Share

เส้นใหญ่

จอมขวัญสะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมความกล้า มือเล็กจับลูกบิดค่อย ๆ เปิดประตูบานใหญ่ แทรกตัวเข้าไป อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ปนตื่นกับสถานที่เล็กน้อย เมื่อมองเห็นร่างสูงคุ้นตาที่ตอนนี้นั่งหันหลังให้ และเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้การเข้ามาของเธอ เขาจึงค่อย ๆ หมุนเก้าอี้ตัวใหญ่มาเผชิญหน้ากับหล่อน จอมขวัญ สังเกตเห็นว่าเขากำลังก้มอ่านอะไรบางอย่างในมือ บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้อง คลับคล้าย คลับคลา ว่าน่าจะเป็นเอกสารสำคัญบางอย่าง และนั่นอาจจะเป็นแฟ้มประวัติส่วนตัวของหล่อนก็เป็นได้

“เข้ามาในห้องของคนอื่น ควรจะเคาะประตูก่อน แล้วค่อยขออนุญาตเข้ามา ยิ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วด้วย คุณยิ่งควรกระทำอย่างยิ่งเลยนะ คุณจอมขวัญ มงคลเกียรติ ไม่มีใครบอกคุณถึงมารยาทข้อนี้หรือ?” น้ำเสียงที่ฟังแล้วคล้ายต่อว่ากลาย ๆ และลงท้ายด้วยคำพูดเชิงประชดประชันเล็กน้อยนั่น ทำให้หล่อนถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไร ที่เขาพูดมาก็ถูก ไม่คิดหน้าคิดหลังเลย จอม เอ้ย จอม นี่ขนาดไม่ทันไรก็โดนซะแล้วจอมจุ้นเอ๊ย!

 มัฆวัฒน์ จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเจ้าของนามว่า จอมขวัญ จงใจเรียกเน้นชื่อและนามสกุลหล่อนให้ชัดเจน ราวกับท่องจนขึ้นใจมาแล้วหลายรอบ จอมขวัญยืนนิ่งอยู่กลางห้องราวกับถูกสาป ก้มหน้างุด ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน แม้กระทั่งหน้าก็ไม่กล้าที่จะมองไปยังเก้าอี้ที่มีชายร่างสูงนั่งอยู่ ด้วยจำนนต่อเหตุผลที่เขาว่า ก็เพราะอาการตื่นเต้นจนลืมทำตามมารยาทไปเลย แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไป จนกระทั่งอีกฝ่ายพูดขึ้นมาอีก

“นี่ผมไม่ได้รับคนใบ้เข้ามาทำงานหรอกใช่ไหม? และอีกอย่างเวลาพูด ผมไม่ชอบให้ใครหลบตา มันเหมือนไม่สนใจในคำพูดของผม” จากที่เอาแต่ก้มหน้างุด ก็เลยเชิดหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อได้ยินประโยคที่แทงใจคนฟังได้อย่างเจ็บแสบน่าดูนั่นทันที

 ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบขี้หน้าหล่อนเอามาก ๆ ทีเดียว ทำอะไรก็ดูผิดไปเสียหมด นี่เราไปทำอะไรให้เขาตอนไหนนะ จอมขวัญเม้มริมฝีปากแน่น จ้องอีกฝ่ายเขม็ง ก็เอาสิอยากให้มองก็มองแล้วไง ขณะที่ใบหน้าเครียดขรึมดวงตาคมกริบก็จ้องตอบกลับมาไม่ลดละเช่นกัน

“คุณจะยืนจ้องหน้าผม แล้วก็ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อยู่อย่างนี้น่ะหรือ?” อ้าว!..จะอะไรกันนักกันหนาคะเจ้านาย ทำไมต้องแขวะกันซ้ำ ๆ ด้วย เคืองแล้วนะ

“ก็..ท่านยังไม่ได้ อนุญาตให้ดิฉันนั่งเลยนี่คะ” เอาแล้วสิ! ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยยอมใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถ้าตัวเองไม่ผิด ดิฉันนางสาวจอมขวัญ ก็ไม่ยอมเหมือนกันค่ะ ปากไวเท่าความคิดจึงได้เผลอหลุดพูดประโยคที่ทำเอาบอสใหญ่ถึงกับนิ่งอย่างนึกขึ้นได้ แอบทึ่งนิด ๆ นี่หล่อนกล้าย้อนคำพูดของเขาซึ่งไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างเธอผู้นี้มาก่อน

“งั้น..ก็เชิญนั่ง” มัฆวัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ผายมือเป็นเชิงบอกให้หล่อนนั่งลงเก้าอี้ที่ว่างตรงหน้า

“ขอบคุณค่ะ” จอมขวัญก้าวเดินไปนั่งยังเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงกันข้ามกับเจ้านายใหญ่ รู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ ไม่หายกับคำพูดของตัวเองเมื่อสักครู่ แต่ก็แอบกริ่งเกรงอยู่ว่าจะโดนโต้กลับมาอย่างเจ็บ ๆ แสบ ๆ อีก แต่แปลกแฮะ รอบนี้ไม่ยักกะโดน รู้สึกแก้มยังร้อนวูบวาบไม่หาย เมื่ออีกฝ่ายยังคงมองมาที่หล่อนอย่างจงใจ สายตาคมดุเพ่งพินิจพิจารณา ประเมินค่าในตัวหล่อนไปในคราวเดียวกัน จอมขวัญขยับจัดระเบียบตัวเองเสียใหม่ ยืดอกนั่งตัวตรง รู้สึกขัดเขินกับแววตาคู่นั้นไม่หาย สายตาดูแคลนยังคงจับนิ่งอยู่ที่ตัวเธอ ไม่วางตา (ไม่ใช่มองแบบว่า เธอสวยซะจนละสายตาไปไม่ได้ แต่มองแบบนี้เขาเรียกว่ามองแบบจิก เสียมากกว่า) 

  จะมองอะไรนักหนานะ หรือว่า..เขานึกและเริ่มจำหล่อนได้ขึ้นจริง ๆ เลยจะทวงผ้าเช็ดหน้าคืน ทุกวันก็เอามาอยู่หรอก แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาเจอเจ้าของแบบจังๆ แล้วแถมเป็นคน คนเดียวกับที่เจอกันในลิฟต์นั่น พอวันนี้ไม่ได้พกมา ก็ดันจะมาทวงคืน เอาไว้วันหลังนะคะบอส.. จอมขวัญคิดอะไรไปต่าง ๆ นานา หากสายตาทิ้งอยู่แค่บริเวณคอเสื้อเชิ้ตภายใต้เสื้อสูทราคาแพงของเขาเท่านั้น หล่อนได้ยินเสียงถอนหายใจจากอีกฝ่าย แสดงถึงความอึดอัดใจ ร่างสูงเอนตัวไปพิงกับเก้าอี้บุหนังชั้นดีด้านหลัง มือใหญ่หมุนปากกาสีทองราคาแพงไปพลาง พร้อมกับเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า

“คุณมาสมัครงานที่นี่ได้ยังไง” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความกังขาในที

“คะ!อ้อ เพื่อนดิฉันค่ะเขาแนะนำให้มาสมัคร” จอมขวัญเอ่ยตอบตะกุกตะกัก เพราะยังงุนงงกับคำถามของผู้เป็นเจ้านาย แต่ดูเหมือนว่า คำตอบของหล่อนจะไม่กระจ่างสักเท่าไหร่ ดูจากท่าทางและแววตาของเขา ที่ยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด และยังไม่พอใจในคำตอบของหล่อนอยู่

“คุณรู้จักคนในบริษัทนี้หรือเปล่า หมายถึง ญาติสนิท เพื่อน หรือคนรู้จักที่นี่” จอมขวัญเงยหน้าขึ้นมองเขาตรง ๆ เป็นครั้งแรก เริ่มเข้าใจราง ๆ แล้วว่าบอสใหญ่หมายถึงอะไร นี่เจ้านายคิดว่าหล่อนใช้เส้นสายเข้ามาอย่างนั้นหรือ เขาจึงจำเป็นต้องรับหล่อนเข้ามาทำงาน ในบริษัทอันใหญ่โตนี่ ฮึ! เราคงเส้นใหญ่น่าดูสินะ ว่าแต่..อ้ายเส้นที่ว่ามันมาจากไหนล่ะ

“คุณจอมขวัญ ขอเรียกชื่อเลยก็แล้วกัน คุณไม่ต้องอายหรอก ตอบมาตรง ๆ เลยเถอะ รู้ไหมว่าผมเกลียดคนโกหกที่สุด เพราะมันเหมือนโดนหักหลังซึ่งถ้าเป็นคุณ คุณก็คงไม่ชอบเช่นกัน ใช่ไหม?”คิ้วเข้มที่ไม่ได้ตกแต่งให้ดูเรียวสวย ขมวดเข้าหากันมุ่น มือที่วางอยู่บนตักใต้โต๊ะทำงานตัวใหญ่ กำเข้าหากันแน่น กับคำว่า “เกลียด” มันเหมือนค้อนที่มาทุบลงมาที่หัว จอมขวัญรู้สึกเจ็บจนมึนกับคำพูดของเขา เหมือนจงใจให้หล่อนได้รู้ตัวและยอมสารภาพ ในสิ่งที่เขากล่าวหามาซะ ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ทำหน้าตาใสซื่อเข้าไว้ก่อนตอบออกไป

“ดิฉันไม่รู้จักใครในบริษัทนี้จริง ๆ ค่ะ และก็ไม่ทราบว่าเส้นสายมาจากไหน ดิฉันแน่ใจว่าได้ตอบท่านตามความเป็นจริงแล้วว่า เพื่อนแนะนำให้มาสมัครก็เท่านั้น ถึงแม้ท่านจะเค้นเอาคำตอบอีก ดิฉันก็ยังคงยืนยันคำตอบเดิมค่ะ และดิฉันเองก็เกลียดการโกหกเหมือนกับท่านนั่นล่ะค่ะ ถ้าหากว่าท่านยังคลางแคลงใจในตัวดิฉันอยู่ ก็ยินดีลาออก และก็ขอขอบคุณมากนะคะที่ท่านอุตส่าห์ ให้โอกาสดิฉันได้เข้ามาทำงาน เป็นประสบการณ์ที่ดีมากเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะมาได้แค่อาทิตย์เดียวก็ตาม” จอมขวัญตัดสินใจพูดออกไป..ดีกว่าปล่อยให้เขามาดูถูกดูแคลนอยู่ได้ สู้ชิงพูดออกไปอย่างที่ใจคิดดีกว่า ยังไงเสียเขาก็คงไม่ให้ทำงานต่อไปอีกหลังจากที่ได้ยินประโยคที่หล่อนพูดออกมาเมื่อสักครู่ เขาก็ช่างกระไร จะมามัวพูดพร่ำทำเพลงอยู่ทำไมจะไล่ก็ไล่เลยสิ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status