หลีเสี่ยวเถียนและฉินอันอันเลือกนั่งที่นั่งริมหน้าต่างในห้องโถง ตรงนี้วิวสวยที่สุด “คุณแม่!” รุ่ยลาจับมือพี่ชาย วิ่งไปหาฉินอันอัน ฉินอันอันอุ้มพวกเขาทั้งคู่มานั่งที่โซฟา “วันนี้ที่โรงเรียนสนุกไหม?” รุ่ยลาส่ายหน้า “แม่คะ คุณครูบอกว่าอาทิตย์หน้าต้องแทงนิ้ว… หนูกลัวเจ็บ...” เสี่ยวหานอธิบาย “ทดสอบน้ำตาลในเลือดครับ” ฉินอันอันเข้าใจได้ทันที เธอรีบพูดปลอบ “ไม่ต้องกลัวนะลูกรัก เจ็บนิดเดียวเท่านั้น” รุ่ยลาถูกเค้กบนโต๊ะดึงดูดสายตาแล้ว “แม่ วันนี้วันเกิดใครเหรอคะ? วันเกิดป้าเสี่ยวเถียนเหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “วันนี้พวกเราจัดวันเกิดล่วงหน้าให้หนูกับพี่ชายของหนูไงล่ะ! ดีใจหรือเปล่า?” พูดแล้วเธอก็หยิบของขวัญที่ห่อมาอย่างสวยงามยื่นให้หนูน้อยทั้งสอง “ดีใจค่ะ!” รุ่ยลารับของขวัญมาด้วยความตื่นเต้น ปากน้อย ๆ หวานปานน้ำผึ้ง “ขอบคุณป้าเถียนนะคะ หนูชอบป้ามากเลย!” “ป้าก็ชอบหนูเช่นกัน!” หลีเสี่ยวเถียนยกมือขึ้นลูบศีรษะรุ่ยลา ฉินอันอันทำท่าให้เสี่ยวหานรับของขวัญ เสี่ยวหานรับของขวัญมาแล้ว ใบหน้าเล็ก ๆ ที่หล่อเหลานั้นแดงระเรื่อ “ขอบคุณครับ” “ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก! พว
ตอนที่ฟู่สือถิงปรากฎตัวที่โต๊ะอาหาร ฉินอันอันกำลังถือส้อมและเอาเค้กชิ้นเล็ก ๆ เข้าปาก ทันใดนั้นดวงตาทรงแอปริคอทก็มองเห็นเขา เธอเกือบกัดส้อมพลาสติกแตก ต้องมีโชคแบบไหนถึงได้ออกมากินข้าวนอกบ้านแล้วยังบังเอิญเจอเขา หลีเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วไม่พอใจ “ประธานฟู่ บังเอิญอะไรอย่างนี้คะ? เย็นนี้มีงานเลี้ยงอาหารค่ำเหรอคะ?” เธอพูดเหน็บแนมแล้วโบกมือทักทายกับกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง ทุกคนแสดงสีหน้าที่สุภาพแต่กลับยิ้มอย่างสงวนท่าทีฟู่สือถิงเหลือบมองเค้กบนโต๊ะ ก่อนจะสบตากับเด็กทั้งสองคน “วันเกิดพวกเขาเหรอ?” เสียงที่ทุ้มต่ำและมีพลงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย เขาจำได้ว่าวันเกิดของฉินจื่อหานคือวันที่สิบสาม เดือนเมษายน ไม่ใช่วันนี้ ฉินอันอันรู้สึกว่าเลือดในตัวเดือดพล่านขึ้นมา! เธอไม่ได้ฉลองวันเกิดให้ลูกทั้งสองคนด้วยกลัวว่าเขาจะรู้ ผลคือต้องแอบฉลองให้ลูก ก็ยังโดนเขาพบเข้าอีก! เขามองดูใบหน้าที่หวาดกลัว ตื่นตระหนกและท่าทางไม่สบายใจของเธอ สมองก็ประมวลด้วยความความเร็วสูงวันเกิดของฉินจือหานไม่ใช่วันที่สิบสามเมษายนแต่เป็นวันนี้งั้นเหรอ? และรุ่ยลาก็เกิดวันนี้ด้วยเหมือนกัน?เด็กสองคนนี้มีวันเกิดว
ช่างตรงไปตรงมาและหยาบคายเสียจริงนัดเธอมาปลดหนี้คืนนี้ เธอขมวดคิ้วแล้วตอบกลับว่า : คืนนี้ไม่ได้ หลังจากส่งข้อความไปแล้ว เขาก็ตอบกลับมาเร็วมากเธอสามารถจินตนาการถึงใบหน้าโกรธเกรี้ยวที่เธอไม่เชื่อฟังได้เลยด้วยซ้ำ : ผมไม่ได้คุยขอร้อง แต่นี่เป็นคำสั่ง!นี่คือคำตอบของเขา เมื่อมองดูทุกคำพูดและเครื่องหมายวรรคตอนทั้งหมดที่เขาส่งมา สีหน้าของเธอสงบนิ่งและผ่อนคลายลง : คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผู้หญิงมีประจำเดือน? ฟู่สือถิงเงียบไม่ตอบฉินอันอัน : ยังจะนัดอยู่ไหมคะ? ฟู่สือถิง : คุณกำลังยั่วโมโหผมเหรอ? ฉินอันอันไม่กล้าตอบกลับไปอีกเธอกล้ายั่วโมโหเขาจริง ๆ ที่ไหนกัน……บนชั้นสองของภัตตาคาร ฟู่สือถิงไม่ได้รอคำตอบจากเธอ เขาวางโทรศัพท์ลง ตอนที่เขาหยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความเมื่อกี้นี้ ทุกคนไม่กล้าพูดอะไร พอเห็นเขาวางโทรศัพท์ลงแล้ว บรรยากาศถึงได้ผ่อนคลาย“ประธานฟู่ คุณฉินที่ชั้นล่างเมื่อกี้ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของฉินกรุ๊ปใช่ไหม?” “ใช่แล้วล่ะ มีรูปของเธอบนอินเตอร์เน็ต แค่ค้นหาดูก็เจอแล้ว” คนข้าง ๆ แสดงภาพที่ค้นหาออกมาให้ทุกคนดู “พวกคุณรู้จักหวังหว่านจือหรือเปล่า? เธอเคยเป็นแม่เลี้ยงของฉิน
พยาบาลเดินไปที่รถแล้วยื่นหลอดตัวอย่างเลือดให้แม่เฒ่าฟู่ “ราบรื่นขนาดนี้เชียว?” แม่เฒ่าฟู่รับหลอดตัวอย่างเลือดมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ พยาบาลพยักหน้า “น้องสาวของเขากลัวเจ็บ เขาจึงเจาะเลือดก่อนเพื่อเป็นตัวอย่างให้น้องสาวดู พี่น้องคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากเลยค่ะ” แม่เฒ่าฟู่สนใจแค่เสี่ยวหานเท่านั้น รุ่ยลาดูไม่เหมือนฟู่สือถิงเลย และเธอก็ได้ยินมาว่ารุ่ยลาเป็นลูกของฉินอันอันกับผู้ชายอีกคน แม่เฒ่าฟู่คิดว่าถึงแม้เสี่ยวหานจะเป็นลูกชายของฟู่สือถิงจริง แต่เธอก็ไม่มีทางยอมรับฉินอันอัน ฉินอันอันมีลูกกับผู้ชายคนอื่น ถ้าเธอยอมรับหญิงสาว คนอื่นจะมองฟู่สือถิงอย่างไร? แม่เฒ่าฟู่เก็บหลอดตัวอย่างเลือดแล้วปิดประตูรถ รถมุ่งตรงไปยังศูนย์ตรวจดีเอ็นเอ หลังจากถึงที่หมาย แม่เฒ่าฟู่ก็ยื่นตัวอย่างเลือดของฟูสือถิงและฉินจือหานให้กับเจ้าหน้าที่ “จะทราบผลเมื่อไหร่คะ?” เจ้าหน้าที่ “ปกติใช้เวลาสามวันทำการค่ะ เราจะแจ้งให้คุณทราบทันทีที่ทราบผลนะคะ” แม่เฒ่าฟู่อดทนต่อความตื่นเต้นและพยักหน้า…… ที่ฉินกรุ๊ป ประชุมประจำวันจันทร์ “ประธานฉิน ฝั่งหวังหว่านจือมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่!” รองประธ
บนโต๊ะมีการ์ดเชิญใบสวยวางอยู่หนึ่งใบ เธอเปิดการ์ดออกดู มันคือจดหมายเชิญจากการประชุมผู้นำระดับสูง ไมค์ผลักประตูแล้วเข้ามา เมื่อเห็นเธอถือการ์ดเชิญจึงอธิบายว่า “ถ้าเธอไม่อยากไป...” “ฉันจะไป” เธอพูดพลางเปิดกระเป๋า หยิบลิปสติกจากด้านในและเริ่มแต่งหน้า ไมค์ถอนหายใจ “เธอถูกยั่วยุแล้ว! นี่คือลิปสติกแท่งใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมาหรือเปล่า? สีสวยดี! เธอเคยเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าว่าแต่หวังหว่านจือคนเดียวเลย ต่อให้หวังหว่านจือสิบคน ก็สู้เธอไม่ได้” ฉินอันอันแต่งหน้าเสร็จก็ใส่ลิปสติกและแป้งตลับกลับลงกระเป๋าไป แล้วมองเขาด้วยดวงตาเรียว “นายอยากไปกับฉันไหม?” “แน่นอน ฉันจะเป็นคนขับรถให้เธอเอง” ที่ด้านหน้างานการประชุมผู้นำประดับสูง หัวกะทิจากทุกสาขาอาชีพมารวมตัวกัน หลังจากที่ฉินอันอันมาถึงหน้างาน เธอก็ถูกคนที่รับผิดชอบเชิญไปหลังเวทีทันที “คุณฉิน ผมอยากให้คุณขึ้นไปพูดบนเวที ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที คุณต้องเตรียมคำพูดของคุณไว้ก่อนนะครับ” ฉินอันอันพยักหน้า แต่กลับพบว่าไมค์หายไป เธอไม่ได้เตรียมคำพูดไว้ล่วงหน้า และตอนนี้ก็สายเกินกว่าจะเตรียมตัว ดังนั้นเ
งานประชุมผู้นำระดับสูง หลังจากทะเลาะกันเกือบยี่สิบนาทีไมค์และโจวจื่ออี้ก็รู้สึกเหนื่อย “คุณมันงี่เง่า!” โจวจื่อี้ดันแว่นตาที่ดั้งจมูกของเขาขึ้นแล้วกล่าวเสริม ไมค์หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา “ทุกครั้งที่คุณพูดถึงเจ้านายของคุณ คุณจะเสียสติ คุณควรไตร่ตรองให้ดีนะ! เจ้านายของคุณไม่ใช่พ่อผู้ให้กำเนิดคุณเสียหน่อย แล้วทำไมคุณถึงบอกว่าคุณเข้าใจเขาล่ะ?” “คนที่ควรไตร่ตรองให้ดีคือคุณต่างหากล่ะ! คุณสนใจด้วยเหรอว่าเจ้านายของผมจะลงทุนกับใคร? แม้ว่าเขาจะลงทุนกับหวังหว่านจือจริง ๆ นั่นก็หมายความว่าหวังหว่านจือมีมูลค่าด้านการค้าเท่านั้น! ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชื่นชมตัวตนของหวังหว่านจือเสียหน่อย!” โจวจื่ออี้โต้กลับ “ทีหลังอย่าเรียกผมมาดื่มอีกนะ! เพราะคุณกับหวังหว่านจือลงเรือลำเดียวกันแล้ว งั้นต่อไปก็ไม่ต้องติดต่อกันอีก! ผมเป็นคนของฉินอันอัน!” ไมค์ขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับเขา สีหน้าของโจวจื่ออี้เปลี่ยนเป็นสีแดง “ไม่ติดต่อก็อย่าได้ติดต่อกัน ตามนั้น! ใครอยากติดต่อกับคุณนักล่ะ?!” หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกัน พวกเขาก็ต่างออกไปตามหาเจ้านายของตัวเอง สิบนาทีต่อมา ไมค์หาฉินอันอันไม่เจอ เขาจึงไปหาโจวจื่ออ
เธอเม้มริมฝีปากแดงแล้วก้าวไปที่ประตู “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะลงทุนเงินกับหวังหว่านจือหรือเปล่า” เมื่อเธอเดินไปที่ประตู เสียงเกียจคร้านของเขาก็ดังขึ้น “ผมให้เสิ่นอวี๋ไปสองพันล้าน” ‘สองพันล้าน?’ ‘เขาให้เสิ่นอวี๋ไปสองพันล้านเลยเหรอ?’ เธอเกือบจะโพล่งออกมา “ไม่ใช่พันล้านเหรอ?” เขาหัวเราะเบา ๆ “ที่แท้คุณก็แอบสนใจเรื่องเธอกับผม ก่อนหน้านี้ผมให้เธอหนึ่งพันล้านและให้อีกหนึ่งพันล้านเมื่อวันก่อน เพราะเธอทำการผ่าตัดอิ๋นอิ๋นสองครั้ง ครั้งละหนึ่งพันล้านไง” ฉินอันอันกำหมัดแน่น! เนื่องจากการผ่าตัดทั้งสองครั้งนี้ เสิ่นอวี๋จึงได้รับเงินค่าตอบแทนจำนวนสองพันล้านบาทจากฟู่สือถิง! หลังจากที่เสิ่นอวี๋ได้รับเงินสองพันล้าน ก็ยกเงินทั้งหมดให้หวังหว่านจือ! ‘ดูถูกกันเกินไปแล้ว!’ เรื่องน่าขันที่สุดที่เธอเคยเจอมา ยังไม่ไร้สาระเท่าเรื่องนี้เลย! เพราะการผ่าตัดทั้งสองครั้งล้วนเป็นฝีมือของเธอ! กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอยกเงินให้หวังหว่านจือสองพันล้าน! หึหึ! เธออยากให้หวังหว่านจือตาย! จะให้เงินหวังหว่านจือได้ยังไง?! ฟู่สือถิงเห็นว่าร่างกายของเธอแข็งทื่อและดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อย เขารีบแต่งตัวแล้
“แม่คะ เป็นเพราะหนูกลัวเจ็บ พี่พยาบาลเลยให้พี่เป็นตัวอย่างให้หนู” รุ่ยลาอธิบายเหตุผล “พี่ทำเพื่อหนู ให้หนูได้เจาะเลือด เขารักหนูมากเลยค่ะ” หลังจากได้ยินเหตุผลแล้ว ฉินอันอันก็ถอนหายใจ “ลูกสองคนทั้งน่ารักและมีเหตุผล แม่รักลูก ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ เลย!” “แม่คะ พวกเราก็รักแม่เหมือนกันนะคะ!” ดวงตาสีดำราวกับระฆังของรุ่ยลาเต็มไปด้วยความสุข บอดี้การ์ดยืนอยู่ข้าง ๆ พลางเกาหัว “คุณฉินให้ผมไปทำอาหารไหมครับ?” ฉินอันอัน “จะเป็นการรบกวนคุณเกินไปหรือเปล่าคะ?” บอดี้การ์ดส่ายหน้า “ไม่รบกวนเลยครับ” พูดจบ บอดี้การ์ดก็เข้าไปในครัว “แม่คะ ลุงบอดี้การ์ดทำอาหารอร่อยมากเลยนะคะ! เขาบอกว่าคืนนี้จะทำปีกไก่โค้กให้เรากิน” รุ่ยลาจับมือฉินอันอันแล้วพึมพำ “ทำไมลุงไมค์ไม่กลับมาด้วยล่ะคะ?” เธอขมวดคิ้ว “เขามีธุระ เราจึงไม่ได้กลับมาด้วยกัน” หลังจากที่ฟู่สือถิงปิดโทรศัพท์ของเธอ เธอก็ไม่ได้เปิดเครื่องเลย เมื่อบ่ายวันนี้ไมค์หาเธอไม่เจอ เขาคงเป็นกังวลมาก! เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าทันทีแล้วเปิดเครื่อง เมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับของไมค์ เธอก็โทรกลับ ไมค์รับโทรศัพท์ทันที “ฉินอันอัน! ต่อไปถ้าเธอถูก