พวกเขาเลิกกันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่หลังจากหวังหว่านจือได้รับเงินสามพันล้านจากการขายทรัพย์สินของเธอที่ต่างประเทศ ชายคนนี้ก็กลับมาหาเธออีกครั้ง “คุณเสิ่น ได้ยินว่าฟู่สือถิงให้เงินลูกสาวคุณหนึ่งพันล้านใช่ไหมคะ?” หวังหว่านจือจงใจพูดเสียงดัง คุณพ่อเสิ่นเห็นฉินอันอันแล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “ใช่แล้ว!มอบให้เมื่อวานนี้” “ถ้าอย่างนั้นให้ลูกสาวของคุณเอาเงินมาลงทุนกับฉันสิคะ ฉันจะเปลี่ยนหนึ่งพันล้านของเธอกลายเป็นสองพันล้าน สามพันล้านเอง!” หวังหว่านจือพูดพร้อมรอยยิ้ม “ตกลง!ผมจะกลับไปคุยกับเธอให้ อันที่จริงเธอชื่นชมคุณอยู่ ตอนนี้เธอสนับสนุนให้พวกเราอยู่ด้วยกัน” หวังหว่านจือสีหน้าภาคภูมิใจ เธอพูดกับฉินอันอันที่กำลังเดินผ่านมา “ฉินอันอัน ฉันกลับมาแล้วนะ!” ฉินอันอันหยุดแล้วชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา “ก็ดีค่ะ แต่ถึงคุณไม่กลับ ฉันก็ไปตามหาคุณที่ต่างประเทศได้” “โอ้…ฉันก็กลับมาเพราะเธอเหมือนกัน ลูกสาวและน้องชายของฉันสองชีวิต ชีวิตแม่เธอไม่พอหรอก!” หวังหว่านจือพูดพร้อมเลิกคิ้ว “เธอรักฟู่สือถิงมากไม่ใช่เหรอ? งั้นฉันจะใช้เงินที่ฟู่สือถิงให้เสิ่นอวี๋มาจัดการเธอ” “ได้เลยค่ะ!” ฉินอัน
ภายใต้แสงไฟสลัว เขาสวมเสื้อโอเวอร์โค้ทสีน้ำตาลอ่อนเด่นซึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษโดยปกติ เขาจะสวมเสื้อผ้าสีเข้ม ดังนั้นพอจู่ ๆ เขาเปลี่ยนสไตล์ มันจึงดึงดูดความสนใจเพราะการปรากฏตัวของเขา บรรยากาศในลานหน้าบ้านจึงเปลี่ยนไปทันที หลีเสี่ยวเถียนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สองมือกำหมัดแน่น คิดจะเข้าไปทุบเฮ่อจุ่นจือในวินาทีถัดไป เห็นได้ชัดว่าเฮ่อจุ่นจือพาฟู่สือถิงมา หลังจากฉินอันอันมองเห็นฟู่สือถิงแล้ว เธอถอนสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ยังแจ่มชัดอยู่ในใจ วันนี้ในบ้านมีคนมากมาย เธอเชื่อว่าเขาไม่กล้าทำอะไรซี้ซั้ว ตอนนี้เขาวางตัวเองอยู่ในตำแหน่งเจ้าหนี้และเธอคือลูกหนี้ ดังนั้นถึงเธอไม่ได้เชิญเขา แต่เขาก็ยังหน้าด้านมาอยู่ดี หลังจากทั้งสองเดินเข้ามาจากประตูทางเข้าลานหน้าบ้านแล้ว หลีเสี่ยวเถียนเอื้อมไปบิดแขนเฮ่อจุ่นจือเฮ่อจุ่นจือยักไหล่ ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดีสีหน้าของเขากำลังบอกว่า ‘กล่าวหากันแล้ว! ผมไม่ได้พาเขามา!’ หลีเสี่ยวเถียนผลักเขาไปทางฉินอันอันให้เขาอธิบายขอโทษกับฉินอันอัน! เขาก้าวเท้าเดินไปหาทางฉินอันอัน “อันอัน เอ่อ...เล็บของคุณสวยจังเลย! แบบเดียวกัน
โจวจื่ออี้หยิบเนื้อย่างเสียบไม้ยัดเข้าไปในปากเขาเพื่อทำให้เขาหุบปาก เฮ่อจุ่นจือเดินเข้ามาพร้อมหลีเสี่ยวเถียน ในมือมีไวน์แดงหลายขวด โจวจื่ออี้เข้าไปทักทายพวกเขาทันที “ไวน์ชั้นดีทั้งนั้นเลย! คุณขโมยมาจากห้องเก็บไวน์ของคุณพ่อคุณใช่ไหม?” “ขโมยอะไรล่ะ? ผมเอามาจากบ้านของตัวเองเรียกขโมยได้เหรอ?” เฮ่อจุ่นจือหยิบที่เปิดไวน์แล้วเปิดขวดโจวจื่ออี้หยิบไวน์ขวดหนึ่งส่งให้ไมค์ จากนั้นเขาหยิบแก้วไวน์มาให้ฟู่สือถิงแล้วรินให้เขา เว่ยเจินที่ดื่มมากไม่ได้ก็ถือแก้วไวน์และเดินเข้ามาเช่นกัน “คืนนี้คึกคัก ผมจะดื่มด้วย” “คุณเว่ย ทำไมวันนี้คุณอารมณ์ดีจังคะ?” หลีเสี่ยวเถียนรินไวน์ให้เขา จากนั้นมองไปทางฉินอันอัน “อันอัน เธอเอาหน่อยไหม?” ฉินอันอันส่ายหน้า “ฉันต้องดูแลเด็ก ๆ พวกเธอดื่มเถอะ!” “ได้เลย! ฉันจะช่วยสร้างความบันเทิงกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญของเธอแน่นอน!” หลีเสี่ยวเถียนพูดพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ ฟู่สือเถียน “ประธานฟู่คะ ทำไมคุณไม่อยู่เป็นเพื่อนคู่หมั้นของคุณที่โรงพยาบาลล่ะ? คุณไม่ควรจะทอดทิ้งเธอเพราะว่าเธอแท้งใช่ไหมล่ะ? ไม่มีทางหรอกมั้ง? คุณไม่น่าจะเป็นพวกสารเลวได้? หรือว่าที่คุณอยู่กับเธอเพียงแ
เสี่ยวหานหันกลับมาและเหลือบมองไปทางฟู่สือถิง พอดีกับที่ฟู่สือถิงหันมามองพวกเขา พ่อและลูกชายสายตาประสานกัน ในอากาศเกิดประกายของดาบและเงากระบี่!เสี่ยวหานถลึงตาใส่เขาแล้วถอนสายตากลับมา “รุ่ยลา เขาไม่มีทางกินของที่เราให้เขาหรอกนะ” “ฮือ ๆ ๆ… พี่ชาย พี่ว่าเขามาบ้านของพวกเราทำไมคะ?” ในใจของรุ่ยลาเกลียดเขา แต่ก็อดมองไปทางเขาไม่ได้ เสี่ยวหาน “ไม่รู้สิ เธออิ่มแล้วเหรอ?”รุ่ยลาส่ายหน้า “หนูรอให้แม่เอาซอสมะเขือเทศมาให้อยู่” รุ่ยลาพูดจบ ฉินอันอันก็เดินถือซอสมะเขือเทศออกมาจากบ้าน หลีเสี่ยวเถียนเข้ามาหาเธอแล้วถามเสียงกระซิบ “อันอัน บ้านเธอมียาระบายหรือเปล่า?” ฉินอันอันส่ายหน้า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น “ฉันอยากจะขำแทบตาย เธอไม่เห็นสีหน้าฟู่สือถิงตอนนั้น ฮ่า ๆ ๆ! เขาอยากจะโกรธแต่ก็อายเกินจะทำแบบนั้น… เพราะสุดท้ายแล้วรุ่ยลาของพวกเราน่ารักขนาดนี้ ใครจะทำร้ายเธอได้ลงคอล่ะเนอะ?” ฉินอันอันพูดไม่ออกมิน่าล่ะ! รุ่ยลาถึงได้กินซอสมะเขือเทศหมดเร็วมากแล้วขอให้เธอไปหยิบในบ้านมาอีก ที่แท้ก็เพื่อกำจัดเธอ! ฉินอันอันวางเนื้อย่างลงตรงหน้าเด็กทั้ง
“ฟู่สือถิง คุณไม่เหนื่อยรึไง?” เธอกัดฟัน “คุณเหนื่อยเหรอ?” เขาจับข้อมือเล็กของเธอแล้วดึงเธอไปนั่งที่ขอบเตียง “วันนี้คุณชวนเพื่อนมากินบาร์บีคิว อารมณ์ดีมากใช่ไหม? พอเห็นผมก็เหนื่อยเลยเหรอ?” นิ้วของเขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อคลุมของเธอ เธอจับมือที่เย็นนิด ๆ ของเขาทันที น้ำเสียงอ้อนวอน “ฟู่สือถิง! อย่าทำเรื่องแบบนี้ในบ้านของฉัน!” “ทำไม?” เขาพูดเสียงเข้มโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอตอบ “ทำไมถึงทำที่บ้านคุณไม่ได้? เพราะว่ามีผู้ชายคนอื่นมานอนที่บ้านของคุณใช่ไหม?” ฉินอันอันผลักหน้าอกของเขาอย่างแรง “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรกไงล่ะ!” คำพูดของเธอทำให้ตัวของเขาแข็งทื่อทันที! เธอรังเกียจว่าเขาสกปรก…เพราะว่าเขาเคยนอนกับเสิ่นอวี๋ เธอรีบเดินไปที่ประตู ปลดล็อกประตูให้เขาออกไป เขามองประตูห้องที่เปิดออกแล้วเดินไป วาดแขนยาวออกแล้วปิดประตูลงอีกครั้ง! “คุณไม่สกปรกเหรอไง? ในท้องของคุณเคยตั้งท้องลูกของผู้ชายคนอื่น” เขาล็อกประตูแล้วคว้าเอวของเธอ อุ้มเธอขึ้นมาในอากาศ!ตอนนั้นเธอผ่าคลอด ดังนั้นจึงมีรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัดที่หน้าท้อง รอยแผลเป็นนี้กระตุ้นเขาอย่างหนักเพราะเธอบอกว่ารุ่ยลาเป็นเด็กหลอดแก้วท
“แม่คะ!”“แม่ครับ!”เสียงร้องเรียกของเด็กทั้งสองดังก้องไปทั่ววิลล่า ในห้องนอน เมื่อฉินอันอันได้ยินเสียงของเด็ก ๆ ร่างกายของเธอแข็งเกร็งทันที เธอต้องการสลัดตัวออกจากชายที่อยู่ด้านบน แต่เธอกลับทำไม่ได้ “ฟู่สือถิง! ปล่อยฉันนะ!” ในดวงตาของเธอมีน้ำตาอยู่ราง ๆ ด้วยความวิตก เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่นและไม่มีความคิดที่จะปล่อยไปแม้แต่น้อย “ผมยังไม่เสร็จ !” เสียงของเขาทุ้มต่ำและไม่พอใจ “คุณคิดว่าพวกเขามีธุระกับคุณจริง ๆ เหรอ?” “ไม่ว่าพวกเขาจะมาหาฉันตอนไหน มีอะไรผิดปกติหรือไม่ สำหรับฉันแล้ว นั่นคือเรื่องใหญ่สำหรับฉัน!” ดวงตาของเธอแดงก่ำ ขัดขืนเขาแรงขึ้น เขาตอบกลับด้วยการใช้กำลังบังคับเพิ่มขึ้น เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไป แล้วเธอจะสลัดหลุดได้ยังไง? น้ำตาเธอไหลในทันที! ดวงตาที่มองเขาค่อย ๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง! ที่นอกประตู เมื่อเห็นรุ่ยลากำลังจะร้องไห้ หลีเสี่ยวเถียนจึงรีบอุ้มเธอขึ้นมาทันที “รุ่ยลาอย่าร้องนะลูก ป้าดื่มมากไปหน่อย เมื่อกี้เลยพูดจาเหลวไหลไป” หลีเสี่ยวเถียนอ้มรุ่ยลาไปที่ห้องเด็ก “ฟู่สือถิงไม่ได้รังแกแม่ของหนู… พวกเราอยู่กันเยอะขนาดนี้
ตอนที่เธอปิดไฟ เขาเห็นน้ำตาของเธอไหลลงมาจากหางตาถึงแม้เขาจะพึงพอใจทางร่างกาย แต่ในใจกลับรู้สึกหดหู่การที่เธอไม่ร้องเอะอะโวยวายแบบนี้ กลับทำให้เขาไม่สบายใจ ในห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงแค่แสงสลัวจากไฟถนนที่ชั้นล่างส่องผ่านเข้ามา เขามองแผ่นหลังของเธอแล้วขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายต้องการเข้าใกล้เธอตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่อยู่ห่างกันแบบนี้ เขาขยับเข้าหาเธอ เหยียดแขนยาวออกแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน วินาทีที่เธอสัมผัสอุณหภูมิร่างกายเขา เธอก็ผลักเขาออกสุดกำลัง! “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “ไม่ปล่อย” แขนของเขากระชับกอดเธอแน่น วางคางบนไหล่เรียบเนียนของเธอ พร้อมกับสูดกลิ่นหอมบนตัวเธอ “คืนนี้ผมไม่กลับ” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมัดด้วยเชือกไพล่หลังรั้งคอ ขยับตัวไม่ได้ เขาไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเหมือนครั้งก่อน ไม่ว่าเขาจะมาหรือไป เขาเคยร้องขอความเห็นจากเธอเมื่อไหร่? ความคิดเห็นของเธอ มีประโยชน์อะไรกับเขาอีก? เขาไม่ต้องพูดเลย! ถึงยังไงเขาก็จะทำอย่างที่เขาต้องการ!……วันรุ่งขึ้น ฉินอันอันตื่นนอนตอนเจ็ดโมงเช้าตามปกติในวันทำงาน ตอนที่เธอตื่นขึ้น ชายห
ฟู่สือถิงเยาะเย้ยในใจ ฉินจือหานคิดจะเป็นพ่อเขา! น่าขำจริง ๆ ทว่าเด็กคนนี้นับว่าเด็ดเดี่ยวมาก เขาค้างที่นี่เมื่อคืนนี้ คาดว่าเด็กคนนั้นจะต้องโกรธจนนอนไม่หลับทั้งคืน ดังนั้นถึงได้โจมตีบริษัทของเขาในชั่วข้ามคืน เขาควรจะโกรธ ทว่าเมื่อในสมองเห็นภาพฉินจือหานโมโหจนนอนไม่หลับแล้วนั้น มุมปากของเขากลับวาดเป็นเส้นโค้งอย่างสนุกสนาน “เจ้านาย คุณต้องการแจ้งตำรวจไหมครับ?” โจวจื่ออี้ถาม ฟู่สือถิงก้าวไปข้างหน้าด้วยขายาวของเขา เดินลงไปชั้นล่างต่อแล้วพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ตอนนี้สถานการณ์ของฝ่ายรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นยังไงบ้าง?” โจวจื่ออี้ “กำลังเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุดครับ” ฟู่สือถิง “ต้องใช้เวลาซ่อมนานเท่าไหร่?” โจวจื่ออี้ “ทางนั้นแจ้งมาว่าจะซ่อมเสร็จก่อนเที่ยงครับ” ฟู่สือถิงเดินมาถึงชั้นล่างแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องแจ้งความ” โจวจื่ออี้ “ตกลงครับ เจ้านาย คุณสงสัยว่าฉินจือหานเป็นคนทำใช่ไหมครับ?” ฟู่สือถิง “ไม่ต้องสงสัยเลย” โจวจื่ออี้อดหัวเราะไม่ได้ “เอาเถอะครับ! เขานี่เป็นเด็กอัจฉริยะจริง ๆ นะครับ! หลังจากถูกเขาโจมตีคราวที่แล้ว ฝ่ายเทคนิคสร้างไฟร์วอลล์ไว้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเข