วันถัดมา แพรพิไลมีนัดรายงานผลกับสุกำพลอีกครั้ง คราวนี้เธอมีภาพถ่ายของคอนโดฯ แห่งนั้นในตอนกลางวัน และภาพของชั้นใต้ดินที่เคยเป็นลานจอดรถอีกด้วย จากการคาดเดาคิดว่าข้างล่างน่าจะเป็นบ่อนหรือกาสิโน หากเป็นสถานบริการทางเพศดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไร เพราะผู้หญิงกระเป๋าหนักอย่างครองขวัญสามารถใช้เงินแลกความสุขกับผู้ชายหน้าตาดีคนไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมาใช้บริการสถานที่แบบนี้
น่าเสียดายที่ลินดาก็ไม่รู้เรื่องชั้นใต้ดินของที่นั่นเช่นกัน เพราะบรรดาสาวไฮโซลูกค้าของลินดาส่วนใหญ่มักเรียกขานสถานที่แห่งนั้นเป็นคำเฉพาะว่าแดนสวรรค์ แต่กลับไม่ยอมบอกว่าคืออะไร ดูเหมือนคนที่เคยไปที่นั่นจะช่วยกันปกปิดซ่อนเร้นแดนสวรรค์แห่งนั้นกันเต็มที่
นั่งรอไม่นานนัก สุกำพลก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แพรพิไลลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้เขาโดยที่เขาก็ไหว้ตอบกลับมา
“คุณแพรสั่งอะไรรึยังครับ”
“แพรสั่งแค่น้ำผลไม้ไปเองค่ะ คุณสุกำพลกินมื้อกลางวันมารึยังคะ”
“ยังเลยครับ ผมกะจะมากินกับคุณแพรน่ะ”
สุกำพลยิ้มพลางยกมือเรียกพนักงานให้นำเมนูมาให้ หลังจา
ปิดจริง ๆ ด้วย...หลังจากที่เดินคลำทางไปจนสุดทางเดินและเดินกลับมาที่เชิงบันไดเป็นที่เรียบร้อย แพรพิไลก็รู้แล้วว่าวันนี้มาเสียเที่ยว อดสงสัยไม่ได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีวันเปิดปิดเป็นเวลาอย่างนั้นด้วยหรือ ถ้าเป็นอย่างที่คิดจริง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าวันไหนเปิด และเขามีวิธีบอกกล่าวกับเหล่าสมาชิกที่มากันด้วยวิธีไหนดูเหมือนคนที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้คงมีเพียงชาคริตคนเดียวเท่านั้นหญิงสาวค่อย ๆ ย่องขึ้นบันไดไปข้างบนอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็ค่อย ๆ แง้มประตูดูสถานการณ์รอบด้านจนแน่ใจดีแล้วว่าไม่มีคนเดินผ่านมาแถวนี้จึงรีบออกมาแล้วปิดประตูไว้ตามเดิม จากนั้นก็วิ่งไปที่รถซึ่งจอดแอบไว้ เอาหน้าแนบกระจกรถเพื่อดูว่ามีคนแปลกหน้าแอบขึ้นรถมาหรือเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครจึงขึ้นไปนั่งบนรถแล้วขับออกไปทันทีโดยไม่ได้เปิดไฟหน้ารถให้เป็นที่สังเกตจากคนอื่นแพรพิไลแวะจอดรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว เธอจึงรีบพิมพ์ข้อความแจ้งข่าวบอกลูกน้องทั้งสองคนว่าตนเองปลอดภัย เสร็จเรียบร้อยก็ขับรถกลับบ้านทั้งที่ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องแวะเข้
หญิงสาวเลือกนั่งโต๊ะเดิมเพราะเป็นมุมที่มองเห็นรอบด้านได้ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นส่วนตัวที่สุดอีกด้วย หลังจากสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มมองหาชาคริตแต่ก็ไม่พบ ดังนั้นระหว่างรอให้ชายหนุ่มออกมา เธอจึงได้แต่มองคู่เต้นรำที่กำลังจับคู่เต้นกันในจังหวะรุมบ้าซึ่งเธอจำได้ว่าตอนฝึกเต้นคราวก่อนนั้นเผลอเหยียบเท้ารชตไปตั้งหลายทีจู่ ๆ แพรพิไลก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง หญิงสาวมองไปที่ฟลอร์เต้นรำถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ขาดครองขวัญไปนั่นเองตามปกติแล้วหัวค่ำแบบนี้ครองขวัญจะต้องมาเฉิดฉายอยู่ที่นี่เกือบทุกวันจนสนิทกับพนักงานแทบทุกคน ไม่มีใครไม่รู้จักสาวสวยไฮโซคนนี้ ทว่าวันนี้เจ้าตัวกลับไม่มาให้เห็นระหว่างนั้นพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้พอดี แพรพิไลจึงลองเลียบเคียงถามถึงครองขวัญดู ทว่าคำตอบที่ได้รับทำเอาเธอทั้งแปลกใจและสงสัยไม่น้อย“คุณครองขวัญไม่ได้มาที่นี่หลายวันแล้วค่ะ น่าจะสักสามสี่วันได้มั้ง”“งั้นหรือ แปลกจริง...ขอบคุณมากค่ะ” แพรพิไลยิ้มให้แล้วทำทีเป็นไม่สนใจเรื่องนั้นอีกครองขวัญไม่ได้มาที่คลับเฮราหลายวั
วันถัดมา แพรพิไลอยู่ที่สำนักงานตลอดทั้งวันเพื่อจัดการเรื่องรายรับรายจ่ายทั้งหมด ถึงแม้จะมีคนดูแลตรงนี้ให้อยู่แล้ว แต่หญิงสาวก็ต้องตรวจสอบด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่งอยู่ดีเพื่อป้องกันความผิดพลาดเห็นรายรับที่กระเตื้องขึ้นมาจากเดือนที่แล้วอยู่พอสมควรหญิงสาวก็ยิ้มออก ไม่อยากเชื่อเลยว่าสองเดือนก่อนหน้านี้เธอยังปวดหัวกับเงินเก็บที่เริ่มร่อยหรอลงไปเพราะต้องดึงมาจ่ายเงินเดือนให้ลูกน้อยอยู่เลย แต่เดือนนี้เธอรอดแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอย่างนี้ไปทุกเดือนเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือทำให้แพรพิไลต้องเงยหน้าขึ้นดูชื่อของคนที่โทร. เข้ามา ครั้นพอเห็นว่าเป็นรชต เรียวปากอิ่มก็อดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้“ค่ะคุณอาร์ต”“กินข้าวเที่ยงรึยังครับ”หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น“เที่ยงแล้วหรือคะเนี่ยเร็วจัง ยังไม่ได้กินเลยค่ะ คงรออีกสักพักให้คนซา ๆ ก่อนค่อยออกไปหาซื้ออะไรมากิน”“โอเคครับ ดีแล้ว ผมโทร. มาบอกว่าคืนนี้คงเข้าไปที่คลับไม่ได้เพราะติดงานด่วนน่ะ ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดด้วย
“หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ศักดิ์!”หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะกลัวว่าจะทำให้นักสืบมือดีต้องตกอยู่ในอันตรายเข้าให้แล้ว อย่างไม่รอช้า แพรพิไลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร. หาศักดิ์ทันที ภาวนาให้เขายังปลอดภัยดี เพราะหากเขาเป็นอะไรขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าจะมีหน้าที่ไหนไปพบกับครอบครัวของเขารอสายอยู่นานจนหญิงสาวคิดว่าไม่มีคนรับและกำลังจะกดวางหู แต่จู่ ๆ ปลายสายก็กดรับ เธอจึงรีบกรอกเสียงลงไปทันที“สวัสดีค่ะพี่ศักดิ์ แพรเองนะคะ”“ครับ จะโทร. มาถามเรื่องนั้นใช่ไหม”“ใช่ค่ะ แพรเห็นพี่เงียบไปก็นึกว่าพี่ เอ่อ...เกิดเรื่องอะไรกับพี่รึเปล่าน่ะค่ะ” เธอลอบผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นว่าเขายังคงอยู่ดี ขณะเดียวกันก็ขำตัวเองที่คิดฟุ้งซ่านไปถึงไหนต่อไหน“กว่าพี่จะได้ข้อมูลมาก็ยากเหมือนกันนะ คนแถวนั้นไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไร เหมือนกับว่าปกปิดความจริงอะไรบางอย่างอยู่น่ะ พี่จะไปถามมากก็ไม่ได้เดี๋ยวเขาจะสงสัยเอา”“คนแถวนั้นที่ว่านี่คือคน
เธอควรบอกเขาดีไหมว่าเธอไม่ใช่คนมีอันจะกิน เป็นแค่ผู้หญิงที่ต้องหาทางประคับประคองสำนักงานนักสืบแห่งนี้ให้อยู่รอดได้โดยมีปากท้องของลูกน้องแค่หยิบมือให้ต้องรับผิดชอบถ้าบอกความจริงเขาไป อยากรู้เหลือเกินว่าเขายังจะสนใจเธออยู่ไหมแพรพิไลปัดความหดหู่ออกไปแล้วตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลเกี่ยวกับคลับเฮราต่อ พยายามใช้ใจเป็นกลาง ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตัดสินและวิเคราะห์สิ่งที่หามาได้เพื่อนำมาประกอบกับข้อมูลที่กำลังจะได้จากจิรายุอีกทางหนึ่งเมื่อถึงเวลานัดในตอนบ่ายแก่ ๆ วิษณุก็มาที่สำนักงานตามที่ได้บอกเอาไว้ แพรพิไลเชิญให้เขามานั่งในห้องทำงานเพราะต้องการพูดคุยกันเพียงลำพัง“คุณวิษณุบอกดิฉันได้ไหมคะว่าทำไมถึงต้องให้สืบคอนโดฯ แห่งนั้น” หญิงสาวยิงคำถามใส่ทันทีพร้อมกับลอบสังเกตปฏิกิริยาของคนตรงหน้าไปด้วยอีกฝ่ายดูกังวลและลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาแห้งผากเหลือบมองเธอครั้งหนึ่งก่อนหลุบลงมองมือตัวเองแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ“คุณสามารถบอกดิฉันได้ทุกเรื่องนะคะ ดิฉันขอรับรองว่าข้อมูลทุกอย่างจะเก็บเป็นความลับ จะไม่มีการแพร่งพรายให้คนอื่นรู้อย่าง
ชาคริตพูดกับชายคนหนึ่งหลังจากที่เดินผ่านประตูมาแล้ว พอผู้ชายคนนั้นเดินหายเข้าไปทางซ้ายมือ เขาก็พาหญิงสาวเดินไปทางซ้าย“ตื่นเต้นหรือครับ” ชาคริตถามกลั้วหัวเราะเธอจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเกาะแขนเขาไว้แน่นเพียงใดจึงรีบคลายออก ทว่าเขากลับเอาแขนข้างนั้นมาโอบเธอไว้แทนโดยที่มือเกาะเกี่ยวอยู่ที่สะโพก“เป็นใครบ้างจะไม่ตื่นเต้น ก็แพรไม่เคยมาที่นี่นี่นา ถามคุณชาคริตก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นแบบไหน” เธอทำทีเป็นค้อนใส่เขา จึงได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะขลุกขลักในลำคอและมือที่เริ่มลูบไล้สะโพกไปมาชาคริตพาแพรพิไลเดินลงบันไดมาชั้นล่าง แสงไฟสีม่วงสลัวรางทำให้หญิงสาวปวดตาเล็กน้อย พอเดินมาถึงตรงนี้จึงเพิ่งสังเกตว่ามีทางแยกสองทางซ้ายขวาเหมือนในโรงภาพยนตร์ มีพนักงานในชุดสีดำสวมหน้ากากครึ่งหน้ายืนอยู่ฝั่งละหนึ่งคน ชายหนุ่มพาเธอไปส่งให้พนักงานที่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย“ลูกค้าใหม่ เพิ่งมาครั้งแรก ฝากด้วยนะ”ชาคริตบอกกับพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งพอมาดูใกล้ ๆ แล้วแพรพิไลจึงเพิ่งสังเกตได้ว่าเป็นผู้หญิง และไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าประโยค
รถยุโรปสีดำเคลื่อนตัวเข้ามาจอดด้านหลังของคอนโดมิเนียมอย่างคุ้นเคย ผู้ขับดับไฟหน้ารถและดับเครื่องยนต์ จากนั้นก็หันไปหาคนที่นั่งข้างๆ“ตรงนั้นนั่นแหละครับพี่พลทางเข้าของที่นี่ อย่าลืมรหัสนะพี่ ของพี่คือ PT0097” รชตย้ำกับสารวัตรสืบสวนสอบสวนประจำสถานีตำรวจพื้นที่ที่คลับเฮราตั้งอยู่ตามหลักแล้วสารวัตรหนุ่มไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการพื้นที่แห่งนี้ แต่เพราะรชตรู้ดีว่าตำรวจในพื้นที่นี้เป็นพวกเดียวกันกับเจ้าของ ‘สมาคมหน้ากาก’ ที่อยู่ชั้นใต้ดิน ต่อให้ยื่นเรื่องหรือไปแจ้งความร้องทุกข์อย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงลองปรึกษากับสารวัตรจุมพล ลูกพี่ลูกน้องของภีมพล ผู้เป็นหุ้นส่วนกับพี่ชายดูว่าควรทำอย่างไรดี เพราะตอนนี้ลูกค้าหลายรายของคลับเฮราที่เขาดูแลอยู่หายหน้าหายตาไป เพราะถูกล่อลวงให้มาสมาคมแห่งนี้และตกเป็นทาสยาเสพติดในที่สุดรชตไม่สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้ เพราะหลังจากที่ทำการสืบอยู่พักใหญ่ถึงรู้ว่าผู้ที่ทำการล่อลวงลูกค้าวีไอพีของคลับไปก็คือครูสอนลีลาศประจำคลับอย่างชาคริต ซึ่งเรื่องนี้นำความเสื่อมเ
ชาคริตมักทำแบบนี้กับหญิงสาวหลายรายที่เขาถูกตาต้องใจด้วยการหลอกล่อให้อีกฝ่ายมาที่นี่ สวมชุดที่ทำเครื่องหมายเอาไว้เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา จากนั้นก็จัดการกินเสียให้เต็มอิ่มเมื่อผู้หญิงเหล่านั้นเริ่มมึนเมาได้ที่แล้ว“อ่า...เจอแล้วที่รัก”ในที่สุดเขาก็มองเห็นเป้าหมาย ชาคริตก้าวเดินยาว ๆ จนแทบจะกลายเป็นวิ่งไปที่หญิงสาวคนนั้นทันทีเพราะกลัวจะถูกคนอื่นคว้าไปเสียก่อนไม่อยากมองก็ต้องมอง...แพรพิไลลอบถอนหายใจให้แก่ภาพตรงหน้า หากเป็นผู้หญิงจิตอ่อนคาดว่าคงต้องยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องกรี๊ดเป็นแน่ แต่แพรพิไลเคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาพอสมควรตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ยิ่งกว่านี้ก็เคยเห็นมาแล้ว จึงคิดเสียว่ากำลังดูโชว์ที่บาร์พิเศษก็แล้วกันหญิงสาวนั่งมองคนกลุ่มนี้คลุกวงในกันนัวเนียจนได้เสียกันอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจในสมมติฐานของตัวเองว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนอยู่ในภาวะเมายาแทบทั้งสิ้น และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าน้องสาวของวิษณุต้องเป็นหนึ่งในนี้อย่างแน่นอน และอาจรวมถึงครองขวัญด้วยระหว่างที่แพ
รชตขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถข้างสำนักงานนักสืบไพศาลในเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ชายหนุ่มดูเวลาแล้วเห็นว่าเลยหนึ่งทุ่มมาสิบห้านาที ทำให้อดคิดถึงคนที่บอกว่าจะอยู่รอที่สำนักงานไม่ได้เขารู้สึกผิดที่ปลีกตัวออกมาช้า เพราะมัวแต่คุยเรื่องหลักฐานที่ได้มาจากแพรพิไลกับสารวัตรจุมพล ทางฝ่ายนั้นตื่นเต้นมากเพราะข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มานั้นครอบคลุมทุกอย่าง และเชื่อด้วยว่าคราวนี้สุกำพลดิ้นไม่หลุดอย่างแน่นอนชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพยายามโทร. หาแพรพิไลแต่ไม่มีคนรับสาย เขาโทร. ไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วก็ว่าได้ แต่ทุกครั้งระบบก็ตัดเข้าเป็นการฝากข้อความ จนเขาเริ่มใจไม่ดีต้องรีบบึ่งรถกลับมาที่นี่เพื่อมาดูให้เห็นกับตาว่าเธอยังปลอดภัยดีอยู่ ครั้นพอโทร. เข้าสำนักงานก็ไม่มีคนรับสายเช่นกัน พอเข้าใจได้อยู่ว่าลูกน้องของแพรพิไลคงกลับบ้านกันหมดแล้วรชตเดินเข้าทางประตูด้านข้างอาคารเพราะใกล้กับลานจอดรถที่สุด อีกทั้งประตูด้านหน้าก็ปิดไปแล้วจึงมีเพียงประตูนี้ประตูเดียวที่สามารถเข้าไปภายในสำนักงานได้เมื่อเข้ามาถึง หัวใจที่ค้างเติ่งอยู่กลางอากาศก็พลอยสงบลงเมื่อเห็นไฟด้า
“ไอ้เรื่องขี้ตู่พี่คงสู้แพรไม่ได้ ตำแหน่งนี้พี่ยกให้แพรคนเดียวเลย”เขาพูดกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงวีรกรรมตอนเด็กของแพรพิไลที่มักคิดเองเออเองไปเสียทุกเรื่องแพรพิไลหันไปแยกเขี้ยวใส่เขาก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ กระทั่งได้กลิ่นกาแฟลอยกรุ่นอยู่ในห้องจึงเงยหน้าขึ้นมองเจติยาที่อุตส่าห์ชงกาแฟมาเผื่อเธอด้วย“จริงสิพี่แพร น้องก้อยเขาขอทำงานประจำที่นี่เลยได้ไหม เพราะตอนนี้น้องเรียนใกล้จบแล้ว” เจติยาพูดถึงพนักงานบัญชีที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่แพรพิไลได้ฟังอย่างนั้นก็รีบพยักหน้าให้ทันที“ได้สิ ดีเลยพี่จะได้ไม่ต้องรับสมัครคนใหม่ ขี้เกียจอธิบายงานใหม่ด้วยเพราะมันเสียเวลา ถ้าก้อยอยากทำประจำพี่ก็ยินดีนะ ส่วนเรื่องเงินเดือน เอาไว้สอบเสร็จแล้วค่อยมาคุยกันอีกที”เจติยาพยักหน้ารับคำแล้วเดินออกจากห้องไป พอดีกับที่โทรศัพท์ของรชตส่งเสียงร้องขึ้น“ครับพี่พล” เขาฟังปลายสายพูดครู่หนึ่งก่อนตอบออกไป“ได้ครับพี่ ผมเอาไปให้พี่ตอนนี้เลยก็ได้ครับไม่มีปัญหา เพราะคืนนี้ผมก็ต้องเข้าไปที่คลับ คงไม่ว่าง
“ช่วงกลางวันพี่แทบไม่ต้องเข้าออฟฟิศของครอบครัว เพราะพี่ชายของพี่เป็นคนดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่คลับเฮราคือความรับผิดชอบของพี่เต็ม ๆ พี่ถึงต้องเข้าไปเกือบทุกคืนยกเว้นคืนที่ติดธุระจริง ๆ แล้วคืนนี้แพรก็ต้องไปที่คลับกับพี่ด้วย จะว่าไป เราไม่ได้เต้นรำด้วยกันนานแล้วนะ ลืมหมดรึยังว่าเต้นยังไง”“คงต้องรบกวนให้ครูช่วยเตือนความจำแล้วละค่ะ” หญิงสาวยิ้มมุมปากพลางเปิดลิ้นชักหาแฟลชไดรฟ์มาใส่ข้อมูลให้เขา เพราะเม็มโมรีการ์ดต้นฉบับต้องนำไปเก็บซ่อนไว้ที่เดิมเพื่อความปลอดภัย“ได้สิ เดี๋ยวพี่จะเปิดคอร์สติวเข้มแบบตัวต่อตัวเลยละ ยังไงเราก็ต้องตัวติดกันอย่างนี้ไปอีกนาน”หญิงสาวหันไปย่นจมูกใส่เมื่อรู้ว่าต้องตัวติดกับเขาไปไหนไปกันทุกที่ราวกับปาท่องโก๋ แต่แม้จะถูกตามติดทุกฝีก้าวราวกับเงาตามตัว เธอก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยยามได้อยู่ใกล้ และเชื่อมั่นว่าตราบใดที่มีรชตอยู่ข้างกาย เธอจะไม่มีวันได้รับอันตรายใด ๆ แม้แต่ปลายเส้นผม“ถ้าอย่างนั้นแพรขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ พี่อาร์ตดึงแฟลชไดรฟ์อันนี้เก็บไปได้เลยนะถ
แพรพิไลฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอเอียงคอเล็กน้อยพร้อมถามคำถามที่ทำให้คนฟังอดยิ้มไม่ได้“สารวัตรรู้ล่วงหน้าใช่ไหมคะว่าเมื่อคืนต้องคว้าน้ำเหลว ถึงได้เตรียมการเอาไว้รอบคอบขนาดนี้”“ความจริงแล้วพี่พลแค่สงสัยน่ะ เพราะการบุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงแต่ละแห่งมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะสามารถปิดข่าวให้เงียบได้ มันน่าจะมีเล็ดลอดออกไปบ้างก็เลยเตรียมวางแผนกันไว้กับทีมปปส.”หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะใช้เมาส์คลิกไปที่ไฟล์วิดีโอเพื่อเล่นคลิปที่อยู่ในเม็มโมรีการ์ดอันที่สอง เพราะอยากรู้ว่าในช่วงสิบกว่านาทีหลังจากนั้นมีอะไรซ่อนไว้หรือไม่ ดังนั้นเธอจึงข้ามไปที่นาทีที่สี่สิบ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและก็เป็นอย่างที่เธอสงสัย เพราะหลังจากคลิปเป็นสีดำเพียงแค่นาทีกว่า ๆ ภาพก็ตัดมาที่บิดาของเธอซึ่งตั้งกล้องให้หันมาหาตัวเองแพรพิไลสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่แสนรักแสนคิดถึง กระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีจนต้องเม้มปากไว้แน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นรชตรั้งตัวหญิงสาวให้ทรุดตัวนั่งลงบนตัก สองแขนโอบกอดร่างเล็กที่สั่นเล็ก
“จมไม่ลงว่างั้นเถอะ”“มันไม่ใช่แค่จมไม่ลงหรอก แต่พี่คิดว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นนะ” ชายหนุ่มชี้ให้เธอดูชาร์ตรายชื่อบริษัทต่าง ๆ บนหน้าจอแล้วพูดต่อ“สุกำพลค้ายา แน่นอนว่าเม็ดเงินที่ได้มันมหาศาล แพรคิดดูก็แล้วกันว่าแค่ไอ้น้ำสีชมพูนั่นแก้วเดียวแพรต้องจ่ายไปตั้งเท่าไร แล้วแต่ละคืนมีคนเข้าไปที่สมาคมหน้ากากกี่คน และแต่ละคนดื่มน้ำนั่นเข้าไปคนละกี่แก้ว ถึงแม้จะเปิดแค่เดือนละหกวัน แต่ในหนึ่งวันนั่นพี่คิดว่าเขาฟาดไปเป็นล้านนะ แล้วเขาไม่ได้ขายแค่วันที่มีปาร์ตีเท่านั้น แต่เขาซื้อขายกันนอกรอบด้วยเพราะมันคือยาเสพติด คนที่ติดไปแล้วเลิกไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนหาเสพเพราะคงรอให้ถึงวันที่จัดปาร์ตีไม่ไหวหรอก จริงไหม” รชตเลื่อนเมาส์ลงมาเพื่อให้เห็นรายชื่อทั้งหมดของผู้ที่อยู่หลังม่านก่อนพูดขึ้นอีก“การที่จู่ ๆ ก็มีรายได้มหาศาล มีเงินในบัญชีมากมายมันย่อมต้องน่าสงสัยอยู่แล้วว่าเงินเหล่านี้มาจากไหน อย่างน้อยหากสรรพากรถามขึ้นมาแล้วเขาบอกไม่ได้ว่าเป็นรายได้จากธุรกิจอะไรเขาก็แย่น่ะสิ เพราะฉะนั้นสุกำพลก็เลยต้องทำธุรกิจหลายอย่างมารองรับเงินตรงนี้ จ้างคนมาแต่
“หึ ๆ ผมล้อเล่นครับ แต่ผมพูดจริง ๆ นะเรื่องที่ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณ ผมคิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดีเชียวละถ้าหากคุณแพรยอมรับพิจารณาผมบ้าง...เอาเป็นว่าถ้าวันไหนคุณแพรว่างก็สละเวลามาดินเนอร์กับเพื่อนอย่างผมสักมื้อนะครับ”“ยินดีค่ะคุณเบนซ์ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่วันนี้ไปไม่ได้จริงๆ” แพรพิไลลอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขาจะวางสาย เพราะตอนนี้หัวใจเธอโลดแล่นไปอยู่กับเม็มโมรีการ์ดที่ซุกซ่อนเอาไว้นานแล้วนั่นต่างหาก“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้เสมอ ไม่รบกวนแล้วดีกว่า ไว้วันหน้าจะโทร. มาชวนใหม่นะครับ”หญิงสาวบอกลาเขาก่อนกดวางสาย จากนั้นก็ก้มลงไปใต้โต๊ะทำงานแล้วใช้มือคลำไปบนพื้นไม้ปาร์เกต์ช้า ๆ จนกระทั่งรู้สึกสะดุดมือเพราะรอยต่อของไม้ไม่เสมอกัน เธอจึงยิ้มออกมาพลางใช้นิ้วกดลงไปที่มุมของไม้แผ่นนั้นเบา ๆไม้ปาร์เกต์แผ่นนั้นเผยอขึ้นมาจนสามารถดึงออกมาได้ เธอล้วงมือเข้าไปหยิบกล่องเหล็กขนาดเท่ากล่องดินสอออกมาจากในนั้นแล้วเปิดฝาออกเพื่อดูของที่อยู่ข้างในเม็มโมรีการ์ดมากมายใส่อยู่ในถุงซิปล็อกถุงละหนึ่งอัน มีปากกาเคมีสีน้ำเงินเขียนกำก
“ใครหรือคะ พี่อาร์ตดูจากตรงไหน” แพรพิไลถามรชตที่กำลังใช้เมาส์คลิกเพื่อเล่นคลิปย้อนกลับไปอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบอะไร โทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็แผดเสียงดังขึ้นจนเธอถึงกับสะดุ้งแพรพิไลเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาดูชื่อคนโทร. เข้า เนื่องจากว่าโทรศัพท์เครื่องนี้จะใช้เฉพาะลูกค้าที่มาติดต่อกับสำนักงานนักสืบเท่านั้น พอเห็นชื่อของคนที่โทร. มา ตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้นพร้อมกับรีบกดรับสายทันที“สวัสดีค่ะคุณวิษณุ” ปกติแล้วลูกค้ารายนี้มักจะโทร. เข้าไปที่สำนักงานมากกว่า แต่คราวนี้กลับโทร. เข้าเครื่องของเธอโดยตรง แสดงว่าน่าจะมีเรื่องด่วนอะไรสักอย่างเป็นแน่“คุณแพรครับ เมื่อคืนน้องสาวของผมพยายามกรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตาย” คำบอกเล่าจากปลายสายทำให้แพรพิไลถึงกับอ้าปากค้าง“แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ คุณวิษณุช่วยเล่ารายละเอียดให้แพรฟังหน่อยได้ไหม” น้องสาวของวิษณุยังไม่เสียชีวิตแน่นอน คนที่บ้านน่าจะช่วยชีวิตไว้ได้ทันเวลา วิษณุถึงได้โทร. หาเธอเวลานี้“ตอนนี้ปลอดภัยแล
‘เข็มขัดลูกเสือมั้ง’เมื่อได้ยินเขายอกย้อนมาอย่างกวนประสาท แพรพิไลก็ทำหน้ายู่ใส่‘พี่อาร์ต! ยังจะอุตส่าห์กวนอีกนะ แพรหมายถึงว่าเอามาให้แพรดูทำไม’ เธอไม่กล้ายื่นมือออกไปรับ เพราะไม่แน่ใจว่าเขาซื้อมาให้เธอ หรือซื้อให้คนอื่นแล้วแค่เอามาให้เธอดูเพื่อขอความเห็นเฉยๆ‘พี่ไม่ได้เอามาให้แพรดู แต่ซื้อมาให้แพรใส่ต่างหากละ พี่จะใส่ให้แพรนั่งนิ่ง ๆ นะเดี๋ยวตกต้นไม้’ เขาไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ รีบยื่นมือไปที่ท้ายทอยของสาวน้อยตรงหน้าเพื่อสวมสร้อยให้ทันที ติดตะขอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ผละออกมาดูของขวัญที่ตนอุตส่าห์เก็บหอมรอมริบจากเงินรายเดือนไปซื้อมาให้‘นึกยังไงถึงซื้อมาให้แพรล่ะ พี่ไม่ได้ล้อเล้นใช่ไหม’ แม้สร้อยเงินเส้นนี้จะถูกสวมอยู่ที่คอ แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่กล้าทึกทักเอาเองว่าเขาซื้อมาให้อยู่ดีก็ใครจะเชื่อเล่าว่าหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนจะซื้อของขวัญมาให้เด็กมัธยมต้นอย่างเธอ‘เดือนหน้าพวกเราก็ต้องสอบปลายภาคและปิดเทอมใหญ่กันแล้วนะ พี่ก็ต้องไปในเรียนมหา’ลัย แพรก็ขึ้นม.ปลาย แล้ว เราอาจไม่ค่อยได้เจอก
“พี่ขอดูคลิปนั่นหน่อย แพรบอกว่าคนบงการเบื้องหลังก็อยู่ในคลิปนั่นด้วยใช่ไหม”เขาคิดว่าบิดาของแพรพิไลคงตามเรื่องสมาคมหน้ากากเช่นกัน และน่าจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหลายอย่างด้วย และที่สำคัญคงรู้แล้วว่าใครคือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังแพรพิไลเปิดคลิปวิดีโอที่ว่า “พี่อาร์ตลองช่วยแพรดูหน่อยค่ะ เพราะเท่าที่แพรดู แพรไม่เห็นว่าคุณพ่อจะถ่ายใครมาเป็นพิเศษเลย” หญิงสาวลุกขึ้นไปหยิบเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้าง ๆในห้องพักขนาดห้าสิบตารางเมตรย่านใจกลางเมือง ชายสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังลุกลี้ลุกลนยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ บนพื้นห้องมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัววางระเกะระกะ แต่ผู้เป็นเจ้าของกลับไม่ได้สนใจเท่าไรนัก ที่เขาสนใจมีเพียงเอกสารสำคัญและของมีค่าที่สู้อุตส่าห์แลกมาด้วยแรงกายและความเสี่ยง เพราะอย่างน้อยสร้อยแหวนนาฬิการาคาแพงเหล่านี้ก็สามารถนำไปจำนำหรือขายต่อได้ในวันที่เขาสิ้นไร้ไม้ตอกชาคริตดูนาฬิกาข้อมือแล้วเม้มปากแน่น อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด ซึ่งจะมีคนพาเขาหนีไปกบดานที่ประเทศเพื่อนบ้านสักระยะหนึ่ง เพื่อรอจนกว่าเ