และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดี
ฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ "แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้" "วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้" "ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ" "..." อันที่จริงทันทีที่ผมเห็นยัยลูกหมูกำลังลงมาจากบันได้ เป็นภาพที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าผมจะได้เห็นเธอแต่งหน้าทำผมและอยู่ในชุดสวยสง่าแบบนี้ ทำผมเกือบหยุดหายใจไปเลย ก่อนจะได้สติเพราะแม่สะกิดที่แขนผมส่งสัญญาณให้ผมไปยืนรอรับ ผมถึงลุกขึ้นไปหาเธอ และพอถึงเวลาจริงๆ เมื่อเธอเอื้อมมือมาจับที่มือของผม มันเหมือนสวิตซ์ให้ปากของผมทำงานพูดอะไรแบบนั้นออกไปให้เธอได้ว่าผมกลับราวกับว่ามันคือความสุขของผมไปแล้ว สุดท้ายผมเลือกที่จะยักคิ้วเข้มใส่เธอข้างหนึ่งและอมยิ้มเบาเบาเก็บอาการแอบเขินของผม แล้วจับมือเธอมาคล้องเข้าที่แขนแกร่งของผมพาเธอเดินไปใส่บาตรหน้าบ้านของเธอ ซึ่งตลอดการใส่บาตรเธอดูพยายามวางมือเธอไว้บนมือผมทุกครั้งและไม่ยอมให้ผมขยับเปลี่ยนจนหลวงพ่อและญาติผู้ใหญ่พากันอมยิ้มจนผมอดสงสัยไม่ได้ ได้แต่เก็บงำความสงสัยนั้นไว้ค่อยไปแอบถามพ่อกับแม่ผมแล้วกัน "นาย สวมแหวนให้หนูมายสิลูก" "ครับ" ผมเอื้อมมือหนาของผมไปจับมือนิ่มนิ่มของเธอเอาไว้ แล้วค่อยๆ สวมแหวนที่เราสองคนเลือกเข้าที่นิ้วนางเรียวเล็กของเธอ ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปหยิบแหวนอีกวงมาใส่ที่นิ้วนางของผมเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าตอนนี้เราสองคนไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นแต่เป็นคู่หมั้นกันแล้วจริงๆ แต่สิ่งที่ผมภูมิใจสุดสุดและแอบหยิบสมาร์ทโฟนข้างๆ มาเก็บภาพเอาไว้ คือตอนที่คุณพ่อคุณแม่ของเธอกระซิบบอกให้เธอยกมือไหว้ผม ทำเธอถึงกับอึ้งเก็บอาการขั้นสุดและยอมทำตามที่พวกท่านบอกเพื่อไม่ให้อายขายหน้าญาติที่มาร่วมงาน มันเป็นภาพที่ผมคิดว่าคงหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตผมกับยัยลูกหมูคนนี้... "นาย ลุกไปนอนโซฟาเดี๋ยวนี้เลย" "ไม่ ปวดหลัง" "จิ๊ แล้วทำไมต้องมาแย่งที่นอนฉันด้วยเล่า" "ที่นอนตั้งกว้าง แบ่งกันสิ" พรึ่บ! "ทำอะไรของเธอ ลูกหมู" "กั้นเขต ตรงนี้ฝั่งของฉัน นายห้ามข้ามมาแม้แต่นิดเดียว" "ถามจริง เธอคิดว่าตุ๊กตานี่จะขวางฉันได้" "ถ้านายข้ามมาฉันถีบตกเตียงแน่" "อยากลองจัง หึ" ผมเก็บเสื้อผ้าหอบตามเธอกลับมานอนที่ห้องของเธอในฐานะคู่หมั้น ระหว่างที่ผมกับเธอกำลังต่างพักผ่อนให้หายเหนื่อยอยู่ อยู่อยู่เหมือนยัยลูกหมูจะพึ่งรู้สึกตัวว่าต้องไล่ผมที่นอนเล่นเกมส์บนเตียงสีชมพูของเธออย่างสบายใจ จึงกระโดดลงจากเตียงแล้วโวยวายใส่ผมยกใหญ่จนเธอเหนื่อยกับความดื้อดึงของผมเลยไปอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงโซฟามาวางตรงกลางเตียงราวกับเป็นกำแพงไม่ให้ผมข้ามแดนไปได้ เล่นเหมือนเด็ก หึ ก่อนจะสงบศึกแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดสบายสบายผมที่จัดการตัวเองเสร็จก่อนก็ทำหน้าที่สั่งอาหารเย็นสำหรับเราสองคนมาไว้ โดยเลือกสั่งเป็นเมนูง่ายๆ เป็นชุดคัตสึด้งกุ้งราดไข่ของเธอ คัตสึด้งสันในราดไข่ของผม พร้อมกับเครื่องเคียงอย่างกิมจิและซุปมิโซะ มีของกินเล่นเป็นไก่ทอดคาราเกะ และชาเขียวเย็น ส่วนของหวานผมไม่ได้สั่งเพราะแอบไปเปิดตู้เย็นดูแล้วยังมีผลไม้และไอศครีมให้เธอเลือกอยู่ หลังจากผมกับคุณคู่หมั้นจัดการอาหารตรงหน้าจดหมดเกลี้ยง เธอก็อาสาเก็บทุกอย่างไปทิ้งถังขยะอย่างใจดีและหยิบผลไม้มาเผื่อผมส่วนเธอมีไอศครีมโคนวนิลาถืออยู่ในมือ นั่งดูทีวีกันอย่างเงียบๆ เงียบจนผมแปลกใจผิดวิสัยของเธอเลยหันหน้าไปดูก็เห็นยัยลูกหมูนั่งคอพับหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ หนังท้องอิ่มหนังตาหย่อนสินะ ยัยอ้วนเอ้ย หึ จึงต้องลำบากผมอุ้มตัวกลมกลมเดินเข้าไปนอนในห้องค่อยๆ วางบนเตียง ทั้งที่ใจอยากจะลองโยนลงไปดูเพราะอยากรู้ว่าจะกลิ้งได้หรือเปล่า แต่กลัวโดนกินหัวเนี่ยแหละ ผมที่กำลังฝันหวานต้องสะดุ้งเฮือกเพราะรู้สึกขยับตัวไม่ได้หายใจไม่ค่อยออกอาการเหมือนโดนผีอำที่ผมเคยฟังเรื่องเล่ารายการผีในยูทูป พอค่อยๆ ลืมตามองดู ก็เห็นขาขาวซีดพลาดอยู่ตรงหน้าท้องแกร่ง เลื่อนขึ้นมาเป็นแขนขาวขาวกำลังกอดรัดผมเอาไว้ ทำผมแทบกรี๊ด ก่อนจะเลื่อนสายตาทำใจกล้าหันไปมอง ก็เห็นเป็นหน้าเธอ ยัยคู่หมั้นของผม ปึก! ตุบ! "นี่นาย...ข้ามเขตมาได้ยังไง" "อ้วน เธอดู นี่เขตใคร""เขตนาย แต่ห้องฉัน""ได้หรอ อ้วน""ไหนดูหน่อย ถลอกยัง""ไม่รู้ไม่ชี้ ไปออกกำลังกายดีกว่า""แบร่"ฉันทำเนียนกลบเกลื่อนอย่างเขินอายเพราะยอมจำนนกับหลักฐานที่เห็นเมื่อตื่นขึ้นมาเป็นภาพที่ฉันนอนกอดเขาไว้แน่นเพราะคิดว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ฉันอุ้มมาวางแบ่งเขตแดนกับเขาเมื่อคืน ก่อนจะไปล้างหน้าเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดพร้อมออกกำลังกายเป็นชุดรัดรูปกระชับสัดส่วนตัวเสื้อด้านบนเป็นครอปสั้นสายเดี่ยวสีชมพู ใส่คู่กับกางเกงขายาวรัดรูปเข้าชุดกัน และเดินผ่านเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนเตียงไปทางประตู เพื่อออกไปใส่รองเท้าผ้าใบเตรียมขึ้นไปห้องฟิตเนสส่วนกลางของคอนโด แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะอยู่ดีดีเขาก็มาโวยวายใส่ฉัน กอดอกมองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเป็นวัยทองรึไง"ลูกหมู ใส่ชุดอะไรของเธอ""ก็ชุดออกกำลังกายไง""ไปเปลี่ยน""อะไรของนาย""ไปเปลี่ยนชุด ไม่เอาชุดนี้""ชุดนี้แหละ""จิ๊""งั้นออกอยู่ในห้อง ไม่ต้องขึ้นไป""มีมั้ยลู่วิ่ง""ดื้อจังวะ"ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับเขา อยู่ๆ ก็สั่งฉันอย่างเอาแต่ใจใส่ฉันแต่เช้า เลยรีบเดินออกมาแล้วตรงเข้าลิฟต์ขึ้นไปห้องฟิตเนสทันที ช่วงนี้ฉันต้องกลับมาออกกำลังกายและคุม
"นาย กินโรตีสายไหมมั้ย""ฉันม้วนเผื่อ""กินไม่หมดก็บอก""ดี ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง""อื้อ""จุ๊บ""อืม อร่อย""อ้วน กินอีก"ฉันอุตส่าห์ใจดีนั่งม้วนโรตีสายไหมอยู่ที่พื้นตรงโซฟาหน้าทีวีเรียงใส่จานไว้เผื่อเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาจะได้เอื้อมมาหยิบกินได้ง่ายง่าย ไม่ต้องมานั่งม้วนเอง แต่ไอ้พิทบูลก็คือไอ้พิทบูลนั่นแหละ ต้องหาเรื่องพูดว่าฉันคอยเถียงฉัน พอฉันหยิบขึ้นมากินเองก็มาทำนิสัยเสียโน้มหน้าเข้ามาเอาปากเขามาแย่งจากปากของฉันที่กำลังกัดอยู่แถมมาขโมยจุ๊บฉันอีก ก่อนจะตีมึนเด้งตัวกลับไปนั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิม ส่วนฉันทำได้แต่หันไปมองเขาตาขวางแล้วกลับมากินต่อด้วยสีหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศ จนตอนนี้กลายเป็นว่าฉันต้องคอยป้อนเขาไปด้วย สบายเกินหน้าเกินตาไปมากเรานั่งเล่นกันอยู่บนโซฟาคนละมุมโดยที่ฉันดูซีรีย์ที่พระเอกหล่อสุดสุดจนฉันอยากทะลุจอเข้าไปเป็นนางเอกในฉากเลิฟซีนมาก ส่วนเขาก็นั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน อยู่กันอย่างนี้นานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเสียงทะเลาะมีแต่ขายาวยาวที่ยื่นเหยียดมาวางไว้บนตักเล็กของฉัน ทำฉันแอบดึงขนหน้าแข้งเขาออกไปหลายเส้นด้วยความหมันไส้ ก่อนจะยกขาหนักที่พาดอยู่ออกแล้วลุก
ฉันกำลังโดนนายนั่นล็อคแขนทั้งสองข้างด้วยมือหนาของเขาแล้วบังคับให้สบตามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเลี่ยงฉันก็โดนไล่ต้อนโดยการหอมแก้ม อันที่จริงฉันรีบเดินหนีเข้าห้องนอนมาเพราะรู้สึกหงุดหงิดกับข้อความนั่นจนไม่อยากอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ เลยเลือกมาสงบสติอารมณ์คนเดียวเงียบๆ แต่พอได้ยินเสียงเขาเรียกและบอกว่าจะออกไปข้างนอกมันก็ทำให้ฉันคิดไปต่างต่างนานาความรู้สึกน้อยใจก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความใกล้ชิดที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนหมั้นจนวันนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวง จนน้ำใสใสไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานนับนาที จนเขาส่งข้อความมาให้หยิบเสื้อกับกางเกงให้ฉันจึงลุกไปหยิบและยื่นออกไปให้เขาโดยที่ตัวแอบอยู่ด้านหลังประตูไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นฉันร้องไห้ด้วย จนเขามาคุกเข่าอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฉ้นก็แอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันอดสั่นไหวเพราะเขาไม่ได้เลยฟอด"แสบ""ไหนจะไปเที่ยว""รีบไปสิ""ไม่อยากไปแล้ว"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บเขาจูบฉันอยู่นานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปจูบข้างแก้ม ลากริมฝีกปากร้อนไปจูบที่ใบหูขาวของฉัน ไล่ลงมาตามลำคอแล้วหัวไหล่มน ฉันในตอนนี้ที่อยู่ในเ
ฟอด ฟอด"ปล่อยเลย ไอ้พิทบูล""กัดฉันจนเป็นรอยเต็มตัวแล้วเนี่ย""ไม่ปล่อย""เธอทำให้ฉันไม่ได้ไปเที่ยว""ต้องรับผิดชอบ""เพราะฉัน?""อืมหึ""อ๊ะ""นี่ หมันเขี้ยวหว่ะ"จุ๊บ จ๊วบผมที่กำลังนอนซบหน้าซุกก้อนนุ่มนิ่มและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตัวเขื่องสนามรบของเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว หูก็คอยฟังเธองอแงใส่ผมทันทีที่หายเหนื่อย ก่อนจะยัดเยียดข้อหาให้เธอกลับเพราะอยากจะหาเรื่องกินลูกหมูตัวกลมกลมผิวอมชมพูนี่ต่อ ปากร้อนของผมจู่โจมเข้าที่ภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าทันทีไม่รอให้เธอได้คัดค้าน ผิวของเธอมันนุ่มลื่นจนมือหนาของผมไม่อยากจะปล่อย แก้มกลมกลมของเธอมันหอมจนอยากจะกดจมูกลงไปอยู่ซ้ำซ้ำ ปากของเธอมันหวานจนริมฝีปากร้อนของผมอยากจะชิมแล้วชิมอีก และอยากจะไล่ชิมไปตั้งตัวอีกครั้ง จึงค่อยๆ ไล่ลงไปค่อยๆ ชิมซอกคอนิด หัวไหล่มนหน่อย ขบเม้มต้นแขนเล็กน้อยน้อย ไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล่เลียจนทั่ว แล้วมาหยุดตรงเนียนนุ่มสามเหลี่ยมที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือลูกชายผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นไล่เลียไปตามรอยแยกจนเธอถอยหนี สองมือร้ายของผมจึงต้องเลื่อนไปจับล็อคสะโพกกลมของเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้อีก และลงลิ้นจัดการเธอต่อทันทีไม่ให้เธอได
ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ ในห้องนั่งเล่นที่ห้องของเธอ และตอนนี้เป็นห้องของผมด้วย แต่อยู่ๆ ไอ้เตอร์เพื่อนผมก็ส่งรูปเข้าข้อความผมมารัวรัว จนผมต้องเปิดเข้าไปดูถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็น เป็นภาพยัยลูกหมูที่อยู่ในชุดเสื้อครอปไหล่ตกโชว์เอวลอยขึ้นจนเห็นบราด้านในกับกางเกงขาสั้นกุดเอวสูง ซึ่งมันเป็นคนละชุดกับที่เธอแต่งออกไปจากห้อง ยืนโพสต์ท่าก้มก้มเงยเงยอยู่กับลลิลเพื่อนของเธอ เพราะวันนี้เธอบอกว่ามีนัดถ่ายแบบกับเพื่อนในคอนเซ็ปต์ใสใสซนซน ซึ่งผมพอเห็นรูปตัวอย่างที่เธอเปิดให้ดูมันก็ดูเรียบร้อยดี ผมก็เลยไม่ได้ว่าหรือออกความเห็นอะไร แถมลลิลก็มารับออกไปตั้งแต่เช้า ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอแบกกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไปคงจะมีเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น แสบสุดสุด"เจอกันแน่ ยัยลูกหมู"ผมจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสบายแบบที่ผมชอบกับกางเกงยีนส์ขากระบอกตัวโปรด แล้วไปเปลี่ยนรถอีกคันที่คอนโดผมเพื่อไม่ให้มินกับลลิลจำรถผมได้แล้วจะสงสัย ส่วนไอ้เตอร์ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะมันคงแอบรู้อะไรมาไม่อย่างนั้นคงไม่จงใจส่งมาหาผมส่วนตัวแบบนี้ แล้วรีบเหยียบคันเร่งตร
"ลูกหมู เอารูปที่ไปถ่ายมาดูหน่อย""สวย สวย ไม่ต้องดูหรอก""เอา มา ดู" "จิ๊"ผมต้องรีบเอื้อมไปคว้าเอวเธอที่กำลังจะเดินหนีดูมีพิรุธมานั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างไปหยิบมือถือของเธอบังคับให้เธอปลดล็อคหน้าเจอแล้วเปิดเข้าไปในแกลอรี่รูปที่เธอถ่ายในวันนี้ นอกจากภาพที่ไอ้เตอร์ส่งมาให้แล้ว ยังมีชุดที่คล้ายๆ บิกินีต่างตรงข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีขาวส่วนข้างบนก็บราบิกินี่แบบคล้องคอนี่แหละ แถมท่าทางที่โพสต์ทำเส้นเลือดตรงขมับผมเต้นตุบตุบ ก่อนจะก้มลงไปงับที่แขนเล็กแรงแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งฟังเสียงแจ๋วแจ๋วเถียงข้างๆ คูๆ อีก ทำผมอดเลื่อนมือไปขยำก้อนกลมแรงแรงไม่ได้ "ไหนบอกใสใสไง""นี่ก็ใสใส""มันไม่เหมือนเรฟที่เธอเปิดให้ฉันดูเลยนะ""ชุดไม่เหมือน แต่ท่าเหมือนสุดสุด""อ๊ะ""แถเก่ง""บ่นเก่ง""ชอบโชว์นักนะ ไขมันเนี่ย""ถ้าบ่นอีกคำเดียว นายนอนโซฟา" "จิ๊"อยู่อยู่คดีก็พลิกมาหาผมเฉยให้ตายเถอะ! ผมจึงปล่อยให้เธอนั่งเล่นมือถืออยู่บนตักผมราวกับเป็นเบาะรองนั่ง ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ต่อเงียบเงียบเพราะไม่อยากนอนบนโซฟาแข็งแข็ง มีหันมาถามผมบ้างอยากจะลงรูปในไอจีให้ผมช่วยเลือกให้หน
"หนูมายกำลังไปค่ะพ่อ""ค่ะ หนูมายจะรีบสุดสุดเลยค่ะ""บ๊ายบายค่ะ"วันนี้ฉันมีนัดทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ที่ร้านอาหารไทยชื่อดังริมแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นคุณพ่อบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยและมีเวลาให้ฉันสองชั่วโมงก่อนที่ท่านสองคนจะบินไปดูธุรกิจของครอบครัวเราที่ยุโรป ถ้าไม่ติดว่ามีเรียนนะ ฉันจะขอติดเครื่องบินไปเที่ยวด้วยซะหน่อย แต่ตอนนี้ฉันต้องเหยียบคันเร่งขั้นสุดแล้ว เกือบสายแล้ว...พอมาถึงที่ร้านฉันก็รีบวิ่งตรงไปหาพวกท่านที่โต๊ะทันที แต่สายตาก็ต้องสะดุดกับผู้ชายที่นั่งหันหลัง อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อของฉัน โดยข้างๆ เขามีผู้ใหญ่อีกสองท่านนั่งคุยกับคุณแม่อยู่"หนูมายมาแล้วค่ะ เอ่อ...""สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณป้า""หนูมายมานั่งข้างแม่มา""ค่ะ"ฉันที่ตอนนี้กำลังงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันเคยเจอคุณลุงคุณป้าตามงานสังคมอยู่สองสามครั้งเห็นจะได้ ท่านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และเป็นหุ้นส่วนธุรกิจสายการบินสาขาที่ญี่ปุ่นของครอบครัวฉัน แต่ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าผู้ชายที่นั่งข้างๆ คุณลุงคุณป้า ไม่ใช่ "นาย" เพื่อนที่มหาวิทยาลัยฯ ของฉัน"หนูมายลูก พ่ออยากให้ลูกทำความรู้จักกับพี่เขาเอาไว้""เห็นว่าเรียนอยู
"ชนหน่อยหว่ะ""อาการมันเป็นยังไง""ไม่รู้หว่ะ รู้แต่โคตรปวดหัว""เออ ใจร่มร่ม"ความโชคดีของผมวันนี้ คือการมีไอ้เตอร์ไอ้กายเป็นเพื่อน ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย แค่โทรตามคำเดียวพวกมันก็พร้อมจะมานั่งเป็นเพื่อนผมเหมือนตอนนี้ ก่อนที่ไอ้กายจะยื่นข้อเสนอโดยการจะเรียกสาวๆ มานั่งเป็นเพื่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่อิดออดและตอบรับ แต่ตอนนี้กลับรีบปฏิเสธ แค่ได้ยินคำว่า สาวๆ ของไอ้กาย หน้าของยัยลูกหมูก็ลอยมาทันที...ผมถึงกับต้องส่ายหน้าไปมาเพื่อไล่ภาพในหัว หลอนชะมัดพวกผมนั่งดื่มกันสักพัก สายตาคมๆ ของผมก็ไปสะดุดกับหุ่นหมูหมูยืนเต้นส่ายสะโพกไปมาอยู่ตรงโต๊ะถัดไปไม่ไกลจากที่ผมนั่ง ไหนจะเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยโชว์ห่วงยางกับขาหมูนั่นอีก น่าสงสารสายตาพวกผู้ชายที่นั่งมองเธออยู่จริงๆ"ไอ้เตอร์ มินมาหรอวะ""อืม มายชวน""อ่อ..."ก่อนจะเหลือบไปเห็นเธอกำลังเดินไปทางห้องน้ำโซนวีไอพี ผมผู้ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมืออยู่แล้ว ลุกตามไปแกล้งยัยว่าที่คู่หมั้นซะหน่อยดีกว่า ผมยืนกอดอกพิงผนังอยู่หลายนาทียัยนั่นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเดินเชิดหน้าหยิ่งๆ ด้วยความมั่นใจ ก่อนจะหันมาเห็นและทำตาโตใส่ผม "มาฉลองหรอคับ คุณว่าที่คู่หมั้น
"ลูกหมู เอารูปที่ไปถ่ายมาดูหน่อย""สวย สวย ไม่ต้องดูหรอก""เอา มา ดู" "จิ๊"ผมต้องรีบเอื้อมไปคว้าเอวเธอที่กำลังจะเดินหนีดูมีพิรุธมานั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างไปหยิบมือถือของเธอบังคับให้เธอปลดล็อคหน้าเจอแล้วเปิดเข้าไปในแกลอรี่รูปที่เธอถ่ายในวันนี้ นอกจากภาพที่ไอ้เตอร์ส่งมาให้แล้ว ยังมีชุดที่คล้ายๆ บิกินีต่างตรงข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีขาวส่วนข้างบนก็บราบิกินี่แบบคล้องคอนี่แหละ แถมท่าทางที่โพสต์ทำเส้นเลือดตรงขมับผมเต้นตุบตุบ ก่อนจะก้มลงไปงับที่แขนเล็กแรงแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งฟังเสียงแจ๋วแจ๋วเถียงข้างๆ คูๆ อีก ทำผมอดเลื่อนมือไปขยำก้อนกลมแรงแรงไม่ได้ "ไหนบอกใสใสไง""นี่ก็ใสใส""มันไม่เหมือนเรฟที่เธอเปิดให้ฉันดูเลยนะ""ชุดไม่เหมือน แต่ท่าเหมือนสุดสุด""อ๊ะ""แถเก่ง""บ่นเก่ง""ชอบโชว์นักนะ ไขมันเนี่ย""ถ้าบ่นอีกคำเดียว นายนอนโซฟา" "จิ๊"อยู่อยู่คดีก็พลิกมาหาผมเฉยให้ตายเถอะ! ผมจึงปล่อยให้เธอนั่งเล่นมือถืออยู่บนตักผมราวกับเป็นเบาะรองนั่ง ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ต่อเงียบเงียบเพราะไม่อยากนอนบนโซฟาแข็งแข็ง มีหันมาถามผมบ้างอยากจะลงรูปในไอจีให้ผมช่วยเลือกให้หน
ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ ในห้องนั่งเล่นที่ห้องของเธอ และตอนนี้เป็นห้องของผมด้วย แต่อยู่ๆ ไอ้เตอร์เพื่อนผมก็ส่งรูปเข้าข้อความผมมารัวรัว จนผมต้องเปิดเข้าไปดูถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็น เป็นภาพยัยลูกหมูที่อยู่ในชุดเสื้อครอปไหล่ตกโชว์เอวลอยขึ้นจนเห็นบราด้านในกับกางเกงขาสั้นกุดเอวสูง ซึ่งมันเป็นคนละชุดกับที่เธอแต่งออกไปจากห้อง ยืนโพสต์ท่าก้มก้มเงยเงยอยู่กับลลิลเพื่อนของเธอ เพราะวันนี้เธอบอกว่ามีนัดถ่ายแบบกับเพื่อนในคอนเซ็ปต์ใสใสซนซน ซึ่งผมพอเห็นรูปตัวอย่างที่เธอเปิดให้ดูมันก็ดูเรียบร้อยดี ผมก็เลยไม่ได้ว่าหรือออกความเห็นอะไร แถมลลิลก็มารับออกไปตั้งแต่เช้า ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอแบกกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไปคงจะมีเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น แสบสุดสุด"เจอกันแน่ ยัยลูกหมู"ผมจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสบายแบบที่ผมชอบกับกางเกงยีนส์ขากระบอกตัวโปรด แล้วไปเปลี่ยนรถอีกคันที่คอนโดผมเพื่อไม่ให้มินกับลลิลจำรถผมได้แล้วจะสงสัย ส่วนไอ้เตอร์ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะมันคงแอบรู้อะไรมาไม่อย่างนั้นคงไม่จงใจส่งมาหาผมส่วนตัวแบบนี้ แล้วรีบเหยียบคันเร่งตร
ฟอด ฟอด"ปล่อยเลย ไอ้พิทบูล""กัดฉันจนเป็นรอยเต็มตัวแล้วเนี่ย""ไม่ปล่อย""เธอทำให้ฉันไม่ได้ไปเที่ยว""ต้องรับผิดชอบ""เพราะฉัน?""อืมหึ""อ๊ะ""นี่ หมันเขี้ยวหว่ะ"จุ๊บ จ๊วบผมที่กำลังนอนซบหน้าซุกก้อนนุ่มนิ่มและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตัวเขื่องสนามรบของเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว หูก็คอยฟังเธองอแงใส่ผมทันทีที่หายเหนื่อย ก่อนจะยัดเยียดข้อหาให้เธอกลับเพราะอยากจะหาเรื่องกินลูกหมูตัวกลมกลมผิวอมชมพูนี่ต่อ ปากร้อนของผมจู่โจมเข้าที่ภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าทันทีไม่รอให้เธอได้คัดค้าน ผิวของเธอมันนุ่มลื่นจนมือหนาของผมไม่อยากจะปล่อย แก้มกลมกลมของเธอมันหอมจนอยากจะกดจมูกลงไปอยู่ซ้ำซ้ำ ปากของเธอมันหวานจนริมฝีปากร้อนของผมอยากจะชิมแล้วชิมอีก และอยากจะไล่ชิมไปตั้งตัวอีกครั้ง จึงค่อยๆ ไล่ลงไปค่อยๆ ชิมซอกคอนิด หัวไหล่มนหน่อย ขบเม้มต้นแขนเล็กน้อยน้อย ไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล่เลียจนทั่ว แล้วมาหยุดตรงเนียนนุ่มสามเหลี่ยมที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือลูกชายผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นไล่เลียไปตามรอยแยกจนเธอถอยหนี สองมือร้ายของผมจึงต้องเลื่อนไปจับล็อคสะโพกกลมของเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้อีก และลงลิ้นจัดการเธอต่อทันทีไม่ให้เธอได
ฉันกำลังโดนนายนั่นล็อคแขนทั้งสองข้างด้วยมือหนาของเขาแล้วบังคับให้สบตามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเลี่ยงฉันก็โดนไล่ต้อนโดยการหอมแก้ม อันที่จริงฉันรีบเดินหนีเข้าห้องนอนมาเพราะรู้สึกหงุดหงิดกับข้อความนั่นจนไม่อยากอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ เลยเลือกมาสงบสติอารมณ์คนเดียวเงียบๆ แต่พอได้ยินเสียงเขาเรียกและบอกว่าจะออกไปข้างนอกมันก็ทำให้ฉันคิดไปต่างต่างนานาความรู้สึกน้อยใจก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความใกล้ชิดที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนหมั้นจนวันนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวง จนน้ำใสใสไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานนับนาที จนเขาส่งข้อความมาให้หยิบเสื้อกับกางเกงให้ฉันจึงลุกไปหยิบและยื่นออกไปให้เขาโดยที่ตัวแอบอยู่ด้านหลังประตูไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นฉันร้องไห้ด้วย จนเขามาคุกเข่าอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฉ้นก็แอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันอดสั่นไหวเพราะเขาไม่ได้เลยฟอด"แสบ""ไหนจะไปเที่ยว""รีบไปสิ""ไม่อยากไปแล้ว"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บเขาจูบฉันอยู่นานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปจูบข้างแก้ม ลากริมฝีกปากร้อนไปจูบที่ใบหูขาวของฉัน ไล่ลงมาตามลำคอแล้วหัวไหล่มน ฉันในตอนนี้ที่อยู่ในเ
"นาย กินโรตีสายไหมมั้ย""ฉันม้วนเผื่อ""กินไม่หมดก็บอก""ดี ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง""อื้อ""จุ๊บ""อืม อร่อย""อ้วน กินอีก"ฉันอุตส่าห์ใจดีนั่งม้วนโรตีสายไหมอยู่ที่พื้นตรงโซฟาหน้าทีวีเรียงใส่จานไว้เผื่อเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาจะได้เอื้อมมาหยิบกินได้ง่ายง่าย ไม่ต้องมานั่งม้วนเอง แต่ไอ้พิทบูลก็คือไอ้พิทบูลนั่นแหละ ต้องหาเรื่องพูดว่าฉันคอยเถียงฉัน พอฉันหยิบขึ้นมากินเองก็มาทำนิสัยเสียโน้มหน้าเข้ามาเอาปากเขามาแย่งจากปากของฉันที่กำลังกัดอยู่แถมมาขโมยจุ๊บฉันอีก ก่อนจะตีมึนเด้งตัวกลับไปนั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิม ส่วนฉันทำได้แต่หันไปมองเขาตาขวางแล้วกลับมากินต่อด้วยสีหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศ จนตอนนี้กลายเป็นว่าฉันต้องคอยป้อนเขาไปด้วย สบายเกินหน้าเกินตาไปมากเรานั่งเล่นกันอยู่บนโซฟาคนละมุมโดยที่ฉันดูซีรีย์ที่พระเอกหล่อสุดสุดจนฉันอยากทะลุจอเข้าไปเป็นนางเอกในฉากเลิฟซีนมาก ส่วนเขาก็นั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน อยู่กันอย่างนี้นานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเสียงทะเลาะมีแต่ขายาวยาวที่ยื่นเหยียดมาวางไว้บนตักเล็กของฉัน ทำฉันแอบดึงขนหน้าแข้งเขาออกไปหลายเส้นด้วยความหมันไส้ ก่อนจะยกขาหนักที่พาดอยู่ออกแล้วลุก
"เขตนาย แต่ห้องฉัน""ได้หรอ อ้วน""ไหนดูหน่อย ถลอกยัง""ไม่รู้ไม่ชี้ ไปออกกำลังกายดีกว่า""แบร่"ฉันทำเนียนกลบเกลื่อนอย่างเขินอายเพราะยอมจำนนกับหลักฐานที่เห็นเมื่อตื่นขึ้นมาเป็นภาพที่ฉันนอนกอดเขาไว้แน่นเพราะคิดว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ฉันอุ้มมาวางแบ่งเขตแดนกับเขาเมื่อคืน ก่อนจะไปล้างหน้าเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นชุดพร้อมออกกำลังกายเป็นชุดรัดรูปกระชับสัดส่วนตัวเสื้อด้านบนเป็นครอปสั้นสายเดี่ยวสีชมพู ใส่คู่กับกางเกงขายาวรัดรูปเข้าชุดกัน และเดินผ่านเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนเตียงไปทางประตู เพื่อออกไปใส่รองเท้าผ้าใบเตรียมขึ้นไปห้องฟิตเนสส่วนกลางของคอนโด แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะอยู่ดีดีเขาก็มาโวยวายใส่ฉัน กอดอกมองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเป็นวัยทองรึไง"ลูกหมู ใส่ชุดอะไรของเธอ""ก็ชุดออกกำลังกายไง""ไปเปลี่ยน""อะไรของนาย""ไปเปลี่ยนชุด ไม่เอาชุดนี้""ชุดนี้แหละ""จิ๊""งั้นออกอยู่ในห้อง ไม่ต้องขึ้นไป""มีมั้ยลู่วิ่ง""ดื้อจังวะ"ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับเขา อยู่ๆ ก็สั่งฉันอย่างเอาแต่ใจใส่ฉันแต่เช้า เลยรีบเดินออกมาแล้วตรงเข้าลิฟต์ขึ้นไปห้องฟิตเนสทันที ช่วงนี้ฉันต้องกลับมาออกกำลังกายและคุม
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่ ดีที่เมื่อคืนฉันมาส์กหน้าทิ้งไว้และเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ทำให้วันนี้ผิวหน้าฉันฉ่ำฟูดูสุขภาพดีไม่ต้องแต่งอะไรมากเน้นแค่ดวงตาให้กลมโตดูคมมากขึ้นและเพิ่มขนตานิดหน่อยให้พอเป็นแพงอนยาว ลงแก้มอีกนิดเติมหางคิ้วนิดหน่อย และทาปากอวบอิ่มให้ชุ่มฉ่ำ เกล้าผมดัดรอนเป็นหางม้าประดับด้วยเครื่องประดับที่เข้ากับชุดไทยบรมพิมานที่จะใส่ในวันนี้ ซึ่งเสร็จทันเวลาใส่บาตรเช้าพอดีฉันค่อยๆ เดินลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้าน เพื่อมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่พร้อมญาติญาติที่กำลังทยอยมา รวมถึงคุณลุงคุณป้าและเขาก็นั่งรออยู่พร้อมหน้า ทันทีที่เขาเห็นฉันกำลังก้าวลงบันไดทีละขั้นด้วยความระมัดระวังเพราะรองเท้าส้นสูงแหลมและผ้าถุงยาวแคบที่ไม่ค่อยถนัด เขาก็ลุกจากโซฟาเดินมารอรับฉันตรงบันไดขั้นสุดท้าย พร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับพยุงตัวไม่ให้ก้าวพลาด ฉันที่กำลังเดินยิ้มลงมาสวยๆ เกือบจะต้องหุบยิ้มเพราะปากของเขา แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มเอาไว้เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่สงสัยและดูมีพิรุธ"แต่งตั้งนาน ได้แค่นี้""วันหลังฉันแต่งให้ก็ได้""ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร แนะนำให้เงียบ""..."อันที่จร
"ฉันขอเพิ่มข้อตกลงอีกข้อ""ต่อไปนี้นายต้องอยู่ห่างจากฉันอย่างน้อยหนึ่งเมตร""หึ ทำไม กลัว?""ฉันไม่ได้กลัว แต่ฉันจะเก็บไว้ให้แฟนในอนาคตของฉัน""ฝันเก่ง" "ลุกไปเลย""จะกินต่อมั้ย""... แต่นายต้องไปนั่งในครัว"ยัยลูกหมูนี่ฝันกลางวันเก่ง แถมยังมาเพิ่มข้อตกลงเด็กน้อย แล้วยังมาไล่ผมให้ไปนั่งกินที่อื่นอีก คิดว่าระยะห่างแค่นี้ผมจะทำอะไรเธอไม่ได้เลยสินะ ยัยอ้วน...ผมได้แต่คิดในใจแล้วขยับตัวกลับไปตีหน้ามึนนั่งที่เดิม จนยัยลูกหมูนั่งทำหน้ายักษ์เหมือนผีเสื้อสมุทรมองผมตาขวางจนแทบจะถลนออกมาจากตา ผมถึงกับนั่งกินไปขำไป ตลกชะมัดเป็นผมอีกแล้วที่ต้องเป็นคนเก็บจานไปล้างรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกวัน เพราะพอเธอกินอิ่ม ก็สะบัดก้นกลมกลมเดินเข้าห้องนอนไปทันที ไม่หันมาพูดกับผมสักคำ แต่ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวสักพักก็จะเดินออกมาเอง มาหาของกินอีกเพราะเธอยังไม่ได้กินของหวานล้างปากแบบที่ชอบอ้างกับผม จนล้างจานเสร็จพร้อมเช็ดจนแห้งแล้ววางเรียงบนชั้นจนเรียบร้อย ก็ขอพักเหนื่อยสักหน่อย พาตัวเองไปนอนเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาที่เราพึ่งนั่งกินกันและเกือบจะทำอะไรต่อมิอะไรจนเลยเถิดไปเมื่อครู่ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก
"นี่ ลูกหมู ทำไมชอบใส่กระโปรงสั้นจังวะ""ก็ขาชั้นสวย""ขาหมู มีแต่ไขมันเนี่ยนะ สวย""เห็นแล้วอยากกินคากิ""ถ้าจะหิวขนาดนั้นก็ไปซื้อข้าวกินเถอะ""อยากกินลูกหมูแทน""..."เห็นมั้ยละ หมอนี่หน่ะพูดดีกับฉันได้ไม่นานหรอก ก็กลับมาหาเรื่องว่าฉันอีกละ ทำมาเป็นยิ้มกรุ่มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอีก หนวกหูชะมัดเลย อยากจะเอานิ้วเล็กเล็กของฉันจิ้มตาเขาสักที แถมยังทำมือรุ่มร่ามมาวางบนหน้าขาขาวเนียนและบีบเล่นอีก ฉันต้องไปมูที่ไหนใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ฉันจึงเลือกหยิบแอร์พอร์ตและสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดเพลงฟังเพราะเพราะดีกว่า สบายหูสบายอารมณ์กว่าเสียงนายนี่ตั้งเยอะ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงปล่อยใจไปกับเสียงเพลง แต่ความสุขก็มักจะอยู่กับฉันได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ เพราะไอ้พิทบูลนี่ยื่นมือมาแย่งแอร์พอร์ตจากหูฉันไปข้างหนึ่งแล้วเอาไปใส่ที่หูเขา บอกว่าจะฟังด้วย ฉันได้แต่ถลึงตามองเขาตาเขียวพอมาถึงคอนโด กุ้งถังกับเล้งแซ่บก็มาถึงพอดีฉันเลยลงจากรถและเดินตรงไปรับอาหาร ซึ่งพอเขาจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งมารับอาหารในมือฉันไปถือไว้ในมือของเขา และพาเดินกันเข้าลิฟต์ ถ้าจะยืนในลิฟต์นิ่งๆ เงียบไม่กวนประสาทใส่ฉันคงไม่ใช่เขา เพราะเขาเล่นเดิน