“เอาล่ะ..นายจ้างอย่างผม คงต้องปรับปรุงตัวเสียใหม่สักหน่อย แต่ก็คงไม่ใจกว้างมากนักหรอกนะ..คุณจอมขวัญเพื่อให้คุณได้เรียนรู้การทำงานครั้งแรกในชีวิต ผมก็จะให้โอกาสคุณ เอาเป็นว่าผมให้คุณเรียนรู้งานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นถ้าคุณยังต้องเรียนรู้งานอยู่อีก ผมก็คงต้องเชิญคุณไปเรียนรู้งานกับนายจ้างรายอื่นแทน และเป็นอันตกลงว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะให้คุณได้หาประสบการณ์จากเลขาของผม.. คุณศักดิ์ดาเชิญข้างในหน่อยครับ” เจ้านายเน้นเสียงเรียกชื่อหล่อนในรอบวันอย่างจงใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่จอมขวัญก็ชักจะจำไม่ได้แล้ว
ในดวงตายังคงมีแววเชือดเฉือนปะปนกับคำพูดอยู่ดี อะ..อะไรนะ เดี่ยวก่อน..นี่หล่อนยังไม่โดนไล่ออกหรอกหรือนี่ แถมจะได้เรียนรู้งานจากเลขาของเขาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะพิจารณาว่าผ่านหรือไม่ผ่านเพื่อเป็นผู้ช่วยเลขาของเขาอย่างนั้นหรือ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม
พลันได้ยินเจ้านายหนุ่มกดอินเตอร์คอม เรียกคุณศักดิ์ดาเข้ามาพบและแนะนำหล่อนให้รู้จัก พร้อมกับมอบหมายให้สอนงานหล่อนทุกอย่างภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ถ้าหากว่าผ่านโปรฯแล้ว เธอต้องติดตามบอสไปที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสาขาที่กำลังเปิดใหม่และจะต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสามถึงหกเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น แล้วแต่ว่าโครงการจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่
จอมขวัญยังรู้สึกอึงอลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันทันด่วน หลังจากที่ท่านประธานแนะนำให้หล่อนได้รู้จักกับเลขาของเขาแล้ว เจ้าของร่างสูงสง่าก็เดินหายลับออกไปจากห้องทำงาน ไม่ได้เหลือบแลมาทางพนักงานที่ขาดประสบการณ์อย่างเธอแม้แต่น้อย หากก่อนไปยังหันกลับมากำชับกับเลขาส่วนตัว ฝากฝังคุณศักดิ์ดาให้เขาสอนงานให้หล่อนได้ทุกเรื่อง ทุกอย่างต่อจากนี้ไป เธอจะมีพี่เลี้ยงคนใหม่แล้วสินะ คุณศักดิ์ดาดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งจากการที่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ไม่ถือตัว เหมือนอย่างคนบางคน ทราบภายหลังว่าเลขาของเจ้านายมีครอบครัวแล้วและภรรยากำลังท้องแก่ใกล้คลอดด้วย
จอมขวัญก้าวเท้าออกจากอาคาร เอ็ม ไอ พี เกือบทุ่ม พกพาความงุนงงสงสัยหนักกว่าครั้งแรกที่ไปสัมภาษณ์งานเสียอีก เมื่อกลับมาถึงที่พักได้ก็ทิ้งตัวนอนแผ่หลากับที่นอนแสนนุ่ม พลางนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในวันนี้ แต่ก็อดขำกับความช่างกล้าและบ้าบิ่นของตัวเองเมื่อช่วงกลางวันไม่ได้ ทุกอย่างกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวล่ะ
หล่อนจะได้เป็นถึงผู้ช่วยเลขาของเจ้านายในเอ็ม ไอ พี เลยหรือนี่ ไม่อยากจะเชื่อเลย เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่ไหวแล้ว ต้องโทรหาใครสักคนเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ ไม่อย่างนั้นละก็อกแตกตายแน่ ก่อนอื่นคงต้องโทรบอกทางบ้าน ว่าเธอต้องออกไปทำงานต่างจังหวัด ถ้าหากผ่านโปรฯ อันแสนสั้น แม่ถึงกับเอ็ดตะโรเสียยกใหญ่ ทำไมต้องไปด้วยในเมื่อเขามีเลขาอยู่แล้วบ่นว่าเป็นสาวเป็นนาง จะไปทำงานกับผู้ชายหนุ่ม ๆ ได้ยังไงกัน
เธอต้องอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ ยกแม่น้ำทั้งร้อยสาย จนหมดเงินค่าโทรศัพท์ไปหลายบาท กว่าคุณแม่จะยอมใจอ่อน วางสายจากแม่บังเกิดเกล้า ก็ถึงคิวของเพื่อน ๆ ที่ต้องคุยทับให้หนำใจ หลังจากที่โดนพวกนั้นเคยดูถูกว่าเธอไม่มีทางได้ทำงานที่นี่อย่างแน่นอน จนคิดว่าคงครบหมดทุกคนแล้ว จะขาดก็แต่คนสำคัญสุดที่ตอนนี้ คนคนนั้นอยู่ไกลถึงต่างประเทศนู่น ค่าโทรต่างประเทศก็แพงแสนแพง ฉันจะเอาตังค์ที่ไหนโทรหาเธอล่ะล้อมดาว แค่นี้ก็กระเบียดกระเสียรจะแย่อยู่แล้ว เอาไว้เงินเดือนออกก่อนค่อยโทรก็แล้วกันนะเพื่อนรักคนที่หล่อนอยากโทรหามากที่สุดในตอนนี้ ก็โทรมาหาเองราวกับปาฏิหาริย์ ประหนึ่งว่ามีโทรจิตส่งถึงกันก็ไม่ปานเจ้าตัวเองก็ไม่ได้เอะใจเลยสักนิดว่า อยู่ดี ๆ ทำไมยัยเพื่อนสนิทถึงโทรมาหาหลังจากที่ติดต่อกันล่าสุด เมื่อตอนที่ได้เข้าไปทำงานที่เอ็ม ไอ พี ใหม่ ๆ จากนั้นก็หายต๋อมไปจนคิดว่าเพื่อนรักคงเรียนหนัก แต่ถ้าให้โทรไปหาก็คงไม่ไหวเพราะค่าโทร
แพงเหลือเกิน เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นเพียงครั้งเดียว เบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอบ่งบอกว่ามาจากต่างประเทศ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสนิท จอมขวัญรีบกดรับทันที
“ฮัลโหล ที่รัก ดีใจที่สุดเลย รู้ได้ไงว่ากำลังคิดถึงมาก ๆ มีเรื่องจะเล่าให้ตัวฟังเยอะแยะไปหมดเลยรู้ไหม” คนเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ละล่ำละลักบอกเพื่อนสาว
“นี่ ๆ อะไรกันยัยจอมจุ้นไม่ต้องรีบพูดขนาดนั้นก็ได้ เรายังไม่รีบวางสายตัวหรอกน่า” เสียงใสแจ๋วจากปลายสายแกล้งแซวเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ให้รีบได้ไงล่ะ ค่าโทรต่างประเทศแพงลิบลิ่วขนาดนี้”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เราเป็นคนโทรหาตัวนะ ไม่ใช่ตัวโทรหาเราซะหน่อย เอ..หรือว่าจะวางสายแล้วให้โทรมาหาเราดี
ไหมนะ”“ไม่ดีเลย ๆ ยัยล้อมอย่ามาล้อเล่นแบบนี้นะใจแป้วหมด แล้วเป็นไงมาไงล่ะ ถึงโทรมาหา หลังจากที่หายต๋อมไปเลย นึกว่าลืมเพื่อนโลโซคนนี้ไปซะแล้ว”
“จะบ้าเหรอ เออ..ขอโทษนะพอดีว่าช่วงนี้กำลังเรียนหนักน่ะ เอ้อ! ว่าแต่ตัวเถอะ เป็นไงบ้างที่ทำงานได้ยินข่าวว่าจะได้ออกไปต่างจังหวัดด้วยนี่”
“เอ๊ะ! นี่ตัวรู้ได้ยังไงว่าเราจะออกไปต่างจังหวัดด้วย หรือว่ามีเพื่อนคนไหนคาบข่าวไปบอกก่อนเราเองซะอีกเนี่ย” จอมขวัญถามออกไประคนสงสัย ว่าทำไมเพื่อนรักถึงได้รู้ข่าวเร็วนัก
“ก็พี่ชายเราน่ะสิ จู่ ๆ ก็โทรมาถามข้อมูลเกี่ยวกับจอมตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน ตอนที่พี่เขามาประชุมที่นี่ เรายังแปลกใจอยู่เลย ว่าทำไมพี่เขาถึงได้ซักข้อมูลของตัวซะละเอียดยิบ”
“เดี๋ยวก่อนยัยล้อม นี่ตัวมีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เท่าที่รู้เราคบกันมากว่าสี่ปี ไม่ยักรู้ว่าตัวมีพี่ชายเลยนี่นา แล้วไหงอยู่ดี ๆ พูดเรื่องพี่ชายอะไรของเธอเนี่ย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรามิทราบ อธิบายมาเร็ว ๆ เข้า”
“อ้าว! นี่เรายังไม่เคยเล่าให้ตัวฟังหรอกเหรอว่า พี่ชายคนนี้น่ะเป็นลูกชายของลุงกับป้าเราเอง ทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมกับรีสอร์ต จำไม่ได้เหรอเพื่อน งานวันเกิดเราเมื่อตอนปีสี่ พี่เขายังมางานอยู่เลย ตอนนั้นเขาเนื้อหอมอย่างกับอะไรดี เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกใหม่ ๆ หมาด ๆ พี่เขาเป็นลูกครึ่ง แม่เป็นคนอังกฤษส่วนพ่อเป็นคนไทยซึ่งก็คือคุณลุงเราเอง จำได้หรือยังตอนนั้นตัวยังเคยพูดว่า 'อยากใช้นามสกุลเดียวกับพี่ตัวจังเลยล้อม' จำได้ไหมจ๊ะ?”
ภาพในอดีตค่อย ๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้า ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เอง หลังจากที่เพื่อนรักเท้าความถึงอดีตกาลที่ผ่านมา ในงานวันเกิดครบรอบยี่สิบสามปีของคุณหนูล้อมดาว ก้องกังวาลไกล เหล่าบรรดาเพื่อนพ้องมาร่วมงานวันเกิดค่อนข้างหนาตาเนื่องจากถือว่าเป็นการเลี้ยงรุ่นไปในตัว ภายในงานจัดอย่างใหญ่โตมโหฬาร ราวกับงานแต่งก็ไม่ปาน มีทั้งแขกเหรื่อของพ่อแม่เพื่อนมีทั้งคุณหญิงคุณนายมากันแน่นขนัดไปหมด
กลุ่มหนุ่มสาวสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง พลันสายตาของจอมขวัญก็ดันไปปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าของคนคนหนึ่งเข้า เขาดูโดดเด่นที่สุดในงาน อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่กระเดียดไปทางต่างชาติมากกว่า ส่งให้เขาดูสะดุดตากว่าคนอื่นในงาน สาวน้อย สาวใหญ่ต่างมองตามกันจนตาเป็นมัน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของหล่อนที่จ้องมองตั้งแต่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในงานแล้ว เพื่อนคนหนึ่งหันไปสะกิดเจ้าของงานว่าหนุ่มหล่อคนนั้นคือใคร จึงได้คำตอบว่าเป็นลูกชายของลุงเธอ ที่เพิ่งอิมพอร์ทจากเมืองนอกและจะเข้ามาบริหารงานต่อจากบิดา ซึ่งเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ตอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมายนัก จะสนก็แต่ความหล่ออย่างสมบูรณ์แบบของเขาเท่านั้น บุคคลที่ตกอยู่ในบทสนทนาในคราแรก ก็โดนลากตัวมาโดยเจ้าของงานวันเกิด ล้อมดาวแนะนำผู้ชายตัวสูง คนนั้นให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จัก เขาคนนั้นพยักหน้ายิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับทุกคนไม่เน้นที่ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มเพื่อนสาววัยรุ่นต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ และจำได้ว่าหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จะด้วยฤทธิ์ของน้ำอัดลม หรือเพราะฤทธิ์กามเทพที่แผลงศรปักอกเข้าอย่างจัง! พอเจ้าของร่า
เมื่อวางสายจากเพื่อนรักเรียบร้อย ร่างเล็กก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับผ้าปูที่นอนลายกระต่ายน้อยกำลังนั่งมองพระจันทร์เสี้ยวที่ส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน มันทำให้หล่อนนึกถึงตัวเอง เมื่อไหร่พระจันทร์ตัวจริงจะหันมายิ้มให้หล่อนบ้างนะ จู่ ๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายก็โผล่มาในห้วงความคิด ว้าย! คนบ้า มาหลอกมาหลอนอยู่ได้ คนอย่างเขาไม่มีทางหันลงมามองยัยกระต่ายหมายจันทร์อย่างหล่อนหรอก ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ตอนนี้พักแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเริ่มโปรโมชั่นฝึกงานหนึ่งสัปดาห์ที่เขาอุตส่าห์ให้โอกาส เราจะทำให้เต็มที่ จะแสดงให้เขาเห็นว่า เราก็ทำได้นะ สู้ สู้วันนี้แล้วสินะ ที่จะเป็นวันสุดท้ายในช่วงทดลองงานของหล่อน จะออกหัวหรือออกก้อยกันหนอ เจ้านายจอมเฮี้ยบของหล่อนจะว่าอย่างไรบ้างครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่างเป็นเจ็ดวันอันคุ้มค่าที่ท่านอุตส่าห์ใจดีให้โอกาสหล่อนฝึกงานต่อ เพื่อหาประสบการณ์ แต่ก็ไม่เห็นท่านประธานพูดอะไร จะให้หล่อนต่อโปรฯ หรือจะเชิญไปฝึกหัดวิจัย (ฝุ่น) ที่บ้านหนอ คิดแล้วก็ทำให้ใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมาอีกแล้วสิน่าตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา จอมขวัญได้ถูกถ่ายท
อยู่ในลิฟต์อย่างนี้แล้ว ชวนให้คิดย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ได้เจอกับเขาครั้งแรก ส่งผลให้ใบหน้าขาวใสร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จอมขวัญยืนก้มหน้าแอบอมยิ้มเพียงลำพัง พยายามปัดภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองทำเปิ่นเป๋อจนได้ใกล้ชิดกับเขาออกไป ยังดีที่เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องวันนั้นให้หล่อนรู้สึกกระดากอายขึ้นมาอีก“พอใจรึยัง.. ถ้าพอใจแล้วก็เชิญออกไปได้แล้ว เพราะอีกไม่ช้า ลิฟต์ก็จะปิดอัตโนมัติ และถ้าคุณช้ากว่านี้ละก็ ได้ค้างอยู่ในนี้ จนถึงพรุ่งนี้เช้านั่นแหละ กว่าที่ผมจะเดินขึ้นไปแก้ไขระบบได้ ก็คงใช้เวลาไปหลายนาที คาดว่าเมื่อถึงตอนนั้น..คุณคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แน่”อ๊าย! ยัยจอมจุ้น เอ๊ย เธอนี่มันก็เหลือเกินจริง ๆ เลย อยากจะเขกมะเหงกตัวเองนัก คอยแต่จะแอบเพ้อฝันถึงเขาอยู่นั่น ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุดตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้ ไม่วายโดน ประชดประชันเข้าจนได้ แล้วทำไมหล่อนต้องโดนดุ โดนว่า โดนกระแนะกระแหนอยู่คนเดียวบ่อย ๆ ด้วย เกลียดขี้หน้ากันมากขนาดนี้เลยหรือคะเจ้านาย คิดแล้วก็ให้น้อยเนื้อต่ำใจนัก ทีกับคนอื่น ทำไมเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษวางตัวดีสมกับเป็นท่านประธานผู้น่าเกรงขาม กับ
“จอมขวัญ นี่คุณแกล้งโง่หรือซื่อเกินไปกันแน่” อะไรกันอีกหนอเอากับเจ้านายหล่อนเถอะ คนตัวเล็กแอบจิกกัดกับความปากร้ายของเจ้านาย แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน พลางกอดอกเชิดหน้ามองออกไปนอกตัวรถพยายามไม่เสวนากับเจ้านายให้เสียอารมณ์“คุณจอมขวัญครับ ผมไม่ใช่คนขับรถประจำทาง เชิญมานั่งข้างหน้าได้นะ” อ่ะ..จอมจุ้นเอ๊ย เธอจะเบ๊อะบ๊ะไปถึงไหน เพิ่งเข้าใจความหมายที่เจ้านายพูดก่อนหน้านั้น เขาหมายถึง เธอเป็นลูกน้อง ไม่ใช่เพื่อนเล่น เขาเป็นใคร แล้วหล่อนน่ะเป็นใคร ลูกน้องสาวรีบกระวีกระวาดย้ายตัวเองจากเบาะนั่งด้านหลังลงจากรถ เปิดประตูก้าวมานั่งตอนหน้าคู่กับเจ้านาย ส่งยิ้มแบบเคอะเขิน ผงกศรีษะแบบขอลุแก่โทษ มือเล็กสาวปอยผมที่ตกมาระข้างแก้มแก้เขินเป็นพัลวัน“ขอโทษค่ะท่านประธาน” ให้มันได้อย่างนี้ทุกทีสิน่า เวลาอยู่กับเขาตามลำพังทีไร เป็นต้องตัวทำตัวไม่ถูก พานทำให้พูดไม่ค่อยเป็นประโยคอยู่ร่ำไป แล้วอ้ายเจ้าเลือดกำเดาก็คอยแต่จะไหลออกมาซะอย่างนั้น สงสัยว่าหล่อนจะเป็นโรคประหลาด บางคนเขาแพ้ผลไม้ แพ้ทิชชู แพ้ยาชา แพ้ยาแก้แพ้ แต่เธอกลับเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ก็เป็นโรคภูมิคุ้มกัน
เจ้านายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ..ไม่กี่อึดใจรถคันใหญ่สีดำก็มาจอดอยู่ตรงลานจอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งดูจากหน้าตาของร้านเมื่อมองจากด้านนอก เป็นร้านขนาดใหญ่แยกออกจากถนนหลัก เป็นร้านอาหารซีฟู้ดเพียงแค่เห็นหน้าร้านและการตกแต่งภายนอกก็รู้ว่าคงแพงหูฉี่จอมขวัญแอบลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืด ๆ ดูจากร้านแล้ว คาดว่าเขาคงจะใช้เวลาในการกินอาหารมื้อนี้ไม่น่าต่ำกว่าชั่วโมงเป็นแน่ คิดดูสิ..ตั้งหนึ่งชั่วโมงนะที่ต้องรอเขา หล่อนคงหิวจนไส้แทบขาดแน่เลย คนยังไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่หลังเที่ยงเริ่มใจคอไม่ดี อาหารมื้อสุดท้ายก็เกือบบ่ายโมงกว่าเพราะหลังจากนั้นก็ปั่นงานให้เขาจนลืมวันเวลาไปเลย และเป็นเหตุให้หล่อนต้องมานั่งหิ้วท้องรอเขาทานข้าวเสร็จอยู่นี่ไง.. คราวนี้เธอต้องตายแน่ จอมขวัญเอ๋ย..ไส้ขาดแน่ ๆ“อ้าว!..ลงมาสิคุณ เร็ว ๆ เข้า ผมหิวแล้วนะ” เจ้าของร่างสูงทำหน้ายุ่ง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมุ่น คงแปลกใจขณะที่ปลดเข็มขัดนิรภัยออก และทำท่าจะเปิดประตูรถออกไป ก่อนจะหันมาเห็นหล่อนที่ยังนั่งบื้อ จมกับความคิดของตัวเองอยู่ ก็จะให้กล้าบอกออกไปได้ยังไงล่ะ ว่าหิวเหมือนกันล่ะค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าหล่อนพยา
“เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะ ลงไปนั่งเป็นเพื่อนท่านก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงอ่อนลงจากตอนแรกราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว มัฆวัฒน์มองหญิงสาวนิ่ง อยู่สองสามนาที เลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นคำถามเชิงบอกว่า ตกลงตามนี้ใช่ไหม จากนั้นเขาก็ยักไหล่เล็กน้อย แล้วเปิดประตูรถก้าวขายาว ๆ ออกไป เลขาสาวมือใหม่จึงจำเป็นต้องรีบคว้ากระเป๋าคู่ใจเข้ากับตัว แล้วรีบเปิดประตูรถวิ่งตามคนขายาว ที่สาวเท้าเดินเข้าไปในร้านไม่รอคนขาสั้นเลยแม้แต่น้อย ภายในร้านอาหารค่อนข้างแน่นหนาด้วยผู้คนที่มาทานอาหารรอบดึก หรือเขามากันนานแล้ว เพราะตามที่สายตามองเห็น บางโต๊ะอาหารพร่องไปบ้าง บางโต๊ะก็นั่งคุยกันหลังจากที่อิ่มหนำกันเรียบร้อย ส่วนหล่อนกับเขาเพิ่งจะเข้ามา อันที่จริงแล้วอาจจะเข้ามาเร็วกว่านี้ ถ้าไม่มัวถกเถียงกันอยู่ข้างนอกนู่น อาหารที่นี่คงอร่อยน่าดู โต๊ะทุกตัวถูกจองไว้เกือบหมด จอมขวัญเดินตามเขาต้อย ๆ รู้สึกตัวเล็กลีบลงไปถนัดใจ บรรยากาศในร้านค่อนข้างหรูหรา ราคาแพงเอาการอยู่ ดูจากการแต่งกายของแต่ละคนแล้ว คงเป็นพวกมีตังค์เขามากินกัน แม้บางคนจะใส่เสื้อลำลองก็ยังดูดีกว่าเสื้อผ้า
ตรงกันข้ามกับเจ้านายหล่อน ที่เอาก้มหน้าก้มตากินอาหารประดามีที่สั่งมา สมกับที่บ่นหิวตั้งแต่แรก และกินอย่างไม่กระดากอาย ที่ต้องมานั่งกินข้าวกับคนแปลกหน้าที่ไม่ค่อยแปลกตาอย่างหล่อน จอมขวัญไม่อยากมองการกินอย่างสบายใจของอีกฝ่ายเลยให้ตายเถอะ“ทำไมกินแต่สลัดล่ะ เดี๋ยวก็ผอมแย่ยิ่งดูไม่มีอะไรอยู่ด้วย” จอมขวัญเงยหน้าขวับ สบตากับคนตรงหน้ายกคิ้วเป็นคำถามคล้ายไม่พอใจอีกรอบ“อ่ะ..อ้าว ผมคงพูดอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้วสินะ หมายถึงว่าคุณควรจะกินอะไรที่มันเสริมพลังงานบ้างนะ อย่างเช่นพวกโปรตีน เอ่อ..คุณดูตัวเล็กเกินไปน่ะ” วันนี้เจ้านายหล่อนเป็นอะไรไป ดูเขาจะเกรงใจหล่อนอยู่เหมือนกัน หรือเขากลัวว่าหล่อนจะตอบปฏิเสธ'ที่เขาขอความรัก' เฮ้ย! ไม่ใช่ ๆ เรื่องที่เขาถามเกี่ยวกับงานก่อนหน้านี้เมื่อคิดมาถึงเรื่องนี้ หล่อนก็เลยแทบจะอิ่มขึ้นมาเลยทีเดียวทั้งที่ทีแรกกะว่าจะ กินของหวานตบท้ายเสียหน่อย ในเมื่อเขาสั่งมาเผื่อจะได้ไม่เสียน้ำใจ หลังจากที่คิดว่าต่างฝ่ายต่างอิ่มกันแล้ว เขาคงสังเกตเห็นหญิงสาววางช้อนส้อมลงกับจานอย่างเรียบร้อยถึงได้เริ่มเอ่ยประโยค ถัดมาอย่างเป็นทางการ
“ค่ะ อยู่ครบทั้งพ่อ แม่และพี่ชาย แต่ตอนนี้ พี่ดิฉันถูกส่งตัวไปดูงานที่ต่างประเทศอยู่ค่ะ” พูดถึงพี่ชายก็ให้คิดถึงขึ้นมาทันทีทันใดจะเป็นยังไงบ้างนะ พี่ต้นเป็นสุดที่รักของหล่อนและพ่อกับแม่ที่ท่านปลื้มนักปลื้มหนา ลูกชายคนเดียวทั้งเรียนก็เก่ง ทางด้านการบ้านการเรือนก็สุดยอด ทำอาหารก็อร่อยที่หนึ่ง ถ้าใครได้พี่ชายของหล่อนไปเป็นสามีมีหวังสบายไปร้อยชาติ ผิดกับหล่อนที่ไม่เอาไหนเลยสักอย่าง ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการบ้านการเรือน ทั้งเรื่องกีฬา แล้วก็อะไรอื่น ๆ อีกจิปาถะ ที่หล่อนทำไม่ได้เหมือนอย่างพี่ชาย เฮ้อ!“คงหนักใจมากสินะ” สงสัยหล่อนคงถอนหายใจเสียงดังเกินไป เลยส่งผลให้เจ้านายเข้าใจผิดอีกรอบ“อะ..เปล่าค่ะ ดิฉันเต็มใจค่ะ”“อ้อ.. โอเค ยังมีอีกเรื่อง..คุณมีแฟนหรือยัง ยังโสดอยู่หรือเปล่า ที่ถามนี่เพราะไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังน่ะ” ดูเหมือนว่าเขาเกรงใจหล่อนที่ถามคำถามนี้ออกมา ดูจากท่าทางที่ดูจริงจัง ร่างสูงสง่าขยับนั่งตัวตรงขึ้นมาทันที ซึ่งก่อนหน้านี้เขายังนั่งเอนตัวสบาย ๆ อยู่เลย จอมขวัญมองสบตาเจ้านายตรง ๆ เป็นครั้งแรก ขยั