Share

กลับดึก

เมื่อวางสายจากเพื่อนรักเรียบร้อย ร่างเล็กก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับผ้าปูที่นอนลายกระต่ายน้อยกำลังนั่งมองพระจันทร์เสี้ยวที่ส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน มันทำให้หล่อนนึกถึงตัวเอง เมื่อไหร่พระจันทร์ตัวจริงจะหันมายิ้มให้หล่อนบ้างนะ จู่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายก็โผล่มาในห้วงความคิด ว้าย! คนบ้า มาหลอกมาหลอนอยู่ได้ คนอย่างเขาไม่มีทางหันลงมามองยัยกระต่ายหมายจันทร์อย่างหล่อนหรอก ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้พักแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเริ่มโปรโมชั่นฝึกงานหนึ่งสัปดาห์ที่เขาอุตส่าห์ให้โอกาส เราจะทำให้เต็มที่ จะแสดงให้เขาเห็นว่า เราก็ทำได้นะ สู้ สู้

วันนี้แล้วสินะ ที่จะเป็นวันสุดท้ายในช่วงทดลองงานของหล่อน จะออกหัวหรือออกก้อยกันหนอ เจ้านายจอมเฮี้ยบของหล่อนจะว่าอย่างไรบ้าง 

 ครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่างเป็นเจ็ดวันอันคุ้มค่าที่ท่านอุตส่าห์ใจดีให้โอกาสหล่อนฝึกงานต่อ เพื่อหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่เห็นท่านประธานพูดอะไร จะให้หล่อนต่อโปรฯ หรือจะเชิญไปฝึกหัดวิจัย (ฝุ่น) ที่บ้านหนอ คิดแล้วก็ทำให้ใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิน่า

 ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จอมขวัญได้ถูกถ่ายทอดวิทยายุทธ์จากคุณศักดิ์ดาแทบทุกกระบวนท่า ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมงานประชุม การออกนอกสถานที่ หล่อนก็ถูกหนีบให้ติดสอยห้อยตามเขาไปทุกที่ ทำทุกอย่างประหนึ่งว่าหล่อนเป็นเลขามือซ้ายของเจ้านายหน้า (ยักษ์) อีกคน ขอเรียกอย่างนี้ทีเถอะ ก็ตลอดเจ็ดวันที่ผ่านมาหล่อนต้องตะลอน ๆ ไปไหนมาไหนกับเขา (คุณศักดิ์ดาด้วย) ก็ยังชอบส่งสายตาดุ ๆ มาให้อยู่เรื่อย เมื่อไหร่ที่เธอทำผิดพลาด (บ้างเล็กน้อย) คุณศักดิ์ดาก็จะคอยบอกว่าไม่เป็นไร รายนั้นคอยให้กำลังอยู่เสมอ ผิดกับอีกคนที่ยังคงทำเช่นเคย คือชอบส่งสายตาคมกริบแบบเชือดเฉือนตามมา อยู่บ่อย ๆ ส่วนถ้อยคำหรือวาจาถากถางให้ได้อายก็ลดลงไปบ้างแล้ว ต่างกับก่อนหน้านี้เยอะ พลอยทำให้หล่อนลดอาการเกร็งลงบ้างเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา 

 จากการที่ได้ทำงานร่วมกับเขาบ่อยครั้งขึ้น ทำให้รู้ว่าเจ้านายจอมเฮี๊ยบคนนี้ เป็นคนจริงจังกับงานมาก ถึงมากที่สุด แล้วก็รอบคอบในทุก ๆ เรื่อง เวลาสั่งงานก็สั่งอย่างกับพายุทอร์นาโด ต้องเร็วและให้ได้อย่างที่ต้องการ ทิ้งความลำบากให้เลขาและผู้ช่วยเลขาต้องปั่นงานกันจนหัวหกก้นขวิด และวันนี้ก็เช่นกัน เขาเข้ามาสั่งงานราวกับพายุบุแคมแล้วก็จากไปประหนึ่งสายฟ้าฟาด

“อืมห์..เสร็จซะที” จอมขวัญบิดขี้เกียจเสียหนึ่งที นั่งทำงานเพลิน จนลืมดูเวลา พอเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่มแล้ว แย่ล่ะ! หล่อนคงต้องพลาดรถเมล์สายที่โดยสารเป็นประจำไปแล้วแน่ ๆ เลย คงต้องอาศัยแท็กซี่กลับอีกแล้ว แย่ชะมัด.. คนยิ่งประหยัด ๆอยู่ รถรับจ้างส่วนตัวเดี๋ยวนี้ไว้ใจได้ซะที่ไหนล่ะ เราก็ยิ่งสวยเซ็กซี่น้อยเสียเมื่อไหร่ (แหว่ะ) คิดเล่น ๆ อย่างนั้นเอง ร่างเล็กรีบกระวีกระวาดเก็บข้าวของออกจากห้องทำงานด้วยอาการร้อนรน

 เพราะรายงานการประชุมครั้งล่าสุดที่เจ้านายต้องการด่วนจี๋นั่นทีเดียวเชียว และต้องได้พรุ่งนี้แต่เช้าอีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็คือหน้าที่หล่อน ที่จะต้องทำให้เสร็จก่อนเวลา เดดไลน์คือก่อนเจ็ดโมง ความจริงแล้วรายงานชุดนี้เป็นงานของมือขวาเป็นผู้รับผิดชอบหลัก หากพอดีว่าภรรยาของคุณศักดิ์ดาเกิดปวดท้องกะทันหัน คงใกล้คลอดเต็มที พี่แกเลยขอความช่วยเหลือจากมือซ้ายอย่างหล่อน

 พนักงานส่วนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว เหลือก็แต่จอมขวัญที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ ตาก็คอยเหลือบแลไปมองซ้ายที ขวาที หันรีหันขวาง ท่าทางเลิ่กลั่ก แอบเสียวสันหลังอย่างไรบอกไม่ถูก บรรยากาศมันช่างวังเวงอะไรอย่างนี้ เงียบเชียบเหลือเกินผิดกับตอนกลางวันลิบลับ พาลให้นึกถึงหนังเกาหลีแนวสยองขวัญสั่นประสาท คิดแล้วให้ขนพองสยองเกล้า พลางเหลือบตาขึ้นไปมองตัวเลขของลิฟต์ที่กำลังวิ่งลงมาจากชั้นบน

 อ้าว!..เอ๊ะ!นั่น เอาละเหวย เรายังไม่ได้กดเรียกลิฟต์เลยไม่ใช่หรือ มันวิ่งลงมาเองได้ไงเนี่ย แล้วนี่จะมีอะไรโผล่ออกมาจากข้างในหรือเปล่านะ ทำไงดี.. ทำไงดี หรือจะเดินลงบันไดดี โอย.. ไม่ไหว ๆ นี่มันชั้น 15 นะขืนเดินลงไปมีหวังลมจับซะก่อนแน่ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถอะ อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ลูกช้างจะทำบุญแผ่อุทิศส่วนกุศลไปให้นะ

 ติ๊ง...

เสียงลิฟต์หยุดตรงที่หล่อนยืนอยู่ จอมขวัญไม่กล้าลืมตา ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น ตอนนี้รู้สึกแข้งขามันแข็ง พานหัวใจจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนว่าลิฟต์จอดนิ่งสนิทแล้ว บ่งบอกว่าขณะนี้ประตูลิฟต์คงเปิดอ้ารอรับหล่อนอยู่ 'ไม่ไป.. ฉันไม่ไปค่ะ ..เชิญคุณผีไปก่อนได้เลย..'

 จอมขวัญไม่กล้าแม้จะเปิดเปลือกตา เพื่อดูว่ามีสิ่งเร้นลับอะไรอย่างที่หล่อนจินตนาการไว้หรือเปล่า สักพักเหมือนมีลมเย็น ๆ วิ่งผ่านข้างตัวหล่อนไป พร้อมกับได้ยินเสียงคุ้นหูเอ่ยสำทับเสียงเข้มตามมา

 “มัวทำอะไรอยู่..รีบ ๆ เข้ามาสิ” อ๊ะ! ผีพูดได้เหมือนคนเปี๊ยบเลย แถมน้ำเสียงยังคุ้นหูอีกต่างหาก หรือว่า..จอมขวัญค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ ดวงตากลมโตเบิกโพลงแทบผงะ 'ผีบ้าผีบออะไรจะหล่อปานนี้ รู้อย่างนี้รีบวิ่งไปซบที่อกซะตั้งแต่แรกแล้ว' (แฮ่ะ..คิดเล่น ๆ ..ไม่กล้าหรอก..) 

“นี่คุณ! รู้หรือเปล่าว่าการกดลิฟต์ค้างไว้ มันต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปมากเท่าไหร่?” เสียงเข้มดุจากเจ้านายจอมเฮี๊ยบ ปลุกให้หล่อนตื่นจากภวังค์ชั่วขณะ จอมขวัญต้องรีบโกยแน่บเข้าไปในลิฟต์ตัวที่มีผีหล่อ เอ๊ย! คนหล่ออยู่ข้างในทันที เอาน่า เจอดุ ก็ยังดีกว่าเจอผีล่ะน่า

 เวลาผ่านไปนาทีกว่าหลังจากที่ประตูลิฟต์ปิดลง บรรยากาศภายในก็เงียบกริบราวกับป่าช้า จะมีก็แต่เสียงของตัวลิฟต์ที่ส่งเสียงครืด ๆ ตามหน้าที่ของมัน จอมขวัญเดินผ่านเจ้านายหนุ่มไปยืนอยู่ด้านในสุดของตัวลิฟต์ ทำตัวเล็กลีบ แทบจะฝังตัวหายเข้าไปในผนังก็ไม่ปาน พลางกอดกระเป๋าใบเก่งแน่น ตาคอยจ้องไปที่แผ่นหลังของคนหน้าดุ ไม่ได้กลัวว่าเขาจะขโมยกระเป๋าหรอก แต่กลัวคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าจะหันมาว๊ากใส่ต่างหาก..

 หลังจากที่หล่อนเข้ามาได้เขาก็หันหลังให้ทันที เฮอะ!..ไม่อยากเสวนานักก็ช่างปะไร ดีเหมือนกัน หันหลังอย่างนี้ยิ่งดีใหญ่ จะได้อ่านกินได้สะดวก คนอะไรก็ไม่รู้ ช่างเพอร์เฟกต์อะไรอย่างนี้ ขนาดถอดสูทคล้องไว้ที่แขน มีแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาธรรมดาที่ถูกพับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก วันนี้เขาสวมกางเกงสีเข้มบวกกับรองเท้าหนังขัดราคาแพงนั่นแล้ว ยิ่งดูเท่ระเบิดไปเลย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status