เสี่ยวหานหันกลับมาและเหลือบมองไปทางฟู่สือถิง พอดีกับที่ฟู่สือถิงหันมามองพวกเขา พ่อและลูกชายสายตาประสานกัน ในอากาศเกิดประกายของดาบและเงากระบี่!เสี่ยวหานถลึงตาใส่เขาแล้วถอนสายตากลับมา “รุ่ยลา เขาไม่มีทางกินของที่เราให้เขาหรอกนะ” “ฮือ ๆ ๆ… พี่ชาย พี่ว่าเขามาบ้านของพวกเราทำไมคะ?” ในใจของรุ่ยลาเกลียดเขา แต่ก็อดมองไปทางเขาไม่ได้ เสี่ยวหาน “ไม่รู้สิ เธออิ่มแล้วเหรอ?”รุ่ยลาส่ายหน้า “หนูรอให้แม่เอาซอสมะเขือเทศมาให้อยู่” รุ่ยลาพูดจบ ฉินอันอันก็เดินถือซอสมะเขือเทศออกมาจากบ้าน หลีเสี่ยวเถียนเข้ามาหาเธอแล้วถามเสียงกระซิบ “อันอัน บ้านเธอมียาระบายหรือเปล่า?” ฉินอันอันส่ายหน้า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” หลีเสี่ยวเถียนเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น “ฉันอยากจะขำแทบตาย เธอไม่เห็นสีหน้าฟู่สือถิงตอนนั้น ฮ่า ๆ ๆ! เขาอยากจะโกรธแต่ก็อายเกินจะทำแบบนั้น… เพราะสุดท้ายแล้วรุ่ยลาของพวกเราน่ารักขนาดนี้ ใครจะทำร้ายเธอได้ลงคอล่ะเนอะ?” ฉินอันอันพูดไม่ออกมิน่าล่ะ! รุ่ยลาถึงได้กินซอสมะเขือเทศหมดเร็วมากแล้วขอให้เธอไปหยิบในบ้านมาอีก ที่แท้ก็เพื่อกำจัดเธอ! ฉินอันอันวางเนื้อย่างลงตรงหน้าเด็กทั้ง
“ฟู่สือถิง คุณไม่เหนื่อยรึไง?” เธอกัดฟัน “คุณเหนื่อยเหรอ?” เขาจับข้อมือเล็กของเธอแล้วดึงเธอไปนั่งที่ขอบเตียง “วันนี้คุณชวนเพื่อนมากินบาร์บีคิว อารมณ์ดีมากใช่ไหม? พอเห็นผมก็เหนื่อยเลยเหรอ?” นิ้วของเขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อคลุมของเธอ เธอจับมือที่เย็นนิด ๆ ของเขาทันที น้ำเสียงอ้อนวอน “ฟู่สือถิง! อย่าทำเรื่องแบบนี้ในบ้านของฉัน!” “ทำไม?” เขาพูดเสียงเข้มโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอตอบ “ทำไมถึงทำที่บ้านคุณไม่ได้? เพราะว่ามีผู้ชายคนอื่นมานอนที่บ้านของคุณใช่ไหม?” ฉินอันอันผลักหน้าอกของเขาอย่างแรง “เพราะฉันคิดว่าคุณสกปรกไงล่ะ!” คำพูดของเธอทำให้ตัวของเขาแข็งทื่อทันที! เธอรังเกียจว่าเขาสกปรก…เพราะว่าเขาเคยนอนกับเสิ่นอวี๋ เธอรีบเดินไปที่ประตู ปลดล็อกประตูให้เขาออกไป เขามองประตูห้องที่เปิดออกแล้วเดินไป วาดแขนยาวออกแล้วปิดประตูลงอีกครั้ง! “คุณไม่สกปรกเหรอไง? ในท้องของคุณเคยตั้งท้องลูกของผู้ชายคนอื่น” เขาล็อกประตูแล้วคว้าเอวของเธอ อุ้มเธอขึ้นมาในอากาศ!ตอนนั้นเธอผ่าคลอด ดังนั้นจึงมีรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัดที่หน้าท้อง รอยแผลเป็นนี้กระตุ้นเขาอย่างหนักเพราะเธอบอกว่ารุ่ยลาเป็นเด็กหลอดแก้วท
“แม่คะ!”“แม่ครับ!”เสียงร้องเรียกของเด็กทั้งสองดังก้องไปทั่ววิลล่า ในห้องนอน เมื่อฉินอันอันได้ยินเสียงของเด็ก ๆ ร่างกายของเธอแข็งเกร็งทันที เธอต้องการสลัดตัวออกจากชายที่อยู่ด้านบน แต่เธอกลับทำไม่ได้ “ฟู่สือถิง! ปล่อยฉันนะ!” ในดวงตาของเธอมีน้ำตาอยู่ราง ๆ ด้วยความวิตก เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่นและไม่มีความคิดที่จะปล่อยไปแม้แต่น้อย “ผมยังไม่เสร็จ !” เสียงของเขาทุ้มต่ำและไม่พอใจ “คุณคิดว่าพวกเขามีธุระกับคุณจริง ๆ เหรอ?” “ไม่ว่าพวกเขาจะมาหาฉันตอนไหน มีอะไรผิดปกติหรือไม่ สำหรับฉันแล้ว นั่นคือเรื่องใหญ่สำหรับฉัน!” ดวงตาของเธอแดงก่ำ ขัดขืนเขาแรงขึ้น เขาตอบกลับด้วยการใช้กำลังบังคับเพิ่มขึ้น เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไป แล้วเธอจะสลัดหลุดได้ยังไง? น้ำตาเธอไหลในทันที! ดวงตาที่มองเขาค่อย ๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง! ที่นอกประตู เมื่อเห็นรุ่ยลากำลังจะร้องไห้ หลีเสี่ยวเถียนจึงรีบอุ้มเธอขึ้นมาทันที “รุ่ยลาอย่าร้องนะลูก ป้าดื่มมากไปหน่อย เมื่อกี้เลยพูดจาเหลวไหลไป” หลีเสี่ยวเถียนอ้มรุ่ยลาไปที่ห้องเด็ก “ฟู่สือถิงไม่ได้รังแกแม่ของหนู… พวกเราอยู่กันเยอะขนาดนี้
ตอนที่เธอปิดไฟ เขาเห็นน้ำตาของเธอไหลลงมาจากหางตาถึงแม้เขาจะพึงพอใจทางร่างกาย แต่ในใจกลับรู้สึกหดหู่การที่เธอไม่ร้องเอะอะโวยวายแบบนี้ กลับทำให้เขาไม่สบายใจ ในห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงแค่แสงสลัวจากไฟถนนที่ชั้นล่างส่องผ่านเข้ามา เขามองแผ่นหลังของเธอแล้วขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายต้องการเข้าใกล้เธอตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่อยู่ห่างกันแบบนี้ เขาขยับเข้าหาเธอ เหยียดแขนยาวออกแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน วินาทีที่เธอสัมผัสอุณหภูมิร่างกายเขา เธอก็ผลักเขาออกสุดกำลัง! “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “ไม่ปล่อย” แขนของเขากระชับกอดเธอแน่น วางคางบนไหล่เรียบเนียนของเธอ พร้อมกับสูดกลิ่นหอมบนตัวเธอ “คืนนี้ผมไม่กลับ” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมัดด้วยเชือกไพล่หลังรั้งคอ ขยับตัวไม่ได้ เขาไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเหมือนครั้งก่อน ไม่ว่าเขาจะมาหรือไป เขาเคยร้องขอความเห็นจากเธอเมื่อไหร่? ความคิดเห็นของเธอ มีประโยชน์อะไรกับเขาอีก? เขาไม่ต้องพูดเลย! ถึงยังไงเขาก็จะทำอย่างที่เขาต้องการ!……วันรุ่งขึ้น ฉินอันอันตื่นนอนตอนเจ็ดโมงเช้าตามปกติในวันทำงาน ตอนที่เธอตื่นขึ้น ชายห
ฟู่สือถิงเยาะเย้ยในใจ ฉินจือหานคิดจะเป็นพ่อเขา! น่าขำจริง ๆ ทว่าเด็กคนนี้นับว่าเด็ดเดี่ยวมาก เขาค้างที่นี่เมื่อคืนนี้ คาดว่าเด็กคนนั้นจะต้องโกรธจนนอนไม่หลับทั้งคืน ดังนั้นถึงได้โจมตีบริษัทของเขาในชั่วข้ามคืน เขาควรจะโกรธ ทว่าเมื่อในสมองเห็นภาพฉินจือหานโมโหจนนอนไม่หลับแล้วนั้น มุมปากของเขากลับวาดเป็นเส้นโค้งอย่างสนุกสนาน “เจ้านาย คุณต้องการแจ้งตำรวจไหมครับ?” โจวจื่ออี้ถาม ฟู่สือถิงก้าวไปข้างหน้าด้วยขายาวของเขา เดินลงไปชั้นล่างต่อแล้วพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “ตอนนี้สถานการณ์ของฝ่ายรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นยังไงบ้าง?” โจวจื่ออี้ “กำลังเร่งแก้ไขโดยเร็วที่สุดครับ” ฟู่สือถิง “ต้องใช้เวลาซ่อมนานเท่าไหร่?” โจวจื่ออี้ “ทางนั้นแจ้งมาว่าจะซ่อมเสร็จก่อนเที่ยงครับ” ฟู่สือถิงเดินมาถึงชั้นล่างแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องแจ้งความ” โจวจื่ออี้ “ตกลงครับ เจ้านาย คุณสงสัยว่าฉินจือหานเป็นคนทำใช่ไหมครับ?” ฟู่สือถิง “ไม่ต้องสงสัยเลย” โจวจื่ออี้อดหัวเราะไม่ได้ “เอาเถอะครับ! เขานี่เป็นเด็กอัจฉริยะจริง ๆ นะครับ! หลังจากถูกเขาโจมตีคราวที่แล้ว ฝ่ายเทคนิคสร้างไฟร์วอลล์ไว้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเข
เมื่อเข้ามาในห้องพิเศษด้านหลังแล้ว แม่เฒ่าฟู่หยิบโทรศัพท์ขึ้น “สวัสดีค่ะ คุณรู้จักฟู่สือถิงใช่ไหม? ฉันคือแม่ของเขา” อีกฝ่าย “สวัสดีคุณนายฟู่ ไม่ทราบว่าติดต่อมามีธุระอะไร?” “โรงเรียนอนุบาลของพวกคุณมีนักเรียนชื่อฉินจือหานใช่ไหม?” “ใช่ค่ะ” “คืออย่างนี้ค่ะ ฉันอยากได้เส้นผมของเขาสองสามเส้น ไม่รู้ว่าคุณจะสามารถเอามาให้ฉันได้ไหม ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้ ราคาเท่าไหร่คุณตั้งมาได้เลย” แม่เฒ่าฟู่พูดอย่างใจป้ำอีกฝ่ายงุนงง “คุณอยากได้ผมของเขาไปทำไม? ไม่ใช่ฉันไม่อยากทำให้คุณ แต่เกรงว่าคุณไม่รู้สภาพการณ์ของเด็กคนนี้ เขาไม่ยอมให้สัมผัสตัว ปกติแล้วมีแค่น้องสาวของเขาเท่านั้นที่สัมผัสเขาได้” แม่เฒ่าฟู่คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องที่ง่ายดายขนาดนี้ พอเป็นฉินจือหานกลับกลายเป็นเรื่องยากปานนั้น “คุณก็คิดวิธีสิ! ถ้าหากเอาเส้นผมมาไม่ได้ เอาเลือดมาก็ได้!” แม่เฒ่าฟู่กล่าว “บอกตามตรง แม่ของเขากับลูกชายฉันเคยแต่งงานกัน… ฉันสงสัยที่มาของเด็กคนนี้มาก ดังนั้นฉันขอร้องคุณช่วยฉันในเรื่องนี้ที หากจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะต้องตอบแทนคุณอย่างงามแน่นอน” แม่บ้านเห็นเงาคนที่ประตูแวบ ๆ จึงรีบเดินไปที่ประตูทันที “คุ
ที่เอสทีกรุ๊ป หลังจากที่เครือข่ายของบริษัทกลับมาเป็นปกติ โจวจื่ออี้ก็มาเคาะประตูห้องทำงานของฟู่สือถิง “เจ้านายครับ นี่คือสิ่งที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ขอให้ผมนำมาให้คุณครับ” โจวจื่ออี้ยื่นเอกสารปึกหนึ่งให้กับฟู่สือถิงขณะที่พูดฟู่สือถิงเหลือบมองเอกสารแล้วถามว่า “เอกสารอะไร?” “...ดูเหมือนว่าจะเป็นโค้ดไวรัสที่ฉินจือหานเขียนครับ” โจวจื่ออี้ชำเลืองมองแค่แวบเดียวจากนั้นไม่กล้ามองอีก ฟู่สือถิงเปิดเอกสาร ทันใดนั้นก็เห็นบรรทัดที่เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และตัวหนา ‘ฟู่สือถิงเป็นคนงี่เง่า’ฟู่สือถิงโกรธจนหน้าเขียวทันที นิ้วของเขาสั่นเล็กน้อยขณะที่เปิดหน้าที่สอง ‘ฟู่สือถิงขับรถตกลงไปในแม่น้ำ!’ หน้าที่สาม ‘ฟู่สือถิงเข้าห้องน้ำแล้วกระดาษหมด!’ หน้าที่สี่ ‘ฟู่สือถิงขนมปังติดคอตาย!’ ……ฟู่สือถิงหยิบชุดเอกสารขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร! สีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก แต่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยามากมาย ท้ายที่สุดแล้วฉินจือหานคือเด็กสี่ขวบ เขาไม่อยากจะเอาจริงเอาจังด้วยขนาดนั้น ทันใดนั้นเอง ประตูห้องมีเสียงเคาะดังขึ้น จากนั้นก็ถูกผลักออก เซิ่งเป่ยยืนอยู่ที่ปากประตู “สือถิง ไ
เขาเกือบจะพูดออกมาตรง ๆ ‘ฉันต้องการลูกที่เกิดจากฉินอันอันเท่านั้น ลูกที่เกิดจากผู้หญิงคนอื่น ตายก็ตายไป ไม่มีอะไรให้เสียดาย เพราะฉันไม่ต้องการ!’ “งั้นนายจะให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายหรือไง?” เซิ่งเป่ยพูดล้อ “อืม” เซิ่งเป่ยตกตะลึงจนปากค้าง เกือบจะถือแก้วในมือไม่อยู่ “นายจะให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายจริง ๆ เหรอ?!” “เสิ่นอวี๋ขอให้ฉันแก้แค้นแทนลูกที่ตายไปของพวกเรา” “ดังนั้นนายเลยแก้แค้นด้วยการให้ฉินอันอันคลอดลูกให้นายงั้นเหรอ?” เซิ่งเป่ยไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ถ้าหากเสิ่นอวี๋รู้วิธีแก้แค้นของนาย น่ากลัวว่าเธอจะร้องไห้จนเป็นลม” ฟู่สือถิง “ฉันจะแก้แค้นยังไงก็เรื่องของฉัน” “ฉินอันอันเต็มใจเหรอ?” เซิ่งเป่ยรู้สึกว่าเรื่องไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน ฉินอันอันมีลูกอยู่แล้วสองคน ถึงแม้เสี่ยวหานจะถูกรับเลี้ยง แต่จากทัศนคติของเธอที่มีต่อเสี่ยวหานก็มองออกว่าเธอถือว่าเสี่ยวหานเป็นลูกที่เธอคลอดออกมาเอง เธอไม่อยากมีลูกอีกแน่นอน! “ไม่เต็มใจ” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ตอนนี้เธอเกลียดฉันเข้ากระดูกดำแล้ว” “นายบังคับให้เธอมีลูกให้นาย เธอต้องเกลียดนายอยู่แล้ว!” เซิ่งเป่ยคิดไม่ถึงว่าเขาจะตัด