วันถัดมา เชษขับรถมาจอดที่ด้านหน้าค่ายมวยศักดิ์ประภาไฟท์คลับ เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตดับลง พร้อมกับบรรยากาศเงียบสงบที่รายล้อม เขาหันไปมองเจนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความครุ่นคิด“เป็นไร? ห่วงเรื่องค่ายเหรอ?” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงอ่อนโยน“เรื่องนั้นก็ห่วงแหละ แต่...” เจนพูดก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหันมามองเขา กลอกตาไปมาอย่างลังเล“ตอนนี้ห่วงเรื่องนายมากกว่า”เชษเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ“ทำไมอะ?”“พี่ชายฉันน่ะสิ...” เจนพึมพำเบาๆ แววตาดูกังวลอย่างเห็นได้ชัดเชษหัวเราะเบาๆ ยื่นมือไปจับมือของเธอ“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันสู้เพื่อเธออยู่แล้ว”“นายก็พูดได้สิ...นายยังไม่เจอพี่ชายฉันตอนแผลงฤทธิ์นี่นา” เจนบ่นงึมงำ ใบหน้าสวยบูดบึ้งเล็กน้อยภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอ สมัยมัธยมมีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบเธอถึงหน้าค่าย พี่ชายทั้งสามของเธอพร้อมใจกันคว้าไม้หน้าสามมาไล่กวดเขาแบบไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายคนนั้นหนีกลับบ้านอย่างไม่คิดชีวิต และหลังจากนั้นก็ไม่เคยโผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย“พี่กรกับพี่เดย์ไม่เท่าไหร่ แต่พี่นนท์เนี่ย...” เจนพูดพลางทำท่าสยองเล็กน้อย ขณะที่เชษหัวเราะในลำคอ“ยัยตัวแ
หลังจากปรึกษาเรื่องแบล็คแฮนด์เสร็จ เจนก็เดินออกมาจากห้องประชุม และตรงไปหาเนยที่กำลังซ้อมกระสอบทรายอยู่“พี่เนย ซ้อมมวยกับหนูหน่อยสิ”เนยหันมามองเจนพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา“เอาสิ”พี่ชายทั้งสามของเจนที่เดินตามออกมา พากันขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเจนและเนยกำลังพันผ้าพันมืออย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสวมนวมสีแดงสดเตรียมขึ้นเวที“เอ้ยๆ ทำไรกัน” พี่นนท์โพล่งออกมา พร้อมปรี่เข้าไปที่สังเวียน“ซ้อมมวยไง” เจนตอบหน้าตาเฉย ขณะจัดนวมให้พอดีมือ“ยัยเจน เธอ...”“พี่นนท์ ยุ่งน่า!” เจนสวนกลับทันที“พี่เนยฝีมือดีขนาดนี้ ไม่ได้ซ้อมด้วยก็เสียของหมด”พี่นนท์อ้าปากจะพูดต่อ แต่เนยยิ้มยั่วใส่พร้อมยักคิ้วกวนๆ“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ทำอะไรเหมือนวันนั้นหรอก”พี่นนท์สะอึกไปเล็กน้อย สีหน้าที่พยายามเก๊กนิ่งกลับแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พี่กรและพี่เดย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของนนท์“เอาเถอะ ปล่อยให้เด็กมันซ้อมกัน” พี่กรพูดขณะเดินไปนั่งที่ริมสังเวียนพี่นนท์ที่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ฮึดฮัดเดินตามไปนั่งด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เชษและเคนที่เพิ่งเดินมาสมทบก็นั่งลงใกล้ๆเคนหัวเราะเบาๆ ขณะม
ในยามบ่ายที่เงียบสงัด เฟิร์นนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสบายๆ สมาร์ทโฟนในมือถูกไถขึ้นลงบนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย เสียงเพลงจังหวะเบาๆ ที่ลอยมาจากลำโพงข้างเตียงไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“นี่มันอะไรกัน...” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยุดมือที่ไถจอ เปิดแชทที่เคยส่งข้อความหาม่อนซึ่งตอนนี้ยังไร้การตอบกลับ“หายหัวไปไหนวะ! ไม่รู้หรือไงว่าฉันรอฟังข่าวอยู่!” เธอบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ขณะที่ขมวดคิ้วมองหน้าจอมือถือเฟิร์นทิ้งตัวลงบนหมอนอย่างแรง ขณะความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว เธออุตส่าห์ลงทุนไปซื้อยาปลุกเซ็กส์มาให้ม่อน เพื่อให้เขาใช้จัดการกับเจนตามแผน ถ้ามันสำเร็จ เจนจะต้องอับอายจนไม่กล้าอยู่ใกล้เชษอีกต่อไป และเชษ...จะต้องหันมาหาเธอแทน“เรื่องง่ายๆ แค่นี้...มันต้องสำเร็จสิ” เฟิร์นพึมพำเบาๆ ปลายนิ้วไล้ไปตามหน้าจอโทรศัพท์อย่างล่องลอย แต่ในใจกลับคุกรุ่นด้วยความอิจฉาเธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเหลือบตามองข้อความล่าสุดของม่อนที่ยังคงเงียบสนิท จนเธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เฟิร์นกำลังนอนเบื่อๆ อยู่บนเตียง เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันข่
หน้าตึกคณะบัญชี เจนนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกเธอ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานลงแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่ฟ้ากับแจงนั่งอยู่ข้างๆ ต่างคนต่างไถมือถือหาข้อมูลช่วยเธอ“เฮ้ย! ดูข่าวนี่ดิ” แจงร้องขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะยื่นมือถือให้ฟ้าดู“นี่มัน...ม่อน แล้วนั่นก็ใหม่!” ฟ้าพึมพำเสียงดัง พลางยื่นหน้าเข้าไปอ่านรายละเอียดในข่าวที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ“เจน แกดูดิๆ” ฟ้ายื่นมือถือไปตรงหน้าเจนเจนชะงักมือจากการพิมพ์รายงาน พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรับมือถือมาดู“หืม? คลิปฉาวเน็ตไอดอลชื่อย่อ ม. สวิงกิ้งกับผู้ชายสิบคนในโรงแรมหรู...” เจนอ่านพาดหัวข่าว พลางเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าอึ้งๆ“นี่มัน..”“เออ ไอ้ม่อน ไอ้เลวที่มันวางยาแกอะ” แจงบอกเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“สมหน้า! หนอย แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ให้แกกิน แล้วจะมาเอาตัวแกไปอีก” ฟ้าพูดพลางกำมือแน่น นึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นด้วยความโกรธเจนจ้องจอมือถือครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“โชคดีนะ ที่พี่เนยมาช่วยไว้ ไม่งั้น...” เธอหยุดไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววไม่มั่นใจ“ฉันจำได้แค่ว่า
“อึ๊...อื๊อ...อ๊า..นาย...อื๊อ..อ๊าย”เสียงครวญครางของเจนดังสะท้อนลั่นไปทั่วห้อง ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอบิดเร่าเบาๆ ตามแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังพริ้วลิ้นอย่างชำนาญอยู่ที่จุดอ่อนไหวของเธออย่างไม่หยุดพัก ร่างของเธอกระตุกทุกครั้งที่เขาขยับจังหวะ จนเธอเสร็จคาปากเขานับครั้งไม่ถ้วนในค่ำคืนนี้“อื้ม...” เสียงพึมพำทุ้มต่ำดังชิดใบหู ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะกดทับลงบนริมฝีปากบาง สอดแทรกลิ้นเข้ามาอย่างลึกซึ้ง ตักตวงความหวานปนขมของแอลกอฮอล์ที่ดื่มในคืนนี้ จนเธอแทบลืมหายใจ“อึ๊..อื๊อ.เจ็บ!” เจนเผลอร้องออกมา ใบหน้าเหยเก เมื่อคนตัวโตด้านบนค่อยๆ สอดใส่แก่นกายที่ใหญ่โตเกินคาดเข้ามาในร่างกายของเธออย่างช้าๆ“หืม? ครั้งแรกเหรอ?” เขาถามเสียงพร่า ขณะค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นอย่างระมัดระวัง“อึ๊..อืม..เบาหน่อย..” เจนพึมพำเสียงแผ่ว พลางหลับตาพริ้ม ร่างกายเกร็งเล็กน้อยตามแรงสัมผัส“ทนหน่อยละกัน” เขากระซิบเสียงพร่า ก่อนก้มลงใช้ปลายลิ้นไล้เบาๆ ที่ยอดถันชูชันของเธอ แล้วสลับกับการเม้มดูดแรงจนเจนครางออกมาด้วยความเสียวสะท้าน ร่างกายของเธอแอ่นขึ้นตามสัญชาตญาณ เพ
เจนรีบร้อนเดินออกจากคอนโดด้วยจังหวะก้าวที่เร่งร้อน ภายในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ไหลย้อนกลับมาอย่างรวดเร็วงานเลี้ยงเฟรชชี่ต้อนรับน้องใหม่ในฐานะรุ่นพี่ปีสาม เธอ ฟ้า และแจงได้รับมอบหมายให้ดูแลบรรยากาศในงาน รวมถึงคอยแจกเครื่องดื่มให้บรรดารุ่นน้องที่มาร่วมสนุก แต่ดูเหมือนจะมีไอ้บ้าที่ไหนซักตัวคิดกิจกรรมสุดบ้าขึ้นมาเพื่อเพิ่มสีสันให้ค่ำคืน“ถ้ารุ่นน้องได้รับการดูแลจากพี่รหัสอย่างดี ให้ยกแก้วเหล้าให้พี่รหัสดื่มเป็นรางวัล!” เสียงประกาศดังลั่นความซวยของเธอคือ—เจนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในฐานะรุ่นพี่ เธอไม่อยากทำให้น้องๆ ผิดหวัง เลยจำใจรับแก้วที่ส่งมาแบบปฏิเสธไม่ได้ ความวุ่นวายที่รุ่นน้องต่อแถวมาอย่างไม่ขาดสายทำให้เธอไม่รู้เลยว่าดื่มไปกี่แก้ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ทุกอย่างมืดสนิทและเมื่อเธอตื่นขึ้นในวันถัดมา—เธอกลับพบตัวเองบนเตียงกว้างในสภาพที่ไม่ควรเกิดขึ้น... กับเขา!เชษ หนุ่มหล่อสุดฮอตแห่งคณะวิศวะที่ใครๆ ต่างหมายปอง ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาคือจุดสนใจเสมอ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยอยากจะครอบครองเจนยิ่งเดิน ยิ่งเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา แต่ไม่ใช่เพราะความเข
เจนเดินออกจากสนามบาสด้วยจังหวะก้าวเร่งรีบ ความโกรธยังตีวนอยู่ในอก แต่ยิ่งพยายามลืมก็ยิ่งนึกถึงสายตาเจ้าเล่ห์ของเชษที่มองเธออย่างเหนือกว่า เธอกัดฟันแน่น พยายามสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปยังไม่ทันเดินพ้นเขตคณะดี เสียงมือถือในกระเป๋าสะพายก็ดังขึ้น เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา เห็นชื่อฟ้าปรากฏอยู่บนหน้าจอเจนกดรับสายทันที “ว่าไง?”“เจน! แกอยู่ไหนเนี่ย?เมื่อกี้เพื่อนฉันบอกว่าเห็นแกอยู่กับเชษ จริงปะ?” ฟ้าถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนอยากรู้อยากเห็นเจนกลอกตาและถอนหายใจ“ก็... เออ ฉันไปหาเขามา แต่แค่ไปเคลียร์เรื่องโพสต์บ้าๆ นั่น! แล้วอีกอย่าง...มันไม่ใช่แบบที่แกคิด”“ไม่ใช่แบบที่ฉันคิด?แล้วมันแบบไหนกันยะ? "เจนเม้มริมฝีปากแน่น ความหงุดหงิดและอึดอัดพุ่งขึ้นในอก เธอไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน“ฉันไม่รู้!”ฟ้าทำเสียงอืมในลำคอเหมือนกำลังครุ่นคิด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เอางี้ เดี๋ยวฉันไปหาแกที่ห้อง แกค่อยเล่าให้ฟัง โอเคมะ? "“เออ ก็ได้” เจนตอบสั้นๆ ก่อนจะกดวางสายเธอเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นในใจ แล้วเดินออกจากเขตคณะอย่างเร่งรีบ แม้จะพยายามสลัดคว
เช้าวันใหม่ เจนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงข้อความแจ้งเตือนจากมือถือ เธอคว้ามือถือขึ้นมาอ่านด้วยอาการงัวเงีย แต่เมื่อเห็นข้อความจากฟ้าที่ส่งมา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันที‘แก เชษเดินมาหาที่คณะบัญชีตอนฉันกลับ! เดินชิลๆ เหมือนมาเที่ยว คนทั้งคณะมองกันตาแทบไม่กระพริบ รีบจัดการเรื่องนี้เถอะก่อนจะวุ่นไปกว่านี้!’เจนกัดริมฝีปากแน่น ความรำคาญและอายประดังเข้ามาพร้อมกัน เธอโยนมือถือลงบนเตียงอย่างแรง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง“โอ๊ย! จะอะไรนักหนาวะ…” เจนพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพิมพ์ตอบกลับหาฟ้า‘วันนี้ฉันไม่ไปเรียน ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะ’ส่งข้อความเสร็จ เธอโยนมือถือลงบนเตียงอีกครั้ง คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ตัดสินใจกลับไปที่ค่ายมวยของที่บ้านแทน เธอรู้ว่าที่นั่นเป็นที่เดียวที่จะช่วยให้เธอหลบพ้นจากความวุ่นวายในหัวได้ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเสียงกระสอบทรายถูกต่อยดังก้องอยู่ภายในค่ายมวย ‘ศักดิ์ประภาไฟต์คลับ’ เจนกำลังซ้อมอยู่หน้ากระสอบทรายอย่างมีสมาธิ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของบรรดาลูกศิษย์ที่ฝึกซ้อมอยู่ใกล้ๆ“ซ้ายอีก! อย่าลืมบิดตัว!” พี่เดย์ พี่ชายคนเล็กที่รับหน้าที่เป
หน้าตึกคณะบัญชี เจนนั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของพวกเธอ ก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานลงแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่ฟ้ากับแจงนั่งอยู่ข้างๆ ต่างคนต่างไถมือถือหาข้อมูลช่วยเธอ“เฮ้ย! ดูข่าวนี่ดิ” แจงร้องขึ้นอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนจะยื่นมือถือให้ฟ้าดู“นี่มัน...ม่อน แล้วนั่นก็ใหม่!” ฟ้าพึมพำเสียงดัง พลางยื่นหน้าเข้าไปอ่านรายละเอียดในข่าวที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ“เจน แกดูดิๆ” ฟ้ายื่นมือถือไปตรงหน้าเจนเจนชะงักมือจากการพิมพ์รายงาน พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรับมือถือมาดู“หืม? คลิปฉาวเน็ตไอดอลชื่อย่อ ม. สวิงกิ้งกับผู้ชายสิบคนในโรงแรมหรู...” เจนอ่านพาดหัวข่าว พลางเงยหน้ามองเพื่อนด้วยสีหน้าอึ้งๆ“นี่มัน..”“เออ ไอ้ม่อน ไอ้เลวที่มันวางยาแกอะ” แจงบอกเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“สมหน้า! หนอย แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ให้แกกิน แล้วจะมาเอาตัวแกไปอีก” ฟ้าพูดพลางกำมือแน่น นึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นด้วยความโกรธเจนจ้องจอมือถือครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“โชคดีนะ ที่พี่เนยมาช่วยไว้ ไม่งั้น...” เธอหยุดไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววไม่มั่นใจ“ฉันจำได้แค่ว่า
ในยามบ่ายที่เงียบสงัด เฟิร์นนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสบายๆ สมาร์ทโฟนในมือถูกไถขึ้นลงบนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย เสียงเพลงจังหวะเบาๆ ที่ลอยมาจากลำโพงข้างเตียงไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย“นี่มันอะไรกัน...” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยุดมือที่ไถจอ เปิดแชทที่เคยส่งข้อความหาม่อนซึ่งตอนนี้ยังไร้การตอบกลับ“หายหัวไปไหนวะ! ไม่รู้หรือไงว่าฉันรอฟังข่าวอยู่!” เธอบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ขณะที่ขมวดคิ้วมองหน้าจอมือถือเฟิร์นทิ้งตัวลงบนหมอนอย่างแรง ขณะความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว เธออุตส่าห์ลงทุนไปซื้อยาปลุกเซ็กส์มาให้ม่อน เพื่อให้เขาใช้จัดการกับเจนตามแผน ถ้ามันสำเร็จ เจนจะต้องอับอายจนไม่กล้าอยู่ใกล้เชษอีกต่อไป และเชษ...จะต้องหันมาหาเธอแทน“เรื่องง่ายๆ แค่นี้...มันต้องสำเร็จสิ” เฟิร์นพึมพำเบาๆ ปลายนิ้วไล้ไปตามหน้าจอโทรศัพท์อย่างล่องลอย แต่ในใจกลับคุกรุ่นด้วยความอิจฉาเธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเหลือบตามองข้อความล่าสุดของม่อนที่ยังคงเงียบสนิท จนเธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่เฟิร์นกำลังนอนเบื่อๆ อยู่บนเตียง เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันข่
หลังจากปรึกษาเรื่องแบล็คแฮนด์เสร็จ เจนก็เดินออกมาจากห้องประชุม และตรงไปหาเนยที่กำลังซ้อมกระสอบทรายอยู่“พี่เนย ซ้อมมวยกับหนูหน่อยสิ”เนยหันมามองเจนพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา“เอาสิ”พี่ชายทั้งสามของเจนที่เดินตามออกมา พากันขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเจนและเนยกำลังพันผ้าพันมืออย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะสวมนวมสีแดงสดเตรียมขึ้นเวที“เอ้ยๆ ทำไรกัน” พี่นนท์โพล่งออกมา พร้อมปรี่เข้าไปที่สังเวียน“ซ้อมมวยไง” เจนตอบหน้าตาเฉย ขณะจัดนวมให้พอดีมือ“ยัยเจน เธอ...”“พี่นนท์ ยุ่งน่า!” เจนสวนกลับทันที“พี่เนยฝีมือดีขนาดนี้ ไม่ได้ซ้อมด้วยก็เสียของหมด”พี่นนท์อ้าปากจะพูดต่อ แต่เนยยิ้มยั่วใส่พร้อมยักคิ้วกวนๆ“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันไม่ทำอะไรเหมือนวันนั้นหรอก”พี่นนท์สะอึกไปเล็กน้อย สีหน้าที่พยายามเก๊กนิ่งกลับแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พี่กรและพี่เดย์ที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของนนท์“เอาเถอะ ปล่อยให้เด็กมันซ้อมกัน” พี่กรพูดขณะเดินไปนั่งที่ริมสังเวียนพี่นนท์ที่ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ฮึดฮัดเดินตามไปนั่งด้วยท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เชษและเคนที่เพิ่งเดินมาสมทบก็นั่งลงใกล้ๆเคนหัวเราะเบาๆ ขณะม
วันถัดมา เชษขับรถมาจอดที่ด้านหน้าค่ายมวยศักดิ์ประภาไฟท์คลับ เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตดับลง พร้อมกับบรรยากาศเงียบสงบที่รายล้อม เขาหันไปมองเจนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความครุ่นคิด“เป็นไร? ห่วงเรื่องค่ายเหรอ?” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงอ่อนโยน“เรื่องนั้นก็ห่วงแหละ แต่...” เจนพูดก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหันมามองเขา กลอกตาไปมาอย่างลังเล“ตอนนี้ห่วงเรื่องนายมากกว่า”เชษเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ“ทำไมอะ?”“พี่ชายฉันน่ะสิ...” เจนพึมพำเบาๆ แววตาดูกังวลอย่างเห็นได้ชัดเชษหัวเราะเบาๆ ยื่นมือไปจับมือของเธอ“ไม่ต้องห่วงน่า ฉันสู้เพื่อเธออยู่แล้ว”“นายก็พูดได้สิ...นายยังไม่เจอพี่ชายฉันตอนแผลงฤทธิ์นี่นา” เจนบ่นงึมงำ ใบหน้าสวยบูดบึ้งเล็กน้อยภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความทรงจำของเธอ สมัยมัธยมมีผู้ชายคนหนึ่งมาจีบเธอถึงหน้าค่าย พี่ชายทั้งสามของเธอพร้อมใจกันคว้าไม้หน้าสามมาไล่กวดเขาแบบไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายคนนั้นหนีกลับบ้านอย่างไม่คิดชีวิต และหลังจากนั้นก็ไม่เคยโผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย“พี่กรกับพี่เดย์ไม่เท่าไหร่ แต่พี่นนท์เนี่ย...” เจนพูดพลางทำท่าสยองเล็กน้อย ขณะที่เชษหัวเราะในลำคอ“ยัยตัวแ
ในที่สุด ทั้งสองคนก็ไม่ได้ลุกจากเตียงไปไหนเลยตลอดทั้งวัน...แสงแดดที่ลอดผ่านหน้าต่างค่อยๆ เลื่อนเปลี่ยนเป็นแสงสลัวของยามเย็น บรรยากาศในห้องยังคงอบอวลไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกที่แสนหวานเชษนอนเอนกายอยู่บนเตียง ร่างแกร่งโอบกอดเจนไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน ร่างบางของเจนซุกตัวอยู่ในอกเขา หอบหายใจเบาๆ ด้วยความเหนื่อยล้า ผมยาวสยายระเกะระกะอยู่บนแผ่นอกของเขา“เธอทำฉันหมดแรงเลยนะ ยัยตัวแสบ” เชษกระซิบเสียงพร่าพลางก้มลงจูบขมับของเธอแผ่วเบา“หึ...ใครกันแน่ที่ไม่ยอมพัก...” เจนพึมพำเสียงอู้อี้ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ด้วยความเหนื่อยเชษหัวเราะเบาๆ ก่อนจะรั้งร่างของเธอเข้ามากอดแน่นขึ้น ริมฝีปากหนาประทับจูบลงที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน“ใครใช้ให้เธอน่ารักเกิน”เจนทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่พอใจ แต่แก้มกลับแดงซ่านด้วยความเขินอาย เธอซุกหน้าลงกับอกกว้างของเขาเพื่อหลบสายตาเจ้าเล่ห์นั้นเวลาค่อยๆ ล่วงเลยไปจนท้องฟ้าภายนอกกลายเป็นสีดำสนิท แสงไฟจากตึกสูงภายนอกส่องเข้ามาแทนแสงอาทิตย์ เชษลุกขึ้นเล็กน้อยเพื่อหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ก่อนหันกลับมามองร่างบางที่ยังนอนซุกเขาอยู่“นี่มันค่ำแล้วนะ หิวหรือยัง?” เชษถามขึ้น พล
“เช็ดตัวก่อนนะ...ตัวเธอร้อนมาก...”แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ร่างบางกลับยกมือขึ้นมาคว้าคอเขาไว้โดยไม่ทันให้ตั้งตัว ดวงตาหวานเยิ้มพร่าเลือนจากฤทธิ์ยาจ้องลึกเข้ามาในตาของเขา ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะทาบทับบดขยี้กับปากของเขา ร่างกายที่ร้อนรุ่มของเธอทำให้เชษรู้สึกเหมือนคนใกล้คลั่งลิ้นเล็กอ่อนนุ่มของเธอสอดแทรกเข้ามาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ไล่ต้อนลิ้นหนาของเขาด้วยจังหวะเร่าร้อนและรุนแรงเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้ เชษแทบจะลืมหายใจไปชั่วขณะเพียงแค่นั้น...ความอดทนทั้งหมดของเชษก็ขาดสะบั้นลงในพริบตาเขาตอบสนองจูบของเธอทันที ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบกลับไปอย่างร้อนแรงและลึกซึ้ง ลิ้นหนาของเขาตวัดเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กที่พยายามจะยั่วเย้าเขาอย่างท้าทาย เสียงหอบหายใจของทั้งสองคนผสานกันในความเงียบของห้อง สัมผัสเร่าร้อนทำให้เวลารอบตัวเหมือนหยุดลงทั้งสองช่วยกันปลดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ก็แนบชิดกันบนที่นอนอันแสนนุ่มริมฝีปากหนาของเชษพรมจูบลงไปตามลำคอขาวเนียน ไล้สัมผัสอย่างเร่งเร้า ปลายลิ้นร้อนลากไล้ต่ำลงมาจนถึงหน้าอกคู่สวยที่เบียดชิดกันอย่างเย้ายวนเขาสะบัดปลายลิ้นเลี
เชษขับรถมาจอดหน้าผับอีคลิปส์อย่างรวดเร็ว เขาก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ไม่สนใจเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตะโกนโวยวายเรื่องการจอดรถของเขา ก่อนจะปรี่เข้าไปในผับด้วยความรีบเร่งทันทีที่เข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือความวุ่นวายตรงโซนวีไอพี แจงกับฟ้ากำลังยืนประคองเจนที่ดูแทบไม่มีแรง ด้านหน้าของพวกเธอคือม่อนที่ยังยืนทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้ทุกอย่างดูยิ่งน่าหงุดหงิด สายตาหลายคู่เริ่มจับจ้องมายังสถานการณ์นั้น เสียงเพลงสนุกที่เปิดอยู่กลายเป็นเพียงเสียงประกอบฉากที่ไม่เข้ากับบรรยากาศตึงเครียดตรงนี้เลย“ไอ้เลว!! พวกแกใส่อะไรให้เพื่อนฉันกิน!”ฟ้าตะโกนลั่น น้ำเสียงสั่นด้วยความโกรธ ขณะที่แขนยังโอบรั้งเจนไม่ให้ทรุดลงกับพื้น แจงยืนกำหมัดแน่นอยู่ข้างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย แค่เห็นเจนดูเมาๆ ก็จะพาไปพัก”ม่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงยียวน สายตากรุ้มกริ่มของเขาที่มองเจน ทำให้ทุกคนเดือดดาลขึ้นไปอีก“ตอแหล! เจนไม่กินเหล้า!” แจงสวนกลับทันที ใบหน้าแดงจัดด้วยความโมโหจัดเชษกวาดสายตามองไปที่เจน เธออยู่ในอ้อมแขนของฟ้า ร่างบางดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าของเธอแดงจ
บรรยากาศภายในผับอีคลิปส์คืนนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานและแสงไฟหลากสีสันที่สาดส่องไปทั่วบริเวณ ทำให้ทั้งผับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาโต๊ะยาวโซนวีไอพีที่ทีมงานจัดงานบายเนียร์ รวมถึงรุ่นพี่ปีสี่และรุ่นน้องที่ร่วมงานเดินแบบนั่งรวมตัวกัน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ดังลั่น ทุกคนดูผ่อนคลายหลังจากทุ่มเทแรงกายแรงใจให้งานใหญ่เสร็จสิ้น“แก อย่ามัวนั่งเฉยๆ มานี่เลย!” แจงพูดพลางดึงแขนเจนที่นั่งจิบน้ำแอปเปิ้ลโซดาอยู่ให้ลุกขึ้น“ฉันไม่ไป แกไปเต้นกับฟ้าเถอะ” เจนพูดเสียงอ่อน ขณะที่ฟ้านั่งหัวเราะขำอยู่ข้างๆ“ยัยเจน แกเดินแบบขนาดนั้น ยังจะอายไรอี๊ก!! แกต้องไปเต้น!” แจงยืนยัน“ไม่ลุก” เจนส่ายหน้า แล้วเอนตัวพิงโซฟาหนานุ่มด้วยท่าทางสบายๆขณะที่กำลังจะโต้ตอบ แจง สายตาของเจนก็เหลือบไปเห็นม่อนที่นั่งเอนตัวพิงพนักโซฟาอีกฝั่งของห้อง สายตาคมกริบของเขามองตรงมาที่เธอ พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ เขายกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบช้าๆ เหมือนกำลังดูสถานการณ์อย่างตั้งใจ“แก ไปเต้นกันเหอะ!” แจงพยายามดึงมือเจนในที่สุด เจนก็ถูกทั้งแจงและฟ้าผลักให้ลุกขึ้น เธอเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำอย่างไม่เต็มใจนักม่
บรรยากาศภายในห้องบอลรูมของโรงแรมแกรนด์ริเวอร์เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาอันออกรส เพื่อนร่วมรุ่นสมัยมัธยมทยอยเดินเข้ามาทักทายกันด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ จากวงดนตรีสดในมุมห้องช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยความทรงจำน้ำหวานยืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง สวมเดรสยาวสีงาช้างที่ช่วยขับให้ความงามละมุนละไมของเธอโดดเด่น ใบหน้ายิ้มแย้มขณะพูดคุยกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม“หวาน! ไม่เจอตั้งนาน เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ สวยขึ้นมาก!”“ใช่ๆ จำได้ว่าวันนั้นเธอใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย! ตอนนี้เรียนที่ไหนแล้วล่ะ?”น้ำหวานตอบคำถามและแลกเปลี่ยนคำทักทายกับเพื่อนๆ อย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แต่ในใจของเธอกลับล่องลอยออกไปไกล เธอเหลือบตามองประตูห้องบอลรูมอย่างเผลอไผล ราวกับรอคอยใครบางคนที่ยังมาไม่ถึง“มองหาใครอยู่เหรอ?” เสียงหนึ่งแซวมาจากเพื่อนข้างๆน้ำหวานหัวเราะกลบเกลื่อน“เปล่าหรอก...แค่มองไปเรื่อยๆ”แต่ในความเป็นจริง เธอไม่ได้แค่มองไปเรื่อยๆ หัวใจของเธอกำลังรอใครบางคนที่สำคัญเกินกว่าจะลืมภายในห้องทำงานส่วนตัวของเคนในผับอีคลิปส์ ลักซ์ เล้าจน์ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความลักซ์ชัวรี ผน