เบื้องหน้าคือทางเดินทอดยาวกว้างประมาณหนึ่งเมตร ซึ่งจากที่แพรพิไลกะด้วยสายตาคร่าว ๆ นั้น ความยาวของทางเดินนี้น่าจะเท่ากับความยาวของคอนโดฯ แห่งนี้พอดี ผนังทั้งสองด้านเป็นผนังคอนกรีตแต่ด้านหนึ่งทาสีดำไว้จนสุดทางเดินและสูงจดเพดาน มีบานประตูอยู่ทั้งหมดห้าบาน และน่าจะล็อกเอาไว้ทั้งหมด
แสงไฟตามทางเดินมีเพียงหลอดฟลูออเรสเซนต์สามดวงเท่านั้น แต่ก็เพียงพอให้แพรพิไลสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่มีเส้นสีขาวทาไว้ในลักษณะเฉียงทำมุมสี่สิบห้าองศากับผนัง มองแค่นี้ก็รู้แล้วว่าสถานที่แห่งนี้เคยเป็นลานจอดรถมาก่อน
แพรพิไลลองเอาหูแนบกับผนังสีดำ แต่ก็ไม่ได้ยินอะไรมากนักนอกจากความอื้ออึงที่เดาไม่ถูกว่าเป็นเสียงอะไร จากนั้นก็ลองหมุนลูกบิดประตูแต่ละบาน และก็เป็นดังคาดที่ประตูถูกล็อกไว้ไม่สามารถเปิดเข้าไปได้
ระหว่างที่กำลังคิดว่าทำอย่างไรจึงจะเข้าไปข้างในได้นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงห้าวของใครคนหนึ่งโพล่งขึ้นมาจนหญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจ
“คุณลงมาที่นี่ได้ยังไงน่ะ!”
แพรพิไลหันไปมองเจ้าของเสียงทันที ใจก็ร่วงลงไปอยู่ตาตุ่มจนมือสั่นเล็กน
ห้องนั้นกว้างประมาณห้าสิบตารางเมตร มีตู้ล็อกเกอร์ตั้งเรียงรายเป็นร้อยตู้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามีคนมาที่นี่เยอะเพียงใด ทั้งสามคนมองดูตู้ที่ยังไม่มีคนเข้าใช้ท่ามกลางแสงไฟที่สลัวยิ่งกว่าทางเดินด้านนอก เมื่อเจอแล้วก็ตรงเข้าไปเปลี่ยนชุดที่แขวนไว้รอท่าอยู่ภายในตู้“คืนนี้แน่นะกริช” รชตกระซิบถามลูกน้องคู่ใจระหว่างที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมสีดำและใส่รหัสที่ตู้ล็อกเกอร์“คืนนี้แน่นอนครับเพราะวันนี้เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำ”กริชเปลี่ยนมาสวมชุดคลุมสีดำเช่นกัน กำลังจะพูดอะไรกับเจ้านายอีกสักประโยคก็มีคนเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน จึงรีบเอาหน้ากากมาสวมเช่นเดียวกับรชตเพื่อปิดบังใบหน้าของตนรชตเปลี่ยนชุดเสร็จก็ปิดตู้ล็อกเกอร์เอาไว้ น่าเสียดายที่ไม่สามารถพกพาอะไรติดตัวไปด้วยได้แม้แต่อย่างเดียว มิเช่นนั้นเขาคงแอบถ่ายรูปด้านในมาได้บ้างจากนั้นทั้งหมดก็เดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงไปยังประตูสีดำบานใหญ่ ซึ่งด้านหน้าประตูมีคนสวมชุดคลุมและหน้ากากสีดำยืนเฝ้าอยู่คนละฝั่ง เมื่อเห็นคนเดินเข้ามาใหม่จึงเข้ามาตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื
“หาคนใหม่ไปเลยไม่ดีกว่าหรือพี่แพร พวกนั้นเขาทิ้งเราไปนะ”จิรายุทำหน้าเบ้เมื่อนึกถึงบุคคลเหล่านั้น“ก็จริงอยู่ แต่อย่าลืมว่าพวกนั้นก็ทำงานดีนะ อีกอย่างเขาก็เคยทำงานกับเรามาก่อนจึงไว้ใจและเชื่อฝีมือกันได้ และเราก็ต้องยอมรับด้วยว่างานบางงานเราไม่สามารถแยกร่างไปทำเพราะเรามีคนน้อย บางทีเราก็เข้าไม่ถึงเนื้องานนั้น ๆ เพราะเส้นสายเราไม่แข็งแรงพอ มันไม่ใช่การเสียศักดิ์ศรีหรอกนะโจ ให้เรียกว่าช่วยเหลือเกื้อกูลกันดีกว่า”“ก็แล้วแต่พี่เลยละกัน พี่จะให้มาทำงานสืบทุจริตที่เพิ่งรับมาเมื่อวานใช่ไหมล่ะ”“ใช่ งานนั้นนั่นแหละ พี่คิดว่าถ้าให้พี่เอกทำน่าจะเหมาะที่สุด”งานสืบการทุจริตในองค์กรที่เพิ่งรับเข้ามานั้นเป็นการสืบหาตัวผู้ยักยอกทรัพย์ของบริษัทไป เธอจำได้ว่างานลักษณะนี้เอกวุฒิ นักสืบที่ลาออกไปแล้วถนัดที่สุด จะให้จิรายุไปทำคงไม่เหมาะเพราะชั่วโมงบินยังน้อย การคิดวิเคราะห์และลูกล่อลูกชนยังอ่อนด้อยประสบการณ์อยู่มาก“เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกหน่อย บ่ายแก่ ๆ จะเข้ามาอีกทีนะ”จู่ ๆ แพรพิไลก็คิดถึงใคร
รชตมาถึงโรงแรมก่อนเวลานัดเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้แพรพิไลเป็นฝ่ายรอ เขาโทร. จองโต๊ะมุมดี ๆ ไว้ที่ห้องอาหารชั้นดาดฟ้าไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้เขาต้องการทำโทษเด็กดื้อที่ทำอะไรไม่ยอมคิดถึงอันตรายและผลที่จะตามมา ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาต้องหาทางหยุดเธอเอาไว้ให้ได้สายตาของเขามองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในล็อบบีในชุดเดรสสีชมพูโอลด์โรสพอดีตัวยาวเหนือเข่าเล็กน้อย สายคล้องไหล่ถักเป็นเปียสีเดียวกับชุด มีผ้าคลุมไหล่สีน้ำตาลปิดบ่าที่เปิดเปลือยไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ดูไม่เป็นทางการมากจนเกินไป ลงตัวจนแทบไม่อยากถอนสายตาแพรพิไลเดินเข้ามาในล็อบบีของโรงแรมพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร. หารชต แต่พอเห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มกำลังเดินมาหาจึงเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วยิ้มให้เขาอย่างเก้อเขิน“มาถึงนานรึยังคะ”วันนี้รู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าดูเนี้ยบและดูดีกว่าทุกวัน ทั้งที่เขาสวมแค่เสื้อเชิ้ตสีเทาดำพับแขนขึ้นมาถึงข้อศอกกับกางเกงสแลกสีดำพอดีตัว“ไม่นานครับ มาถึงก่อนคุณแพรไม่ถึงสิบห้านาทีเลยด้วยซ้ำ...มาเถอะ” เขางอแขนข้างหนึ่งยื
และขณะที่เธอกำลังทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น รชตก็ถอนริมฝีปากออกไปพร้อมกับรอยยิ้มยั่วเย้า“ผมลืมบอกไปว่าเริ่มกฎตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อืม...ไม่สิ ต้องหลังจากที่ผมบอกกฎเสร็จแล้วต่างหาก”“คุณจูบฉัน...”ริมฝีปากของรชตยื่นเข้ามาหาอีกครา คราวนี้นานกว่าครั้งแรกเล็กน้อย และเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยอมให้เขาจูบเอา ๆ อย่างนี้ มือก็มี แต่ไม่รู้จักปัดป้องเสียบ้างเลยแพรพิไลไม่กล้ายอมรับกับตัวเองเลยว่ารชตจูบเก่งจริง ๆ แค่แป๊บเดียวเท่านั้นแต่กลับทำให้เคลิบเคลิ้มได้ขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าหากปล่อยเวลาเนิ่นนานไป เธอไม่โอนอ่อนผ่อนตามเขาไปทุกเรื่องเลยหรอกหรือ‘ผู้ชายคนนั้นก็คงเอาเก่ง เอ๊ย เอาใจเก่ง เห็นว่าอยากได้อะไรแม่คุณประเคนให้ทุกอย่าง’คำพูดของลินดาวาบเข้ามาในหัวทันที...นั่นสินะ ผู้ชายอย่างเขา เรื่องพวกนี้มักเชี่ยวชาญกว่าปกติก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขามีหน้าที่ต้องทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นพอใจ...รวมทั้งเธอด้วย“อย่ามองผมอย่างนั้น รู้รึเปล่าว่าสายตาของคุณตอนนี้เป็นแบบไหน”
วันถัดมา แพรพิไลมีนัดรายงานผลกับสุกำพลอีกครั้ง คราวนี้เธอมีภาพถ่ายของคอนโดฯ แห่งนั้นในตอนกลางวัน และภาพของชั้นใต้ดินที่เคยเป็นลานจอดรถอีกด้วย จากการคาดเดาคิดว่าข้างล่างน่าจะเป็นบ่อนหรือกาสิโน หากเป็นสถานบริการทางเพศดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไร เพราะผู้หญิงกระเป๋าหนักอย่างครองขวัญสามารถใช้เงินแลกความสุขกับผู้ชายหน้าตาดีคนไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมาใช้บริการสถานที่แบบนี้น่าเสียดายที่ลินดาก็ไม่รู้เรื่องชั้นใต้ดินของที่นั่นเช่นกัน เพราะบรรดาสาวไฮโซลูกค้าของลินดาส่วนใหญ่มักเรียกขานสถานที่แห่งนั้นเป็นคำเฉพาะว่าแดนสวรรค์ แต่กลับไม่ยอมบอกว่าคืออะไร ดูเหมือนคนที่เคยไปที่นั่นจะช่วยกันปกปิดซ่อนเร้นแดนสวรรค์แห่งนั้นกันเต็มที่นั่งรอไม่นานนัก สุกำพลก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แพรพิไลลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาโดยที่เขาก็ไหว้ตอบกลับมา“คุณแพรสั่งอะไรรึยังครับ”“แพรสั่งแค่น้ำผลไม้ไปเองค่ะ คุณสุกำพลกินมื้อกลางวันมารึยังคะ”“ยังเลยครับ ผมกะจะมากินกับคุณแพรน่ะ”สุกำพลยิ้มพลางยกมือเรียกพนักงานให้นำเมนูมาให้ หลังจา
ปิดจริง ๆ ด้วย...หลังจากที่เดินคลำทางไปจนสุดทางเดินและเดินกลับมาที่เชิงบันไดเป็นที่เรียบร้อย แพรพิไลก็รู้แล้วว่าวันนี้มาเสียเที่ยว อดสงสัยไม่ได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีวันเปิดปิดเป็นเวลาอย่างนั้นด้วยหรือ ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าวันไหนเปิด และเขามีวิธีบอกกล่าวกับเหล่าสมาชิกที่มากันด้วยวิธีไหนดูเหมือนคนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้คงมีเพียงชาคริตคนเดียวเท่านั้นหญิงสาวค่อย ๆ ย่องขึ้นบันไดไปข้างบนอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็ค่อย ๆ แง้มประตูดูสถานการณ์รอบด้านจนแน่ใจดีแล้วว่าไม่มีคนเดินผ่านมาแถวนี้จึงรีบออกมาแล้วปิดประตูไว้ตามเดิม จากนั้นก็วิ่งไปที่รถซึ่งจอดแอบไว้ เอาหน้าแนบกระจกรถเพื่อดูว่ามีคนแปลกหน้าแอบขึ้นรถมาหรือเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครจึงขึ้นไปนั่งบนรถแล้วขับออกไปทันทีโดยไม่ได้เปิดไฟหน้ารถให้เป็นที่สังเกตจากคนอื่นแพรพิไลแวะจอดรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว เธอจึงรีบพิมพ์ข้อความแจ้งข่าวบอกลูกน้องทั้งสองคนว่าตนเองปลอดภัย เสร็จเรียบร้อยก็ขับรถกลับบ้านทั้งที่ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องแวะเข้
หญิงสาวเลือกนั่งโต๊ะเดิมเพราะเป็นมุมที่มองเห็นรอบด้านได้ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นส่วนตัวที่สุดอีกด้วย หลังจากสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มมองหาชาคริตแต่ก็ไม่พบ ดังนั้นระหว่างรอให้ชายหนุ่มออกมา เธอจึงได้แต่มองคู่เต้นรำที่กำลังจับคู่เต้นกันในจังหวะรุมบ้าซึ่งเธอจำได้ว่าตอนฝึกเต้นคราวก่อนนั้นเผลอเหยียบเท้ารชตไปตั้งหลายทีจู่ ๆ แพรพิไลก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง หญิงสาวมองไปที่ฟลอร์เต้นรำถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ขาดครองขวัญไปนั่นเองตามปกติแล้วหัวค่ำแบบนี้ครองขวัญจะต้องมาเฉิดฉายอยู่ที่นี่เกือบทุกวันจนสนิทกับพนักงานแทบทุกคน ไม่มีใครไม่รู้จักสาวสวยไฮโซคนนี้ ทว่าวันนี้เจ้าตัวกลับไม่มาให้เห็นระหว่างนั้นพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้พอดี แพรพิไลจึงลองเลียบเคียงถามถึงครองขวัญดู ทว่าคำตอบที่ได้รับทำเอาเธอทั้งแปลกใจและสงสัยไม่น้อย“คุณครองขวัญไม่ได้มาที่นี่หลายวันแล้วค่ะ น่าจะสักสามสี่วันได้มั้ง”“งั้นหรือ แปลกจริง...ขอบคุณมากค่ะ” แพรพิไลยิ้มให้แล้วทำทีเป็นไม่สนใจเรื่องนั้นอีกครองขวัญไม่ได้มาที่คลับเฮราหลายวั
วันถัดมา แพรพิไลอยู่ที่สำนักงานตลอดทั้งวันเพื่อจัดการเรื่องรายรับรายจ่ายทั้งหมด ถึงแม้จะมีคนดูแลตรงนี้ให้อยู่แล้ว แต่หญิงสาวก็ต้องตรวจสอบด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งอยู่ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาดเห็นรายรับที่กระเตื้องขึ้นมาจากเดือนที่แล้วอยู่พอสมควรหญิงสาวก็ยิ้มออก ไม่อยากเชื่อเลยว่าสองเดือนก่อนหน้านี้เธอยังปวดหัวกับเงินเก็บที่เริ่มร่อยหรอลงไปเพราะต้องดึงมาจ่ายเงินเดือนให้ลูกน้อยอยู่เลย แต่เดือนนี้เธอรอดแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอย่างนี้ไปทุกเดือนเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือทำให้แพรพิไลต้องเงยหน้าขึ้นดูชื่อของคนที่โทร. เข้ามา ครั้นพอเห็นว่าเป็นรชต เรียวปากอิ่มก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้“ค่ะคุณอาร์ต”“กินข้าวเที่ยงรึยังครับ”หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น“เที่ยงแล้วหรือคะเนี่ยเร็วจัง ยังไม่ได้กินเลยค่ะ คงรออีกสักพักให้คนซา ๆ ก่อนค่อยออกไปหาซื้ออะไรมากิน”“โอเคครับ ดีแล้ว ผมโทร. มาบอกว่าคืนนี้คงเข้าไปที่คลับไม่ได้เพราะติดงานด่วนน่ะ ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดด้วย
“ไอ้เรื่องขี้ตู่พี่คงสู้แพรไม่ได้ ตำแหน่งนี้พี่ยกให้แพรคนเดียวเลย”เขาพูดกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงวีรกรรมตอนเด็กของแพรพิไลที่มักคิดเองเออเองไปเสียทุกเรื่องแพรพิไลหันไปแยกเขี้ยวใส่เขาก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ กระทั่งได้กลิ่นกาแฟลอยกรุ่นอยู่ในห้องจึงเงยหน้าขึ้นมองเจติยาที่อุตส่าห์ชงกาแฟมาเผื่อเธอด้วย“จริงสิพี่แพร น้องก้อยเขาขอทำงานประจำที่นี่เลยได้ไหม เพราะตอนนี้น้องเรียนใกล้จบแล้ว” เจติยาพูดถึงพนักงานบัญชีที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่แพรพิไลได้ฟังอย่างนั้นก็รีบพยักหน้าให้ทันที“ได้สิ ดีเลยพี่จะได้ไม่ต้องรับสมัครคนใหม่ ขี้เกียจอธิบายงานใหม่ด้วยเพราะมันเสียเวลา ถ้าก้อยอยากทำประจำพี่ก็ยินดีนะ ส่วนเรื่องเงินเดือน เอาไว้สอบเสร็จแล้วค่อยมาคุยกันอีกที”เจติยาพยักหน้ารับคำแล้วเดินออกจากห้องไป พอดีกับที่โทรศัพท์ของรชตส่งเสียงร้องขึ้น“ครับพี่พล” เขาฟังปลายสายพูดครู่หนึ่งก่อนตอบออกไป“ได้ครับพี่ ผมเอาไปให้พี่ตอนนี้เลยก็ได้ครับไม่มีปัญหา เพราะคืนนี้ผมก็ต้องเข้าไปที่คลับ คงไม่ว่าง
“ช่วงกลางวันพี่แทบไม่ต้องเข้าออฟฟิศของครอบครัว เพราะพี่ชายของพี่เป็นคนดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่คลับเฮราคือความรับผิดชอบของพี่เต็ม ๆ พี่ถึงต้องเข้าไปเกือบทุกคืนยกเว้นคืนที่ติดธุระจริง ๆ แล้วคืนนี้แพรก็ต้องไปที่คลับกับพี่ด้วย จะว่าไป เราไม่ได้เต้นรำด้วยกันนานแล้วนะ ลืมหมดรึยังว่าเต้นยังไง”“คงต้องรบกวนให้ครูช่วยเตือนความจำแล้วละค่ะ” หญิงสาวยิ้มมุมปากพลางเปิดลิ้นชักหาแฟลชไดรฟ์มาใส่ข้อมูลให้เขา เพราะเม็มโมรีการ์ดต้นฉบับต้องนำไปเก็บซ่อนไว้ที่เดิมเพื่อความปลอดภัย“ได้สิ เดี๋ยวพี่จะเปิดคอร์สติวเข้มแบบตัวต่อตัวเลยละ ยังไงเราก็ต้องตัวติดกันอย่างนี้ไปอีกนาน”หญิงสาวหันไปย่นจมูกใส่เมื่อรู้ว่าต้องตัวติดกับเขาไปไหนไปกันทุกที่ราวกับปาท่องโก๋ แต่แม้จะถูกตามติดทุกฝีก้าวราวกับเงาตามตัว เธอก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยยามได้อยู่ใกล้ และเชื่อมั่นว่าตราบใดที่มีรชตอยู่ข้างกาย เธอจะไม่มีวันได้รับอันตรายใด ๆ แม้แต่ปลายเส้นผม“ถ้าอย่างนั้นแพรขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ พี่อาร์ตดึงแฟลชไดรฟ์อันนี้เก็บไปได้เลยนะถ
แพรพิไลฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอเอียงคอเล็กน้อยพร้อมถามคำถามที่ทำให้คนฟังอดยิ้มไม่ได้“สารวัตรรู้ล่วงหน้าใช่ไหมคะว่าเมื่อคืนต้องคว้าน้ำเหลว ถึงได้เตรียมการเอาไว้รอบคอบขนาดนี้”“ความจริงแล้วพี่พลแค่สงสัยน่ะ เพราะการบุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงแต่ละแห่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะสามารถปิดข่าวให้เงียบได้ มันน่าจะมีเล็ดลอดออกไปบ้างก็เลยเตรียมวางแผนกันไว้กับทีมปปส.”หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะใช้เมาส์คลิกไปที่ไฟล์วิดีโอเพื่อเล่นคลิปที่อยู่ในเม็มโมรีการ์ดอันที่สอง เพราะอยากรู้ว่าในช่วงสิบกว่านาทีหลังจากนั้นมีอะไรซ่อนไว้หรือไม่ ดังนั้นเธอจึงข้ามไปที่นาทีที่สี่สิบ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและก็เป็นอย่างที่เธอสงสัย เพราะหลังจากคลิปเป็นสีดำเพียงแค่นาทีกว่า ๆ ภาพก็ตัดมาที่บิดาของเธอซึ่งตั้งกล้องให้หันมาหาตัวเองแพรพิไลสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่แสนรักแสนคิดถึง กระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีจนต้องเม้มปากไว้แน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นรชตรั้งตัวหญิงสาวให้ทรุดตัวนั่งลงบนตัก สองแขนโอบกอดร่างเล็กที่สั่นเล็ก
“จมไม่ลงว่างั้นเถอะ”“มันไม่ใช่แค่จมไม่ลงหรอก แต่พี่คิดว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นนะ” ชายหนุ่มชี้ให้เธอดูชาร์ตรายชื่อบริษัทต่าง ๆ บนหน้าจอแล้วพูดต่อ“สุกำพลค้ายา แน่นอนว่าเม็ดเงินที่ได้มันมหาศาล แพรคิดดูก็แล้วกันว่าแค่ไอ้น้ำสีชมพูนั่นแก้วเดียวแพรต้องจ่ายไปตั้งเท่าไร แล้วแต่ละคืนมีคนเข้าไปที่สมาคมหน้ากากกี่คน และแต่ละคนดื่มน้ำนั่นเข้าไปคนละกี่แก้ว ถึงแม้จะเปิดแค่เดือนละหกวัน แต่ในหนึ่งวันนั่นพี่คิดว่าเขาฟาดไปเป็นล้านนะ แล้วเขาไม่ได้ขายแค่วันที่มีปาร์ตีเท่านั้น แต่เขาซื้อขายกันนอกรอบด้วยเพราะมันคือยาเสพติด คนที่ติดไปแล้วเลิกไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนหาเสพเพราะคงรอให้ถึงวันที่จัดปาร์ตีไม่ไหวหรอก จริงไหม” รชตเลื่อนเมาส์ลงมาเพื่อให้เห็นรายชื่อทั้งหมดของผู้ที่อยู่หลังม่านก่อนพูดขึ้นอีก“การที่จู่ ๆ ก็มีรายได้มหาศาล มีเงินในบัญชีมากมายมันย่อมต้องน่าสงสัยอยู่แล้วว่าเงินเหล่านี้มาจากไหน อย่างน้อยหากสรรพากรถามขึ้นมาแล้วเขาบอกไม่ได้ว่าเป็นรายได้จากธุรกิจอะไรเขาก็แย่น่ะสิ เพราะฉะนั้นสุกำพลก็เลยต้องทำธุรกิจหลายอย่างมารองรับเงินตรงนี้ จ้างคนมาแต่
“หึ ๆ ผมล้อเล่นครับ แต่ผมพูดจริง ๆ นะเรื่องที่ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณ ผมคิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดีเชียวละถ้าหากคุณแพรยอมรับพิจารณาผมบ้าง...เอาเป็นว่าถ้าวันไหนคุณแพรว่างก็สละเวลามาดินเนอร์กับเพื่อนอย่างผมสักมื้อนะครับ”“ยินดีค่ะคุณเบนซ์ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่วันนี้ไปไม่ได้จริงๆ” แพรพิไลลอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขาจะวางสาย เพราะตอนนี้หัวใจเธอโลดแล่นไปอยู่กับเม็มโมรีการ์ดที่ซุกซ่อนเอาไว้นานแล้วนั่นต่างหาก“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้เสมอ ไม่รบกวนแล้วดีกว่า ไว้วันหน้าจะโทร. มาชวนใหม่นะครับ”หญิงสาวบอกลาเขาก่อนกดวางสาย จากนั้นก็ก้มลงไปใต้โต๊ะทำงานแล้วใช้มือคลำไปบนพื้นไม้ปาร์เกต์ช้า ๆ จนกระทั่งรู้สึกสะดุดมือเพราะรอยต่อของไม้ไม่เสมอกัน เธอจึงยิ้มออกมาพลางใช้นิ้วกดลงไปที่มุมของไม้แผ่นนั้นเบา ๆไม้ปาร์เกต์แผ่นนั้นเผยอขึ้นมาจนสามารถดึงออกมาได้ เธอล้วงมือเข้าไปหยิบกล่องเหล็กขนาดเท่ากล่องดินสอออกมาจากในนั้นแล้วเปิดฝาออกเพื่อดูของที่อยู่ข้างในเม็มโมรีการ์ดมากมายใส่อยู่ในถุงซิปล็อกถุงละหนึ่งอัน มีปากกาเคมีสีน้ำเงินเขียนกำก
“ใครหรือคะ พี่อาร์ตดูจากตรงไหน” แพรพิไลถามรชตที่กำลังใช้เมาส์คลิกเพื่อเล่นคลิปย้อนกลับไปอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบอะไร โทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็แผดเสียงดังขึ้นจนเธอถึงกับสะดุ้งแพรพิไลเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาดูชื่อคนโทร. เข้า เนื่องจากว่าโทรศัพท์เครื่องนี้จะใช้เฉพาะลูกค้าที่มาติดต่อกับสำนักงานนักสืบเท่านั้น พอเห็นชื่อของคนที่โทร. มา ตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้นพร้อมกับรีบกดรับสายทันที“สวัสดีค่ะคุณวิษณุ” ปกติแล้วลูกค้ารายนี้มักจะโทร. เข้าไปที่สำนักงานมากกว่า แต่คราวนี้กลับโทร. เข้าเครื่องของเธอโดยตรง แสดงว่าน่าจะมีเรื่องด่วนอะไรสักอย่างเป็นแน่“คุณแพรครับ เมื่อคืนน้องสาวของผมพยายามกรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตาย” คำบอกเล่าจากปลายสายทำให้แพรพิไลถึงกับอ้าปากค้าง“แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ คุณวิษณุช่วยเล่ารายละเอียดให้แพรฟังหน่อยได้ไหม” น้องสาวของวิษณุยังไม่เสียชีวิตแน่นอน คนที่บ้านน่าจะช่วยชีวิตไว้ได้ทันเวลา วิษณุถึงได้โทร. หาเธอเวลานี้“ตอนนี้ปลอดภัยแล
‘เข็มขัดลูกเสือมั้ง’เมื่อได้ยินเขายอกย้อนมาอย่างกวนประสาท แพรพิไลก็ทำหน้ายู่ใส่‘พี่อาร์ต! ยังจะอุตส่าห์กวนอีกนะ แพรหมายถึงว่าเอามาให้แพรดูทำไม’ เธอไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ เพราะไม่แน่ใจว่าเขาซื้อมาให้เธอ หรือซื้อให้คนอื่นแล้วแค่เอามาให้เธอดูเพื่อขอความเห็นเฉยๆ‘พี่ไม่ได้เอามาให้แพรดู แต่ซื้อมาให้แพรใส่ต่างหากละ พี่จะใส่ให้แพรนั่งนิ่ง ๆ นะเดี๋ยวตกต้นไม้’ เขาไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ รีบยื่นมือไปที่ท้ายทอยของสาวน้อยตรงหน้าเพื่อสวมสร้อยให้ทันที ติดตะขอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ผละออกมาดูของขวัญที่ตนอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบจากเงินรายเดือนไปซื้อมาให้‘นึกยังไงถึงซื้อมาให้แพรล่ะ พี่ไม่ได้ล้อเล้นใช่ไหม’ แม้สร้อยเงินเส้นนี้จะถูกสวมอยู่ที่คอ แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่กล้าทึกทักเอาเองว่าเขาซื้อมาให้อยู่ดีก็ใครจะเชื่อเล่าว่าหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนจะซื้อของขวัญมาให้เด็กมัธยมต้นอย่างเธอ‘เดือนหน้าพวกเราก็ต้องสอบปลายภาคและปิดเทอมใหญ่กันแล้วนะ พี่ก็ต้องไปในเรียนมหา’ลัย แพรก็ขึ้นม.ปลาย แล้ว เราอาจไม่ค่อยได้เจอก
“พี่ขอดูคลิปนั่นหน่อย แพรบอกว่าคนบงการเบื้องหลังก็อยู่ในคลิปนั่นด้วยใช่ไหม”เขาคิดว่าบิดาของแพรพิไลคงตามเรื่องสมาคมหน้ากากเช่นกัน และน่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหลายอย่างด้วย และที่สำคัญคงรู้แล้วว่าใครคือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังแพรพิไลเปิดคลิปวิดีโอที่ว่า “พี่อาร์ตลองช่วยแพรดูหน่อยค่ะ เพราะเท่าที่แพรดู แพรไม่เห็นว่าคุณพ่อจะถ่ายใครมาเป็นพิเศษเลย” หญิงสาวลุกขึ้นไปหยิบเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้าง ๆในห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรย่านใจกลางเมือง ชายสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังลุกลี้ลุกลนยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ บนพื้นห้องมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัววางระเกะระกะ แต่ผู้เป็นเจ้าของกลับไม่ได้สนใจเท่าไรนัก ที่เขาสนใจมีเพียงเอกสารสำคัญและของมีค่าที่สู้อุตส่าห์แลกมาด้วยแรงกายและความเสี่ยง เพราะอย่างน้อยสร้อยแหวนนาฬิการาคาแพงเหล่านี้ก็สามารถนำไปจำนำหรือขายต่อได้ในวันที่เขาสิ้นไร้ไม้ตอกชาคริตดูนาฬิกาข้อมือแล้วเม้มปากแน่น อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด ซึ่งจะมีคนพาเขาหนีไปกบดานที่ประเทศเพื่อนบ้านสักระยะหนึ่ง เพื่อรอจนกว่าเ
รชตจอดรถไว้ริมกำแพงบ้านของแพรพิไล ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรถยนต์ของหญิงสาวยังคงจอดไว้หน้าบ้านเหมือนเมื่อตอนที่เขาออกไปตอนกลางดึก ก็แสดงว่าเธอยังไม่ได้ออกไปไหน แพรพิไลบอกเขาว่าวันนี้จะทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ป่านนี้เจ้าตัวคงกำลังหัวฟูอยู่กับการปัดกวาดเช็ดถูบ้านเป็นแน่ เพราะเขาโทร. หาหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่รับสายชายหนุ่มสาวเท้าไปยืนที่หน้าประตูรั้ว คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่าภายในบ้านเงียบผิดปกติ ตามหลักแล้วเขาควรจะได้ยินเสียงโทรทัศน์หรือเสียงเพลงดังออกมาจากบ้านบ้างแต่นี่กลับไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลย“ตกลงอยู่หรือไม่อยู่เนี่ย” พูดพลางเพ่งมองเข้าไปในบ้านอีกครั้งก่อนก้มลงมองกุญแจที่คล้องไว้จากด้านใน จะกดออดก็ไม่ได้เพราะออดเสียยังไม่ได้ซ่อม สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาหญิงสาวเจ้าของบ้านอีกครั้ง ทว่าก็ยังไม่มีคนรับสายเหมือนเดิมเอาไงดี...รชตเริ่มร้อนใจ ยิ่งนึกถึงเรื่องที่คุยกับสารวัตรจุมพลก็ยิ่งเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นกับเธอหรือเปล่า คิดได้ดังนั้นเขาก็มองซ้ายมองขวา จากนั้นก็เริ่มลงมือปีนรั้ว!&nbs