กว่าเชษจะพาเจนกลับมาถึงคอนโดก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม เมื่อมาถึง เจนก็นั่งลงบนโซฟาทันที เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบแชทในกลุ่มของค่าย สีหน้าของเธอแม้จะนิ่งเรียบ แต่แววตากลับฉายแววครุ่นคิดอย่างเห็นได้ชัดเชษเดินไปหยิบน้ำเย็นจากตู้เย็น ก่อนจะเดินมาวางแก้วไว้ตรงหน้าเธอ“ดื่มน้ำก่อนดิ”เจนเงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อย ก่อนถอนหายใจ“ฉันแค่กำลังคิดว่า...จะจัดการเรื่องที่ค่ายยังไงดี”เชษนั่งลงข้างเธอ แขนยาวพาดพนักโซฟา“เธอไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียวก็ได้ เฮียเคนไรนั่นมาช่วยแล้วนี่”“ฉันรู้...” เจนพูดเสียงเบา พลางเลื่อนสายตามองแก้วน้ำตรงหน้า แต่ไม่ยกขึ้นดื่มเชษโน้มตัวไปหาเธอเล็กน้อย“รู้แล้วก็พักบ้าง เดี๋ยวเรื่องกลุ่มนายทุนไรนั่น ฉันจะช่วยอีกแรง”“นายจะช่วยอะไรได้ล่ะ?” เจนถามกลับ น้ำเสียงมีความแคลงใจเล็กน้อยเชษยักไหล่ ยิ้มมุมปาก“เธอจะลองใช้ฉันดูหน่อยมั้ยล่ะ?ฉันไม่ได้มีแค่กล้าม แต่ฉันมีสมองด้วยนะ”คำพูดของเขาทำให้เจนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ แม้ความกังวลในใจจะยังไม่หายไปทั้งหมด แต่การที่เชษพยายามอยู่เคียงข้างเธอในตอนนี้ ก็ช่วยให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง“นายกวนประสาทน้อยกว่านี้ได้มั้ย?” เจนพูดติดขำ“ก็ได
เช้าวันถัดมา เชษได้รับสายจากเลขาของพ่อ แจ้งให้เขาเข้าพบที่บริษัทด่วน ทำให้เชษต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันหลังจากเชษขับรถไปส่งเจนที่มหาวิทยาลัย เขาก็จอดรถริมฟุตบาทตรงหน้าคณะของเธอ“เลิกเรียนแล้วไปงานบายเนียร์เลยใช่มั้ย?” เชษถามพลางเลื่อนมือไปปรับกระจกมองหลังเจนพยักหน้า “อื้อ แล้วนายไม่ยุ่งเหรอ?”“ฉันเคลียร์ได้อยู่แล้ว” เชษยิ้มมุมปาก ก่อนพูดต่อ“ฉันจะไปรับเธอที่งานเลยก็แล้วกัน”“นายจะมารับฉันที่งานเหรอ?” เจนเลิกคิ้ว“แล้วงานนาย?”“งานของฉันไม่สำคัญเท่าเธออยู่แล้ว” เชษตอบหน้าตาย แต่สายตาคมกริบที่สบมาทำให้เจนใจเต้นแรงจนต้องเบือนหน้าหนี“โอเคๆ แต่นายอย่าสายล่ะ ฉันไม่อยากเป็นคนสุดท้ายที่ต้องรอ” เจนพูดพลางเปิดประตูลงจากรถเชษหัวเราะเบาๆ“ไม่ต้องห่วง ฉันไปทันอยู่แล้ว”เจนโบกมือลา ก่อนเดินเข้าไปในคณะ ขณะที่เชษนั่งมองตามหลังเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจลึก แล้วหมุนพวงมาลัยขับรถออกไปยังบริษัทของพ่อแม้ว่าในหัวของเขาจะมีแต่เรื่องของเจน แต่เขาก็รู้ดีว่า งานนี้ที่พ่อเรียกพบต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนภายในห้องทำงานของผู้บริหารใหญ่ของบริษัท SK Construction เชษเดินเข้ามาพร้อมท่าทีสบายๆ แต่เมื่อเห็นสีหน้าข
เวลาหนึ่งทุ่ม แสงไฟหลากสีจากโคมระย้าในห้องจัดเลี้ยงใหญ่ของโรงแรมดังใจกลางเมืองส่องประกายลงมา สร้างบรรยากาศหรูหราราวกับหลุดเข้าไปในงานเต้นรำในเทพนิยายโต๊ะกลมถูกจัดเรียงอย่างสวยงามประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาวและสีแดง เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ คลอไปกับเสียงพูดคุยของนักศึกษาชั้นปีสี่และปีสามที่เริ่มทยอยมาร่วมงาน บรรดาสาวๆ ในชุดราตรียาวและหนุ่มๆ ในสูทเนี้ยบต่างตื่นเต้นกับค่ำคืนพิเศษนี้บริเวณทางเข้าห้องจัดเลี้ยงถูกตกแต่งด้วยซุ้มถ่ายรูปที่ประดับไฟระยิบระยับ พร้อมฉากหลังธีม ‘งานเต้นรำ’ ดูหรูหราและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยอย่างสนุกสนาน บางกลุ่มกำลังถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่บางคนตื่นเต้นกับการพบเพื่อนใหม่จากคณะอื่น“พวกแก ช่วยถ่ายรูปให้หน่อย!” แจงร้องเรียกพลางยื่นมือถือให้ฟ้า“ได้เลย! ยิ้มสวยๆ นะ” ฟ้ายิ้มกว้างพลางยกมือถือขึ้นเล็งเจนที่ยืนอยู่ข้างแจงในชุดราตรีสีเขียวมรกต ดูงดงามสะกดสายตา ใบหน้าของเธอถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา แต่กลับขับให้ดวงตากลมโตดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ผมยาวถูกรวบหลวมๆ เปิดให้เห็นต้นคอระหงและเครื่องประดับที่ช่วยเสริมลุคให้สมบูรณ์แบบ“นี่ ฉ
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นด้านหลังม่อน พร้อมคำพูดที่เสียดแทงความรู้สึก“หึ ดูท่านายจะสู้เชษไม่ได้สินะ”ม่อนหันไปมองอย่างหงุดหงิด ดวงตาแข็งกร้าวสบกับเฟิร์นที่ยืนยิ้มเยาะอยู่ในชุดราตรีสีครีม เปิดไหล่เผยผิวเนียนละเอียดอย่างจงใจ โดยเฉพาะเนินอกขาวที่ล้นออกมาจากชุด“เธอเองเหรอ” ม่อนพึมพำ ก่อนจะหยิบแก้วไวน์ขึ้นมากระดกอีกครั้งอย่างไม่สนใจ“นายอยากได้เจนมากแค่ไหนกันล่ะ?”เฟิร์นถามเสียงเย้ายวน ขณะเดินเข้ามาใกล้ ชุดที่เธอสวมยิ่งเน้นรูปร่างอันเย้ายวน ทำให้สายตาหลายคู่ในงานมองตามอย่างไม่ตั้งใจม่อนถอนหายใจ พ่นลมหงุดหงิดออกจมูก“หึ เธอจะทำได้เรอะ?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดูแคลน“นายก็ต้องลองปะ?” เฟิร์นยิ้มบาง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอยกแขนขึ้นโอบรอบคอของม่อนอย่างจงใจ ปลายเล็บแตะเบาๆ ที่ท้ายทอยของเขา ขณะที่เบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้ากับอกแกร่งของม่อนม่อนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา แต่แววตาเริ่มมีประกายความสนใจเจือปน“แล้วเธอจะช่วยฉันยังไง?”“ง่ายมาก” เฟิร์นกระซิบข้างหู น้ำเสียงแผ่วเบาจนเหมือนลมร้อนที่ทำให้ม่อนนิ่งไป“งั้นเธอต้องโชว์ให้ฉันดูละ” ม่อนกระตุกยิ้มร้าย ถึงคืนนี้เขาจะไม่ได้ตัวเจน แต่
“เฮ้ย เจน ฟ้า!!”เสียงแจงดังลั่นขณะที่เธอวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเพื่อนสองคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาไถมือถือดูสถานที่รับนักศึกษาฝึกงานในเวบไซต์ของมหาวิทยาลัยอยู่ที่โต๊ะประจำ“อะไรของแก?” เจนเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ พลางเลิกคิ้วมองเพื่อนที่ดูรีบร้อน“ศุกร์นี้พี่ๆ ทีมงานจะเลี้ยงฉลองที่งานบายเนียร์ออกมาดีงามมากๆ อะ” แจงพูดเร็วแทบไม่หยุดหายใจ พร้อมยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น“แล้ว?” ฟ้าหรี่ตาถาม แต่ยังไม่ยอมวางมือถือ“พวกเขาชวนเราไปด้วย! ไปกันเถอะ นะๆๆ” แจงดึงแขนฟ้าพร้อมกับเขย่าเบาๆ“งานเลี้ยง?” เจนขมวดคิ้วเล็กน้อย“คือจะจัดเลี้ยงอะไรอีกล่ะ?”“พี่ๆ อยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยงานไง ไปเหอะ เขาจัดงานที่ผับอีคลิปส์เลยน้า~” แจงพูดเสียงอ้อน พร้อมปรายตามองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่ดูเหมือนไม่สนใจ“เฮ้ย! ผับอีคลิปส์ ลักซ์ เล้าจน์อะนะ!!” ฟ้าตาโตทันที เลิกเล่นมือถือแล้วเงยหน้ามามองแจง“ใช่!!! พลาดได้ไงล่ะ!!” แจงพูดพลางทำตาเป็นประกาย“เออ แบบนี้ต้องไปว่ะ เจนไปดิ๊” ฟ้ารีบหันมาบอกเจนอีกคน“ผับอีคลิปส์? ทำไมชื่อคุ้นๆ วะ” เจนพึมพำเบาๆ ในหัวพยายามนึก“แกว่าไงอะ เจน!” ฟ้าและแจงส่งสายตาอ้อนสุดฤทธิ์เจนกลอกตาเบาๆ ก่อนถอนหายใ
“ตอนม.ต้น ฉันเรียนที่เดียวกับน้ำหวาน...”เชษเริ่มเล่า น้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตากลับทอดไปไกล เหมือนกำลังนึกถึงภาพในอดีตย้อนกลับไปหลายปีก่อน ที่โรงเรียนเซนต์เอเธนาอัส เชษในวัยมัธยมต้น เป็นเด็กหนุ่มที่เริ่มฉายแววความหล่อและโดดเด่น ด้วยบุคลิกมั่นใจ เสน่ห์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และรอยยิ้มมุมปากที่มักจะเรียกความสนใจจากคนรอบข้าง เขากลายเป็นที่จับตามองของสาวๆ ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนแต่ในบรรดาสาวๆ เหล่านั้น เชษกลับสนใจเพียงคนเดียว—น้ำหวาน เพื่อนร่วมชั้นที่มีใบหน้าหวานละมุน และนิสัยอ่อนโยนที่ทำให้เธอโดดเด่นในแบบของตัวเอง“เชษ มึงชอบหวานจริงดิ?” โดม เพื่อนสนิทของเขาถามขึ้นระหว่างที่พวกเขานั่งกินขนมอยู่ใต้ต้นไม้“เออ” เชษตอบสั้นๆ“แล้วทำไงวะ?”“ก็จีบสิ” เชษยักไหล่ ยิ้มบางๆนับจากวันนั้น เชษเริ่มต้นแผนการจีบแบบจริงจัง เขาใช้ความพยายามทุกวิถีทาง ตั้งแต่ช่วยน้ำหวานถือกระเป๋าตอนเลิกเรียน ซื้อขนมที่เธอชอบให้ทุกเช้า และชวนเธอทำการบ้านด้วยกันในห้องสมุดความพยายามของเชษไม่ได้สูญเปล่า น้ำหวานค่อยๆ เปิดใจให้เขา จนในที่สุด ทั้งคู่ก็ตกลงคบกัน ท่ามกลางสายตาอิจฉาของเพื่อนๆ ที่มองว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักที่สม
เช้าวันศุกร์ เชษนั่งเอนหลังอยู่บนเตียง มือถือในมือแสดงข้อมูลเกี่ยวกับแบล็คแฮนด์ที่เคนส่งมาให้ เขาไล่อ่านรายละเอียดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ในขณะเดียวกัน เจนกำลังยืนหน้ากระจกแต่งตัวเตรียมไปเรียนเธอยัดชายเสื้อนักศึกษาเข้าในกระโปรงทรงเอแบบรีบเร่ง เนื้อผ้าตึงแนบไปกับร่างบาง เผยให้เห็นทรวดทรงชัดเจนโดยไม่ตั้งใจ เชษเหลือบตาขึ้นจากหน้าจอมือถือมองภาพตรงหน้า ดวงตาคมกริบหยุดนิ่งบนเงาสะท้อนในกระจกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ ท่าทางสงบนิ่งของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่เขาจะวางมือถือไว้ข้างตัว แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อคลุมคาร์ดิแกนบางๆ สีสุภาพออกมา“ใส่อันนี้ทับด้วย” เชษพูดเสียงเข้ม ขณะเดินเข้ามาหาเจนที่หันมายืนจ้องเขาอย่างงุนงง“ใส่ทำไม? มันร้อนนะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เถอะน่า ใส่ไป” เขาตอบสั้นๆ ก่อนคลุมเสื้อให้เธอทันทีโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธ“อะไรของนายเนี่ย!” เจนร้องประท้วง พลางพยายามปลดเสื้อคลุมออก“ตัวนี้ไม่ร้อน เป็นแบบแอร์ริซึ่ม”“โอ้ย จะใส่ทับทำไมให้มันเยอะเล่า” เจนโวยวาย พลางดันร่างสูงให้ออกห่าง“นมใหญ่จนเด่นขนาดนี้ ใส่ไปเหอะ ไม่งั
บรรยากาศภายในห้องบอลรูมของโรงแรมแกรนด์ริเวอร์เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาอันออกรส เพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยมทยอยเดินเข้ามาทักทายกันด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ จากวงดนตรีสดในมุมห้องช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำน้ำหวานยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง สวมเดรสยาวสีงาช้างที่ช่วยขับให้ความงามละมุนละไมของเธอโดดเด่น ใบหน้ายิ้มแย้มขณะพูดคุยกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม“หวาน! ไม่เจอตั้งนาน เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ สวยขึ้นมาก!”“ใช่ๆ จำได้ว่าวันนั้นเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย! ตอนนี้เรียนที่ไหนแล้วล่ะ?”น้ำหวานตอบคำถามและแลกเปลี่ยนคำทักทายกับเพื่อนๆ อย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แต่ในใจของเธอกลับล่องลอยออกไปไกล เธอเหลือบตามองประตูห้องบอลรูมอย่างเผลอไผล ราวกับรอคอยใครบางคนที่ยังมาไม่ถึง“มองหาใครอยู่เหรอ?” เสียงหนึ่งแซวมาจากเพื่อนข้างๆน้ำหวานหัวเราะกลบเกลื่อน“เปล่าหรอก...แค่มองไปเรื่อยๆ”แต่ในความเป็นจริง เธอไม่ได้แค่มองไปเรื่อยๆ หัวใจของเธอกำลังรอใครบางคนที่สำคัญเกินกว่าจะลืมภายในห้องทำงานส่วนตัวของเคนในผับอีคลิปส์ ลักซ์ เล้าจน์ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความลักซ์ชัวรี ผน
เชษ – [จะบ้าตาย]ให้ตายเหอะ!!ยิ่งผมจูบเจนมากเท่าไหร่ ความต้องการในตัวผมก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนแทบควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะตัวเธอที่แสนเย้ายวนกันแน่กลิ่นกายหอมละมุนจากเธอเหมือนกับกำลังท้าทายความอดทนของผมจนหมดสิ้น ผมอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก เดินตรงไปยังเตียงนอนอย่างรวดเร็วเมื่อวางเธอลงบนเตียงได้ ผมก็กดตัวเธอลงให้นอนราบ ขณะที่สายตาผมจับจ้องไปที่ชุดที่เธอสวมอยู่ไอ้ชุดที่ใส่มานี่ก็...เซ็กซี่เกินจนอยากจะฉีกทิ้งแควก!“เฮ้ย นาย!”เธอร้องอย่างตกใจ เมื่อผมไม่ได้แค่คิด แต่กระชากเสื้อจนขาดเหลือเพียงซิลิโคนที่ปิดจุกไว้เท่านั้นและมันไม่ได้หยุดแค่นั้น เสื้อผ้าของผมเอง รวมถึงกระโปรงสั้นของเธอ ก็ถูกผมปลดออกอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที ทิ้งทุกชิ้นลงข้างเตียงอย่างไม่สนใจอะไรนอกจากเธอที่อยู่ตรงหน้าผมยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะโน้มตัวลงประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง อารมณ์ของผมตอนนี้พลุ่งพล่านจนแทบระเบิด ไม่ว่าจะสัมผัสเธอกี่ครั้ง กี่รอบ ก็ไม่มีวันพอ...“อื๊อ...”เสียงครางแผ่วเบาจากเธอทำให้ผมยิ่งคลั่ง รวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นไว้เหนือศีรษะ พลางก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นขอ
เจนที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เชษไม่เคยหายไปนานขนาดนี้มาก่อน เธอวางแก้วเครื่องดื่มลง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปตามหาเขา ร่างบางเดินเลียบไปตามโถงทางเดินของโซนวีไอพีที่เงียบสงบจนกระทั่งเจนหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เฟิร์นกำลังจูบกับเชษอย่างนัวเนียอยู่ในมุมที่คิดว่าไม่มีใครเห็น ร่างสูงดูเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ ดวงตาคมของเจนเบิกกว้าง แต่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะวาวโรจน์ด้วยความโกรธเธอกวาดสายตามองรอบตัวจนเจอสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ที่พาดอยู่ไม่ไกล เจนคว้าสายยาง เปิดน้ำเต็มที่ แล้วฉีดเข้าใส่ทั้งคู่ทันที“กรี๊ดดดดด!!!”เสียงเฟิร์นกรีดร้องลั่น เมื่อกระแสน้ำเย็นเฉียบกระทบตัว ร่างของเธอเปียกโชกทันทีเจนไม่รอช้า เธอตรงเข้าไปกระชากผมเฟิร์นอย่างแรง ก่อนจะผลักร่างของเฟิร์นจนล้มลงไปกองกับพื้นเธอหันกลับไปหาเชษ ตั้งใจจะเล่นงานเขาที่ทำแบบนี้ แต่ร่างสูงกลับทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพง ใบหน้าคมซีดเซียว“เชษ! นาย!” เจนเรียกเขาเสียงเขียว แต่ทันทีที่เห็นอาการเขา ร่างบางชะงักไป“ฉัน...โดนยา...” เสียงของเขาแผ่วเบา ร่างสูงกัดฟันแน่นพยายามข่มอาการคำพูดนั้นทำให้เจนชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาของเธอเบิกกว้า
เสียงเพลงในผับดังสนั่น แขกเหรื่อบนฟลอร์เต้นรำกำลังสนุกสนาน แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปชั่วขณะเมื่อกลุ่มของเจนเดินเข้ามาในผับทุกสายตาหันมาจับจ้อง พนักงานเสิร์ฟบางคนถึงกับหยุดชะงัก หยุดเดินตามธรรมชาติ เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบทิศ คนในผับเริ่มซุบซิบกันเบาๆเจนในลุคที่ไม่เหมือนปกติ เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสดเปิดหลัง เนื้อผ้ามันวาวสะท้อนแสงไฟในผับ เผยเนินอกอวบอิ่มและแผ่นหลังขาวเนียน กระโปรงหนังสีดำแหวกข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขา ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ทุกก้าวย่างของเธอดูเย้ายวน รองเท้าส้นสูงคู่เก่งช่วยเสริมให้เธอดูสง่างามและเซ็กซี่จนเกินห้ามใจฟ้าและแจงที่แต่งตัวเซ็กซี่ไม่แพ้กันเดินขนาบข้าง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในผับได้ไม่แพ้เจน เสียงเพลงเหมือนจะเบาลงชั่วขณะ ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียวเชษที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพีกับโจ้และเฟย์ ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นเจนเดินเข้ามา ดวงตาคมเข้มเบิกกว้าง รอยยิ้มมุมปากที่มักติดตัวหายไปทันที เหลือเพียงสีหน้าตะลึงงันกับลุคของเธอในคืนนี้โจ้กับเฟย์ที่ยืนอยู่ห่างไปเล็กน้อยถึงกับยกแก้วขึ้นปิดปาก หันมามองหน้ากันก่อนรีบเดินตรงกลับมาที่โต๊ะทันที“เชี่ย! นั่นเจนจริงเหรอวะ?
ในห้องแต่งตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีและเครื่องสำอางกระจายเต็มโต๊ะ ฟ้าและแจงยืนจ้องเจนที่ใส่สายเดี่ยวสีขาวธรรมดา คลุมด้วยซีทรูสีดำ และกางเกงสกินนี่เอวสูงอย่างเอือมระอา“แกแต่งแบบนี้ไม่ได้!” ฟ้าพูดขึ้น พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนเห็นอะไรที่รับไม่ได้“ใช่! แกต้องแต่งให้เลิศหน่อยเว้ย!” แจงเสริมทันที“ทำไมอะ? ฉันว่าแค่นี้ก็พอแล้วปะ?”“ไม่พอ!!!” ฟ้าและแจงประสานเสียงกัน ก่อนที่ฟ้าจะเดินมาคว้าแขนเจน“มานี่! เดี๋ยวพวกฉันจัดให้เอง”สิบห้านาทีต่อมา...เจนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในลุคที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เชื่อสายตาฟ้าเลือกเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสด ดีไซน์เก๋ด้วยสายห่วงโซ่ไขว้กันด้านหลัง เปิดโชว์แผ่นหลังขาวเนียนอย่างน่ามอง เนื้อผ้ามันวาว ด้านหน้าถูกออกแบบให้เว้าลึกเล็กน้อย เผยให้เห็นเนินอกอิ่มอย่างพอเหมาะ ดูหรูหราและเย้ายวนในคราวเดียวกันส่วนแจงจัดการเลือกกระโปรงหนังสีดำสั้นเหนือเข่า มีดีไซน์แหวกข้างเล็กน้อย โชว์เรียวขาขาวเนียนที่ดูโดดเด่นและสะดุดตา“แกต้องโชว์ขานิดๆ แต่ไม่โป๊ นี่แหละ...กำลังดี” แจงพูดด้วยรอยยิ้มพอใจฟ้าไม่หยุดแค่นั้น เธอหยิบรองเท้าส้นสูงสีดำ
สองวันต่อมา...ภายในห้องคอนโดของเชษ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านสีเทาอ่อน ส่องกระทบโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและหน้าจอแล็ปท็อปที่เปิดอีเมลหลายฉบับ เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด คิ้วขมวดจนแทบจะเป็นปม ขณะที่ดวงตาคมกริบไล่สายตาอ่านข้อมูลบนหน้าจอเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนในชุดลำลองสบายๆ เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมแล็ปท็อปในมือ เธอหยุดยืนอยู่ข้างหลังเชษ สายตาสอดส่องมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหน้าจอ“นายทำไรอะ?”เชษเงยหน้าขึ้นจากเอกสารดิจิทัลในหน้าจอแล็ปท็อป ก่อนจะยิ้มมุมปาก ดึงร่างบางของเจนมานั่งบนตักโดยไม่พูดอะไร แล็ปท็อปในมือของเธอถูกดึงไปวางไว้บนโต๊ะ แขนแกร่งโอบรอบเอวของเธอไว้หลวมๆ“กำลังดูข้อมูลของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่ชนะประมูลนั่นแหละ”เจนมองจอแล็ปท็อปที่แสดงข้อมูลอยู่ เธอเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ“ฮั้วประมูลเหรอ?”“อืม...”เชษพยักหน้า ดวงตาคมจ้องข้อมูลตรงหน้า ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“ฉันมีเรื่องอยากถาม...”“หืม?” เจนเลิกคิ้ว หันมามองเขา“เฮียเคนเป็นใคร?”เจนกระพริบตาปริบๆ คำถามนั้นทำให้เธอชะงักไป เธอร
ด้านเจน ด้วยความช่วยเหลือจากเคน ทำให้เธอปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม ภายใต้ยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและกระโปรงสีดำเข้ารูป พร้อมผ้ากันเปื้อนสีครีมที่ทำให้เธอดูไม่สะดุดตาเกินไป แต่แฝงไปด้วยความคล่องตัว ใบหน้าหวานของเธอถูกแต่งแต้มบางเบาเพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำง่ายเกินไปเจนได้รับมอบหมายให้ดูแลห้องประชุมส่วนตัวที่ชั้นสองของโรงแรม ห้องประชุมนี้ถูกจองโดยบริษัท ‘โครนอส อินดัสทรีส์’ ซึ่งจากข้อมูลที่เธอได้รับมา เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวลือว่าพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ห้องประชุมส่วนตัวบนชั้นสองของโรงแรมถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา โทนสีขาวทอง ผ้าม่านหนาปิดบังหน้าต่างเพื่อความเป็นส่วนตัว โต๊ะยาวกลางห้องถูกจัดด้วยอุปกรณ์สำหรับประชุม และมีพื้นที่สำหรับบุฟเฟต์อาหารที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจนพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบเฉย ขณะเดินเข้าไปเช็กความเรียบร้อยของอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ เธอรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่แอบมองมาทางเธอ แต่ก็พยายามไม่แสดงท่าทีพิรุธเจนเดินเข้าไปหยิบถาดเครื่องดื่ม ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างแนบเนียน บรรยากาศ
เชษนั่งอยู่บนโซฟาของคอนโด ใบหน้าคมเคร่งเครียดขณะเลื่อนอ่านข้อมูลที่บอสส่งมาให้บนแล็ปท็อป เสียงพึมพำเบาๆ ของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะขณะขบคิดแผนการ“ถ้าอยากได้หลักฐานเพิ่ม…ฉันอาจต้องเข้าไปในงานประมูลเอง” เจนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น เธอเช็ดผมที่ยังชื้นเล็กน้อย พลางเดินตรงไปหาเชษ“นายดูเครียดมากเลยนะ มีอะไรเหรอ?”เชษเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันกำลังคิดแผนหาหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาน่ะ” เจนขมวดคิ้วนิดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา“แผนอะไร?”เชษวางแล็ปท็อปลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง“ตอนนี้ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่พอจะเชื่อมโยงพวกมันได้ แต่ยังไม่พอสำหรับเอาไปใช้เล่นงานพวกนั้น ถ้าฉันสามารถเข้าไปร่วมงานประมูลเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ได้ ฉันอาจหาโอกาสเจาะลึกข้อมูลของพวกมันเพิ่มได้” “งานประมูล? นายจะเข้าไปยังไง?”“บริษัทของพ่อฉัน…SK Construction เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูล ฉันสามารถเข้าไปในฐานะตัวแทนได้ แต่…” เชษพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล“แต่อะไร?” เจนถาม พร้อมมองหน้าเขานิ่ง“มันเสี่ยง ถ้าพวกนั้นรู้ตัวว่าเรากำลังตามสืบข้
ภายในร้านกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ร้านเล็กๆ ใจกลางเมือง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง มือหนาเขี่ยแก้วกาแฟที่เหลือเพียงก้นแก้วไปมา ขณะสายตาคมทอดมองผ่านกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นความวุ่นวายของเมืองด้านนอกเสียงกระดิ่งดังเบาๆ เมื่อประตูร้านเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลคลาสสิกและกางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มมั่นใจ ขณะที่สายตากวาดมองหาเป้าหมาย“ว่าไงเรา” ชายหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนเดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเชษ“มาช้าจัง พี่บอส” เชษพูดพลางยกยิ้มมุมปาก“เอาน่า รีบสุดๆ แล้ว” บอสหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือโบกเรียกพนักงานมารับออเดอร์กาแฟเชษพิงหลังกับพนักเก้าอี้ สายตามองบอสด้วยความคุ้นเคยย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เชษซึ่งในตอนนั้นเป็นนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีสอง เข้าร่วมงานด้วยความตั้งใจอยากเรียนรู้เทคนิคการออกแบบโครงสร้างอาคารด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูงขณะเดียวกัน บอสซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ กำลังพูดถึงการนำเทคโนโลยี AI และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต
“อ๊า...อ๊า...เชษ...งื้อ...”เจนครางเสียงกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนของเชษสอดเข้าไปในตัวเธอ ลิ้นของเขากระดกรัวอย่างชำนาญ สร้างสัมผัสที่ลึกล้ำและเร่าร้อน เกลียวลิ้นดันขึ้นลงหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกเร้าให้เธอถึงจุดสุดยอดมือเรียวบางของเจนเลื่อนขึ้นมาจิกบ่าของเขาแน่น ร่างบางสะท้านไปทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา ท้องน้อยของเธอเกร็งแน่นจนไม่อาจควบคุมได้ขณะที่ปลายลิ้นร้อนของเขาบดขยี้จุดไวสัมผัสอย่างเร่าร้อน มือหนาของเชษก็ไม่หยุดนิ่ง เลื่อนขึ้นมาบดบี้และขยี้ยอดถันสีสวยของเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความชำนาญ การกระทำของเขายิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับเจนจนแทบทนไม่ไหวร่างบางกัดริมฝีปากแน่น พยายามระบายความวาบหวามที่พุ่งพล่าน มือเรียวของเธอเผลอยกขึ้นขยุ้มผมของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับยิ่งพาเธอเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นไปอีก“อืม...” เชษพึมพำเสียงต่ำในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับตั้งใจปลุกเร้าทุกความรู้สึกของเจน ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากของเธอ เขาก็ยิ่งเพิ่มความพริ้วไหวขอ