ฟอด ฟอด
"ปล่อยเลย ไอ้พิทบูล" "กัดฉันจนเป็นรอยเต็มตัวแล้วเนี่ย" "ไม่ปล่อย" "เธอทำให้ฉันไม่ได้ไปเที่ยว" "ต้องรับผิดชอบ" "เพราะฉัน?" "อืมหึ" "อ๊ะ" "นี่ หมันเขี้ยวหว่ะ" จุ๊บ จ๊วบ ผมที่กำลังนอนซบหน้าซุกก้อนนุ่มนิ่มและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตัวเขื่องสนามรบของเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว หูก็คอยฟังเธองอแงใส่ผมทันทีที่หายเหนื่อย ก่อนจะยัดเยียดข้อหาให้เธอกลับเพราะอยากจะหาเรื่องกินลูกหมูตัวกลมกลมผิวอมชมพูนี่ต่อ ปากร้อนของผมจู่โจมเข้าที่ภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าทันทีไม่รอให้เธอได้คัดค้าน ผิวของเธอมันนุ่มลื่นจนมือหนาของผมไม่อยากจะปล่อย แก้มกลมกลมของเธอมันหอมจนอยากจะกดจมูกลงไปอยู่ซ้ำซ้ำ ปากของเธอมันหวานจนริมฝีปากร้อนของผมอยากจะชิมแล้วชิมอีก และอยากจะไล่ชิมไปตั้งตัวอีกครั้ง จึงค่อยๆ ไล่ลงไปค่อยๆ ชิมซอกคอนิด หัวไหล่มนหน่อย ขบเม้มต้นแขนเล็กน้อยน้อย ไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล่เลียจนทั่ว แล้วมาหยุดตรงเนียนนุ่มสามเหลี่ยมที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือลูกชายผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นไล่เลียไปตามรอยแยกจนเธอถอยหนี สองมือร้ายของผมจึงต้องเลื่อนไปจับล็อคสะโพกกลมของเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้อีก และลงลิ้นจัดการเธอต่อทันทีไม่ให้เธอได้พักหายใจ จนเธอต้องจิกเล็บสวยลงบนไหล่แกร่งของผมให้พารู้สึกแสบ และพาเธอปล่อยใจไปกับผมได้อีกครั้ง เพราะไม่อยากเสียเปรียบเธอผมจึงพาแท่งร้อนของผมตามเข้าไปอีกหนและพาเราสองคนล่องลอยไปจนฟ้าเกือบสว่าง ฟอด "ลูกหมู ตื่นมากินโจ๊กเร็ว" "อื้อ อย่ามากวนกันนะ" "ปวดหัว" "ตื่นมากินข้าวจะได้กินยา" "หรือจะให้ฉันยกมาป้อน" "ป้อน" "ได้คับคุณหนู" "หึ" ผมถึงกับขำให้กับความงอแงเพราะโดนพิษไข้เล่นงานของเธอ ก่อนจะเดินออกมาเทโจ๊กหมูใส่ไข่ลวกลงในชาม พร้อมกับหยิบยาลดไข้ติดมือมาด้วย แล้วถือมาวางที่ตู้เล็กข้างหัวเตียงค่อยๆ พยุงเธอลุกขึ้นมานั่งโดยมีผมซ้อนอยู่ข้างหลังเพื่อประคองตัวเธอที่พร้อมจะทิ้งตัวลงนอนทุกเมื่อไว้ แล้วหันไปหยิบชามโจ๊กมาถือไว้ในมือ ส่วนอีกข้างก็หยิบช้อนมาตักป้อนเข้าปากเธอหนึ่งคำป้อนเข้าปากตัวเองหนึ่งคำสลับกันไปจนหมด เสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเธอหลับสนิทไปแล้ว หลับกลางอากาศทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินยา ผมจึงต้องค่อยๆ จับตัวเธอให้นอนในท่าทางที่สบาย ก่อนจะแกะยาเข้าปากผมพร้อมน้ำแล้วป้อนเข้าปากเธอจนสำเร็จ ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วที่ผมคอยเช็ดตัวลูกหมูเพื่อหวังให้ไข้ลดอยู่ไม่ห่าง ซึ่งตอนนี้เธอก็นอนกอดแขนแกร่งของผมไว้แน่นราวกับมันจะช่วยคลายหนาว ผมที่นั่งมองเธออยู่ไม่ห่างมองดูลูกหมูที่หมดฤทธิ์ก็ดูน่ารักดีแต่น่าสงสารมากกว่า หนำซ้ำพลอยทำให้ผมแอบเหงา อยากให้เธอรีบหายแล้วตื่นมาโวยวายเถียงแข่งกับผมแบบเดิม แต่ที่เธอต้องนอนซมแบบนี้ก็เพราะผมเองที่ยั้งตัวเองไม่อยู่จัดหนักจัดเต็มใส่เธอจนเกินไปมาก นับถอยหลังรอเลยถ้าเธอตื่นมาและหายดี หูผมคงชาไปหลายวันหรือไม่ก็ห้ามไม่ให้ผมเข้าใกล้หรือไม่ก็หาเรื่องให้ผมพาไปกินโอมากาเสะ ซึ่งบอกเลยว่าผมขอเลือกข้อสุดท้ายโดยไม่ต้องหยุดคิด "ขอโทษคับลูกหมู จุ๊บ" "โอ๊ย อ้วน เจ็บนะ" "สมน้ำหน้า เพราะนายนั่นแหละ" "ฉันเลยป่วย จนขาดเรียน" "โทษฉันคนเดียวได้ไง" "ตอนทำก็ช่วยกันขยันขันแข็งเหอะ" "นี่ หยุดเลยนะ" "อยากหูขาดใช่มั้ย" "ยอม ยอม ไม่สู้แล้ว" "ต่อไปนี้ นายมานอนห้องนั่งเล่นเลย" "เดี๋ยวฉันสั่งที่นอนปิคนิคมาให้" "ไม่" "หรือจะนอนบนลู่วิ่ง เลือก" "ไม่เลือก ตลกนะอ้วน" "เดี๋ยวพาไปกินโอมากาเสะ" "..." "ที่ญี่ปุ่น ตลอดทริป" "..." "ขอคิดดูก่อน" "หึ" ผมซื้อหวยไม่ถูก ทันทีที่เธอหายดีก็กลับมาโวยวายเสียงดังปากแจ๋วยืนอยู่บนโซฟาทำท่าทางเหมือนนางยักษ์ แถมยังเอามือเล็กเล็กมาดึงหูผมจนเกือบหลุดอีก แล้วก็ตามที่ผมคาดมาให้ผมเลือกว่าจะนอนตรงไหนทำเป็นใจดีจะซื้อที่นอนให้ผมใหม่ ผมเลยยื่นข้อเสนอสุดแสนจะสปอร์ตสายเปย์ไปให้ แต่ก็ยังทำเป็นลังเลทั้งที่แววตาของเธอมันลุกวาวเปล่งประกายอย่างปิดไม่มิด หึ ผ่านไปเกือบชั่วโมงกับความเงียบที่มีแต่เสียงแอร์จนผมอดแปลกใจไม่ได้ เลยเหลือบตาไปมองคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ภาพที่ฉันทำผมเกือบหลุดขำ เพราะยัยลูกหมูกำลังดูรีวิวอาหารที่ญี่ปุ่นเข้าหน้านั้นออกหน้านี้ ปลาดิบร้านไหนดี ข้าวหน้าเนื้อต้องไปที่ไหน เธอแคปชื่อร้านเก็บไว้หมดสงสัยรายชื่อร้านที่เธอลิสต์ไว้คงยาวเป็นหางว่าว ผมจึงกลับมานั่งกดสั่งยาช่วยย่อยมาหนึ่งลังทันที ยัยลูกหมู ก็คือยัยลูกหมู หึผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ ในห้องนั่งเล่นที่ห้องของเธอ และตอนนี้เป็นห้องของผมด้วย แต่อยู่ๆ ไอ้เตอร์เพื่อนผมก็ส่งรูปเข้าข้อความผมมารัวรัว จนผมต้องเปิดเข้าไปดูถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็น เป็นภาพยัยลูกหมูที่อยู่ในชุดเสื้อครอปไหล่ตกโชว์เอวลอยขึ้นจนเห็นบราด้านในกับกางเกงขาสั้นกุดเอวสูง ซึ่งมันเป็นคนละชุดกับที่เธอแต่งออกไปจากห้อง ยืนโพสต์ท่าก้มก้มเงยเงยอยู่กับลลิลเพื่อนของเธอ เพราะวันนี้เธอบอกว่ามีนัดถ่ายแบบกับเพื่อนในคอนเซ็ปต์ใสใสซนซน ซึ่งผมพอเห็นรูปตัวอย่างที่เธอเปิดให้ดูมันก็ดูเรียบร้อยดี ผมก็เลยไม่ได้ว่าหรือออกความเห็นอะไร แถมลลิลก็มารับออกไปตั้งแต่เช้า ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอแบกกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไปคงจะมีเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น แสบสุดสุด"เจอกันแน่ ยัยลูกหมู"ผมจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสบายแบบที่ผมชอบกับกางเกงยีนส์ขากระบอกตัวโปรด แล้วไปเปลี่ยนรถอีกคันที่คอนโดผมเพื่อไม่ให้มินกับลลิลจำรถผมได้แล้วจะสงสัย ส่วนไอ้เตอร์ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะมันคงแอบรู้อะไรมาไม่อย่างนั้นคงไม่จงใจส่งมาหาผมส่วนตัวแบบนี้ แล้วรีบเหยียบคันเร่งตร
"ลูกหมู เอารูปที่ไปถ่ายมาดูหน่อย""สวย สวย ไม่ต้องดูหรอก""เอา มา ดู" "จิ๊"ผมต้องรีบเอื้อมไปคว้าเอวเธอที่กำลังจะเดินหนีดูมีพิรุธมานั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างไปหยิบมือถือของเธอบังคับให้เธอปลดล็อคหน้าเจอแล้วเปิดเข้าไปในแกลอรี่รูปที่เธอถ่ายในวันนี้ นอกจากภาพที่ไอ้เตอร์ส่งมาให้แล้ว ยังมีชุดที่คล้ายๆ บิกินีต่างตรงข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีขาวส่วนข้างบนก็บราบิกินี่แบบคล้องคอนี่แหละ แถมท่าทางที่โพสต์ทำเส้นเลือดตรงขมับผมเต้นตุบตุบ ก่อนจะก้มลงไปงับที่แขนเล็กแรงแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งฟังเสียงแจ๋วแจ๋วเถียงข้างๆ คูๆ อีก ทำผมอดเลื่อนมือไปขยำก้อนกลมแรงแรงไม่ได้ "ไหนบอกใสใสไง""นี่ก็ใสใส""มันไม่เหมือนเรฟที่เธอเปิดให้ฉันดูเลยนะ""ชุดไม่เหมือน แต่ท่าเหมือนสุดสุด""อ๊ะ""แถเก่ง""บ่นเก่ง""ชอบโชว์นักนะ ไขมันเนี่ย""ถ้าบ่นอีกคำเดียว นายนอนโซฟา" "จิ๊"อยู่อยู่คดีก็พลิกมาหาผมเฉยให้ตายเถอะ! ผมจึงปล่อยให้เธอนั่งเล่นมือถืออยู่บนตักผมราวกับเป็นเบาะรองนั่ง ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ต่อเงียบเงียบเพราะไม่อยากนอนบนโซฟาแข็งแข็ง มีหันมาถามผมบ้างอยากจะลงรูปในไอจีให้ผมช่วยเลือกให้หน
ใกล้เวลาที่ยัยลลิลจะมารับไปเซอร์ไพรส์ยัยมินที่คอนโดและจะซื้อของไปทำชาบูกินกันที่นั่นด้วย ฉันจึงใส่แค่เสื้อยืดสีขาวเอวลอยเบาเบากับกางเกงยีนส์ขาสั้นสบายสบาย และสะพายกระเป๋าใบเล็กที่ใส่ได้แค่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นกับมือถือและลิปกลอสหนึ่งแท่ง แล้วเดินไปใส่รองเท้าหัวโตสีขาวที่ซื้อมาจากตลาดนัดคู่ละแปดสิบบาทแต่นิ่มสุดสุด สงสัยต้องให้เขาพาไปซื้อสีชมพูอีกคู่เอาไว้ใส่สลับกันน่าจะดี"จะไปแล้วหรอ""อืม ลลิลใกล้ถึงแล้ว""จะกลับกี่โมง เดี๋ยวไปรอรับ""มืดมืด""สี่ทุ่ม เดี๋ยวไปรับ""ไปกินข้าวต้มโต้รุ้ง""ค่อยกินพรุ่งนี้สิ""วันนี้ฉันไปกินชาบูแล้ว""อยากกินวันนี้""งอแงเอาอะไร""ถ้าเอาเธอได้ป่ะละ""ไปคุยกับลู่วิ่งโน่น"ฉันกับลลิลแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของไปทำชาบูอย่างเนื้อ ผัก น้ำจิ้ม แล้วก็น้ำซุป และขนมขบเคี้ยวอีกสามสี่ห่อน้ำอัดลมอีกสองขวดใหญ่ ก่อนจะพากันไปจ่ายเงินและขับตรงไปที่ห้องมินทันที เพราะเช็คแล้วว่ายัยมินไม่ได้เข้าร้าน นางก็ต้องอยู่ที่ห้องนี่แหละ เพราะถ้าไม่อยู่จากที่ฉันสองคนจะไปเซอร์ไพรส์คงโดนเซอร์ไพร์สกลับ แล้วก็ต้องเปลี่ยนที่กินเป็นห้องยัยลลิลแน่"เซอร์ไพรส์... ""ย... ยัยหน
"ฮัลโหลค่ะ พี่ตะวัน""ไปทานข้าวเย็นหรอคะ""เอ่อ คือ คือมายไม่สะดวกค่ะ""เจอกันนะคะ""บ๊ายบายค่ะ"ผมที่นอนดูทีวีอยู่บนตักของเธอที่โซฟาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์เสียงสองเสียงสามและชัดเจนว่าปลายสายเป็นผู้ชาย และชื่อนั้นคือรุ่นพี่ที่คอยตามจีบเธอตั้งแต่ปีสอง เหมือนจะโทรมาชวนไปกินข้าว สวยจริงจริงแม่คุณ ทีเวลาคุยกับผมนะเสียงหนึ่งตลอด แค่คิดก็หงุดหงิดชะมัด ก่อนจะแกล้งหลับตาตอนเธอกำลังวางสาย เดี๋ยวจะหาว่าผมแอบฟังเธอคุย แต่เธอดันทำให้ผมหงุดหงิดหนักกว่าเดิม"นาย ฉันไปกินข้าวข้างนอกนะ""อืม" "ฉันจะกลับไปนอนห้อง"ผมพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าแมคบุค กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถเดินออกมาทันที โดยไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไรต่อและก็ไม่ถามว่าจะไปไหนกับใครหรือกลับเมื่อไหร่เหมือนทุกครั้ง คงจะไปกับคนที่โทรมานั่นแหละ ก่อนจะส่งข้อความไปชวนไอ้สองคนนั้นไปดื่มที่เก่าเวลาเดิม บางทีผมคิดว่าผมก็ควรเว้นระยะกับเธอเหมือนกัน เพราะถ้าครบสามเดือนจริงๆ ถ้าเธออยากถอนหมั้น จะได้ง่ายสำหรับผมหน่อย ผมขับรถเอาของมาเก็บที่คอนโดและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารอเวลานัดไอ้พวกนั้น ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเพราะมีแจ้งเตือนว่าเธอโพสต์ไอจี เป็นรูป
ฉันนั่งดูข้อความที่นายนั่นส่งมาไม่หยุดอยู่นานก่อนจะกดเป็นโหมดเครื่องบิน แล้วหันไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อ พยายามจะไม่หันไปมองไม่สนใจเขาอีกต่อไป อยากจะทำอะไร จะเรียกสาวมานั่งตักหรือขี่คอด้วยก็เชิญเลย วันนี้ฉันจะถือว่าฉันไม่มีคู่หมั้น ส่วนพรุ่งนี้... ค่อยว่ากันอีกที"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง""ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย" "จะดีหรอ""แหมมมม ลลิล"ฉันกับยัยมินประสานเสียงใส่ยัยลลิลพร้อมกันด้วยความหมันไส้ ชั่วโมงนี้ช้าอดหมดสิทธิ์จ่ะสาว แต่เพื่อนฉันต้องได้ ว่าแล้วฉันไปจัดการดิลผู้ให้นางเลยดีกว่า พอถึงเพลงสุดท้ายของพี่นักร้องคนนี้ฉันเลยรีบเดินเบียดผู้คนไปยืนรอข้างเวทีเพื่อเริ่มแผนหาผู้ให้เพื่อนทันที แต่ฉันดันลืมหยิบมือถือมานี่หน่ะสิ จนพี่เขาเดินลงมาจากเวที ฉันก็พุ่งเข้าไปหาทันทีพร้อมกับบอกให้มองไปตรงเพื่อนฉันว่าเป็นคนไหนจะได้ตรงปกตรงใจซึ่งพอพี่เขาหันไปมองยัยลลิลเขาก็หันกลับมายื่นมือถือของเขาพร้อมเปิดไอจีให้ฉันพิมพ์ชื่อไอจียัยลลิลให้ก่อนเขาจะส่งข้อความทักไปหานาง หล่อแล้วก็ฉลาดเหมาะกับเพื่อนฉันที่สุดเลย คอมพลีทสุดสุดฉันกำลังจะเดินกลับโต๊ะแต่เหมือนมีแรงกระชากแขนฉันจากด้านหลังจนต้องหันกลับไปมองเตร
สายของอีกวัน ฉันพยายามพาตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนเท่าไหร่ก็ลุกไม่ขึ้น มันรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมดเพราะเขาคนเดียวเลยหาเรื่องรังแกฉันไม่หยุดทำให้ฉันต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้ อย่าให้ฉันลุกไหวนะจะกระโดดขึ้นไปหยุมหัวเขาให้ดูเลย"อ้วน ตื่นมาคุยกันก่อนดิ๊""..." "อย่ามามองแรง""อะไรของนาย" "จะไปไต้หวันทำไมไม่บอก""แล้วไปกับใคร""ไปกี่วัน""ก็นายไม่พาฉันไปญี่ปุ่นซะที""ก็ฉันกะเซอร์ไพร์สเธอไง""นี่ไง เจอฉันเซอร์ไพร์สกลับ""เป็นไง เซอร์ไพร์สป่ะ""ตลกเก่งจริงนะ แม่คุณ"เพี๊ยะ! สรุปเป็นเขาที่กำลังนั่งจัดการเลื่อนเที่ยวบินไปญี่ปุ่นเป็นหลังสอบเสร็จ และจองตั๋วไปไต้หวันกับฉันเพิ่มแทน แถมกำชับห้ามฉันไม่ให้งอแงไม่ไปเด็ดขาดเพราะเขาจ่ายเงินจองที่พักไปหมดแล้ว ข้อเสนอดีขนาดนี้ใครจะไม่ไปกัน ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาพักร่างอยู่ไม่นานก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดครอปสีขาวกับกางเกงยีนส์สีขาวสบายสบายออกไปทำอะไรกินลองท้องสักหน่อย สงสัยวันนี้ต้องงดออกไปข้างนอกเพราะต้องเก็บผ้าแยกผ้าทั้งของเขาและของฉันส่งซักสักหน่อย ไหนจะต้องแปลงร่างเป็นแม่บ้านกดโรบอทดูดฝุ่นให้ทำงานอีก"อ้วน ตื่นแล้วหรอ" "ฉันสั่
NooMine : ไต้หวันมีหนูมาย แล้วใจเธอมีใครรึยัง 😉วันแรกของทริปไต้หวัน เพราะฉันและเขาจองไฟล์ทแรกของวันทำให้เรามาถึงกันตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งฉันก็มาถึงโดยสมบูรณ์แบบเพราะได้กินไต้หวันก่อนเป็นอันดันแรกฟินสุดๆ ก่อนจะพากันไปเช็คอินที่โรงแรมและนอนพักเอาแรงสักหน่อยค่อยออกไปไหว้และเที่ยวในเมืองหลวงอย่างไทเป ซึ่งระหว่างนั่งรถฉันก็เลือกโพสต์รูปที่เขาถ่ายให้ฉันตอนถึงสนามบินไต้หวัน เป็นรูปที่ฉันนั่งกินชานมไต้หวันอยู่บนกระเป๋าเดินทางมองเหม่อไปทางด้านข้าง ส่วนเขาก็โพสต์รูปที่ฉันถ่ายให้เขาตอนอยู่สนามบินที่ไทย เป็นรูปที่ถ่ายจากด้านหลังตอนเขาเดินบันไดเลื่อนสะพายกระเป๋าใบใหญ่ใส่หมวกไหมพรม เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง กับกางเกงผ้าสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังสีขาวดำ ดูคูลสุดสุด พร้อมกับแคปชั่นภาษาอังกฤษที่ทำให้ฉันต้องหันไปถลึงตาใส่เขาทันทีเพราะเหมือนอยากประกาศให้โลกรู้ว่าเรามาด้วยกัน หรือจะพูดกันอีกอย่างก็คือ รูปคู่ที่ไม่มีคู่นั่นแหละK.NAI : Mi Thoe 🙃 (มีเธอ)เราพากันนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปวัดหลงซานกันเป็นที่แรกตามที่ฉันตั้งใจ เพราะชาวเน็ตบอกว่าที่นี่มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มากมาย และถ้าอยากขอพรด้านไหนใ
"ไม่ทราบว่าคุณหนูมายไปไต้หวันกับใครคะ" "..." "แล้วใครเป็นคนถ่ายรูปให้คะ"... ""คนรู้ใจหรือคนรู้จักคะ""... "ตอนนี้ฉันรับบทดาราสาวท่านหนึ่งกำลังโดนเหยี่ยวสาวสองคนยื่นไมค์ยิงคำถามรัวรัวไขข้อสงสัยที่เห็นฉันโพสต์รูปสวยๆ ตอนไปเที่ยวที่ไต้หวัน ซึ่งเขากับสองหนุ่มก็นั่งอยู่ด้วยแถมยังพากันจับตามองมาที่ฉันราวกับอยากรู้ว่าฉันจะตอบอย่างไรโดยเฉพาะคำถามในข้อสุดท้าย ก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดังราวกับชอบใจในคำตอบของฉัน แต่สายตาฉันก็แอบเหลือบเห็นสายตาที่ส่งมาอย่างคาดโทษของเขา ไม่รู้แหละชั่วโมงนี้ฉันต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน"คนขับรถค่ะ""..." "ฮ่าๆๆ /ฮ่าๆๆ" "ห๊ะ/ห๊ะ""แค่นี้?""ฉันหิว ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน""เปลี่ยนเรื่องเก่ง""มีพิรุธสุดสุด""ไม่รู้ ไม่รู้ ไปกัน"ดีที่ปกติฉันกับลลิลจะไปรถคันเดียวกับเขาและกายอยู่แล้ว ส่วนยัยมินหนีไปนั่งรถสปอร์ตสุดหรูกับติวเตอร์สองคน พวกเราพากันมากินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังที่มีกล้วยทอดแสนอร่อยในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยฯ พอมาถึงฉันก็รีบวิ่งไปจองคิว ก่อนจะพากันเดินไปที่โต๊ะสองฝั่งชายหญิง และเป็นเขาที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับฉันแถมยื่นขายาวมาชนฉันบ้างเหยียบเท้าฉันบ้
ก่อนเปิดเทอมสองวันผมพาเธอมาดูการแสดงบินโดรนที่พัทยาชมความสวยงามของเทคโนโลยีที่เหมือนกลุ่มดาวยามราตรีบนท้องฟ้าเพราะเกือบสามเดือนหลังจากนี้เราทั้งคู่คงยุ่งกับโปรเจ็คจบผมคงพาเธอไปเที่ยวได้น้อยลงเลยขอใช้เวลาช่วงนี้ให้คุ้มสักหน่อย ตอนนี้เราสองคนกำลังนอนมองกลุ่มดาวระยิบระยับที่กำลังแปลอักษรเป็นรูปต่างๆ อยู่บนรถสปอร์ตหรูสีดำเปิดประทุนที่จอดอยู่ริมหาดในที่นั่งของตัวเองมีผมเอาสองแขนแกร่งประสานท้ายทอยไว้เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าส่วนเธอก็หยิบมือถือมาถ่ายคลิปสั้นๆ ลงสตอรี่ของตัวเองด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจส่งเสียงตื่นเต้นตลอดการแสดง จนผมแอบคิดว่าถ้าวันนึงผมจะทำอะไรสักอย่างให้เธอการบินโดรนอาจจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผม คงต้องไปศึกษาหน่อยแล้วซิ และดูเหมือนจะมีคนรู้ทันความคิดผมชิงบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมาเป็นฉากฉากก่อนราวกับว่าถ้าผมไม่ทำให้จะไม่ยอมตกลงอย่างนั้นแหละ"นาย ถ้านายจะขอฉันแต่งงาน ใช้โดรนบินแล้วแปลเป็นตัวอักษรแบบนี้นะ""มันเหมือนหิ่งห้อย""โรแมนติกสุดสุดไปเลย""ไม่มีตังค์""..." "หึ""ไว้บอกคนอื่นก็ได้" "ไม่ง้อนายหรอก""อื้ออ" "อยากพูดไม่เข้าหูก่อน" "จุ๊บ" และผมก็ชอตฟิลเธอโดยการตอบปฏิเสธ
"ของฝากค้าบเพื่อนเพื่อน""ขนลุกหว่ะ""ไงมึง ทริปนี้เสือสิ้นลายเลยหรอวะ""ไม่มีใครเฉิดฉายเป็นเพื่อนกูแล้วสิ""หึ ไอ้กาย มึงไม่ต้องพูด""กูรู้ กูเห็น""...""กูไม่อยู่ไม่กี่วัน ตกข่าวเลยหรอหว่ะ""เจ๋อเหมือนกันนะมึงเนี่ย""อ้าวไอ้สัสเตอร์ กูพังร้านมินทันนะ"ผมบินกลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อช่วงเช้า ผมก็แชทหาไอ้เพื่อนเวรทั้งสองคนทันทีเพื่อนัดรับของฝากที่ผมตั้งใจเลือกมาให้อย่างพิถีพิถัน ทั้งๆ ที่ไอ้เตอร์ก็พึ่งกลับมาแต่ผมก็ซื้อมาฝากเพราะรายนั้นมันมัวแต่รนหาที่พาแฟนไปเที่ยว ซึ่งสถานที่นัดเจอก็เป็นที่อื่นไม่ได้นอกจากร้านเหล้าของไอ้เตอร์เหมือนกับเธอที่นัดลลิลไปเจอที่คาเฟ่มินิมินนี่เหมือนกัน แต่ผมรู้สึกว่าผมพลาดข่าวอะไรไปพอสมควรและเป็นไอ้เตอร์ผู้กุมความลับเอาไว้ถ้าจะให้เดาก็เดาได้ไม่ยากเพราะหลักฐานมันอยู่ที่คอไอ้กายอย่างชัดเจนกับรูปที่ผมแอบเห็นในหน้าจอมือถือมัน สงสัยผมต้องแอบหยิบคอลซิลเลอร์ของลูกหมูมาให้มันใช้หน่อยซะแล้วซึ่งวันนี้เราสามคนก็ดื่มแค่เบียร์เบาเบากันคนละกระป๋องเพราะไอ้เตอร์ต้องไปรับมินนี่ที่คอนโดลลิล ส่วนผมก็โดนยัยลูกหมูทิ้งให้อยู่คนเดียวเพราะเธออยากอยู่ช่วยลลิลทำคอนเทนต์รีวิวชอกโกแลตที่ห
ฟอด ฟอด ฟอด"ลูกหมู ตื่นเร็ว เดี๋ยวตกเครื่อง""...""...""ทำนิ่ง""ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก"ผมกำลังลังเลว่าจะเลื่อนไฟล์เที่ยวบินกลับไทยดีหรือจะอุ้มเธอไปอาบน้ำดีเพราะตอนนี้ยัยอ้วนนอนขี้เซาอยู่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นจนผมแอบกังวลลองเอามือไปอังที่จมูกเชิดเชิดดูถึงกับโล่งอกที่ยังมีลมหายใจอุ่นๆ มาปะทะที่มือผม จะว่าไปผมพึ่งปล่อยให้เธอนอนเมื่อตอนหกโมงเช้านี่เอง พอคิดได้อย่างนั้นผมเลยหยิบมือถือมาเลื่อนเที่ยวบินพร้อมกับเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มนิดหน่อยเพราะเลื่อนแบบกระทันหัน ถึงจะเป็นสายการบินของที่บ้านเธอก็ตามแต่เราสองคนมาในฐานะผู้โดยสารก็ต้องปฏิบัติตามกฎเหมือนกับคนอื่นอื่น ก่อนจะลงไปติดต่อที่พักเพื่อจองเพิ่มอีกหนึ่งคืน โชคดีที่ห้องนี้ไม่มีคนมาพักต่อเราเลยไม่ต้องย้ายไปห้องอื่นให้เธอได้พักผ่อนให้เต็มที่ และออกไปหาซื้อมัทฉะลาเต้เย็นมาไว้ให้เธอสักหน่อยจะได้สดชื่นเวลาตื่นไม่มาโวยวายทำท่าทางนางยักษ์ใส่ผม รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพ่อบ้านใจกล้าเข้าไปทุกวันแกร๊ก! "นายยย ไปไหนมา""ตื่นแล้วหรอ หิวมั้ย""หิว""ตกเครื่องแล้วแน่เลย""เลื่อนเรียบร้อยแล้วคับผม""เพราะนายนั่นแหละ" "ต้องเสียเงินเ
"ถ้าครบสามเดือน เราต่อเวลากันมั้ย""ไม่ถอนหมั้นกันแล้วได้มั้ย"ฉันเหมือนคนหูดับเหมือนมีคนมาปิดสวิตช์ไฟทันทีที่ได้ยินประโยคคำถามจากปากเขา ใจดวงน้อยของฉันมันเต้นระรัวราวกลับจะทะลุออกมาให้ได้ แต่ฉันจะไม่ลังเลที่จะตอบเลยถ้าเกิดเขาไม่ถามฉันตอนที่ฉันกำลังถือโอเด้งแสนอร่อยป้อนเข้าปากตัวเองอยู่ ไอ้พิทบูลนี่! ไม่โรแมนติกเอาซะเลย ชักจะโมโหแล้วนะ!ฉันเลยขอแกล้งเขาเล่นสักหน่อยโดยการทำเป็นไม่ได้ยินตั้งหน้าตั้งตากัดโอเด้งคำโตโตเคี้ยวตุ้ยๆ ต่อ และเดินนำเขาไปข้างหน้าเพื่อปิดความความเขินอายที่แสดงออกมาทางใบหน้า หมวกก็ไม่ได้ใส่ไม่มีอุปกรณ์มาช่วยปิดซะด้วยสิ แต่แปลกที่เงียบผิดปกติไม่มีคำพูดต่อ จนเขาก้าวขายาวๆ เอามือข้างที่เคยจับมือฉันล้วงกระเป๋าเดินผ่านฉันไปโดยไม่หันมามองหรือสนใจฉันเลยสักนิด เห็นกวนประสาทแบบนี้แต่จริงๆ แล้วเขาหน่ะ ขี้งอนมากมากกว่าฉันสามเท่าและเอาแต่ใจตัวเองสุดสุด ถ้าโดนขัดใจนิดหน่อยหรือถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็จะทำท่าทางงอแงเงียบประท้วงเหมือนตอนนี้ ฉันเลยตัดสินใจทำการใหญ่ ตั้งหลักให้มั่นแล้ววิ่งไปกระโดดขี่หลังเขาจนเขาเซไปข้างหน้าเกือบพากันล้มคะมำ ดีที่สองขาแกร่งของเขาแข็งแรงพอที่จะตั้
วันนี้เป็นวันที่สามที่ฉันกับเขาอยู่ที่ญี่ปุ่น เราสองคนตั้งใจจะไปตามล่าหาซูชิซาซิมิให้หนำใจไปเลย กินปลายังไงก็ไม่อ้วนอยู่แล้ว แถมเขายังชวนฉันออกกำลังกายทุกวันทุกคืนฉันก็ต้องเติมพลังเข้าไปให้เยอะหน่อยจะได้มีแรงสู้กับเขา เขาหน่ะแรงเยอะชะมัดเลย ถ้าไม่ติดว่าดูแลฉันดีมากมากนะฉันคงถีบเขาตกเตียงไปนานแล้ว ข้อหาสูบวิญญาณฉันไปจนหมดเราเลือกไปย่านโดทงโบริเมืองโอซาก้าแหล่งรวมอาหารอร่อย ที่นี่ยังเป็นต้นตำรับของทาโกะยากิที่มีไส้หมึกยักษ์ทั้งหอมนุ่มหนึบหนับไปกับเนื้อหมึกชิ้นโตเต็มคำจนแก้มฉันป่องออกมาเป็นลูกโป่ง ตามด้วยโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นร้านดังที่เปิดมานานมากกว่าหกสิบปีร้านนี้ให้เครื่องแน่นมาก ดีที่เราสองคนไหวตัวทันลองสั่งมาแค่หนึ่งที่แล้วแบ่งกันชิมคนละคำสองคำมันเลยยิ่งอร่อยแค่ร้อนไปนิดหน่อยร้อนจนควันออกปาก ก่อนเขาจะพาฉันไปร้านของเล่นเป็นการพักท้องและเขาก็อยากได้โมเดลกับอาร์ตทอยการ์ตูนเรื่องโปรดของเขา ซึ่งฉันก็ไปกับเขาอย่างไม่งอแงหรืออิดออดอยากจะตามใจเขาสักนิดเรียนรู้โลกของเขาสักหน่อย แล้วฉันก็อยากไปคีบตุ๊กตาเล่นด้วยถ้าคีบได้ถือว่าโชคดีแต่ถ้าคีบไม่ได้จะคิดบวกว่าได้สนุกแล้วกัน"นาย คีบตุ๊กต
ตอนนี้ผมกับเธอกำลังพากันนอนทิ้งร่างอยู่บนที่นอนกว้างสีขาวของโรงแรมในเมืองโตเกียวหลังจากใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินนานเกือบหกชั่วโมง ดีที่เป็นสายการบินของที่บ้านเธอ เราเลยได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งที่นั่งสามารถปรับเป็นที่นอนและมีผ้านวมนุ่มๆ ให้แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสุดพรีเมี่ยม แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการไปเที่ยวและการเดินทางแบบนอนสต๊อปทำให้เราลงความเห็นขอนอนเป็นผักนิ่งนิ่งกันก่อนค่อยลุยกันต่อพรุ่งนี้แล้วกัน ครั้งจะต่างคนต่างนอนก็ยังไงอยู่ผมจึงรวบร่างนุ่มนุ่มหอมหอมมาไว้ในอ้อมกอดโดยที่เธอซุกหน้าเข้าอกแกร่งของผม คิดถึงตัวนุ่มนิ่มจังไม่ได้นอนกอดตั้งหลายวัน"นายยยยยยยย""หืม""หิว""หึ อ้วนเอ้ย""ที่นี่มีบุฟเฟ่ต์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง""มีไอศครีมของโปรดเธอด้วย""ดีจัง รู้ใจสุดสุดไปเลย""รางวัล""จุ๊บ""ซี๊ด""ซนนะอ้วน"แล้วเธอก็แอบซนใช้ฟันเล็กๆ กัดเข้าที่หน้าอกของผมเล่นพร้อมกับเอานิ้วเรียวลูบตามรอยฟันที่เธอทิ้งไว้ ไอ้เจ็บมันไม่เจ็บเท่าไหร่แต่กลัวรู้สึกอย่างอื่นจะมามากกว่า ผมมันพวกเครื่องเร็วสตาร์ทติดง่ายซะด้วยสิ เดี๋ยวไม่ได้พาเธอลงไปหาอะไรกินก็พาลโมโหหิวใส่ผมอีก ยัยลูกหมูหน่ะนางมารร้
พองานเลี้ยงจบลง ผมก็รีบขออนุญาตคุณอาทั้งสองพาเธอกลับเองเพราะกลัวเธอจะหนีผมกลับไปนอนที่บ้านของเธอ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงนอนไม่หลับขอบตาผมจะต้องดำแน่ๆ และอยากจะพาเธอไปหาของอร่อยอร่อยกินเพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ง้อเธอแล้วได้ผลเร็วที่สุด ตลอดระยะเวลาเดือนกว่ากว่าที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะคู่หมั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบเวลาที่เธอไม่คุยด้วย ทุกครั้งที่เธองอนผม ข้างในใจผมมันจะต้องร้อนรุ่มกระวนกระวายเสมอ ถึงวันนี้ผมจะไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอโกรธแต่ผมก็อยากง้อเธอนะ เพราะเธอคือ 'ยัยลูกหมูของผม' ผมเลือกพาเธอมาร้านข้าวต้มโต้รุ่งทางกลับคอนโดเพราะอิ่มและเบาท้องย่อยค่อนข้างง่ายเธอจะได้ไม่เป็นกรดไหลย้อน แล้วร้านนี้ก็มีหมูกรอบคั่วพริกเกลืออร่อยๆ ของโปรดเธอด้วย พอกินเสร็จก็เหมือนเธอจะอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย ผมเลยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสและขอแกล้งเธอให้มันกระชุ่มกระชวยสักหน่อย"อ้วน หายงอนยัง""ก็บอกไม่ได้งอนไง""ถ้าไม่ได้งอน วันนี้ขึ้นให้หน่อยนะ""ไอ้บ้านาย!""ฮ่าๆๆ""มันไม่มีอะไรเลยเหอะ" "พึ่งรู้จักกันในงาน""แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ""ทีนายเห็นฉันคุยกับพี่ตะวัน นายยังว่าฉันเลย""ทำไมต้องพูดชื่อคนอื่น""
วันนี้ฉันกับเขาต้องมางานเปิดตัวบริษัทใหม่ของครอบครัวเราสองคนเป็นบริษัทให้เช่ารถยนต์มีตั้งแต่ซุปเปอร์ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตในประเทศเพียงระยะสั้นๆ โดยเราสองคนแยกกันเข้างานเพราะว่าเขาต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกชายแสนดีขับรถไปรับคุณลุงคุณป้า ส่วนฉัน คุณพ่อคุณแม่กำลังขับรถมารับที่คอนโดเพราะอยากใช้เวลาครอบครัวด้วยกันและอยากเข้างานพร้อมกันด้วย ซึ่งฉันก็มานั่งรอสวยสวยอยู่ข้างล่างพร้อมขึ้นรถยนต์หรูของคุณพ่อที่มีคุณแม่เป็นตุ๊กตาหน้ารถทันที"ไงเรา ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย""สนุกค่ะคุณพ่อ""หนูมายกินจนอ้วนไปหมดแล้วค่ะ""ไม่อ้วนสักหน่อยลูก มีน้ำมีนวลกำลังดี""แม่ว่าแบบนี้แหละกำลังสวย""ก็หนูมายสวยเหมือนคุณแม่นี่คะ""ปากหวานเหมือนพ่อเราเลยคนสวย""แล้วเจ้านาย ดูแลเราดีมั้ย""... ก็ดีค่ะ""แค่นี้?" "ค่ะ ดูแลดีแต่กวนประสาท""จนบางวันหนูมายปวดหัว""แล้วเริ่มรักหรือชอบชอบบ้างรึยังคะ" "... ""ไม่เป็นไร ค่อยๆ ดูกันไป"พอมาถึงที่งานคุณพ่อคุณแม่ก็พาฉันมาสวัสดีผู้ถือหุ้นคนอื่นของบริษัทสายการบินที่มาร่วมงานจนครบทั้งรายเล็กรายใหญ่ รวมถึงคุณลุงคุณป้าด้วย แต่ที่ฉันร
"ไม่ทราบว่าคุณหนูมายไปไต้หวันกับใครคะ" "..." "แล้วใครเป็นคนถ่ายรูปให้คะ"... ""คนรู้ใจหรือคนรู้จักคะ""... "ตอนนี้ฉันรับบทดาราสาวท่านหนึ่งกำลังโดนเหยี่ยวสาวสองคนยื่นไมค์ยิงคำถามรัวรัวไขข้อสงสัยที่เห็นฉันโพสต์รูปสวยๆ ตอนไปเที่ยวที่ไต้หวัน ซึ่งเขากับสองหนุ่มก็นั่งอยู่ด้วยแถมยังพากันจับตามองมาที่ฉันราวกับอยากรู้ว่าฉันจะตอบอย่างไรโดยเฉพาะคำถามในข้อสุดท้าย ก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดังราวกับชอบใจในคำตอบของฉัน แต่สายตาฉันก็แอบเหลือบเห็นสายตาที่ส่งมาอย่างคาดโทษของเขา ไม่รู้แหละชั่วโมงนี้ฉันต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน"คนขับรถค่ะ""..." "ฮ่าๆๆ /ฮ่าๆๆ" "ห๊ะ/ห๊ะ""แค่นี้?""ฉันหิว ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน""เปลี่ยนเรื่องเก่ง""มีพิรุธสุดสุด""ไม่รู้ ไม่รู้ ไปกัน"ดีที่ปกติฉันกับลลิลจะไปรถคันเดียวกับเขาและกายอยู่แล้ว ส่วนยัยมินหนีไปนั่งรถสปอร์ตสุดหรูกับติวเตอร์สองคน พวกเราพากันมากินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังที่มีกล้วยทอดแสนอร่อยในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยฯ พอมาถึงฉันก็รีบวิ่งไปจองคิว ก่อนจะพากันเดินไปที่โต๊ะสองฝั่งชายหญิง และเป็นเขาที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับฉันแถมยื่นขายาวมาชนฉันบ้างเหยียบเท้าฉันบ้