กลุ่มหนุ่มสาวสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง พลันสายตาของจอมขวัญก็ดันไปปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าของคนคนหนึ่งเข้า เขาดูโดดเด่นที่สุดในงาน อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่กระเดียดไปทางต่างชาติมากกว่า ส่งให้เขาดูสะดุดตากว่าคนอื่นในงาน สาวน้อย สาวใหญ่ต่างมองตามกันจนตาเป็นมัน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของหล่อนที่จ้องมองตั้งแต่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในงานแล้ว เพื่อนคนหนึ่งหันไปสะกิดเจ้าของงานว่าหนุ่มหล่อคนนั้นคือใคร จึงได้คำตอบว่าเป็นลูกชายของลุงเธอ ที่เพิ่งอิมพอร์ทจากเมืองนอกและจะเข้ามาบริหารงานต่อจากบิดา ซึ่งเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ตอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมายนัก จะสนก็แต่ความหล่ออย่างสมบูรณ์แบบของเขาเท่านั้น
บุคคลที่ตกอยู่ในบทสนทนาในคราแรก ก็โดนลากตัวมาโดยเจ้าของงานวันเกิด ล้อมดาวแนะนำผู้ชายตัวสูง คนนั้นให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จัก เขาคนนั้นพยักหน้ายิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับทุกคนไม่เน้นที่ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มเพื่อนสาววัยรุ่นต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ และจำได้ว่าหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
จะด้วยฤทธิ์ของน้ำอัดลม หรือเพราะฤทธิ์กามเทพที่แผลงศรปักอกเข้าอย่างจัง! พอเจ้าของร่างสูงเดินห่างออกไปจากกลุ่มของเธอ จอมขวัญจึงแกล้งเย้ากับเจ้าของงานออกไปแบบทีเล่นทีจริง จะด้วยความคะนองปากก็ว่าใช่ 'อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ชายตัวจังเลยล้อม' พอพูดจบหล่อนกับเพื่อนในกลุ่มก็หัวเราะออกมาพร้อม ๆ กันเสียงดังลั่น ยายเพื่อนตัวดียังนึกสนุกต่อ 'ก็ได้..เรายกให้จอมจุ้นคนเดียวเลย' เท่านั้นแหละ ทั้งกลุ่มก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดตามประสาวัยรุ่น จนผู้หลักผู้ใหญ่ในงานรวมทั้งเขาคนนั้นด้วย ต่างก็หันมามองกลุ่มของหล่อนเป็นตาเดียว เลยโดนตักเตือนให้เบาเสียงลงหน่อย นั่นแหละถึงได้กลับมาสู่สภาวะปกติ หลังจากงานวันเกิดของคุณหนูล้อมดาว ก้องกังวาลไกล ต่างคนก็ต่างตั้งใจเตรียมตัวสอบเพื่อเป็นบัณฑิตในอนาคต จนลืมความสนใจพี่ชายของเพื่อนไปเสียสนิท
“ว่าไงยะ! เงียบไปเลย กำลังรำลึกถึงความหลังอยู่ล่ะสิ นึกถึงความเซี้ยวของตัวเองแล้วเรายังอดขำไม่ได้ คนอะไรพูดออกมาได้ ฮ่าๆ”
“นี่..พอเลยยายล้อมตัวก็พอกันแหละ เล่นกับเราด้วยนะอย่าลืม อ้อ! นึกออกแล้ว ที่แท้พี่ชายตัวก็คือ คนเดียวกับเจ้านายเราหรอกเหรอเนี่ย มิน่าล่ะถึงคุ้นหน้าเขานัก ทีแรกนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน แล้วที่เขาพยายามถามเราตอนสัมภาษณ์วันนี้ ว่ารู้จักใครที่ไหนไหม แถมยังบังคับให้เราตอบออกมาให้ได้ว่าเราใช้เส้นใครมาหรือเปล่า? เป็นเพราะตัวใช่ไหม ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดสารภาพมาเดี๋ยวนี้เลย” สาวเหนือเข่นเขี้ยวเอาเรื่องเพื่อนรัก นึกถึงคำพูดประชดประชันของเจ้านายแล้วอยากจะฆ่ายายเพื่อนตัวดีนัก
โดนจับได้เสียแล้วสิ ล้อมดาวขอลุแก่โทษทางปลายสาย ความจริงแล้วเธอเป็นคนวางแผนทุกอย่างตั้งแต่ต้น เธอแนะนำให้เพื่อนรักไปสมัครงานที่บริษัทบิดาของเธอเอง แต่ทางบริษัทพ่อแนะนำให้ไปสมัครที่บริษัทพี่ชายแทน เพราะเห็นว่าทางนั้นจะเปิดรีสอร์ตแห่งใหม่ ที่ต่างจังหวัดเขาอาจจะต้องการคนซึ่งล้อมดาวก็พอจะรู้อยู่เลา ๆ ว่า พี่ชายเกลียดการใช้เส้นสายเป็นที่สุด
แรกทีเดียวนั้น เธอรู้สึกผิดที่ทิ้งเพื่อนรักไปเรียนคนเดียว ยายจอมขวัญก็ร้องไห้ บ่นน้อยอกน้อยใจ ถึงขนาดไม่ยอมคุยด้วยเป็นวัน ๆ เมื่อรู้ว่าตัวเธอต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ เหตุที่จอมขวัญงอน คงเป็นเพราะเราเคยสัญญา ว่าถ้าเรียนจบแล้วจะไปทำงานที่บริษัทของบิดาเธอด้วยกัน แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอจำเป็นต้องจากเพื่อน เหมือนตัดช่องน้อยแต่พอตัว จึงเกิดไอเดียเด็ด ๆ ว่า ถ้าเพื่อนรักได้งานทำเร็ว ๆ คงไม่เหงาแน่ เธอจึงโทรไปกำชับทางพี่ชายให้รับเพื่อนรัก
เข้าทำงานด้วย เมื่อทราบว่า จอมขวัญไปสมัครงานที่บริษัทพี่ชาย ไม่นานพี่หล่อนก็โทรมาเช็กทุกอย่างเกี่ยวกับเพื่อนรัก จนต้องเท้าความถึงวันเกิดเมื่อปีก่อน เผื่อว่าพี่ชายสุดหล่อจะจำเพื่อนของหล่อนได้ แล้วแถมยังเผลอเล่าที่ยัยจอมจุ้นเพื่อนรักละเมอพูดประโยคที่ทำให้เพื่อน ๆ ทั้งกลุ่ม เฮ กันเสียงดัง จนต้องโดนเอ็ดให้เงียบเสียง พอรู้ตัวว่าพูดมากเกินไป ก็รีบกลบเกลื่อน ด้วยการฝากฝัง แกมบังคับไปในตัว มีหรือพี่ชายสุดหล่อจะปฏิเสธน้องสาวสุดสวยคนนี้ได้ ผลออกมาก็คือพี่ชายเธอรับปากว่าจะขอพิจารณาดูก่อน ป่านนี้คงทดลองงานเพื่อนรักเสียอ่วม ไปแล้วแน่ ๆ เลย“ไม่ลืมหรอกจ้า ไม่ลืมเด็ดขาด เอ่อ..เรื่องนี้ เราต้องขอโทษตัวมาก ๆ เลยนะ ก็เราอยากให้ตัวมีงานทำไว ๆ จะได้ไม่เหงาไงล่ะ แต่เราก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเรายกพี่ชายสุดหล่อให้ตัวคนเดียวเลยจอมจุ้นฮิ ๆ” รีบกลบเกลื่อนเมื่อนึกถึงเบื้องหลังที่ตัวเองก่อไว้ ขอโทษจริง ๆ นะเพื่อน
“โอ๊ย! ไม่ต้องมายกให้เราเลย มิน่าล่ะพี่ชายตัวถึงได้ดุยังกับเสือ ตัวก็โตปากก็ร้าย เวลาเจอหน้าเราทีไร เป็นต้องทำหน้าหงิกใส่ทุกที แค่เจอกันวันแรกก็แทบทำเอาหัวเราหดไปอยู่ในกระดองแล้ว โอกาสที่ตัวจะได้เราเป็นพี่สะใภ้แทบจะเป็นศูนย์เลยแหละจ้าคุณเพื่อน หึ หึ” พูดเสร็จก็หัวเราะแกมเยาะหยันตัวเองในใจ
“ฮ๊า! พี่มาร์คน่ะเหรอดุ ไม่จริงน่าจอมจุ้น คิดมากไปหรือเปล่า บางทีพี่เขาอาจจะเข้มงวดแค่เวลาทำงานก็ได้มั้ง ไม่มีอะไรหรอก นี่ตัวก็ใช้โอกาสที่จะไปร่วมงานกับพี่เขารวบหัวรวบหางซะเลยสิ! เราเชียร์เต็มที่” คนอยากจะยกพี่ชายให้เพื่อนรักคะยั้นคะยอเต็มที่ จอมขวัญเบะปากใส่โทรศัพท์เมื่อได้ยินเพื่อนรักเอ่ยชมพี่ชายตัวเอง แถมยังพูดจาเซี้ยวเกินตัวนั่นอีก
“ไม่มีทางหรอกยัยล้อม เพราะเราน่ะไปทำอะไรทุเรศ ๆ ให้เขาเห็นตั้งหลายอย่าง แถมยังโดนดุต่อหน้าตั้งหลายที พี่ชายตัวไม่มามองคนโลโซ แถมยังเซ่อซ่าอย่างเราหรอก”
“หือม์..พี่มาร์คน่าจะมีเหตุผลนะ อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ ดูไปก่อนก็แล้วกันพี่ชายเราใจดีที่หนึ่งเลย แถมยังหล่ออีกต่างหาก ตัวจะไม่เสียดายเหรอ ถ้าเขาต้องตกเป็นของคนอื่นน่ะ พยายามเข้านะเราเอาใจเชียร์เต็มที่ เฮ้ย! แบ็ตจะหมดแล้ว ถ้าสายตัดก็ ตู๊ด..ตู๊ด..ด..ด..” สายทางโน้นโดนตัดไปซะแล้ว กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่เชียว แม้แต่โทรศัพท์ยังไม่เป็นใจเลย เป็นอย่างนี้ไงเล่า มิน่าล่ะเขาถึงเหมือนจงเกลียดจงชังหล่อนนัก แท้จริงแล้วเส้นที่ว่าใหญ่ ก็คือเส้นยายเพื่อนรักหักเหลี่ยมนี่เอง เฮ้อ! คิดแล้วกลุ้ม ต่อไปนี้หล่อนจะทำหน้ายังไงเมื่อเจอเขาล่ะ และนี่ก็แสดงว่าบอสใหญ่รู้ทั้งหมดแล้วน่ะสิ เขาต้องคิดว่าหล่อนเป็นคนไม่น่าไว้วางใจ แล้วยิ่งเขาเคยพูดว่า 'เกลียด' คนโกหกเสียด้วยสิ เฮอะ..ช่างเถอะ เธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้นสักหน่อย กลัวอะไรล่ะ คนไม่รู้นี่นา คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด!
เมื่อวางสายจากเพื่อนรักเรียบร้อย ร่างเล็กก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับผ้าปูที่นอนลายกระต่ายน้อยกำลังนั่งมองพระจันทร์เสี้ยวที่ส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน มันทำให้หล่อนนึกถึงตัวเอง เมื่อไหร่พระจันทร์ตัวจริงจะหันมายิ้มให้หล่อนบ้างนะ จู่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายก็โผล่มาในห้วงความคิด ว้าย! คนบ้า มาหลอกมาหลอนอยู่ได้ คนอย่างเขาไม่มีทางหันลงมามองยัยกระต่ายหมายจันทร์อย่างหล่อนหรอก ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้พักแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเริ่มโปรโมชั่นฝึกงานหนึ่งสัปดาห์ที่เขาอุตส่าห์ให้โอกาส เราจะทำให้เต็มที่ จะแสดงให้เขาเห็นว่า เราก็ทำได้นะ สู้ สู้วันนี้แล้วสินะ ที่จะเป็นวันสุดท้ายในช่วงทดลองงานของหล่อน จะออกหัวหรือออกก้อยกันหนอ เจ้านายจอมเฮี้ยบของหล่อนจะว่าอย่างไรบ้างครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่างเป็นเจ็ดวันอันคุ้มค่าที่ท่านอุตส่าห์ใจดีให้โอกาสหล่อนฝึกงานต่อ เพื่อหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่เห็นท่านประธานพูดอะไร จะให้หล่อนต่อโปรฯ หรือจะเชิญไปฝึกหัดวิจัย (ฝุ่น) ที่บ้านหนอ คิดแล้วก็ทำให้ใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิน่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จอมขวัญได้ถูกถ่ายท
อยู่ในลิฟต์อย่างนี้แล้ว ชวนให้คิดย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ได้เจอกับเขาครั้งแรก ส่งผลให้ใบหน้าขาวใสร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จอมขวัญยืนก้มหน้าแอบอมยิ้มเพียงลำพัง พยายามปัดภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองทำเปิ่นเป๋อจนได้ใกล้ชิดกับเขาออกไป ยังดีที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องวันนั้นให้หล่อนรู้สึกกระดากอายขึ้นมาอีก“พอใจรึยัง.. ถ้าพอใจแล้วก็เชิญออกไปได้แล้ว เพราะอีกไม่ช้า ลิฟต์ก็จะปิดอัตโนมัติ และถ้าคุณช้ากว่านี้ละก็ ได้ค้างอยู่ในนี้ จนถึงพรุ่งนี้เช้านั่นแหละ กว่าที่ผมจะเดินขึ้นไปแก้ไขระบบได้ ก็คงใช้เวลาไปหลายนาที คาดว่าเมื่อถึงตอนนั้น..คุณคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แน่”อ๊าย! ยัยจอมจุ้น เอ๊ย เธอนี่มันก็เหลือเกินจริง ๆ เลย อยากจะเขกมะเหงกตัวเองนัก คอยแต่จะแอบเพ้อฝันถึงเขาอยู่นั่น ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ ไม่วายโดน ประชดประชันเข้าจนได้ แล้วทำไมหล่อนต้องโดนดุ โดนว่า โดนกระแนะกระแหนอยู่คนเดียวบ่อย ๆ ด้วย เกลียดขี้หน้ากันมากขนาดนี้เลยหรือคะเจ้านาย คิดแล้วก็ให้น้อยเนื้อต่ำใจนัก ทีกับคนอื่น ทำไมเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษวางตัวดีสมกับเป็นท่านประธานผู้น่าเกรงขาม กับ
“จอมขวัญ นี่คุณแกล้งโง่หรือซื่อเกินไปกันแน่” อะไรกันอีกหนอเอากับเจ้านายหล่อนเถอะ คนตัวเล็กแอบจิกกัดกับความปากร้ายของเจ้านาย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พลางกอดอกเชิดหน้ามองออกไปนอกตัวรถพยายามไม่เสวนากับเจ้านายให้เสียอารมณ์“คุณจอมขวัญครับ ผมไม่ใช่คนขับรถประจำทาง เชิญมานั่งข้างหน้าได้นะ” อ่ะ..จอมจุ้นเอ๊ย เธอจะเบ๊อะบ๊ะไปถึงไหน เพิ่งเข้าใจความหมายที่เจ้านายพูดก่อนหน้านั้น เขาหมายถึง เธอเป็นลูกน้อง ไม่ใช่เพื่อนเล่น เขาเป็นใคร แล้วหล่อนน่ะเป็นใคร ลูกน้องสาวรีบกระวีกระวาดย้ายตัวเองจากเบาะนั่งด้านหลังลงจากรถ เปิดประตูก้าวมานั่งตอนหน้าคู่กับเจ้านาย ส่งยิ้มแบบเคอะเขิน ผงกศรีษะแบบขอลุแก่โทษ มือเล็กสาวปอยผมที่ตกมาระข้างแก้มแก้เขินเป็นพัลวัน“ขอโทษค่ะท่านประธาน” ให้มันได้อย่างนี้ทุกทีสิน่า เวลาอยู่กับเขาตามลำพังทีไร เป็นต้องตัวทำตัวไม่ถูก พานทำให้พูดไม่ค่อยเป็นประโยคอยู่ร่ำไป แล้วอ้ายเจ้าเลือดกำเดาก็คอยแต่จะไหลออกมาซะอย่างนั้น สงสัยว่าหล่อนจะเป็นโรคประหลาด บางคนเขาแพ้ผลไม้ แพ้ทิชชู แพ้ยาชา แพ้ยาแก้แพ้ แต่เธอกลับเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ก็เป็นโรคภูมิคุ้มกัน
เจ้านายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ..ไม่กี่อึดใจรถคันใหญ่สีดำก็มาจอดอยู่ตรงลานจอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งดูจากหน้าตาของร้านเมื่อมองจากด้านนอก เป็นร้านขนาดใหญ่แยกออกจากถนนหลัก เป็นร้านอาหารซีฟู้ดเพียงแค่เห็นหน้าร้านและการตกแต่งภายนอกก็รู้ว่าคงแพงหูฉี่จอมขวัญแอบลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ ดูจากร้านแล้ว คาดว่าเขาคงจะใช้เวลาในการกินอาหารมื้อนี้ไม่น่าต่ำกว่าชั่วโมงเป็นแน่ คิดดูสิ..ตั้งหนึ่งชั่วโมงนะที่ต้องรอเขา หล่อนคงหิวจนไส้แทบขาดแน่เลย คนยังไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่หลังเที่ยงเริ่มใจคอไม่ดี อาหารมื้อสุดท้ายก็เกือบบ่ายโมงกว่าเพราะหลังจากนั้นก็ปั่นงานให้เขาจนลืมวันเวลาไปเลย และเป็นเหตุให้หล่อนต้องมานั่งหิ้วท้องรอเขาทานข้าวเสร็จอยู่นี่ไง.. คราวนี้เธอต้องตายแน่ จอมขวัญเอ๋ย..ไส้ขาดแน่ ๆ“อ้าว!..ลงมาสิคุณ เร็ว ๆ เข้า ผมหิวแล้วนะ” เจ้าของร่างสูงทำหน้ายุ่ง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมุ่น คงแปลกใจขณะที่ปลดเข็มขัดนิรภัยออก และทำท่าจะเปิดประตูรถออกไป ก่อนจะหันมาเห็นหล่อนที่ยังนั่งบื้อ จมกับความคิดของตัวเองอยู่ ก็จะให้กล้าบอกออกไปได้ยังไงล่ะ ว่าหิวเหมือนกันล่ะค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าหล่อนพยา
“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ ลงไปนั่งเป็นเพื่อนท่านก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงอ่อนลงจากตอนแรกราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว มัฆวัฒน์มองหญิงสาวนิ่ง อยู่สองสามนาที เลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นคำถามเชิงบอกว่า ตกลงตามนี้ใช่ไหม จากนั้นเขาก็ยักไหล่เล็กน้อย แล้วเปิดประตูรถก้าวขายาว ๆ ออกไป เลขาสาวมือใหม่จึงจำเป็นต้องรีบคว้ากระเป๋าคู่ใจเข้ากับตัว แล้วรีบเปิดประตูรถวิ่งตามคนขายาว ที่สาวเท้าเดินเข้าไปในร้านไม่รอคนขาสั้นเลยแม้แต่น้อย ภายในร้านอาหารค่อนข้างแน่นหนาด้วยผู้คนที่มาทานอาหารรอบดึก หรือเขามากันนานแล้ว เพราะตามที่สายตามองเห็น บางโต๊ะอาหารพร่องไปบ้าง บางโต๊ะก็นั่งคุยกันหลังจากที่อิ่มหนำกันเรียบร้อย ส่วนหล่อนกับเขาเพิ่งจะเข้ามา อันที่จริงแล้วอาจจะเข้ามาเร็วกว่านี้ ถ้าไม่มัวถกเถียงกันอยู่ข้างนอกนู่น อาหารที่นี่คงอร่อยน่าดู โต๊ะทุกตัวถูกจองไว้เกือบหมด จอมขวัญเดินตามเขาต้อย ๆ รู้สึกตัวเล็กลีบลงไปถนัดใจ บรรยากาศในร้านค่อนข้างหรูหรา ราคาแพงเอาการอยู่ ดูจากการแต่งกายของแต่ละคนแล้ว คงเป็นพวกมีตังค์เขามากินกัน แม้บางคนจะใส่เสื้อลำลองก็ยังดูดีกว่าเสื้อผ้า
ตรงกันข้ามกับเจ้านายหล่อน ที่เอาก้มหน้าก้มตากินอาหารประดามีที่สั่งมา สมกับที่บ่นหิวตั้งแต่แรก และกินอย่างไม่กระดากอาย ที่ต้องมานั่งกินข้าวกับคนแปลกหน้าที่ไม่ค่อยแปลกตาอย่างหล่อน จอมขวัญไม่อยากมองการกินอย่างสบายใจของอีกฝ่ายเลยให้ตายเถอะ“ทำไมกินแต่สลัดล่ะ เดี๋ยวก็ผอมแย่ยิ่งดูไม่มีอะไรอยู่ด้วย” จอมขวัญเงยหน้าขวับ สบตากับคนตรงหน้ายกคิ้วเป็นคำถามคล้ายไม่พอใจอีกรอบ“อ่ะ..อ้าว ผมคงพูดอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้วสินะ หมายถึงว่าคุณควรจะกินอะไรที่มันเสริมพลังงานบ้างนะ อย่างเช่นพวกโปรตีน เอ่อ..คุณดูตัวเล็กเกินไปน่ะ” วันนี้เจ้านายหล่อนเป็นอะไรไป ดูเขาจะเกรงใจหล่อนอยู่เหมือนกัน หรือเขากลัวว่าหล่อนจะตอบปฏิเสธ'ที่เขาขอความรัก' เฮ้ย! ไม่ใช่ ๆ เรื่องที่เขาถามเกี่ยวกับงานก่อนหน้านี้เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้ หล่อนก็เลยแทบจะอิ่มขึ้นมาเลยทีเดียวทั้งที่ทีแรกกะว่าจะ กินของหวานตบท้ายเสียหน่อย ในเมื่อเขาสั่งมาเผื่อจะได้ไม่เสียน้ำใจ หลังจากที่คิดว่าต่างฝ่ายต่างอิ่มกันแล้ว เขาคงสังเกตเห็นหญิงสาววางช้อนส้อมลงกับจานอย่างเรียบร้อยถึงได้เริ่มเอ่ยประโยค ถัดมาอย่างเป็นทางการ
“ค่ะ อยู่ครบทั้งพ่อ แม่และพี่ชาย แต่ตอนนี้ พี่ดิฉันถูกส่งตัวไปดูงานที่ต่างประเทศอยู่ค่ะ” พูดถึงพี่ชายก็ให้คิดถึงขึ้นมาทันทีทันใดจะเป็นยังไงบ้างนะ พี่ต้นเป็นสุดที่รักของหล่อนและพ่อกับแม่ที่ท่านปลื้มนักปลื้มหนา ลูกชายคนเดียวทั้งเรียนก็เก่ง ทางด้านการบ้านการเรือนก็สุดยอด ทำอาหารก็อร่อยที่หนึ่ง ถ้าใครได้พี่ชายของหล่อนไปเป็นสามีมีหวังสบายไปร้อยชาติ ผิดกับหล่อนที่ไม่เอาไหนเลยสักอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการบ้านการเรือน ทั้งเรื่องกีฬา แล้วก็อะไรอื่น ๆ อีกจิปาถะ ที่หล่อนทำไม่ได้เหมือนอย่างพี่ชาย เฮ้อ!“คงหนักใจมากสินะ” สงสัยหล่อนคงถอนหายใจเสียงดังเกินไป เลยส่งผลให้เจ้านายเข้าใจผิดอีกรอบ“อะ..เปล่าค่ะ ดิฉันเต็มใจค่ะ”“อ้อ.. โอเค ยังมีอีกเรื่อง..คุณมีแฟนหรือยัง ยังโสดอยู่หรือเปล่า ที่ถามนี่เพราะไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังน่ะ” ดูเหมือนว่าเขาเกรงใจหล่อนที่ถามคำถามนี้ออกมา ดูจากท่าทางที่ดูจริงจัง ร่างสูงสง่าขยับนั่งตัวตรงขึ้นมาทันที ซึ่งก่อนหน้านี้เขายังนั่งเอนตัวสบาย ๆ อยู่เลย จอมขวัญมองสบตาเจ้านายตรง ๆ เป็นครั้งแรก ขยั
“สวัสดีครับคุณจอมขวัญ ชื่อน่ารักดี ยินดีที่จะได้ร่วมงานกันนะครับ”“สวัสดีค่ะ..ยินดีเช่นกันค่ะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ตอบกลับไปยิ้ม ๆ พร้อมกับค้อมศีรษะเล็กน้อย ด้วยรู้สึกยินดีขึ้นมา เมื่อหล่อนจะได้เพื่อนร่วมงานที่มีอัธยาศัยดี แถมยังหน้าตาหล่ออีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะไม่หล่อเข้มแบบเจ้านายหล่อน แต่ก็ดูดีไปอีกแบบ เมื่อฝ่ายนั้นหันมามองหล่อน ส่งยิ้มให้และเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะหันกลับไปพูดกับเจ้านายอีกครั้ง“อ้าว..นี่พี่ศักดิ์ได้เป็นพ่อคนแล้วเหรอเนี่ย..ผมไม่ทราบมาก่อนเลยครับว่าภรรยาแกท้อง ไม่อย่างนั้นคงได้แวะไปเยี่ยมก่อนกลับ เผื่อได้รับขวัญหลานสักหน่อย” ชายหนุ่มพูดติดรอยยิ้มในหน้า พลางก้มมองดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย“เห็นจะต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีต้องไปซื้อของอีกสักหน่อย อ้อ..คุณจอมขวัญจะเดินทางไปที่โน่นเมื่อไหร่ครับ?” พูดจบก็หันมาทางหล่อนแวบหนึ่ง เหมือนจะถามหล่อนมากกว่า“คุณจอมขวัญคงต้องเดินทางไปก่อนในเช้าวันอาทิตย์ ส่วนผมคงจะตามไปทีหลัง”เจ้านายชิงตอบเองเสร็จสรรพ“ถ้าอย่างนั้น..ผ
เสียงเปิดและปิดประตูอย่างแผ่วเบา สักพักเตียงอีกฝั่งก็ยวบลงช้า ๆ ตามด้วยมือใหญ่เรียวยาวค่อยๆ สอดมาใต้หมอนเอื้อมมาคว้าไหล่บอบบางของเมียสาวที่ตอนนี้นอนหันหลังให้ พลางออกแรงแกมบังคับให้พลิกมาทางเขาอย่างเบามือ“จะรีบนอนไปไหนล่ะครับ ฮึ” เสียงพึมพำ ทำให้หล่อนลืมตาขึ้นมามอง พร้อมกับส่งสายตาขุ่นขวางกลับไปให้“ง่วงแล้ว..คนจะนอนมาปลุกทำไมเนี่ย ทำไมไม่ไปนอนกับคนอื่นโน่น” ชายหนุ่มหัวเราะหึ ๆ อย่างเป็นสุข กลับจ้องมองตอบดวงตาเขียวปั๊ดที่ส่งมาอย่างไม่เกรงกลัว“งอนหรือนี่ คุณหึงผมใช่ไหม ดีใจจัง นึกว่ามีแต่ผมเท่านั้นที่คอยแต่จะหึงหวงคุณอยู่ฝ่ายเดียว” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลอเคลียอยู่แถวข้างแก้ม และเลยไปตามซอกคอขาวละมุน ลมหายใจอุ่นร้อนจากปลายจมูกโด่งทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างสูงค่อย ๆ ดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างเล็กน่ากอดให้เอนนอนราบลงไปกับเตียงนอนหนานุ่มช้าเนิบอย่างใจเย็น“คุณ..เอ่อ..คุณมาร์คคะ คือว่า..จอม”“อะไรอีกครับที่รัก จะหาข้ออ้างอะไรอีก เมื่อสองสามวันก่อนคุณก็บอกว่าเป็นรอบเดือน แล้วคราวนี้คุณจะบอกว่าเป็นอะไรอีกครับ..ฮึ” จอมขวัญแทบจมลงไปกับเตียงนอนหนานุ่ม เมื่อร่างที่ใหญ่กว่าทิ้งตัว
แม้ในใจจะรู้สึกโล่ง แต่อีกใจหนึ่งกลับอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ เท้าบางจึงเดินออกมาหาที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย ร่างสูงนอนเหยียดยาวทอดกายไปกับโซฟา เปิดทีวีค้างไว้ คงหลับไปแล้ว ฮึ..รอไม่ไหวล่ะสิ คงเพลียจากงานเมื่อกลางวันที่เขาต้องรับบทหนักกว่าหล่อนมากก็ไหนจะคอยต้อนรับญาติ ๆ ทางมารดาเขา ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และไหนจะเพื่อนฝูงสมัยเรียน เพื่อนร่วมธุรกิจอีก จอมขวัญนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาที่มีคนตัวสูงนอนอย่างสบายใจ พลางยื่นปลายนิ้วไปเขี่ยตรงต้นแขน กะว่าจะปลุกให้เข้าไปนอนที่เตียงนอนเสียหน่อย เพราะดูจากที่เขานอนอยู่คงไม่สบายเท่าใดนัก“อืมม์..ไม่ต้องมาสะกิดเลย คืนนี้ยกให้ ผมไม่มีแรงจะทำอะไรแล้วง่วง..” พูดจบเจ้าบ่าวก็ลุกขึ้น เดินโซซัดโซเซกลับมาล้มตัวลงนอนที่เตียงกว้างด้านในอย่างงอน ๆ จอมขวัญย่นจมูก อย่างนึกหมั่นไส้ แลบลิ้นแถมไปให้ด้วย เฮอะ..ผู้ชายอะไรงอนก็เป็นด้วยตลกชะมัด แต่ก็น่ารักไปอีกแบบเมื่อคนอย่างเขาทำ ฮิ ๆ หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงนอนใหญ่หนานุ่ม อย่างแผ่วเบา ด้วยเกรงว่าคนข้าง ๆ จะตื่น ก่อนจะตะแคงมองสามีที่น่ารักยิ่งนักเมื่อยามหลับ โน้มใบหน้าบางใส ไปจุ๊บราตรีสวัสดิ์ ให้
งานวิวาห์ระหว่าง นายมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกล นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงกับเลขาสาวนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงเมืองหลวง เป็นวันที่ทั้งสองรอคอยว่าจะให้มีวันนี้ นับตั้งแต่ผ่านช่วงปีใหม่มาแล้วร่วมสองเดือน ซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าว บ่นอิดออดว่าทำไมฤกษ์ที่มารดาเจ้าสาวหาให้ ถึงได้ล่าช้านัก ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาต้องทรมานขนาดไหนที่ต้องทนรอให้ถึงวันนี้อย่างใจจดใจจ่อเพียงใด“วันนี้คุณสวยจัง” เจ้าบ่าวกระซิบข้างใบหูเล็กของเจ้าสาว อย่างเอาใจ เมื่อทั้งหล่อนและเขาออกมายืนต้อนรับแขกเหรื่อหน้าประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยง ที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตร ตระการตา เจ้าสาวของเขาอยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขาวใส ที่ตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางบางเบา เท่านั้นก็ช่วยให้หล่อนสวยใสไร้ที่ติจนเขาต้องเอ่ยปากชมออกมา“ไม่ต้องมาพูดเอาใจหรอกน่า..ยังไง ๆ ก็รับผิดชอบในตัวคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ” จอมขวัญตอบกลับไป พลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แถมแลบลิ้นแบบเด็ก ๆ ส่งไปให้เจ้าบ่าวของหล่อน ที่วันนี้เขาก็ดูหล่อสมาร์ตกว่าใคร ๆ ในงานเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเวลาธรรมดา เขาก็ดูดีไม่มีที่ติอยู่แล้ว“แน่นอน
บ่อยครั้งเข้าต้นน้ำถึงกับร้องครางออกมาอย่างลืมตัวเมื่อหญิงสาวเริ่มตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ ลำแขนเรียวเล็กเลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอแข็งแรงของเขาไว้อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยวเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก ล้อมดาวถึงกับหายใจหอบเล็กน้อย ก้มหน้ามุดเข้าไปหาความอบอุ่นในอ้อมอกเขาอย่างเอียงอาย ไม่พูดไม่จา“ ดูเหมือนว่า เราจะเกิดมาคู่กันเสียแล้วสิ..คุณว่าไหม”“ บ้าน่ะสิ คนบ้า! พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”“ อ๋อ..อยากให้ถึงที่บ้านเร็ว ๆ จะได้ฟ้องทุกคนงั้นสิ คราวนี้ถ้าคุณไม่ฟ้องจริง ๆ ผมจะเป็นฝ่ายบอกกับทุกคนเองเลยเป็นไง ว่าเรารู้สึกยังไงต่อกัน” “ อี๋..ใครไปมีความรู้สึกอะไรกับคุณกันล่ะแล้วก็ห้ามบอกเรื่อง..เรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด!”“ อะไรนะเรื่องจูบนี่น่ะหรือ ที่ห้ามบอกฮ่า ๆ”“ นี่คุณ!ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ” หญิงสาวตวาดแว๊ดใส่ชายหนุ่มใบหน้าแดงก่ำด้วยความขัดเขินปนขุ่นเคืองเป็นกำลัง ต้นน้ำหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหล่อนนัก ดวงหน้าขาวใสที่ออกเป็นสีแดงจาง ๆ แล้วตอนนี้ พร้อมด้วยการค้อน แสดงความเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างใด มันช่างถูกใจนัก สงสัยว่าเขาจะต้องไปเกี่ยวดองกับตระกูลไฮโซอีกคนเสียแล้วสิ เฮ้อ!“
แสงแดดยามเช้าส่งลงมายังสวนผลไม้ ทำให้บรรยากาศตอนนี้ช่างรื่นรมย์เหลือเกิน ล้อมดาวชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างนี้ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หญิงสาวออกมาช่วยคนงานเก็บผลส้มอย่างเพลิดเพลิน จนไม่รู้ว่าได้เดินลึกเข้าไปในไร่อย่างไม่รู้ตัว พลางเขย่งเท้าเพื่อที่จะปลิดผลส้มที่อยู่สูงเกินมือจะเอื้อมถึง จึงมองหาบันไดที่คนงานเขามักจะใช้กันเมื่อเก็บลูกที่อยู่สูงขึ้นไป“ ทำอะไรน่ะ! เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก!” เพราะเสียงเข้มดุนั้นทีเดียวเล่นเอาเธอสะดุ้งตกใจ และไม่ทันตั้งตัวขณะที่ล้อมดาว ก้มลงไปมองยังเสียงเข้มดุคล้ายรำคาญเต็มทน สาวต่างถิ่นจึงตัดสินใจก้าวขาลงมา แต่กลับก้าวพลาด ทำให้ร่างของหล่อนร่วงจากบันไดทันที!“ ว๊ายยย!!” ตุ๊บ!! “ โอ้ย!..”“ เฮ้ย! ว่าแล้วเชียวต้องเป็นแบบนี้พูดยังไม่ทันขาดคำเลย โธ่เอ๊ย!ลุกไหวไหมล่ะทีนี้”“ ไม่ต้องมายุ่งเลยคนใจร้าย เมื่อไหร่จะหยุดแกล้งฉันเสียที ที่ผ่านมายังไม่พอใจอีกหรือ” คนอะไร ไม่อยากมองหน้าเลย ใบหน้าที่ดุดัน นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ทั้งปาก ทั้งจมูก หล่อนเกลียดนัก ทำไมจะต้องมาเจอคนอย่างเขาด้วยนะ แล้วทำไมต้องมายุ่มย่ามกับหล่อนด้วยไม่เข้าใจเลยจริง ๆ“ พูดอะไรของคุณเนี่ย
“ คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง นี่อย่าบอกนะว่า..คุณจะมาแก้แค้นเรื่องเมื่อวาน แล้วที่..ที่คุณทำกับฉันเมื่อวานยังไม่พอใจอีกเหรอ คน..คนไม่ดี..คนพาล ออกไปนะ ออกไป! ฉันเกลียดคุณ คนบ้า! ฮือ ๆ ฉันจะฟ้องทุกคนเลยคอยดู ฮือ ๆ ที่คุณกล้าทำกับฉันแบบนี้ ฮือ ๆ”เมื่อได้สติหญิงสาวก็กระโดดผลุงลงจากเตียง วิ่งไปหลบชิดกำแพงห้อง ราวกับว่ามันจะช่วยหล่อนได้กระนั้น พลางชี้หน้าด่าคนที่บังอาจเข้ามาในห้องที่หล่อนนอนอยู่ พูดไปร้องไห้ไป อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นน้ำลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองจ้องไปยังหญิงสาวที่บัดนี้ตัวสั่นงันงกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ปากก็พร่ำว่าเขา พูดไปร้องไห้ไปอย่างกับเด็ก เอะอะก็จะฟ้องคนโน้นคนนี้ ก็เอาสิ ลองดูว่าจะทำอย่างที่พูดได้หรือเปล่า“ ก็เอาสิ ฟ้องก็ฟ้องเลย คราวนี้ล่ะเขาจะได้รู้กัน ว่าเราน่ะ..มีความลับต่อกันอยู่หึ ๆ” ชายหนุ่มกอดอก พูดเนิบ ๆ อย่างใจเย็น มองตอบกลับไปยังใบหน้าขาวสะอาดที่บัดนี้เปื้อนไปด้วยน้ำตา อย่างท้าทาย ก่อนจะเดินออกจากห้องมาหน้าตาเฉย หากในใจกลับอดรู้สึกสงสารเจ้าของใบหน้าที่ดูหวาดระแวง วิตกกังวล ใบหน้าอ่อนใสค่อนข้างแดงก่ำจะเพราะพิษไข้ หรือจากที่โ
บนโต๊ะอาหารมื้อเช้าของวันใหม่ สมาชิกในครอบครัว นั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร จะขาดก็แต่ล้อมดาวที่ไม่ยอมออกมาทานข้าว ผู้เป็นมารดารู้สึกแปลกใจนักเมื่อไม่เห็นเพื่อนของลูกสาวมาร่วมโต๊ะอาหารในเช้านี้“ อ้าว! หนูจอม เพื่อนเราเขาไม่ทานข้าวด้วยกันเหรอลูก ไม่สบายหรือเปล่าเมื่อวานตอนเย็น แม่เห็นหน้าซีด ๆ อยู่”“ จอมถามแล้วค่ะแม่ ล้อมเขาบอกว่าไม่ค่อยหิว เมื่อคืนบ่นว่านอนไม่หลับด้วย รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย สงสัยยังปรับตัวไม่ทัน ก็เลยขอนอนต่อ นี่ก็กะว่าจะเอาข้าวต้มไปให้เขาทานเสียหน่อย”“ อืม อย่างนั้นเหรอจ๊ะ สงสัยคงแปลกที่ แถมยังเปลี่ยนเวลากะทันหัน ถือยาไปเผื่อด้วยก็แล้วกันนะลูก”“ ค่ะแม่ แหม..รู้สึกว่าแม่เราเนี่ยเอาใจใส่ยัยคุณหนูล้อมเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย” ปากพูดไป แต่สายตากลับหันมามองตาพี่ชาย เหมือนต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับต้นน้ำมากกว่า ทางด้านพี่ชายหลบตาน้องสาวรีบเสใบหน้าไปอีกทาง ทำเป็นไม่สนใจกับสายตาจ้องจับพิรุธของผู้เป็นน้องสาวที่ส่งมาอย่างมีเลศนัยนั่น แต่ใจก็อดนึกไปถึงหญิงสาวที่แอบหลบอยู่ในห้องไม่ให้เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว หึ..หลบได้หลบไป อยากรู้นัก จะทำแบบนี้ไปได้สักกี่น้ำ ยัง
“ ทำไมต้องบอกด้วยล่ะคะ คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี” หญิงสาวยังบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมตอบแต่โดยดี“ อยากได้ยินจากปากคุณมากกว่า น่านะ.. บอกผมมาสักครั้งหนึ่งเถอะนะ คนดี ไม่อย่างนั้นจะจูบอวดชาวบ้านเขาเดี๋ยวนี้เลยเป็นไง”“ รัก..สิคะ ถ้าไม่..รัก..ไม่ยอมตกลงแต่งด้วยหรอก” จอมขวัญรีบตอบกลับไปทันทีด้วยเกรงว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริง ๆ“ อืมม์..ชื่นใจจัง..งั้น..ให้รางวัลแก่เด็กดีหน่อยเป็นไร” ไม่พูดเปล่าร่างสูงก็โน้มหน้าลงมาหมายตาไว้ที่ปากเล็กจิ้มลิ้มนั้น แต่ก็พลาดเมื่อเจ้าหล่อนดิ้น หลุดไปเสียก่อน หนีไปได้อีกแล้วนะ หลบได้หลบไป แต่งเมื่อไหร่ล่ะก็..น่าดูเมื่อได้หลับเต็มอิ่มแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเป็นกำลัง ล้อมดาวบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวเต็มที่เมื่ออยู่ในห้องพักเพียงลำพัง ไปไหนกันหมดนะ บนบ้านก็ว่างเปล่า อ้อ! ลืมไป ยัยจอมจุ้นกับพี่ชายหล่อนบอกว่าจะออกไปสวนส้มนี่นา ล้อมดาวยืนงงอยู่เป็นครู่เมื่อค่อย ๆ ลำดับเหตุการณ์ ก่อนที่จะหลับสนิทเพราะเพลียจากการเดินทาง หญิงสาวที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีขาวสะอาดตา เน้นทรวดทรงองเอว เป็นอย่างดี เพราะแจ๊กเก็ตตัวโปรดถูกถอดเก็บไว้ในห้องแล้ว แปลกแฮะหน้านี้เป็นฤดูหนาวไม่ใช่หรือ แต่ทำ
สงสัยคนบ้านนี้เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีมากเลยนะถึงไหว้ได้อย่างงดงามทั้งพี่ทั้งน้อง กิริยาก็น่ารักน่ามอง ผู้เป็นมารดาลอบมองสำรวจหญิงสาวหน้าตาสะสวยหมดจดแลดูเกลี้ยงเกลาผู้นี้อย่างนึกเอ็นดู หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธี ผู้อาวุโสทั้งสองก็ชักชวนให้เก็บสัมภาระ ซึ่งเจ้าของบ้านได้จัดแจงพาไปยังห้องพัก แม้ว่าบ้านจะดูไม่ใหญ่โต เหมือนกับบ้านคนรวยร้อยล้านพันล้าน แต่ภายในก็แลดูกว้างขวางน่าอยู่ จัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว ซึ่งล้อมดาวขอนอนกับจอมขวัญเพื่อที่ว่าจะได้นอนคุยกันให้ฉ่ำปอดไปเลย จอมขวัญก็รีบตอบรับแทบจะทันที ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวของหล่อนกลับทำหน้ายักษ์ใส่ราวกับไม่พอใจกระนั้น แต่จอมขวัญไม่สนใจทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวไปเสีย เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วหัวหน้าครอบครัวก็ให้ออกมาร่วมรับประทานอาหาร โดยวันนี้สามพ่อครัวช่วยกันทำอาหารคนละอย่างสองอย่าง อวดฝีมือกันเต็มที่“ เป็นไงบ้างจ๊ะบ้านป้า พออยู่ได้ไหม” ผู้เป็นป้าหันมาถามล้อมดาว อย่างให้ความสนใจจนออกนอกหน้า ทำไมแม่ต้องไปสนใจยัยเด็กขี้วีน คนนี้ด้วยนะ แถมยังซุ่มซ่ามอีกต่างหาก ต้นน้ำนึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว“ สบายมากค่ะ ล้อมไม่เรื่อ