เกมรักที่เขาเริ่มต้นจากความคึกคะนอง กลับจบลงด้วยบาดแผลลึกในหัวใจของเธอ สำหรับเขา…มันก็แค่การเดิมพันที่อยากเอาชนะเท่านั้น แต่สำหรับเธอ…มันคือความเสียใจที่เกินจะรับไหว
View More“ไว้เจอกันครั้งต่อไปครับนักศึกษา” สิ้นเสียงของอาจารย์ ไลลาริน ริสา และ น่านฟ้า พวกเขาซึ่งเรียนสาขาเดียวกันก็รีบรวบของทุกอย่างบนโต๊ะลงในกระเป๋าสะพาย แล้วเร่งฝีเท้าเดินเร็วสลับวิ่งไปยังโรงยิม ที่รุ่นพี่นัดซ้อมเชียร์เพื่องานรับน้องที่จะมาถึงอีกสองสัปดาห์
ไลลารินจูงกึ่งลากริสาที่ทำท่าจะวิ่งต่อไม่ไหว พร้อมกับเอ่ยปากเร่ง
“สาเร็วหน่อย อีกแค่นิดเดียวก็ถึงแล้ว” ริสาโบกมือเป็นสัญญาณบอกให้ไลลารินไปก่อน
“ไม่ ไปพร้อมกัน ถ้าจะโดนลงโทษก็โดนด้วยกันนี่แหละ” น่านฟ้าที่ไม่ได้สนิทกับสองสาวเขาก็แค่ปรายตามองนิดๆ แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวต่อ
1 2 3 4 5 6….ด้านขวาวิ่งกระหืดกระหอบมาถึงโรงยิมก่อนที่พี่ว้ากจะนับถึง 10 น่านฟ้านั่งท้ายแถว พลางเหลือบตามองประตูโรงยิม ดูว่าสองสาวร่วมสาขาจะมาถึงหรือยัง 7 8 9 10
สิ้นเสียงนับ 10 ไลลาริณกับริสาและเพื่อนคณะอื่นอีก 2-3 คนก็วิ่งมาถึงประตูโรงยิมแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ทั้งหมดถูกเรียกไปยืนด้านหน้าแถวแล้วสั่งให้รายงานตัวด้วยเสียงที่ดังฟังชัดให้รุ่นพี่พอใจ กว่าที่ทั้งหมดจะถูกปล่อยตัวมานั่งรวมกับเพื่อนๆ ก็ตะโกนรายงานตัวจนเสียงแหบแห้งไปหมดแล้ว
“วิ่งมาก็เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว ยังต้องมาตะโกนรายงานตัวอีก” ไลลาริณบ่นพึมพำด้วยความเหนื่อยหอบ ริสารีบกระตุกแขนพร้อมกับส่ายหน้าไม่ให้อีกคนพูด เดี๋ยวรุ่นพี่มาได้ยินก็ถูกสั่งซ่อมอีกหรอก
หลังจากที่รุ่นพี่พูดถึงกฎของคณะจบแล้ว ก็เป็นการฝึกซ้อมเพลงเชียร์ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพื่อขับร้องในงานรับน้องซึ่งเป็นประเพณีสืบต่อกันมาของคณะ ในวันนั้นหากรุ่นน้องคนใดสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างลุล่วง รุ่นพี่ก็จะมอบเกียร์เป็นของขวัญ เป็นสิ่งยืนยันว่าทุกคนเป็นชาวคณะวิศวกรรมศาสตร์เต็มตัวแล้ว
หลังจากที่ทุกคนซ่อมร้องเพลงเชียร์ติดต่อกันเกือบ 2 ชั่วโมง ต่างก็เหนื่อยล้า บ้างก็หิว จนทำให้แรงถดถอย ซึ่งเป็นที่ไม่พอใจของรุ่นพี่เฮดว๊าก ยิ่งร้องเสียงเบามากเท่าไหร่ รุ่นพี่ก็สั่งให้ทุกคนลุกขึ้นยืน แล้วให้ลุกนั่งพร้อมกับร้องเพลงเชียร์ไปด้วย
ซึ่งมันทำให้รุ่นน้องผู้หญิงบางคนถึงกลับเป็นลมล้มพับ หรือแม้แต่รุ่นน้องผู้ชายก็เข่าอ่อนไปต่อไม่ไหว แต่พี่เฮดว๊าก ก็ไม่ได้สนใจ ยังคงสั่งให้ลุกนั่งพร้อมกับร้องเพลงเชียร์ให้ดังกว่าเดิม
เมื่อไลลาเห็นเพื่อนร่วมรุ่น โดนรุ่นพี่ซ่อมหนัก เธอก็อดทนไม่ไหว จนพูดออกไปว่า
“พักก่อนไม่ได้เหรอคะพี่ ตอนนี้ทุกคนไม่ไหวแล้ว” แต่ถูกรุ่นพี่ตอบกลับมาด้วยถ้อยคำไร้น้ำใจ
“ถ้าลำบากแค่นี้อดทนไม่ได้ ก็ย้ายไปเรียนคณะอื่นเถอะ คงไม่ผ่านไปถึงพิธีรับน้องหรอก”
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คนอย่างไลลาริณหยุดได้ เธอก็ตอบออกไปอย่างถือดีเช่นกัน
“พวกเราเข้ามาเรียนเพื่อหาความรู้ ไม่ใช่มาทำกิจกรรมบ้าๆ นี้”
“ใครพูดว่ากิจกรรมบ้าๆ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!” สิ้นเสียงอันแสนเกรงขาม ทุกคนในโรงยิมต่างหันไปมองชายหนุ่มสามคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่
รุ่นน้องต่างพากันเคารพรุ่นพี่ปีสี่และคนที่เดินมาหนึ่งในนั้นเป็นถึงลูกหลานเจ้าของมหาลัยแห่งนี้ และยังเป็นตระกูลใหญ่พ่อแม่มียศเรียกว่าคาบช้อนเงินช้อนท้องมาเกิดเลยก็ว่าได้
“ผมถามว่าใครพูดเมื้อกี้!” ไต้ฝุ่นเข้ามาได้ยินเสียงรุ่นน้องปีหนึ่งพูดพอดี หากการทำกิจกรรมแค่นี้ทนไม่ไหวในอนาคตข้างหน้าจะทำอะไรได้ เขาปรายตามองไปยังกลุ่มผู้หญิงที่มีแค่ไม่กี่คน แต่ต้องสะดุดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่น่าตาก็งั้นๆ
แต่ทำไมเขาถึงละสายตาไม่ได้ แววตาถือดีดื้อรั้นและคงจะดื้อน่าดู ได้มาอยู่ได้ร่างของเขาคงจะสนุกน่าดู ‘แม่งกูคิดอะไรกับเด็กอยู่วะ’
“เธอคนนี้เลยค่ะ” หนึ่งในนั้นชี้ไปที่ไลลาริณที่นั่งอยู่ไม่ไกล ไม่มีใครอยากโดนทำโทษไปด้วยแค่ซ้อมร้องเพลงก็เหนื่อยจะยาแล้ว
ไต้ฝุ่น กองทัพ แม็ก อดีตเฮดว๊ากและรองเฮดทั้งสองคน ที่เพิ่งคุยกับอาจารย์เรื่องงานรับน้องเสร็จ เดินเข้ามาได้ยินคำพูดของไลลาริณพอดี ไต้ฝุ่นก้าวมายืนด้านหน้า พร้อมกับพูดเสียงดังว่า
“หากใครคิดว่าพิธีกรรมที่ทำต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลาหลายสิบปี เป็นกิจกรรมบ้าๆ ก็เดินออกจากที่นี่ไป เพราะพวกเราก็คงไม่ต้อนรับรุ่นน้องที่ไม่มีความเคารพรุ่นพี่ เคารพประเพณีที่ทำสืบต่อกันมา เชิญ!”
สิ้นคำพูดของไต้ฝุ่น ไลลาริณจะอ้าปากตอบโต้ แต่ถูกริสาห้ามไว้เสียก่อน
“ไลลาไม่เอา ถ้าไม่อยากจะเป็นแกะดำ ไม่ต้องพูดแล้ว”
เธอจึงไม่ตอบโต้และนั่งจ้องหน้าของรุ่นพี่โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ถึงเธอจะเป็นเด็กบ้านนอกเข้ามาเรียนในเมืองหลวงแต่พ่อก็สอนว่าให้บวกตลอด ไม่อย่างนั้นเราจะถูกรังแกเสียเอง
“ลุกขึ้นมา!...”
เมื่อได้ยินแบบนั้นเธอจึงลุกขึ้น ถึงแม้จะมีหวานหวั่นอยู่บ้างและใจก็ฮึดสู้ ยืนเชิดหน้าอย่างเย้อหยิ่งจนทำให้ไต้ฝุ่นรู้สึกไม่พอใจ
“แนะนำตัวพูดให้ดังๆ เหมือนตอนที่โวยวาย”
“กูคิดว่ามันจะทำโทษน้องเขา” แม็กนัสเริ่มคิดอะไรสนุกๆ ออก เขาเห็นเพื่อนยืนจ้องหน้ารุ่นน้องไม่วางตา ปกติใครปากเก่งต้องถูกลงโทษไปแล้ว
“พูดสิครับในปากอมอะไรไว้!”
“ไลลาริณ วรรณดำรง เรียกไลลาก็ได้อยู่สาขาวิศวกรรมโลจิสติกส์”
“วันหลังอย่าปากเก่งกับรุ่นพี่ ไม่พอใจก็เดินออกไป!!”
เมื่อเห็นรุ่นน้องยืนนิ่งไม่มีใครคิดที่จะตอบโต้หรือเดินออกไปจากโรงยิม ไต้ฝุ่นจึงออกคำสั่งเสียงลั่น
“หากไม่มีใครออกไปจากที่นี่แล้ว ก็ซ้อมเพลงเชียร์กันต่อ เอาให้เสียงดังเหมือนเวลาเถียงรุ่นพี่ด้วยนะ” ช่วงท้ายประโยคเขาจงใจจะประชดไลลาริณ พร้อมทั้งปรายตามองและยิ้มเยาะหยัน
“ไปวิ่งรอบสนาม 3 รอบ!”
สิ้นเสียงของเขาทั้งโรงยิมจึงมีเสียงซุบซิบขึ้น เพราะสนามที่เขาหมายถึงนั้นแค่วิ่งรอบเดียวก็ไม่ไหวแล้ว นี่สั่งให้วิ่งตั้งสามรอบไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
“ตะ...แต่”
“ผมสั่งให้ไปวิ่ง”
“ค่ะ” เธอไม่ตอบโต้และเดินออกไปเตรียมตัววิ่งตามคำสั่งของรุ่นพี่หน้าโหด โดยไม่ยอมบอกรุ่นพี่ว่าตัวเองนั้นมีโรคประจำตัว
ไต้ฝุ่นมองคนปากเก่งที่ไม่คิดจะเถียงหรือค้านเขาเลย เขากำลังจะเดินออกไปแต่ได้ยินเสียงเพื่อนของเธอ พูดขึ้นมาก่อนถึงแม้จะเบาแต่เขากลับได้ยินอย่างชัดเจน
“ไอ้น่านไลลามันเป็นหอบหืดตั้งแต่เด็ก ไปวิ่งแบบนั้นตายลูกเขาทิ้งแน่ๆ”
“แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอก”
“ใครจะกล้าบอก”
ไต้ฝุ่นได้ยินแค่นั้นจึงรีบวิ่งออกไปจากโรงยิมทำให้เพื่อนต่างพากันงุนงง ว่าไต้ฝุ่นจะรีบออกไปแม็กนัส และกองทัพจึงรีบวิ่งตามไป
“ไอ้ฝุ่นรอพวกกูด้วย”
“ไอ้ห่า รีบไปไล่ควายที่ไหน”
เขามองหาไลลาริณเห็นหญิงสาวกำลังวิ่งกลางแดดที่ร้อนจัด เขาเห็นเธอวิ่งช้าลงเรื่อยๆ วิ่งรีบวิ่งเข้าไปหาแต่ไม่ทันเพราะเธอเป็นลมหมดสติเสียก่อน
โชคดีที่เขามารับตัวไว้ได้ทันร่างกายจึงไม่ได้กระแทกลงที่พื้น เขารีบอุ้มเธอพาไปส่งที่ห้องพยาบาลทันที โดยเพื่อนจะอุ้มช่วยเขากลับไม่ยอม
“ที่วิ่งมาเพราะรู้ว่าเขาจะเป็นลม?”
“มึงอย่าพูดมาก”
“เธอเป็นยังไงบ้าง” เขาถามพยาบาลอย่างร้อนใจเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้น
“มียามั้ยคะ? ถ้าไม่มีต้องส่งโรงพยาบาลค่ะ”
“ส่งโรงพยาบาลเลย”
“แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายค่ะ”
“นี่ใคร! ไอ้ทัพมึงไปเคลียร์ทางดิ” ไต้ฝุ่นสั่งให้เพื่อนไปจัดการเคลียร์ทุกอย่าง ไม่นานไลลาริณก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลของครอบครัวไต้ฝุ่น
“คนไข้ปลอดภัยดีครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นไต้ฝุ่นจึงโล่งใจ เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเธอมาแล้ว เมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติจึงเดินทางกลับและเขาไม่สามารถลบใบหน้าของเธอออกไปจากความคิดได้เลย
“ป๊าฝุ่นขา” น้องลิสาวิ่งมาเกาะขาไต้ฝุ่นเมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามาในบ้าน น้องลิสาลูกสาวของกองทัพตอนนี้อายุได้สามขวบแล้ว เขาเห็นทีไรอยากขับฟัดตลอดแถมมันกำลังจะกลายเป็นคุณพ่อลูกสอง เพราะเมียกำลังตั้งท้อง “มาหาป๊าแม็กมา” แม็กนัสยกแขนขึ้นเด็กน้อยเห็นแบบนั้นจึงวิ่งเข้าหาและชูมือขึ้นทั้งสองข้าง ให้คนตัวโตกว่าอุ้ม “มึงจะมาทำไมก็ไม่รู้” กองทัพนั้นหวงลูกสาวมากจนพาลกับทุกคนที่เข้าใกล้ลูก “กูเอาการ์ดมาแจก” “กูก็เหมือนกัน” ทั้งแม็กนัสและไต้ฝุ่นไม่มีใครยอมใครเพราะพวกเขารอคนรักเรียนจบ กว่าจะมาถึงวันนี้แทบขาดใจ “แต่งพร้อมกัน?” “ก็ใช่นะสิแถมเมียกูยังมีลูกอยู่ในท้องต้องรีบ” ไต้ฝุ่นต้องรีบโอ้อวด ไลลาริณเพิ่งเรียนจบได้ไม่ถึงสองเดือนก็พบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ เพราะเขาแอบแกะยาคุมของเธอทิ้งบางเม็ด “มึงไม่ค่อยจะอิฉากูเลย” “ต้องรีบสิครับเดี๋ยวลูกโตไม่ทันเพื่อน” แม็กนัสเงียบเพราะคนรักของตัวเองนั้นไม่ยอมมีเบบี๋ให้สักที เพราะอยากทำงานซึ่งเขานั้นก็ไม่ขัดเขาคนรักรอได้เสมอ “แล้วสาวๆ เขาไปไหน” ภรรยาของเขาก็ออกไปพบกับคนรักของเพื่อ
ไต้ฝุ่นกำลังเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว หลังจากที่เขาเรียนจบงานหมั้นของเขากับไลลาริณก็ถูกจัดขึ้นที่บ้านของไลลาริณ อีกหนึ่งอย่างที่เขาไม่เคยรู้เลยคือพ่อกับแม่ของเขาเตรียมงานหมั้นไว้รอเขาแล้ว ไลลาริณก็รู้ดี เขาเพิ่งมาทราบว่าช่วงที่เขากำลังตามง้อหญิงสาว แม่ของเขาได้สู่ขอไลลาริณอย่างไม่เป็นทางการในใจอยากจะแต่งแต่ต้องรออีกสามปี เมียของเขายังเรียนไม่จบ “เหนื่อยไหมคะเดินทางมาไกลเลย” บ้านของเธออยู่ต่างจังหวัดซึ่งใช้เวลาขับรถมากกว่าแปดชั่วโมง หากช่วงเทศกาลรถจะติดหนักบางครั้งก็ใช้เวลาเดินทางมากกว่าสิบสองชั่วโมง “คิดถึงเมียจังเลย” เขากับหญิงสาวต้องห่างกันเกือบสองเดือนเพราะเขาต้องเรียนรู้งานจากพ่อของเขา ไลลาริณขอกลับมาดูแลพ่อแม่ที่บ้านในช่วงปิดเทอม วันนี้เขาจึงลางานเพื่อมารับหญิงสาวกลับกรุงเทพด้วยกัน “อุ้ยยย คนอื่น” “คืนนี้พี่ขอหลายๆ ยกได้ไหม” “เกรงใจคนที่บ้านบ้างนะคะ” “พ่อกับแม่บอกจะนอนที่โรงงาน” ก่อนจะมาถึงเขาโทรบอกพ่อกับแม่ของไลลาริณแล้ว ซึ่งพวกท่านมีงานด่วนช่วงนี้ใกล้ถึงฤดูปลูกผักทำการเกษตรออร์เดอร์ปุ๋ยจึงมากกว่าทุกครั้ง
“ไลลา” “มีอะไรเหรอ” “เมื่อคืนนะสิเราเจอพี่ไต้ฝุ่นเมามากจนพูดไม่รู้เรื่อง เขาพร่ำเพ้อหาแต่ไลลา ขอโทษไลลาตลอดเลย” ประโยคหลังคือเขาเพิ่มเสริมไปเองจะได้ดูน่าสงสาร ช่วยขนาดนี้แล้วหากยังทำตัวแบบเดิม เขาหมดคำจะพูด “เห็นแล้วน่าสมเพชอ่ะ” “...” ณภัทรเอาเหตุการณ์ของเมื่อคืนมาเล่าให้ไลลาริณฟัง และเขายังบอกว่า เขาเล่นดนตรีที่ร้านนั้นได้เห็นสภาพเมาเป็นหมาของรุ่นพี่ทุกคืน เขานั่งสังเกตปฏิกิริยาของเธอตลอดที่พูดถึงไต้ฝุ่น“มาเล่าให้ฉันฟังทำไม”ณภัทรยิ้มๆ เพราะแววตาของไลลาริณนั้นสั่นระริกเหมือนจะเป็นห่วงไต้ฝุ่น ปากแข็งกันทั้งคู่เลยอีกคนกว่าจะรู้ใจตัวเอง อีกคนทำเป็นเก่ง“แค่บอกในฐานะเพื่อนสนิท ที่อยากจะเห็นเพื่อนมีความสุข”ไลลาริณขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจในคำพูดของเพื่อน ทำไมถึงอยากให้เธอกลับไปคืนดีกับคนเลวแบบนั้น“ไลลาคนเราก็มีผิดพลาดกันบ้าง กว่าจะรู้ใจตัวเองบางคนถึงกับต้องตายจากกันไปเลยนะ ตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่อย่าผลักไสกันเลย”ไลลาริณไม่ได้โกรธเพื่อนที่พูดกับเธอแบบนั้น แต่เธอกำลังคิดตามคำพูดของณภัทร หากเธอมัวแต่โกรธเขาอยู่แบบนั้นเมื่อไรเธอจะมีความสุข22.00
ไต้ฝุ่นเดินหน้าแสดงความจริงใจกับไลลาริณต่อ เขาทำกับหญิงสาวไว้เยอะโดนแค่นี้ถ้าอดทนไม่ได้ผู้หญิงที่ไหนเขาจะให้อภัย และเชื่อว่าสำนึกผิดตัวแล้วจริงๆ “มาทำอะไร!” “พี่ซื้อข้าวมาให้ไลลาเห็นว่าเที่ยงแล้วไม่ยอมลงไปกิน” เขานั่งเฝ้าหญิงสาวอยู่หน้าห้องพักอยู่นานสองนาน ก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะลงมา เขาเลยซื้อมาฝาก “ไม่ต้อง!” “รับไปสิเดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว” ไลลาริณมองข้าวกล่องในมือของไต้ฝุ่นจะโยนทิ้งก็เสียดายไม่น้อย เลยรับมาและสะบัดหน้าหนี เธอเดินขึ้นห้องมาและยังคงยืมมองว่าไต้ฝุ่นจะกลับตอนไหน ไม่นานรถหรูก็ขับออกไปพ้นรั้วหอพัก เขาทำแบบนี้อยู่สามวันตามมาเฝ้าเธอที่หอพัก วันไหนมีเรียนเขาก็ตามไปเฝ้าเธอที่หน้าตึก จนบางครั้งก็ถูกเพื่อนแซว ไลลาริณยังไม่ยอมคุยกับไต้ฝุ่น เธอเจ็บแล้วจำ “หนูใช่ไหมชื่อไลลาริณ” “ค่ะ คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ” “ฉันวรินยุพาเป็นแม่ของไต้ฝุ่นเราไปนั่งดื่มกาแฟกันไหม?” “ค่ะ” ไลลาริณมือชื้นเหงื่อเพราะตื่นเต้นที่ได้เจอหน้าแม่ของไต้ฝุ่น และกลัวเพราะท่านต้องมีเหตุผลที่มาพบเธอต้องมีอะไรที่เกี่ยวกับไต้ฝุ่น .
ไต้ฝุ่นไม่ละความพยายามที่จะตามง้อไลลาริณไม่ว่าหญิงสาวจะไล่เขาแบบไหนเขาก็ยังหน้าด้านตามง้อ ครั้งหนึ่งเขาเสียน้ำตาให้หญิงสาวต่อหน้ารุ่นพี่ของไลลาริณ “เลิกยุ่งกับไลลาซะ! กูมองออกว่ามึงไม่ได้รักไลลา” “ขอร้องผมสิครับ” เตชินหัวเราะอย่างขบขันถือว่าไต้ฝุ่นมีความพยายามมากทีเดียว แต่เขาอยากมั่นใจอีกนิดว่าไต้ฝุ่นจะสามารถดูแลไลลาริณได้ดี “คุกเข่าสิรุ่นพี่ผู้ทระนงตัวจะทำได้ไหม” ไต้ฝุ่นลังเลไม่ใช่ว่าไม่ได้รักไลลาริณ แต่เขาไม่ไว้ใจมันแต่ตอนนี้เขาต้องทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อหญิงสาวคนเดียว ไต้ฝุ่นยอมแพ้แล้ว ขอแค่ได้หญิงสาวคืนมาอะไรเขาก็ยอม “เลิกยุ่งกับไลลา” ไต้ฝุ่นคุกเข่าลงต่อหน้าเตชิน น้ำเสียงของเขาสั่นเครือแต่บางครั้งก็แฝงไปด้วยคำสั่ง “พี่คิดยังไงกับไลลตอบมาจากความรู้สึก” เตชินไม่คิดว่าเขาจะยอมทำถึงขนาดนี้ “ฉันรักไลลาตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกตรงนี้มันก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ปากเก่งคิดว่าจะทิ้งเขาได้แต่เอาเข้าจริงมันทรมานมาก เจ็บเกือบตายที่ไลลาไม่สนใจ” ไม่ว่าจะหลับตาก็จะมีใบหน้าของไลลาริณลอยมา ช่วงที่เกิดเรื่องแรกๆ เขากินไม่ได้นอนไม่หลับเอาแต่โทษตัวเ
“พี่ชินหนูว่าเราเลิกเล่นละครกันดีกว่า” “รออีกนิดนะ” เขาดูออกว่าไต้ฝุ่นนั้นรักไลลาริณจริง แต่แค่แสดงออกไม่เป็นเลือกจะใช้คำพูดไม่ดี เพราะทั้งชีวิตไม่เคยรักใคร “พี่เชื่อว่าพี่ไต้ฝุ่นเขารักไลลาให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเองสักนิด ไม่ได้เพื่อใครแต่เพื่อความสุขของไลลา” “มันทุกข์มากกว่ามั้งคะ” ที่ผ่านมาไต้ฝุ่นไม่เคยจิงใจกับเธอเลย มีเรื่องไหนบ้างที่เป็นความจริง เขาสร้างเรื่องโกหกขึ้นมาทั้งนั้น “นั่นไงมาแล้วมานั่งใกล้ๆ พี่ไม่ต้องกลัว” เตชินมองคนที่เดินมาทางที่พวกเขานั่งอยู่ ไต้ฝุ่นถือช่อดอกไม้เดินมุ่งหน้าตรงมาหาไลลาริณ “พี่ให้” “ให้ผมเหรอครับขอบคุณ” เตชินเห็นใบหน้าของไต้ฝุ่นแล้วอยากจะหัวเราะ อาการไม่พอใจแสดงออกมาอย่างชัดเจน “เสือก!” “แล้วให้ดอกไม้แฟนผมทำไม?” “แฟนมึงแต่เมียกู!” ไต้ฝุ่นไม่พอใจเขาโกรธที่เธอนั่งอยู่กับผู้ชายคนอื่น ตัวแทบจะนั่งตักกันได้อยู่แล้ว “พี่ไต้ฝุ่น! ต้องการอะไร” เธอที่เงียบมานานจึงพูดขึ้นมา กลัวว่าทั้งสองจะทะเลาะกันและลงไม้ลงมือเธอไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น “พี่ให้ไลลาครับ” “ฉ
“ไลลาไม่ได้เจอกันตั้งนานขอคุยด้วยได้ไหม” “พี่ชินสวัสดีค่ะ” ริสาเห็นว่ารุ่นพี่มีเรื่องอยากคุยกับเพื่อนสาวจึงหลีกทางให้ทั้งสองคน และคนที่น่าส่งสารที่สุดก็คงจะเป็นนภัทร “ณภัทรเย็นนี้เดี๋ยวเราพาไปทานข้าว” ไลลาริณหันมาส่งยิ้มให้เพื่อน เธอมีเรื่องอยากจะคุยกับณภัทร “พี่ชินมีเรื่องอะไรคะ” “พี่ได้ยินข่าวของไลลามา คือ...” “พี่ชินอยากจะสมน้ำหน้าหนูอีกคนเหรอคะ” ไลลาริณพูดติดตลก ตัวเองโง่เองที่ลงไปเล่นกับไฟโดนไฟแผดเผาก็ต้องโทษตัวเอง “เปล่าพี่ไม่ได้คิดแบบนั้นเรามาลองเล่นเกมกันดูไหม เผื่อว่าจะมีคนอกแตกตาย” “ยังไงคะ?” “เอาหูมาใกล้ๆ” เตชินเล่าแผนการของตัวเองให้รุ่นน้องได้รู้ ทีแรกไลลาริณเหมือนจะไม่เห็นด้วยแต่ก็อยากลองดูเหมือนกันว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป . ตอนเย็นหลังจากเรียนเสร็จไลลาริณพาเจอณภัทรที่เธอนัดไว้ เธอมีเรื่องอยากจะคุยกับณภัทรแต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร “เราชอบไลลานะชอบมาตั้งแต่รับน้อง ขอโอกาสให้เราได้ดูแลไลลาได้ไหม” สิ่งที่เก็บไว้มานานวันนี้ก็ได้พูดออกมาเธอนิ่งพร้อมกับคิดถึงเหตุการณ์ว่าเธอผ่
ตอนเช้าไลลาริณตื่นขึ้นมาเธอจะลงจากที่เตียงแต่เห็นไต้ฝุ่นกำลังหลับอยู่ ตอนที่เขานั้นเหมือนคนไม่มีพิษมีภัยแต่พอเขาตื่นกลายร่างเป็นหมาบ้า เธอเลือกที่จะไม่ปลุกเขาแต่ลงมาเตรียมข้าวเช้าไว้รอไต้ฝุ่น มีแต่อาหารกระป๋องถึงจะไม่ค่อยถูกปากแต่ก็กินเพื่อประทังชีวิต “ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุก” “พี่มาก็ดีแล้วค่ะ” ไต้ฝุ่นตื่นมาไม่เห็นหญิงสาวอยู่ข้างกายจึงรีบตามลงมากลัวว่าไลลาริณจะหนีเขา “เรากินข้าวกันก่อนดีกว่าพี่หิวแล้ว” ไต้ฝุ่นไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอพูดเมื่อทานข้าวกันเสร็จ เขาจึงพาไปไลลาริณเดินเล่นตามชายหาด นานแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่ “แม่พี่เป็นคนที่นี่คุณตามีฟาร์มหอยมุก พอท่านเสียคุณแม่ก็ให้น้องชายขึ้นมาทำแทน” เขาเล่าเรื่องของครอบครัวเขาให้ไลลาริณฟัง “แล้วคุณพ่อของพี่...” “เราไม่ค่อยถูกกันเพราะพี่เป็นลูกชายคนเดียว คุณพ่อจะบังคับพี่ตลอดแต่พี่ไม่เคยทำตาม พี่อยากเลือกเส้นทางของตัวเอง” พอโตขึ้นพ่อของเขาก็ไม่มาวุ่นวายกับเขาอีกเลย แต่ท่านก็ยังมีบ่นบ้างเพราะความเป็นห่วง “ไลลาเล่าเรื่องครอบครัวให้พี่ฟังบ้างสิ” “หนู
“อื้อ อ๊ะ” ไลลาริณดิ้นไปมาเมื่อเธอฝันว่ากำลังถูกครอบครองเต้าคู่งาม ฝันที่เหมือนจริงมากแต่เธอกลับรู้สึกดีจนไม่ต่อต้านเขา และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกเจ็บแสบที่ใจกลางสาวนี่ไม่ใช่ความฝันแล้ว “กรี๊ดดด ไอ้ไต้ฝุ่นทำอะไรห๊ะ!” “ตื่นมาก็โวยวายเลยผัวก็กำลังจะเอาเมียไง ซี๊ดด” เขาครางเสียงกระเส่าเมื่อท่อนเอ็นได้เข้าไปข้างในรูร่องที่อุ่นร้อน มันเสียวจนเขาแทบจะระเบิดออกมา เขากดกายแช่ไว้แบบนั้น “อ๊ะ..เอาออกไป” “เอาเสร็จเราค่อยเคลียร์กัน” เขาไม่ฟังเสียงห้ามอะไรของเธอทั้งนั้น รู้ว่าเธอรู้สึกดีไม่น้อยที่เขาทำแบบนั้นไม่อย่างนั้นคงไม่ครางจนเสียงดังขนาดนั้น “อื้ออ...เสียว” “เสียวก็ร้องดังๆ เลยพี่ชอบ” เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นไปทั่วห้องเมื่อไต้ฝุ่นกำลังมอบบทรักที่ร้อนแรงให้ไลลาริณ มือหนาจับร่างบางให้พลิกตัวนอนคว่ำและชันเข่าขึ้นมา เขาดันท่อนเอ็นเข้าไปจากทางด้านหลังของเธอ และกระแทกเข้าออกอย่างไม่ออมแรง เต้าคู่งามกระพือไปตามแรงกระแทกของเขา ไลลาริณกำผ้าห่มไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวซ่าน เธอกัดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อไม่อย
Comments