ในที่สุด ทั้งสองคนก็ไม่ได้ลุกจากเตียงไปไหนเลยตลอดทั้งวัน...แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างค่อยๆ เลื่อนเปลี่ยนเป็นแสงสลัวของยามเย็น บรรยากาศในห้องยังคงอบอวลไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกที่แสนหวานเชษนอนเอนกายอยู่บนเตียง ร่างแกร่งโอบกอดเจนไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน ร่างบางของเจนซุกตัวอยู่ในอกเขา หอบหายใจเบาๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ผมยาวสยายระเกะระกะอยู่บนแผ่นอกของเขา“เธอทำฉันหมดแรงเลยนะ ยัยตัวแสบ” เชษกระซิบเสียงพร่าพลางก้มลงจูบขมับของเธอแผ่วเบา“หึ...ใครกันแน่ที่ไม่ยอมพัก...” เจนพึมพำเสียงอู้อี้ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ด้วยความเหนื่อยเชษหัวเราะเบาๆ ก่อนจะรั้งร่างของเธอเข้ามากอดแน่นขึ้น ริมฝีปากหนาประทับจูบลงที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน“ใครใช้ให้เธอน่ารักเกิน”เจนทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่พอใจ แต่แก้มกลับแดงซ่านด้วยความเขินอาย เธอซุกหน้าลงกับอกกว้างของเขาเพื่อหลบสายตาเจ้าเล่ห์นั้นเวลาค่อยๆ ล่วงเลยไปจนท้องฟ้าภายนอกกลายเป็นสีดำสนิท แสงไฟจากตึกสูงภายนอกส่องเข้ามาแทนแสงอาทิตย์ เชษลุกขึ้นเล็กน้อยเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ก่อนหันกลับมามองร่างบางที่ยังนอนซุกเขาอยู่“นี่มันค่ำแล้วนะ หิวหรือยัง?” เชษถามขึ้น พล
วันถัดมา เชษขับรถมาจอดที่ด้านหน้าค่ายมวยศักดิ์ประภาไฟท์คลับ เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตดับลง พร้อมกับบรรยากาศเงียบสงบที่รายล้อม เขาหันไปมองเจนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความครุ่นคิด“เป็นไร? ห่วงเรื่องค่ายเหรอ?” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงอ่อนโยน“เรื่องนั้นก็ห่วงแหละ แต่...” เจนพูดก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหันมามองเขา กลอกตาไปมาอย่างลังเล“ตอนนี้ห่วงเรื่องนายมากกว่า”เชษเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ“ทำไมอะ?”“พี่ชายฉันน่ะสิ...” เจนพึมพำเบาๆ แววตาดูกังวลอย่างเห็นได้ชัดเชษหัวเราะเบาๆ ยื่นมือไปจับมือของเธอ“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันสู้เพื่อเธออยู่แล้ว”“นายก็พูดได้สิ...นายยังไม่เจอพี่ชายฉันตอนแผลงฤทธิ์นี่นา” เจนบ่นงึมงำ ใบหน้าสวยบูดบึ้งเล็กน้อยภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอ สมัยมัธยมมีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบเธอถึงหน้าค่าย พี่ชายทั้งสามของเธอพร้อมใจกันคว้าไม้หน้าสามมาไล่กวดเขาแบบไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายคนนั้นหนีกลับบ้านอย่างไม่คิดชีวิต และหลังจากนั้นก็ไม่เคยโผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย“พี่กรกับพี่เดย์ไม่เท่าไหร่ แต่พี่นนท์เนี่ย...” เจนพูดพลางทำท่าสยองเล็กน้อย ขณะที่เชษหัวเราะในลำคอ“ยัยตัวแ
หลังจากปรึกษาเรื่องแบล็คแฮนด์เสร็จ เจนก็เดินออกมาจากห้องประชุม และตรงไปหาเนยที่กำลังซ้อมกระสอบทรายอยู่“พี่เนย ซ้อมมวยกับหนูหน่อยสิ”เนยหันมามองเจนพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา“เอาสิ”พี่ชายทั้งสามของเจนที่เดินตามออกมา พากันขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเจนและเนยกำลังพันผ้าพันมืออย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสวมนวมสีแดงสดเตรียมขึ้นเวที“เอ้ยๆ ทำไรกัน” พี่นนท์โพล่งออกมา พร้อมปรี่เข้าไปที่สังเวียน“ซ้อมมวยไง” เจนตอบหน้าตาเฉย ขณะจัดนวมให้พอดีมือ“ยัยเจน เธอ...”“พี่นนท์ ยุ่งน่า!” เจนสวนกลับทันที“พี่เนยฝีมือดีขนาดนี้ ไม่ได้ซ้อมด้วยก็เสียของหมด”พี่นนท์อ้าปากจะพูดต่อ แต่เนยยิ้มยั่วใส่พร้อมยักคิ้วกวนๆ“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ทำอะไรเหมือนวันนั้นหรอก”พี่นนท์สะอึกไปเล็กน้อย สีหน้าที่พยายามเก๊กนิ่งกลับแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พี่กรและพี่เดย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของนนท์“เอาเถอะ ปล่อยให้เด็กมันซ้อมกัน” พี่กรพูดขณะเดินไปนั่งที่ริมสังเวียนพี่นนท์ที่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ฮึดฮัดเดินตามไปนั่งด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เชษและเคนที่เพิ่งเดินมาสมทบก็นั่งลงใกล้ๆเคนหัวเราะเบาๆ ขณะม
ในยามบ่ายที่เงียบสงัด เฟิร์นนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสบายๆ สมาร์ทโฟนในมือถูกไถขึ้นลงบนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย เสียงเพลงจังหวะเบาๆ ที่ลอยมาจากลำโพงข้างเตียงไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“นี่มันอะไรกัน...” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยุดมือที่ไถจอ เปิดแชทที่เคยส่งข้อความหาม่อนซึ่งตอนนี้ยังไร้การตอบกลับ“หายหัวไปไหนวะ! ไม่รู้หรือไงว่าฉันรอฟังข่าวอยู่!” เธอบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ขณะที่ขมวดคิ้วมองหน้าจอมือถือเฟิร์นทิ้งตัวลงบนหมอนอย่างแรง ขณะความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว เธออุตส่าห์ลงทุนไปซื้อยาปลุกเซ็กส์มาให้ม่อน เพื่อให้เขาใช้จัดการกับเจนตามแผน ถ้ามันสำเร็จ เจนจะต้องอับอายจนไม่กล้าอยู่ใกล้เชษอีกต่อไป และเชษ...จะต้องหันมาหาเธอแทน“เรื่องง่ายๆ แค่นี้...มันต้องสำเร็จสิ” เฟิร์นพึมพำเบาๆ ปลายนิ้วไล้ไปตามหน้าจอโทรศัพท์อย่างล่องลอย แต่ในใจกลับคุกรุ่นด้วยความอิจฉาเธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเหลือบตามองข้อความล่าสุดของม่อนที่ยังคงเงียบสนิท จนเธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เฟิร์นกำลังนอนเบื่อๆ อยู่บนเตียง เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันข่
หน้าตึกคณะบัญชี เจนนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกเธอ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานลงแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่ฟ้ากับแจงนั่งอยู่ข้างๆ ต่างคนต่างไถมือถือหาข้อมูลช่วยเธอ“เฮ้ย! ดูข่าวนี่ดิ” แจงร้องขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะยื่นมือถือให้ฟ้าดู“นี่มัน...ม่อน แล้วนั่นก็ใหม่!” ฟ้าพึมพำเสียงดัง พลางยื่นหน้าเข้าไปอ่านรายละเอียดในข่าวที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ“เจน แกดูดิๆ” ฟ้ายื่นมือถือไปตรงหน้าเจนเจนชะงักมือจากการพิมพ์รายงาน พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรับมือถือมาดู“หืม? คลิปฉาวเน็ตไอดอลชื่อย่อ ม. สวิงกิ้งกับผู้ชายสิบคนในโรงแรมหรู...” เจนอ่านพาดหัวข่าว พลางเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าอึ้งๆ“นี่มัน..”“เออ ไอ้ม่อน ไอ้เลวที่มันวางยาแกอะ” แจงบอกเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“สมหน้า! หนอย แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ให้แกกิน แล้วจะมาเอาตัวแกไปอีก” ฟ้าพูดพลางกำมือแน่น นึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นด้วยความโกรธเจนจ้องจอมือถือครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“โชคดีนะ ที่พี่เนยมาช่วยไว้ ไม่งั้น...” เธอหยุดไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววไม่มั่นใจ“ฉันจำได้แค่ว่า
ภายในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน ผสมผสานความหรูหราอย่างมีรสนิยม เฟิร์นนั่งอยู่บนเตียงนุ่มหลังใหญ่ ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปยังหน้าต่างบานกว้าง แสงไฟจากเมืองยามค่ำคืนสะท้อนสาดส่องเข้ามา แต่ความคิดในหัวของเธอกลับยุ่งเหยิงเธอเอนตัวพิงพนักเตียง มือเรียวสวยลูบเส้นผมยาวสลวยเล่นอย่างเหม่อลอย แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความแค้นที่ก่อตัวอย่างหนักแน่น“เจน...ทำไมเธอถึงได้เชษไป?” เธอพึมพำเบาๆ ความอิจฉาที่เธอมีต่อเจนทำให้หัวใจของเธอเดือดพล่านเฟิร์นหยิบมือถือขึ้นมาไถดูข่าวและโซเชียลของเชษอีกครั้ง ภาพที่เขาและเจนอยู่ด้วยกันทำให้เธอกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ“ฉันอยู่ข้างเขามาตลอด...แต่ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน?!”เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ประกายในดวงตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นและอาฆาตเฟิร์นนั่งนิ่ง ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นาน ความคิดดำมืดเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อยจนกระทั่งริมฝีปากสวยเผยยิ้มบางที่แฝงไปด้วยเล่ห์กล“ถ้าฉันจัดการเธอไม่ได้...งั้นก็ต้องทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นของฉัน” เธอพูดกับตัวเอง ดวงตาวาวโรจน์ด้วยแผนการที่เริ่มก่อตัว“ดูสิ ว่าเธอจะทำยังไง” เฟิร์นยิ้มเย็น ราวกับคนที่เตรียมพร้อมจะทำทุกอย่างเ
เชษสะพายกระเป๋าเป้พร้อมกับโจ้และเฟย์ ทั้งสามคนเดินออกจากอาคารเรียนวิศวกรรมโยธา บรรยากาศรอบๆ เริ่มเย็นลง แต่ท้องฟ้ายังมีแสงอ่อนๆ จากดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าขณะเดิน เชษหยิบมือถือขึ้นมาเช็กข้อความ หน้าจอแสดงแจ้งเตือนจากเจน‘เลิกเรียนรึยัง? ฉันรออยู่ที่ห้องแล้วนะ อย่าลืมว่าคืนนี้นายต้องพาฉันไปช้อปปิ้งนะ ไม่งั้นโดนแน่!’ - เจนเชษอ่านข้อความแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนพิมพ์ตอบกลับไป‘กำลังกลับ รอหน่อย’ - เชษรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาไม่อาจเล็ดรอดสายตาของโจ้ไปได้“ยิ้มอะไรคนเดียววะ?”“เรื่องของกู” เชษตอบเรียบๆ แต่ยังคงมีรอยยิ้มที่มุมปากเฟย์ที่เดินอยู่ข้างกันหัวเราะเบาๆ“มึงนี่ ถึงไม่บอกกูก็เดาได้ เจนใช่มั้ย?”เชษไม่พูดอะไร เพียงแค่เก็บมือถือเข้ากระเป๋า ก่อนเดินนำทั้งสองคนไปยังลานจอดรถ ท่าทีเงียบขรึมแต่แฝงด้วยความสุขที่ไม่อาจปิดบังได้เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงลานจอดรถ เชษหยิบกุญแจรถขึ้นมาจากกระเป๋า แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ข้างรถของเขาหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวเรียบหรู เผยผิวขาวเนียนที่สะท้อนแสงอ่อนๆ ของยามเย็น ผมสีน้ำตาลอ่อนปล่อยยาวเป็นลอน เธอยิ้มหวานให้เขา“เชษ...” น้ำหวานเรียกชื่อเขา เ
เมื่อเชษเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก็เห็นเจนนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยบูดบึ้งชัดเจน เขาวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปนั่งข้างเธอ แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้“เป็นไร?” เชษถามเสียงนุ่ม พร้อมใช้จมูกซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาคุ้นเคยจากร่างกายเธอเจนสะบัดตัวเล็กน้อย ราวกับจะหลบหนีสัมผัส แต่ไม่ได้ขัดขืนจริงจัง“เพื่อนนายมา”“ใครอะ”“ฮื้อ...จะใครล่ะ” เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน พลางจ้องหน้าเขานิ่งเชษหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ“เฟิร์น?”“รึมีสาวอื่นอีกล่ะ?” เจนสวนกลับทันที น้ำเสียงฟังดูเรียบนิ่ง แต่แฝงความไม่พอใจชัดเจนเชษยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กที่กำลังงอแง“แล้วเขามาทำไม?”“มาขอยืมคัตเตอร์...แต่ดูเหมือนอยากมาอวดฉันมากกว่า”เจนเบือนหน้าไปทางอื่น แต่เสียงและท่าทางของเธอกลับชัดเจนว่าไม่พอใจสุดๆเชษถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรั้งเจนเข้ามากอดแน่นขึ้น แขนแกร่งโอบรอบตัวเธอราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความจริงใจ“เจน ฟังนะ...ฉันกับเฟิร์นเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”“ดูเหมือนเธอจะไม่คิดแบบนั้นนะ” เจนพูดเบาๆ แต่เชษก็ได้ยินชัดเจนเชษใช้ปลายนิ้วเกล
งานแต่งงานระหว่างเชษและเจนถูกจัดขึ้นอย่างอลังการในห้องบอลรูมหรูหราของโรงแรมระดับห้าดาว การตกแต่งในธีมสีขาวทองสะท้อนถึงความงดงามและความสง่างาม ผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตาถูกตัดด้วยแถบผ้าสีทองเล็กๆ พร้อมด้วยดอกกุหลาบขาวและดอกลิลลี่ที่จัดแต่งอย่างพิถีพิถันประดับอยู่กลางโต๊ะแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่บนเพดานส่งแสงระยิบระยับราวกับดาวที่ประดับฟ้า เสียงดนตรีบรรเลงสดจากวงเครื่องสายสร้างบรรยากาศหวานละมุนและอบอุ่น แขกผู้มีเกียรติซึ่งเต็มไปด้วยคนสำคัญทั้งจากฝั่งครอบครัวและเพื่อนสนิท ต่างแต่งกายด้วยชุดราตรีและสูทที่ดูสง่างามเชษในชุดสูททักซิโด้สีดำเรียบหรู ดูหล่อเหลาและสง่างามจนแทบทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา เขายืนอยู่ตรงปลายพรมแดงที่ทอดยาวไปจนถึงเวทีพิธี ดวงตาคมมองไปยังประตูห้องอย่างตั้งตารอเสียงฮือฮาของแขกในงานดังขึ้นเมื่อประตูค่อยๆ เปิดออก เจนปรากฏตัวในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ที่ออกแบบอย่างประณีต ชุดเดรสยาวที่มีลวดลายลูกไม้ละเอียดอ่อนปักด้วยไข่มุกเล็กๆ แวววาว คลุมด้วยเวลยาวสีขาวที่ปลิวไสวเบาๆ ตามจังหวะก้าวเดินเธอเดินเคียงคู่มากับพี่กรที่พาเธอส่งมอบให้กับชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ตรงหน้า สายตาของเชษที่มองเจนเต็มไปด
เวลาผ่านไปรวดเร็ว ราวกับติดปีกบินวันนี้เป็นวันสำคัญที่เจนก้าวออกมาจากหอประชุมด้วยชุดครุย ท่ามกลางเสียงปรบมือและรอยยิ้มของครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดี ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขและปลื้มปิติแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ใช้เวลาซึมซับบรรยากาศมากนัก เสียงเรียกของเพื่อนสนิทสองคนก็ดังขึ้น“แก! มานี่เลย!”ฟ้าและแจง เดินปรี่เข้ามาหา ก่อนจะสอดแขนจับเจนลากไปโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไร“อะไรเนี่ย?” เจนพยายามเอ่ยถามพลางขืนตัวไว้ แต่ทั้งสองคนไม่ยอมปล่อย“รุ่นน้องจะบูมให้ ไปเร็ว! เดี๋ยวไม่ทัน!” แจงตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง ขณะที่ฟ้าหัวเราะแล้วเร่งฝีเท้าลากเธอไป“อะไร! ฉันยังไม่พร้อมเลย!” เจนโวยวายตลอดทาง แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไร้ผล เพื่อนทั้งสองคนไม่สนใจและลากเธอไปตรงสนามหญ้าหน้าคณะอย่างรวดเร็วเมื่อไปถึง บรรยากาศคึกคักของรุ่นน้องที่ยืนเรียงกันเป็นวงกลมต้อนรับก็ทำให้เจนทั้งตกใจและรู้สึกดีใจไปพร้อมกัน“พี่เจน พี่ฟ้า พี่แจง มานี่เลยค่ะ!” เสียงรุ่นน้องเรียกอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับพากันดันรุ่นพี่ทั้งสามคนเข้าไปอยู่ตรงกลางวงเจนหันไปมองฟ้าและแจงด้วยความอาย“จริงจังเหรอ?”“จริงจังสิแก สน
เจน – [Talk]ให้ตายสิ!!เอาจริงนะ ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรของเขาอยู่ๆ ก็พูดว่าจะมาขอฉัน สุดท้ายก็กลายมาเป็นกระสอบทรายให้พี่นนท์ซ้อมทุกวันเสาร์ ฉันได้แต่ยืนลุ้นอยู่ด้านล่างของเวทีมวย หัวใจเต้นตุบๆ เพราะเชษโดนหมัดของพี่ชายฉันเข้าเต็มๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่รอบแล้ว“หึหึ แฟนเรานี่อดทนดีนะ” พี่เดย์ที่ยืนกอดอกมองอยู่ข้างๆ อดยิ้มขำไม่ได้“หึ พวกพี่กะแกล้งเขาล่ะสิ” ฉันสะบัดหน้าทำแก้มป่องด้วยความงอน“แกล้งอะไรกัน แค่ทดสอบนิดหน่อย” พี่เดย์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้พี่กรที่ยืนอยู่ไม่ไกล“ใช่ พี่อยากรู้ว่าเขาจะดูแลน้องสาวคนเดียวของพี่ได้ดีแค่ไหน” พี่กรเดินเข้ามาดึงแก้มฉันเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม“หนูดูแลตัวเองได้!”“อืม พี่รู้แล้วว่าเราดูแลตัวเองได้ แต่ดูสิ เขาจะดูแลเราไหวมั้ย” พี่กรยิ้มขำๆ กับความเอาแต่ใจของฉันถึงจะฟังดูเหมือนพวกพี่แกล้งเขา แต่ฉันก็รู้ดีว่าทุกคนทำเพราะหวังดี ตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไป พี่ชายทั้งสามคนก็เปรียบเสมือนทั้งพ่อและแม่ของฉัน พี่กร พี่ชายคนโต ดูแลกิจการค่ายมวยและธุรกิจอื่นๆ ที่ครอบครัวเราทิ้งไว้ พี่นนท์ พี่ชายคนกลาง เป็นคนเจ้าระเบียบจริงจัง ฝีมือมวยขั้นเทพ เป็นแชมป์หลายสมัย และเป
เจน - [จะบ้าตาย]ฉันนอนหอบหายใจถี่ ใบหน้าร้อนผ่าวแดงก่ำ ขณะที่เหงื่อไหลซึมผุดพรายไปทั่วแผ่นหลัง ความร้อนในร่างกายพุ่งสูงจนฉันแทบไม่อาจระงับได้เชษขยับขึ้นมาคร่อมร่างของฉัน ดวงตาคมจ้องมองอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากจูบฉันอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนของเขาไล่เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของฉันในจังหวะที่เร่าร้อนฉันจูบตอบเขาอย่างเต็มใจและเร่าร้อนไม่แพ้กัน ร่างกายของเราประสานกันอย่างแนบชิด ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตอนนี้ทำให้ฉันหลงลืมทุกสิ่งรอบตัว“อึ๊...”ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเขาสอดใส่แก่นกายเข้ามาในตัวฉัน ความแน่นคับทำให้รู้สึกตึงเล็กน้อย แต่เมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกอย่างเชื่องช้า ความเสียวซ่านก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ริมฝีปากร้อนของเขาจูบเบาๆ ที่เนินอกขาวเนียน ก่อนจะเม้มดูดยอดถันที่ชูชันแรงๆ จนฉันต้องแอ่นอกให้เขาเม้มดูดถนัดๆ และหลุดครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน“อ่าส์...”เสียงครางแหบพร่าของเขาดังใกล้ชิดใบหูของฉัน ทำให้ฉันเผลอตอดรัดแก่นกายของเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม ซึ่งยิ่งกระตุ้นให้เขาเพิ่มจังหวะกระแทกถี่รัวและหนักหน่วงจนฉันแทบตามไม่ทัน“อื๊อ...เบาหน่อย..เชษ...อ๊า”ฉันครางออกมาพลางพยายามดิ้นเบาๆ
เจน - [เป็นห่วง]กว่าจะจบเรื่องราวทั้งหมดได้ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบหนึ่งวันเต็ม เชษพาฉันกลับถึงคอนโดตอนหกโมงเย็นพอดี ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มที ฉันแทบอยากจะล้มตัวลงนอนทันทีที่ถึงห้อง“กินอะไรดี เดี๋ยวสั่งมาส่งละกัน” เขาถาม ขณะที่ฉันกำลังค้นหาเสื้อผ้าสำหรับอาบน้ำ“อืม...อยากกินสปาเกตตี้ทะเล” ฉันตอบ หลังจากคิดอยู่สักพัก“ได้ เดี๋ยวสั่งร้านโปรดให้” เชษพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันสั่งอาหารฉันเดินเข้าห้องน้ำด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย อาบน้ำชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะออกจนหมดจด พอเสร็จแล้วฉันก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งใส่ทับร่างกายที่ยังชื้นเล็กน้อย กระดุมถูกกลัดไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นขาเนียนยาวและผิวขาวผ่อง“ข้าวมายังอะ?” ฉันถามขณะเดินออกจากห้องน้ำ พลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเสียงฝีเท้าของฉันทำให้เชษที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมามองทันที ดวงตาคมกริบไล่สำรวจตั้งแต่เส้นผมที่ยังเปียกชื้นหยดน้ำพราวไหลเกาะเส้นผม ไล่ลงมาตามร่างกายที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่ปลดกระดุมลงสองเม็ด เผยให้เห็นลำคอระหงและเนินอกขาวเนียนชายเสื้อที่คลุมลงมาถึงแค่กลางต้นขา โชว์เรียวขาขาวเนียนยาวไร้ที่ติ ยิ่งขับให้ดู
เจน – [เป็นห่วง]ฉันได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นรวดเร็วและเฉียบขาด ทุกอย่างดูราวกับฉากในละคร แต่กลับเป็นความจริงที่ชัดเจนหลังจากงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจบลง ตำรวจได้เข้ามาควบคุมตัวคุณพิชิต เจ้าของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่นชื่อดัง ในข้อหาฉ้อโกงและสมรู้ร่วมคิดในการฮั้วประมูล เสียงวิพากษ์วิจารณ์และความตกตะลึงจากแขกในงานยังคงดังไม่ขาดสายเชษไม่รอช้า หลังจบงาน เขาพาฉันตรงกลับมายังบริษัท SK Construction ทันที สีหน้าของเขาจริงจังอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาบอกว่า มีหลายอย่างที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปแม้ว่าฉันจะรู้มาสักพักแล้วว่าเชษเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ แต่ฉันก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเขาจูงมือฉันพาเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่ดูหรูหราและยิ่งใหญ่เชษพาฉันเดินตรงเข้าไปยังห้องประชุมบอร์ดบริหาร โดยไม่มีใครกล้าขวางทางเขาเลยแม้แต่คนเดียว ทุกสายตาที่มองมาล้วนเต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรงหัวใจของฉันเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ แม้ภายนอกฉันจะพยายามรักษาสีหน้าให้ดูสงบนิ่ง แต่ลึกๆ ฉันรู้สึกเหมือน
ภายในห้องแกรนด์ฮออล์ของโรงแรม Aurora Heights หรูหราใจกลางเมือง สถานที่จัดงานแถลงข่าวและพิธีเซ็นสัญญาโครงการใหญ่ ‘เซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์’ ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของย่านธุรกิจพื้นที่ภายในถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยโทนสีทองและขาว โต๊ะลงทะเบียนสำหรับแขกผู้มีเกียรติถูกตั้งไว้หน้าประตูเข้างาน ด้านในมีเวทีขนาดใหญ่พร้อมแบ็กดรอปที่แสดงชื่อโครงการและโลโก้ของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น และ ‘Phoenix Development Group’ เจ้าของโครงการ ซึ่งนำโดย คุณอนุชิต วิจิตรกาญจนา ซีอีโอหนุ่มไฟแรงกล้องจากนักข่าวหลากหลายสำนักถูกตั้งเรียงรายอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อจับภาพเหตุการณ์สำคัญ โต๊ะนักข่าวเต็มไปด้วยเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการ และขนมขบเคี้ยวที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้บรรยากาศภายในงานคึกคักตั้งแต่ก่อนเริ่มพิธี แขกผู้มีเกียรติในวงการธุรกิจ นักการเมือง และนักลงทุน ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา เสียงแฟลชจากกล้องนักข่าวที่ประจำการอยู่หน้าเวทีดังขึ้นเป็นระยะเชษและเจนก้าวเข้ามาในงานอย่างเงียบๆ ทั้งคู่เลือกที่จะยืนแอบอยู่มุมหนึ่งของห้อง โดยไม่ให้เป็นที่สังเกตมากนักเชษอยู่ในชุดสูทสีดำเรียบ
วันถัดมา เชษ โจ้ และเฟย์พากันไปเยี่ยมเฟิร์นที่โรงพยาบาลเซนต์แพทริค โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังใจกลางเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผู้ป่วยอย่างพิถีพิถันเมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงห้องพักผู้ป่วย VIP บนชั้นสูงสุด บรรยากาศภายในห้องเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังสม่ำเสมอ และเสียงเตียงปรับระดับที่ขยับขึ้นลงเป็นระยะ ห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ตัดกับม่านโปร่งที่ปล่อยให้แสงแดดลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อยเฟิร์นนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่ดูซูบเซียวและอ่อนแรง ใบหน้าของเธอยังคงมีรอยฟกช้ำชัดเจน โดยเฉพาะตรงแก้มทั้งสองข้างและมุมปาก ฟันหน้าที่โยกถูกดามไว้ด้วยลวดดัดชั่วคราว ทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ถนัดโจ้กับเฟย์ยืนเกร็งอยู่ใกล้ปลายเตียง ขณะที่เชษก้าวเข้าไปใกล้ เขามองเฟิร์นด้วยสายตาที่ผสมระหว่างความเห็นใจและความเย็นชา ขณะที่หมอประจำห้องเดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาลที่ถือแฟ้มข้อมูลผู้ป่วย“อาการเธอเป็นไงมั่งครับ?”“อาการของคุณเฟิร์นตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น แต่ยังต้องพักรักษาตัวอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์ครับ” หมอรายงาน พร้อมเปิดแฟ้มข้อมูล“ฟันที่โยกต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และจะมีการประเมินอีก
วันรุ่งขึ้น เวลา 13.30 น.เจนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อแสงแดดยามบ่ายลอดผ่านม่านมาทาบทับบนใบหน้า เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ ปรับเข้ากับแสงรอบตัว เธอพยายามขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะนิ่วหน้า เมื่อความรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยแล่นผ่านเข้ามา“อื้อ...” เธอครางเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวไปอีกด้าน แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างหนาที่นอนอยู่ข้างๆเจนเหลือบตามองเชษที่กำลังหลับสนิท แขนแกร่งยังพาดอยู่บนเอวของเธอเหมือนจะกอดไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเคร่งขรึมในเวลาปกติ ตอนนี้กลับดูสงบ อ่อนโยน อย่างไม่น่าเชื่อว่า เมื่อคืนเขาจะดุดันและร้อนแรงกว่าทุกครั้งภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายชัดในหัวของเธอ ใบหน้าสวยร้อนผ่าวทันที‘ยัยบ้า! คิดอะไรเนี่ย!’เจนกัดริมฝีปากแน่น พยายามข่มความคิดที่วิ่งวุ่นในหัว เธอยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างเขินอาย ก่อนจะค่อยๆ ดันแขนเขาออกอย่างเบามือ แต่ร่างสูงกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น รั้งเธอไว้เหมือนจะไม่ยอมให้ขยับไปไหน“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำที่ยังแหบพร่าดังขึ้นข้างหู ทำให้เธอสะดุ้ง“อะ...นาย!”เชษลืมตาขึ้นมองเธอ ดวงตาคมกริบแฝงแววขี้เล่น เขายิ้มมุมปากก่อนจะพูดขึ้น“เป็