เฮ้อ! เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนปนเซ็ง นิด ๆ ของนางสาวจอมขวัญ มงคลเกียรติ ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล (แฮะ..เว่อร์ไปหน่อย) ที่ตอนนี้ต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดเมืองนอนออกมาเผชิญโลกภายนอก ตั้งแต่จบมัธยมต้นเข้ามาร่ำเรียนในเมืองหลวง... จนบัดนี้จบปริญญาตรีไปหมาด ๆ เป็นที่สมพระทัย เอ๊ย! สมใจคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหมือนพี่ชายก็ตามทีเถอะ
เอาล่ะ เข้าเรื่องดีกว่า จะไม่ให้ถอนหายใจได้อย่างไรเล่า ในเมื่อวันนี้หล่อนจะได้สัมภาษณ์งานเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังน้อยเสียเมื่อไหร่ กับธุรกิจด้านโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง ได้ยินมาว่าบริษัทนี้ไม่ค่อยรับเด็กจบใหม่เสียด้วยสิ สามวันก่อนหล่อนได้ไปสมัครงานทิ้งไว้ ตามคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทที่สุดตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน เพื่อนที่แตกต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ล้อมดาว ลูกสาวคนเดียวของตระกูล ก้องกังวาลไกล ซึ่งแค่ได้ยินแค่นามสกุลใคร ๆ ก็รู้ว่า เป็นไฮโซระดับต้น ๆ ของเมืองไทย
โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านโรงแรมที่มีมากกว่าสองสาขา และที่กำลังจะขยายออกไปยังต่างจังหวัดอีกก็หลายแห่ง จะด้วยวาสนา หรือโชคชะตาที่นำพาล้อมดาวลูกสาวไฮโซเข้ามาเรียนที่เดียวกับหล่อนและได้รู้จักเพราะลำดับเลขที่ติดกัน เวลามีกิจกรรมก็ไปด้วยกันตั้งแต่เริ่มเรียน ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันจนเกิดความสนิทสนมกลมเกลียว กระทั่งคนที่บ้านทั้งบิดามารดา รวมทั้งบรรดาคนรับใช้ที่มีเกือบ สามสิบคน ของเพื่อนไฮโซ ต่างก็รู้ว่าหล่อนเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของคุณหนูล้อมดาว สามารถเข้านอก ออกใน บ้านเพื่อนได้อย่างสบายใจ และมีบางครั้งหล่อนสามารถไปนอนค้างกับล้อมดาวได้โดยที่ทางบ้านเขาไม่รังเกียจคนโลโซอย่างหล่อน อาจจะเพราะครอบครัวของล้อมดาวเป็นคนไม่ถือตัว หรือเพราะหล่อนใฝ่สูง อยากคบคนรวย (กันแน่นะ) แต่ก็เคยถามนะว่า 'เธอมาคบเราได้ไงนะล้อม' ก็ได้คำตอบว่า' ก็จอมเป็นคนร่าเริง แจ่มใส เข้ากับคนอื่นก็ง่าย เวลาอยู่ใกล้ ๆ จอมจุ้น แล้วสบายใจ'จอมจุ้น!ใช่สินะ เพื่อน ๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ชอบเรียกหล่อนว่าจอมจุ้น รวมทั้งยายล้อมเพื่อนรักเพื่อนเลิฟของหล่อน ง่ะ! นึกมาถึงตรงนี้ทีไรก็อดหมั่นไส้นิด ๆ ให้เพื่อนรักไม่ได้ อ้ายเราก็นึกว่า จะลงท้ายด้วย ' แล้วแถมยังน่ารักอีกต่างหาก' น่ะสิ.. เพื่อนสาวไฮโซแนะนำให้ไปสมัครที่บริษัทบิดาตัวเอง เป็นที่รู้กันว่ากิจการของครอบครัวเพื่อน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมใหญ่ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพื่อนมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้ว..ลองไปสมัครดู ย้ำ!ให้ลองไปสมัครดู ไม่ได้บอกว่าจะฝากให้ซะหน่อย แล้วหลังจากนั้นเพื่อนเลิฟ ก็บินไปเมืองนอก ไปเรียนต่ออย่างที่คนมีตังค์เขาทำกัน ส่วนหล่อนน่ะหรือก็ต้องหางานทำ ประสาคนโลโซตามระเบียบ
จอมขวัญไปสมัครงานตามที่เพื่อนรักบอกไว้ แต่ทว่าทางบริษัทของบิดาเพื่อน ให้หล่อนมาสมัครที่ เอ็ม ไอ พี นัยว่าเป็นเครือเดียวกัน และวันนี้ก็เป็นวันที่จะได้ไปสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ที่ถอนหายใจก็เพราะเหตุนี้แหละ คนที่นี่คงจำหล่อนได้ทั้งบริษัทแล้วกระมัง โดยเฉพาะแผนกบุคคล ก็วันนั้นกับวันนี้ของหล่อนไม่ได้แตกต่างกันเลยกับชุดกลางเก่ากลางใหม่ที่หล่อน ได้มาจากแม่สุดเลิฟ สมัยก่อนแม่ยังรับราชการในกระทรวงกระทรวงหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ท่านได้ย้ายตามพ่อไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอน ที่เมืองเหนือโน่น แต่ยังพอมีชุดทิ้งไว้ให้หล่อนสามารถใช้งานได้บ้าง จอมขวัญนึกขอบคุณแม่อยู่ในใจ ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะชุดของท่านก็ได้นะที่ทำให้หล่อนได้ถูกเรียกตัวไปสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ในวันนี้
หญิงสาวเดินไปส่องกระจกบานยาวที่วางพิงอยู่กับผนังห้องนอน พลางมองดูตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่า ได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้วจริง ๆ ก็พบเงาที่สะท้อนกลับมาเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวสีขาวละเอียด ผมสีน้ำตาลอ่อน เหยียดตรงที่ตอนนี้ถูกรวบขึ้นสูงไว้กลางศีรษะกลมมน เพื่อสะดวกในการเดินทางและโดยส่วนตัว หล่อนไม่ชอบปล่อยผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะรู้สึกรำคาญเวลาที่ผมโดนลมพัดจนพันกันยุ่ง ดวงตากลมโตสุกใสที่ต้องใส่คอนแท็คเลนส์ เนื่องจากเป็นคนสายตาสั้น ประมาณ สองร้อยซึ่งส่วนใหญ่แล้วหล่อนชอบใส่แว่นมากกว่า แต่วันนี้ต้องพับเก็บเข้ากล่องไว้ก่อนเพราะถ้าขืนใส่แล้วคงดูแก่เกินไปเมื่อต้องใส่กับชุดนี้
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้สวยเลิศเลอชนิดที่ใครเห็นในแวบแรกต้องปิ๊ง แต่ก็แค่พอไปวัดไปวาได้ล่ะน่า พลางนึกในใจว่าถ้าได้งานนี้คงต้องมีการเพิ่มรายจ่ายอย่างใหญ่โตมโหฬาร และถึงขั้นต้องทุบกระปุกกันเลยทีเดียวแถมอาจจะต้องรบกวนแม่อีกครั้งก็เป็นได้ ก็ไหนจะเสื้อผ้า กระเป๋า แล้วก็รองเท้าอีกล่ะ และที่สำคัญอีกอย่าง เครื่องแต่งหน้า ก็น่าจะเป็นส่วนสำคัญด้วยสินะ อ๊ะ!ไม่สิ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยต่างหากล่ะ ทุกวันนี้คนหน้าตาดีเขามีงานมีการทำก่อนเกือบทั้งสิ้น ขี้เหร่ค่อยว่ากันทีหลัง หรือไม่ก็ ไปหาที่อื่นเถอะ ที่นี่คัดหน้าตาจ่ะน้องอะไรเทือกนี้
จอมขวัญมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง เพื่อเช็คความมั่นใจอีกรอบ ดวงหน้าเกลี้ยงเกลา นัยน์ตาและคิ้วที่รับกัน ถึงแม้คิ้วจะค่อนข้างใหญ่ไปหน่อย เพื่อน ๆ ยังเคยล้อว่า 'ยังกะชินจังในการ์ตูนญี่ปุ่นแน่ะ' หากหล่อนก็พอใจเพราะไม่ชอบที่จะไปทำให้มันเรียวโค้ง เหมือนคนอื่น ว่ากันง่าย ๆ ก็ คือสวยธรรมชาตินั่นล่ะดีที่สุดแล้ว และแม้กระทั่งสีสันบนใบหน้าก็สุดแสนจะธรรมดา ก่อนหน้านี้ก็อุตส่าห์ทาแป้งพับที่ผสมแป้งฝุ่นแบบเด็กแล้ว และลงท้ายด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อน พอให้มีสีสันบ้าง ก่อนจะหย่อนมันลงกระเป๋า พกติดตัวไว้เพื่อจำเป็น จอมขวัญยิ้มให้ตัวเองในกระจกเสียหนึ่งที แค่นี้ก็ โอเค! (แล้วมั้ง) ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายคู่ใจมาคล้องไหล่ พร้อมออกเดินทางแล้ว..
ในที่สุดก็มาถึงเป็นครั้งที่สองจนได้ เจอกันอีกแล้วนะ ตึกเอ็ม ไอ พีที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเป็นที่ ที่ให้หล่อนได้พึ่งพาในอนาคต ฝากตัวด้วยนะคะ จอมขวัญกอดเอกสารที่มีซองจดหมายของบริษัท เอ็ม ไอ พี คอร์เปอร์เรชั่น รวมอยู่กับเอกสารส่วนตัวบางอย่าง เผื่อว่าอาจจะจำเป็นต้องใช้อย่างให้กำลังใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ผลด้วยซ้ำว่า จะผ่านข้อเขียนและสัมภาษณ์หรือเปล่า สังหรณ์ในใจลึก ๆ และแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า หล่อนจะต้องได้มาเป็นส่วนหนึ่งใน เอ็ม ไอ พี แห่งนี้แน่นอนตึกสูงใหญ่ตั้งตระหง่านท่ามกลางย่านธุรกิจอันคับคั่ง ที่นี่คงเป็นสำนักงานใหญ่ ถึงได้ดูโอ่อ่านัก จอมขวัญก้าวเท้าเดินต่อเข้าไปในตัวตึกไม่รีบร้อน หลังจากที่หยุดยืนแหงนหน้ามองดูตึกสูงระฟ้าจนคอตั้งบ่า อดใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ไม่ได้เลย แม้ว่าจะเป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้เยือนมาที่นี่ อาณาจักรของ เอ็ม ไอ พี คอร์เปอร์เรชั่น บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเอาการอยู่ ขนาดเพื่อนบางคนที่รู้จักกัน เมื่อรู้ข่าวว่าหล่อนได้มาที่นี่เป็นครั้งที่สองก็ยังพากันแปลกใจ และอดตื่นเต้นด้วยไม่ได้แต่ก็น่าแปลกใจ อยู่สักเล็กน้อยเหมือนกันแหล่ะ ว่าเขาเรี
จอมขวัญสะลัดความคลางแคลงใจออกไป หันมาก้มสำรวจตัวเองจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่เข้าทางเสียใหม่ และก่อนที่จะเอื้อมมือไปกดปิดลิฟต์ พลันรู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูก วิ่งลงมาสู่ริมฝีปากบางด้านบน รู้สึกเค็ม ปะแล่ม ๆ เมื่อลองแลบลิ้นเลียแค่แตะๆ ที่ปลายลิ้น เอาแล้วสิ! อ้ายเจ้าอาการเลือดกำเดาไหลไม่รู้สาเหตุ กลับมาเล่นงานเธออีกครั้ง หลังจากที่มันหายไปนานแล้วตั้งแต่เด็ก หรือจะเป็นเพราะเข้าใกล้ผู้ชายหล่อคนนั้นเข้า แถมยังเข้ามาแนบชิด สนิทเนื้อ จนทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาแบบนี้ โดยลืมนึกไปว่าจมูกตัวเองกระแทกกับอกแข็ง ๆ ของเขาไปจังเบ้อเริ่ม! แต่...เอ๊ะ! เมื่อครู่นี้ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อราคาแพงส่งมาให้ ก็เพราะเขาเห็นเลือดที่มันไหลออกมาจากจมูกของเธอนะสิ โอ๊ย! คิดแล้วน่าอายนัก อยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ก็ยังโชคดีที่ตอนนั้นไม่มีใครมาเห็นเข้า ไม่อย่างนั้นวันนี้คงเป็นวันอัปยศอดสูที่สุดในชีวิตของหล่อนทีเดียวเชียว จอมขวัญหันซ้ายแลขวา ทำท่าเลิ่กลั่กก่อนจะวิ่งรี่ไปเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองให้ดูเรียบร้อยอีกครั้ง เหมือนขามา และกลับเข้ามาอยู่ในลิฟต์อีกรอบ &n
อ้าว!? อาการอึ้งปนงงในครั้งแรกกำลังเวียนกลับคำรบสอง พอเข้าใจอยู่หรอกนะกับอ้ายสาขาที่หล่อนจบมามันไม่ตรงกับงานที่นี่แน่นอน ก็หล่อนจบมาทางด้านอักษรศาสตร์ ไม่เกี่ยวกับการโรงแรมเลยสักกระผีกเดียว“อย่าเพิ่งสงสัยอะไร และอย่าเพิ่งถามนะคะ คืออย่างนี้ค่ะ เบื้องบนสั่งลงมาว่าให้รับน้องเข้าทำงานได้เลย แล้วให้ทางพี่จัดหาตำแหน่งงานให้น้องตามแต่พิจารณา ซึ่งพี่ก็ได้จัดตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมาให้หมาด ๆ เมื่อสองสามวันมานี้เอง หลังจากได้รับคำสั่ง ซึ่งนั่นก็คือ ..เป็นพนักงานฝึกหัดทั่วไปก่อน ก็คอยช่วยงานภายในและภายนอกออฟฟิศ ทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย พอทำได้ไหมคะ สงสัยอะไรถามได้เลยนะถ้าตอบได้พี่ก็จะตอบ อ้อ! อีกอย่างนะ น้องอาจจะต้องได้สัมภาษณ์ กับบอสใหญ่ คุณมัฆวัฒน์ ก้องกังวาลไกลอีกรอบ ซึ่งท่านเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ พอดีว่าช่วงนี้ท่านต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศเสียก่อน ไม่อย่างนั้นแล้ว คงเข้าใจอะไรมากกว่านี้ เอาล่ะ ว่าไงจ๊ะ ตกลงว่ายังไง O.K หรือ NO.K ..” คุณปาริฉัตรอธิบายเสียยืดยาวอยู่ฝ่ายเดียว ถึงคราวที่หล่อนจะต้องตอบแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความแปลกใจ สมองของเธอมีแต่เครื่องหมายค
ณ ห้องประชุม เช้าวันจันทร์ทางบริษัทได้มีการจัดประชุมใหญ่คณะกรรมการผู้จัดการและบุคคลที่เกี่ยวข้องของเหล่าผู้บริหารระดับสูง และหน้าที่ ที่จะต้องเตรียมห้องประชุมและจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ก็ต้องตกเป็นของพนักงานฝึกงานทั่วไป นั่นก็หมายถึงหล่อนโดยไม่ต้องสงสัย ตำแหน่งนี้มีแค่หล่อนแต่เพียงคนเดียว แล้วแถมวันนี้หน้าที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่มในช่วงพักเบรก ก็เลยกลายเป็นของหล่อนโดยปริยาย เมื่อพี่นิด แม่บ้านประจำเกิดท้องเสียกะทันหันวันเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน นับจากวันที่หล่อนเริ่มมาทำงานจนกระทั่งถึงวันนี้ ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วสินะ หากยังไม่เคยเจอกับบอส กรรมการผู้จัดการใหญ่ของที่นี่เลย บุคคลที่เกี่ยวข้องในการประชุม ได้ทยอยมาจนเกือบครบแล้ว ขาดก็แต่คุณมัฆวัฒน์ และก็เป็นวันที่จอมขวัญรอคอยที่จะได้พบอยู่เช่นกัน เพื่อที่จะได้สัมภาษณ์กับท่านอีกครั้งตามที่พี่ปาบอกไว้ก่อนหน้านี้ ใจมันยังคอยเต้นตุ้บ ๆ ต่อม ๆ ไม่หาย หากเจอหน้าบอสใหญ่เธอจะทำตัวอย่างไร ไม่นานนักคนที่หล่อนอยากจะพบตัวจริงก็เดินผ่านประตูเข้ามา ส่งผลให้ทั้งห้องเงียบกริบไปในทันที“คุณมัฆวัฒน์ มาแล้ว&rdqu
จอมขวัญสะดุ้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมความกล้า มือเล็กจับลูกบิดค่อย ๆ เปิดประตูบานใหญ่ แทรกตัวเข้าไป อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ปนตื่นกับสถานที่เล็กน้อย เมื่อมองเห็นร่างสูงคุ้นตาที่ตอนนี้นั่งหันหลังให้ และเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้การเข้ามาของเธอ เขาจึงค่อย ๆ หมุนเก้าอี้ตัวใหญ่มาเผชิญหน้ากับหล่อน จอมขวัญ สังเกตเห็นว่าเขากำลังก้มอ่านอะไรบางอย่างในมือ บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้อง คลับคล้าย คลับคลา ว่าน่าจะเป็นเอกสารสำคัญบางอย่าง และนั่นอาจจะเป็นแฟ้มประวัติส่วนตัวของหล่อนก็เป็นได้“เข้ามาในห้องของคนอื่น ควรจะเคาะประตูก่อน แล้วค่อยขออนุญาตเข้ามา ยิ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วด้วย คุณยิ่งควรกระทำอย่างยิ่งเลยนะ คุณจอมขวัญ มงคลเกียรติ ไม่มีใครบอกคุณถึงมารยาทข้อนี้หรือ?” น้ำเสียงที่ฟังแล้วคล้ายต่อว่ากลาย ๆ และลงท้ายด้วยคำพูดเชิงประชดประชันเล็กน้อยนั่น ทำให้หล่อนถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไร ที่เขาพูดมาก็ถูก ไม่คิดหน้าคิดหลังเลย จอม เอ้ย จอม นี่ขนาดไม่ทันไรก็โดนซะแล้วจอมจุ้นเอ๊ย!มัฆวัฒน์ จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเจ้าของนามว่า จอมขวัญ จงใจเรียกเน้นชื่อและนามสกุลหล่อนให้ชัดเจน
มัฆวัฒน์อึ้งไปชั่วขณะ กับคำพูดยอกย้อนของหญิงสาวตรงหน้าที่กล้าพูดกับเขาได้อย่างฉะฉาน กล้าต่อปากต่อคำ ต่างจากตอนแรกที่ดูหงอ ๆ นั่นลิบลับ เจ้าของร่างสูงโยกตัว กลับมานั่งในท่าตรงอีกครั้ง มือเรียวใหญ่ยังคงหมุนปากกาสีทองไปพร้อมกับเอ่ยกับอีกฝ่ายเสียงอ่อนลงต่างจากตอนแรกเล็กน้อย“ผมก็แค่ข้องใจนิดหน่อย ถึงอย่างไรผมก็ไม่สามารถให้คุณออกได้ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม คุณจะยอมรับ ..หรือไม่ยอมรับ ผมก็ไม่สามารถบังคับคุณหรอกนะครับ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จบไปก็แล้วกัน” จอมขวัญนิ่งฟังพร้อมกับเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นอีกรอบ พยายามสะกดกลั้นรู้สึกขุ่นเคืองและเจ็บใจกับคำพูดแดกดันของท่านประธานใหญ่ไม่หาย ข่มใจให้สงบเข้าไว้ เจ้านายเหลือบมองเอกสารของหล่อน และหยิบมันขึ้นมาเปิด ๆ ดู ซึ่งมองแล้วเหมือนไม่ได้ตั้งใจดูสักเท่าไหร่หรอก“จากแฟ้มของคุณ ประวัติทางการศึกษาน่าจะไปเป็นอาจารย์สอนภาษาไทยให้กับเด็กมากกว่า ที่จะมาทำงานเกี่ยวกับโรงแรมอย่างนี้ มันดูขัดกันนะ ผมก็เลยสงสัยว่าคุณอาจจะรู้จักใครในนี้ แต่ถ้าคุณบอกว่า ไม่.. ก็คือ ไม่.. ก็โอเค ผมจะได้เริ่มคำถามต่อไป&rdq
“เอาล่ะ..นายจ้างอย่างผม คงต้องปรับปรุงตัวเสียใหม่สักหน่อย แต่ก็คงไม่ใจกว้างมากนักหรอกนะ..คุณจอมขวัญเพื่อให้คุณได้เรียนรู้การทำงานครั้งแรกในชีวิต ผมก็จะให้โอกาสคุณ เอาเป็นว่าผมให้คุณเรียนรู้งานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นถ้าคุณยังต้องเรียนรู้งานอยู่อีก ผมก็คงต้องเชิญคุณไปเรียนรู้งานกับนายจ้างรายอื่นแทน และเป็นอันตกลงว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ ผมจะให้คุณได้หาประสบการณ์จากเลขาของผม.. คุณศักดิ์ดาเชิญข้างในหน่อยครับ” เจ้านายเน้นเสียงเรียกชื่อหล่อนในรอบวันอย่างจงใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่จอมขวัญก็ชักจะจำไม่ได้แล้ว ในดวงตายังคงมีแววเชือดเฉือนปะปนกับคำพูดอยู่ดี อะ..อะไรนะ เดี่ยวก่อน..นี่หล่อนยังไม่โดนไล่ออกหรอกหรือนี่ แถมจะได้เรียนรู้งานจากเลขาของเขาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะพิจารณาว่าผ่านหรือไม่ผ่านเพื่อเป็นผู้ช่วยเลขาของเขาอย่างนั้นหรือ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม พลันได้ยินเจ้านายหนุ่มกดอินเตอร์คอม เรียกคุณศักดิ์ดาเข้ามาพบและแนะนำหล่อนให้รู้จัก พร้อมกับมอบหมายให้สอนงานหล่อนทุกอย่างภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ ถ้าหากว่าผ่านโปรฯแล้ว เธอต้องติดตามบอสไปที่หัวหิน
กลุ่มหนุ่มสาวสนุกสนานกันสุดเหวี่ยง พลันสายตาของจอมขวัญก็ดันไปปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าของคนคนหนึ่งเข้า เขาดูโดดเด่นที่สุดในงาน อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่กระเดียดไปทางต่างชาติมากกว่า ส่งให้เขาดูสะดุดตากว่าคนอื่นในงาน สาวน้อย สาวใหญ่ต่างมองตามกันจนตาเป็นมัน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของหล่อนที่จ้องมองตั้งแต่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในงานแล้ว เพื่อนคนหนึ่งหันไปสะกิดเจ้าของงานว่าหนุ่มหล่อคนนั้นคือใคร จึงได้คำตอบว่าเป็นลูกชายของลุงเธอ ที่เพิ่งอิมพอร์ทจากเมืองนอกและจะเข้ามาบริหารงานต่อจากบิดา ซึ่งเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ตอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมายนัก จะสนก็แต่ความหล่ออย่างสมบูรณ์แบบของเขาเท่านั้น บุคคลที่ตกอยู่ในบทสนทนาในคราแรก ก็โดนลากตัวมาโดยเจ้าของงานวันเกิด ล้อมดาวแนะนำผู้ชายตัวสูง คนนั้นให้กับเพื่อน ๆ ได้รู้จัก เขาคนนั้นพยักหน้ายิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับทุกคนไม่เน้นที่ใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มเพื่อนสาววัยรุ่นต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ และจำได้ว่าหล่อนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย จะด้วยฤทธิ์ของน้ำอัดลม หรือเพราะฤทธิ์กามเทพที่แผลงศรปักอกเข้าอย่างจัง! พอเจ้าของร่า