“แม่คะ!”“แม่ครับ!”เสียงร้องเรียกของเด็กทั้งสองดังก้องไปทั่ววิลล่า ในห้องนอน เมื่อฉินอันอันได้ยินเสียงของเด็ก ๆ ร่างกายของเธอแข็งเกร็งทันที เธอต้องการสลัดตัวออกจากชายที่อยู่ด้านบน แต่เธอกลับทำไม่ได้ “ฟู่สือถิง! ปล่อยฉันนะ!” ในดวงตาของเธอมีน้ำตาอยู่ราง ๆ ด้วยความวิตก เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่นและไม่มีความคิดที่จะปล่อยไปแม้แต่น้อย “ผมยังไม่เสร็จ !” เสียงของเขาทุ้มต่ำและไม่พอใจ “คุณคิดว่าพวกเขามีธุระกับคุณจริง ๆ เหรอ?” “ไม่ว่าพวกเขาจะมาหาฉันตอนไหน มีอะไรผิดปกติหรือไม่ สำหรับฉันแล้ว นั่นคือเรื่องใหญ่สำหรับฉัน!” ดวงตาของเธอแดงก่ำ ขัดขืนเขาแรงขึ้น เขาตอบกลับด้วยการใช้กำลังบังคับเพิ่มขึ้น เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไป แล้วเธอจะสลัดหลุดได้ยังไง? น้ำตาเธอไหลในทันที! ดวงตาที่มองเขาค่อย ๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง! ที่นอกประตู เมื่อเห็นรุ่ยลากำลังจะร้องไห้ หลีเสี่ยวเถียนจึงรีบอุ้มเธอขึ้นมาทันที “รุ่ยลาอย่าร้องนะลูก ป้าดื่มมากไปหน่อย เมื่อกี้เลยพูดจาเหลวไหลไป” หลีเสี่ยวเถียนอ้มรุ่ยลาไปที่ห้องเด็ก “ฟู่สือถิงไม่ได้รังแกแม่ของหนู… พวกเราอยู่กันเยอะขนาดนี้
ตอนที่เธอปิดไฟ เขาเห็นน้ำตาของเธอไหลลงมาจากหางตาถึงแม้เขาจะพึงพอใจทางร่างกาย แต่ในใจกลับรู้สึกหดหู่การที่เธอไม่ร้องเอะอะโวยวายแบบนี้ กลับทำให้เขาไม่สบายใจ ในห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงแค่แสงสลัวจากไฟถนนที่ชั้นล่างส่องผ่านเข้ามา เขามองแผ่นหลังของเธอแล้วขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายต้องการเข้าใกล้เธอตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่อยู่ห่างกันแบบนี้ เขาขยับเข้าหาเธอ เหยียดแขนยาวออกแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน วินาทีที่เธอสัมผัสอุณหภูมิร่างกายเขา เธอก็ผลักเขาออกสุดกำลัง! “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “ไม่ปล่อย” แขนของเขากระชับกอดเธอแน่น วางคางบนไหล่เรียบเนียนของเธอ พร้อมกับสูดกลิ่นหอมบนตัวเธอ “คืนนี้ผมไม่กลับ” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมัดด้วยเชือกไพล่หลังรั้งคอ ขยับตัวไม่ได้ เขาไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเหมือนครั้งก่อน ไม่ว่าเขาจะมาหรือไป เขาเคยร้องขอความเห็นจากเธอเมื่อไหร่? ความคิดเห็นของเธอ มีประโยชน์อะไรกับเขาอีก? เขาไม่ต้องพูดเลย! ถึงยังไงเขาก็จะทำอย่างที่เขาต้องการ!……วันรุ่งขึ้น ฉินอันอันตื่นนอนตอนเจ็ดโมงเช้าตามปกติในวันทำงาน ตอนที่เธอตื่นขึ้น ชายห
ฟู่สือถิงเยาะเย้ยในใจ ฉินจือหานคิดจะเป็นพ่อเขา! น่าขำจริง ๆ ทว่าเด็กคนนี้นับว่าเด็ดเดี่ยวมาก เขาค้างที่นี่เมื่อคืนนี้ คาดว่าเด็กคนนั้นจะต้องโกรธจนนอนไม่หลับทั้งคืน ดังนั้นถึงได้โจมตีบริษัทของเขาในชั่วข้ามคืน เขาควรจะโกรธ ทว่าเมื่อในสมองเห็นภาพฉินจือหานโมโหจนนอนไม่หลับแล้วนั้น มุมปากของเขากลับวาดเป็นเส้นโค้งอย่างสนุกสนาน “เจ้านาย คุณต้องการแจ้งตำรวจไหมครับ?” โจวจื่ออี้ถาม ฟู่สือถิงก้าวไปข้างหน้าด้วยขายาวของเขา เดินลงไปชั้นล่างต่อแล้วพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ตอนนี้สถานการณ์ของฝ่ายรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นยังไงบ้าง?” โจวจื่ออี้ “กำลังเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุดครับ” ฟู่สือถิง “ต้องใช้เวลาซ่อมนานเท่าไหร่?” โจวจื่ออี้ “ทางนั้นแจ้งมาว่าจะซ่อมเสร็จก่อนเที่ยงครับ” ฟู่สือถิงเดินมาถึงชั้นล่างแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องแจ้งความ” โจวจื่ออี้ “ตกลงครับ เจ้านาย คุณสงสัยว่าฉินจือหานเป็นคนทำใช่ไหมครับ?” ฟู่สือถิง “ไม่ต้องสงสัยเลย” โจวจื่ออี้อดหัวเราะไม่ได้ “เอาเถอะครับ! เขานี่เป็นเด็กอัจฉริยะจริง ๆ นะครับ! หลังจากถูกเขาโจมตีคราวที่แล้ว ฝ่ายเทคนิคสร้างไฟร์วอลล์ไว้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเข
เมื่อเข้ามาในห้องพิเศษด้านหลังแล้ว แม่เฒ่าฟู่หยิบโทรศัพท์ขึ้น “สวัสดีค่ะ คุณรู้จักฟู่สือถิงใช่ไหม? ฉันคือแม่ของเขา” อีกฝ่าย “สวัสดีคุณนายฟู่ ไม่ทราบว่าติดต่อมามีธุระอะไร?” “โรงเรียนอนุบาลของพวกคุณมีนักเรียนชื่อฉินจือหานใช่ไหม?” “ใช่ค่ะ” “คืออย่างนี้ค่ะ ฉันอยากได้เส้นผมของเขาสองสามเส้น ไม่รู้ว่าคุณจะสามารถเอามาให้ฉันได้ไหม ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้ ราคาเท่าไหร่คุณตั้งมาได้เลย” แม่เฒ่าฟู่พูดอย่างใจป้ำอีกฝ่ายงุนงง “คุณอยากได้ผมของเขาไปทำไม? ไม่ใช่ฉันไม่อยากทำให้คุณ แต่เกรงว่าคุณไม่รู้สภาพการณ์ของเด็กคนนี้ เขาไม่ยอมให้สัมผัสตัว ปกติแล้วมีแค่น้องสาวของเขาเท่านั้นที่สัมผัสเขาได้” แม่เฒ่าฟู่คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องที่ง่ายดายขนาดนี้ พอเป็นฉินจือหานกลับกลายเป็นเรื่องยากปานนั้น “คุณก็คิดวิธีสิ! ถ้าหากเอาเส้นผมมาไม่ได้ เอาเลือดมาก็ได้!” แม่เฒ่าฟู่กล่าว “บอกตามตรง แม่ของเขากับลูกชายฉันเคยแต่งงานกัน… ฉันสงสัยที่มาของเด็กคนนี้มาก ดังนั้นฉันขอร้องคุณช่วยฉันในเรื่องนี้ที หากจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะต้องตอบแทนคุณอย่างงามแน่นอน” แม่บ้านเห็นเงาคนที่ประตูแวบ ๆ จึงรีบเดินไปที่ประตูทันที “คุ
ที่เอสทีกรุ๊ป หลังจากที่เครือข่ายของบริษัทกลับมาเป็นปกติ โจวจื่ออี้ก็มาเคาะประตูห้องทำงานของฟู่สือถิง “เจ้านายครับ นี่คือสิ่งที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ขอให้ผมนำมาให้คุณครับ” โจวจื่ออี้ยื่นเอกสารปึกหนึ่งให้กับฟู่สือถิงขณะที่พูดฟู่สือถิงเหลือบมองเอกสารแล้วถามว่า “เอกสารอะไร?” “...ดูเหมือนว่าจะเป็นโค้ดไวรัสที่ฉินจือหานเขียนครับ” โจวจื่ออี้ชำเลืองมองแค่แวบเดียวจากนั้นไม่กล้ามองอีก ฟู่สือถิงเปิดเอกสาร ทันใดนั้นก็เห็นบรรทัดที่เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และตัวหนา ‘ฟู่สือถิงเป็นคนงี่เง่า’ฟู่สือถิงโกรธจนหน้าเขียวทันที นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อยขณะที่เปิดหน้าที่สอง ‘ฟู่สือถิงขับรถตกลงไปในแม่น้ำ!’ หน้าที่สาม ‘ฟู่สือถิงเข้าห้องน้ำแล้วกระดาษหมด!’ หน้าที่สี่ ‘ฟู่สือถิงขนมปังติดคอตาย!’ ……ฟู่สือถิงหยิบชุดเอกสารขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร! สีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก แต่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากมาย ท้ายที่สุดแล้วฉินจือหานคือเด็กสี่ขวบ เขาไม่อยากจะเอาจริงเอาจังด้วยขนาดนั้น ทันใดนั้นเอง ประตูห้องมีเสียงเคาะดังขึ้น จากนั้นก็ถูกผลักออก เซิ่งเป่ยยืนอยู่ที่ปากประตู “สือถิง ไ
เขาเกือบจะพูดออกมาตรง ๆ ‘ฉันต้องการลูกที่เกิดจากฉินอันอันเท่านั้น ลูกที่เกิดจากผู้หญิงคนอื่น ตายก็ตายไป ไม่มีอะไรให้เสียดาย เพราะฉันไม่ต้องการ!’ “งั้นนายจะให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายหรือไง?” เซิ่งเป่ยพูดล้อ “อืม” เซิ่งเป่ยตกตะลึงจนปากค้าง เกือบจะถือแก้วในมือไม่อยู่ “นายจะให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายจริง ๆ เหรอ?!” “เสิ่นอวี๋ขอให้ฉันแก้แค้นแทนลูกที่ตายไปของพวกเรา” “ดังนั้นนายเลยแก้แค้นด้วยการให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายงั้นเหรอ?” เซิ่งเป่ยไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ถ้าหากเสิ่นอวี๋รู้วิธีแก้แค้นของนาย น่ากลัวว่าเธอจะร้องไห้จนเป็นลม” ฟู่สือถิง “ฉันจะแก้แค้นยังไงก็เรื่องของฉัน” “ฉินอันอันเต็มใจเหรอ?” เซิ่งเป่ยรู้สึกว่าเรื่องไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน ฉินอันอันมีลูกอยู่แล้วสองคน ถึงแม้เสี่ยวหานจะถูกรับเลี้ยง แต่จากทัศนคติของเธอที่มีต่อเสี่ยวหานก็มองออกว่าเธอถือว่าเสี่ยวหานเป็นลูกที่เธอคลอดออกมาเอง เธอไม่อยากมีลูกอีกแน่นอน! “ไม่เต็มใจ” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้เธอเกลียดฉันเข้ากระดูกดำแล้ว” “นายบังคับให้เธอมีลูกให้นาย เธอต้องเกลียดนายอยู่แล้ว!” เซิ่งเป่ยคิดไม่ถึงว่าเขาจะตัด
มองภาพเธอยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้แล้ว เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เมื่อพบว่าเธอไม่ได้ยิ้มให้เขามานานมากประมาณห้าปีมาแล้วที่ร้านชุดแต่งงาน ฉินอันอันถอดชุดแต่งงานออกแล้ว เธอเลือกชุดราตรีสีชมพูม่วงอ่อน สำหรับใส่ในวันแต่งงานของหลีเสี่ยวเถียน “อีกไม่กี่ปี ฉันจะอายุสามสิบ ฉันไม่กล้าซื้อเสื้อผ้าสีนี้ใส่แล้ว” เธอพูดติดตลก “ฉวยโอกาสตอนที่ยังแสร้งทำเป็นเด็กได้อยู่ ซื้อแบบนี้ไว้สักสองสามชุดก็ดี” หลีเสี่ยวเถียน “อันอัน หน้าตาของเธอบอกคนอื่นว่าอายุยี่สิบเขาก็เชื่อ ถึงเธอจะอายุสามสิบแล้วก็เถอะ ไม่มีทางแก่ลงภายในชั่วข้ามคืนหรอก เธอทำตัวเป็นเด็กสาวได้อย่างสบายใจเลย!”“ปากจิ้มลิ้มของเธอนี่หวานจังเลยนะ มิน่าล่ะเฮ่อจุ่นจือถึงถูกเธอคุมเสียอยู่หมัดเลย” ฉินอันอันพูดพร้อมรอยยิ้ม“เขาคบกับฉัน เขาก็ต้องหาเงินใช่ไหมล่ะ?” หลังจากหลีเสี่ยวเถียนลองชุดแต่งงานสั่งตัดทีละชุด แล้วพูดอย่างพึงพอใจว่า “ตอนนี้ก็แค่รองานแต่งงาน! จริงสิ ใกล้จะถึงวันเกิดลูกน้อยสุดที่รักทั้งสองของเธอแล้วใช่ไหม? วางแผนว่ายังไงเหรอ?” ฉินอันอัน “อยู่บ้าน” “หา?! ไม่คิดจะจัดงานปาร์ตี้เลยเหรอ? ปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านน่ะ?” หลีเสี่ยวเถียนเล
หลีเสี่ยวเถียนและฉินอันอันเลือกนั่งที่นั่งริมหน้าต่างในห้องโถง ตรงนี้วิวสวยที่สุด “คุณแม่!” รุ่ยลาจับมือพี่ชาย วิ่งไปหาฉินอันอัน ฉินอันอันอุ้มพวกเขาทั้งคู่มานั่งที่โซฟา “วันนี้ที่โรงเรียนสนุกไหม?” รุ่ยลาส่ายหน้า “แม่คะ คุณครูบอกว่าอาทิตย์หน้าต้องแทงนิ้ว… หนูกลัวเจ็บ...” เสี่ยวหานอธิบาย “ทดสอบน้ำตาลในเลือดครับ” ฉินอันอันเข้าใจได้ทันที เธอรีบพูดปลอบ “ไม่ต้องกลัวนะลูกรัก เจ็บนิดเดียวเท่านั้น” รุ่ยลาถูกเค้กบนโต๊ะดึงดูดสายตาแล้ว “แม่ วันนี้วันเกิดใครเหรอคะ? วันเกิดป้าเสี่ยวเถียนเหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “วันนี้พวกเราจัดวันเกิดล่วงหน้าให้หนูกับพี่ชายของหนูไงล่ะ! ดีใจหรือเปล่า?” พูดแล้วเธอก็หยิบของขวัญที่ห่อมาอย่างสวยงามยื่นให้หนูน้อยทั้งสอง “ดีใจค่ะ!” รุ่ยลารับของขวัญมาด้วยความตื่นเต้น ปากน้อย ๆ หวานปานน้ำผึ้ง “ขอบคุณป้าเถียนนะคะ หนูชอบป้ามากเลย!” “ป้าก็ชอบหนูเช่นกัน!” หลีเสี่ยวเถียนยกมือขึ้นลูบศีรษะรุ่ยลา ฉินอันอันทำท่าให้เสี่ยวหานรับของขวัญ เสี่ยวหานรับของขวัญมาแล้ว ใบหน้าเล็ก ๆ ที่หล่อเหลานั้นแดงระเรื่อ “ขอบคุณครับ” “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก! พว