Share

ค้าขายร่ำรวย

Author: zuey
last update Last Updated: 2024-12-29 10:09:38

หลังจากที่เฉียวลู่แบ่งค่าแรงให้พวกเขาแล้วนางยังอธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยว่า

 

“วันนี้ยังไม่เรียกว่าได้กำไรเพราะหลังจากหักค่าแรงและค่าต่างๆ เงินที่เหลือก็ต้องเก็บเอาไว้เป็นทุนในการขายต่อไป ข้าคิดว่ากำไรในการขายของเราจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือของบ้านสกุลจางกับของข้าและจื่อเฉินน้อยพวกท่านคิดเห็นว่าอย่างไร”

แม่เฒ่าหลี่และหลิวหงพยักหน้าพร้อมกัน

"เอาตามที่เจ้าว่าเถอะ"

ถึงแม้ว่าเด็กชายจะนั่งเงียบฟังพวกผู้ใหญ่สนทนากันมาตลอดแต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่เฉียวลู่อธิบายทุกอย่าง ต้องขอบคุณท่านแม่ของเขาที่สอนหนังสือให้ทำให้เขาอ่านออกเขียนได้

“พี่เฉียวลู่ท่านไม่ต้องแบ่งกำไรให้ข้าหรอกขอรับท่านให้ค่าแรงข้าเท่ากับผู้ใหญ่หนึ่งคนข้าก็ดีใจมาแล้ว”

เฉียวลู่ขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบที่ได้รับ

“เจ้าอย่าได้ด้อยค่าตนเองเช่นนั้น ถึงเจ้าจะยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกแต่เจ้าก็ทำงานอย่างเต็มที่โดยที่ไม่ปริปากบ่น ในเมื่อข้าเห็นคุณค่าของเจ้าตัวเจ้าเองก็ต้องเห็นค่าของตนเช่นกัน เอาล่ะเรื่องนี้เราลงมติกันแล้วเรียบร้อยเสียงข้างมากบอกว่าเจ้าเองก็เป็นหุ้นส่วน อะแฮ่ม!!ข้าหมายถึงส่วนหนึ่งในการค้าของเราดังนั้นเมื่อเราได้กำไรเจ้าก็ต้องได้เช่นกัน”

แม่เฒ่าหลี่พยักหน้าพร้อมทั้งตบไหล่เล็กที่ตั้งตรงของฉินจื่อเฉินเบาๆ

"จื่อเฉินเอ้ยเจ้าทำตามที่พี่เฉียวลู่ของเจ้าบอกเถอะ เก็บเงินเอาไว้มากๆ พาท่านแม่ของเจ้าไปหาหมอเมื่อนางหายดีเจ้าก็ชวนนางมาขายของกับพวกเราดีหรือไม่”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกัน ฉินจื่อเฉินซาบซึ้งในสิ่งที่พวกเขาพยายามช่วยตน เด็กชายก้มหน้าลงสะอื้นตัวสั่นเล็กน้อยเขาไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชายของเขาถึงแม้ว่าเขาจะยังเป็นเพียงเด็กชายอายุแค่แปดขวบแต่เขาก็มีศักดิ์ศรีและความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่วันนี้พวกนางทำให้ฉินจื่อเฉินรู้สึกว่าเขาได้กลับมาเป็นเด็กน้อยเท่ากับอายุของเขาจริงๆ จึงทำให้ฉินจื่อเฉินกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ข้าขอขอบคุณพวกท่านมากขอรับ”

เด็กชายพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ เฉียวลู่กอดฉินจื่อเฉินที่นั่งอยู่ข้างนางแล้วลูบหลังเด็กน้อยเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักในเรื่องของผู้ใหญ่แต่เมื่อเห็นท่านแม่ที่รักของพวกเขากอดพี่ชายที่แวะมาที่เรือนบ่อยๆ เขาสองคนก็ยื่นมือเล็กๆ ไปลูบหลังฉินจื่อเฉินเลียนแบบเฉียวลู่บ้าง ทำเอาแม่เฒ่าหลี่กับหลิวหงที่นั่งน้ำตาซึมหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“เจ้าหัวไชเท้าน้อยสองหัวนี้ช่างน่ารักเสียจริง”

หลิวหงพูดออกมาและยังหัวเราะทั้งน้ำตา หลังจากแจกแจงเรื่องเงินเสร็จแล้วทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตนอีกครั้ง เมื่อท่านอาหารเช้าเรียบร้อยฉินจื่อเฉินกลับมาที่เรือนของเขาอีกครั้งพร้อมอาหารที่เฉียวลู่แบ่งเอาไว้ให้เขาทั้งเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉินอี้เหยาท่านแม่ของเขาฟังทั้งหมด นางร้องไห้ออกมาทั้งลูบหน้าลูบไหล่บุตรชาย ลูกชายคนเดียวของนางต้องลำบากถึงเพียงนี้ที่นางทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่นะ ถ้าหากนางไม่แกล้งความจำเสื่อมและกลับไปที่นั่น บุตรชายของนางป่านนี้อาจจะยืนอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น หรือไม่ก็อาจจะตายไปแล้วเพราะใครบางคนที่คิดทำร้ายพวกเขา ฉินอี้เหยาถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าใจ

“ดีแล้วจ้ะเมื่อแม่หายดีแล้วแม่จะไปช่วยลูกเหมือนกัน”

ฉินจื่อเฉินโผเข้ากอดมารดาของตนด้วยความดีใจ ในที่สุดท่านแม่ของเขาก็เลิกเก็บตัวอยู่แต่ในเรือนเสียที

“ท่านแม่ข้าดีใจมากขอรับ ท่านต้องทานอาหารให้มากๆ และอย่าลืมทานยาที่ท่านหมอชางให้มานะขอรับท่านจะได้หายป่วยเร็วๆ”

ฉินอี้เหยาพยักหน้าให้บุตรชายของนาง

“ได้สิแม่เชื่อเฉินเอ๋อ”

หลังจากที่ฉินจื่อเฉินดูแลท่านแม่ของเขาเรียบร้อยเขาก็ตรงไปที่กระท่อมของเฉียวลู่ทันที นางเตรียมตัวรออยู่แล้วเมื่อเห็นฉินจื่อเฉินเดินมาแต่ไกลนางก็ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

“มาแล้วหรือจื่อเฉินน้อยพวกเรากำลังจะไปกันพอดี”

ฉินจื่อเฉินยิ้มตอบนาง เป็นครั้งแรกที่เฉียวลู่เห็นเด็กชายยิ้มออกมาด้วยความจริงใจไม่ใช่ยิ้มธุรกิจเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเปิดใจให้ใครบ้างแล้ว คณะของเฉียวลู่ตรงไปที่สระบัวอีกครั้งเมื่อพวกนางไปถึงที่นั่นชาวบ้านมากมาต่างจับกุ้งอยู่ในสระบัวทำเอาเฉียวลู่ถึงกับงง ทำอะไรไม่ถูก

“นี่พวกท่าน!!”

ชาวบ้านต่างหันมายิ้มให้เฉียวลู่ หญิงวัยกลางคนที่ทักแม่เฒ่าหลี่เมื่อวานก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

“มาแล้วหรือเฉียวลู่ เมื่อวานข้าได้ยินว่าเจ้ารับซื้อกุ้งหรือวันนี้ยังรับซื้อเหมือนเดิมหรือไม่”

เฉียวลู่สติกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเอง

“เจ้าค่ะก็ยังรับเหมือนเดิมแต่ข้ารับเฉพาะตัวใหญ่เท่านี้นะเจ้าคะ จับตัวเล็กมาก็โดนคัดออกอยู่ดี”

เฉียวลู่จับกุ้งในตะกร้าของเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากนางยกให้พวกเขาดู ทุกคนต่างพยักหน้ารับรู้จากนั้นพวกเขาก็หันมาดูกุ้งที่อยู่ในตะกร้าของตนตัวเล็กก็ปล่อยลงน้ำไปเพื่อให้มันตัวโตในวันหน้าพวกเขาจะได้กลับมาจับมันอีก เฉียวลู่พยักหน้าให้กับเหล่าชาวบ้านที่ยังมีจิตสำนึก ไม่หลับหูหลับตาจับเอามาทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กโดยไม่สนว่าจะขายได้หรือไม่

“นี่พี่หลี่เมื่อเช้าเป็นอย่างไรบ้างกุ้งพวกท่านขายดีหรือไม่”

แม่เฒ่าหลี่ที่กำลังงมกุ้งอยู่หันมามองคนที่ถามตน

“ก็พอได้ต้องขอบคุณน้ำจิ้มสูตรลับของตระกูลเฉียวไม่อย่างนั้นกุ้งย่างเปล่าๆ ไม่มีคนซื้อหรอก”

แม่เฒ่าหลี่พูดสกัดชาวบ้านที่คิดนำกุ้งไปขายเลียนแบบบ้างให้กลับไปคิดใหม่อีกครั้ง การค้าขายเป็นเรื่องอิสระที่ใครๆ ก็สามารถขายได้แต่จะขายดีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าหากไม่มีคู่แข่งนั่นยิ่งเป็นเรื่องดี

จางหย่งไม่ได้มาจับกุ้งด้วยเหมือนเคย เขาทำหน้าที่ตัดไม้ไผ่ทำกระบอกใส่กุ้งย่างหม่าล่าเฉียวลู่มีความคิดบางอย่าง นางอยากจะทำหม่าล่าต้มด้วยในหน้าหนาว แต่รอไปก่อนเอาไว้ให้อากาศเย็นกว่านี้นางคิดว่ามันจะต้องขายดีมากกว่าตอนนี้แน่นอน ถึงตอนนั้นหากไม่มีกุ้งก็ใช้อย่างอื่นมาทำแทนเช่นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อกระต่าย เห็ดหรือผักได้ทั้งนั้น ถ้ามีกระบอกไม้ไผ่เรื่องใส่น้ำซุปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกต่อไป

เฉียวลู่เกรงว่าจางหย่งทำงานคนเดียวจะทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ดังนั้นนางจึงเสนอให้เขาชวนคนที่รู้จักมาช่วยตัดกระบอกไม้ไผ่และลับขอบปากกระบอกให้เรียบเนียน กระบอกไม้ไผ่หนึ่งร้อยอันในราคายี่สิบเหวินไม้ไผ่บนภูเขามีมากมายพวกผู้ชายกว่าครึ่งหมู่บ้านต่างรีบมาช่วยงานจางหย่งหลังจากได้ยินข้อเสนอของเขา

ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าเก็บเกี่ยวพวกเขาได้งานที่ง่ายดายขนาดนี้ทั้งยังไม่ต้องลงทุนอะไรใช้แค่แรงที่พวกเขามีอยู่แล้วเหลือเฟือ งานแบบนี้ไม่นับว่าเหนื่อยอะไรเหมือนจับเสือมือเปล่าก็ว่าได้ ตัดกระบอกไม้ไผ่ไม่ใช่งานยากสำหรับพวกเขาเลย

ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง ที่หน้าเรือนสกุลจางแม่เฒ่าหลี่กำลังทำหน้าที่ชั่งกุ้งของชาวบ้านที่นำมาขายคนสุดท้าย จางหย่งกำลังต้มกระบอกไม้ไผ่ในเรือนเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่พวกเขาไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรตามคำสั่งของเฉียวลู่ ฉินจื่อเฉินอวี้หลงและอวี้ชิงกำลังทำหน้าที่นำไปคว่ำผึ่งลมเอาไว้ใช้ในวันพรุ่งนี้ กระบอกไม้ไผ่มีหลายร้อยกระบอกนับว่ามีใช้อย่างเหลือเฟือไปหลายวัน แต่พรุ่งนี้มีคนจองเอาไว้แล้วแปดสิบชุดดังนั้นพวกเขาจึงต้องกันส่วนนี้เอาไว้ไม่นับรวมที่จะขายต่อไป

“กินข้าวได้แล้วเจ้าค่ะทุกคน”

เฉียวลู่และหลิวหงรับหน้าที่ทำอาหารซึ่งดูเหมือนนางจะทำได้ดีทีเดียวอาหารที่ทำจากกุ้งมากมายวางอยู่บนโต๊ะ เฉียวลู่ทำข้าวต้มกุ้งใส่หม้ออุ่นไว้บนเตาด้วย

“จื่อเฉินน้อยมาทานด้วยกันก่อนสิอย่าพึ่งกลับห้ามปฏิเสธนะ”

ตอนแรกฉินจื่อเฉินจะกลับไปที่เรือนของตนแต่เฉียวลู่บอกให้เขาทานที่นี่ก่อนเด็กชายทำตามที่เฉียวลู่สั่งอย่างว่าง่าย บุตรชายทั้งสองของเฉียวลู่นั้นยิ่งไม่ต้องให้พูดเป็นครั้งที่สองเข้าประจำที่นั่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาสองคนเมื่อก่อนก็มาทานอาหารที่นี่บางครั้งก่อนที่เฉียวลู่จะตกเขาไป แต่เพราะนางไม่มีความทรงจำของเฉียวลู่คนก่อนนางจึงไม่รู้เรื่องที่เด็กน้อยทั้งสองของนางชอบมาทานอาหารที่เรือนสกุลจาง

หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาก็คุยนัดแนะเรื่องเกี่ยวกับการขายกุ้งย่างสำหรับวันพรุ่งนี้เล็กน้อยจากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับเรือนของตน เฉียวลู่ยกหม้อข้าวต้มตามฉินจื่อเฉินไป

“เดี๋ยวก่อนจื่อเฉินน้อยรับนี่ไปสิท่านแม่ของเจ้ายังไม่ได้ทานอาหารเย็นใช่หรือไม่”

ฉินจื่อเฉินยื่นมือไปรับหม้อข้าวต้มมา

“ขอบคุณขอรับพี่เฉียวลู่”

เขาไม่ปฏิเสธนางอีกแล้วเพราะเฉียวลู่บอกว่ามันเป็นสวัสดิการที่มีไว้สำหรับครอบครัวของพนักงานซึ่งฉินจื่อเฉินไม่เข้าใจว่ามันคือสิ่งใดแต่เขาเชื่อในสิ่งที่เฉียวลู่พูด เขาพยักหน้าทำตามแต่โดยดี เขาคิดว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่พี่เฉียวลู่สั่งเขาล้วนทำตามเพราะนางไม่มีทางสั่งเขาให้ทำในสิ่งที่ไม่ดีแน่

“เอาล่ะเด็กๆ เราก็กลับกระท่อมน้อยของเรากันดีกว่า”

เด็กชายทั้งสองพยักหน้าจูงมือเฉียวลู่เดินขึ้นไปบนเชิงเขาที่ตั้งของกระท่อมน้อยพร้อมกับตะวันที่กำลังค่อยๆ ลับทิวเขาไป

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เรื่องวุ่นวาย

    เช้ามืดของอีกวันเฉียวลู่ตื่นขึ้นมาด้วยตนเองอย่างอัตโนมัติ ความจริงนางอยากสั่งนาฬิกาพกสักเรือเพื่อนเอาไว้ดูเวลาแต่กลัวว่าถ้าถูกคนพบเห็นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะครอบครัวของนางตอนนี้ยังไม่นับว่าจะสามารถมีสิ่งของที่มีค่าได้เลย หากมีคนคิดไม่ซื่ออยากได้ของของนางแล้วใส่ร้ายว่านางลักขโมย ต่อให้มีสิบปากด้วยสภาพของนางตอนนี้ย่อมแก้ตัวแล้วไม่มีใครเชื่อแน่วัวเทียมเกวียนเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ววันนี้ออกไปเร็วกว่าเมื่อวานเพราะเฉียวลู่คิดว่าเมื่อพวกนางขายดีต้องมีคนอยากได้ที่ขายของพวกนางแน่ และก็เป็นเรื่องจริงเมื่อเกวียนจอดที่หน้าทางเข้าอำเภอทุกคนช่วยกันขนของไปที่ที่พวกเขาขายเมื่อวานแต่ปรากฎว่ามีคนที่มาตั้งร้านก่อนหน้าแล้วและดูเหมือนพวกเขาก็ขายของย่างด้วยเช่นกัน“นี่มันอะไรกันเนี่ยที่ตั้งเยอะแยะทำไมจะต้องเจาะจงเลือกมาตั้งที่ของพวกเราด้วย”หลิวหงบ่นออกมาด้วยความหัวเสีย ถึงเสียงของนางจะดังจนทำให้ร้านขายปิ้งย่างร้านนั้นได้ยินแต่พวกเขาก็ทำเพียงถลึงตาใส่แต่ไม่ได้ปริปากตอบโต้กลับมา เฉียวลู่ดึงแขนนางเอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องไปพูดอีกแล้ว ที่ตลาดอำเภอเป่ยจิงไม่มีพื้นที่ให้เช่าที่กำหนดตายตัวเมื่

    Last Updated : 2024-12-29
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขายสูตรกุ้งย่างหม่าล่า

    ทุกคนนั่งเกวียนวัวกลับไปที่หมู่บ้านมู่โฉวด้วยความเบิกบานเพราะวันนี้กุ้งหนึ่งร้อยห้าสิบจินขายหมดในพริบตาไม่นับรวมคำสั่งซื้อแปดสิบชุดของเมื่อวาน“นี่นับเป็นนิมิตหมายอันดีหากว่าขายดีเช่นนี้ไปเรื่อยๆ พวกเขาจะต้องรวยในไม่ช้าแน่นอน”แม่เฒ่าหลี่พูดออกมาด้วยความเพ้อฝัน เฉียวลู่ที่วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าสำหรับเรื่องในอนาคตแล้วนั้นกลับไม่เห็นด้วยกับนาง“ขายชั่วคราวนั้นได้เจ้าค่ะ แต่ถ้าหากขายแค่เพียงกุ้งย่างไม่ช้าคนที่อำเภอเป่ยจิงจะต้องเบื่อกุ้งอย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเขายังเห็นเป็นอาหารแปลกใหม่จึงพากันมารุมซื้อก็เท่านั้น”แต่แม่เฒ่าหลี่รู้สึกไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเฉียวลู่นางจึงพูดแย้งขึ้น“อาลู่เจ้าไม่รู้อะไร ถึงกุ้งย่างหม่าล่าจะเป็นอาหารแปลกใหม่แต่ถ้าหากไม่อร่อยคงไม่มีคนมาซื้อเยอะขนาดนี้ เจ้าต้องมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตนเองรู้หรือไม่”เฉียวลู่นึกอยากแย้งแม่เฒ่าหลี่แต่เอาเถอะให้นางได้เห็นกับตาตนเองนางถึงจะเชื่อที่เฉียวลู่พูด เมื่อเจ้าวัวแก่หยุดนิ่งที่ทางเข้าอำเภอทุกคนที่นั่งโดยสารมากับมันต่างทยอยลงมาและทำหน้าที่ของตนที่ทำไปแล้วเมื่อวาน พวกเขาต่างลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ตลาดอำเภอเป่ยจิง เฉีย

    Last Updated : 2024-12-29
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เถ้าแก่จาง

    หลังจากที่ขายกุ้งย่างจนหมดแล้ววันนี้ใช้เวลานานกว่าทุกวันเล็กน้อยแต่ทุกคนต่างก็ยินดีเพราะกุ้งกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบจินขายหมดเกลี้ยง วันนี้เฉียวลู่ไม่รับคำสั่งจองกุ้งย่างเหมือนทุกทีทั้งยังบอกลูกค้าที่มาซื้อว่าพรุ่งนี้นางไม่ได้มาขาย ทำเอาแม่เฒ่าหลี่จางหย่งและหลิวหงไม่เข้าใจในสิ่งที่เฉียวลู่กำลังทำ“เอาไว้เมื่อกลับไปถึงเรือนข้าจะอธิบายให้พวกท่านเข้าใจเองเจ้าค่ะ วันนี้เราไปซื้อของกลับบ้านสักเล็กน้อยดีหรือไม่”ถึงแม้พวกเขาจะไม่เข้าใจว่านางกำลังคิดทำอะไรแต่ทุกคนต่างก็เชื่อใจและทำตามที่เฉียวลู่พูดเป็นอย่างดี เฉียวลู่พาทุกคนมาที่ร้านขายเสื้อผ้านางซื้อชุดผ้าฝ่ายสำเร็จรูปให้ทุกคนรวมทั้งฉินจื่อเฉินและท่านแม่ของเขาด้วย ความจริงเฉียวลู่อยากซื้อของกลับบ้านให้มากกว่านี้แต่กระท่อมของนางนั้นไม่เอื้ออำนวยในการเก็บสิ่งของมีค่าเฉียวลู่ซื้อขนมดอกกุ้ยฮวาที่ร้านชื่อดังของอำเภอและอาหารที่จีหม่านโหรวกลับไปกินที่เรือนหลายอย่าง แม่เฒ่าหลี่ต้องคอยปรามเฉียวลู่ให้ประหยัดเงินเอาไว้หน่อย เพราะเงินที่เฉียวลู่ใช้นั้นล้วนเป็นเงินที่มาจากค่าแรงของนาง ส่วนเงินที่ได้กำไรที่ขายกุ้งย่างทุกวันเป็นแม่เฒ่าหลี่ที่เก็บเอาไว้ เพราะเ

    Last Updated : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   สร้างเรือนที่ไม่เหมือนใคร

    เช้าวันต่อมาเฉียวลู่ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อพาจางหย่งไปส่งกุ้งให้กับจีหม่านโหรว นางจะไปด้วยเพียงครั้งแรกเท่านั้นเพื่อให้พวกเขาจำหน้าจางหย่งได้จะได้รู้ว่าครั้งหน้าเขาคือผู้ที่จะมาส่งกุ้งให้จีหม่านโหรวทุกวัน นอกจากส่งกุ้งแล้วเฉียวลู่ก็มีเรื่องที่ต้องการทำอีกอย่างคือหาคนมาสร้างเรือนให้นางนั่นเอง และอุปกรณ์บางอย่างก็ต้องมาหาซื้อที่อำเภอเป่ยจิงเท่านั้นเมื่อเจ้าวัวแก่หยุดลงที่หน้าจีหม่านโหรว เฉียวลู่กระโดดลงมาจากเกวียน นางเดินตรงไปที่ผู้ดูแลที่กำลังตรวจดูผักและเนื้อของชาวบ้านที่นำมาขายให้พวกเขา“อรุนสวัสดิ์เจ้าค่ะผู้ดูแลเหวิน”เหวินซงที่กำลังยุ่งอยู่กับการตรวจวัตถุดิบที่จะนำมาทำอาหารรีบหันตามเสียงทักทายที่แสนหวานของเฉียวลู่ทันที“อ้อแม่นางเฉียวนั่นเอง เจ้ามาแล้วหรือข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย”เฉียวลู่พยักหน้ารับ“ดูเหมือนท่านกำลังยุ่งอยู่ ข้ารอได้เจ้าค่ะ”เหวินซงส่ายหน้าไปมาไม่เป็นไรวัตถุดิบของเจ้าสำคัญกว่า มาเถอะข้าจะให้คนชั่งกุ้งของเจ้าก่อน”เหวินซงเรียกพนักงานของจีหม่านโหรวสองคนให้มาช่วยเขาชั่งกุ้งไม่นานกุ้งสามร้อยสามจินก็ถูกชั่งเรียบร้อย“สามจินนี้ถือว่าเป็นกำไรที่ข้ามอบให้พวกท่านนะเจ้าคะ”

    Last Updated : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บุรุษลึกลับ

    เฉียวลู่เขียนสูตรอาหารที่ปรุงจากกุ้งให้เถ้าแก่จีคือ หม่าล่าต้ม ผัดโป๊ยเซียนที่นางทำให้เด็กๆ กินวันแรกและข้าวอบจักรพรรดิ โชคดีที่นางอ่านมาก่อน จากนั้นนางก็ตามผู้ช่วยเหวินไปที่ครัวด้านล่างทำอาหารสองสามอย่างที่ทำจากกุ้งให้เถ้าแก่จีชิม แต่ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเหวินไม่ได้ยกอาหารไปที่ห้องของเถ้าแก่จีที่ชั้นสอง แต่ผู้ช่วยเหวินยกถาดอาหารไปที่ห้องรับรองพิเศษห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสามแทน เฉียวลู่ไม่ค่อยเข้าใจนักแต่นางก็ไม่สนใจว่าเขาจะยกไปให้ใครชิมเพราะนางได้รับค่าสูตรอาหารมาแล้วผู้ช่วยเหวินเข้าไปในห้องนั้นสักพักจากนั้นจึงออกมาจากห้องนั้นพร้อมกับถาดที่มีผ้าไหมสีแดงคลุมอยู่ เฉียวลู่ที่ยืนรออยู่ก็ใช้สายตาถามผู้ช่วยเหวินว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้ช่วยเหวินยิ้มให้เฉียวลู่อย่างใจดีจากนั้นจึงเปิดผ้าที่คลุมถาดออก ตั๋วเงินสองร้อยตำลึงวางอยู่บนนั้นพร้อมทั้งก้อนเงินอีกหลายสิบก้อน“นี่เป็นรางวัลที่มอบให้กับเจ้าผู้ที่ทำอาหารได้ถูกปากนายท่าน แม่นางเฉียวเจ้ารู้หรือไม่ว่าตั้งแต่ท่านผู้นั้นมาพักอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยมีพ่อครัวคนไหนทำอาหารที่นายท่านเอ่ยชมสักครั้ง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านั้นเป็นคนแรก”เฉียวลู่อึ้งไปสักพักนางไม่

    Last Updated : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขึ้นบ้านใหม่

    สองเดือนผ่านไปอากาศที่หมู่บ้านมู่โฉวเริ่มหนาวแล้วเพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาจึงทำให้มวลอากาศเย็นถูกพัดมาจากในป่าทำให้ที่นี่หนาวเย็นมากกว่าในอำเภอ เรือนของเฉียวลู่สร้างเสร็จก่อนกำหนดถึงสิบวันนั่นเพราะหลังจากที่คนงานกลับไปหมดแล้วเฉียวลู่ก็แอบมาแบกต้นไม่ที่นางตัดซ่อนเอาไว้มากองรวมกับต้นไม้ที่คนงานของนายช่างอู๋ตัดเอาไว้ทำให้พวกเขาย่นระยะเวลาที่ต้องเดินขึ้นลงเขาไปกว่าสิบวันเฉียวลู่ย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนไม้ซุงที่ดูแปลกตาของนางแล้ว ชาวบ้านต่างก็อยากมาชื่นชมบ้านใหม่ที่ไม่เหมือนใครของนาง เวลาที่เหลืออีกสิบวันเฉียวลู่จ้างให้นายช่างขุดบ่อน้ำและทำรั้วรอบที่ดินยี่สิบหมู่ของนางความสูงขนาดสามเมตร นางให้เหตุผลว่าที่นางทำรั้วสูงเช่นนี้เพราะนางเป็นสตรีที่อาศัยอยู่กับลูกลำพังดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเอาไว้ก่อนวันนี้เป็นวันจัดงานขึ้นบ้านใหม่ของเฉียวลู่ นางให้แม่เฒ่าหลี่เชิญคนทั้งหมู่บ้านมาร่วมยินดี และฝากให้จางหย่งเชิญนายช่างอู๋และฮูหยินมาร่วมงานด้วย ส่วนตัวนางนั้นเป็นผู้เชิญเถ้าแก่จีและผู้ช่วยเหวินด้วยตัวเองเสียงแสดงความยินดีของชาวบ้านทำให้เฉียวลู่ยิ้มหน้าบาน อาหารทั้งหมดถูกสั่งมาจากจีหม่านโหรว

    Last Updated : 2025-01-03
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เต้าหู้

    นายช่างอู๋เมื่อเห็นแบบทั้งหมดที่เฉียวลู่วาดเขาก็ยิ่งตกใจมากกว่าครั้งแรกที่เห็นแบบบ้านที่นางวาดให้เขา ตอนนี้นายช่างอู๋ไม่คิดลังเลแล้วและได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าเขาจะพูดเรื่องนี้กับเฉียวลู่ ครั้งแรกเขายังลังเลอยู่เล็กน้อยเพราะกลัวว่านางจะปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขาไม่มีความลังเลในจิตใจเลยสักนิดเดียว“แม่นางเฉียวเจ้าคิดที่จะร่วมมือทำการค้ากับข้าหรือไม่ แบบทั้งหมดที่เจ้าให้ข้ามาข้าจะทำให้เจ้าแบบไม่คิดเงินสักตำลึง”เฉียวลู่คำนวณเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่านายช่างอู๋จะต้องคุยเรื่องนี้กับนาง แต่เฉียวลู่ที่ยังไม่ทันได้รับปากก็ถูกนายช่างอู๋ชิงพูดขึ้นมาก่อน“ข้าจะให้เจ้าสิบส่วนในผลงานที่ข้าทำออกมาต่อหนึ่งชิ้น และข้าอยากจะขออนุญาตเจ้าให้ข้านำแบบบ้านของเจ้าไปสร้างได้หรือไม่เจ้าสามารถเรียกร้องมาได้เลยว่าเจ้าต้องการกี่ส่วน หรือเจ้าคิดว่าสิบส่วนนั้นน้อยเกินไป”เฉียวลู่เห็นนายช่างอู๋ที่ร้อนรนเช่นนั้นนางก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน ตลอดสองเดือนที่นายช่างอู๋และลูกน้องของเขามาสร้างเรือให้นางเฉียวลู่เห็นแล้วว่านายช่างคนนี้เป็นคนใจกว้างกับผู้อื่นและซื่อสัตย์เหมาะแก่การทำธุรกิจด้วยยิ่งนัก“หยุดก่อนนายช่างอู๋ข้าไม่ได้จะ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ถูกจับตามอง

    เต้าหู้ขายหมดแล้ว เฉียวลู่ให้ทุกคนเก็บของรอนางไปก่อนนางตรงไปที่จีหม่านโหรวทันที เมื่อไปถึงผู้ช่วยเหวินนั่งรอนางอยู่ที่ด้านในโรงเตี๊ยมก่อนแล้ว“สวัสดีผู้ช่วยเหวินอาหารที่ข้าส่งมาไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง”เฉียวลู่ยิ้มตาหยีให้เขา นางคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องได้รับคำตอบเช่นไร“แม่นางเฉียวอาหารที่เจ้าส่งมานั้นเรียกว่าอะไรหรือ มันทั้งนุ่มจนแทบละลายในปากทั้งอร่อยเข้มข้นเจ้าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไรเจ้าช่วยบอกข้าที”เฉียวลู่ยังไม่ได้ตอบผู้ช่วยเหวินนางมองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาบางอย่าง“เถ้าแก่จีไม่อยู่หรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าจะส่งเต้าหู้มาให้เขาชิมเสียหน่อย”ผู้ช่วยเหวินส่งยิ้มแห้งๆ ให้นางความจริงเถ้าแก่ไม่อยู่ที่อำเภอเป่ยจิงสักพักแล้วเพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ลิ้มรสอาหารรสเลิศเช่นนี้อย่างไรเล่า“ไม่อยู่ขอรับ แต่ว่าอีกไม่กี่วันท่านก็คงจะกลับมาถึงตอนนั้นแม่นางเอาเต้าหู้มาให้นายท่านชิมอีกครั้งได้หรือไม่”เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง ช่างเถอะเอาไว้คราวหน้าก็ได้ เงินอยู่ตรงหน้านี้แล้วถึงอย่างไรมันก็คงไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอก“เช่นนั้นเอาไว้ครั้งหน้าข้ามาใหม่ อาหารที่ส่งมาท่านชอบก็ดีแล้วอย่าลืมบอก

    Last Updated : 2025-01-03

Latest chapter

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บทส่งท้าย กลับไปเริ่มต้นใหม่

    ฉีหมิงเยี่ยนกลับมาพร้อมชัยชนะหลังจากนั้นหนึ่งเดือน คนตระกูลเสิ่นและผู้ที่เข้าร่วมก่อการกบฏต่างก็ถูกตัดหัวแขวนประจานเอาไว้ทุกหัวเมืองที่ถูกยึดคืนกลับมาได้ แต่ชัยชนะครั้งนี้กลับไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเพราะฉีอ๋องต้องสูญเสียพระชายาอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหัน เขาขังตัวเองเอาไว้ในห้องที่มีโลงใส่ศพของนาง อาจารย์ของเฉียวลู่เองก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้องสูญเสียลูกศิษย์ของตนไปถึงสองคนพร้อมกัน เขาได้ใช้น้ำแข็งพันปีมรดกตกทอดของเจ้าสำนักเซียนแพทย์แช่ร่างของเฉียวลู่เอาไว้รอสามีของนางกลับมา“อาลู่เจ้าลืมตาขึ้นมาเถิด เจ้าอย่าได้ล้อข้าเล่นเช่นนี้เลย สามีของเจ้าตกใจรู้หรือไม่”ฉีหมิงเยี่ยนร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ ปากก็พร่ำเพ้อหานางไม่หยุด ร่างบางที่เหมือนนอนหลับอยู่ภายในโลกไม้ที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีตไม่ขยับไหวติงแม้เพียงนิดเขาทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน เขาอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงอนาคตทุกอย่างแล้ว คนตระกูลเสิ่นที่เป็นสาเหตุการตายของนางเขาก็สังหารจนสิ้น แต่แล้วเหตุใดนางถึงยังจากเขาไปอีกเล่า สวรรค์ท่านช่างใจร้ายกับข้านัก ท่านคิดที่จะทำลายหัวใจของข้าอีกกี่ครั้งกันท่านถึงจะพอใจเสียงร้องโหยหวนดั่งสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แก้แค้นแทนพี่สาว

    ไม่นานหลังจากนั้น ทหารจากค่ายวิหคทมิฬพบสองพี่น้องที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งโดยบังเอิญ พวกเขาตามรอยของกั๋วจื่อชางเข้าไปในป่า แต่ต้องคลาดกันเพราะมีน้ำป่าไหลทะลักบนภูเขา จึงต้องย้อนกลับมาที่หมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากร่องรอยสุดท้ายที่หาเจอ เพราะเหตุนั้นจึงได้พบนายน้อยของตำหนักชินอ๋องทั้งสองคนเกือบครึ่งเดือนที่พวกเขาถูกจับตัวไป เพราะไม่ค่อยได้ทานอาหารสองพี่น้องจึงดูซูบผอมไปเล็กน้อย เฉียวลู่ที่ได้ข่าวจากคนของค่ายวิหคทมิฬนางเร่งเดินทางมาที่หมู่บ้านโดยเร็ว“ลูกแม่!!”นางกอดร่างเล็กทั้งสองเอาไว้ในอ้อมแขน พลางลูบหลังพวกเขาอย่างปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่เคยฝึกอยู่ในค่ายวิหคทมิฬอย่างหนักไม่เคยแม่แต่จะหลั่งน้ำตาสักหยด แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของมารดา เสียงร้องไห้เล็กๆ สองเสียงก็ดังประสานขึ้นก้องกังวานทั่วหมู่บ้านเหล่าทหารจากค่ายวิหคทมิฬที่รู้จักเด็กชายทั้งสองมองพวกเขาด้วยความแปลกใจ นึกว่าบุตรชายของมัจจุราชฉีจะกลายเป็นเหล็กกล้าเหมือนดั่งบิดาเสียอีก ไม่นึกว่าจะยังมีมุมน่ารักดั่งเด็กน้อยเมื่อยามที่อยู่กับมารดาเฉียวลู่ที่ถูกพรากบุตรชายจากอกไปหลายวัน นางเองก็ขวัญเสียไม่แพ้กัน สองแม่ลูกก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขอบคุณนะ

    “อยู่ให้ห่างจากน้องชายของข้านะ”อวี้หลงวิ่งเข้าไปคิดที่จะทำร้ายนาง แต่หญิงใบ้กลับหลบได้อย่างง่ายดาย เขาวิ่งมาขวางนางอีกครั้งแต่ถูกหญิงใบ้จับโยนจนร่างเล็กลอยละลิ่วไปไกล นางใช้มือคลำไปที่ใบหน้าและลำคอของอวี้ชิงเบาๆ จากนั้นจึงหยิบยาออกมาจากแขนเสื้อแล้วยัดเข้าไปในปากของเขา นางบีบจมูกของอวี้ชิงเพื่อให้เขากลืนยาลูกกลอนลงไป อวี้หลงคิดว่านางวางพิษน้องชายตนเอง เขากรีดร้องออกมาทั้งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด“อ๊ากกกก!!!ข้าจะสู้ตายกับเจ้า”เด็กชายที่สูงเพียงอกของนางพยายามต่อสู้กับหญิงใบ้สุดกำลัง ดวงตาเฉยเมยมองเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเข้าหานาง เขาแกว่งหมัดไปที่หลายทีแต่นางก็ไม่ได้สู้กลับ นางทำเพียงพลิกเท้าหลบไปมาเหมือนกำลังเย้าแหย่สัตว์ตัวเล็กๆเด็กตัวเล็กที่พยายามต่อสู้กับผู้ใหญ่ผ่านไปนานสุดท้ายก็ยังไร้ผล อวี้หลงหอบหายใจแรงเพราะเรี่ยวแรงของเขาหมดไปจากการที่เขาแบกน้องชายเดินเป็นเวลานาน“พะ...พี่ชาย”เสียงเล็กๆ ที่ดังขึ้นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมจิตใจของเขา อวี้หลงเลิกสนใจหญิงใบ้รีบวิ่งไปดูน้องชายของตนทันที“ชิงเอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”อวี้หลงแตะไปที่หน้าผากของเขา ตัวที่ร้อนดังไฟตอนนี้ได้เย็นลงเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   หนี

    อวี้หลงและอวี้ชิงฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ถูกลักพาตัวโดยชายชุดดำหลายสิบคน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาถูกจับตัวมา ท่านแม่และท่านพ่อจะต้องเป็นห่วงพวกเขามากแน่ๆตลอดทางที่รถม้าวิ่งพวกเขาถูกจับกรอกยาบางอย่างทำให้ไร้เรี่ยวแรงและหลับไป ทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันรถม้ากลับขึ้นมาดูพวกเขาเป็นระยะ สองพี่น้องฝาแฝดแสร้งหลับเพื่อไม่ให้ถูกกรอกยาอีกอวี้หลงใช้เท้าสะกิดน้องชายเบาๆ อวี้ชิงหรี่ตามองพี่ชายเล็กน้อย ทั้งสองพยักหน้าให้กันเป็นการสื่อสารที่เหมือนจะมีแค่พวกเขาที่เข้าใจ“เป็นอย่างไรบ้างพวกเขาตื่นขึ้นมาบ้างหรือไม่”เสียงหวานที่คุ้นหูทำให้นึกถึงสตรีผู้หนึ่งที่ท่านแม่แนะนำว่านางคือสหาย นางกล้าหักหลังท่านแม่แล้วจับตัวพวกเขามาหรือ ช่างน่าตายนัก“หลายวันมานี้พวกเขาฟื้นขึ้นมาไม่กี่ครั้งขอรับ ตอนนี้ยังคงหลับอยู่เพราะข้ากรอกยาสลายพลังไปแล้ว”ซูหลีพยักหน้า จากนั้นจึงเดินกลับขึ้นรถม้าคันที่อยู่ด้านหน้าพร้อมกับกั๋วจื่อชาง ไม่มีใครเอะใจเรื่องนี้เลยว่าพวกเขาจะแสร้งหลับเพราะคิดว่าเป็นเพียงเด็กหกขวบที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเท่านั้น หลังจากที่ดื่มยาสลายพลังไปสองสามครั้งดูเหมือนฤทธิ์ยาจะค่อยๆ ไร้ผลและไม่สามารถทำอันใด

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ลักพาตัว

    หลังงานเลี้ยงที่วังหลวง เหล่าราชทูตที่มาร่วมงานต่างทยอยเดินทางกลับแคว้นของตน องค์หญิงเซียวหมิ่นเองก็เช่นเดียวกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปเล็กน้อยคือ นางกลับไปที่แคว้นเซียวในครั้งนี้มีเว่ย หลี่หมิงตามนางกลับไปด้วย ส่วนทางด้านเว่ยอ๋องก็ต้องกลับไปเตรียม ของหมั้นและสินสอดเพื่อแต่งสะใภ้เข้าจวน“ข้าขอให้พวกท่านเดินทางปลอดภัย หากมีโอกาสข้าจะไปร่วมงานแต่งของท่านทั้งสอง”“ข้าไปก่อนนะพี่อาลู่ท่านอย่าลืมแวะมาหาข้าเล่า”เฉียวลู่ออกมาส่งขบวนราชทูตจากแคว้นเซียวและแคว้นเว่ยที่นอกเมือง องค์หญิงเซียวหมิ่นยังมีท่าทางอาลัยอาวรณ์ต่อนาง และไม่อยากกลับแคว้นเซียว“รีบออกเดินทางเถอะสายมากแล้ว”ทหารอารักขาให้สัญญาณ ขบวนรถม้าจากแคว้นเซียวจึงเริ่มเคลื่อนตัว“ข้าขอขอบคุณเว่ยอ๋องที่ช่วยเหลือและดูแลข้ามาถึงหนึ่งปี ในอนาคตหากท่านมีเรื่องเดือดร้อนใด ทั้งข้าและสำนักเซียนแพทย์จะเข้าช่วยเหลือท่านอย่างเต็มกำลัง”นางหันมาขอบคุณเว่ยอ๋องที่กำลังออกเดินทางเช่นเดียวกัน“ไม่เป็นไรมิได้ ที่ข้าช่วยพระชายาก็ถือว่าเราทั้งสองแคว้นมีวาสนาต่อกัน ในอนาคตหากข้ามีเรื่องเดือดร้อนข้าจะมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าแน่นอน”เว่ยอ๋องเอ่ยลาจากนั

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กรรมตามสนอง

    นางกำนัลที่พาเฉียวลู่มาที่ห้องรับรองครั้งแรกย่องกลับมาดูสถานการณ์ เมื่อได้ยินเสียงน่าบัดสีดังขึ้นข้างในนางจึงรีบกลับไปที่งานเลี้ยงทันที ผ่านไปไม่นานนางกำนัลกลับมาพร้อมราชทูตและขุนนางมากมาย รวมทั้งชินอ๋องผู้ที่จะมาเป็นพยานสำคัญในเรื่องนี้เสียงครางกระเส่าของบุรุษยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่เสียงของสตรีนั้นร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกขัดกันยิ่งนัก“นี่มันเรื่องอันใดกัน ในงานเลี้ยงวันพระราชสมภพของฝ่าบาท ใครช่างใจกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”ผู้ที่เอ่ยขึ้นคือราชครูเสิ่นบิดาของเสิ่นชิงหยุน ทุกคนที่ตามมาดูเรื่องสนุกต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“ผู้ที่อยู่ในห้องนั้นคือ....”นางกำนัลมองไปที่ฉีหมิงเยี่ยนก่อนจะก้มหน้าลงด้วยความหวานกลัว“ผู้ใดกันเหตุใดถึงไม่ยอมพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หากกระทำผิดย่อมต้องได้รับโทษเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนาง”ราชครูเสิ่นจ้องไปที่นางกำนัลอย่างไม่วางตา เพื่อกดดันให้นางเอ่ยชื่อผู้ที่กำลังแสดงฉากร่วมรักอยู่ภายในห้องออกมา“พระชายาชินอ๋องเจ้าค่ะ บ่าวทำหน้าที่นำทางพระชายาชินอ๋องให้มารอที่ห้องนี้ แต่ไม่คิดว่านางจะ...”ทุกคนต่างหันกลับมามองฉี

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เหตุใดต้องทำเช่นนี้

    หลังอาบน้ำเสร็จสองสามีภรรยานอนกอดกันอยู่บนเตียง ฉีหมิงเยี่ยนลูบหลังนางเบาๆ พร้อมทั้งเอ่ยบางอย่างจนทำให้เฉียวลู่ที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับต้องตื่นเต็มตา“ข้าให้คนไปสืบเรื่องของซูหลีมาแล้ว บุรุษที่นางติดพันในช่วงนี้คือคุณชายตระกูลกั๋ว คนผู้นี้พึ่งมีตัวตนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ได้ยินมาว่าใต้เท้ากั๋วมีบุตรชายที่หายสาบสูญไปพึ่งจะหาพบ อาลู่เขายังเป็นคนที่เสิ่นฮองเฮามีความสัมพันธ์ด้วย ข้าเกรงว่าแม้แต่องค์ชายใหญ่ก็คงจะไม่ใช่พระโอรสของฮ่องเต้ เจ้าควรจะเตือนเรื่องนี้แก่นาง”เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาเบาๆ เตือนนางหรือ อย่าว่าแต่เตือนนางเลยแม้แต่ใบหน้าของนางข้ายังไม่ได้พบแล้วจะพูดเรื่องนี้กับนางได้อย่างไร เฉียวลู่คิดอย่างปวดหัวสามวันต่อมา งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮ่องเต้ฉีเหวินจิ้ง เฉียวลู่เข้าร่วมในฐานะพระชายาของชินอ๋อง เหล่าขุนนางและราชทูตที่มาร่วมอวยพรต่างให้ความสนใจทั้งสองคน พระชายาชินอ๋องผู้นี้ไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเท่าใดนักงานนี้ถือว่าเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการสำหรับนางก็ว่าได้ อีกอย่างที่พวกเขาให้ความสนใจในตัวนางก็เพราะฉีหมิงเยี่ยน ก่อนหน้านี้ระดมทหารหลายพันนายออกกวาดล้างโจรสลัดเพื่อแก

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   สารภาพรัก

    องค์หญิงเซียวหมิ่นหลังจากที่กลับมาที่พักรับรองของราชทูตแคว้นเซียวนางก็ขังตนเองเอาไว้ภายในห้อง เจ็ดวันแล้วที่นางไม่ยอมออกไปไหน ทั้งๆ ที่ผ่านมานางดีอกดีใจที่ตนเองได้พบกับเฉียวลู่อีกครั้ง แต่ตอนนี้เหมือนนางจะมีเรื่องยุ่งยากบางอย่างภายในใจ นางกำนัลคนสนิทของนางไม่เคยเห็นองค์หญิงของตนเป็นเช่นนี้มาก่อนนางจึงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก“องค์หญิง หลายวันนี้อุดอู้อยู่แต่ในห้อง พระองค์ออกไปเดินเล่นสักหน่อยดีหรือไม่เพคะ”องค์หญิงเซียวหมิ่นถอนหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางเศร้าสร้อยนั้นทำให้นางกำนัลรู้สึกเป็นห่วง องค์หญิงเซียวหมิ่นรู้ว่านางกำนัลเป็นห่วงตนจึงยอมทำตามที่พวกนางขอร้อง“ก็ได้ ไปเถอะ”องค์หญิงเซียวหมิ่นเดินนำหน้านางกำนัลออกจากเรือนรับรองไป นางเดินเล่นในอุทยานที่มีดอกไม้ที่ถูกปลูกเอาไว้มากมาย กลิ่นหอมของมันทำให้นางรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย เหล่าผีเสื้อสีสันสดใสบินรอบๆ ตัวนาง องค์หญิงเซียวหมิ่นหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างพอใจ“ที่นี่ถูกดูแลเป็นอย่างดีเชียวเจ้าดูดอกไม้พวกนั้นสิ แม้แต่ที่แคว้นเซียวก็ยังไม่งดงามเท่านี้เลย”นางชี้ชวนให้นางกำนัลผู้ติดตามดูดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกล เพราะเอาแต่มองดอกไม้พวกนั้นทำให้น

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   โง่เขลา

    “ผู้ร้องทุกข์เป็นผู้ใด”ผู้พิพากษาเอ่ยถาม เสิ่นชิงหยุนที่ปกติทำตัวเย่อหยิ่ง แต่ครั้งนี้กลับคุกเข่าลงอย่างหาได้ยาก นางร้องไห้น้ำตานองหน้า แสร้งทำท่าอ่อนแอให้ผู้คนสงสาร“ข้าคือเสิ่นชิงหยุน บุตรสาวคนเล็กของราชครูเสิ่น ที่ข้ามาวันนี้เพื่อต้องการร้องเรียนเอาผิด พระชายาของชินอ๋องเพราะนางทำร้ายร่างกายของข้าอย่างไร้เหตุผล”ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องต่างมองมาที่เฉียวลู่เป็นตาเดียว ใครไม่รู้บ้างว่าคุณหนูเสิ่นนั้นหลงรักปักใจในชินอ๋องมานานถึงขั้นไม่ยอมแต่งงานออกเรือน อาจเป็นเพราะพระชายาได้ยินเรื่องนี้เข้าจึงลงมือทำร้ายคุณหนูเสิ่นใช่หรือไม่เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเมืองดังเซ็งแซ่ แต่เฉียวลู่ไม่สะดุ้งสะเทือนนางไม่แม้แต่จะกะพริบตา นางรอดูว่าเสิ่นชิงหยุนจะเล่นลูกไม้อันใดอีก หากมีเพียงเท่านี้นั่นก็ทำให้นางรู้สึกผิดหวังยิ่งนักที่นางเล่นใหญ่แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยองค์หญิงเซียวหมิ่นทำท่าจะลุกขึ้นตีนางอีกครั้ง นางโตจนป่านนี้แล้วไม่เคยเห็นผู้ใดหน้าด้านเท่าสตรีผู้นี้มาก่อน เฉียวลู่ดึงนางให้นั่งลง นางส่ายหน้าให้องค์หญิงเซียวหมิ่นสงบใจ องค์หญิงเซียวหมิ่นได้แต่ทำท่าฮึดฮัดอย่างขัดใจ หากเป็นที่แคว้นเซียวสตรีอย่างเส

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status