสินใจกันเองเถอะ!”“แต่... วันนี้ ต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำน