แชร์

บทที่ 657

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
โต๊ะและเก้าอี้ถูกวางไว้ทั้งสองด้านของห้องรับแขกขนาดใหญ่ โดยมีพรมสีแดงปูอยู่ตรงกลาง ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดิน ซูชิงอู่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดโดยมีแขกนั่งอยู่ทั้งสองฝั่ง เมื่อมองไปยังบรรดาขุนนางที่มาร่วมอวยพรนั่งกันเป็นแถว ๆ จู่ ๆ นางก็รูัสึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่ตรงที่ประทับของฮ่องเต้ในพระตำหนักจินหลวน

นางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ข้ารู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่งที่แขกทุกท่านสละเวลามาเพื่อร่วมฉลองครบหนึ่งร้อยวันของลูก ๆ ข้า ข้าจึงขอดื่มให้พวกท่านสักหนึ่งจอก”

ซูชิงอู่หยิบจอกเหล้ายกขึ้นไปทางเย่ชิวหมิง

เขามีสถานะสูงสุดในที่นี้ ซูชิงอู่ให้เกียรติเขาเช่นนี้แล้วเหล่าขุนนางอื่น ๆ ย่อมต้องทำตามนาง

ทุกคนยืนขึ้นพร้อมกับเย่ชิวหมิง ดื่มเหล้าหมดจอกแล้วนั่งลงอีกครั้ง

ซูชิงอู่ก็นั่งลงตรงที่นั่งเจ้าภาพด้วยเช่นกัน

สายตาของทุกคนต่างลอบจับจ้องไปที่นาง แต่ซูชิงอู่มีท่าทางที่สง่างามทรงเสน่ห์และนิ่งเฉย โดยปราศจากความกังวลใจหรือท่าทีไร้มารยาท

เมื่อเผชิญกับคำถามและคำชี้แนะมากมายจากเหล่าขุนนาง ซูชิงอู่ก็ไม่ลังเลที่จะตอบกลับ และคำตอบของนางก็เป็นไปอย่างเคารพนอบน้อม

ดวงตาของฉีเทียนหยวนจับจ้องไปที่ซูชิงอู่อยู่ตลอด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 658

    ไม่ว่าการป้องกันจะแน่นหนาเพียงใด แต่ตราบใดที่เย่เสวียนถิงไม่อยู่ที่นี่ มู่หรงฉางฉวนมั่นใจว่าตนจะบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอนแม้เขาจะพบกับปัญหาใดก็ตาม เขาก็สามารถหลบหนีไปจากที่นี่ได้!ทันใดนั้น มีสาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลถือของบางอย่างเดินเข้ามา ขณะที่เดินก็พึมพำไปด้วยเขารีบซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงพลางฟังสาวใช้คนนั้นพูด “ท่านอ๋องน้อยนี่ดูแลยากจริง ๆ ยังร้องไห้ไม่เลิกเลย…”มู่หรงฉางฉวนคิดอะไรออกและเดินตามหลังสาวใช้ไปทันทีทันใดนั้นเขาก็พบว่าหลังจากเดินตามสาวใช้เข้าไปยังเรือนด้านใน คนที่อารักขาอยู่ที่นี่มีจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายคงส่งองครักษ์ไปกระจุกรวมที่ด้านนอกเสียหมดการค้นพบนี้ทำให้มู่หรงฉางฉวนรู้สึกยินดีปรีดานี่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันได้สร้างโอกาสใหญ่ให้เขาลงมือได้สำเร็จสาวใช้ยังคงเดินต่อไป และหลังจากเดินบนทางโค้งยาวเลี้ยวไปมาหลายครั้ง นางก็มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางขณะนี้ในที่สุดมู่หรงฉางฉวนก็ตามนางไปถึงสถานที่ที่เหล่านายน้อยอาศัยอยู่ เมื่อเห็นว่าไม่มีองครักษ์คอยเฝ้า เขาจึงรีบเร่งไปยังเรือนที่อยู่ตรงกลางเพราะเขาเพิ่งบังเอิญเห็นว่าสาวใช้ผู้นั้นถือขอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 659

    ทั้งสองคนต่อสู้กัน ณ ลานบ้านที่ร้างไร้ผู้คนสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์แม้อายุไม่น้อยแล้ว แต่นางมีอุบายมากมาย ทั้งยังเคลื่อนไหวรวดเร็ว แม้นางจะไม่มีวรยุทธ์สูงส่งเท่ามู่หรงฉางฉวนและเอาชนะเขาตรง ๆ ได้แต่นางก็สามารถประมือกับเขาได้นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพมา มู่หรงฉางฉวนก็ไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลขนาดนี้มาก่อนแม้วรยุทธ์ของอีกฝ่ายไม่ได้ทรงพลังเท่ากับเขา แต่วิธีการลื่นไหลแปลกประหลาดรวมถึงพิษทั้งหลาย ที่แม้ไม่ต้องมองเห็นเขาก็รู้ได้ว่าร้ายแรงถึงชีวิต ทำให้เขาไม่กล้าทุ่มโจมตีขณะที่ทั้งสองต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน เศษฝุ่นก็ฟุ้งไปทั่วเรือนหลังจากที่พวกเขาปะทะกันหลายครั้งและภายในห้องนั้นอวิ๋นจื่อกับอวิ๋นชิงเจาะรูที่หน้าต่างและลอบมองออกไปหลังจากได้เห็นภาพการต่อสู้แล้ว ทั้งคู่ก็มีสีหน้าตื่นเต้นและอวิ๋นจื่อยังหยิบเม็ดแตงจากจานที่อยู่ข้าง ๆ ให้อวิ๋นชิงด้วย นางถามว่า “อวิ๋นชิง อร่อยไหม?”อวิ๋นชิงพยักหน้า “อืม อร่อย”นางชี้ไปที่นอกประตู“สนุกไหม?”อวิ๋นชิงพยักหน้าอีกครั้ง “สนุกมาก”เม็ดแตงก็อร่อยการแสดงก็สนุกทั้งสองต่างมองตาและยิ้มให้กันแน่นอนว่าทั้งหมดนี้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 660

    ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาและสังเกตฝ่ามือที่ตนเพิ่งฟาดไปที่หน้าอกของคู่ต่อสู้เขาต้องแปลกใจที่ได้เห็นแผลบาดเล็ก ๆ และมีเลือดไหลเล็กน้อยจู่ ๆ ความเจ็บปวดก็แล่นผ่านผิวหนังจนชาไปทั้งแขนของเขา ทันใดนั้นมู่หรงฉางฉวนก็เข้าใจทันทีว่าสิ่งที่สตรีผู้นี้พูดนั้นเป็นเรื่องจริง...“เจ้า…. เจ้าสมควรตาย!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ทั้งร่างของข้ามีพิษปกคลุมอยู่ทั่ว ขอเพียงเจ้าทำร้ายข้า เจ้าก็จะถูกพิษอย่างแน่นอน!”คนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บกำลังเอาตัวพิงกำแพงและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ส่วนอีกคนนั้นถูกวางยาพิษ ตอนนี้หากเขาขยับตัวสุ่มสี่สุ่มห้า พิษก็จะแพร่กระจายเร็วขึ้นมู่หรงฉางฉวนรีบแตะจุดฝังเข็มขนาดใหญ่หลายจุดทั่วร่างกาย ทำการปิดชีพจรเพื่อชะลอการโจมตีของพิษ และลงไปนั่งขัดสมาธิที่พื้นพวกเขาทั้งสองมองหน้ากันอย่างจนปัญญา เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า อยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนั้นหากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมาขวางไว้ ตอนนี้พวกเขาคงบรรลุเป้าหมายไปแล้วขณะนั้นเอง ประตูก็ถูกเปิดออกร่างร่างหนึ่งเดินออกมาจากข้างในสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์อึ้งงันไปและตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าของซูชิงอู่ไม่ใช่สิ นางจำได้ว่าตอนที่นางกับฉีเท

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 661

    ซูชิงอู่หัวเราะเบา ๆ ขัดจังหวะความคิดของทั้งสองคน“ข้าขอถามเจ้าสองคนหน่อยเถิดว่าพวกเจ้ามีรอะไรจะสั่งเสียหรือไม่?”มู่หรงฉางฉวนแอบตกใจมาก เขารู้ดีว่าหากวันนี้ไม่พูดอะไรบ้างเขาคงต้องตายที่นี่เขาจึงพูดขึ้นว่า "ซูชิงอู่ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ไม่ใช่เพียงข้าเป็นแม่ทัพของแคว้นหนานเย่เท่านั้น วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงครบร้อยวัน เจ้าย่อมไม่มีเหตุให้ฆ่าข้าได้"ซูชิงอู่เลิกคิ้ว “โอ้?”มู่หรงฉางฉวนยกมือขึ้นชี้ไปที่สตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และผลักความรับผิดชอบและสาดโคลนใส่นาง "ข้าเห็นคนผู้นี้แอบเข้ามาในลานอย่างลับ ๆ ข้าจึงตามมาเรื่อย ๆ และการที่แม่ทัพเช่นข้าต่อสู้กับนางก็เพื่อปกป้องคนในจวนของเจ้าให้ไม่เกิดอันตราย ดังนั้นเจ้าย่อมไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะฆ่าข้าได้!”ซูชิงอู่ "อ้อ!"มู่หรงช่างชวนพูดไม่ออก "..."นางเอาแต่เออออซ้ำไปซ้ำมา นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?สตรีภูเขาศักดิ์สิทธิ์ถูกมู่หรงฉางฉวนทำให้โกรธจนต้องหัวเราะออกมานางเช็ดเลือดจากมุมปากแล้วพูดว่า "ข้าไม่มีเจตนาดี และเจ้าก็ไม่ต่างกัน เจ้าไม่ได้มาทางเดียวกับข้า เจ้าตามมาจากทิศทางอื่น ไม่อย่างนั้นเจ้าคงถูกพิษกู่ของข้าทำให้ส

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 662

    เมื่อเห็นฉากนี้ ทั้งคู่ก็เบิกตากว้างพร้อมกันจากนั้นซูชิงอู่ได้ยินเสียงดังกระทบสองครั้ง อาวุธที่พวกเขาเพิ่งส่งออกมาก็เข้าไปปักในร่างกายของกันและกัน"อั่ก!"สตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์กระอักเลือดออกมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด คราวนี้บาดแผลภายในของนางก็ยิ่งสาหัสมากขึ้นก้อนหินกระแทกเข้าที่ไหล่ของนางอย่างแรงจนเกือบจะบดกระดูกนางได้ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้นางเหงื่อออกท่วมตัว ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดมู่หรงฉางฉวนเองก็ไม่ดีไปกว่ากันนัก หลังจากถูกโจมตีด้วยมีดบินดอกเหมยนี้เขาก็สูญเสียความสามารถในการต้านทานไปทันทียิ่งกว่านั้น เห็นได้ว่าพิษที่โดนไปก่อนหน้านี้เริ่มแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้เขากลายเป็นอัมพาต กลายเป็นหมูบนเขียงพร้อมที่จะถูกเชือดซูชิงอู่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นเฮ้อ..แค่อยากจะเล่นสนุกสักหน่อยเท่านั้นนางเดินเข้าไปหามู่หรงฉางฉวน ในขณะที่อีกฝ่ายมองนางด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ นางก็เตะเข้าที่หัวของเขาอย่างแรงแม่ทัพมู่หรงกระเด็นลอยออกไปทันที จากนั้นก็กระแทกเข้ากับเสาด้านข้างอย่างแรงเขาถูกเตะจนศีรษะเต็มไปด้วยเลือดอีกทั้งเลือดก็เริ่มไหลออกจากปากของเขาเช่นกันมู่หรงฉา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 663

    ซูชิงอู่หยุดมือเมื่อได้ยินเสียงนั้นแล้วนางก็หันไปทางต้นเสียงดังกล่าวนางเห็นร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังกำแพง ซึ่งอยู่ไม่ไกล เขาคือฉีเทียนหยวน ซึ่งซูชิงอู่เพิ่งได้พบเมื่อไม่นานมานี้ และยังเป็นผู้มอบหยกชั้นเลิศสามชิ้นให้กับนางอีกด้วยองค์ชายสามของแคว้นฉีตะวันออกแต่งกายด้วยอาภรณ์หรูหรา ใบหน้าของเขาหล่อเหลาสง่างาม แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับเหือดหายไปเขามองดูซูชิงอู่ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะหยุดอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาทั้งสอง“พระชายาเสวียน เราพอจะเจรจากันได้หรือไม่?”ซูชิงอู่เหยียบมือข้างหนึ่งของสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้แล้วถามว่า "เรื่องอันใดเล่า?"ฉีเทียนหยวนกัดฟัน "ตราบใดที่เจ้า..."แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซูชิงอู่ก็ลงมือทันทีกริชสีเงินแวววาวปาดเข้าที่ลำคอของสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์โดยปราศจากความลังเลและความเมตตาแม้แต่น้อย ใบหน้าปลอมของเด็กรับใช้คนนั้น เผยสีหน้ารอดตายอย่างหวุดหวิด ดวงตาของยังคงมองไปยังทิศทางของฉีเทียนหยวนเลือดไหลออกมาจากมุมปากของสตรีนางนั้น ลำคอของนางเกิดรอยบาด และพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ร่างกระตุกเบา ๆ สองครั้ง จากนั้นนางก็

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 664

    องครักษ์เงาสิบเจ็ดตกตะลึง แต่ยังมองไปที่ซูชิงอู่ด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น“เช่นนั้น พระชายาจะได้รับพิษหรือไม่?”ซูชิงอู่ส่ายหัว "วางใจเถิด ข้าไม่เป็นไรหรอก"หลังจากที่นางพูดเช่นนั้นนางจึงเทยาลงบนใบหน้าของเด็กรับใช้คนนั้น ก่อนจะถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออกใบหน้าด้านล่างถูกเปิดเผยออกมา ซูชิงอู่เคยเห็นมาครั้งหนึ่งแล้วในชีวิตที่แล้วของนางนางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตที่แล้ว นางกลายเป็นหนูทดลอง และนอนเหมือนปลารอเชือด แต่ตอนนี้ คนที่ต้องตายไม่ใช่นางอีกต่อไปแล้ว“คาดไม่ถึงจริง ๆ น่าประหลาดใจเกินคาดทีเดียว”องครักษ์เงาสิบเจ็ดรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อได้ยินซูชิงอู่พูดกับตัวเองเช่นนั้น สายตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย“พระชายา ศพนี้สกปรกเกินไป กระหม่อมขอจัดการนำออกไปจะดีกว่า”ซูชิงอู่ส่ายหัว "เหตุใดต้องส่งนางออกไปด้วย ศพของคนจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า อีกเดี๋ยวเจ้าจงนำไปโยนไว้ในห้องเลี้ยงกู่ก็แล้วกัน"เมื่อองครักษ์เงาสิบเจ็ดได้ยินเกี่ยวกับห้องเลี้ยงกู่ ก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาเล็กน้อยเขาเคยเห็นมันมาก่อน แต่ไม่กล้าเข้าไป

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 665

    ฉีเทียนหยวนพูดไม่ออก "..."มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย "แม้ว่าข้าจะเชี่ยวชาญเพลงพิณ แต่ข้ารู้จักปรมาจารย์ที่มีฝีมือกว่าข้า ข้าสามารถแนะนำให้พระชายาได้..."ซูชิงอู่หรี่ตาลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "ดูเหมือนว่าองค์ชายสามคงไม่พึงใจที่จะมายังจวนของหม่อมฉันแล้ว เช่นนั้น..."“ข้ายินดี ยินดีอย่างแน่นอน!”ตอนนี้ฉีเทียนหยวนถูกจับจุดอ่อนได้แล้ว เขาจึงทำได้เพียงเก็บซ่อนความคิดทั้งหมดของเขาไว้เท่านั้นเย่ชิวหมิงเพิ่งเดินมาถึงประตูหลัง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มและพูดว่า "คิดไม่ถึงว่าพี่ฉีกับพระชายาจะสนิทกันเช่นนี้"เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของฉีเทียนหยวน หัวใจของเขารู้สึกหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจเขากัดฟันพูด "ถือเป็นเกียรติของข้า"งานเลี้ยงครบร้อยวันสิ้นสุดลง บ่าวในจวนอ๋องก็เริ่มเข้ามาเก็บของ ขณะที่ซูชิงอู่กำลังจะเดินออกไป ฉีเทียนหยวนก็เร่งฝีเท้าตามนางไปทันทีข้างกายเขานอกจากบ่าวคนเดิมแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต เขาไม่ได้พาคนอื่นมาด้วย ตอนนี้เขาจึงติดอยู่ในจวนอ๋องเพียงลำพัง“พระชายาเสวียน หากท่านกักขังข้าในจวนอ๋องนานเกินไป ไม่กลัวหรือว่าคนอื่นจะนินทา? ตอนนี้ท่านอ๋องเสวียนไม่อยู่ในเมือ

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status