แชร์

บทที่ 663

ผู้เขียน: วิ๋นเจิง
ซูชิงอู่หยุดมือเมื่อได้ยินเสียงนั้น

แล้วนางก็หันไปทางต้นเสียงดังกล่าว

นางเห็นร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังกำแพง ซึ่งอยู่ไม่ไกล เขาคือฉีเทียนหยวน ซึ่งซูชิงอู่เพิ่งได้พบเมื่อไม่นานมานี้ และยังเป็นผู้มอบหยกชั้นเลิศสามชิ้นให้กับนางอีกด้วย

องค์ชายสามของแคว้นฉีตะวันออกแต่งกายด้วยอาภรณ์หรูหรา ใบหน้าของเขาหล่อเหลาสง่างาม แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับเหือดหายไป

เขามองดูซูชิงอู่ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะหยุดอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาทั้งสอง

“พระชายาเสวียน เราพอจะเจรจากันได้หรือไม่?”

ซูชิงอู่เหยียบมือข้างหนึ่งของสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เอาไว้

แล้วถามว่า "เรื่องอันใดเล่า?"

ฉีเทียนหยวนกัดฟัน "ตราบใดที่เจ้า..."

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซูชิงอู่ก็ลงมือทันที

กริชสีเงินแวววาวปาดเข้าที่ลำคอของสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์โดยปราศจากความลังเลและความเมตตาแม้แต่น้อย

ใบหน้าปลอมของเด็กรับใช้คนนั้น เผยสีหน้ารอดตายอย่างหวุดหวิด ดวงตาของยังคงมองไปยังทิศทางของฉีเทียนหยวน

เลือดไหลออกมาจากมุมปากของสตรีนางนั้น ลำคอของนางเกิดรอยบาด และพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

สตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ร่างกระตุกเบา ๆ สองครั้ง จากนั้นนางก็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 664

    องครักษ์เงาสิบเจ็ดตกตะลึง แต่ยังมองไปที่ซูชิงอู่ด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น“เช่นนั้น พระชายาจะได้รับพิษหรือไม่?”ซูชิงอู่ส่ายหัว "วางใจเถิด ข้าไม่เป็นไรหรอก"หลังจากที่นางพูดเช่นนั้นนางจึงเทยาลงบนใบหน้าของเด็กรับใช้คนนั้น ก่อนจะถอดหน้ากากหนังมนุษย์ออกใบหน้าด้านล่างถูกเปิดเผยออกมา ซูชิงอู่เคยเห็นมาครั้งหนึ่งแล้วในชีวิตที่แล้วของนางนางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตที่แล้ว นางกลายเป็นหนูทดลอง และนอนเหมือนปลารอเชือด แต่ตอนนี้ คนที่ต้องตายไม่ใช่นางอีกต่อไปแล้ว“คาดไม่ถึงจริง ๆ น่าประหลาดใจเกินคาดทีเดียว”องครักษ์เงาสิบเจ็ดรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อได้ยินซูชิงอู่พูดกับตัวเองเช่นนั้น สายตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย“พระชายา ศพนี้สกปรกเกินไป กระหม่อมขอจัดการนำออกไปจะดีกว่า”ซูชิงอู่ส่ายหัว "เหตุใดต้องส่งนางออกไปด้วย ศพของคนจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า อีกเดี๋ยวเจ้าจงนำไปโยนไว้ในห้องเลี้ยงกู่ก็แล้วกัน"เมื่อองครักษ์เงาสิบเจ็ดได้ยินเกี่ยวกับห้องเลี้ยงกู่ ก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาเล็กน้อยเขาเคยเห็นมันมาก่อน แต่ไม่กล้าเข้าไป

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 665

    ฉีเทียนหยวนพูดไม่ออก "..."มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย "แม้ว่าข้าจะเชี่ยวชาญเพลงพิณ แต่ข้ารู้จักปรมาจารย์ที่มีฝีมือกว่าข้า ข้าสามารถแนะนำให้พระชายาได้..."ซูชิงอู่หรี่ตาลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "ดูเหมือนว่าองค์ชายสามคงไม่พึงใจที่จะมายังจวนของหม่อมฉันแล้ว เช่นนั้น..."“ข้ายินดี ยินดีอย่างแน่นอน!”ตอนนี้ฉีเทียนหยวนถูกจับจุดอ่อนได้แล้ว เขาจึงทำได้เพียงเก็บซ่อนความคิดทั้งหมดของเขาไว้เท่านั้นเย่ชิวหมิงเพิ่งเดินมาถึงประตูหลัง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มและพูดว่า "คิดไม่ถึงว่าพี่ฉีกับพระชายาจะสนิทกันเช่นนี้"เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของฉีเทียนหยวน หัวใจของเขารู้สึกหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจเขากัดฟันพูด "ถือเป็นเกียรติของข้า"งานเลี้ยงครบร้อยวันสิ้นสุดลง บ่าวในจวนอ๋องก็เริ่มเข้ามาเก็บของ ขณะที่ซูชิงอู่กำลังจะเดินออกไป ฉีเทียนหยวนก็เร่งฝีเท้าตามนางไปทันทีข้างกายเขานอกจากบ่าวคนเดิมแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต เขาไม่ได้พาคนอื่นมาด้วย ตอนนี้เขาจึงติดอยู่ในจวนอ๋องเพียงลำพัง“พระชายาเสวียน หากท่านกักขังข้าในจวนอ๋องนานเกินไป ไม่กลัวหรือว่าคนอื่นจะนินทา? ตอนนี้ท่านอ๋องเสวียนไม่อยู่ในเมือ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 666

    ระยะห่างกำลังพอดีอวิ๋นชิงได้ส่งบุคคลนั้นไปที่นั่นแล้วและตอนนี้ก็กลับมารายงาน "องค์ชายสามต้องการถามพระชายาว่า ท่านจะให้พระองค์เล่นพิณนานเพียงใดเพคะ?"ซูชิงอู่ยกมุมปากของนางขึ้น “เจ้าไปบอกให้เขาเล่นจนกว่าข้าจะขอให้เขาหยุด และหากเขาหยุดเล่นเอง เดาว่าเขาคงไม่อยากรู้ผลที่ตามมากระมัง”ยามกลางคืนบ่าวไพร่ในจวนต้องพักผ่อน แน่นอนว่านางจะไม่ให้เขาเล่นต่อไป แต่ในยามกลางวันนั้นเขาไม่มีทางหนีพ้นอย่างไรนางไม่ใช่ปีศาจเพียงนั้นร่างของสตรีจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ถูกส่งไปยังห้องเลี้ยงกู่แล้ว หลังจากนั้นไม่นานนางก็เหลือเพียงกระดูกเท่านั้นนางไม่แม้แต่จะไปดูเอง แต่สั่งให้คนจับมู่หรงฉางฉวนมัดไว้ และสาดน้ำปลุกเขาจนตื่นนางให้เขากินยาแก้พิษที่ช่วยยืดเวลาการแพร่ของพิษในร่างกายเพื่อให้เขามีสติชั่วคราว ซูชิงอู่มองไปที่มู่หรงฉางฉวนซึ่งลืมตาขึ้นและฟื้นคืนสติได้เล็กน้อย แล้วพูดว่า "เจ้ามาทำอะไรที่จวนอ๋อง?"มู่หรงฉางฉวนหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองเขาก็รู้ว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้วอ๋องเสวียนกล้าแท้กระทั่งจับกุมบิดาของเขา เช่นนั้นแน่นอนว่าย่อมไม่เมตตาต่อตนด้วยตอนนี้เมืองหลวงของแคว้นหนา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 667

    มู่หรงฉางฉวนไม่เคยเห็นสตรีที่โหดร้ายและโหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน เขากัดฟันพยายามไม่ให้ตัวเองกรีดร้องออกมาฟันของเขาสั่นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับร่างกายของเขาสั่นเทา องครักษ์เงาสิบเจ็ดและคนอื่น ๆ เห็นว่าขาของเขาถูกทำลายจนพิการไปหมดแล้ว พวกเขาจึงหยุดมือ“ซู… ชิงอู่!”ซูชิงอู่ยกยิ้มมุมปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความดุดัน“ใครก็ตามที่ล้ำเส้นข้า ข้าไม่มีวันเมตตา แม้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้ามีวิธีมากมายที่จะทำให้เจ้าตายก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่ได้ หากแม่ทัพมู่หรงยังสนใจ ภายภาคหน้าข้าจะพาเจ้าไปเจอดี”มู่หรงฉางฉวนกัดฟันด้วยความโกรธ "หากวันใดเจ้าตกอยู่ในมือข้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกเสียใจจนไม่อาจทนได้อย่างแน่นอน!"ซูชิงอู่ยกคิ้ว "เช่นนั้นก็รอจนกว่าวันนั้นจะมาถึงแล้วกัน"นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย "องครักษ์เงาสิบเจ็ด ส่งเขากลับไปและจัดการเตือนคนในตระกูลมู่หรงให้เลิกคิดแผนการเสียที"“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ พระชายา!”แม่ทัพมู่หรงถูกส่งกลับไปยังบ้านของมู่หรงในชั่วข้ามคืน ข่าวเรื่องขาของเขาพิการก็แพร่กระจายออกไปแม่ทัพผู้ที่นำทัพบนหลังม้ามาหลายปีสูญเสียขาทั้งสองข้างในพริบตา เท่ากับว่าเขาสิ้นสภาพโดยสิ้นเชิงบรรดาผู้ที่เป

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 668

    ชายแดนแถบซีเป่ยของแคว้นหนานเย่ถูกควบคุมโดยแนวป้องกันใหญ่สองแห่งของเมืองหน้าด่านตะวันตกและเขตเจิ้นเป่ย เนื่องจากทั้งสองจุดอยู่ไม่ไกลกันจึงสามารถสร้างแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง สามารถต้านทานการรุกรานของแคว้นอู๋ตะวันตก และปกป้องราษฎรทั้งหมดแถบตะวันตกเฉียงเหนือได้ เช่นนั้นจ้าวหลี่จึงทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่คุมแนวป้องกันทั้งสองนี้ไว้เขาได้รับการขนานนามว่าแม่ทัพใหญ่แห่งซีเป่ยแต่เดิม ทุกอย่างนี้เป็นของเย่เสวียนถิงตอนนี้แคว้นอู๋ตะวันตกได้ระดมกำลังทหารสี่แสนนายมาเพื่อโจมตีเขตเจิ้นเป่ย และจ้าวหลี่ที่ได้รับข่าวคงจะระดมทหารทั้งหมดจากเมืองหน้าด่านตะวันตกมาประจำการที่นี่ตามที่อาอู่เล่าให้ฟัง ในชีวิตที่แล้วเขาถูกส่งไปประจำการแถบตะวันตกเฉียงเหนือ และรีบกลับจากเขตเจิ้นเป่ยเพื่อไปช่วยนางเพื่อประโยชน์ของราษฎรทางตะวันตกเฉียงเหนือ เขาไม่ได้นำทัพไปด้วย เพื่อช่วยอาอู่ เขาเดินทางกลับเมืองหลวงไปเพียงลำพัง...เย่เสวียนถิงดึงสติกลับมา แววตาของเขาฉายแววโหดเหี้ยมวูบหนึ่งถ้าเป็นเขาในตอนนี้ คงจะไม่โง่ขนาดนั้นอีกแล้วผู้ใต้บังคับบัญชาลังเลเล็กน้อย เสียงของเขาก็ต่ำเล็กน้อยขณะเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง กระหม่อมมีเรื่อ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 669

    หนึ่งในสองคนนั้นคือจ้าวหลี่ในฐานะแม่ทัพใหญ่แห่งซีเป่ย เขามีอำนาจยิ่งใหญ่ และสามารถระดมกำลังพลทั้งหมดในซีเป่ยได้แน่นอนว่ายังรวมไปถึงเมืองซีเป่ยแห่งนี้ด้วยเจ้าเมืองอายุราวสี่สิบกว่า ๆ ใบหน้าของเขาดูเฉลียวฉลาดยิ่งนัก เคราที่ไว้เล็กน้อยทำให้ดูเป็นคนสุขุมและมั่นคงเขาลูบเคราของตน พลางมองไปยังนายทหารหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ยกยิ้มได้“แม่ทัพจ้าว มิใช่ว่าท่านคิดหาทางออกไว้แล้วหรอกหรือ? ไฉนจึงมาถึงขั้นนี้ได้เล่า?”ใบหน้าของจ้าวหลี่น่าเกลียดมาก เขาไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ข่าวถูกส่งจากเมืองหลวงจะไม่มีการตอบกลับเลยข่าวสารที่ส่งไปกลับเหมือนหินที่จมลงสู่ทะเล ไม่เกิดระลอกคลื่นแม้แต่น้อย“มันก็เพราะคนเหล่านั้นไร้ความสามารถ แม้แต่สตรีหนึ่งคนกับเด็กไม่กี่คนก็ยังจัดการไม่ได้”เจ้าเมืองหัวเราะเบา ๆ "เท่าที่ข้ารู้มา ท่านอ๋องผู้นั้นไม่ใช่คนประเภทที่จะเปิดช่องโหว่ให้ใครเห็นได้ง่าย ๆ พระชายาและเด็กน้อยทั้งสามต้องได้รับการคุ้มครองจากคนที่เขาจัดเตรียมไว้เป็นแน่"จ้าวหลี่กำหมัดอย่างดุเดือด สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ไม่มีวิธีอื่นที่จะจัดการกับพวกเขาแล้วหรือ?”เจ้าเมืองพยักหน้าเล็

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 670

    ประตูบานเล็กแคบมาก ครั้งหนึ่งผ่านได้เพียงสามถึงห้าคน ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่กองทหารหลายแสนนายที่เย่เสวียนถิงนำมาจะผ่านประตูไปได้หมดนี่เป็นการบีบคั้นอย่างแรงที่เขาทำต่อเย่เสวียนถิง ตราบใดที่มาถึงถิ่นของเขา หากเป็นงูก็ต้องขดตัว หากเป็นมังกรก็ต้องหมอบลงเย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ถามรองแม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “เตรียมพร้อมหมดหรือยัง?”รองแม่ทัพกล่าวด้วยความเคารพทันที "ท่านอ๋องโปรดวางใจ คนที่เข้าเมืองไปก่อนหน้านี้ได้จัดการให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ใกล้ประตูเมืองย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ดีแล้ว"หลังจากที่เย่เสวียนถิงพูดจบ เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองจ้าวหลี่ด้วยซ้ำ ก่อนเอ่ยปากอย่างเย็นชาออกมาเพียงว่า"ระเบิดเลย""พ่ะย่ะค่ะ!""ตู้ม!"เมื่อเย่เสวียนถิงพูดจบ ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องตามมาจ้าวหลี่และพรรคพวกบนกำแพงเมืองรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาโคลงเคลง บางคนเกือบจะพลัดตกจากกำแพงหากตกจากกำแพงลงไป ย่อมกลายเป็นเศษเนื้อแน่นอนดวงตาของทุกคนแสดงความหวาดกลัวออกมา และหันมองไปยังทิศทางที่เสียงดังออกมาพวกเขาเห็นว่า ประตูเมืองซึ่งแต่เดิมปิดอยู่นั้นม

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 671

    เย่เสวียนถิงนั่งอยู่บนหลังม้า ดวงตาจ้องต่ำลงเล็กน้อยหลังจากที่เขาเห็นจ้าวหลี่และเจ้าเมืองเขาก็สะบัดบังเหียนขี่ม้าให้ก้าวไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวก่อนที่จ้าวหลี่จะทันได้เงยหน้าขึ้น ก็รู้สึกถึงความเย็นวาบที่คอเนื่องจากสายลมจากดาบที่พัดเข้ามาใกล้ในชั่วพริบตานั้น จ้าวหลี่ถึงกับขนลุกด้วยความหวาดกลัว แต่โชคดีที่เขาเคยเป็นแม่ทัพที่นี่มาหนึ่งหรือสองปีแล้ว และฝีมือการต่อสู้ของเขาก็ไม่เลว เขากลิ้งตัวไปกับพื้นเพื่อหลบเลี่ยงทันทีอย่างไรก็ตาม เย่เสวียนถิงเร็วกว่ามาก คมดาบนั้นกรีดลงกลางอกของจ้าวหลี่ทันที ทิ้งรอยบาดแผลลึกจนเห็นเลือดเนื้อกระจายอยู่บนอกของเขาหากปลายดาบยาวกว่านี้อีกเพียงนิด เขาคงจะตายไปแล้วจ้าวหลี่ถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดผวา ทนความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแล้วกลิ้งตัวไปอีกครั้ง สภาพของเขาดูน่าสังเวชและโสมม ชุดเกราะเปรอะไปด้วยโคลนสกปรกเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล ใบหน้าสกปรกมอมแมม และได้พบกับสายตาเย็นเยียบที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของเย่เสวียนถิง"ฆ่าเขาซะ"จ้าวหลี่คิดว่าตนอาจฟังผิดไปเขาเงยหน้าขึ้นและตะโกนทันที "อ๋องเสวียน ท่านคิดจะฆ่ากระหม่อมเช่นนี้ ท่านไม่กลัวหรือว่า.

บทล่าสุด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status