"พรุ่งนี้สิบโมง ห้ามสาย"
"จิ๊ ไปไหนอีก" "ลองแหวน" "น่ารำคาญ" "นี่..." "พูดดีดี" "ดี... ดี" "อื้อออ" กึก! "โอ้ย ยัยหมูอ้วน เธอกัดปากฉันเหรอ" ทันทีที่เธอได้ยินคำสั่งผมก็ชักสีหน้าหยิ่งๆ แสดงอาการไม่พอใจออกมา แถมยังลอยหน้าลอยตาต่อปากต่อคำเก่งสุดสุด ทำผมอดหมันไส้ไม่ได้จึงเอื้อมมือไปดึงแขนเล็กที่กำลังจะก้าวลงจากรถให้หันกลับมาอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งของผม ผมใช้มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว เธอจะได้ไม่ใช้มันมาทำร้ายผม ส่วนมืออีกข้างก็ทำหน้าที่ล๊อคลำคอขาวไม่ให้เลื่อนหนี ก่อนจะกดริมฝีปากหนาลงไปที่ริมฝีปากแดงด้วยอารมณ์รุนแรง ทุกครั้งที่เห็นปากเล็กเล็กเถียงฉอดฉอดใส่ผม ทำผมอยากจะสั่งสอนด้วยปากให้เข็ดสักหน่อย ก่อนจะโดนปากแดงแดงฟันขาวขาวนั่นกัดเข้าที่ปาก แล้วสะบัดก้นลงจากรถผมด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้ววิ่งขึ้นห้องเธอทันที "ไอ้บ้านี่ ชอบจูบนักนะ" ฉันกำลังใช้มือเล็กเล็กถูที่ปากอย่างแรงอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ราวกับจะเช็ดรอยจูบของนายนั่นให้หมด และใช้น้ำยาบ้วนปากอีกเกือบสิบรอบ สงสัยวันหยุดนี้ต้องชวนยัยมินกันยัยลลิลไปเดินสายไหว้พระทำบุญสะเดาะเคราะห์สักหน่อยแล้ว ว่าแล้วคืนนี้ต้องเสิร์ชข้อมูลทำการบ้านหน่อยดีกว่าวัดไหนดีวัดไหนดังวัดไหนห้ามพลาดจะได้ให้เพื่อนๆ ที่น่ารักของฉันพาไปให้ครบ วันนี้เหนื่อยชะมัดเลย ขอนอนแช่น้ำอุ่นสักหน่อยแล้วกัน "เข้ามาได้ยังไง" "เดินเข้ามา" "ไปอาบน้ำ แล้วมากินโจ๊ก ฉันซื้อมาเผื่อ" "มีติ่มซำด้วย" "ช้า ฉันกินหมด" "แล้วทำไมไม่กินไปคนเดียวเลยละ จะมาทำไม" "รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักทีได้ป่ะ โชว์อยู่นั่นแหละ" "หรืออยากให้ฉันดู หึ" "ไอ้หมาบ้านี่" ผมตื่นขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ลูกชายที่น่ารักขับรถไปส่งพ่อกับแม่ที่สนามบินแต่เช้าตรู่ ระหว่างที่กำลังขับรถกลับก็แวะร้านติ่มซำเจ้าดังเพื่อซื้อกลับมากิน อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากทำหน้าที่ว่าที่คู่หมั้นเลยซื้อมาเผื่อเธอ กลัวยัยลูกหมูจะผอมแล้วไม่มีแรงเถียงกับผม หมดสนุกกันพอดี ไหนๆ ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้วไม่ได้ลำบากอะไรเท่าไหร่ ก่อนจะขับรถตรงไปที่คอนโดของเธอทันที เพราะคุณอาทั้งสองฝากให้ผมช่วยดูแลเธอระหว่างที่ท่านอยู่ต่างประเทศจึงไว้ใจให้รหัสห้องเธอไว้ ผมจึงสามารถเข้ามานั่งรอได้อย่างสบายอกสบายใจเปิดแอร์เย็นเฉียบ ถือวิสาสะเดินดูโน่นดูนี่ หาถ้วยชามมาใส่อาหารสำหรับเธอกับผม นั่งเกมส์รอที่โซฟาอย่างใจเย็น จนเธอตื่นและเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดนอนสายเดี่ยวผ้าบางสุดวาบหวิวโชว์หุ่นหมูผิวสีชมพู ทำสายตาคมๆ ของผมมันซุกซนมองอะไรต่อมิอะไรจนต้องแอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเลิกคิ้วถามเธออย่างยียวนจนเธอต้องรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องทันที "หึ" พอจอดรถเรียบร้อย ผมก็พาเธอเดินเข้ามาในร้านจิวเวอร์รี่แบรนด์ดังในห้างหรู เราใช้เวลาเลือกแบบกันอยู่สักพักก่อนจะลองไซต์และสั่งทำวงใหม่ แต่ที่ผมแปลกใจคือ จากที่คิดว่าคุณหนูอย่างเธอจะอยากได้แหวนเพชรเม็ดใหญ่หลายกะรัต แต่เธอกลับเลือกเป็นแหวนทองคำขาวมีเพชรน้ำดีเม็ดเล็กๆ อยู่ตรงกลางซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่ผมชอบและเลือกสำหรับของผม ดูเป็นเหมือนแหวนคู่กันทันที จนพนักงานยิ้มเบาเบาแซวเราสองคน "เธออยากไปไหนต่อรึเปล่า" "ผีเข้าหรอ" "อืม งั้นกลับ" "ไม่ นายต้องพาฉันไปกินชาบูหม่าล่า ตรงบรรทัดทองก่อน" "แล้วก็สลัชชี่ชาไทยแถวๆ นั้นด้วย" "ไม่น่าเลยกู" ผมได้แต่บ่นกับตัวเองเบาเบาไม่น่าเผลอทำตัวใจดีเลย สร้างงานสร้างอาชีพที่สุดก็ผมนี่แหละ ก่อนจะขับรถพาเธอไป วนหาที่จอดรถอยู่นานจนท้องเริ่มหิวทำให้ผมกับยัยลูกหมูตกลงสงบศึกกันสองชั่วโมงขอพักเติมพลังก่อนค่อยสู้รบกันใหม่ โดยพวกเราเลือกเข้าไปนั่งห้องวีไอพีเพราะกลัวจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักบังเอิญมาร้านเดียวกันแล้วเห็นเราสองคน "นาย กินไส้เป็ดสิ อร่อย" "มือว่างมั้ยเธอดู ลวกกุ้งให้เธออยู่เนี่ย" "อะ อะ ฉันใจดี ฉันป้อน" "อืมอร่อย" "ต๊อกบ๊อกกี่อร่อยมาก หนึบสุดๆ อ้าปากสิ" "เอาปลาหมึกด้วย" "อันนี้ด้วยลูกชิ้นกุ้ง กุ้งเด้งมาก" "อิ่มจังเลย" กินไปกินมา หลังๆ ผมเริ่มสังเกตว่ายัยลูกหมูทำตัวใจดีแปลกแปลกคอยคีบอันนั้นคีบอันนี้ป้อนใส่ปากผมอย่างเอาอกเอาใจไม่หยุด ที่ไหนได้เพราะเธอกินไม่ไหวแล้วต่างหาก เล่นสั่งทุกอย่างที่ร้านมีมาอย่างละสอง ถือว่ายังดีที่ไม่สั่งหมั่นโถวมาด้วย ไม่อย่างงั้นผมต้องตายแน่ๆ หลังจากที่ผมพาเธอกินจนครบทุกร้าน ก็พาเธอไปเดินย่อยเลือกซื้อของใช้และอาหารสดในซุปเปอร์มาร์เกต เพราะเธอนั่งบ่นว่าของหมดทุกอย่างไม่มีอะไรกินเย็นนี้ จนผมรู้สึกอดสงสารลูกหมูตัวกลมกลมไม่ได้ คอยเดินเข็นรถเข็นตามเธอและแอบเลือกของสดที่จะเป็นเมนูที่ผมจะใจดีอยู่ทำให้เธอกินเย็นนี้สักมื้อ"ลูกหมู" "อะไร" "มาช่วยเด็ดใบกะเพราหน่อย" "ฉันยุ่งอยู่" "ทำอะไร ยุ่ง" "นับ 1 ถึง 10"ผมถึงกับต้องส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายทันทีที่เธอบอกว่ายุ่ง ทั้งๆ ที่ผมเห็นนอนคว่ำอยู่บนโซฟาดูซีรีย์ในไอแพดนอนตีขาหมูไปมาอย่างสบายใจ กางเกงก็สั้นยังจะยกขาสูงจนเกือบจะเห็นแก้มก้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่ายืนหั่นพริกอยู่ ผมจะเดินไปฟาดสักที ไม่ระวังตัวบ้างเลย ไหนจะเสื้อกล้ามคอเว้าลึกจนเห็นก้อนไขมันกลมๆ สองก้อนอีก ทำผมเสียสมาธิในการทำกับข้าวจนต้องยืนหันหลังแล้วตะโกนคุยกับเธอแทน"นาย ฉันอยากกินน้ำเลม่อน" "มาช่วยเด็ดใบกะเพรา แล้วจะทำให้""ปลอกกระเทียมด้วย""สรุปมาทำให้ฉันกิน หรือมาใช้ฉัน""เออๆ ทำเองก็ได้วะ" ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องครัวก็แปลงร่างเป็นลูกหมูตัวยุ่ง หยิบโน่นหยิบนี่มาคอยแกล้งผมอย่างก้านใบกะเพรานี่ คงคิดว่าเป็นไม้วิเศษของแม่มดมั้ง เอามาจิ้มๆ อยู่ที่แขนผมบ้าง แก้มสากผมบ้าง ชี้ออกคำสั่งกับผมอีก จนผมมองตาขวางด้วยความหงุดหงิด ก็หัวเราะคิกคักชอบใจเหมือนเด็กกำลังเล่นของเล่น แถมยังยืนพูดเสียงแจ๋วแจ๋ว จนบางทีผมก็คิดว่ายัยนี่ยืนคุยกับแม่ซื้ออยู่ พอผมหางานให้เธอทำเพิ่มก็งอแงไม่ยอมทำ ผมจึงตัดปัญหาเอามาทำ
"แต๊งกิ้วนะจ๊ะลลิลเพื่อนเลิฟ""อุตส่าห์ขับรถวนมาส่งฉัน" "สบายมากแก ฉันไปก่อนนะ" "บ๊ายบาย ขับรถดีดีแก"ฉันเดินฮัมเพลงเข้ามาคอนโดด้วยความสบายใจ หวังว่าหลังจากนี้ตัวฉันจะหมดเคราะห์หมดโศกหรือถ้ายังไม่หมดก็ขอให้เบาลงก็ยังดี ชีวิตหนูมายจะได้กลับไปสงบสุขเหมือนเดิม แต่จะว่าไปโทรศัพท์ของฉันก็เงียบไปนานหลายชั่วโมงแล้วนะ สงสัยพรที่ฉันขอไหว้จะเห็นผลทันตาเลย รู้งี้ชวนสองสาวไปตั้งนานแล้วดีกว่า เฮ้อ... สบายใจจัง ระหว่างที่ฉันกำลังกดรหัสประตูอยู่หน้าห้อง ก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ ที่ลอดผ่านออกมาจากช่องใต้ประตู เมื่อเช้าฉันว่าฉันปิดไฟปิดแอร์เดินดูดีแล้วนี่นา หรือว่าฉันลืมปิดแอร์หรอ หรือคุณพ่อคุณแม่จะแอบมาเซอร์ไพร์สลูกสาวคนสวยกันนะ ไหวเท่าความคิด ฉันจึงรีบเปิดประตูเข้าไปทันที แต่สองขาเรียวเล็กของฉันต้องหยุดชะงัก รอยยิ้มสวยๆ ของฉันต้องหุบลงทันที เพราะมีมารผจญนั่งหน้าบึ้งตึงกอดอกไขว่ห้างแถมยังขมวดคิ้วเข้มมองฉันด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาอีก หรือว่าฉันต้องบินไปมูที่ไต้หวันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีนะ"ฉันนั่งอยู่ไม่เห็นหรอ""เห็น แต่ไม่อยากทัก""ไปไหนมา" "เรื่องของฉัน""ทำไมไม่อ่านข้อความ ไม่รับสาย" "ไม
"ยัยมาย""คอนเทนต์ที่แล้วที่แกช่วยฉันถ่าย ยอดวิวพุ่งมาก""มีแต่หนุ่มๆ มาเมนต์ขอเปิดว๊าบแกทั้งนั้นเลย""แกดูสิ" "ก็ฉันสวยจริงๆ" "มั่นมาก / มั่นมาก" เสียงเพื่อนสาวของฉันดังขึ้นพร้อมเพียงกันทันทีที่ได้ยินคำตอบของฉัน หลังจากจบคลาสฉันก็หนีตามยัยลลินกับยัยมินมาหลบภัยที่คาเฟ่มินิมินนี่ทันที เรานั่งคุยเล่นกันบ้าง ช่วยยัยมินเสิร์ฟเครื่องดื่มช่วงที่มีลูกค้าเยอะบ้าง หรือฉันจะมาสมัครเป็นพนักงานพาสไทม์คาเฟ่ยัยมินดี ให้นางจ่ายค่าจ้างเป็นชาเย็นวันละแก้วก็พอ กำลังนั่งคิดอะไรเพลินยัยสองคนก็เรียกให้ฉันดูข่าวซุบซิบหน้าเพจมหาวิทยาลัยฯ มิหน่าละวันนี้สมาร์ทโฟนเครื่องหรูของฉันถึงได้เงียบกริบ"หรือว่าพี่นายจะไม่โสดแล้ว""ดาวคณะนิเทศน์ฯ นี่ฉันจำได้" "เหมือน ฉันเคยได้ยินเตอร์พูดว่า เป็นเพื่อนๆกันนะ""ยัยมาย แกว่าจริง หรือจ้อจี้""คอมเมนต์เดียวที่ฉันมี คือฉันสวยกว่า" "จ้า / แม่คนสวย" "คิกคิก" ฉันต้องรีบทำเป็นเนียนไม่รู้ไม่ชี้ไม่แสดงความคิดเห็นทันที เมื่อเห็นภาพข่าวในเพจ ภาพหมอนั่นกำลังเปิดประตูรถให้สาวเข้าไปนั่งมีรอยยิ้มบางเบาให้แก่กัน ฉันถึงกับต้องแอบหลบสายตาเพื่อนที่กำลังเม้าท์มอยเบะปากกลอกตามองบนอย่าง
"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ""ก็ขาชั้นสวย""ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย""เห็นแล้วอยากกินคากิ""ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ""อยากกินลูกหมูแทน""..."เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียวพอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดิน
"ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกข้อ""ต่อไปนี้นายต้องอยู่ห่างจากฉันอย่างน้อยหนึ่งเมตร""หึ ทำไม กลัว?""ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันจะเก็บไว้ให้แฟนในอนาคตของฉัน""ฝันเก่ง" "ลุกไปเลย""จะกินต่อมั้ย""... แต่นายต้องไปนั่งในครัว"ยัยลูกหมูนี่ฝันกลางวันเก่ง แถมยังมาเพิ่มข้อตกลงเด็กน้อย แล้วยังมาไล่ผมให้ไปนั่งกินที่อื่นอีก คิดว่าระยะห่างแค่นี้ผมจะทำอะไรเธอไม่ได้เลยสินะ ยัยอ้วน...ผมได้แต่คิดในใจแล้วขยับตัวกลับไปตีหน้ามึนนั่งที่เดิม จนยัยลูกหมูนั่งทำหน้ายักษ์เหมือนผีเสื้อสมุทรมองผมตาขวางจนแทบจะถลนออกมาจากตา ผมถึงกับนั่งกินไปขำไป ตลกชะมัดเป็นผมอีกแล้วที่ต้องเป็นคนเก็บจานไปล้างรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกวัน เพราะพอเธอกินอิ่ม ก็สะบัดก้นกลมกลมเดินเข้าห้องนอนไปทันที ไม่หันมาพูดกับผมสักคำ แต่ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวสักพักก็จะเดินออกมาเอง มาหาของกินอีกเพราะเธอยังไม่ได้กินของหวานล้างปากแบบที่ชอบอ้างกับผม จนล้างจานเสร็จพร้อมเช็ดจนแห้งแล้ววางเรียงบนชั้นจนเรียบร้อย ก็ขอพักเหนื่อยสักหน่อย พาตัวเองไปนอนเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาที่เราพึ่งนั่งกินกันและเกือบจะทำอะไรต่อมิอะไรจนเลยเถิดไปเมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดีฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ"แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้""วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้""ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ""..."อันที่จร
"เขตนาย แต่ห้องฉัน""ได้หรอ อ้วน""ไหนดูหน่อย ถลอกยัง""ไม่รู้ไม่ชี้ ไปออกกำลังกายดีกว่า""แบร่"ฉันทำเนียนกลบเกลื่อนอย่างเขินอายเพราะยอมจำนนกับหลักฐานที่เห็นเมื่อตื่นขึ้นมาเป็นภาพที่ฉันนอนกอดเขาไว้แน่นเพราะคิดว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ฉันอุ้มมาวางแบ่งเขตแดนกับเขาเมื่อคืน ก่อนจะไปล้างหน้าเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดพร้อมออกกำลังกายเป็นชุดรัดรูปกระชับสัดส่วนตัวเสื้อด้านบนเป็นครอปสั้นสายเดี่ยวสีชมพู ใส่คู่กับกางเกงขายาวรัดรูปเข้าชุดกัน และเดินผ่านเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนเตียงไปทางประตู เพื่อออกไปใส่รองเท้าผ้าใบเตรียมขึ้นไปห้องฟิตเนสส่วนกลางของคอนโด แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะอยู่ดีดีเขาก็มาโวยวายใส่ฉัน กอดอกมองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเป็นวัยทองรึไง"ลูกหมู ใส่ชุดอะไรของเธอ""ก็ชุดออกกำลังกายไง""ไปเปลี่ยน""อะไรของนาย""ไปเปลี่ยนชุด ไม่เอาชุดนี้""ชุดนี้แหละ""จิ๊""งั้นออกอยู่ในห้อง ไม่ต้องขึ้นไป""มีมั้ยลู่วิ่ง""ดื้อจังวะ"ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับเขา อยู่ๆ ก็สั่งฉันอย่างเอาแต่ใจใส่ฉันแต่เช้า เลยรีบเดินออกมาแล้วตรงเข้าลิฟต์ขึ้นไปห้องฟิตเนสทันที ช่วงนี้ฉันต้องกลับมาออกกำลังกายและคุม
"นาย กินโรตีสายไหมมั้ย""ฉันม้วนเผื่อ""กินไม่หมดก็บอก""ดี ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง""อื้อ""จุ๊บ""อืม อร่อย""อ้วน กินอีก"ฉันอุตส่าห์ใจดีนั่งม้วนโรตีสายไหมอยู่ที่พื้นตรงโซฟาหน้าทีวีเรียงใส่จานไว้เผื่อเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาจะได้เอื้อมมาหยิบกินได้ง่ายง่าย ไม่ต้องมานั่งม้วนเอง แต่ไอ้พิทบูลก็คือไอ้พิทบูลนั่นแหละ ต้องหาเรื่องพูดว่าฉันคอยเถียงฉัน พอฉันหยิบขึ้นมากินเองก็มาทำนิสัยเสียโน้มหน้าเข้ามาเอาปากเขามาแย่งจากปากของฉันที่กำลังกัดอยู่แถมมาขโมยจุ๊บฉันอีก ก่อนจะตีมึนเด้งตัวกลับไปนั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิม ส่วนฉันทำได้แต่หันไปมองเขาตาขวางแล้วกลับมากินต่อด้วยสีหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศ จนตอนนี้กลายเป็นว่าฉันต้องคอยป้อนเขาไปด้วย สบายเกินหน้าเกินตาไปมากเรานั่งเล่นกันอยู่บนโซฟาคนละมุมโดยที่ฉันดูซีรีย์ที่พระเอกหล่อสุดสุดจนฉันอยากทะลุจอเข้าไปเป็นนางเอกในฉากเลิฟซีนมาก ส่วนเขาก็นั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน อยู่กันอย่างนี้นานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเสียงทะเลาะมีแต่ขายาวยาวที่ยื่นเหยียดมาวางไว้บนตักเล็กของฉัน ทำฉันแอบดึงขนหน้าแข้งเขาออกไปหลายเส้นด้วยความหมันไส้ ก่อนจะยกขาหนักที่พาดอยู่ออกแล้วลุก
ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก
"สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษคับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ
และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ
เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม
"ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ
"อ้วน ลืมอะไรรึป่าว""ไม่ลืม ไม่ลืม""ลืม จุ๊บ""ผมยุ่งหมดละนะ""จะสวยไปให้ใครดู""เยอะแยะ""อื้อออ นายมันเป็นรอยเห็นมั้ย""สมน้ำหน้า""..." "ซี๊ดดด" จากที่ฉันกำลังจะรีบลงจากรถขึ้นไปออฟฟิตคุณพ่อในฐานะนักศึกษาฝึกงานกลับต้องมานั่งจิ้มคอลซิลเลอร์ปกปิดรอยที่เขาพึ่งสร้างไว้ที่ต้นคอของฉันอย่างเอาแต่ใจเมื่อครู่เพียงแค่ฉันแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ซึ่งฉันก็เอาคืนเขาโดยการงับเข้าไปที่ต้นคอแกร่งของเขาเต็มแรงจนขึ้นรอยแดงอย่างชัดเจนและจะไม่ให้ยืมคอลซิลเลอร์ด้วยคอยดู แต่เขาก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรแถมยังยกยิ้มเหมือนชอบอกชอบใจที่มีรอยอีกด้วย ทำฉันถึงกับมองค้อนเขาวงใหญ่ด้วยความหมันไส้ขั้นสุด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาลลิลที่นั่งรออยู่ตรงล็อบบี้เหมือนทุกวัน"ยัยมาย ฉันนึกว่าแกจะพาน้องชานมมาด้วย""ฉันก็อยากพามาแต่กลัวพี่พี่พนักงานคนอื่นจะว่าเอาหน่ะ""ค่อยพาไปเล่นที่คาเฟ่ยัยมินอาทิตย์นี้ดีมั้ย""อาทิตย์นี้หรอ ฉันขอยังไม่คอนเฟิร์มนะ""จ้าาา ชั่วโมงบินสูงมาก...ก""นิดนึง อิอิ"ฉันกับลลิลได้รับโจทย์ให้ออกแบบแบนเนอร์หน้าเว็บเบราว์เซอร์ของบริษัทใหม่ให้ดูดึงดูดและเป็นที่น่าสนใจจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับหน้าแ
noomine : น้องชานม+มามี๊+ปาปี๊ @k.naimini.minnie : ต้องมีน้องชาเย็นด้วยสิl.lalil : คุณน้าต้องได้เล่นกะน้องkkay : @k.nai คุณพ่อลูก1tutor.t : รูปนี้ควรมีแค่มายกับชานมk.nai : @kkay @tutor.t อิจฉากู? หลังจากที่ฉันโพสต์รูปครอบครัวลงโซเชี่ยลเพื่ออวดความน่ารักของลูกสาวให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชม สองสาวกับสองหนุ่มก็พากันมาคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ส่วนเขาก็นั่งยิ้มบ้างหัวเราะบ้างเล่นอยู่กับน้องไม่ห่าง อยากพาชานมไปให้มินนี่กับลลิลรู้จักอย่างเป็นทางการจัง รอโตอีกสักหน่อยแล้วกันนะเจ้าตัวเล็กเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์คุณแม่เลยออกไปตีกอล์ฟเป็นเพื่อนคุณพ่อและจะกลับมาทานข้าวเย็นกับเราสองคนอย่างพร้อมหน้า ทำให้วันนี้ฉันกับเขาได้อยู่ทำหน้าที่มามี๊กับปาปี๊ตลอดทั้งวัน ซึ่งคนที่ตื่นเต้นและไม่ยอมปล่อยน้องเลยกลายเป็นเขา ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้อุ้มลูกสาวเลยสักนิด ฉันเลยทำได้แค่ยื่นมือไปเกาคางน้องที่นอนตัวกลมอยู่บนตักแกร่งเท่านั้น ทีตอนนั้นทำเป็นคัดค้านไม่พักพอมาตอนนี้กลับยิ้มไม่หุบเล่นไม่หยุดเลย คอยดูนะ! ฉันจะสอนให้ลูกสาวแก้แค้นเขาแทนฉัน"นาย พรุ่งนี้ไปซื้อที่นอนให้ลูกกันมั้ย""นายซื้อมาแล้ว""ไปดูอาหารเปียกกับวิตามิน
ตอนนี้เป็นเวลาตีสามผมต้องรีบวิ่งลงมามินิมาร์ทข้างล่างคอนโดเพื่อซื้อของใช้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างผ้าอนามัยให้ลูกหมูเพราะบนห้องหมดเกลี้ยงและเธอก็ลืมดูวันที่จดไว้ ดีที่ผมไปซื้อของใช้กับเธอตลอดเลยพอจะรู้ว่าเธอใช้แบบไหนยี่ห้ออะไรไม่อย่างงั้นผมต้องมายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าชั้นวางสินค้าแน่แน่ ก่อนจะเดินไปหาผงขิงสำเร็จรูปไว้ชงให้เธอกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เป็นผมเองที่ไม่อยากให้เธอกินยาแก้ปวดมากจนเกินไปเพราะมันส่งผลข้างเคียงให้เธอในอนาคตพอได้ของจนครบผมก็รีบวิ่งขึ้นไปให้เธอที่นั่งรออยู่ในห้องน้ำจนตัวซีด ออกมายืนรอปล่อยให้เธอจัดการตัวเองจนเรียบร้อย ผมก็เข้าไปช้อนตัวอุ้มเธอที่ปวดท้องจนตัวงอออกมาวางลงบนเตียงนอน แล้วปลีกตัวมาต้มน้ำร้อนใส่กระเป๋าน้ำร้อนรูปตุ๊กตาหมูสีชมพูและนำมาวางอังลงบนหน้าท้องของเธอ นั่งมองเธอที่หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า มีเม็ดเหงื่อซึมตามกรอบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่สบายตัวแค่ไหน ก่อนเธอจะพลิกตัวมาดึงแขนแกร่งของผมไปกอดไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาให้เธอได้อีกทางจนผมไม่กล้าจะขยับตัวไปไหนได้แต่นั่งพิงหัวเตียงแล้วพักสายตาเอาแรงสักหน่อยเพื่อจะได้ออกไปซื้อ