Share

ค้าขายร่ำรวย

Author: zuey
last update Huling Na-update: 2024-12-29 10:09:38

หลังจากที่เฉียวลู่แบ่งค่าแรงให้พวกเขาแล้วนางยังอธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยว่า

 

“วันนี้ยังไม่เรียกว่าได้กำไรเพราะหลังจากหักค่าแรงและค่าต่างๆ เงินที่เหลือก็ต้องเก็บเอาไว้เป็นทุนในการขายต่อไป ข้าคิดว่ากำไรในการขายของเราจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือของบ้านสกุลจางกับของข้าและจื่อเฉินน้อยพวกท่านคิดเห็นว่าอย่างไร”

แม่เฒ่าหลี่และหลิวหงพยักหน้าพร้อมกัน

"เอาตามที่เจ้าว่าเถอะ"

ถึงแม้ว่าเด็กชายจะนั่งเงียบฟังพวกผู้ใหญ่สนทนากันมาตลอดแต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่เฉียวลู่อธิบายทุกอย่าง ต้องขอบคุณท่านแม่ของเขาที่สอนหนังสือให้ทำให้เขาอ่านออกเขียนได้

“พี่เฉียวลู่ท่านไม่ต้องแบ่งกำไรให้ข้าหรอกขอรับท่านให้ค่าแรงข้าเท่ากับผู้ใหญ่หนึ่งคนข้าก็ดีใจมาแล้ว”

เฉียวลู่ขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบที่ได้รับ

“เจ้าอย่าได้ด้อยค่าตนเองเช่นนั้น ถึงเจ้าจะยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกแต่เจ้าก็ทำงานอย่างเต็มที่โดยที่ไม่ปริปากบ่น ในเมื่อข้าเห็นคุณค่าของเจ้าตัวเจ้าเองก็ต้องเห็นค่าของตนเช่นกัน เอาล่ะเรื่องนี้เราลงมติกันแล้วเรียบร้อยเสียงข้างมากบอกว่าเจ้าเองก็เป็นหุ้นส่วน อะแฮ่ม!!ข้าหมายถึงส่วนหนึ่งในการค้าของเราดังนั้นเมื่อเราได้กำไรเจ้าก็ต้องได้เช่นกัน”

แม่เฒ่าหลี่พยักหน้าพร้อมทั้งตบไหล่เล็กที่ตั้งตรงของฉินจื่อเฉินเบาๆ

"จื่อเฉินเอ้ยเจ้าทำตามที่พี่เฉียวลู่ของเจ้าบอกเถอะ เก็บเงินเอาไว้มากๆ พาท่านแม่ของเจ้าไปหาหมอเมื่อนางหายดีเจ้าก็ชวนนางมาขายของกับพวกเราดีหรือไม่”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกัน ฉินจื่อเฉินซาบซึ้งในสิ่งที่พวกเขาพยายามช่วยตน เด็กชายก้มหน้าลงสะอื้นตัวสั่นเล็กน้อยเขาไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาลูกผู้ชายของเขาถึงแม้ว่าเขาจะยังเป็นเพียงเด็กชายอายุแค่แปดขวบแต่เขาก็มีศักดิ์ศรีและความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่วันนี้พวกนางทำให้ฉินจื่อเฉินรู้สึกว่าเขาได้กลับมาเป็นเด็กน้อยเท่ากับอายุของเขาจริงๆ จึงทำให้ฉินจื่อเฉินกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ข้าขอขอบคุณพวกท่านมากขอรับ”

เด็กชายพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นเครือ เฉียวลู่กอดฉินจื่อเฉินที่นั่งอยู่ข้างนางแล้วลูบหลังเด็กน้อยเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน อวี้หลงและอวี้ชิงที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนักในเรื่องของผู้ใหญ่แต่เมื่อเห็นท่านแม่ที่รักของพวกเขากอดพี่ชายที่แวะมาที่เรือนบ่อยๆ เขาสองคนก็ยื่นมือเล็กๆ ไปลูบหลังฉินจื่อเฉินเลียนแบบเฉียวลู่บ้าง ทำเอาแม่เฒ่าหลี่กับหลิวหงที่นั่งน้ำตาซึมหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“เจ้าหัวไชเท้าน้อยสองหัวนี้ช่างน่ารักเสียจริง”

หลิวหงพูดออกมาและยังหัวเราะทั้งน้ำตา หลังจากแจกแจงเรื่องเงินเสร็จแล้วทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตนอีกครั้ง เมื่อท่านอาหารเช้าเรียบร้อยฉินจื่อเฉินกลับมาที่เรือนของเขาอีกครั้งพร้อมอาหารที่เฉียวลู่แบ่งเอาไว้ให้เขาทั้งเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉินอี้เหยาท่านแม่ของเขาฟังทั้งหมด นางร้องไห้ออกมาทั้งลูบหน้าลูบไหล่บุตรชาย ลูกชายคนเดียวของนางต้องลำบากถึงเพียงนี้ที่นางทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่นะ ถ้าหากนางไม่แกล้งความจำเสื่อมและกลับไปที่นั่น บุตรชายของนางป่านนี้อาจจะยืนอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น หรือไม่ก็อาจจะตายไปแล้วเพราะใครบางคนที่คิดทำร้ายพวกเขา ฉินอี้เหยาถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าใจ

“ดีแล้วจ้ะเมื่อแม่หายดีแล้วแม่จะไปช่วยลูกเหมือนกัน”

ฉินจื่อเฉินโผเข้ากอดมารดาของตนด้วยความดีใจ ในที่สุดท่านแม่ของเขาก็เลิกเก็บตัวอยู่แต่ในเรือนเสียที

“ท่านแม่ข้าดีใจมากขอรับ ท่านต้องทานอาหารให้มากๆ และอย่าลืมทานยาที่ท่านหมอชางให้มานะขอรับท่านจะได้หายป่วยเร็วๆ”

ฉินอี้เหยาพยักหน้าให้บุตรชายของนาง

“ได้สิแม่เชื่อเฉินเอ๋อ”

หลังจากที่ฉินจื่อเฉินดูแลท่านแม่ของเขาเรียบร้อยเขาก็ตรงไปที่กระท่อมของเฉียวลู่ทันที นางเตรียมตัวรออยู่แล้วเมื่อเห็นฉินจื่อเฉินเดินมาแต่ไกลนางก็ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

“มาแล้วหรือจื่อเฉินน้อยพวกเรากำลังจะไปกันพอดี”

ฉินจื่อเฉินยิ้มตอบนาง เป็นครั้งแรกที่เฉียวลู่เห็นเด็กชายยิ้มออกมาด้วยความจริงใจไม่ใช่ยิ้มธุรกิจเหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเปิดใจให้ใครบ้างแล้ว คณะของเฉียวลู่ตรงไปที่สระบัวอีกครั้งเมื่อพวกนางไปถึงที่นั่นชาวบ้านมากมาต่างจับกุ้งอยู่ในสระบัวทำเอาเฉียวลู่ถึงกับงง ทำอะไรไม่ถูก

“นี่พวกท่าน!!”

ชาวบ้านต่างหันมายิ้มให้เฉียวลู่ หญิงวัยกลางคนที่ทักแม่เฒ่าหลี่เมื่อวานก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

“มาแล้วหรือเฉียวลู่ เมื่อวานข้าได้ยินว่าเจ้ารับซื้อกุ้งหรือวันนี้ยังรับซื้อเหมือนเดิมหรือไม่”

เฉียวลู่สติกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเอง

“เจ้าค่ะก็ยังรับเหมือนเดิมแต่ข้ารับเฉพาะตัวใหญ่เท่านี้นะเจ้าคะ จับตัวเล็กมาก็โดนคัดออกอยู่ดี”

เฉียวลู่จับกุ้งในตะกร้าของเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างจากนางยกให้พวกเขาดู ทุกคนต่างพยักหน้ารับรู้จากนั้นพวกเขาก็หันมาดูกุ้งที่อยู่ในตะกร้าของตนตัวเล็กก็ปล่อยลงน้ำไปเพื่อให้มันตัวโตในวันหน้าพวกเขาจะได้กลับมาจับมันอีก เฉียวลู่พยักหน้าให้กับเหล่าชาวบ้านที่ยังมีจิตสำนึก ไม่หลับหูหลับตาจับเอามาทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กโดยไม่สนว่าจะขายได้หรือไม่

“นี่พี่หลี่เมื่อเช้าเป็นอย่างไรบ้างกุ้งพวกท่านขายดีหรือไม่”

แม่เฒ่าหลี่ที่กำลังงมกุ้งอยู่หันมามองคนที่ถามตน

“ก็พอได้ต้องขอบคุณน้ำจิ้มสูตรลับของตระกูลเฉียวไม่อย่างนั้นกุ้งย่างเปล่าๆ ไม่มีคนซื้อหรอก”

แม่เฒ่าหลี่พูดสกัดชาวบ้านที่คิดนำกุ้งไปขายเลียนแบบบ้างให้กลับไปคิดใหม่อีกครั้ง การค้าขายเป็นเรื่องอิสระที่ใครๆ ก็สามารถขายได้แต่จะขายดีหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าหากไม่มีคู่แข่งนั่นยิ่งเป็นเรื่องดี

จางหย่งไม่ได้มาจับกุ้งด้วยเหมือนเคย เขาทำหน้าที่ตัดไม้ไผ่ทำกระบอกใส่กุ้งย่างหม่าล่าเฉียวลู่มีความคิดบางอย่าง นางอยากจะทำหม่าล่าต้มด้วยในหน้าหนาว แต่รอไปก่อนเอาไว้ให้อากาศเย็นกว่านี้นางคิดว่ามันจะต้องขายดีมากกว่าตอนนี้แน่นอน ถึงตอนนั้นหากไม่มีกุ้งก็ใช้อย่างอื่นมาทำแทนเช่นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อกระต่าย เห็ดหรือผักได้ทั้งนั้น ถ้ามีกระบอกไม้ไผ่เรื่องใส่น้ำซุปไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วงอีกต่อไป

เฉียวลู่เกรงว่าจางหย่งทำงานคนเดียวจะทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยจนเกินไป ดังนั้นนางจึงเสนอให้เขาชวนคนที่รู้จักมาช่วยตัดกระบอกไม้ไผ่และลับขอบปากกระบอกให้เรียบเนียน กระบอกไม้ไผ่หนึ่งร้อยอันในราคายี่สิบเหวินไม้ไผ่บนภูเขามีมากมายพวกผู้ชายกว่าครึ่งหมู่บ้านต่างรีบมาช่วยงานจางหย่งหลังจากได้ยินข้อเสนอของเขา

ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าเก็บเกี่ยวพวกเขาได้งานที่ง่ายดายขนาดนี้ทั้งยังไม่ต้องลงทุนอะไรใช้แค่แรงที่พวกเขามีอยู่แล้วเหลือเฟือ งานแบบนี้ไม่นับว่าเหนื่อยอะไรเหมือนจับเสือมือเปล่าก็ว่าได้ ตัดกระบอกไม้ไผ่ไม่ใช่งานยากสำหรับพวกเขาเลย

ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง ที่หน้าเรือนสกุลจางแม่เฒ่าหลี่กำลังทำหน้าที่ชั่งกุ้งของชาวบ้านที่นำมาขายคนสุดท้าย จางหย่งกำลังต้มกระบอกไม้ไผ่ในเรือนเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่พวกเขาไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรตามคำสั่งของเฉียวลู่ ฉินจื่อเฉินอวี้หลงและอวี้ชิงกำลังทำหน้าที่นำไปคว่ำผึ่งลมเอาไว้ใช้ในวันพรุ่งนี้ กระบอกไม้ไผ่มีหลายร้อยกระบอกนับว่ามีใช้อย่างเหลือเฟือไปหลายวัน แต่พรุ่งนี้มีคนจองเอาไว้แล้วแปดสิบชุดดังนั้นพวกเขาจึงต้องกันส่วนนี้เอาไว้ไม่นับรวมที่จะขายต่อไป

“กินข้าวได้แล้วเจ้าค่ะทุกคน”

เฉียวลู่และหลิวหงรับหน้าที่ทำอาหารซึ่งดูเหมือนนางจะทำได้ดีทีเดียวอาหารที่ทำจากกุ้งมากมายวางอยู่บนโต๊ะ เฉียวลู่ทำข้าวต้มกุ้งใส่หม้ออุ่นไว้บนเตาด้วย

“จื่อเฉินน้อยมาทานด้วยกันก่อนสิอย่าพึ่งกลับห้ามปฏิเสธนะ”

ตอนแรกฉินจื่อเฉินจะกลับไปที่เรือนของตนแต่เฉียวลู่บอกให้เขาทานที่นี่ก่อนเด็กชายทำตามที่เฉียวลู่สั่งอย่างว่าง่าย บุตรชายทั้งสองของเฉียวลู่นั้นยิ่งไม่ต้องให้พูดเป็นครั้งที่สองเข้าประจำที่นั่งอย่างรวดเร็ว พวกเขาสองคนเมื่อก่อนก็มาทานอาหารที่นี่บางครั้งก่อนที่เฉียวลู่จะตกเขาไป แต่เพราะนางไม่มีความทรงจำของเฉียวลู่คนก่อนนางจึงไม่รู้เรื่องที่เด็กน้อยทั้งสองของนางชอบมาทานอาหารที่เรือนสกุลจาง

หลังจากทานอาหารเสร็จพวกเขาก็คุยนัดแนะเรื่องเกี่ยวกับการขายกุ้งย่างสำหรับวันพรุ่งนี้เล็กน้อยจากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับเรือนของตน เฉียวลู่ยกหม้อข้าวต้มตามฉินจื่อเฉินไป

“เดี๋ยวก่อนจื่อเฉินน้อยรับนี่ไปสิท่านแม่ของเจ้ายังไม่ได้ทานอาหารเย็นใช่หรือไม่”

ฉินจื่อเฉินยื่นมือไปรับหม้อข้าวต้มมา

“ขอบคุณขอรับพี่เฉียวลู่”

เขาไม่ปฏิเสธนางอีกแล้วเพราะเฉียวลู่บอกว่ามันเป็นสวัสดิการที่มีไว้สำหรับครอบครัวของพนักงานซึ่งฉินจื่อเฉินไม่เข้าใจว่ามันคือสิ่งใดแต่เขาเชื่อในสิ่งที่เฉียวลู่พูด เขาพยักหน้าทำตามแต่โดยดี เขาคิดว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่พี่เฉียวลู่สั่งเขาล้วนทำตามเพราะนางไม่มีทางสั่งเขาให้ทำในสิ่งที่ไม่ดีแน่

“เอาล่ะเด็กๆ เราก็กลับกระท่อมน้อยของเรากันดีกว่า”

เด็กชายทั้งสองพยักหน้าจูงมือเฉียวลู่เดินขึ้นไปบนเชิงเขาที่ตั้งของกระท่อมน้อยพร้อมกับตะวันที่กำลังค่อยๆ ลับทิวเขาไป

 

Kaugnay na kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เรื่องวุ่นวาย

    เช้ามืดของอีกวันเฉียวลู่ตื่นขึ้นมาด้วยตนเองอย่างอัตโนมัติ ความจริงนางอยากสั่งนาฬิกาพกสักเรือเพื่อนเอาไว้ดูเวลาแต่กลัวว่าถ้าถูกคนพบเห็นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะครอบครัวของนางตอนนี้ยังไม่นับว่าจะสามารถมีสิ่งของที่มีค่าได้เลย หากมีคนคิดไม่ซื่ออยากได้ของของนางแล้วใส่ร้ายว่านางลักขโมย ต่อให้มีสิบปากด้วยสภาพของนางตอนนี้ย่อมแก้ตัวแล้วไม่มีใครเชื่อแน่วัวเทียมเกวียนเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ววันนี้ออกไปเร็วกว่าเมื่อวานเพราะเฉียวลู่คิดว่าเมื่อพวกนางขายดีต้องมีคนอยากได้ที่ขายของพวกนางแน่ และก็เป็นเรื่องจริงเมื่อเกวียนจอดที่หน้าทางเข้าอำเภอทุกคนช่วยกันขนของไปที่ที่พวกเขาขายเมื่อวานแต่ปรากฎว่ามีคนที่มาตั้งร้านก่อนหน้าแล้วและดูเหมือนพวกเขาก็ขายของย่างด้วยเช่นกัน“นี่มันอะไรกันเนี่ยที่ตั้งเยอะแยะทำไมจะต้องเจาะจงเลือกมาตั้งที่ของพวกเราด้วย”หลิวหงบ่นออกมาด้วยความหัวเสีย ถึงเสียงของนางจะดังจนทำให้ร้านขายปิ้งย่างร้านนั้นได้ยินแต่พวกเขาก็ทำเพียงถลึงตาใส่แต่ไม่ได้ปริปากตอบโต้กลับมา เฉียวลู่ดึงแขนนางเอาไว้แล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องไปพูดอีกแล้ว ที่ตลาดอำเภอเป่ยจิงไม่มีพื้นที่ให้เช่าที่กำหนดตายตัวเมื่

    Huling Na-update : 2024-12-29
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขายสูตรกุ้งย่างหม่าล่า

    ทุกคนนั่งเกวียนวัวกลับไปที่หมู่บ้านมู่โฉวด้วยความเบิกบานเพราะวันนี้กุ้งหนึ่งร้อยห้าสิบจินขายหมดในพริบตาไม่นับรวมคำสั่งซื้อแปดสิบชุดของเมื่อวาน“นี่นับเป็นนิมิตหมายอันดีหากว่าขายดีเช่นนี้ไปเรื่อยๆ พวกเขาจะต้องรวยในไม่ช้าแน่นอน”แม่เฒ่าหลี่พูดออกมาด้วยความเพ้อฝัน เฉียวลู่ที่วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าสำหรับเรื่องในอนาคตแล้วนั้นกลับไม่เห็นด้วยกับนาง“ขายชั่วคราวนั้นได้เจ้าค่ะ แต่ถ้าหากขายแค่เพียงกุ้งย่างไม่ช้าคนที่อำเภอเป่ยจิงจะต้องเบื่อกุ้งอย่างแน่นอน ตอนนี้พวกเขายังเห็นเป็นอาหารแปลกใหม่จึงพากันมารุมซื้อก็เท่านั้น”แต่แม่เฒ่าหลี่รู้สึกไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเฉียวลู่นางจึงพูดแย้งขึ้น“อาลู่เจ้าไม่รู้อะไร ถึงกุ้งย่างหม่าล่าจะเป็นอาหารแปลกใหม่แต่ถ้าหากไม่อร่อยคงไม่มีคนมาซื้อเยอะขนาดนี้ เจ้าต้องมั่นใจในฝีมือการทำอาหารของตนเองรู้หรือไม่”เฉียวลู่นึกอยากแย้งแม่เฒ่าหลี่แต่เอาเถอะให้นางได้เห็นกับตาตนเองนางถึงจะเชื่อที่เฉียวลู่พูด เมื่อเจ้าวัวแก่หยุดนิ่งที่ทางเข้าอำเภอทุกคนที่นั่งโดยสารมากับมันต่างทยอยลงมาและทำหน้าที่ของตนที่ทำไปแล้วเมื่อวาน พวกเขาต่างลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ตลาดอำเภอเป่ยจิง เฉีย

    Huling Na-update : 2024-12-29
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เถ้าแก่จาง

    หลังจากที่ขายกุ้งย่างจนหมดแล้ววันนี้ใช้เวลานานกว่าทุกวันเล็กน้อยแต่ทุกคนต่างก็ยินดีเพราะกุ้งกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบจินขายหมดเกลี้ยง วันนี้เฉียวลู่ไม่รับคำสั่งจองกุ้งย่างเหมือนทุกทีทั้งยังบอกลูกค้าที่มาซื้อว่าพรุ่งนี้นางไม่ได้มาขาย ทำเอาแม่เฒ่าหลี่จางหย่งและหลิวหงไม่เข้าใจในสิ่งที่เฉียวลู่กำลังทำ“เอาไว้เมื่อกลับไปถึงเรือนข้าจะอธิบายให้พวกท่านเข้าใจเองเจ้าค่ะ วันนี้เราไปซื้อของกลับบ้านสักเล็กน้อยดีหรือไม่”ถึงแม้พวกเขาจะไม่เข้าใจว่านางกำลังคิดทำอะไรแต่ทุกคนต่างก็เชื่อใจและทำตามที่เฉียวลู่พูดเป็นอย่างดี เฉียวลู่พาทุกคนมาที่ร้านขายเสื้อผ้านางซื้อชุดผ้าฝ่ายสำเร็จรูปให้ทุกคนรวมทั้งฉินจื่อเฉินและท่านแม่ของเขาด้วย ความจริงเฉียวลู่อยากซื้อของกลับบ้านให้มากกว่านี้แต่กระท่อมของนางนั้นไม่เอื้ออำนวยในการเก็บสิ่งของมีค่าเฉียวลู่ซื้อขนมดอกกุ้ยฮวาที่ร้านชื่อดังของอำเภอและอาหารที่จีหม่านโหรวกลับไปกินที่เรือนหลายอย่าง แม่เฒ่าหลี่ต้องคอยปรามเฉียวลู่ให้ประหยัดเงินเอาไว้หน่อย เพราะเงินที่เฉียวลู่ใช้นั้นล้วนเป็นเงินที่มาจากค่าแรงของนาง ส่วนเงินที่ได้กำไรที่ขายกุ้งย่างทุกวันเป็นแม่เฒ่าหลี่ที่เก็บเอาไว้ เพราะเ

    Huling Na-update : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   สร้างเรือนที่ไม่เหมือนใคร

    เช้าวันต่อมาเฉียวลู่ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อพาจางหย่งไปส่งกุ้งให้กับจีหม่านโหรว นางจะไปด้วยเพียงครั้งแรกเท่านั้นเพื่อให้พวกเขาจำหน้าจางหย่งได้จะได้รู้ว่าครั้งหน้าเขาคือผู้ที่จะมาส่งกุ้งให้จีหม่านโหรวทุกวัน นอกจากส่งกุ้งแล้วเฉียวลู่ก็มีเรื่องที่ต้องการทำอีกอย่างคือหาคนมาสร้างเรือนให้นางนั่นเอง และอุปกรณ์บางอย่างก็ต้องมาหาซื้อที่อำเภอเป่ยจิงเท่านั้นเมื่อเจ้าวัวแก่หยุดลงที่หน้าจีหม่านโหรว เฉียวลู่กระโดดลงมาจากเกวียน นางเดินตรงไปที่ผู้ดูแลที่กำลังตรวจดูผักและเนื้อของชาวบ้านที่นำมาขายให้พวกเขา“อรุนสวัสดิ์เจ้าค่ะผู้ดูแลเหวิน”เหวินซงที่กำลังยุ่งอยู่กับการตรวจวัตถุดิบที่จะนำมาทำอาหารรีบหันตามเสียงทักทายที่แสนหวานของเฉียวลู่ทันที“อ้อแม่นางเฉียวนั่นเอง เจ้ามาแล้วหรือข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย”เฉียวลู่พยักหน้ารับ“ดูเหมือนท่านกำลังยุ่งอยู่ ข้ารอได้เจ้าค่ะ”เหวินซงส่ายหน้าไปมาไม่เป็นไรวัตถุดิบของเจ้าสำคัญกว่า มาเถอะข้าจะให้คนชั่งกุ้งของเจ้าก่อน”เหวินซงเรียกพนักงานของจีหม่านโหรวสองคนให้มาช่วยเขาชั่งกุ้งไม่นานกุ้งสามร้อยสามจินก็ถูกชั่งเรียบร้อย“สามจินนี้ถือว่าเป็นกำไรที่ข้ามอบให้พวกท่านนะเจ้าคะ”

    Huling Na-update : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   บุรุษลึกลับ

    เฉียวลู่เขียนสูตรอาหารที่ปรุงจากกุ้งให้เถ้าแก่จีคือ หม่าล่าต้ม ผัดโป๊ยเซียนที่นางทำให้เด็กๆ กินวันแรกและข้าวอบจักรพรรดิ โชคดีที่นางอ่านมาก่อน จากนั้นนางก็ตามผู้ช่วยเหวินไปที่ครัวด้านล่างทำอาหารสองสามอย่างที่ทำจากกุ้งให้เถ้าแก่จีชิม แต่ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเหวินไม่ได้ยกอาหารไปที่ห้องของเถ้าแก่จีที่ชั้นสอง แต่ผู้ช่วยเหวินยกถาดอาหารไปที่ห้องรับรองพิเศษห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสามแทน เฉียวลู่ไม่ค่อยเข้าใจนักแต่นางก็ไม่สนใจว่าเขาจะยกไปให้ใครชิมเพราะนางได้รับค่าสูตรอาหารมาแล้วผู้ช่วยเหวินเข้าไปในห้องนั้นสักพักจากนั้นจึงออกมาจากห้องนั้นพร้อมกับถาดที่มีผ้าไหมสีแดงคลุมอยู่ เฉียวลู่ที่ยืนรออยู่ก็ใช้สายตาถามผู้ช่วยเหวินว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผู้ช่วยเหวินยิ้มให้เฉียวลู่อย่างใจดีจากนั้นจึงเปิดผ้าที่คลุมถาดออก ตั๋วเงินสองร้อยตำลึงวางอยู่บนนั้นพร้อมทั้งก้อนเงินอีกหลายสิบก้อน“นี่เป็นรางวัลที่มอบให้กับเจ้าผู้ที่ทำอาหารได้ถูกปากนายท่าน แม่นางเฉียวเจ้ารู้หรือไม่ว่าตั้งแต่ท่านผู้นั้นมาพักอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยมีพ่อครัวคนไหนทำอาหารที่นายท่านเอ่ยชมสักครั้ง เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านั้นเป็นคนแรก”เฉียวลู่อึ้งไปสักพักนางไม่

    Huling Na-update : 2025-01-02
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ขึ้นบ้านใหม่

    สองเดือนผ่านไปอากาศที่หมู่บ้านมู่โฉวเริ่มหนาวแล้วเพราะอยู่ท่ามกลางหุบเขาจึงทำให้มวลอากาศเย็นถูกพัดมาจากในป่าทำให้ที่นี่หนาวเย็นมากกว่าในอำเภอ เรือนของเฉียวลู่สร้างเสร็จก่อนกำหนดถึงสิบวันนั่นเพราะหลังจากที่คนงานกลับไปหมดแล้วเฉียวลู่ก็แอบมาแบกต้นไม่ที่นางตัดซ่อนเอาไว้มากองรวมกับต้นไม้ที่คนงานของนายช่างอู๋ตัดเอาไว้ทำให้พวกเขาย่นระยะเวลาที่ต้องเดินขึ้นลงเขาไปกว่าสิบวันเฉียวลู่ย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนไม้ซุงที่ดูแปลกตาของนางแล้ว ชาวบ้านต่างก็อยากมาชื่นชมบ้านใหม่ที่ไม่เหมือนใครของนาง เวลาที่เหลืออีกสิบวันเฉียวลู่จ้างให้นายช่างขุดบ่อน้ำและทำรั้วรอบที่ดินยี่สิบหมู่ของนางความสูงขนาดสามเมตร นางให้เหตุผลว่าที่นางทำรั้วสูงเช่นนี้เพราะนางเป็นสตรีที่อาศัยอยู่กับลูกลำพังดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเอาไว้ก่อนวันนี้เป็นวันจัดงานขึ้นบ้านใหม่ของเฉียวลู่ นางให้แม่เฒ่าหลี่เชิญคนทั้งหมู่บ้านมาร่วมยินดี และฝากให้จางหย่งเชิญนายช่างอู๋และฮูหยินมาร่วมงานด้วย ส่วนตัวนางนั้นเป็นผู้เชิญเถ้าแก่จีและผู้ช่วยเหวินด้วยตัวเองเสียงแสดงความยินดีของชาวบ้านทำให้เฉียวลู่ยิ้มหน้าบาน อาหารทั้งหมดถูกสั่งมาจากจีหม่านโหรว

    Huling Na-update : 2025-01-03
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   เต้าหู้

    นายช่างอู๋เมื่อเห็นแบบทั้งหมดที่เฉียวลู่วาดเขาก็ยิ่งตกใจมากกว่าครั้งแรกที่เห็นแบบบ้านที่นางวาดให้เขา ตอนนี้นายช่างอู๋ไม่คิดลังเลแล้วและได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าเขาจะพูดเรื่องนี้กับเฉียวลู่ ครั้งแรกเขายังลังเลอยู่เล็กน้อยเพราะกลัวว่านางจะปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขาไม่มีความลังเลในจิตใจเลยสักนิดเดียว“แม่นางเฉียวเจ้าคิดที่จะร่วมมือทำการค้ากับข้าหรือไม่ แบบทั้งหมดที่เจ้าให้ข้ามาข้าจะทำให้เจ้าแบบไม่คิดเงินสักตำลึง”เฉียวลู่คำนวณเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่านายช่างอู๋จะต้องคุยเรื่องนี้กับนาง แต่เฉียวลู่ที่ยังไม่ทันได้รับปากก็ถูกนายช่างอู๋ชิงพูดขึ้นมาก่อน“ข้าจะให้เจ้าสิบส่วนในผลงานที่ข้าทำออกมาต่อหนึ่งชิ้น และข้าอยากจะขออนุญาตเจ้าให้ข้านำแบบบ้านของเจ้าไปสร้างได้หรือไม่เจ้าสามารถเรียกร้องมาได้เลยว่าเจ้าต้องการกี่ส่วน หรือเจ้าคิดว่าสิบส่วนนั้นน้อยเกินไป”เฉียวลู่เห็นนายช่างอู๋ที่ร้อนรนเช่นนั้นนางก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน ตลอดสองเดือนที่นายช่างอู๋และลูกน้องของเขามาสร้างเรือให้นางเฉียวลู่เห็นแล้วว่านายช่างคนนี้เป็นคนใจกว้างกับผู้อื่นและซื่อสัตย์เหมาะแก่การทำธุรกิจด้วยยิ่งนัก“หยุดก่อนนายช่างอู๋ข้าไม่ได้จะ

    Huling Na-update : 2025-01-03
  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ถูกจับตามอง

    เต้าหู้ขายหมดแล้ว เฉียวลู่ให้ทุกคนเก็บของรอนางไปก่อนนางตรงไปที่จีหม่านโหรวทันที เมื่อไปถึงผู้ช่วยเหวินนั่งรอนางอยู่ที่ด้านในโรงเตี๊ยมก่อนแล้ว“สวัสดีผู้ช่วยเหวินอาหารที่ข้าส่งมาไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง”เฉียวลู่ยิ้มตาหยีให้เขา นางคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องได้รับคำตอบเช่นไร“แม่นางเฉียวอาหารที่เจ้าส่งมานั้นเรียกว่าอะไรหรือ มันทั้งนุ่มจนแทบละลายในปากทั้งอร่อยเข้มข้นเจ้าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไรเจ้าช่วยบอกข้าที”เฉียวลู่ยังไม่ได้ตอบผู้ช่วยเหวินนางมองไปรอบๆ เหมือนกำลังมองหาบางอย่าง“เถ้าแก่จีไม่อยู่หรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าจะส่งเต้าหู้มาให้เขาชิมเสียหน่อย”ผู้ช่วยเหวินส่งยิ้มแห้งๆ ให้นางความจริงเถ้าแก่ไม่อยู่ที่อำเภอเป่ยจิงสักพักแล้วเพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ลิ้มรสอาหารรสเลิศเช่นนี้อย่างไรเล่า“ไม่อยู่ขอรับ แต่ว่าอีกไม่กี่วันท่านก็คงจะกลับมาถึงตอนนั้นแม่นางเอาเต้าหู้มาให้นายท่านชิมอีกครั้งได้หรือไม่”เฉียวลู่ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง ช่างเถอะเอาไว้คราวหน้าก็ได้ เงินอยู่ตรงหน้านี้แล้วถึงอย่างไรมันก็คงไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอก“เช่นนั้นเอาไว้ครั้งหน้าข้ามาใหม่ อาหารที่ส่งมาท่านชอบก็ดีแล้วอย่าลืมบอก

    Huling Na-update : 2025-01-03

Pinakabagong kabanata

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   กลับแคว้นฉี

    หลังจากที่ทุกอย่างถูกเปิดเผยฉินเจี่ยซินและองค์ชายสามถูกลงโทษประหารชีวิต ฉินอี้เหยาได้ขึ้นนั่งตำแหน่งเดิมของตนส่วนฉิน จื่อเฉินหลังจากที่พิสูจน์ว่าเป็นพระโอรสของเซียวฮ่องเต้แล้วเขาก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาทเซียวฮ่องเต้ได้ตกรางวัลมากมายให้เฉียวลู่นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดทั้งวันเพราะตอนนี้นางเป็นเศรษฐีแล้ว ฉีหมิงเยี่ยนมองท่าทางเหมือนคนเสียสติของนางแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนใจ สตรีผู้นี้ไม่สนใจตำแหน่งท่านหญิงแต่กลับขอเปลี่ยนเป็นเงินแทนทำเอาขุนนางทั้งหลายถึงกับอึ้ง เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับนางดีเฉียวลู่พาบุตรชายทั้งสองของนางเที่ยวเล่นที่เมืองหลวงถึงสองเดือนตอนนี้ถึงเวลาที่นางต้องกลับไปที่เรือนน้อยเชิงเขาของนางแล้ว“พี่อาลู่ท่านจะไปแล้วจริงหรือ”องค์หญิงเซียวหมิ่นงอแงไม่อยากให้นางกลับไปวันทั้งวันเอาแต่ตามติดนางไม่ห่าง ทำเอาฉีหมิงเยี่ยนหงุดหงิดจนอยากจะจับนางยัดใส่ถังไม้ถ่วงน้ำทะเล แต่วันนี้เป็นวันที่ฉีหมิงเยี่ยนอารมณ์ดีที่สุดเพราะพวกเขากำลังจะกลับไปที่อำเภอเป่ยจิง“ข้ามีเรื่องต้องทำมากมายอยู่เที่ยวเล่นเป็นเพื่อนท่านไม่ได้เอาอย่างนี้ ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสข้าจะพาท่านเที่ยวอำเภอเป่ยจิงดี

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ข้าต้องการแก้แค้น

    เฉียวลู่ถูกเรียกตัวเข้าพบฮ่องเต้นางเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังทั้งยังบอกเล่าจุดที่น่าสงสัยที่ควรตามสืบ ผ่านไปอีกหลายวันเรื่องของนักฆ่าที่ตามสังหารองค์หญิงเซียวหมิ่นยังคงเงียบ นางรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก เขาเป็นถึงฮ่องเต้ที่มีอำนาจสูงสุดในแผ่นดินนี้แค่ตามสืบว่าใครว่าจ้างมือสังหารยังทำไม่ได้เชียวหรือ ทำไม่ได้หรือไม่ทำกันแน่กลางดึกในวังหลวงชายชุดดำปีนเข้าไปด้านในตำหนักชางอี้ ฝีเท้าของเขาแผ่วเบาและรวดเร็วเหมือนถูกฝึกมาเป็นอย่างดี ห้องนอนที่อยู่ด้านข้างของห้องนอนองค์หญิงเซียวหมิ่น ฉินอี้เหยาที่กำลังหลับลึกถูกฝ่ามือของใครบางคนปิดปากเอาไว้ นางรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถขยับตัวได้“เหยาเอ๋อ”เสียงเรียกชื่อเบาๆ ของนางทำให้ฉินอี้เหยาหยุดดิ้น เมื่อสายตาชินกับความมืดนางจึงได้รู้ว่าใครกันที่เข้ามาในห้องนอนของนาง“ท่านพ่อ”ฉินอี้เหยากอดชายชุดดำที่อุกอาจบุกเข้ามาในวังหลวงอย่างไม่กลัวตาย ที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการยืนยันให้แน่ใจว่านางกำนัลที่เขาเห็นในท้องพระโรงใช่นางหรือไม่ ฉินอี้เหยากลั้นเสียงร้องไห้จนสั่นไปทั้งร่าง นางรู้สึกอุ่นใจที่ครอบครัวของนางยังไม่ทอดทิ้ง“พ่อมาที่นี่เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าตัวจริง เ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   พบกันอีกครั้ง

    วันรุ่งขึ้นหลังจากที่หวงมามาได้รับข้อความจากคนของฉีหมิงเยี่ยนที่เป็นสายลับอยู่ในวังหลวง นางก็ใช้ตราของตำหนักองค์หญิงพานางกำนัลออกมาด้วยสองคน หวงมาๆ ให้รถม้าวิ่งวนไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา จากนั้นจึงให้คนขับรถม้ามาที่เรือนหลังเล็กที่อยู่ใกล้สำนักศึกษา“หวงมามา”องค์หญิงเซียวหมิ่นเรียกนางด้วยความดีใจเหมือนได้พบญาติผู้ใหญ่อีกครั้ง หวงมามากอดนางร้องไห้“องค์หญิงเหตุใดหนีออกจากวังเช่นนี้ ท่านไม่กลัวว่าบ่าวแก่ๆ คนนี้จะหัวใจวายตายหรือเพคะ”องค์หญิงเซียวหมิ่นหลังจากที่โดนนักฆ่าตามสังหารตอนนี้นางก็ได้รู้แล้วว่าตนเองนั้นทำผิดมหันต์แค่ไหน ไม่คิดดื้อดึงถกเถียงกับหวงมามาอีกแล้ว“ข้าผิดไปแล้วต่อไปจะทำอะไรข้าจะคิดให้มากกว่านี้”หวงมามาเมื่อตั้งสติได้ก็หันไปมองเฉียวลู่และบุรุษที่มีใบหน้าธรรมดา ด้านหลังของพวกเขามีสตรีที่งดงามนางหนึ่งยืนอยู่นางไม่มีวันลืมใบหน้านั้นได้เด็ดขาด“ฮองเฮาเป็นไปได้อย่างไร”หวงมามารีบเข้าไปคุกเข่าให้นางทันที ฉินอี้เหยารีบเข้าไปประคองหวงมามาให้ลุกขึ้น“ข้าหาใช่ฮองเฮาอีกแล้ว หวงมามาท่านอย่าได้คุกเข่าให้ข้าเลย”หวงมามายังไม่ได้สติกลับมา แปดปีกว่าที่ฝ่าบาทตามหานางแต่คนท

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แผนซ้อนแผน

    เฉียวลู่พาเด็กๆ ไปฝากแม่เฒ่าหลี่เอาไว้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เด็กชายทั้งสองชินกับเรื่องพวกนี้แล้วเพราะเมื่อก่อนท่านแม่ก็ทำเช่นนี้ในบางครั้งที่นางต้องไปทำธุระที่อำเภอเป่ยจิง ฉินอี้เหยากอดฉินจื่อเฉินเอาไว้นางร้องไห้ออกมาเบาๆ พร้อมกับร่ำลาบุตรชาย“เฉินเอ๋อแม่จะกลับมารับลูกเมื่อเรื่องทั้งหมดคลี่คลายแล้ว ลูกรอแม่อยู่กับท่านยายหลี่เป็นเด็กดีรู้หรือไม่”ฉินจื่อเฉินพยักหน้าขอบตาแดงก่ำแต่เขาก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา เพราะกลัวว่าท่านแม่จะเป็นกังวล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องแยกจากนาง ฉินจื่อเฉินรู้สึกโดดเดี่ยวเขาอยากตามไปด้วยแต่ท่านแม่บอกว่าครั้งนี้มันอันตราย เขาจึงต้องทำตามที่ท่านแม่สั่งเมื่อทุกคนล่ำลาเสร็จแล้วเฉียวลู่ฝากทุกอย่างของนางเอาไว้ที่แม่เฒ่าหลี่นางไม่ได้บอกอะไรมากมายแต่แม่เฒ่าหลี่ก็สามารถรับรู้ได้ว่า การที่เฉียวลู่ไม่บอกอะไรนางเลยอาจเป็นเพราะกลัวพวกนางเป็นอันตราย เฉียวลู่และคนคุ้มกันอีกสองสามคนนั่งเกวียนออกไปจากหมู่บ้านก่อนทำเหมือนออกไปค้าขายดั่งเช่นทุกวันส่วนองค์หญิงเซียวหมิ่นและฉินอี้เหยาถูกองครักษ์ของฉีหมิงเยี่ยนพาแยกเข้าเมืองหลวงไปอีกทางเพื่อให้คนของฉินฮองเฮาแยกออกจากกัน ฟ้าสว่างมากแล้วจ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แผนกลับเมืองหลวง

    เฉียวลู่รู้สึกหนักใจอยู่เหมือนกัน ถึงตัวนางจะมีกำลังมากแต่ให้สู้กับนักฆ่ามืออาชีพนางย่อมไม่สามารถสู้ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ดูเหมือนมีเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยพวกนางได้คือฉีหมิงเยี่ยน“พวกท่านกลับไปก่อนข้าจะลองหาทางช่วยพวกท่านเอง”หลังจากฉินอี้เหยาและองค์หญิงเซียวหมิ่นกลับไปเฉียวลู่จึงเรียกองครักษ์เงาออกมา“พวกเจ้าสองคนไปเฝ้าดูเรือนของพี่อี้เหยาเอาไว้ถึงแม่ว่าข้าจะคิดว่านักฆ่าน่าจะยังไม่กลับมาในเร็วๆ นี้แต่ป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า”องครักษ์เงาสองคนคารวะเฉียวลู่แล้วทะยานหายไป เฉียวลู่เดินไปดูเด็กชายทั้งสองที่ยังนอนหลับอยู่ในห้องของนาง จากนั้นนางจึงเดินไปที่ห้องของฉีหมิงเยี่ยน เฉียวลู่เคาะประตูเบาๆ“เข้ามา”เสียงทุ้มดังออกมาจากด้านใน เฉียวลู่ผลักประตูเปิดเอาไว้ นางเดินไปหาเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง“มีเรื่องอันใด”นางมีท่าทีลังเลเล็กน้อย“ท่านคงได้ยินทั้งหมดแล้วกระมัง ท่านพอจะช่วยเหลือพวกนางได้หรือไม่”เฉียวลู่พูดเสียงเบาเหมือนกับไม่มีความมั่นใจในตนเองเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาเขาจะไม่ช่วยก็ไม่มีใครสามารถว่าเขาได้ อีกอย่างเมื่อวานเหมือนนางจะโมโหเขาเพราะเรื่ององค์หญิงเ

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ศาลเจ้าขอพรให้รักสมหวัง

    รุ่งเช้าเฉียวลู่ตื่นขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย นางบิดตัวไปมาเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบที่นอนท่าเดียวทั้งคืน เมื่อนางตื่นเต็มก็ตาพบว่าตนเองนอนอยู่ในห้องนอนของตนเองที่อยู่ในยุคปัจจุบัน“อะไรกันเรากลับมาได้แล้วหรือ”เฉียวลู่รีบเปิดประตูห้องวิ่งลงมาข้างล่างเพื่อเช็คให้แน่ใจ คุณพ่อที่นั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าทีวีดูข่าวเช้า ส่วนคุณแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวกลิ่นหอมฉุยของโจ๊กโชยมาทำให้เฉียวลู่แน่ใจว่าตนเองไม่ได้ฝันไป เรากลับมาได้แล้ว“แม่คะพ่อคะหนูกลับมาแล้ว”ท่าทางร่าเริงของเฉียวลู่เรียกรอยยิ้มของคุณแม่ของเธอ“กลับมาแล้วอะไรกันเด็กคนนี้ละเมออะไรอยู่ ขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแล้วลงมาทานข้าวได้แล้ว”เฉียวลู่ยิ้มตาหยีแล้ววิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอนทำตามคำสั่งของคุณแม่“เรากลับมาแล้วจริงๆ ด้วย”เฉียวลู่อาบน้ำและฮำเพลงอย่างอารมณ์ดี เมื่อแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินลงมาทานอาหารพร้อมหน้าครอบครัว ระหว่างที่กำลังทานโจ๊กเฉียวลู่มองพ่อแม่ที่กำลังคุยกันอย่างหวานชื่น เป็นเรื่องปกติสำหรับครอบครัวของเฉียวลู่ เพราะเธอเห็นพ่อกับแม่แสดงความรักต่อกันแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้ บางครั้งเธอยังรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงของแถมที่เกิดจากความรักของทั

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   แง่งอน

    เฉียวลู่เมื่อกลับไปถึงเรือนของตนก็พบพ่อลูกที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องโถง นางเข้าไปกอดและหอมเจ้าหัวไชเท้าน้อยทั้งสองจากนั้นจึงเดินกลับเข้าห้องไป นางไม่แม้แต่จะทักทายบิดาของบุตรชายนางสักนิดเรื่องนักฆ่าที่พวกเขาพบที่จีหม่านโหรวได้ถูกถ่ายทอดให้ฉีหมิงเยี่ยนได้รู้ เขาขมวดคิ้วมุ่นแต่ไม่ใช่เรื่องของนักฆ่าแต่เป็นเรื่องของเฉียวลู่ ดูเหมือนว่าไม่ใช่เพียงนิสัยของนางเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ตอนนี้เฉียวลู่แทบจะไม่เหมือนคนเดิมที่เขาเคยรู้จักในอดีต หากไม่ใช่ใบหน้าของนางที่เหมือนเดิมแล้ว เขาคงคิดว่านางเป็นคนอื่นที่ปลอมตัวมา“จับตาดูนางเอาไว้ให้ดี มีสิ่งใดผิดปกติให้รีบมารายงานข้า”เฉียวลู่กลับออกมาจากห้องนอนของตน นางเดินผ่านห้องโถงเข้าครัวไปอุ่นอาหารในครัวที่นางวานแม่เฒ่าหลี่เอาไว้ ฉีหมิงเยี่ยนเข้ามาอยู่ในเรือนนี้หลายวันแล้วถึงเฉียวลู่จะไม่ค่อยพูดกับเขาแต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดีขึ้นกว่าตอนที่พวกเขาพบกันในครั้งแรก แต่วันนี้บรรยากาศกลับแตกต่างไปจากเดิมถึงแม้นางจะยังคงทำทุกอย่างดั่งเช่นทุกวัน แต่เขารู้สึกได้ว่านางเย็นชากับเขายิ่งกว่าเดิม ฉีหมิงเยี่ยนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางเพราะเขาไม่รู้ว่าเฉียวล

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   ลอบสังหาร

    เถ้าแก่ร้านเฟยหย่ารีบวิ่งตามออกมาด้านนอกแต่รถม้าที่เฉียวลู่และฉินอี้เหยานั่งมาได้ขับออกไปแล้ว“น่าเสียดายนักสุดท้ายแล้วนางมีของดีเก็บเอาไว้แต่ไม่ยอมเอาออกมาเสนอขายให้ข้าช่างเป็นสตรีที่น่ากลัวจริงๆ”เถ้าแก่สั่งให้พนักงานในร้านเฟยหย่าทุกคนจำใบหน้าของเฉียวลู่และฉินอี้เหยาไว้ นางมาที่นี่อีกเมื่อใดให้ไปตามเขามาทันที เฉียวลู่สั่งให้เฉิงรุ่ยที่ทำหน้าที่ขับรถม้าจอดรอที่หน้าจีหม่านโหรวนางมีของฝากมาให้เถ้าแก่จีและผู้ช่วยเหวินเมื่อฉินอี้เหยาเดินตามเฉียวลู่เข้าไปด้านใน แต่แล้วนางก็ต้องชะงักไปเหมือนกับว่านางเห็นใบหน้าของคนผู้นั้นซ้อนทับกับเด็กหนุ่มชุดขาวที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยม ฉินอี้เหยาอยากเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูให้ชัดเจน แต่แล้วก็มีชายชุดดำที่ไม่รู้ที่มาพุ่งกระบี่เข้าหาเด็กหนุ่มผู้นั้นเฉียวลู่ที่รู้ตัวก่อนได้เขวี้ยงเก้าอี้ไปขวางกระบี่เอาไว้ทำให้กระบี่พลาดเป้าไปโดนแขนของเขาแทน เด็กหนุ่มล้มลงเพราะถูกแทงที่แขน ผมที่ถูกผูกเอาไว้ได้คลายออกฉินอี้เหยาจำได้ทันทีว่าเขาเป็นใครองค์หญิงน้อยที่ชอบมาเที่ยวที่ตำหนักรัชทายาทเมื่อตอนที่นางยังเยาว์แต่เหตุใดนางถึงแต่งกายเป็นชายแล้วมาอยู

  • ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่   อันตรายที่ใกล้เข้ามา

    ผ่านไปแปดปีกว่ายังตามหาพวกนางแม่ลูกไม่พบ ถึงฝ่าบาทจะไม่เคยตรัสถึงเรื่องนี้เลยสักครั้งแต่นางก็รู้ดีว่าภายในใจของพระองค์นั้นมีเพียงคุณหนูใหญฉินเพียงคนเดียว ต่อให้เขาแต่งตั้งนางที่เป็นคุณหนูรองขึ้นเป็นฮองเฮาแทนฉินอี้เหยาเพราะต้องการตอบแทนความภักดีของตระกูลฉิน แต่ในสายตาของฝ่าบาทนางเป็นเพียงตัวแทนของคนที่พระองค์รักเท่านั้นฉินเจี่ยซินรู้สึกโกรธแค้นคนที่อาจจะตายไปแล้วถึงแปดปีที่ยังคงยึดครองพื้นที่ภายในใจของฮ่องเต้เอาไว้ นางได้พบเขาครั้งแรกในวันงานปักปิ่นของคุณหนูใหญ่ฉิน ความสง่างามและน่าเกรงขามของเขาช่างแตกต่างจากบุรุษทั่วไปที่นางได้พบยิ่งนั่นทำให้ฉินเจี่ยซินตกหลุมรักองค์รัชทายาทเซียวยิ่นตั้งแต่แรกพบ แต่ผ่านไปไม่นานก็มีพระราชโองการจากฮ่องเต้ส่งมาที่จวนแม่ทัพฉินขอหมั้นหมายคุณหนูใหญ่ฉินกับองค์รัชทายาท ฉินเจี่ยซินทั้งโมโหทั้งโกรธแค้นเพราะเหตุใด นางเองก็เป็นบุตรสาวของแม่ทัพฉินเช่นกันทำไมสิ่งดีๆ ทุกอย่างถึงตกเป็นของคนที่เกิดก่อนนางเพียงไม่กี่เดือนเช่นฉินอี้เหยา และนั่นเป็นจุดเริ่มตนของแผนการแย่งชิงทุกสิ่งที่เป็นของฉินอี้เหยามาฉินเจี่ยซินได้รู้เรื่องที่องค์ชายสามลอบติดต่อกับต่างแคว้นอย่างลับๆ

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status