เมื่อเชษเปิดประตูเข้ามาในห้อง ก็เห็นเจนนั่งกอดอกอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยบูดบึ้งชัดเจน เขาวางกระเป๋าเป้ลงข้างๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปนั่งข้างเธอ แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วดึงเธอเข้ามาใกล้“เป็นไร?” เชษถามเสียงนุ่ม พร้อมใช้จมูกซุกไซ้ไปที่ซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาคุ้นเคยจากร่างกายเธอเจนสะบัดตัวเล็กน้อย ราวกับจะหลบหนีสัมผัส แต่ไม่ได้ขัดขืนจริงจัง“เพื่อนนายมา”“ใครอะ”“ฮื้อ...จะใครล่ะ” เจนตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน พลางจ้องหน้าเขานิ่งเชษหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ“เฟิร์น?”“รึมีสาวอื่นอีกล่ะ?” เจนสวนกลับทันที น้ำเสียงฟังดูเรียบนิ่ง แต่แฝงความไม่พอใจชัดเจนเชษยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กที่กำลังงอแง“แล้วเขามาทำไม?”“มาขอยืมคัตเตอร์...แต่ดูเหมือนอยากมาอวดฉันมากกว่า”เจนเบือนหน้าไปทางอื่น แต่เสียงและท่าทางของเธอกลับชัดเจนว่าไม่พอใจสุดๆเชษถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรั้งเจนเข้ามากอดแน่นขึ้น แขนแกร่งโอบรอบตัวเธอราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความจริงใจ“เจน ฟังนะ...ฉันกับเฟิร์นเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”“ดูเหมือนเธอจะไม่คิดแบบนั้นนะ” เจนพูดเบาๆ แต่เชษก็ได้ยินชัดเจนเชษใช้ปลายนิ้วเกล
ในห้องนั่งเล่นของคอนโด เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานข้างโซฟา แสงจากหน้าจอแล็ปท็อปสะท้อนบนใบหน้าหล่อเหลา แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ดวงตาคมกริบจ้องข้อมูลบนหน้าจออย่างตั้งใจ เขากำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์“ถ้าจะหาหลักฐานจริงๆ ...” เชษพึมพำกับตัวเอง มือเรียวลูบคางขณะใช้ความคิด ใบหน้าขรึมฉายแววครุ่นเคร่งเขาคิดถึงการติดต่อแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ หรืออาจใช้เส้นสายส่วนตัวในวงการก่อสร้างเพื่อหาข้อมูลจากวงใน อีกทางหนึ่งที่เขาพิจารณาคือการเจาะระบบของบริษัทที่น่าสงสัย แม้จะเสี่ยง แต่เขารู้ว่านั่นอาจเป็นหนทางเดียวที่จะได้หลักฐานที่ต้องการ“หรือจะเริ่มจากการจับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนพวกนั้น...” เชษพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง ดวงตาคมทอประกายวาวโรจน์ขณะที่เขากำลังจมอยู่กับความคิด เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่ง ผมที่ยังเปียกอยู่ทำให้ผมยาวสีน้ำตาลเข้มปรกลงมาบนไหล่ เธอเช็ดผมอย่างอ้อยอิ่ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูแตะจมูกของเชษเขาหันไปมอง ดวงตาคมเข้มไล่ตามเรือนร่างที่อาบไปด้วยแ
“อ๊า...อ๊า...เชษ...งื้อ...”เจนครางเสียงกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนของเชษสอดเข้าไปในตัวเธอ ลิ้นของเขากระดกรัวอย่างชำนาญ สร้างสัมผัสที่ลึกล้ำและเร่าร้อน เกลียวลิ้นดันขึ้นลงหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกเร้าให้เธอถึงจุดสุดยอดมือเรียวบางของเจนเลื่อนขึ้นมาจิกบ่าของเขาแน่น ร่างบางสะท้านไปทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา ท้องน้อยของเธอเกร็งแน่นจนไม่อาจควบคุมได้ขณะที่ปลายลิ้นร้อนของเขาบดขยี้จุดไวสัมผัสอย่างเร่าร้อน มือหนาของเชษก็ไม่หยุดนิ่ง เลื่อนขึ้นมาบดบี้และขยี้ยอดถันสีสวยของเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความชำนาญ การกระทำของเขายิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับเจนจนแทบทนไม่ไหวร่างบางกัดริมฝีปากแน่น พยายามระบายความวาบหวามที่พุ่งพล่าน มือเรียวของเธอเผลอยกขึ้นขยุ้มผมของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับยิ่งพาเธอเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นไปอีก“อืม...” เชษพึมพำเสียงต่ำในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับตั้งใจปลุกเร้าทุกความรู้สึกของเจน ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากของเธอ เขาก็ยิ่งเพิ่มความพริ้วไหวขอ
ภายในร้านกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ร้านเล็กๆ ใจกลางเมือง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง มือหนาเขี่ยแก้วกาแฟที่เหลือเพียงก้นแก้วไปมา ขณะสายตาคมทอดมองผ่านกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นความวุ่นวายของเมืองด้านนอกเสียงกระดิ่งดังเบาๆ เมื่อประตูร้านเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลคลาสสิกและกางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มมั่นใจ ขณะที่สายตากวาดมองหาเป้าหมาย“ว่าไงเรา” ชายหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนเดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเชษ“มาช้าจัง พี่บอส” เชษพูดพลางยกยิ้มมุมปาก“เอาน่า รีบสุดๆ แล้ว” บอสหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือโบกเรียกพนักงานมารับออเดอร์กาแฟเชษพิงหลังกับพนักเก้าอี้ สายตามองบอสด้วยความคุ้นเคยย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เชษซึ่งในตอนนั้นเป็นนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีสอง เข้าร่วมงานด้วยความตั้งใจอยากเรียนรู้เทคนิคการออกแบบโครงสร้างอาคารด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูงขณะเดียวกัน บอสซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ กำลังพูดถึงการนำเทคโนโลยี AI และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต
เชษนั่งอยู่บนโซฟาของคอนโด ใบหน้าคมเคร่งเครียดขณะเลื่อนอ่านข้อมูลที่บอสส่งมาให้บนแล็ปท็อป เสียงพึมพำเบาๆ ของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะขณะขบคิดแผนการ“ถ้าอยากได้หลักฐานเพิ่ม…ฉันอาจต้องเข้าไปในงานประมูลเอง” เจนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น เธอเช็ดผมที่ยังชื้นเล็กน้อย พลางเดินตรงไปหาเชษ“นายดูเครียดมากเลยนะ มีอะไรเหรอ?”เชษเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันกำลังคิดแผนหาหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาน่ะ” เจนขมวดคิ้วนิดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา“แผนอะไร?”เชษวางแล็ปท็อปลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง“ตอนนี้ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่พอจะเชื่อมโยงพวกมันได้ แต่ยังไม่พอสำหรับเอาไปใช้เล่นงานพวกนั้น ถ้าฉันสามารถเข้าไปร่วมงานประมูลเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ได้ ฉันอาจหาโอกาสเจาะลึกข้อมูลของพวกมันเพิ่มได้” “งานประมูล? นายจะเข้าไปยังไง?”“บริษัทของพ่อฉัน…SK Construction เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูล ฉันสามารถเข้าไปในฐานะตัวแทนได้ แต่…” เชษพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล“แต่อะไร?” เจนถาม พร้อมมองหน้าเขานิ่ง“มันเสี่ยง ถ้าพวกนั้นรู้ตัวว่าเรากำลังตามสืบข้
ด้านเจน ด้วยความช่วยเหลือจากเคน ทำให้เธอปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม ภายใต้ยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและกระโปรงสีดำเข้ารูป พร้อมผ้ากันเปื้อนสีครีมที่ทำให้เธอดูไม่สะดุดตาเกินไป แต่แฝงไปด้วยความคล่องตัว ใบหน้าหวานของเธอถูกแต่งแต้มบางเบาเพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำง่ายเกินไปเจนได้รับมอบหมายให้ดูแลห้องประชุมส่วนตัวที่ชั้นสองของโรงแรม ห้องประชุมนี้ถูกจองโดยบริษัท ‘โครนอส อินดัสทรีส์’ ซึ่งจากข้อมูลที่เธอได้รับมา เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวลือว่าพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ห้องประชุมส่วนตัวบนชั้นสองของโรงแรมถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา โทนสีขาวทอง ผ้าม่านหนาปิดบังหน้าต่างเพื่อความเป็นส่วนตัว โต๊ะยาวกลางห้องถูกจัดด้วยอุปกรณ์สำหรับประชุม และมีพื้นที่สำหรับบุฟเฟต์อาหารที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจนพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบเฉย ขณะเดินเข้าไปเช็กความเรียบร้อยของอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ เธอรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่แอบมองมาทางเธอ แต่ก็พยายามไม่แสดงท่าทีพิรุธเจนเดินเข้าไปหยิบถาดเครื่องดื่ม ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างแนบเนียน บรรยากาศ
สองวันต่อมา...ภายในห้องคอนโดของเชษ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านสีเทาอ่อน ส่องกระทบโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและหน้าจอแล็ปท็อปที่เปิดอีเมลหลายฉบับ เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด คิ้วขมวดจนแทบจะเป็นปม ขณะที่ดวงตาคมกริบไล่สายตาอ่านข้อมูลบนหน้าจอเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนในชุดลำลองสบายๆ เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมแล็ปท็อปในมือ เธอหยุดยืนอยู่ข้างหลังเชษ สายตาสอดส่องมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหน้าจอ“นายทำไรอะ?”เชษเงยหน้าขึ้นจากเอกสารดิจิทัลในหน้าจอแล็ปท็อป ก่อนจะยิ้มมุมปาก ดึงร่างบางของเจนมานั่งบนตักโดยไม่พูดอะไร แล็ปท็อปในมือของเธอถูกดึงไปวางไว้บนโต๊ะ แขนแกร่งโอบรอบเอวของเธอไว้หลวมๆ“กำลังดูข้อมูลของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่ชนะประมูลนั่นแหละ”เจนมองจอแล็ปท็อปที่แสดงข้อมูลอยู่ เธอเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ“ฮั้วประมูลเหรอ?”“อืม...”เชษพยักหน้า ดวงตาคมจ้องข้อมูลตรงหน้า ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“ฉันมีเรื่องอยากถาม...”“หืม?” เจนเลิกคิ้ว หันมามองเขา“เฮียเคนเป็นใคร?”เจนกระพริบตาปริบๆ คำถามนั้นทำให้เธอชะงักไป เธอร
ในห้องแต่งตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีและเครื่องสำอางกระจายเต็มโต๊ะ ฟ้าและแจงยืนจ้องเจนที่ใส่สายเดี่ยวสีขาวธรรมดา คลุมด้วยซีทรูสีดำ และกางเกงสกินนี่เอวสูงอย่างเอือมระอา“แกแต่งแบบนี้ไม่ได้!” ฟ้าพูดขึ้น พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนเห็นอะไรที่รับไม่ได้“ใช่! แกต้องแต่งให้เลิศหน่อยเว้ย!” แจงเสริมทันที“ทำไมอะ? ฉันว่าแค่นี้ก็พอแล้วปะ?”“ไม่พอ!!!” ฟ้าและแจงประสานเสียงกัน ก่อนที่ฟ้าจะเดินมาคว้าแขนเจน“มานี่! เดี๋ยวพวกฉันจัดให้เอง”สิบห้านาทีต่อมา...เจนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในลุคที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เชื่อสายตาฟ้าเลือกเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสด ดีไซน์เก๋ด้วยสายห่วงโซ่ไขว้กันด้านหลัง เปิดโชว์แผ่นหลังขาวเนียนอย่างน่ามอง เนื้อผ้ามันวาว ด้านหน้าถูกออกแบบให้เว้าลึกเล็กน้อย เผยให้เห็นเนินอกอิ่มอย่างพอเหมาะ ดูหรูหราและเย้ายวนในคราวเดียวกันส่วนแจงจัดการเลือกกระโปรงหนังสีดำสั้นเหนือเข่า มีดีไซน์แหวกข้างเล็กน้อย โชว์เรียวขาขาวเนียนที่ดูโดดเด่นและสะดุดตา“แกต้องโชว์ขานิดๆ แต่ไม่โป๊ นี่แหละ...กำลังดี” แจงพูดด้วยรอยยิ้มพอใจฟ้าไม่หยุดแค่นั้น เธอหยิบรองเท้าส้นสูงสีดำ
งานแต่งงานระหว่างเชษและเจนถูกจัดขึ้นอย่างอลังการในห้องบอลรูมหรูหราของโรงแรมระดับห้าดาว การตกแต่งในธีมสีขาวทองสะท้อนถึงความงดงามและความสง่างาม ผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดตาถูกตัดด้วยแถบผ้าสีทองเล็กๆ พร้อมด้วยดอกกุหลาบขาวและดอกลิลลี่ที่จัดแต่งอย่างพิถีพิถันประดับอยู่กลางโต๊ะแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่บนเพดานส่งแสงระยิบระยับราวกับดาวที่ประดับฟ้า เสียงดนตรีบรรเลงสดจากวงเครื่องสายสร้างบรรยากาศหวานละมุนและอบอุ่น แขกผู้มีเกียรติซึ่งเต็มไปด้วยคนสำคัญทั้งจากฝั่งครอบครัวและเพื่อนสนิท ต่างแต่งกายด้วยชุดราตรีและสูทที่ดูสง่างามเชษในชุดสูททักซิโด้สีดำเรียบหรู ดูหล่อเหลาและสง่างามจนแทบทุกสายตาจับจ้องไปที่เขา เขายืนอยู่ตรงปลายพรมแดงที่ทอดยาวไปจนถึงเวทีพิธี ดวงตาคมมองไปยังประตูห้องอย่างตั้งตารอเสียงฮือฮาของแขกในงานดังขึ้นเมื่อประตูค่อยๆ เปิดออก เจนปรากฏตัวในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ที่ออกแบบอย่างประณีต ชุดเดรสยาวที่มีลวดลายลูกไม้ละเอียดอ่อนปักด้วยไข่มุกเล็กๆ แวววาว คลุมด้วยเวลยาวสีขาวที่ปลิวไสวเบาๆ ตามจังหวะก้าวเดินเธอเดินเคียงคู่มากับพี่กรที่พาเธอส่งมอบให้กับชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ตรงหน้า สายตาของเชษที่มองเจนเต็มไปด
เวลาผ่านไปรวดเร็ว ราวกับติดปีกบินวันนี้เป็นวันสำคัญที่เจนก้าวออกมาจากหอประชุมด้วยชุดครุย ท่ามกลางเสียงปรบมือและรอยยิ้มของครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาร่วมแสดงความยินดี ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขและปลื้มปิติแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ใช้เวลาซึมซับบรรยากาศมากนัก เสียงเรียกของเพื่อนสนิทสองคนก็ดังขึ้น“แก! มานี่เลย!”ฟ้าและแจง เดินปรี่เข้ามาหา ก่อนจะสอดแขนจับเจนลากไปโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไร“อะไรเนี่ย?” เจนพยายามเอ่ยถามพลางขืนตัวไว้ แต่ทั้งสองคนไม่ยอมปล่อย“รุ่นน้องจะบูมให้ ไปเร็ว! เดี๋ยวไม่ทัน!” แจงตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง ขณะที่ฟ้าหัวเราะแล้วเร่งฝีเท้าลากเธอไป“อะไร! ฉันยังไม่พร้อมเลย!” เจนโวยวายตลอดทาง แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไร้ผล เพื่อนทั้งสองคนไม่สนใจและลากเธอไปตรงสนามหญ้าหน้าคณะอย่างรวดเร็วเมื่อไปถึง บรรยากาศคึกคักของรุ่นน้องที่ยืนเรียงกันเป็นวงกลมต้อนรับก็ทำให้เจนทั้งตกใจและรู้สึกดีใจไปพร้อมกัน“พี่เจน พี่ฟ้า พี่แจง มานี่เลยค่ะ!” เสียงรุ่นน้องเรียกอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับพากันดันรุ่นพี่ทั้งสามคนเข้าไปอยู่ตรงกลางวงเจนหันไปมองฟ้าและแจงด้วยความอาย“จริงจังเหรอ?”“จริงจังสิแก สน
เจน – [Talk]ให้ตายสิ!!เอาจริงนะ ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรของเขาอยู่ๆ ก็พูดว่าจะมาขอฉัน สุดท้ายก็กลายมาเป็นกระสอบทรายให้พี่นนท์ซ้อมทุกวันเสาร์ ฉันได้แต่ยืนลุ้นอยู่ด้านล่างของเวทีมวย หัวใจเต้นตุบๆ เพราะเชษโดนหมัดของพี่ชายฉันเข้าเต็มๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่รอบแล้ว“หึหึ แฟนเรานี่อดทนดีนะ” พี่เดย์ที่ยืนกอดอกมองอยู่ข้างๆ อดยิ้มขำไม่ได้“หึ พวกพี่กะแกล้งเขาล่ะสิ” ฉันสะบัดหน้าทำแก้มป่องด้วยความงอน“แกล้งอะไรกัน แค่ทดสอบนิดหน่อย” พี่เดย์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้พี่กรที่ยืนอยู่ไม่ไกล“ใช่ พี่อยากรู้ว่าเขาจะดูแลน้องสาวคนเดียวของพี่ได้ดีแค่ไหน” พี่กรเดินเข้ามาดึงแก้มฉันเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม“หนูดูแลตัวเองได้!”“อืม พี่รู้แล้วว่าเราดูแลตัวเองได้ แต่ดูสิ เขาจะดูแลเราไหวมั้ย” พี่กรยิ้มขำๆ กับความเอาแต่ใจของฉันถึงจะฟังดูเหมือนพวกพี่แกล้งเขา แต่ฉันก็รู้ดีว่าทุกคนทำเพราะหวังดี ตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไป พี่ชายทั้งสามคนก็เปรียบเสมือนทั้งพ่อและแม่ของฉัน พี่กร พี่ชายคนโต ดูแลกิจการค่ายมวยและธุรกิจอื่นๆ ที่ครอบครัวเราทิ้งไว้ พี่นนท์ พี่ชายคนกลาง เป็นคนเจ้าระเบียบจริงจัง ฝีมือมวยขั้นเทพ เป็นแชมป์หลายสมัย และเป
เจน - [จะบ้าตาย]ฉันนอนหอบหายใจถี่ ใบหน้าร้อนผ่าวแดงก่ำ ขณะที่เหงื่อไหลซึมผุดพรายไปทั่วแผ่นหลัง ความร้อนในร่างกายพุ่งสูงจนฉันแทบไม่อาจระงับได้เชษขยับขึ้นมาคร่อมร่างของฉัน ดวงตาคมจ้องมองอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากจูบฉันอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนของเขาไล่เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของฉันในจังหวะที่เร่าร้อนฉันจูบตอบเขาอย่างเต็มใจและเร่าร้อนไม่แพ้กัน ร่างกายของเราประสานกันอย่างแนบชิด ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในตอนนี้ทำให้ฉันหลงลืมทุกสิ่งรอบตัว“อึ๊...”ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเขาสอดใส่แก่นกายเข้ามาในตัวฉัน ความแน่นคับทำให้รู้สึกตึงเล็กน้อย แต่เมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกอย่างเชื่องช้า ความเสียวซ่านก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ริมฝีปากร้อนของเขาจูบเบาๆ ที่เนินอกขาวเนียน ก่อนจะเม้มดูดยอดถันที่ชูชันแรงๆ จนฉันต้องแอ่นอกให้เขาเม้มดูดถนัดๆ และหลุดครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน“อ่าส์...”เสียงครางแหบพร่าของเขาดังใกล้ชิดใบหูของฉัน ทำให้ฉันเผลอตอดรัดแก่นกายของเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม ซึ่งยิ่งกระตุ้นให้เขาเพิ่มจังหวะกระแทกถี่รัวและหนักหน่วงจนฉันแทบตามไม่ทัน“อื๊อ...เบาหน่อย..เชษ...อ๊า”ฉันครางออกมาพลางพยายามดิ้นเบาๆ
เจน - [เป็นห่วง]กว่าจะจบเรื่องราวทั้งหมดได้ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบหนึ่งวันเต็ม เชษพาฉันกลับถึงคอนโดตอนหกโมงเย็นพอดี ร่างกายเหนื่อยล้าเต็มที ฉันแทบอยากจะล้มตัวลงนอนทันทีที่ถึงห้อง“กินอะไรดี เดี๋ยวสั่งมาส่งละกัน” เขาถาม ขณะที่ฉันกำลังค้นหาเสื้อผ้าสำหรับอาบน้ำ“อืม...อยากกินสปาเกตตี้ทะเล” ฉันตอบ หลังจากคิดอยู่สักพัก“ได้ เดี๋ยวสั่งร้านโปรดให้” เชษพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันสั่งอาหารฉันเดินเข้าห้องน้ำด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย อาบน้ำชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะออกจนหมดจด พอเสร็จแล้วฉันก็หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งใส่ทับร่างกายที่ยังชื้นเล็กน้อย กระดุมถูกกลัดไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นขาเนียนยาวและผิวขาวผ่อง“ข้าวมายังอะ?” ฉันถามขณะเดินออกจากห้องน้ำ พลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเสียงฝีเท้าของฉันทำให้เชษที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมามองทันที ดวงตาคมกริบไล่สำรวจตั้งแต่เส้นผมที่ยังเปียกชื้นหยดน้ำพราวไหลเกาะเส้นผม ไล่ลงมาตามร่างกายที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่ปลดกระดุมลงสองเม็ด เผยให้เห็นลำคอระหงและเนินอกขาวเนียนชายเสื้อที่คลุมลงมาถึงแค่กลางต้นขา โชว์เรียวขาขาวเนียนยาวไร้ที่ติ ยิ่งขับให้ดู
เจน – [เป็นห่วง]ฉันได้แต่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นรวดเร็วและเฉียบขาด ทุกอย่างดูราวกับฉากในละคร แต่กลับเป็นความจริงที่ชัดเจนหลังจากงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจบลง ตำรวจได้เข้ามาควบคุมตัวคุณพิชิต เจ้าของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่นชื่อดัง ในข้อหาฉ้อโกงและสมรู้ร่วมคิดในการฮั้วประมูล เสียงวิพากษ์วิจารณ์และความตกตะลึงจากแขกในงานยังคงดังไม่ขาดสายเชษไม่รอช้า หลังจบงาน เขาพาฉันตรงกลับมายังบริษัท SK Construction ทันที สีหน้าของเขาจริงจังอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาบอกว่า มีหลายอย่างที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปแม้ว่าฉันจะรู้มาสักพักแล้วว่าเชษเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ แต่ฉันก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เมื่อเขาจูงมือฉันพาเข้าไปในอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่ดูหรูหราและยิ่งใหญ่เชษพาฉันเดินตรงเข้าไปยังห้องประชุมบอร์ดบริหาร โดยไม่มีใครกล้าขวางทางเขาเลยแม้แต่คนเดียว ทุกสายตาที่มองมาล้วนเต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรงหัวใจของฉันเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ แม้ภายนอกฉันจะพยายามรักษาสีหน้าให้ดูสงบนิ่ง แต่ลึกๆ ฉันรู้สึกเหมือน
ภายในห้องแกรนด์ฮออล์ของโรงแรม Aurora Heights หรูหราใจกลางเมือง สถานที่จัดงานแถลงข่าวและพิธีเซ็นสัญญาโครงการใหญ่ ‘เซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์’ ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของย่านธุรกิจพื้นที่ภายในถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยโทนสีทองและขาว โต๊ะลงทะเบียนสำหรับแขกผู้มีเกียรติถูกตั้งไว้หน้าประตูเข้างาน ด้านในมีเวทีขนาดใหญ่พร้อมแบ็กดรอปที่แสดงชื่อโครงการและโลโก้ของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น และ ‘Phoenix Development Group’ เจ้าของโครงการ ซึ่งนำโดย คุณอนุชิต วิจิตรกาญจนา ซีอีโอหนุ่มไฟแรงกล้องจากนักข่าวหลากหลายสำนักถูกตั้งเรียงรายอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อจับภาพเหตุการณ์สำคัญ โต๊ะนักข่าวเต็มไปด้วยเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการ และขนมขบเคี้ยวที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้บรรยากาศภายในงานคึกคักตั้งแต่ก่อนเริ่มพิธี แขกผู้มีเกียรติในวงการธุรกิจ นักการเมือง และนักลงทุน ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา เสียงแฟลชจากกล้องนักข่าวที่ประจำการอยู่หน้าเวทีดังขึ้นเป็นระยะเชษและเจนก้าวเข้ามาในงานอย่างเงียบๆ ทั้งคู่เลือกที่จะยืนแอบอยู่มุมหนึ่งของห้อง โดยไม่ให้เป็นที่สังเกตมากนักเชษอยู่ในชุดสูทสีดำเรียบ
วันถัดมา เชษ โจ้ และเฟย์พากันไปเยี่ยมเฟิร์นที่โรงพยาบาลเซนต์แพทริค โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังใจกลางเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผู้ป่วยอย่างพิถีพิถันเมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงห้องพักผู้ป่วย VIP บนชั้นสูงสุด บรรยากาศภายในห้องเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังสม่ำเสมอ และเสียงเตียงปรับระดับที่ขยับขึ้นลงเป็นระยะ ห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ตัดกับม่านโปร่งที่ปล่อยให้แสงแดดลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อยเฟิร์นนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่ดูซูบเซียวและอ่อนแรง ใบหน้าของเธอยังคงมีรอยฟกช้ำชัดเจน โดยเฉพาะตรงแก้มทั้งสองข้างและมุมปาก ฟันหน้าที่โยกถูกดามไว้ด้วยลวดดัดชั่วคราว ทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ถนัดโจ้กับเฟย์ยืนเกร็งอยู่ใกล้ปลายเตียง ขณะที่เชษก้าวเข้าไปใกล้ เขามองเฟิร์นด้วยสายตาที่ผสมระหว่างความเห็นใจและความเย็นชา ขณะที่หมอประจำห้องเดินเข้ามาพร้อมกับพยาบาลที่ถือแฟ้มข้อมูลผู้ป่วย“อาการเธอเป็นไงมั่งครับ?”“อาการของคุณเฟิร์นตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น แต่ยังต้องพักรักษาตัวอีกอย่างน้อยสองสัปดาห์ครับ” หมอรายงาน พร้อมเปิดแฟ้มข้อมูล“ฟันที่โยกต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และจะมีการประเมินอีก
วันรุ่งขึ้น เวลา 13.30 น.เจนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อแสงแดดยามบ่ายลอดผ่านม่านมาทาบทับบนใบหน้า เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ ปรับเข้ากับแสงรอบตัว เธอพยายามขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะนิ่วหน้า เมื่อความรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยแล่นผ่านเข้ามา“อื้อ...” เธอครางเบาๆ พร้อมกับพลิกตัวไปอีกด้าน แล้วก็ต้องชะงักเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างหนาที่นอนอยู่ข้างๆเจนเหลือบตามองเชษที่กำลังหลับสนิท แขนแกร่งยังพาดอยู่บนเอวของเธอเหมือนจะกอดไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเคร่งขรึมในเวลาปกติ ตอนนี้กลับดูสงบ อ่อนโยน อย่างไม่น่าเชื่อว่า เมื่อคืนเขาจะดุดันและร้อนแรงกว่าทุกครั้งภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายชัดในหัวของเธอ ใบหน้าสวยร้อนผ่าวทันที‘ยัยบ้า! คิดอะไรเนี่ย!’เจนกัดริมฝีปากแน่น พยายามข่มความคิดที่วิ่งวุ่นในหัว เธอยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างเขินอาย ก่อนจะค่อยๆ ดันแขนเขาออกอย่างเบามือ แต่ร่างสูงกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น รั้งเธอไว้เหมือนจะไม่ยอมให้ขยับไปไหน“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำที่ยังแหบพร่าดังขึ้นข้างหู ทำให้เธอสะดุ้ง“อะ...นาย!”เชษลืมตาขึ้นมองเธอ ดวงตาคมกริบแฝงแววขี้เล่น เขายิ้มมุมปากก่อนจะพูดขึ้น“เป็