"นาย กินโรตีสายไหมมั้ย"
"ฉันม้วนเผื่อ" "กินไม่หมดก็บอก" "ดี ไม่ต้องกิน ฉันกินเอง" "อื้อ" "จุ๊บ" "อืม อร่อย" "อ้วน กินอีก" ฉันอุตส่าห์ใจดีนั่งม้วนโรตีสายไหมอยู่ที่พื้นตรงโซฟาหน้าทีวีเรียงใส่จานไว้เผื่อเขาที่นั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟาจะได้เอื้อมมาหยิบกินได้ง่ายง่าย ไม่ต้องมานั่งม้วนเอง แต่ไอ้พิทบูลก็คือไอ้พิทบูลนั่นแหละ ต้องหาเรื่องพูดว่าฉันคอยเถียงฉัน พอฉันหยิบขึ้นมากินเองก็มาทำนิสัยเสียโน้มหน้าเข้ามาเอาปากเขามาแย่งจากปากของฉันที่กำลังกัดอยู่แถมมาขโมยจุ๊บฉันอีก ก่อนจะตีมึนเด้งตัวกลับไปนั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิม ส่วนฉันทำได้แต่หันไปมองเขาตาขวางแล้วกลับมากินต่อด้วยสีหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศ จนตอนนี้กลายเป็นว่าฉันต้องคอยป้อนเขาไปด้วย สบายเกินหน้าเกินตาไปมาก เรานั่งเล่นกันอยู่บนโซฟาคนละมุมโดยที่ฉันดูซีรีย์ที่พระเอกหล่อสุดสุดจนฉันอยากทะลุจอเข้าไปเป็นนางเอกในฉากเลิฟซีนมาก ส่วนเขาก็นั่งเล่นเกมส์เหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน อยู่กันอย่างนี้นานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเสียงทะเลาะมีแต่ขายาวยาวที่ยื่นเหยียดมาวางไว้บนตักเล็กของฉัน ทำฉันแอบดึงขนหน้าแข้งเขาออกไปหลายเส้นด้วยความหมันไส้ ก่อนจะยกขาหนักที่พาดอยู่ออกแล้วลุกไปผสมครีมมาส์กหน้า ซึ่งพอเขาเห็นก็รบเร้าให้ฉันทำให้เขาบ้าง เลยต้องเพิ่มส่วนผสมทั้งหมดคนให้เข้ากันและถือกลับมานั่งที่โซฟาแล้วค่อยๆ ปาดครีมมาส์กลงบนหน้าเขาที่กำลังนอนหลับตาพริ้มเหมือนเด็กเอาแต่ใจบนตักฉัน จนฉันแอบได้ยินลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอสื่อว่าเขาหลับสนิทไปแล้วโดยยึดตักฉันเป็นหมอนหนุนนานจนฉันที่รู้สึกชาที่หน้าขา พอจะแอบขยับคลายความเมื่อยเขาก็หายใจเสียงดังฟึดฟัดเหมือนหงุดหงิดแล้วพลิกตัวตะแครงซุกหน้าเข้าที่หน้าท้องฉันแล้วเอาแขนแกร่งมาโอบเอวฉันไว้ ทำฉันกระดุกกระดิกไม่ได้เข้าไปอีก จนกระทั่งเสียงแจ้งเตือนข้อความในมือถือเขาดังขึ้นรัวรัวเหมือนมีเรื่องด่วน ฉันจึงเหลือบสายตาถือวิสาสะแอบอ่านเผื่อมีเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆ จะได้รีบปลุกเขาให้ตื่น แต่กลับต้องกลอกตามองบนให้กับความเจ้าชู้ของเขาแทน และใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาตกโซฟาจนเสียงดัง "ตุ๊บ" Namtan : พี่นาย วันนี้เข้าร้านพี่เตอร์มั้ยคะ Namtam : น้ำตาลรอนะ Namtam : 😘 ผมที่กำลังพักสายตาจนเคลิ้มหลับฝันดีก็ต้องตกใจตื่นเพราะอยู่ๆ ดีดีเหมือนมีอะไรมากระแทกผมจนตกโซฟาทำเจ็บไปหมด ยังไม่ทันได้จัดการตัวต้นเหตุที่เดินหนีเข้าไปในห้องนอน ก็ต้องหยิบสมาร์ทโฟนที่ดังระรัวขึ้นมาเปิดอ่านก็เห็นข้อความที่ถูกส่งมาจากคนเคยคุยแค่ไม่กี่วันของผม แต่แค่คุยกันนะคับ ยังไม่มีอะไรเกินเลยแม้แต่ปลายเล็บ ส่งมาชวนผมไปนั่งเป็นเพื่อนที่ร้านไอ้เตอร์ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่เลือกที่จะกดบล๊อคและลบรายชื่อออกทั้งหมดแทน อันที่จริงวันนี้ผมก็นัดไอ้เตอร์กับไอ้กายไว้ไปนั่งดื่มกันนิดหน่อยตามปกติในวันหยุดของพวกผม นี่ก็ใกล้เวลาแล้วต้องรีบไปล้างหน้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบไป พวกมันจะได้ไม่มารุมด่าผมทีหลัง แต่ลางสังหรณ์ของผมรู้สึกเหมือนงานกำลังจะเข้ายังไงก็ไม่รู้เพราะลูกบิดประตูห้องนอนถูกล็อคจากด้านใน เคาะเรียกเธอยังไงก็ไม่ยอมเปิดยอมตอบ จนผมส่งข้อความไปว่าหยิบเสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีดำกับกางเกงยีนส์ในตู้เสื้อผ้าให้หน่อยผมจะไปหาไอ้เตอร์ไอ้กายแล้วจะรีบกลับ ซึ่งก็ได้ผลเธอหยิบของที่ผมบอกยื่นแค่มือออกมาให้ แต่แทนที่ผมจะรับมาถือไว้ผมกลับแทรกตัวเข้าไปเพื่อจะถามว่าเธอเป็นอะไร ก็เห็นเธอยืนตาแดงไม่ยอมพูดไม่ยอมมองหน้าผมเลย ทำผมไปไม่เป็นยืนงงไปหมด ก่อนจะพยายามใจเย็น ยืนลำดับความคิด และคิดว่าคงจะเห็นข้อความจากสาวๆ ในสต๊อคของผมและคิดว่าผมจะออกไปหาสาวเวลานี้แน่นอน แค่เธอคนเดียวผมก็ปวดหัวสามเวลาหลังอาหารแล้ว สุดท้ายผมก็เลือกเดินไปล้างครีมมาส์กหน้าออกก่อนเดี๋ยวจากหน้าใสจะกลายเป็นมีริ้วรอยแทน แล้วกลับมายืนคุยกับเธอที่นั่งดูมือถือไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาแม้แต่น้อย ก่อนจะค่อยๆ ย่อตัวลงโน้มหน้าหล่อหล่อของผมเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจะสบตาเธอให้ได้ "ฉันนัดไอ้เตอร์ไอ้กายไว้จริงๆ" "..." "ให้โทรแล้วถามตอนนี้เลยก็ได้" "..." "ลูกหมู ไม่เอาไม่โกรธนะ" "..." "คุยกันหน่อย" "..." "ลูกหมูครับ" "ฉันไม่ได้โกรธนาย" "พระเอกในซีรีย์ที่ฉันดูอยู่ตาย" "ฉันอิน เลยร้องไห้" "...แค่นี้" "อืม แค่นี้แหละ" "แต่ก็นะ ได้จังหวะพอดี เลยขอแกล้งนายซะหน่อย" "เป็นไง เนียนป่ะ" "อืม เนียน เนียนมาก" กรี๊ดดด และคำตอบของเธอทำผมหน้าเหวอและหมันไส้ขั้นสุดกับความแสบของเธอ จึงพุ่งตัวเข้าไปจู่โจมโดยการเอาจมูกมีสันของผมไปจัดการฟัดเข้ากับแก้มกลมกลมนุ่มนุ่มของเธอแรงแรงสลับไปมาทั้งสองข้าง พร้อมกับใช้มือหนาซุกซนไปจั๊กกะจี๋ที่เอวขาวขาวของเธอจนเธอหัวเราะไม่หยุดและยกมือเป็นฝ่ายยอมแพ้ในที่สุดเพราะเริ่มหายใจไม่ออก ทำผมเริ่มไม่อยากออกไปหาไอ้สองคนนั่นแล้วสิฉันกำลังโดนนายนั่นล็อคแขนทั้งสองข้างด้วยมือหนาของเขาแล้วบังคับให้สบตามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเลี่ยงฉันก็โดนไล่ต้อนโดยการหอมแก้ม อันที่จริงฉันรีบเดินหนีเข้าห้องนอนมาเพราะรู้สึกหงุดหงิดกับข้อความนั่นจนไม่อยากอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ เลยเลือกมาสงบสติอารมณ์คนเดียวเงียบๆ แต่พอได้ยินเสียงเขาเรียกและบอกว่าจะออกไปข้างนอกมันก็ทำให้ฉันคิดไปต่างต่างนานาความรู้สึกน้อยใจก็เริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้น ความใกล้ชิดที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนหมั้นจนวันนี้มันก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหวง จนน้ำใสใสไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่นานนับนาที จนเขาส่งข้อความมาให้หยิบเสื้อกับกางเกงให้ฉันจึงลุกไปหยิบและยื่นออกไปให้เขาโดยที่ตัวแอบอยู่ด้านหลังประตูไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นฉันร้องไห้ด้วย จนเขามาคุกเข่าอธิบายให้ฉันฟังอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฉ้นก็แอบดีใจอย่างบอกไม่ถูก ใจฉันมันอดสั่นไหวเพราะเขาไม่ได้เลยฟอด"แสบ""ไหนจะไปเที่ยว""รีบไปสิ""ไม่อยากไปแล้ว"จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บเขาจูบฉันอยู่นานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปจูบข้างแก้ม ลากริมฝีกปากร้อนไปจูบที่ใบหูขาวของฉัน ไล่ลงมาตามลำคอแล้วหัวไหล่มน ฉันในตอนนี้ที่อยู่ในเ
ฟอด ฟอด"ปล่อยเลย ไอ้พิทบูล""กัดฉันจนเป็นรอยเต็มตัวแล้วเนี่ย""ไม่ปล่อย""เธอทำให้ฉันไม่ได้ไปเที่ยว""ต้องรับผิดชอบ""เพราะฉัน?""อืมหึ""อ๊ะ""นี่ หมันเขี้ยวหว่ะ"จุ๊บ จ๊วบผมที่กำลังนอนซบหน้าซุกก้อนนุ่มนิ่มและกอดเธอไว้ในอ้อมแขนบนโซฟาตัวเขื่องสนามรบของเราเมื่อชั่วโมงที่แล้ว หูก็คอยฟังเธองอแงใส่ผมทันทีที่หายเหนื่อย ก่อนจะยัดเยียดข้อหาให้เธอกลับเพราะอยากจะหาเรื่องกินลูกหมูตัวกลมกลมผิวอมชมพูนี่ต่อ ปากร้อนของผมจู่โจมเข้าที่ภูเขาลูกใหญ่ตรงหน้าทันทีไม่รอให้เธอได้คัดค้าน ผิวของเธอมันนุ่มลื่นจนมือหนาของผมไม่อยากจะปล่อย แก้มกลมกลมของเธอมันหอมจนอยากจะกดจมูกลงไปอยู่ซ้ำซ้ำ ปากของเธอมันหวานจนริมฝีปากร้อนของผมอยากจะชิมแล้วชิมอีก และอยากจะไล่ชิมไปตั้งตัวอีกครั้ง จึงค่อยๆ ไล่ลงไปค่อยๆ ชิมซอกคอนิด หัวไหล่มนหน่อย ขบเม้มต้นแขนเล็กน้อยน้อย ไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบไล่เลียจนทั่ว แล้วมาหยุดตรงเนียนนุ่มสามเหลี่ยมที่แดงระเรื่อเพราะฝีมือลูกชายผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นไล่เลียไปตามรอยแยกจนเธอถอยหนี สองมือร้ายของผมจึงต้องเลื่อนไปจับล็อคสะโพกกลมของเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้อีก และลงลิ้นจัดการเธอต่อทันทีไม่ให้เธอได
ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่เพลินๆ ในห้องนั่งเล่นที่ห้องของเธอ และตอนนี้เป็นห้องของผมด้วย แต่อยู่ๆ ไอ้เตอร์เพื่อนผมก็ส่งรูปเข้าข้อความผมมารัวรัว จนผมต้องเปิดเข้าไปดูถึงกับขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดทันทีที่เห็น เป็นภาพยัยลูกหมูที่อยู่ในชุดเสื้อครอปไหล่ตกโชว์เอวลอยขึ้นจนเห็นบราด้านในกับกางเกงขาสั้นกุดเอวสูง ซึ่งมันเป็นคนละชุดกับที่เธอแต่งออกไปจากห้อง ยืนโพสต์ท่าก้มก้มเงยเงยอยู่กับลลิลเพื่อนของเธอ เพราะวันนี้เธอบอกว่ามีนัดถ่ายแบบกับเพื่อนในคอนเซ็ปต์ใสใสซนซน ซึ่งผมพอเห็นรูปตัวอย่างที่เธอเปิดให้ดูมันก็ดูเรียบร้อยดี ผมก็เลยไม่ได้ว่าหรือออกความเห็นอะไร แถมลลิลก็มารับออกไปตั้งแต่เช้า ไม่ทันได้สังเกตว่าเธอแบกกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไปคงจะมีเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ในนั้น แสบสุดสุด"เจอกันแน่ ยัยลูกหมู"ผมจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสบายแบบที่ผมชอบกับกางเกงยีนส์ขากระบอกตัวโปรด แล้วไปเปลี่ยนรถอีกคันที่คอนโดผมเพื่อไม่ให้มินกับลลิลจำรถผมได้แล้วจะสงสัย ส่วนไอ้เตอร์ผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะมันคงแอบรู้อะไรมาไม่อย่างนั้นคงไม่จงใจส่งมาหาผมส่วนตัวแบบนี้ แล้วรีบเหยียบคันเร่งตร
"ลูกหมู เอารูปที่ไปถ่ายมาดูหน่อย""สวย สวย ไม่ต้องดูหรอก""เอา มา ดู" "จิ๊"ผมต้องรีบเอื้อมไปคว้าเอวเธอที่กำลังจะเดินหนีดูมีพิรุธมานั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้แขนข้างหนึ่งโอบเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างไปหยิบมือถือของเธอบังคับให้เธอปลดล็อคหน้าเจอแล้วเปิดเข้าไปในแกลอรี่รูปที่เธอถ่ายในวันนี้ นอกจากภาพที่ไอ้เตอร์ส่งมาให้แล้ว ยังมีชุดที่คล้ายๆ บิกินีต่างตรงข้างล่างเป็นกางเกงขาสั้นสีขาวส่วนข้างบนก็บราบิกินี่แบบคล้องคอนี่แหละ แถมท่าทางที่โพสต์ทำเส้นเลือดตรงขมับผมเต้นตุบตุบ ก่อนจะก้มลงไปงับที่แขนเล็กแรงแรงระบายความหงุดหงิด ยิ่งฟังเสียงแจ๋วแจ๋วเถียงข้างๆ คูๆ อีก ทำผมอดเลื่อนมือไปขยำก้อนกลมแรงแรงไม่ได้ "ไหนบอกใสใสไง""นี่ก็ใสใส""มันไม่เหมือนเรฟที่เธอเปิดให้ฉันดูเลยนะ""ชุดไม่เหมือน แต่ท่าเหมือนสุดสุด""อ๊ะ""แถเก่ง""บ่นเก่ง""ชอบโชว์นักนะ ไขมันเนี่ย""ถ้าบ่นอีกคำเดียว นายนอนโซฟา" "จิ๊"อยู่อยู่คดีก็พลิกมาหาผมเฉยให้ตายเถอะ! ผมจึงปล่อยให้เธอนั่งเล่นมือถืออยู่บนตักผมราวกับเป็นเบาะรองนั่ง ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ต่อเงียบเงียบเพราะไม่อยากนอนบนโซฟาแข็งแข็ง มีหันมาถามผมบ้างอยากจะลงรูปในไอจีให้ผมช่วยเลือกให้หน
ใกล้เวลาที่ยัยลลิลจะมารับไปเซอร์ไพรส์ยัยมินที่คอนโดและจะซื้อของไปทำชาบูกินกันที่นั่นด้วย ฉันจึงใส่แค่เสื้อยืดสีขาวเอวลอยเบาเบากับกางเกงยีนส์ขาสั้นสบายสบาย และสะพายกระเป๋าใบเล็กที่ใส่ได้แค่กระเป๋าสตางค์ใบสั้นกับมือถือและลิปกลอสหนึ่งแท่ง แล้วเดินไปใส่รองเท้าหัวโตสีขาวที่ซื้อมาจากตลาดนัดคู่ละแปดสิบบาทแต่นิ่มสุดสุด สงสัยต้องให้เขาพาไปซื้อสีชมพูอีกคู่เอาไว้ใส่สลับกันน่าจะดี"จะไปแล้วหรอ""อืม ลลิลใกล้ถึงแล้ว""จะกลับกี่โมง เดี๋ยวไปรอรับ""มืดมืด""สี่ทุ่ม เดี๋ยวไปรับ""ไปกินข้าวต้มโต้รุ้ง""ค่อยกินพรุ่งนี้สิ""วันนี้ฉันไปกินชาบูแล้ว""อยากกินวันนี้""งอแงเอาอะไร""ถ้าเอาเธอได้ป่ะละ""ไปคุยกับลู่วิ่งโน่น"ฉันกับลลิลแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของไปทำชาบูอย่างเนื้อ ผัก น้ำจิ้ม แล้วก็น้ำซุป และขนมขบเคี้ยวอีกสามสี่ห่อน้ำอัดลมอีกสองขวดใหญ่ ก่อนจะพากันไปจ่ายเงินและขับตรงไปที่ห้องมินทันที เพราะเช็คแล้วว่ายัยมินไม่ได้เข้าร้าน นางก็ต้องอยู่ที่ห้องนี่แหละ เพราะถ้าไม่อยู่จากที่ฉันสองคนจะไปเซอร์ไพรส์คงโดนเซอร์ไพร์สกลับ แล้วก็ต้องเปลี่ยนที่กินเป็นห้องยัยลลิลแน่"เซอร์ไพรส์... ""ย... ยัยหน
"ฮัลโหลค่ะ พี่ตะวัน""ไปทานข้าวเย็นหรอคะ""เอ่อ คือ คือมายไม่สะดวกค่ะ""เจอกันนะคะ""บ๊ายบายค่ะ"ผมที่นอนดูทีวีอยู่บนตักของเธอที่โซฟาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์เสียงสองเสียงสามและชัดเจนว่าปลายสายเป็นผู้ชาย และชื่อนั้นคือรุ่นพี่ที่คอยตามจีบเธอตั้งแต่ปีสอง เหมือนจะโทรมาชวนไปกินข้าว สวยจริงจริงแม่คุณ ทีเวลาคุยกับผมนะเสียงหนึ่งตลอด แค่คิดก็หงุดหงิดชะมัด ก่อนจะแกล้งหลับตาตอนเธอกำลังวางสาย เดี๋ยวจะหาว่าผมแอบฟังเธอคุย แต่เธอดันทำให้ผมหงุดหงิดหนักกว่าเดิม"นาย ฉันไปกินข้าวข้างนอกนะ""อืม" "ฉันจะกลับไปนอนห้อง"ผมพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าแมคบุค กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถเดินออกมาทันที โดยไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไรต่อและก็ไม่ถามว่าจะไปไหนกับใครหรือกลับเมื่อไหร่เหมือนทุกครั้ง คงจะไปกับคนที่โทรมานั่นแหละ ก่อนจะส่งข้อความไปชวนไอ้สองคนนั้นไปดื่มที่เก่าเวลาเดิม บางทีผมคิดว่าผมก็ควรเว้นระยะกับเธอเหมือนกัน เพราะถ้าครบสามเดือนจริงๆ ถ้าเธออยากถอนหมั้น จะได้ง่ายสำหรับผมหน่อย ผมขับรถเอาของมาเก็บที่คอนโดและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ารอเวลานัดไอ้พวกนั้น ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดูเพราะมีแจ้งเตือนว่าเธอโพสต์ไอจี เป็นรูป
ฉันนั่งดูข้อความที่นายนั่นส่งมาไม่หยุดอยู่นานก่อนจะกดเป็นโหมดเครื่องบิน แล้วหันไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อ พยายามจะไม่หันไปมองไม่สนใจเขาอีกต่อไป อยากจะทำอะไร จะเรียกสาวมานั่งตักหรือขี่คอด้วยก็เชิญเลย วันนี้ฉันจะถือว่าฉันไม่มีคู่หมั้น ส่วนพรุ่งนี้... ค่อยว่ากันอีกที"ยัยมาย ฉันชอบนักร้องคนนี้จัง""ฉันไปขอคอนแทคให้เอามั้ย" "จะดีหรอ""แหมมมม ลลิล"ฉันกับยัยมินประสานเสียงใส่ยัยลลิลพร้อมกันด้วยความหมันไส้ ชั่วโมงนี้ช้าอดหมดสิทธิ์จ่ะสาว แต่เพื่อนฉันต้องได้ ว่าแล้วฉันไปจัดการดิลผู้ให้นางเลยดีกว่า พอถึงเพลงสุดท้ายของพี่นักร้องคนนี้ฉันเลยรีบเดินเบียดผู้คนไปยืนรอข้างเวทีเพื่อเริ่มแผนหาผู้ให้เพื่อนทันที แต่ฉันดันลืมหยิบมือถือมานี่หน่ะสิ จนพี่เขาเดินลงมาจากเวที ฉันก็พุ่งเข้าไปหาทันทีพร้อมกับบอกให้มองไปตรงเพื่อนฉันว่าเป็นคนไหนจะได้ตรงปกตรงใจซึ่งพอพี่เขาหันไปมองยัยลลิลเขาก็หันกลับมายื่นมือถือของเขาพร้อมเปิดไอจีให้ฉันพิมพ์ชื่อไอจียัยลลิลให้ก่อนเขาจะส่งข้อความทักไปหานาง หล่อแล้วก็ฉลาดเหมาะกับเพื่อนฉันที่สุดเลย คอมพลีทสุดสุดฉันกำลังจะเดินกลับโต๊ะแต่เหมือนมีแรงกระชากแขนฉันจากด้านหลังจนต้องหันกลับไปมองเตร
สายของอีกวัน ฉันพยายามพาตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนเท่าไหร่ก็ลุกไม่ขึ้น มันรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมดเพราะเขาคนเดียวเลยหาเรื่องรังแกฉันไม่หยุดทำให้ฉันต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้ อย่าให้ฉันลุกไหวนะจะกระโดดขึ้นไปหยุมหัวเขาให้ดูเลย"อ้วน ตื่นมาคุยกันก่อนดิ๊""..." "อย่ามามองแรง""อะไรของนาย" "จะไปไต้หวันทำไมไม่บอก""แล้วไปกับใคร""ไปกี่วัน""ก็นายไม่พาฉันไปญี่ปุ่นซะที""ก็ฉันกะเซอร์ไพร์สเธอไง""นี่ไง เจอฉันเซอร์ไพร์สกลับ""เป็นไง เซอร์ไพร์สป่ะ""ตลกเก่งจริงนะ แม่คุณ"เพี๊ยะ! สรุปเป็นเขาที่กำลังนั่งจัดการเลื่อนเที่ยวบินไปญี่ปุ่นเป็นหลังสอบเสร็จ และจองตั๋วไปไต้หวันกับฉันเพิ่มแทน แถมกำชับห้ามฉันไม่ให้งอแงไม่ไปเด็ดขาดเพราะเขาจ่ายเงินจองที่พักไปหมดแล้ว ข้อเสนอดีขนาดนี้ใครจะไม่ไปกัน ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาพักร่างอยู่ไม่นานก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อยืดครอปสีขาวกับกางเกงยีนส์สีขาวสบายสบายออกไปทำอะไรกินลองท้องสักหน่อย สงสัยวันนี้ต้องงดออกไปข้างนอกเพราะต้องเก็บผ้าแยกผ้าทั้งของเขาและของฉันส่งซักสักหน่อย ไหนจะต้องแปลงร่างเป็นแม่บ้านกดโรบอทดูดฝุ่นให้ทำงานอีก"อ้วน ตื่นแล้วหรอ" "ฉันสั่
ฉันค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากที่ได้ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้สีขาวสวยมากและกว้างมากด้วยมีหิ่งห้อยบินเต็มไปหมดจนรู้สึกอยากจะอยู่ที่นี่ไม่อยากไปไหน จนได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเรียกชื่อฉันอยู่ไกลๆ พร้อมกับเสียงร้องโยเยจากเด็กน้อยเหมือนร้องเรียกหา ฉันเลยค่อยๆ เดินไปตามเสียงทีละนิดทีละนิดฉันนอนมองใบหน้าที่ดูอิดโรยคิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่นมีมือหนาของเขาจับมือบางของฉันไปแนบแก้มสากไว้ราวกับกลัวหายจนผ่านไปนานหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววตื่นขึ้นมา ฉันเลยใช้นิ้วเรียวเล็กที่อยู่ตรงแก้มนั้นลูบสัมผัสปลุกเขาเบาเบาแต่กลับไม่ได้ผล เลยต้องเปลี่ยนเป็นหยิกลงไปแทนทำเขาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นประกายฟอด ฟอด ฟอด"ตื่นแล้วหรอ อ้วน""นายกับลูกลูกรอตั้งนาน""เจ็บมั้ย""เจ็บ""ขอโทษคับ จุ๊บ" "ลูกละ" "เดี๋ยวพยาบาลพามา""รอแป๊บนะนายไปตามหมอก่อน"เขาโผเข้ากอดและหอมฉันอยู่นานราวกับว่าคิดถึงฉันมาก ฉันก็รู้สึกคิดถึงเขามากเหมือนกันเลยปล่อยให้เขากอดอยู่อย่างนั้นทั้งๆ ที่ก็แอบเจ็บแผลอยู่หน่อยๆ จนกระทั่งคุณหมอมาตรวจอาการฉันอย่างละเอียดและบอกให้ฉันกับลูกลูกนอนพักที่นี่อีกสี่ห้าวันให้แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยแล้วค่อยก
"สวัสดีคับลูกหมู""ได้ยินเสียงปะป๊ามั้ย""หึ" "อยากออกมาเตะบอลกับป๊าใช่มั้ย""ปะป๊าอย่าพึ่งชวนลูกเตะบอลได้มั้ย""ลูกพากันเตะท้องมามี๊จนจุกไปหมดแล้วเนี่ย""จุ๊บ ขอโทษคับ"ตอนนี้เจ้าลูกชายของผมสองคนที่นอนอยู่ในพุงกลมกลมของเธออายุเกือบหกเดือนแล้ว ท่าทางจะแสบซนกันใช่ย่อย เพราะกว่าที่ผมจะสามารถเข้าใกล้เธอได้ก็ต้องรอเข้าเดือนที่สี่อาการเหม็นผมของเธอถึงจะเบาลงไป ผมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันนอนบนเตียงเดียวกันกับเธอได้ แถมยังพากันดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาทำเอามามี๊ตัวกลมเจ็บและจุกอยู่บ่อยๆ จนบางทีผมก็ต้องแกล้งเอ็ดดุไปนิดหน่อยถึงพากันหยุดนอนนิ่งราวกับเป็นเด็กดีเชื่อฟังปะป๊าไม่กล้าดื้อไม่กล้าซน แต่บางทีด้วยความใจร้อนของผมก็อยากให้ลูกหมูออกมาวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกับผมซะวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย ชานมลูกสาวคนโตก็จะได้ไม่เหงามีเพื่อนเล่นเพิ่มด้วย"นาย ตั้งชื่อลูกกันมั้ย""อืมมม มายมีที่ชอบยัง""มายเลือกไม่ถูกชอบหลายชื่อมาก""หึ มีชื่ออะไรมั่ง""มี เลนส์ ฟิล์ม กล้อง แกรม โฟกัส""เพราะมายชอบถ่ายรูป มีนายเป็นตากล้องให้""งั้น...ชื่อนี้ดีมั้ย เลนส์กับฟิล์ม""นายมองมายผ่านเลนส์ ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นภาพฟิล์ม"
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง วันแต่งงานของฉันกับเขา ฉันเฝ้าคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดยืนเคียงข้างเขาได้อย่างมั่นใจที่สุดในวันนี้ เราใช้เวลาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานนานเกือบสองชั่วโมง ดีที่เจ้าบ่าวของฉันคอยยืนกอดคอฉันบ้าง นวดให้บ้าง โอบเอวประคองฉันไว้บ้างทำให้ฉันไม่เมื่อยเท่าไหร่ แถมยังมีเพื่อนน่ารักๆ อย่างสองสาวมินนี่และลลิล ที่คอยมาซับเหงื่อช่วยดูแลหน้าผมและป้อนน้ำให้ฉันอยู่ตลอด ฉันมีหน้าที่แค่ยืนแจกรอยยิ้มหวานหวานเท่านั้นหลังจากพิธีการเสร็จ เราสองคนก็ต้องรีบขึ้นมาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้บนห้องที่เปิดไว้ให้ทันภายในยี่สิบนาที เพราะต้องลงไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อที่งาน อยากขอบคุณตัวฉันเองและเขาด้วยที่เลือกชุดที่ใส่ง่ายใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีฉันก็อยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาได้นั่งพักหายใจอีกสักหน่อย แต่แล้วดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด"นาย รูดซิปให้มายหน่อยสิ""เดี๋ยวค่อยรูด""อ๊ะ อย่าแกล้งนะ""ไม่แกล้ง เอาจริง""กระโปรงสั้นสั้นมันดีแบบนี้นี่เอง""นายใส่เลยนะ เวลาน้อย""อ๊ะ อื้อ""ซี้ด" "เดี๋ยวได้ทาลิปใหม่หรอก"เพี๊ยะจากที่ผมตั้งใจจะอ
และเราสองคนก็ได้ฤกษ์วันแต่งงานหลังจากฝึกงานเสร็จหนึ่งเดือนทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวลกลัวจะเตรียมงานไม่ทัน ซึ่งผมก็ทำได้แค่ปลอบใจและหาออแกไนซ์มืออาชีพมาช่วยให้เธอเบาใจขึ้นให้เธอมีหน้าที่บอกธีมงานในฝันของเธอกับทีมงานแค่นั้น โดยไม่ได้กำหนดธีมสีว่าจะต้องเป็นสีไหน เพื่อเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานจะได้ใส่ชุดและสีที่ตัวเองมั่นใจที่สุดจะได้มีความสุขและสนุกไปกับงานของเราทั้งคู่ แล้ววันนี้เราสองคนมีนัดลองชุดแต่งงานซึ่งก็เป็นร้านเดียวกันกับชุดวันหมั้นนั่นแหละเพราะเธอชอบการตัดเย็บและดีเทลของแบรนด์นี้เลยไม่เปลี่ยนใจไปมองร้านอื่น"นายว่ามายใส่แบบไหนดี""ไม่เอาเกาะอก""เอาสิ มายว่ามายใส่เกาะอกสวย""ไม่สวย""...""แต่มายอยากลอง""...""พี่ขา หนูมายขอลองสองชุดนี้ก่อนค่ะ"ผมได้แต่นั่งไขว่ห้างกอดอกตกอยู่ในพะวังความคิดเฝ้าถามตัวเองด้วยความสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เธอจะหันมาถามความเห็นของผมทำไมเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็เลือกลองชุดแบบที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แถมเป็นแบบเกาะอกไม่มีแขนทั้งสองชุดต่างกันแค่กระโปรงทรงสุ่มกับทรงเมอร์เมดก็เท่านั้น ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพนักงานในร้านก็เดินมาค่อยๆ เ
เราสองคนยืนกอดกันอยู่พักหนึ่ง ผมก็พาเธอเดินเข้าไปดูห้องน้ำที่มีอ่างกุชชี่ขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่น้ำกันสองคนและอาจจะพาลูกหมูตัวน้อยน้อยลงมาเล่นน้ำด้วย ถัดไปอีกหน่อยเป็นวอคอินโครเซทสำหรับเธอที่ชอบแต่งตัวสวยสวยซึ่งผมแบ่งที่แขวนเสื้อผ้าส่วนของเธอไว้ให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์อีกสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเสื้อผ้าของผม โดยตรงกลางห้องมีตู้กระจกไว้แชร์กันสำหรับใส่เครื่องประดับอย่างสร้อยต่างหูและนาฬิกาข้อมือของเราสองคน ก่อนจะพาไปดูห้องนอนลูกลูกที่ผมทำเตรียมไว้สามห้องสำหรับสามคนเพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัวเราสองคนในอนาคต และที่ขาดไม่ได้ก็คือห้องสุดท้ายที่มีประตูเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ของผมกับเธอเป็นห้องของลูกสาวคนโตของเราคือห้องของชานมนั่นเอง ซึ่งภายในห้องก็มีทั้งเบาะที่นอนนุ่มนุ่ม คอนโดหลายระดับหลายชั้นไว้ให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกนอนตามใจชอบ รวมถึงห้องน้ำแมวอัตโนมัติด้วย ทำเธอกระโดดกอดผมอย่างดีใจและทำท่าทางตื่นเต้นไม่หยุดเดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดูว่าขาดเหลืออะไรตรงไหนเธอจะได้ไปเดินเลือกซื้อมาเพิ่ม"มายอยากแก้ตรงไหนมั้ย""ยังมีเวลา จะได้เสร็จทันก่อนย้ายเข้ามา""มายไม่อยากแก้ เพราะนายตั้งใจเลือกและทำให้มาย""ม
"ไอ้เตอร์ ฝึกงานเสร็จมึงจะแต่งเลยป่าววะ""อืม กูอยากมีลูกเลย มึงอะ""กูก็อยากแต่งเลย แต่ไม่รู้มายจะอยากแต่งมั้ย""มีแพลนกับเค้าบ้างมั้ยมึงอะ ไอ้กาย""...""อย่าไปถามมัน ไอ้นี่มันเสือซุ่มเงียบ""..."วันนี้ผมกับเธอขับรถพาชานมลูกสาวของเรามาพบสื่อมวลชนที่คาเฟ่มินิมินนี่ ทันทีที่สองสาวเห็นเจ้าตัวกลมก็พากันเอ็นดูผลัดกันอุ้มผลัดกันเล่นอยู่ไม่ห่าง ไม่นับรวมกับลูกค้าในร้านที่ต่างมาขอถ่ายรูปลูกผมจนต้องต่อแถวคิวยาวไปถึงหน้าร้าน เรียกว่าเวลานี้ชานมกลายเป็นซุปตาร์หน้าใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ลูกสาวของผมน่ารักจริงๆ นี่นาตัวกลมกลมขนนุ่มๆ ตาโตโต แถมขี้อ้อนมากมากด้วยจะว่าไปก็เหมือนมามี๊ของเธอนั่นแหละ ไม่รู้ว่าถ้าเกิดว่ามีลูกหมูตัวเล็กเล็กที่เกิดจากผมเอง จะขี้อ้อนแบบนี้มั้ยถ้าใช่ผมก็คงหลงลูกมากไม่อยากห่างไปไหนแน่เราสองคนอยู่นั่งคุยนั่งเล่นกับเพื่อนๆ จนเย็นก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน และวันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาค้างที่บ้านของเธอเป็นปกติไปแล้วเพราะตั้งแต่มีชานมเธอก็จะชวนผมมาที่นี่ทุกอาทิตย์จนคุณอาทั้งสองยกห้องนอนส่วนตัวให้ผมหนึ่งห้องเป็นที่เรียบร้อย และที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของผมก็มีห้องนอนส่วนตัวขอ
"อ้วน ลืมอะไรรึป่าว""ไม่ลืม ไม่ลืม""ลืม จุ๊บ""ผมยุ่งหมดละนะ""จะสวยไปให้ใครดู""เยอะแยะ""อื้อออ นายมันเป็นรอยเห็นมั้ย""สมน้ำหน้า""..." "ซี๊ดดด" จากที่ฉันกำลังจะรีบลงจากรถขึ้นไปออฟฟิตคุณพ่อในฐานะนักศึกษาฝึกงานกลับต้องมานั่งจิ้มคอลซิลเลอร์ปกปิดรอยที่เขาพึ่งสร้างไว้ที่ต้นคอของฉันอย่างเอาแต่ใจเมื่อครู่เพียงแค่ฉันแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ซึ่งฉันก็เอาคืนเขาโดยการงับเข้าไปที่ต้นคอแกร่งของเขาเต็มแรงจนขึ้นรอยแดงอย่างชัดเจนและจะไม่ให้ยืมคอลซิลเลอร์ด้วยคอยดู แต่เขาก็ไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรแถมยังยกยิ้มเหมือนชอบอกชอบใจที่มีรอยอีกด้วย ทำฉันถึงกับมองค้อนเขาวงใหญ่ด้วยความหมันไส้ขั้นสุด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาลลิลที่นั่งรออยู่ตรงล็อบบี้เหมือนทุกวัน"ยัยมาย ฉันนึกว่าแกจะพาน้องชานมมาด้วย""ฉันก็อยากพามาแต่กลัวพี่พี่พนักงานคนอื่นจะว่าเอาหน่ะ""ค่อยพาไปเล่นที่คาเฟ่ยัยมินอาทิตย์นี้ดีมั้ย""อาทิตย์นี้หรอ ฉันขอยังไม่คอนเฟิร์มนะ""จ้าาา ชั่วโมงบินสูงมาก...ก""นิดนึง อิอิ"ฉันกับลลิลได้รับโจทย์ให้ออกแบบแบนเนอร์หน้าเว็บเบราว์เซอร์ของบริษัทใหม่ให้ดูดึงดูดและเป็นที่น่าสนใจจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับหน้าแ
noomine : น้องชานม+มามี๊+ปาปี๊ @k.naimini.minnie : ต้องมีน้องชาเย็นด้วยสิl.lalil : คุณน้าต้องได้เล่นกะน้องkkay : @k.nai คุณพ่อลูก1tutor.t : รูปนี้ควรมีแค่มายกับชานมk.nai : @kkay @tutor.t อิจฉากู? หลังจากที่ฉันโพสต์รูปครอบครัวลงโซเชี่ยลเพื่ออวดความน่ารักของลูกสาวให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชม สองสาวกับสองหนุ่มก็พากันมาคอมเมนต์อย่างรวดเร็ว ส่วนเขาก็นั่งยิ้มบ้างหัวเราะบ้างเล่นอยู่กับน้องไม่ห่าง อยากพาชานมไปให้มินนี่กับลลิลรู้จักอย่างเป็นทางการจัง รอโตอีกสักหน่อยแล้วกันนะเจ้าตัวเล็กเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์คุณแม่เลยออกไปตีกอล์ฟเป็นเพื่อนคุณพ่อและจะกลับมาทานข้าวเย็นกับเราสองคนอย่างพร้อมหน้า ทำให้วันนี้ฉันกับเขาได้อยู่ทำหน้าที่มามี๊กับปาปี๊ตลอดทั้งวัน ซึ่งคนที่ตื่นเต้นและไม่ยอมปล่อยน้องเลยกลายเป็นเขา ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้อุ้มลูกสาวเลยสักนิด ฉันเลยทำได้แค่ยื่นมือไปเกาคางน้องที่นอนตัวกลมอยู่บนตักแกร่งเท่านั้น ทีตอนนั้นทำเป็นคัดค้านไม่พักพอมาตอนนี้กลับยิ้มไม่หุบเล่นไม่หยุดเลย คอยดูนะ! ฉันจะสอนให้ลูกสาวแก้แค้นเขาแทนฉัน"นาย พรุ่งนี้ไปซื้อที่นอนให้ลูกกันมั้ย""นายซื้อมาแล้ว""ไปดูอาหารเปียกกับวิตามิน
ตอนนี้เป็นเวลาตีสามผมต้องรีบวิ่งลงมามินิมาร์ทข้างล่างคอนโดเพื่อซื้อของใช้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอย่างผ้าอนามัยให้ลูกหมูเพราะบนห้องหมดเกลี้ยงและเธอก็ลืมดูวันที่จดไว้ ดีที่ผมไปซื้อของใช้กับเธอตลอดเลยพอจะรู้ว่าเธอใช้แบบไหนยี่ห้ออะไรไม่อย่างงั้นผมต้องมายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าชั้นวางสินค้าแน่แน่ ก่อนจะเดินไปหาผงขิงสำเร็จรูปไว้ชงให้เธอกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เป็นผมเองที่ไม่อยากให้เธอกินยาแก้ปวดมากจนเกินไปเพราะมันส่งผลข้างเคียงให้เธอในอนาคตพอได้ของจนครบผมก็รีบวิ่งขึ้นไปให้เธอที่นั่งรออยู่ในห้องน้ำจนตัวซีด ออกมายืนรอปล่อยให้เธอจัดการตัวเองจนเรียบร้อย ผมก็เข้าไปช้อนตัวอุ้มเธอที่ปวดท้องจนตัวงอออกมาวางลงบนเตียงนอน แล้วปลีกตัวมาต้มน้ำร้อนใส่กระเป๋าน้ำร้อนรูปตุ๊กตาหมูสีชมพูและนำมาวางอังลงบนหน้าท้องของเธอ นั่งมองเธอที่หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า มีเม็ดเหงื่อซึมตามกรอบหน้า คิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปมบ่งบอกให้รู้ว่าเธอไม่สบายตัวแค่ไหน ก่อนเธอจะพลิกตัวมาดึงแขนแกร่งของผมไปกอดไว้แน่นราวกับจะช่วยบรรเทาให้เธอได้อีกทางจนผมไม่กล้าจะขยับตัวไปไหนได้แต่นั่งพิงหัวเตียงแล้วพักสายตาเอาแรงสักหน่อยเพื่อจะได้ออกไปซื้อ