สายของอีกวัน ฉันพยายามพาตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนเท่าไหร่ก็ลุกไม่ขึ้น มันรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมดเพราะเขาคนเดียวเลยหาเรื่องรังแกฉันไม่หยุดทำให้ฉันต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้ อย่าให้ฉันลุกไหวนะจะกระโดดขึ้นไปหยุมหัวเขาให้ดูเลย
"อ้วน ตื่นมาคุยกันก่อนดิ๊" "..." "อย่ามามองแรง" "อะไรของนาย" "จะไปไต้หวันทำไมไม่บอก" "แล้วไปกับใคร" "ไปกี่วัน" "ก็นายไม่พาฉันไปญี่ปุ่นซะที" "ก็ฉันกะเซอร์ไพร์สเธอไง" "นี่ไง เจอฉันเซอร์ไพร์สกลับ" "เป็นไง เซอร์ไพร์สป่ะ" "ตลกเก่งจริงนะ แม่คุณ" เพี๊ยะ! สรุปเป็นเขาที่กำลังนั่งจัดการเลื่อนเที่ยวบินไปญี่ปุ่นเป็นหลังสอบเสร็จ และจองตั๋วไปไต้หวันกับฉันเพิ่มแทน แถมกำชับห้ามฉันไม่ให้งอแงไม่ไปเด็ดขาดเพราะเขาจ่ายเงินจองที่พักไปหมดแล้ว ข้อเสนอดีขนาดนี้ใครจะไม่ไปกัน ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาพักร่างอยู่ไม่นานก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดครอปสีขาวกับกางเกงยีนส์สีขาวสบายสบายออกไปทำอะไรกินลองท้องสักหน่อย สงสัยวันนี้ต้องงดออกไปข้างนอกเพราะต้องเก็บผ้าแยกผ้าทั้งของเขาและของฉันส่งซักสักหน่อย ไหนจะต้องแปลงร่างเป็นแม่บ้านกดโรบอทดูดฝุ่นให้ทำงานอีก "อ้วน ตื่นแล้วหรอ" "ฉันสั่งเส้นหมี่ราดหน้าทะเลมา" "กินกัน" "ขอบคุณนะ" "เปลี่ยนเป็นหอมแทนได้ป่ะ" ฟอดด "หึ" "ไปขับรถเล่นกัน" "อยากส่งผ้าซักก่อน" "ฉันแยกไว้หมดแล้ว" "รอแม่บ้านมารับ" "อยากดูดฝุ่นด้วย" ป๊อก! "โอ้ย ดีดมาได้ เจ็บนะ" "โรบอทมันวิ่งทั่วห้อง ไม่เห็น?" "สรุปไม่ไป?" "ไป! " "รีบกิน แล้วไปเปลี่ยนชุด" "ไปชุดนี้แหละ ชิลชิล" "เปลี่ยน" ฉันว่าฉันเอาแต่ใจตัวเองแล้วนะ แต่พอมาเจอหมอนี่ ฉันดูเบาดูง่ายง่ายสบายสบายไปเลย เพราะเป็นเขาที่เอาแต่ใจตัวเองสุดสุดแถมยังคอยมากำกับมาเจ้ากี้เจ้าการการแต่งตัวของฉันอีก ขนาดคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่เคยห้ามฉันเรื่องนี้เลย จบกันเจ้าหญิงแห่งวงการแฟชั่นอย่างหนูมาย ระหว่างกินมื้อเช้าแสนอร่อย เขาก็บอกว่าจะพาไปพัทยาใกล้ๆ เย็นเย็นค่อยขับรถกลับ ก่อนที่ฉันจะเป็นคนเก็บจานไปล้างเพราะเขาสั่งมาให้แล้วจะให้เขาล้างด้วยก็ยังไงอยู่ แล้วรีบไปเปลี่ยนชุดที่คิดว่าถ่ายรูปตรงไหนก็สวย เป็นกระโปรงยาวสีขาวลายโบว์เล็กเล็กสีชมพูกับเสื้อกล้ามพอดีตัวสีขาวดูเข้าชุดกันสุดสุด โดยไม่ลืมที่จะเตรียมหมวกกับแว่นกันแดดและสเปรย์กันแดดไปด้วย พอออกมาก็เห็นเขานั่งเล่นเกมส์รออยู่ที่โซฟาในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวเหมือนเดิม แล้วยังหันมาแสกนชุดฉันราวกับว่าถ้าไม่ผ่านจะไม่พาออกไปอย่างนั้นแหละ "จะแวะซื้อชาไทยมั้ย" "ค่อยไปกินที่คาเฟ่ทีเดียวดีกว่า" "ไปคาเฟ่นี้กันมั้ย ติดทะเล" "อืม เธอเปิดแมพ" "ขากลับเราจะผ่านเขื่อนตรงนี้มั้ยอะ" "ถ่ายรูปน่าจะสวย" "ผ่านหมดแหละ ถ้าจะไป" ดีที่วันนี้แดดไม่แรงมากเพราะฉันอยากไปถ่ายรูปตรงเบาะนั่งสีชมพูริมหาด แต่ก็ต้องฉีดสเปรย์กันแดดช่วยป้องกันไว้สักหน่อย โดยไม่ลืมที่จะบอกให้เขายื่นสองแขนแกร่งมาให้ฉันฉีดสเปรย์ลงไปที่ผิวของเขาด้วยเป็นการตอบแทนที่อุตส่าห์ขับรถพาฉันมาเที่ยว ระหว่างที่รอชาไทยหวานร้อย อเมริกาโน่เย็นไม่หวาน ครัวซองต์แฮมชีสของเขาและครัวซองค์อัลมอนด์ของฉัน เขาก็รับหน้าที่เป็นตากล้องคอยตามถ่ายรูปให้ฉัน ไม่ใช่แค่ฉันที่ชอบเป็นแบบถ่ายรูปแต่เป็นเขาด้วยที่ชอบถ่ายรูป มุมไหนดีแสงตรงไหนสวยเขาจะคอยเรียกฉันให้ไปยืน ทำท่าเหมือนเผลอบ้าง ยืนหัวเราะคนเดียวบ้าง ซึ่งฉันก็ทำตามอย่างไม่อิดออด ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามากอดฉันไว้ใช้มือหนากดหน้าฉันให้ซบเข้าหน้าอกแกร่ง แล้วยื่นกล้องไปถ่ายจากด้านหลังให้เห็นแต่หน้าเขา ทำให้ใจฉันเต้นดังตึกตัก และฉันก็ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขาเหมือนกัน K.NAI: 🫣 ผมกดโพสต์รูปคู่ที่เห็นแค่หน้าผมลงในไอจีของผมทันทีที่เข้ามานั่งหลบแดดตากแอร์เย็นเย็นในร้านและจิบกาแฟคลายร้อน มันเป็นรูปที่ผมใช้เวลาคิดอยู่นานหลายนาทีว่าจะถ่ายเก็บไว้ดีมั้ย เพราะองค์ประกอบที่ครบ แสงก็สวย มุมก็ดี นางแบบก็น่ารัก สมองเลยสั่งให้ผมทำตามเสียงหัวใจตัวเองก้าวเข้าไปหาแล้วกอดยัยลูกหมูเอาไว้ แล้วกดชัตเตอร์ทันที ซึ่งอันที่จริงผมแอบถ่ายรูปคู่แบบนี้ของผมกับเธอไว้หลายรูปนะแต่แอบถ่ายได้แค่ตอนเธอหลับ และนี่เป็นรูปคู่รูปแรกที่เราสองคนไม่ตีกัน ได้ยินเพียงเสียงหัวใจของเราเท่านั้น "นายลงรูปแบบนี้ แล้วฉันจะลงอะไร" "อ้วน ฉันถ่ายให้เธอเป็นร้อยรูป" "เธอลงสิบรูปก็ไม่ซ้ำรูปนี้หรอก" "..." "นี่ น่าหมันเขี้ยวนัก" "โอ๊ย หยิกมาได้ จมูกฉันพังพอดี" "จมูกหมู" "ฮ่าๆๆ" ผมเอื้อมมือไปหยิกจมูกเธอที่กำลังนั่งทำหน้างอแงอยากจะลงรูปบ้างแต่กลัวคนอื่นจับสังเกตได้เลยไม่กล้าลง ผมจึงหยิบมือถือของเธอที่เข้าแอคเคาท์ไอจีค้างไว้อยู่มาเลือกรูปจากแกลลอรี่สิบห้ารูปที่สวยคนละแบบคนละมุม ใส่แคปชั่นเป็นอิโมจิ รูปกล้อง แล้วกดโพสต์ทันที #อยากมีตากล้องส่วนตัวแบบนี้ 📸 #อ่านเพลินๆ ขำๆกันเหมือนเดิมจ้าNooMine : ไต้หวันมีหนูมาย แล้วใจเธอมีใครรึยัง 😉วันแรกของทริปไต้หวัน เพราะฉันและเขาจองไฟล์ทแรกของวันทำให้เรามาถึงกันตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งฉันก็มาถึงโดยสมบูรณ์แบบเพราะได้กินไต้หวันก่อนเป็นอันดันแรกฟินสุดๆ ก่อนจะพากันไปเช็คอินที่โรงแรมและนอนพักเอาแรงสักหน่อยค่อยออกไปไหว้และเที่ยวในเมืองหลวงอย่างไทเป ซึ่งระหว่างนั่งรถฉันก็เลือกโพสต์รูปที่เขาถ่ายให้ฉันตอนถึงสนามบินไต้หวัน เป็นรูปที่ฉันนั่งกินชานมไต้หวันอยู่บนกระเป๋าเดินทางมองเหม่อไปทางด้านข้าง ส่วนเขาก็โพสต์รูปที่ฉันถ่ายให้เขาตอนอยู่สนามบินที่ไทย เป็นรูปที่ถ่ายจากด้านหลังตอนเขาเดินบันไดเลื่อนสะพายกระเป๋าใบใหญ่ใส่หมวกไหมพรม เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง กับกางเกงผ้าสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังสีขาวดำ ดูคูลสุดสุด พร้อมกับแคปชั่นภาษาอังกฤษที่ทำให้ฉันต้องหันไปถลึงตาใส่เขาทันทีเพราะเหมือนอยากประกาศให้โลกรู้ว่าเรามาด้วยกัน หรือจะพูดกันอีกอย่างก็คือ รูปคู่ที่ไม่มีคู่นั่นแหละK.NAI : Mi Thoe 🙃 (มีเธอ)เราพากันนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปวัดหลงซานกันเป็นที่แรกตามที่ฉันตั้งใจ เพราะชาวเน็ตบอกว่าที่นี่มีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มากมาย และถ้าอยากขอพรด้านไหนใ
"ไม่ทราบว่าคุณหนูมายไปไต้หวันกับใครคะ" "..." "แล้วใครเป็นคนถ่ายรูปให้คะ"... ""คนรู้ใจหรือคนรู้จักคะ""... "ตอนนี้ฉันรับบทดาราสาวท่านหนึ่งกำลังโดนเหยี่ยวสาวสองคนยื่นไมค์ยิงคำถามรัวรัวไขข้อสงสัยที่เห็นฉันโพสต์รูปสวยๆ ตอนไปเที่ยวที่ไต้หวัน ซึ่งเขากับสองหนุ่มก็นั่งอยู่ด้วยแถมยังพากันจับตามองมาที่ฉันราวกับอยากรู้ว่าฉันจะตอบอย่างไรโดยเฉพาะคำถามในข้อสุดท้าย ก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดังราวกับชอบใจในคำตอบของฉัน แต่สายตาฉันก็แอบเหลือบเห็นสายตาที่ส่งมาอย่างคาดโทษของเขา ไม่รู้แหละชั่วโมงนี้ฉันต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน"คนขับรถค่ะ""..." "ฮ่าๆๆ /ฮ่าๆๆ" "ห๊ะ/ห๊ะ""แค่นี้?""ฉันหิว ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน""เปลี่ยนเรื่องเก่ง""มีพิรุธสุดสุด""ไม่รู้ ไม่รู้ ไปกัน"ดีที่ปกติฉันกับลลิลจะไปรถคันเดียวกับเขาและกายอยู่แล้ว ส่วนยัยมินหนีไปนั่งรถสปอร์ตสุดหรูกับติวเตอร์สองคน พวกเราพากันมากินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังที่มีกล้วยทอดแสนอร่อยในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยฯ พอมาถึงฉันก็รีบวิ่งไปจองคิว ก่อนจะพากันเดินไปที่โต๊ะสองฝั่งชายหญิง และเป็นเขาที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับฉันแถมยื่นขายาวมาชนฉันบ้างเหยียบเท้าฉันบ้
วันนี้ฉันกับเขาต้องมางานเปิดตัวบริษัทใหม่ของครอบครัวเราสองคนเป็นบริษัทให้เช่ารถยนต์มีตั้งแต่ซุปเปอร์ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้ชีวิตในประเทศเพียงระยะสั้นๆ โดยเราสองคนแยกกันเข้างานเพราะว่าเขาต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกชายแสนดีขับรถไปรับคุณลุงคุณป้า ส่วนฉัน คุณพ่อคุณแม่กำลังขับรถมารับที่คอนโดเพราะอยากใช้เวลาครอบครัวด้วยกันและอยากเข้างานพร้อมกันด้วย ซึ่งฉันก็มานั่งรอสวยสวยอยู่ข้างล่างพร้อมขึ้นรถยนต์หรูของคุณพ่อที่มีคุณแม่เป็นตุ๊กตาหน้ารถทันที"ไงเรา ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย""สนุกค่ะคุณพ่อ""หนูมายกินจนอ้วนไปหมดแล้วค่ะ""ไม่อ้วนสักหน่อยลูก มีน้ำมีนวลกำลังดี""แม่ว่าแบบนี้แหละกำลังสวย""ก็หนูมายสวยเหมือนคุณแม่นี่คะ""ปากหวานเหมือนพ่อเราเลยคนสวย""แล้วเจ้านาย ดูแลเราดีมั้ย""... ก็ดีค่ะ""แค่นี้?" "ค่ะ ดูแลดีแต่กวนประสาท""จนบางวันหนูมายปวดหัว""แล้วเริ่มรักหรือชอบชอบบ้างรึยังคะ" "... ""ไม่เป็นไร ค่อยๆ ดูกันไป"พอมาถึงที่งานคุณพ่อคุณแม่ก็พาฉันมาสวัสดีผู้ถือหุ้นคนอื่นของบริษัทสายการบินที่มาร่วมงานจนครบทั้งรายเล็กรายใหญ่ รวมถึงคุณลุงคุณป้าด้วย แต่ที่ฉันร
พองานเลี้ยงจบลง ผมก็รีบขออนุญาตคุณอาทั้งสองพาเธอกลับเองเพราะกลัวเธอจะหนีผมกลับไปนอนที่บ้านของเธอ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงนอนไม่หลับขอบตาผมจะต้องดำแน่ๆ และอยากจะพาเธอไปหาของอร่อยอร่อยกินเพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ง้อเธอแล้วได้ผลเร็วที่สุด ตลอดระยะเวลาเดือนกว่ากว่าที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะคู่หมั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบเวลาที่เธอไม่คุยด้วย ทุกครั้งที่เธองอนผม ข้างในใจผมมันจะต้องร้อนรุ่มกระวนกระวายเสมอ ถึงวันนี้ผมจะไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอโกรธแต่ผมก็อยากง้อเธอนะ เพราะเธอคือ 'ยัยลูกหมูของผม' ผมเลือกพาเธอมาร้านข้าวต้มโต้รุ่งทางกลับคอนโดเพราะอิ่มและเบาท้องย่อยค่อนข้างง่ายเธอจะได้ไม่เป็นกรดไหลย้อน แล้วร้านนี้ก็มีหมูกรอบคั่วพริกเกลืออร่อยๆ ของโปรดเธอด้วย พอกินเสร็จก็เหมือนเธอจะอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย ผมเลยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสและขอแกล้งเธอให้มันกระชุ่มกระชวยสักหน่อย"อ้วน หายงอนยัง""ก็บอกไม่ได้งอนไง""ถ้าไม่ได้งอน วันนี้ขึ้นให้หน่อยนะ""ไอ้บ้านาย!""ฮ่าๆๆ""มันไม่มีอะไรเลยเหอะ" "พึ่งรู้จักกันในงาน""แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ""ทีนายเห็นฉันคุยกับพี่ตะวัน นายยังว่าฉันเลย""ทำไมต้องพูดชื่อคนอื่น""
ตอนนี้ผมกับเธอกำลังพากันนอนทิ้งร่างอยู่บนที่นอนกว้างสีขาวของโรงแรมในเมืองโตเกียวหลังจากใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินนานเกือบหกชั่วโมง ดีที่เป็นสายการบินของที่บ้านเธอ เราเลยได้นั่งชั้นเฟิร์สคลาส ซึ่งที่นั่งสามารถปรับเป็นที่นอนและมีผ้านวมนุ่มๆ ให้แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสุดพรีเมี่ยม แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการไปเที่ยวและการเดินทางแบบนอนสต๊อปทำให้เราลงความเห็นขอนอนเป็นผักนิ่งนิ่งกันก่อนค่อยลุยกันต่อพรุ่งนี้แล้วกัน ครั้งจะต่างคนต่างนอนก็ยังไงอยู่ผมจึงรวบร่างนุ่มนุ่มหอมหอมมาไว้ในอ้อมกอดโดยที่เธอซุกหน้าเข้าอกแกร่งของผม คิดถึงตัวนุ่มนิ่มจังไม่ได้นอนกอดตั้งหลายวัน"นายยยยยยยย""หืม""หิว""หึ อ้วนเอ้ย""ที่นี่มีบุฟเฟ่ต์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง""มีไอศครีมของโปรดเธอด้วย""ดีจัง รู้ใจสุดสุดไปเลย""รางวัล""จุ๊บ""ซี๊ด""ซนนะอ้วน"แล้วเธอก็แอบซนใช้ฟันเล็กๆ กัดเข้าที่หน้าอกของผมเล่นพร้อมกับเอานิ้วเรียวลูบตามรอยฟันที่เธอทิ้งไว้ ไอ้เจ็บมันไม่เจ็บเท่าไหร่แต่กลัวรู้สึกอย่างอื่นจะมามากกว่า ผมมันพวกเครื่องเร็วสตาร์ทติดง่ายซะด้วยสิ เดี๋ยวไม่ได้พาเธอลงไปหาอะไรกินก็พาลโมโหหิวใส่ผมอีก ยัยลูกหมูหน่ะนางมารร้
วันนี้เป็นวันที่สามที่ฉันกับเขาอยู่ที่ญี่ปุ่น เราสองคนตั้งใจจะไปตามล่าหาซูชิซาซิมิให้หนำใจไปเลย กินปลายังไงก็ไม่อ้วนอยู่แล้ว แถมเขายังชวนฉันออกกำลังกายทุกวันทุกคืนฉันก็ต้องเติมพลังเข้าไปให้เยอะหน่อยจะได้มีแรงสู้กับเขา เขาหน่ะแรงเยอะชะมัดเลย ถ้าไม่ติดว่าดูแลฉันดีมากมากนะฉันคงถีบเขาตกเตียงไปนานแล้ว ข้อหาสูบวิญญาณฉันไปจนหมดเราเลือกไปย่านโดทงโบริเมืองโอซาก้าแหล่งรวมอาหารอร่อย ที่นี่ยังเป็นต้นตำรับของทาโกะยากิที่มีไส้หมึกยักษ์ทั้งหอมนุ่มหนึบหนับไปกับเนื้อหมึกชิ้นโตเต็มคำจนแก้มฉันป่องออกมาเป็นลูกโป่ง ตามด้วยโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นร้านดังที่เปิดมานานมากกว่าหกสิบปีร้านนี้ให้เครื่องแน่นมาก ดีที่เราสองคนไหวตัวทันลองสั่งมาแค่หนึ่งที่แล้วแบ่งกันชิมคนละคำสองคำมันเลยยิ่งอร่อยแค่ร้อนไปนิดหน่อยร้อนจนควันออกปาก ก่อนเขาจะพาฉันไปร้านของเล่นเป็นการพักท้องและเขาก็อยากได้โมเดลกับอาร์ตทอยการ์ตูนเรื่องโปรดของเขา ซึ่งฉันก็ไปกับเขาอย่างไม่งอแงหรืออิดออดอยากจะตามใจเขาสักนิดเรียนรู้โลกของเขาสักหน่อย แล้วฉันก็อยากไปคีบตุ๊กตาเล่นด้วยถ้าคีบได้ถือว่าโชคดีแต่ถ้าคีบไม่ได้จะคิดบวกว่าได้สนุกแล้วกัน"นาย คีบตุ๊กต
"ถ้าครบสามเดือน เราต่อเวลากันมั้ย""ไม่ถอนหมั้นกันแล้วได้มั้ย"ฉันเหมือนคนหูดับเหมือนมีคนมาปิดสวิตช์ไฟทันทีที่ได้ยินประโยคคำถามจากปากเขา ใจดวงน้อยของฉันมันเต้นระรัวราวกลับจะทะลุออกมาให้ได้ แต่ฉันจะไม่ลังเลที่จะตอบเลยถ้าเกิดเขาไม่ถามฉันตอนที่ฉันกำลังถือโอเด้งแสนอร่อยป้อนเข้าปากตัวเองอยู่ ไอ้พิทบูลนี่! ไม่โรแมนติกเอาซะเลย ชักจะโมโหแล้วนะ!ฉันเลยขอแกล้งเขาเล่นสักหน่อยโดยการทำเป็นไม่ได้ยินตั้งหน้าตั้งตากัดโอเด้งคำโตโตเคี้ยวตุ้ยๆ ต่อ และเดินนำเขาไปข้างหน้าเพื่อปิดความความเขินอายที่แสดงออกมาทางใบหน้า หมวกก็ไม่ได้ใส่ไม่มีอุปกรณ์มาช่วยปิดซะด้วยสิ แต่แปลกที่เงียบผิดปกติไม่มีคำพูดต่อ จนเขาก้าวขายาวๆ เอามือข้างที่เคยจับมือฉันล้วงกระเป๋าเดินผ่านฉันไปโดยไม่หันมามองหรือสนใจฉันเลยสักนิด เห็นกวนประสาทแบบนี้แต่จริงๆ แล้วเขาหน่ะ ขี้งอนมากมากกว่าฉันสามเท่าและเอาแต่ใจตัวเองสุดสุด ถ้าโดนขัดใจนิดหน่อยหรือถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็จะทำท่าทางงอแงเงียบประท้วงเหมือนตอนนี้ ฉันเลยตัดสินใจทำการใหญ่ ตั้งหลักให้มั่นแล้ววิ่งไปกระโดดขี่หลังเขาจนเขาเซไปข้างหน้าเกือบพากันล้มคะมำ ดีที่สองขาแกร่งของเขาแข็งแรงพอที่จะตั้
ฟอด ฟอด ฟอด"ลูกหมู ตื่นเร็ว เดี๋ยวตกเครื่อง""...""...""ทำนิ่ง""ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก"ผมกำลังลังเลว่าจะเลื่อนไฟล์เที่ยวบินกลับไทยดีหรือจะอุ้มเธอไปอาบน้ำดีเพราะตอนนี้ยัยอ้วนนอนขี้เซาอยู่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นจนผมแอบกังวลลองเอามือไปอังที่จมูกเชิดเชิดดูถึงกับโล่งอกที่ยังมีลมหายใจอุ่นๆ มาปะทะที่มือผม จะว่าไปผมพึ่งปล่อยให้เธอนอนเมื่อตอนหกโมงเช้านี่เอง พอคิดได้อย่างนั้นผมเลยหยิบมือถือมาเลื่อนเที่ยวบินพร้อมกับเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มนิดหน่อยเพราะเลื่อนแบบกระทันหัน ถึงจะเป็นสายการบินของที่บ้านเธอก็ตามแต่เราสองคนมาในฐานะผู้โดยสารก็ต้องปฏิบัติตามกฎเหมือนกับคนอื่นอื่น ก่อนจะลงไปติดต่อที่พักเพื่อจองเพิ่มอีกหนึ่งคืน โชคดีที่ห้องนี้ไม่มีคนมาพักต่อเราเลยไม่ต้องย้ายไปห้องอื่นให้เธอได้พักผ่อนให้เต็มที่ และออกไปหาซื้อมัทฉะลาเต้เย็นมาไว้ให้เธอสักหน่อยจะได้สดชื่นเวลาตื่นไม่มาโวยวายทำท่าทางนางยักษ์ใส่ผม รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพ่อบ้านใจกล้าเข้าไปทุกวันแกร๊ก! "นายยย ไปไหนมา""ตื่นแล้วหรอ หิวมั้ย""หิว""ตกเครื่องแล้วแน่เลย""เลื่อนเรียบร้อยแล้วคับผม""เพราะนายนั่นแหละ" "ต้องเสียเงินเ
ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก
"สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษคับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ
และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ
เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม
"ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ
"อ้วน ลืมอะไรรึป่าว""ไม่ลืม ไม่ลืม""ลืม จุ๊บ""ผมยุ่งหมดละนะ""จะสวยไปให้ใครดู""เยอะแยะ""อื้อออ นายมันเป็นรอยเห็นมั้ย""สมน้ำหน้า""..." "ซี๊ดดด" จากที่ฉันกำลังจะรีบลงจากรถขึ้นไปออฟฟิตคุณพ่อในฐานะนักศึกษาฝึกงานกลับต้องมานั่งจิ้มคอลซิลเลอร์ปกปิดรอยที่เขาพึ่งสร้างไว้ที่ต้นคอของฉันอย่างเอาแต่ใจเมื่อครู่เพียงแค่ฉันแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ซึ่งฉันก็เอาคืนเขาโดยการงับเข้าไปที่ต้นคอแกร่งของเขาเต็มแรงจนขึ้นรอยแดงอย่างชัดเจนและจะไม่ให้ยืมคอลซิลเลอร์ด้วยคอยดู แต่เขาก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรแถมยังยกยิ้มเหมือนชอบอกชอบใจที่มีรอยอีกด้วย ทำฉันถึงกับมองค้อนเขาวงใหญ่ด้วยความหมันไส้ขั้นสุด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาลลิลที่นั่งรออยู่ตรงล็อบบี้เหมือนทุกวัน"ยัยมาย ฉันนึกว่าแกจะพาน้องชานมมาด้วย""ฉันก็อยากพามาแต่กลัวพี่พี่พนักงานคนอื่นจะว่าเอาหน่ะ""ค่อยพาไปเล่นที่คาเฟ่ยัยมินอาทิตย์นี้ดีมั้ย""อาทิตย์นี้หรอ ฉันขอยังไม่คอนเฟิร์มนะ""จ้าาา ชั่วโมงบินสูงมาก...ก""นิดนึง อิอิ"ฉันกับลลิลได้รับโจทย์ให้ออกแบบแบนเนอร์หน้าเว็บเบราว์เซอร์ของบริษัทใหม่ให้ดูดึงดูดและเป็นที่น่าสนใจจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับหน้าแ
noomine : น้องชานม+มามี๊+ปาปี๊ @k.naimini.minnie : ต้องมีน้องชาเย็นด้วยสิl.lalil : คุณน้าต้องได้เล่นกะน้องkkay : @k.nai คุณพ่อลูก1tutor.t : รูปนี้ควรมีแค่มายกับชานมk.nai : @kkay @tutor.t อิจฉากู? หลังจากที่ฉันโพสต์รูปครอบครัวลงโซเชี่ยลเพื่ออวดความน่ารักของลูกสาวให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชม สองสาวกับสองหนุ่มก็พากันมาคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ส่วนเขาก็นั่งยิ้มบ้างหัวเราะบ้างเล่นอยู่กับน้องไม่ห่าง อยากพาชานมไปให้มินนี่กับลลิลรู้จักอย่างเป็นทางการจัง รอโตอีกสักหน่อยแล้วกันนะเจ้าตัวเล็กเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์คุณแม่เลยออกไปตีกอล์ฟเป็นเพื่อนคุณพ่อและจะกลับมาทานข้าวเย็นกับเราสองคนอย่างพร้อมหน้า ทำให้วันนี้ฉันกับเขาได้อยู่ทำหน้าที่มามี๊กับปาปี๊ตลอดทั้งวัน ซึ่งคนที่ตื่นเต้นและไม่ยอมปล่อยน้องเลยกลายเป็นเขา ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้อุ้มลูกสาวเลยสักนิด ฉันเลยทำได้แค่ยื่นมือไปเกาคางน้องที่นอนตัวกลมอยู่บนตักแกร่งเท่านั้น ทีตอนนั้นทำเป็นคัดค้านไม่พักพอมาตอนนี้กลับยิ้มไม่หุบเล่นไม่หยุดเลย คอยดูนะ! ฉันจะสอนให้ลูกสาวแก้แค้นเขาแทนฉัน"นาย พรุ่งนี้ไปซื้อที่นอนให้ลูกกันมั้ย""นายซื้อมาแล้ว""ไปดูอาหารเปียกกับวิตามิน
ตอนนี้เป็นเวลาตีสามผมต้องรีบวิ่งลงมามินิมาร์ทข้างล่างคอนโดเพื่อซื้อของใช้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างผ้าอนามัยให้ลูกหมูเพราะบนห้องหมดเกลี้ยงและเธอก็ลืมดูวันที่จดไว้ ดีที่ผมไปซื้อของใช้กับเธอตลอดเลยพอจะรู้ว่าเธอใช้แบบไหนยี่ห้ออะไรไม่อย่างงั้นผมต้องมายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าชั้นวางสินค้าแน่แน่ ก่อนจะเดินไปหาผงขิงสำเร็จรูปไว้ชงให้เธอกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เป็นผมเองที่ไม่อยากให้เธอกินยาแก้ปวดมากจนเกินไปเพราะมันส่งผลข้างเคียงให้เธอในอนาคตพอได้ของจนครบผมก็รีบวิ่งขึ้นไปให้เธอที่นั่งรออยู่ในห้องน้ำจนตัวซีด ออกมายืนรอปล่อยให้เธอจัดการตัวเองจนเรียบร้อย ผมก็เข้าไปช้อนตัวอุ้มเธอที่ปวดท้องจนตัวงอออกมาวางลงบนเตียงนอน แล้วปลีกตัวมาต้มน้ำร้อนใส่กระเป๋าน้ำร้อนรูปตุ๊กตาหมูสีชมพูและนำมาวางอังลงบนหน้าท้องของเธอ นั่งมองเธอที่หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า มีเม็ดเหงื่อซึมตามกรอบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่สบายตัวแค่ไหน ก่อนเธอจะพลิกตัวมาดึงแขนแกร่งของผมไปกอดไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาให้เธอได้อีกทางจนผมไม่กล้าจะขยับตัวไปไหนได้แต่นั่งพิงหัวเตียงแล้วพักสายตาเอาแรงสักหน่อยเพื่อจะได้ออกไปซื้อ