เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาช้า ๆ และเบี่ยงเบนความสนใจ เซิ่งเป่ยเหลือบมองหน้าจอขนาดใหญ่ จากนั้นก็ลดสายตาลงเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจบนข้อมือของฟู่สือถิง ‘สุดยอด!’ อัตราการเต้นหัวใจของเขาไม่เคลื่อนไหวเลย มันมั่นคงราวกับภูเขา! สิ่งนี้ทำให้เซิ่งเป่ยสงสัยว่าสายรัดข้อมือมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หรือว่าเขาได้ชำระล้างสัมผัสทั้งหกของเขาไปแล้ว จึงไม่มีความปรารถนาใด ๆ เฮ่อจุ่นจือจ้องไปที่สายรัดข้อมือบนข้อมือของฟู่สือถิงด้วย “สร้อยรัดข้อมือยังดีอยู่ เมื่อกี้ตอนที่อันอันสวมตัวเลขยังเดินอยู่เลย” เซิ่งเป่ยซุบซิบ “ฉินอันอันเป็นยังไงบ้าง?” เฮ่อจุ่นจือเหลือบมองฉินอันอัน สีหน้าของฉินอันอันไม่มีการแสดงออก แต่หลีเสี่ยวเถียนกลับจ้องเขาด้วยสายตาดุเดือด เฮ่อจุ่นจือมองไปทางอื่นแล้วตอบ “เธอชนะ ถ้าอัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป สายรัดข้อมือนี้จะแจ้งเตือน แต่ตอนที่เธอเล่นเกม ผมไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนจากสายรัดข้อมือเลย” เซิ่งเป่ยตอบสนอง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางฉินอันอันที่อยู่ข้างหลังเขา ฉินอันอันก้มศีรษะเล่นกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังหลบหน้า หลังจากคลิปแรกจบลง คลิ
ฟู่สือถิงมองไปที่ผู้หญิงข้าง ๆ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ตอนที่เขาเพิ่งเข้าไปในวิลล่าเมื่อสักครู่ เขามองเห็นเธอจากระยะไกล ตอนนั้นเธอกำลังยิ้ม แต่ทันทีที่เธอเห็นเขา รอยยิ้มก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อเขามาถึงโซฟา เธอก็แอบถอยกลับไปอยู่มุมหนึ่งที่เขามองไม่เห็น ตอนนี้เธอนั่งข้าง ๆ เขา เขามองเห็นใบหน้าเล็ก ๆ และดวงตาที่สับสนของเธอได้อย่างชัดเจน... เธอผอมลงมาก! แม้แต่พลังงานในร่างกายของเธอก็สูญเสียไปด้วย บุคลิกของเธอกลายเป็นเปราะบางและอ่อนแอ ราวกับว่าเขาสามารถบดขยี้เธอได้ด้วยมือข้างเดียว หลังจากที่เธอกับเขามองหน้ากันชั่วครู่ เธอก็เตรียมตัวที่จะลุกขึ้นและเดินจากไป ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับข้อมือเธอไว้แน่นไม่ปล่อยเธอไป ทุกคนในเหตุการณ์ต่างตั้งหน้าตั้งตาดูฉากตรงหน้าด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น จริง ๆ แล้ว เรื่องที่พวกเขาทั้งสองเคยรักกัน เฮ่อจุ่นจือและเพื่อนของหลีเสี่ยวเถียนก็เคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้เห็นพวกเขาทั้งสองทะเลาะกันแบบนี้กับตา... ไฟแห่งการนินทาในใจก็ลุกโชน! อาจเป็นเพราะกระแสจิตของพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป ทิศทางที่จะไปต่อตามที่พวกเขาต้องการ จึงไปในทิศทิงที่ควบคุมไม่ได้ เสียง ‘ติ
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครบังคับให้เขาดื่ม หลังจากที่เขาดื่มไวน์หมดไปหนึ่งขวด เซิ่งเป่ยก็มองเขา “แผลของนายหายดีแล้วเหรอ? หมอบอกให้นายงดดื่มแอลกอฮอล์สามเดือนไม่ใช่รึไง? นี่ยังไม่ถึงสามเดือนเลยนี่?” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฮ่อจุ่นจือก็เดินเข้ามาพร้อมเหยือกน้ำผลไม้ทันที “พี่สือถิง ดื่มน้ำผลไม้หน่อยสิ!” เฮ่อจุ่นจือย้ายขวดไวน์ทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเขา “ในครัว มีอาหารเย็น พวกพี่ไปกินไหม?” เซิ่งเป่ยดื่มไวน์จนหมดขวด จากนั้นก็จูงฟู่สือถิงไปที่ห้องครัว หลังจากที่ทั้งสองไปที่ห้องครัว บรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง เซิ่งเป่ยรินน้ำผลไม้ให้ฟู่สือถิงหนึ่งแก้ว “ถ้าฉันรู้ว่ามันจะน่าอายขนาดนี้ ฉันคงไม่ชวนนายมาที่นี่หรอก” เซิ่งเป่ยพูดพลางยิ้มเจื่อน ๆ “หรือจะให้ฉันส่งนายกลับดี!” เฮ่อจุ่นจือยืนอยู่ข้างพวกเขาแล้วพูดว่า “พี่สองคนเมาแล้วขับรถไม่ได้ วันนี้ผมจ้างรถพยาบาลมาด้วย หรือจะให้รถพยาบาลไปส่งพวกพี่ดี?” เซิ่งเป่ยเงียบ ฟู่สือถิงตกตะลึง“เอ่อ... ถ้าไม่อยากกลับนอนที่นี่ก็ได้ครับ ผมจองวิลล่าไว้แปดหลัง ห้องพักก็น่าจะพอ” เฮ่อจุ่นจือเปลี่ยนใจทันทีเมื่อเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของพวกเ
“ฉันจะไปหาฉินอันอัน”เฮ่อจุ่นจือตะลึงไป “!!!”น่ากลัว!น่ากลัวจริง ๆ!แม้เฮ่อจุ่นจือจะไม่ได้เห็นด้วยตาในตอนที่พวกเขาสองคนทำร้ายกัน แต่เฮ่อจุ่นจือก็ยังคงตัวสั่นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลังจากที่เขาอยู่ในแผนฉุกเฉินเป็นเวลานาน‘ตอนนี้เขาดันอยากไปหาฉินอันอันอีก… คงเป็นเพราะความขัดแย้งครั้งก่อนยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยอยากมีภาคต่องั้นเหรอ?’เฮ่อจุ่นจือกลัวมาก!เขาไม่สามารถปรามฟู่สือถิงได้ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปหาเซิ่งเป่ยและหลีเสี่ยวเถียนเซิ่งเป่ยวิเคราะห์อย่างใจเย็น “เขาดื่มเบียร์ไปแค่ขวดเดียว ไม่น่าจะเมาจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้เลย”หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างวิตกกังวล “แต่อันอันไม่อยากเจอเขา! อันอันเป็นคนบอกฉันเอง! ไม่ได้ ฉันต้องไปห้ามเขา!”หลังจากที่หลีเสี่ยวเถียนพูดจบ เธอก็คิดจะขึ้นไปหยุดฟู่สือถิงที่ชั้นบนเซิ่งเป่ยและเฮ่อจุ่นจือคว้าแขนของเธอไว้คนละข้าง“เสี่ยวเถียน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ฉันจะขึ้นไปดูเอง” เซิ่งเป่ยกลัวว่าถ้าหลีเสี่ยวเถียนขึ้นไป ทุกคนในวิลล่าจะรู้ถึงเหตุการณ์นี้กันหมดฟู่สือถิงเสียหน้าไปแล้วครั้งหนึ่ง เซิ่งเป่ยจึงอยากจะช่วยกู้หน้าเขาเอาไว้“ให้พี่เป่ยไปเถอะ!” เ
ฉินอันอันมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลา แต่เย็นชาของเขา และครู่หนึ่งเธอก็รู้สึกโกรธมากจนพูดไม่ออกหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนต้องทะเลาะกับเขาแต่ตอนนี้ท่าทางของเธออ่อนลงไปมาก เธอไม่อยากโต้เถียงกับหรือลงไม้ลงมือกับเขาหากเขายืนกรานที่จะอยู่ในห้องของเธอ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทำตัวหน้าด้านขนาดนี้แล้วจะต้องไว้หน้าทำไมล่ะ?ดูแล้วคำพูดของเขาไม่ได้ทำให้เธอโกรธซึ่งนั่นทำให้เขาสับสนเป็นอย่างมากเขายังพูดตรงไม่พอเหรอ?หรือเธอคุยเรื่องนี้กับจิ้นซือเหนียนแล้ว?“ฉินอันอัน ไม่ว่าในอนาคตคุณจะลงเอยกับใคร ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไป ตราบใดที่ผมยังไม่ตาย คุณก็อย่าได้คิดแม้แต่จะแต่งงานใหม่เลย” เขาขู่อีกครั้งฉินอันอันไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย หลังได้ฟังคำขู่ของเขาเธอไม่เคยคิดที่จะแต่งงานใหม่ ดังนั้นคำขู่ของเขาจึงเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับเธอ“คุณชอบเป็นชู้ขนาดนั้นเลยเหรอ?” เธอมองตาเขาแล้วพูดล้อเลียนมีความสั่นไหวชั่วขณะในดวงตาของเขา“ถ้าฉันรักจิ้นซือเหนียนและคุณยังมาพัวพันกับฉัน แสดงว่าคุณก็เป็นชู้นะ เป็นชู้น่ะ!” เมื่อเห็นว่าเขาเงียบ ฉินอันอันก็ใช้ประโยชน์จากชัยชนะและไล่ต้อนเขาฟู่สือ
ฉินอันอันตะโกนเรียกเขา “ฟู่สือถิง ถ้าฉันคืนลูกให้คุณ ในอนาคตคุณเลิกมาหาฉันได้ไหม เหมือนที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้”เธอไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับเขาเสียงฝีเท้าของเขาหยุดชะงัก เขาเปล่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา “เอาลูกมาคืนให้ก่อนแล้วค่อยมาตกลงกัน”หลังจากพูดจบเขาก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป“สือถิง นายโอเคไหม?” เซิ่งเป่ยยืนอยู่นอกประตูฉินอันอันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อเธอได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอกประตูไม่สามารถระงับและกำจัดอารมณ์หดหู่นี้ออกไปได้หลังจากที่เสียงฝีเท้าด้านนอกประตูค่อย ๆ หายไป เธอก็ล้มลงบนเตียงหลังจากเงียบไปไม่กี่นาที เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดวิดีโอคอลหาไมค์ไมค์รับสายทันที “ฉินอันอัน เธอกินข้าวรึยัง?”ไมค์กำลังเล่นกับลูกทั้งสองคนฉินอันอันเห็นร่างหนึ่งเคลื่อนไหวตะคุ่ม ๆ อยู่ในห้องครัวแต่ไมค์ก็รีบปรับกล้องแพลนไปที่เด็กสองคน“กินแล้ว…” ฉินอันอันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเห็นเด็กทั้งสอง “เสี่ยวหาน รุ่ยลา พวกหนูกำลังเล่นอะไรอยู่?”“ต่อจิ๊กซอว์ค่ะ! หนูกำลังดูพี่ชายเล่น… เพราะเขาไม่ยอมให้หนูเล่นด้วย เขาบอกว่าหนูมีแต่จะทำให้มันยากกว่าเดิม” รุ่ยลาเม้มปาก “แม่คะ
“อันอัน!” หลีเสี่ยวเถียนเปิดประตูเข้าไป “เธอรู้ไหมว่าฟู่สือถิงผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกับสามีฉัน?”เส้นประสาทของฉินอันอันตึงเครียด เธอลุกขึ้นจากเตียงเขาจะตามหาเฮ่อจุ่นจือไปทำไม?คงไม่ใช่ว่า…“ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าจะไม่มางานแต่งของพวกเรา แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว! เขาบอกว่าเขาจะเข้าร่วมงานแต่งงานของเราในวันพรุ่งนี้” หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างรวดเร็ว “ทำไมเขาถึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ขนาดนี้นะ!”ฉินอันอันถอนหายใจด้วยความโล่งอก“จริงสิ! ทำไมเมื่อกี้เขาถึงมาหาเธอ? เธอกับเขาคุยอะไรกัน?” หลีเสี่ยวเถียนเดินไปนั่งที่เตียง พลางจ้องมองใบหน้าของฉินอันอัน “เขาไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม? ตอนนั้นฉันอยากจะขึ้นมาช่วยเธอ แต่พี่เป่ยดันบอกว่าจะขึ้นมาเอง…”“ไม่มีอะไรหรอก” ฉินอันอันพูดอย่างนิ่งเฉย “คืนนี้มีแขกเยอะ เขาคงบ้าเลือดขึ้นมาหรอก”“ดีแล้วละ เธออยากออกไปสูดอากาศไหม? ลมข้างนอกเย็นสบายมาก! ไม่หนาวเลยสักนิด!” หลีเสี่ยวเถียนพูดอย่างเป็นกันเอง “ตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่ เธอคงนอนไม่หลับแน่”ฉินอันอันไม่ได้คิดมากจึงพยักหน้ารับ “แต่ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเยอะเท่าไหร่ ใส่ชุดนอนได้ไหม?”"ฮ่าฮ่าฮ่า! ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นน้ำอยู
ฉินอันอันพูดอย่างเป็นกันเอง “ฉันไม่ได้บอกเขาไปตรง ๆ ”“เธอนี่ร้ายมาก เธอจงใจแกล้งเขารึเปล่า? เธอรู้ว่าเขาชอบเธอ แต่ก็ยังไม่บอกความจริงกับเขา”ฉินอันอันส่ายหัว “ฉันแค่คิดว่าเขาไม่มีเหตุผลและฉันก็ไม่อยากสนใจเขา”“อ้อจริงสิ ตอนนี้พวกเธอสองคนยังไม่กลับมาคืนดีกันนี่...นี่ เป็นไปได้ไหมที่เธอสองคนจะกลับมาคืนดีกัน?” หลีเสี่ยวเถียนคว้าแขนของฉินอันอันไว้และมองผมยาวของเธอที่ถูกลมพัดจนยุ่ง“จะกลับมาคืนดีกันได้ยังไง?” ฉินอันอันเลิกผมยุ่ง ๆ บนใบหน้าของตัวเองไปทัดหลังใบหู “เขาไม่ได้อธิบายให้ฉันฟังด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับอิ๋นอิ๋น นอกจากนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันคิดถึงเรื่องที่เขามีความสัมพันธ์กับเสิ่นอวี๋ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจ ฉันยอมเป็นโสดไปตลอดชีวิตดีกว่ากลับมาคบกับเขาเสียอีก”“นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริง ๆ… เขาไม่ชอบเสิ่นอวี๋ อย่านั้นก็ไม่ควรมีลูกกับรายนั้นสิ!” หลีเสี่ยวเถียนถอนหายใจ “อย่างนี้แล้วจะไม่ให้ฉันถึงเรียกเขาว่าไอ้สารเลวได้เหรอ? นี่เขายังทำเหมือนยังอาลัยอาวรณ์เธออยู่อีกต่างหาก บ้าจริง!”ฉินอันอันหัวเราะเบา ๆ “ฉันเคยโกรธเวลาที่คิดถึงเขา แต่วันนี้ฉันไม่รู้สึกแบบนั้แล้ว มีเรื่องตลกอีกอย่าง