เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นด้านหลังม่อน พร้อมคำพูดที่เสียดแทงความรู้สึก“หึ ดูท่านายจะสู้เชษไม่ได้สินะ”ม่อนหันไปมองอย่างหงุดหงิด ดวงตาแข็งกร้าวสบกับเฟิร์นที่ยืนยิ้มเยาะอยู่ในชุดราตรีสีครีม เปิดไหล่เผยผิวเนียนละเอียดอย่างจงใจ โดยเฉพาะเนินอกขาวที่ล้นออกมาจากชุด“เธอเองเหรอ” ม่อนพึมพำ ก่อนจะหยิบแก้วไวน์ขึ้นมากระดกอีกครั้งอย่างไม่สนใจ“นายอยากได้เจนมากแค่ไหนกันล่ะ?”เฟิร์นถามเสียงเย้ายวน ขณะเดินเข้ามาใกล้ ชุดที่เธอสวมยิ่งเน้นรูปร่างอันเย้ายวน ทำให้สายตาหลายคู่ในงานมองตามอย่างไม่ตั้งใจม่อนถอนหายใจ พ่นลมหงุดหงิดออกจมูก“หึ เธอจะทำได้เรอะ?” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความดูแคลน“นายก็ต้องลองปะ?” เฟิร์นยิ้มบาง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอยกแขนขึ้นโอบรอบคอของม่อนอย่างจงใจ ปลายเล็บแตะเบาๆ ที่ท้ายทอยของเขา ขณะที่เบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้ากับอกแกร่งของม่อนม่อนมองเธอด้วยสายตาเย็นชา แต่แววตาเริ่มมีประกายความสนใจเจือปน“แล้วเธอจะช่วยฉันยังไง?”“ง่ายมาก” เฟิร์นกระซิบข้างหู น้ำเสียงแผ่วเบาจนเหมือนลมร้อนที่ทำให้ม่อนนิ่งไป“งั้นเธอต้องโชว์ให้ฉันดูละ” ม่อนกระตุกยิ้มร้าย ถึงคืนนี้เขาจะไม่ได้ตัวเจน แต่
“เฮ้ย เจน ฟ้า!!”เสียงแจงดังลั่นขณะที่เธอวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเพื่อนสองคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาไถมือถือดูสถานที่รับนักศึกษาฝึกงานในเวบไซต์ของมหาวิทยาลัยอยู่ที่โต๊ะประจำ“อะไรของแก?” เจนเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ พลางเลิกคิ้วมองเพื่อนที่ดูรีบร้อน“ศุกร์นี้พี่ๆ ทีมงานจะเลี้ยงฉลองที่งานบายเนียร์ออกมาดีงามมากๆ อะ” แจงพูดเร็วแทบไม่หยุดหายใจ พร้อมยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น“แล้ว?” ฟ้าหรี่ตาถาม แต่ยังไม่ยอมวางมือถือ“พวกเขาชวนเราไปด้วย! ไปกันเถอะ นะๆๆ” แจงดึงแขนฟ้าพร้อมกับเขย่าเบาๆ“งานเลี้ยง?” เจนขมวดคิ้วเล็กน้อย“คือจะจัดเลี้ยงอะไรอีกล่ะ?”“พี่ๆ อยากขอบคุณทุกคนที่ช่วยงานไง ไปเหอะ เขาจัดงานที่ผับอีคลิปส์เลยน้า~” แจงพูดเสียงอ้อน พร้อมปรายตามองเพื่อนสนิททั้งสองคนที่ดูเหมือนไม่สนใจ“เฮ้ย! ผับอีคลิปส์ ลักซ์ เล้าจน์อะนะ!!” ฟ้าตาโตทันที เลิกเล่นมือถือแล้วเงยหน้ามามองแจง“ใช่!!! พลาดได้ไงล่ะ!!” แจงพูดพลางทำตาเป็นประกาย“เออ แบบนี้ต้องไปว่ะ เจนไปดิ๊” ฟ้ารีบหันมาบอกเจนอีกคน“ผับอีคลิปส์? ทำไมชื่อคุ้นๆ วะ” เจนพึมพำเบาๆ ในหัวพยายามนึก“แกว่าไงอะ เจน!” ฟ้าและแจงส่งสายตาอ้อนสุดฤทธิ์เจนกลอกตาเบาๆ ก่อนถอนหายใ
“ตอนม.ต้น ฉันเรียนที่เดียวกับน้ำหวาน...”เชษเริ่มเล่า น้ำเสียงราบเรียบ แต่สายตากลับทอดไปไกล เหมือนกำลังนึกถึงภาพในอดีตย้อนกลับไปหลายปีก่อน ที่โรงเรียนเซนต์เอเธนาอัส เชษในวัยมัธยมต้น เป็นเด็กหนุ่มที่เริ่มฉายแววความหล่อและโดดเด่น ด้วยบุคลิกมั่นใจ เสน่ห์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และรอยยิ้มมุมปากที่มักจะเรียกความสนใจจากคนรอบข้าง เขากลายเป็นที่จับตามองของสาวๆ ทันทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนแต่ในบรรดาสาวๆ เหล่านั้น เชษกลับสนใจเพียงคนเดียว—น้ำหวาน เพื่อนร่วมชั้นที่มีใบหน้าหวานละมุน และนิสัยอ่อนโยนที่ทำให้เธอโดดเด่นในแบบของตัวเอง“เชษ มึงชอบหวานจริงดิ?” โดม เพื่อนสนิทของเขาถามขึ้นระหว่างที่พวกเขานั่งกินขนมอยู่ใต้ต้นไม้“เออ” เชษตอบสั้นๆ“แล้วทำไงวะ?”“ก็จีบสิ” เชษยักไหล่ ยิ้มบางๆนับจากวันนั้น เชษเริ่มต้นแผนการจีบแบบจริงจัง เขาใช้ความพยายามทุกวิถีทาง ตั้งแต่ช่วยน้ำหวานถือกระเป๋าตอนเลิกเรียน ซื้อขนมที่เธอชอบให้ทุกเช้า และชวนเธอทำการบ้านด้วยกันในห้องสมุดความพยายามของเชษไม่ได้สูญเปล่า น้ำหวานค่อยๆ เปิดใจให้เขา จนในที่สุด ทั้งคู่ก็ตกลงคบกัน ท่ามกลางสายตาอิจฉาของเพื่อนๆ ที่มองว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักที่สม
เช้าวันศุกร์ เชษนั่งเอนหลังอยู่บนเตียง มือถือในมือแสดงข้อมูลเกี่ยวกับแบล็คแฮนด์ที่เคนส่งมาให้ เขาไล่อ่านรายละเอียดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ในขณะเดียวกัน เจนกำลังยืนหน้ากระจกแต่งตัวเตรียมไปเรียนเธอยัดชายเสื้อนักศึกษาเข้าในกระโปรงทรงเอแบบรีบเร่ง เนื้อผ้าตึงแนบไปกับร่างบาง เผยให้เห็นทรวดทรงชัดเจนโดยไม่ตั้งใจ เชษเหลือบตาขึ้นจากหน้าจอมือถือมองภาพตรงหน้า ดวงตาคมกริบหยุดนิ่งบนเงาสะท้อนในกระจกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ ท่าทางสงบนิ่งของเขาดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่เขาจะวางมือถือไว้ข้างตัว แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อคลุมคาร์ดิแกนบางๆ สีสุภาพออกมา“ใส่อันนี้ทับด้วย” เชษพูดเสียงเข้ม ขณะเดินเข้ามาหาเจนที่หันมายืนจ้องเขาอย่างงุนงง“ใส่ทำไม? มันร้อนนะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เถอะน่า ใส่ไป” เขาตอบสั้นๆ ก่อนคลุมเสื้อให้เธอทันทีโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธ“อะไรของนายเนี่ย!” เจนร้องประท้วง พลางพยายามปลดเสื้อคลุมออก“ตัวนี้ไม่ร้อน เป็นแบบแอร์ริซึ่ม”“โอ้ย จะใส่ทับทำไมให้มันเยอะเล่า” เจนโวยวาย พลางดันร่างสูงให้ออกห่าง“นมใหญ่จนเด่นขนาดนี้ ใส่ไปเหอะ ไม่งั
บรรยากาศภายในห้องบอลรูมของโรงแรมแกรนด์ริเวอร์เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาอันออกรส เพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยมทยอยเดินเข้ามาทักทายกันด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ จากวงดนตรีสดในมุมห้องช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำน้ำหวานยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง สวมเดรสยาวสีงาช้างที่ช่วยขับให้ความงามละมุนละไมของเธอโดดเด่น ใบหน้ายิ้มแย้มขณะพูดคุยกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม“หวาน! ไม่เจอตั้งนาน เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ สวยขึ้นมาก!”“ใช่ๆ จำได้ว่าวันนั้นเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย! ตอนนี้เรียนที่ไหนแล้วล่ะ?”น้ำหวานตอบคำถามและแลกเปลี่ยนคำทักทายกับเพื่อนๆ อย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แต่ในใจของเธอกลับล่องลอยออกไปไกล เธอเหลือบตามองประตูห้องบอลรูมอย่างเผลอไผล ราวกับรอคอยใครบางคนที่ยังมาไม่ถึง“มองหาใครอยู่เหรอ?” เสียงหนึ่งแซวมาจากเพื่อนข้างๆน้ำหวานหัวเราะกลบเกลื่อน“เปล่าหรอก...แค่มองไปเรื่อยๆ”แต่ในความเป็นจริง เธอไม่ได้แค่มองไปเรื่อยๆ หัวใจของเธอกำลังรอใครบางคนที่สำคัญเกินกว่าจะลืมภายในห้องทำงานส่วนตัวของเคนในผับอีคลิปส์ ลักซ์ เล้าจน์ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความลักซ์ชัวรี ผน
บรรยากาศภายในผับอีคลิปส์คืนนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานและแสงไฟหลากสีสันที่สาดส่องไปทั่วบริเวณ ทำให้ทั้งผับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาโต๊ะยาวโซนวีไอพีที่ทีมงานจัดงานบายเนียร์ รวมถึงรุ่นพี่ปีสี่และรุ่นน้องที่ร่วมงานเดินแบบนั่งรวมตัวกัน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ดังลั่น ทุกคนดูผ่อนคลายหลังจากทุ่มเทแรงกายแรงใจให้งานใหญ่เสร็จสิ้น“แก อย่ามัวนั่งเฉยๆ มานี่เลย!” แจงพูดพลางดึงแขนเจนที่นั่งจิบน้ำแอปเปิ้ลโซดาอยู่ให้ลุกขึ้น“ฉันไม่ไป แกไปเต้นกับฟ้าเถอะ” เจนพูดเสียงอ่อน ขณะที่ฟ้านั่งหัวเราะขำอยู่ข้างๆ“ยัยเจน แกเดินแบบขนาดนั้น ยังจะอายไรอี๊ก!! แกต้องไปเต้น!” แจงยืนยัน“ไม่ลุก” เจนส่ายหน้า แล้วเอนตัวพิงโซฟาหนานุ่มด้วยท่าทางสบายๆขณะที่กำลังจะโต้ตอบ แจง สายตาของเจนก็เหลือบไปเห็นม่อนที่นั่งเอนตัวพิงพนักโซฟาอีกฝั่งของห้อง สายตาคมกริบของเขามองตรงมาที่เธอ พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ เขายกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบช้าๆ เหมือนกำลังดูสถานการณ์อย่างตั้งใจ“แก ไปเต้นกันเหอะ!” แจงพยายามดึงมือเจนในที่สุด เจนก็ถูกทั้งแจงและฟ้าผลักให้ลุกขึ้น เธอเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำอย่างไม่เต็มใจนักม่
เชษขับรถมาจอดหน้าผับอีคลิปส์อย่างรวดเร็ว เขาก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ไม่สนใจเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตะโกนโวยวายเรื่องการจอดรถของเขา ก่อนจะปรี่เข้าไปในผับด้วยความรีบเร่งทันทีที่เข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือความวุ่นวายตรงโซนวีไอพี แจงกับฟ้ากำลังยืนประคองเจนที่ดูแทบไม่มีแรง ด้านหน้าของพวกเธอคือม่อนที่ยังยืนทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้ทุกอย่างดูยิ่งน่าหงุดหงิด สายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมายังสถานการณ์นั้น เสียงเพลงสนุกที่เปิดอยู่กลายเป็นเพียงเสียงประกอบฉากที่ไม่เข้ากับบรรยากาศตึงเครียดตรงนี้เลย“ไอ้เลว!! พวกแกใส่อะไรให้เพื่อนฉันกิน!”ฟ้าตะโกนลั่น น้ำเสียงสั่นด้วยความโกรธ ขณะที่แขนยังโอบรั้งเจนไม่ให้ทรุดลงกับพื้น แจงยืนกำหมัดแน่นอยู่ข้างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย แค่เห็นเจนดูเมาๆ ก็จะพาไปพัก”ม่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน สายตากรุ้มกริ่มของเขาที่มองเจน ทำให้ทุกคนเดือดดาลขึ้นไปอีก“ตอแหล! เจนไม่กินเหล้า!” แจงสวนกลับทันที ใบหน้าแดงจัดด้วยความโมโหจัดเชษกวาดสายตามองไปที่เจน เธออยู่ในอ้อมแขนของฟ้า ร่างบางดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอแดงจ
“เช็ดตัวก่อนนะ...ตัวเธอร้อนมาก...”แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ร่างบางกลับยกมือขึ้นมาคว้าคอเขาไว้โดยไม่ทันให้ตั้งตัว ดวงตาหวานเยิ้มพร่าเลือนจากฤทธิ์ยาจ้องลึกเข้ามาในตาของเขา ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะทาบทับบดขยี้กับปากของเขา ร่างกายที่ร้อนรุ่มของเธอทำให้เชษรู้สึกเหมือนคนใกล้คลั่งลิ้นเล็กอ่อนนุ่มของเธอสอดแทรกเข้ามาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ไล่ต้อนลิ้นหนาของเขาด้วยจังหวะเร่าร้อนและรุนแรงเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้ เชษแทบจะลืมหายใจไปชั่วขณะเพียงแค่นั้น...ความอดทนทั้งหมดของเชษก็ขาดสะบั้นลงในพริบตาเขาตอบสนองจูบของเธอทันที ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบกลับไปอย่างร้อนแรงและลึกซึ้ง ลิ้นหนาของเขาตวัดเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่พยายามจะยั่วเย้าเขาอย่างท้าทาย เสียงหอบหายใจของทั้งสองคนผสานกันในความเงียบของห้อง สัมผัสเร่าร้อนทำให้เวลารอบตัวเหมือนหยุดลงทั้งสองช่วยกันปลดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ก็แนบชิดกันบนที่นอนอันแสนนุ่มริมฝีปากหนาของเชษพรมจูบลงไปตามลำคอขาวเนียน ไล้สัมผัสอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นร้อนลากไล้ต่ำลงมาจนถึงหน้าอกคู่สวยที่เบียดชิดกันอย่างเย้ายวนเขาสะบัดปลายลิ้นเลี
เชษนั่งอยู่บนโซฟาของคอนโด ใบหน้าคมเคร่งเครียดขณะเลื่อนอ่านข้อมูลที่บอสส่งมาให้บนแล็ปท็อป เสียงพึมพำเบาๆ ของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะขณะขบคิดแผนการ“ถ้าอยากได้หลักฐานเพิ่ม…ฉันอาจต้องเข้าไปในงานประมูลเอง” เจนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น เธอเช็ดผมที่ยังชื้นเล็กน้อย พลางเดินตรงไปหาเชษ“นายดูเครียดมากเลยนะ มีอะไรเหรอ?”เชษเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันกำลังคิดแผนหาหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาน่ะ” เจนขมวดคิ้วนิดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา“แผนอะไร?”เชษวางแล็ปท็อปลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง“ตอนนี้ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่พอจะเชื่อมโยงพวกมันได้ แต่ยังไม่พอสำหรับเอาไปใช้เล่นงานพวกนั้น ถ้าฉันสามารถเข้าไปร่วมงานประมูลเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ได้ ฉันอาจหาโอกาสเจาะลึกข้อมูลของพวกมันเพิ่มได้” “งานประมูล? นายจะเข้าไปยังไง?”“บริษัทของพ่อฉัน…SK Construction เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูล ฉันสามารถเข้าไปในฐานะตัวแทนได้ แต่…” เชษพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล“แต่อะไร?” เจนถาม พร้อมมองหน้าเขานิ่ง“มันเสี่ยง ถ้าพวกนั้นรู้ตัวว่าเรากำลังตามสืบข้
ภายในร้านกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ร้านเล็กๆ ใจกลางเมือง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง มือหนาเขี่ยแก้วกาแฟที่เหลือเพียงก้นแก้วไปมา ขณะสายตาคมทอดมองผ่านกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นความวุ่นวายของเมืองด้านนอกเสียงกระดิ่งดังเบาๆ เมื่อประตูร้านเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลคลาสสิกและกางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มมั่นใจ ขณะที่สายตากวาดมองหาเป้าหมาย“ว่าไงเรา” ชายหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนเดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเชษ“มาช้าจัง พี่บอส” เชษพูดพลางยกยิ้มมุมปาก“เอาน่า รีบสุดๆ แล้ว” บอสหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือโบกเรียกพนักงานมารับออเดอร์กาแฟเชษพิงหลังกับพนักเก้าอี้ สายตามองบอสด้วยความคุ้นเคยย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เชษซึ่งในตอนนั้นเป็นนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีสอง เข้าร่วมงานด้วยความตั้งใจอยากเรียนรู้เทคนิคการออกแบบโครงสร้างอาคารด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูงขณะเดียวกัน บอสซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ กำลังพูดถึงการนำเทคโนโลยี AI และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต
“อ๊า...อ๊า...เชษ...งื้อ...”เจนครางเสียงกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนของเชษสอดเข้าไปในตัวเธอ ลิ้นของเขากระดกรัวอย่างชำนาญ สร้างสัมผัสที่ลึกล้ำและเร่าร้อน เกลียวลิ้นดันขึ้นลงหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกเร้าให้เธอถึงจุดสุดยอดมือเรียวบางของเจนเลื่อนขึ้นมาจิกบ่าของเขาแน่น ร่างบางสะท้านไปทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา ท้องน้อยของเธอเกร็งแน่นจนไม่อาจควบคุมได้ขณะที่ปลายลิ้นร้อนของเขาบดขยี้จุดไวสัมผัสอย่างเร่าร้อน มือหนาของเชษก็ไม่หยุดนิ่ง เลื่อนขึ้นมาบดบี้และขยี้ยอดถันสีสวยของเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความชำนาญ การกระทำของเขายิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับเจนจนแทบทนไม่ไหวร่างบางกัดริมฝีปากแน่น พยายามระบายความวาบหวามที่พุ่งพล่าน มือเรียวของเธอเผลอยกขึ้นขยุ้มผมของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับยิ่งพาเธอเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นไปอีก“อืม...” เชษพึมพำเสียงต่ำในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับตั้งใจปลุกเร้าทุกความรู้สึกของเจน ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากของเธอ เขาก็ยิ่งเพิ่มความพริ้วไหวขอ
ในห้องนั่งเล่นของคอนโด เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานข้างโซฟา แสงจากหน้าจอแล็ปท็อปสะท้อนบนใบหน้าหล่อเหลา แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ดวงตาคมกริบจ้องข้อมูลบนหน้าจออย่างตั้งใจ เขากำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์“ถ้าจะหาหลักฐานจริงๆ ...” เชษพึมพำกับตัวเอง มือเรียวลูบคางขณะใช้ความคิด ใบหน้าขรึมฉายแววครุ่นเคร่งเขาคิดถึงการติดต่อแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ หรืออาจใช้เส้นสายส่วนตัวในวงการก่อสร้างเพื่อหาข้อมูลจากวงใน อีกทางหนึ่งที่เขาพิจารณาคือการเจาะระบบของบริษัทที่น่าสงสัย แม้จะเสี่ยง แต่เขารู้ว่านั่นอาจเป็นหนทางเดียวที่จะได้หลักฐานที่ต้องการ“หรือจะเริ่มจากการจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนพวกนั้น...” เชษพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง ดวงตาคมทอประกายวาวโรจน์ขณะที่เขากำลังจมอยู่กับความคิด เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่ง ผมที่ยังเปียกอยู่ทำให้ผมยาวสีน้ำตาลเข้มปรกลงมาบนไหล่ เธอเช็ดผมอย่างอ้อยอิ่ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูแตะจมูกของเชษเขาหันไปมอง ดวงตาคมเข้มไล่ตามเรือนร่างที่อาบไปด้วยแ
เมื่อเชษเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก็เห็นเจนนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยบูดบึ้งชัดเจน เขาวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปนั่งข้างเธอ แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้“เป็นไร?” เชษถามเสียงนุ่ม พร้อมใช้จมูกซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาคุ้นเคยจากร่างกายเธอเจนสะบัดตัวเล็กน้อย ราวกับจะหลบหนีสัมผัส แต่ไม่ได้ขัดขืนจริงจัง“เพื่อนนายมา”“ใครอะ”“ฮื้อ...จะใครล่ะ” เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน พลางจ้องหน้าเขานิ่งเชษหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ“เฟิร์น?”“รึมีสาวอื่นอีกล่ะ?” เจนสวนกลับทันที น้ำเสียงฟังดูเรียบนิ่ง แต่แฝงความไม่พอใจชัดเจนเชษยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กที่กำลังงอแง“แล้วเขามาทำไม?”“มาขอยืมคัตเตอร์...แต่ดูเหมือนอยากมาอวดฉันมากกว่า”เจนเบือนหน้าไปทางอื่น แต่เสียงและท่าทางของเธอกลับชัดเจนว่าไม่พอใจสุดๆเชษถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรั้งเจนเข้ามากอดแน่นขึ้น แขนแกร่งโอบรอบตัวเธอราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความจริงใจ“เจน ฟังนะ...ฉันกับเฟิร์นเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”“ดูเหมือนเธอจะไม่คิดแบบนั้นนะ” เจนพูดเบาๆ แต่เชษก็ได้ยินชัดเจนเชษใช้ปลายนิ้วเกล
เชษสะพายกระเป๋าเป้พร้อมกับโจ้และเฟย์ ทั้งสามคนเดินออกจากอาคารเรียนวิศวกรรมโยธา บรรยากาศรอบๆ เริ่มเย็นลง แต่ท้องฟ้ายังมีแสงอ่อนๆ จากดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าขณะเดิน เชษหยิบมือถือขึ้นมาเช็กข้อความ หน้าจอแสดงแจ้งเตือนจากเจน‘เลิกเรียนรึยัง? ฉันรออยู่ที่ห้องแล้วนะ อย่าลืมว่าคืนนี้นายต้องพาฉันไปช้อปปิ้งนะ ไม่งั้นโดนแน่!’ - เจนเชษอ่านข้อความแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนพิมพ์ตอบกลับไป‘กำลังกลับ รอหน่อย’ - เชษรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาไม่อาจเล็ดรอดสายตาของโจ้ไปได้“ยิ้มอะไรคนเดียววะ?”“เรื่องของกู” เชษตอบเรียบๆ แต่ยังคงมีรอยยิ้มที่มุมปากเฟย์ที่เดินอยู่ข้างกันหัวเราะเบาๆ“มึงนี่ ถึงไม่บอกกูก็เดาได้ เจนใช่มั้ย?”เชษไม่พูดอะไร เพียงแค่เก็บมือถือเข้ากระเป๋า ก่อนเดินนำทั้งสองคนไปยังลานจอดรถ ท่าทีเงียบขรึมแต่แฝงด้วยความสุขที่ไม่อาจปิดบังได้เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงลานจอดรถ เชษหยิบกุญแจรถขึ้นมาจากกระเป๋า แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ข้างรถของเขาหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวเรียบหรู เผยผิวขาวเนียนที่สะท้อนแสงอ่อนๆ ของยามเย็น ผมสีน้ำตาลอ่อนปล่อยยาวเป็นลอน เธอยิ้มหวานให้เขา“เชษ...” น้ำหวานเรียกชื่อเขา เ
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน ผสมผสานความหรูหราอย่างมีรสนิยม เฟิร์นนั่งอยู่บนเตียงนุ่มหลังใหญ่ ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปยังหน้าต่างบานกว้าง แสงไฟจากเมืองยามค่ำคืนสะท้อนสาดส่องเข้ามา แต่ความคิดในหัวของเธอกลับยุ่งเหยิงเธอเอนตัวพิงพนักเตียง มือเรียวสวยลูบเส้นผมยาวสลวยเล่นอย่างเหม่อลอย แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความแค้นที่ก่อตัวอย่างหนักแน่น“เจน...ทำไมเธอถึงได้เชษไป?” เธอพึมพำเบาๆ ความอิจฉาที่เธอมีต่อเจนทำให้หัวใจของเธอเดือดพล่านเฟิร์นหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวและโซเชียลของเชษอีกครั้ง ภาพที่เขาและเจนอยู่ด้วยกันทำให้เธอกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ“ฉันอยู่ข้างเขามาตลอด...แต่ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน?!”เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ประกายในดวงตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นและอาฆาตเฟิร์นนั่งนิ่ง ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นาน ความคิดดำมืดเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อยจนกระทั่งริมฝีปากสวยเผยยิ้มบางที่แฝงไปด้วยเล่ห์กล“ถ้าฉันจัดการเธอไม่ได้...งั้นก็ต้องทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นของฉัน” เธอพูดกับตัวเอง ดวงตาวาวโรจน์ด้วยแผนการที่เริ่มก่อตัว“ดูสิ ว่าเธอจะทำยังไง” เฟิร์นยิ้มเย็น ราวกับคนที่เตรียมพร้อมจะทำทุกอย่างเ
หน้าตึกคณะบัญชี เจนนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกเธอ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานลงแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่ฟ้ากับแจงนั่งอยู่ข้างๆ ต่างคนต่างไถมือถือหาข้อมูลช่วยเธอ“เฮ้ย! ดูข่าวนี่ดิ” แจงร้องขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะยื่นมือถือให้ฟ้าดู“นี่มัน...ม่อน แล้วนั่นก็ใหม่!” ฟ้าพึมพำเสียงดัง พลางยื่นหน้าเข้าไปอ่านรายละเอียดในข่าวที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ“เจน แกดูดิๆ” ฟ้ายื่นมือถือไปตรงหน้าเจนเจนชะงักมือจากการพิมพ์รายงาน พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรับมือถือมาดู“หืม? คลิปฉาวเน็ตไอดอลชื่อย่อ ม. สวิงกิ้งกับผู้ชายสิบคนในโรงแรมหรู...” เจนอ่านพาดหัวข่าว พลางเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าอึ้งๆ“นี่มัน..”“เออ ไอ้ม่อน ไอ้เลวที่มันวางยาแกอะ” แจงบอกเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“สมหน้า! หนอย แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ให้แกกิน แล้วจะมาเอาตัวแกไปอีก” ฟ้าพูดพลางกำมือแน่น นึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นด้วยความโกรธเจนจ้องจอมือถือครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“โชคดีนะ ที่พี่เนยมาช่วยไว้ ไม่งั้น...” เธอหยุดไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววไม่มั่นใจ“ฉันจำได้แค่ว่า
ในยามบ่ายที่เงียบสงัด เฟิร์นนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสบายๆ สมาร์ทโฟนในมือถูกไถขึ้นลงบนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย เสียงเพลงจังหวะเบาๆ ที่ลอยมาจากลำโพงข้างเตียงไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“นี่มันอะไรกัน...” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยุดมือที่ไถจอ เปิดแชทที่เคยส่งข้อความหาม่อนซึ่งตอนนี้ยังไร้การตอบกลับ“หายหัวไปไหนวะ! ไม่รู้หรือไงว่าฉันรอฟังข่าวอยู่!” เธอบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ขณะที่ขมวดคิ้วมองหน้าจอมือถือเฟิร์นทิ้งตัวลงบนหมอนอย่างแรง ขณะความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว เธออุตส่าห์ลงทุนไปซื้อยาปลุกเซ็กส์มาให้ม่อน เพื่อให้เขาใช้จัดการกับเจนตามแผน ถ้ามันสำเร็จ เจนจะต้องอับอายจนไม่กล้าอยู่ใกล้เชษอีกต่อไป และเชษ...จะต้องหันมาหาเธอแทน“เรื่องง่ายๆ แค่นี้...มันต้องสำเร็จสิ” เฟิร์นพึมพำเบาๆ ปลายนิ้วไล้ไปตามหน้าจอโทรศัพท์อย่างล่องลอย แต่ในใจกลับคุกรุ่นด้วยความอิจฉาเธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเหลือบตามองข้อความล่าสุดของม่อนที่ยังคงเงียบสนิท จนเธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เฟิร์นกำลังนอนเบื่อๆ อยู่บนเตียง เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันข่