จอมขวัญสะลัดความคลางแคลงใจออกไป หันมาก้มสำรวจตัวเองจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทางเสียใหม่ และก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดปิดลิฟต์ พลันรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูก วิ่งลงมาสู่ริมฝีปากบางด้านบน รู้สึกเค็ม ปะแล่ม ๆ เมื่อลองแลบลิ้นเลียแค่แตะๆ ที่ปลายลิ้น เอาแล้วสิ! อ้ายเจ้าอาการเลือดกำเดาไหลไม่รู้สาเหตุ กลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปนานแล้วตั้งแต่เด็ก หรือจะเป็นเพราะเข้าใกล้ผู้ชายหล่อคนนั้นเข้า แถมยังเข้ามาแนบชิด สนิทเนื้อ จนทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาแบบนี้ โดยลืมนึกไปว่าจมูกตัวเองกระแทกกับอกแข็ง ๆ ของเขาไปจังเบ้อเริ่ม!
แต่...เอ๊ะ! เมื่อครู่นี้ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อราคาแพงส่งมาให้ ก็เพราะเขาเห็นเลือดที่มันไหลออกมาจากจมูกของเธอนะสิ โอ๊ย! คิดแล้วน่าอายนัก อยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ก็ยังโชคดีที่ตอนนั้นไม่มีใครมาเห็นเข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้คงเป็นวันอัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของหล่อนทีเดียวเชียว จอมขวัญหันซ้ายแลขวา ทำท่าเลิ่กลั่กก่อนจะวิ่งรี่ไปเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้ดูเรียบร้อยอีกครั้ง เหมือนขามา และกลับเข้ามาอยู่ในลิฟต์อีกรอบ
คงไม่ได้เจอเขาอีกหรอกมั้ง ดูจากการแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงอย่างนั้น คงเป็นแบบกลุ่มแรก ๆ ที่เดินออกมาก่อน น่าจะอยู่ในระดับบิ๊กของบริษัทแน่นอน ผู้คนระดับนั้นคงไม่เข้าบริษัทบ่อยนักหรอก แค่สั่งงานทางโทรศัพท์ หรือไม่ก็กดคอมพิวเตอร์แกร๊กเดียวก็เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าบริษัทให้เสียเวลา แล้วนี่หล่อนจะคืนผ้าเช็ดหน้า ให้เขาได้ยังไงล่ะทีนี้
ใจยังเต้นอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หายดีเลย ก็ต้องมาเต้นตุ๊บ ๆ ต่อม ๆ อีกรอบ เมื่อย่างเท้าเข้ามายังแผนกบุคคล หญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์แย้มยิ้มทันทีเมื่อเจอหน้าเอ่ยทักหล่อนอย่างเป็นกันเอง
“คุณจอมขวัญหรือเปล่าคะ?” โอ้โห!อย่าบอกนะ ว่าที่พี่สาวคนนี้จำเธอได้เพราะชุดเก่ง ที่สวมใส่อยู่ถึงได้เรียกชื่อของหล่อนถูกเผงเลยทีเดียว
“เอ่อ..ใช่ค่ะ” จอมขวัญตอบออกไปทั้งที่ยังสงสัยอยู่ครามครัน“งั้นเชิญเลยค่ะ คุณปาริฉัตรรออยู่ค่ะ” ถึงบางอ้อ คงมีคนสั่งให้พี่สาวคนนี้รอหล่อนอยู่แน่เลย มิน่าล่ะ ถึงได้เรียกชื่อถูก เฮ้อ..โล่งอกไปหน่อย นึกว่าเป็นเพราะชุดเก่งของเราเสียอีก พี่สาวคนสวยเดินนำหล่อนไปอย่างกระฉับกระเฉง เธอเดินอย่างคล่องแคล่ว แม้จะอยู่บนรองเท้าสูงปรี๊ดขนาดนั้น จอมขวัญมองตามการเยื้องย่างของอีกฝ่าย พลางคิดในใจว่า ถ้าได้งานคงต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้ได้แบบนี้บ้าง พี่สาวขาสวยพาเธอมาหยุดอยู่ที่ประตูไม้บานหนึ่ง ซึ่งแปะตัวหนังสือหนาสามารถอ่านได้ระดับสายตาว่า
ผู้จัดการฝ่ายบุคคล พี่สาวคนเมื่อครู่เคาะประตูสองครั้ง แล้วเปิดเข้าไป พร้อมกับรายงานคนด้านในว่า หล่อนมาถึงแล้ว จากนั้นก็กลับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หล่อนยืนเกร็งเขม็ง ไม่กล้าขยับเขยื้อนกายไปไหน เพราะยังไม่ชินกับสถานที่แปลกใหม่เท่าใดนัก
“เชิญนั่งได้เลยค่ะน้อง” หญิงวัยสามสิบค่อนไปทางปลายนิด ๆ น่าจะประมาณ สามสิบหก ถึงสามสิบเจ็ดปี แต่งตัวกระฉับกระเฉงด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวชายเสื้อถูกเหน็บไว้กับกางเกงสีดำ สวมทับด้วยเสื้อสูทสีน้ำตาล ทำให้มองเหมือนผู้หญิงทำงานทั่วไปที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ผมที่ซอยสั้น ทำให้เห็นลำคอระหงดูสง่าไปในตัว และยิ่งเสริมให้หล่อนเป็นสาวมั่นไปเลยทีเดียว
“ขอบคุณค่ะ” จอมขวัญตอบกลับออกไปเสียงเบา ทำใจดีสู้เสือ รู้สึกผ่อนคลายในเวลาต่อมาเมื่อคุณปาริฉัตรส่งยิ้มมาให้
“ยินดีด้วยนะคะ ที่จะได้ร่วมงานกัน”
“..!..!..!..” จอมขวัญตะลึงอ้าปากหวอ ทำปากขมุบขมิบ พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ“อ้าว! ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” คุณปาริฉัตร พูดกับหล่อนอยู่ฝ่ายเดียว จะไม่ให้อึ้ง จนอ้าปากพะงาบ ๆ ราวกับเพิ่งเจอผีมาสด ๆ ร้อน ๆ ได้อย่างไรเล่า ที่พี่แกบอกเมื่อครู่ว่า 'ยินดีด้วยนะคะที่จะได้ร่วมงานกัน'
นั่นน่ะ มะ..หมายความว่า หล่อนจะได้งานทำโดยไม่ต้องสอบข้อเขียน หรือสอบสัมภาษณ์ใด ๆ เลยน่ะสิ คุณปาริฉัตร คงเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของหล่อนก็เลยเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง“ตกลง เป็นอะไร หรือเปล่าคะน้อง”
“อ๊ะ!ปล่ะ..เปล่าค่ะ” จอมขวัญละล่ำละลัก ตอบกลับไป ขยับตัวจัดระเบียบร่างกายเสียใหม่ พยายามฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“อ้อ! ดีค่ะทางเราจะขอทำความเข้าใจกับน้องเสียก่อนนะคะ” คุณปาริฉัตรคงเห็นว่าหล่อนผ่อนคลายลงบ้างแล้ว จึงเอ่ยประโยคถัดมา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลานาน
“คือว่าตอนนี้ ทางบริษัทของเรา ยังไม่มีตำแหน่งไหนว่าง และยังหาตำแหน่งที่ตรงตามสาขาที่น้องจบมาให้ไม่ได้”
อ้าว!? อาการอึ้งปนงงในครั้งแรกกำลังเวียนกลับคำรบสอง พอเข้าใจอยู่หรอกนะกับอ้ายสาขาที่หล่อนจบมามันไม่ตรงกับงานที่นี่แน่นอน ก็หล่อนจบมาทางด้านอักษรศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับการโรงแรมเลยสักกระผีกเดียว“อย่าเพิ่งสงสัยอะไร และอย่าเพิ่งถามนะคะ คืออย่างนี้ค่ะ เบื้องบนสั่งลงมาว่าให้รับน้องเข้าทำงานได้เลย แล้วให้ทางพี่จัดหาตำแหน่งงานให้น้องตามแต่พิจารณา ซึ่งพี่ก็ได้จัดตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมาให้หมาด ๆ เมื่อสองสามวันมานี้เอง หลังจากได้รับคำสั่ง ซึ่งนั่นก็คือ ..เป็นพนักงานฝึกหัดทั่วไปก่อน ก็คอยช่วยงานภายในและภายนอกออฟฟิศ ทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย พอทำได้ไหมคะ สงสัยอะไรถามได้เลยนะถ้าตอบได้พี่ก็จะตอบ อ้อ! อีกอย่างนะ น้องอาจจะต้องได้สัมภาษณ์ กับบอสใหญ่ คุณมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกลอีกรอบ ซึ่งท่านเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ พอดีว่าช่วงนี้ท่านต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศเสียก่อน ไม่อย่างนั้นแล้ว คงเข้าใจอะไรมากกว่านี้ เอาล่ะ ว่าไงจ๊ะ ตกลงว่ายังไง O.K หรือ NO.K ..” คุณปาริฉัตรอธิบายเสียยืดยาวอยู่ฝ่ายเดียว ถึงคราวที่หล่อนจะต้องตอบแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความแปลกใจ สมองของเธอมีแต่เครื่องหมายค
ณ ห้องประชุม เช้าวันจันทร์ทางบริษัทได้มีการจัดประชุมใหญ่คณะกรรมการผู้จัดการและบุคคลที่เกี่ยวข้องของเหล่าผู้บริหารระดับสูง และหน้าที่ ที่จะต้องเตรียมห้องประชุมและจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ก็ต้องตกเป็นของพนักงานฝึกงานทั่วไป นั่นก็หมายถึงหล่อนโดยไม่ต้องสงสัย ตำแหน่งนี้มีแค่หล่อนแต่เพียงคนเดียว แล้วแถมวันนี้หน้าที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่มในช่วงพักเบรก ก็เลยกลายเป็นของหล่อนโดยปริยาย เมื่อพี่นิด แม่บ้านประจำเกิดท้องเสียกะทันหันวันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน นับจากวันที่หล่อนเริ่มมาทำงานจนกระทั่งถึงวันนี้ ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วสินะ หากยังไม่เคยเจอกับบอส กรรมการผู้จัดการใหญ่ของที่นี่เลย บุคคลที่เกี่ยวข้องในการประชุม ได้ทยอยมาจนเกือบครบแล้ว ขาดก็แต่คุณมัฆวัฒน์ และก็เป็นวันที่จอมขวัญรอคอยที่จะได้พบอยู่เช่นกัน เพื่อที่จะได้สัมภาษณ์กับท่านอีกครั้งตามที่พี่ปาบอกไว้ก่อนหน้านี้ ใจมันยังคอยเต้นตุ้บ ๆ ต่อม ๆ ไม่หาย หากเจอหน้าบอสใหญ่เธอจะทำตัวอย่างไร ไม่นานนักคนที่หล่อนอยากจะพบตัวจริงก็เดินผ่านประตูเข้ามา ส่งผลให้ทั้งห้องเงียบกริบไปในทันที“คุณมัฆวัฒน์ มาแล้ว&rdqu
จอมขวัญสะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมความกล้า มือเล็กจับลูกบิดค่อย ๆ เปิดประตูบานใหญ่ แทรกตัวเข้าไป อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ปนตื่นกับสถานที่เล็กน้อย เมื่อมองเห็นร่างสูงคุ้นตาที่ตอนนี้นั่งหันหลังให้ และเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้การเข้ามาของเธอ เขาจึงค่อย ๆ หมุนเก้าอี้ตัวใหญ่มาเผชิญหน้ากับหล่อน จอมขวัญ สังเกตเห็นว่าเขากำลังก้มอ่านอะไรบางอย่างในมือ บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้อง คลับคล้าย คลับคลา ว่าน่าจะเป็นเอกสารสำคัญบางอย่าง และนั่นอาจจะเป็นแฟ้มประวัติส่วนตัวของหล่อนก็เป็นได้“เข้ามาในห้องของคนอื่น ควรจะเคาะประตูก่อน แล้วค่อยขออนุญาตเข้ามา ยิ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วด้วย คุณยิ่งควรกระทำอย่างยิ่งเลยนะ คุณจอมขวัญ มงคลเกียรติ ไม่มีใครบอกคุณถึงมารยาทข้อนี้หรือ?” น้ำเสียงที่ฟังแล้วคล้ายต่อว่ากลาย ๆ และลงท้ายด้วยคำพูดเชิงประชดประชันเล็กน้อยนั่น ทำให้หล่อนถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไร ที่เขาพูดมาก็ถูก ไม่คิดหน้าคิดหลังเลย จอม เอ้ย จอม นี่ขนาดไม่ทันไรก็โดนซะแล้วจอมจุ้นเอ๊ย!มัฆวัฒน์ จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเจ้าของนามว่า จอมขวัญ จงใจเรียกเน้นชื่อและนามสกุลหล่อนให้ชัดเจน
มัฆวัฒน์อึ้งไปชั่วขณะ กับคำพูดยอกย้อนของหญิงสาวตรงหน้าที่กล้าพูดกับเขาได้อย่างฉะฉาน กล้าต่อปากต่อคำ ต่างจากตอนแรกที่ดูหงอ ๆ นั่นลิบลับ เจ้าของร่างสูงโยกตัว กลับมานั่งในท่าตรงอีกครั้ง มือเรียวใหญ่ยังคงหมุนปากกาสีทองไปพร้อมกับเอ่ยกับอีกฝ่ายเสียงอ่อนลงต่างจากตอนแรกเล็กน้อย“ผมก็แค่ข้องใจนิดหน่อย ถึงอย่างไรผมก็ไม่สามารถให้คุณออกได้ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม คุณจะยอมรับ ..หรือไม่ยอมรับ ผมก็ไม่สามารถบังคับคุณหรอกนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จบไปก็แล้วกัน” จอมขวัญนิ่งฟังพร้อมกับเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นอีกรอบ พยายามสะกดกลั้นรู้สึกขุ่นเคืองและเจ็บใจกับคำพูดแดกดันของท่านประธานใหญ่ไม่หาย ข่มใจให้สงบเข้าไว้ เจ้านายเหลือบมองเอกสารของหล่อน และหยิบมันขึ้นมาเปิด ๆ ดู ซึ่งมองแล้วเหมือนไม่ได้ตั้งใจดูสักเท่าไหร่หรอก“จากแฟ้มของคุณ ประวัติทางการศึกษาน่าจะไปเป็นอาจารย์สอนภาษาไทยให้กับเด็กมากกว่า ที่จะมาทำงานเกี่ยวกับโรงแรมอย่างนี้ มันดูขัดกันนะ ผมก็เลยสงสัยว่าคุณอาจจะรู้จักใครในนี้ แต่ถ้าคุณบอกว่า ไม่.. ก็คือ ไม่.. ก็โอเค ผมจะได้เริ่มคำถามต่อไป&rdq
“เอาล่ะ..นายจ้างอย่างผม คงต้องปรับปรุงตัวเสียใหม่สักหน่อย แต่ก็คงไม่ใจกว้างมากนักหรอกนะ..คุณจอมขวัญเพื่อให้คุณได้เรียนรู้การทำงานครั้งแรกในชีวิต ผมก็จะให้โอกาสคุณ เอาเป็นว่าผมให้คุณเรียนรู้งานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นถ้าคุณยังต้องเรียนรู้งานอยู่อีก ผมก็คงต้องเชิญคุณไปเรียนรู้งานกับนายจ้างรายอื่นแทน และเป็นอันตกลงว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะให้คุณได้หาประสบการณ์จากเลขาของผม.. คุณศักดิ์ดาเชิญข้างในหน่อยครับ” เจ้านายเน้นเสียงเรียกชื่อหล่อนในรอบวันอย่างจงใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่จอมขวัญก็ชักจะจำไม่ได้แล้ว ในดวงตายังคงมีแววเชือดเฉือนปะปนกับคำพูดอยู่ดี อะ..อะไรนะ เดี่ยวก่อน..นี่หล่อนยังไม่โดนไล่ออกหรอกหรือนี่ แถมจะได้เรียนรู้งานจากเลขาของเขาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะพิจารณาว่าผ่านหรือไม่ผ่านเพื่อเป็นผู้ช่วยเลขาของเขาอย่างนั้นหรือ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม พลันได้ยินเจ้านายหนุ่มกดอินเตอร์คอม เรียกคุณศักดิ์ดาเข้ามาพบและแนะนำหล่อนให้รู้จัก พร้อมกับมอบหมายให้สอนงานหล่อนทุกอย่างภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ถ้าหากว่าผ่านโปรฯแล้ว เธอต้องติดตามบอสไปที่หัวหิน
กลุ่มหนุ่มสาวสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง พลันสายตาของจอมขวัญก็ดันไปปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าของคนคนหนึ่งเข้า เขาดูโดดเด่นที่สุดในงาน อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่กระเดียดไปทางต่างชาติมากกว่า ส่งให้เขาดูสะดุดตากว่าคนอื่นในงาน สาวน้อย สาวใหญ่ต่างมองตามกันจนตาเป็นมัน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของหล่อนที่จ้องมองตั้งแต่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในงานแล้ว เพื่อนคนหนึ่งหันไปสะกิดเจ้าของงานว่าหนุ่มหล่อคนนั้นคือใคร จึงได้คำตอบว่าเป็นลูกชายของลุงเธอ ที่เพิ่งอิมพอร์ทจากเมืองนอกและจะเข้ามาบริหารงานต่อจากบิดา ซึ่งเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ตอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมายนัก จะสนก็แต่ความหล่ออย่างสมบูรณ์แบบของเขาเท่านั้น บุคคลที่ตกอยู่ในบทสนทนาในคราแรก ก็โดนลากตัวมาโดยเจ้าของงานวันเกิด ล้อมดาวแนะนำผู้ชายตัวสูง คนนั้นให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จัก เขาคนนั้นพยักหน้ายิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับทุกคนไม่เน้นที่ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มเพื่อนสาววัยรุ่นต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ และจำได้ว่าหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จะด้วยฤทธิ์ของน้ำอัดลม หรือเพราะฤทธิ์กามเทพที่แผลงศรปักอกเข้าอย่างจัง! พอเจ้าของร่า
เมื่อวางสายจากเพื่อนรักเรียบร้อย ร่างเล็กก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับผ้าปูที่นอนลายกระต่ายน้อยกำลังนั่งมองพระจันทร์เสี้ยวที่ส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน มันทำให้หล่อนนึกถึงตัวเอง เมื่อไหร่พระจันทร์ตัวจริงจะหันมายิ้มให้หล่อนบ้างนะ จู่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายก็โผล่มาในห้วงความคิด ว้าย! คนบ้า มาหลอกมาหลอนอยู่ได้ คนอย่างเขาไม่มีทางหันลงมามองยัยกระต่ายหมายจันทร์อย่างหล่อนหรอก ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้พักแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเริ่มโปรโมชั่นฝึกงานหนึ่งสัปดาห์ที่เขาอุตส่าห์ให้โอกาส เราจะทำให้เต็มที่ จะแสดงให้เขาเห็นว่า เราก็ทำได้นะ สู้ สู้วันนี้แล้วสินะ ที่จะเป็นวันสุดท้ายในช่วงทดลองงานของหล่อน จะออกหัวหรือออกก้อยกันหนอ เจ้านายจอมเฮี้ยบของหล่อนจะว่าอย่างไรบ้างครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่างเป็นเจ็ดวันอันคุ้มค่าที่ท่านอุตส่าห์ใจดีให้โอกาสหล่อนฝึกงานต่อ เพื่อหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่เห็นท่านประธานพูดอะไร จะให้หล่อนต่อโปรฯ หรือจะเชิญไปฝึกหัดวิจัย (ฝุ่น) ที่บ้านหนอ คิดแล้วก็ทำให้ใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิน่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จอมขวัญได้ถูกถ่ายท
อยู่ในลิฟต์อย่างนี้แล้ว ชวนให้คิดย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ได้เจอกับเขาครั้งแรก ส่งผลให้ใบหน้าขาวใสร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จอมขวัญยืนก้มหน้าแอบอมยิ้มเพียงลำพัง พยายามปัดภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองทำเปิ่นเป๋อจนได้ใกล้ชิดกับเขาออกไป ยังดีที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องวันนั้นให้หล่อนรู้สึกกระดากอายขึ้นมาอีก“พอใจรึยัง.. ถ้าพอใจแล้วก็เชิญออกไปได้แล้ว เพราะอีกไม่ช้า ลิฟต์ก็จะปิดอัตโนมัติ และถ้าคุณช้ากว่านี้ละก็ ได้ค้างอยู่ในนี้ จนถึงพรุ่งนี้เช้านั่นแหละ กว่าที่ผมจะเดินขึ้นไปแก้ไขระบบได้ ก็คงใช้เวลาไปหลายนาที คาดว่าเมื่อถึงตอนนั้น..คุณคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แน่”อ๊าย! ยัยจอมจุ้น เอ๊ย เธอนี่มันก็เหลือเกินจริง ๆ เลย อยากจะเขกมะเหงกตัวเองนัก คอยแต่จะแอบเพ้อฝันถึงเขาอยู่นั่น ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ ไม่วายโดน ประชดประชันเข้าจนได้ แล้วทำไมหล่อนต้องโดนดุ โดนว่า โดนกระแนะกระแหนอยู่คนเดียวบ่อย ๆ ด้วย เกลียดขี้หน้ากันมากขนาดนี้เลยหรือคะเจ้านาย คิดแล้วก็ให้น้อยเนื้อต่ำใจนัก ทีกับคนอื่น ทำไมเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษวางตัวดีสมกับเป็นท่านประธานผู้น่าเกรงขาม กับ