ฉากนี้ทำให้ทหารองครักษ์เหล่านั้นตกใจอย่างมากบางคนถึงกับชี้ไปที่โลงศพและตะโกนขึ้น "มี...มีบางอย่างกำลังจะออกมาจากข้างในหรือเปล่า? มันอาจจะเป็นปีศาจก็ได้!"อู๋หลางตบหัวชายคนนั้น "ทำตกใจไปได้ จะมีปีศาจมาจากไหนกัน?""แต่..."ลูกน้องคนนั้นยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง และเขาก็เริ่มรู้สึกขาอ่อน ที่นี่คือสุสานหลวง!สุสานหลวงตั้งอยู่มานานหลายร้อยปี ไม่เพียงแต่บรรจุบรรพบุรุษของแคว้นหนานเย่จากทุกยุคสมัยไว้นับไม่ถ้วนเท่านั้น แต่ยังมีผู้ที่ตายไปพร้อมกับความแค้นนับไม่ถ้วนด้วยแสงจากคบเพลิงในมือของเขาสั่นไหว รู้สึกได้ว่าอากาศรอบ ๆ เย็นลง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ขนลุกชัน รู้สึกว่าอากาศเย็นยะเยือกนั้นกำลังจะเสียดแทงเข้าไปในกระดูกทันใดนั้น ฝาหีบศพแถวหนึ่งก็ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เหมือนว่ามีบางอย่างระเบิดข้างในจนเสียงดังลั่นทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นตกใจ จากนั้นก็เห็นแสงไฟท่วมท้นพุ่งออกมาจากในหีบศพตรงมาทางพวกเขา"หนี! หนีเร็ว!"ทุกคนที่รู้สึกตัวก็หันกลับไปแล้ววิ่งหนีไปทันทีตอนนี้พวกเขาแยกไม่ออกแล้วว่าทางไหนเป็นทางไหน เพียงแต่เห็นว่าประตูข้างหน้าเปิดอยู่ก็รีบพุ่งเข้าไปทันทีอู๋หลางไม่ลืมที่จะลากตัวซูเช
ในพริบตาคนหนึ่งที่โดนลูกธนูเข้าก็ถูกไฟที่ปลายลูกธนูลุกไหม้เสื้อผ้าของเขาทันที แม้ลูกธนูจะไม่ได้พุ่งเข้าจุดสำคัญ แต่เขาไม่สามารถดับไฟได้ทันท่วงที มันเผาไหม้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาถูกเผาทั้งเป็นต่อหน้าทุกคน...ยอดฝีมือที่อู๋หลางพามาด้วยหยิบดาบยาวออกมาเพื่อสกัดกั้นลูกธนูไฟที่พุ่งเข้ามาได้ทั้งหมด ปกป้ององค์ชายใหญ่อย่างไร้ช่องโหว่เสียงดังก้องอยู่รอบข้าง อู๋หลางสีหน้าไม่สู้ดี ขณะที่พาคนอื่น ๆ ไปยังที่ปลอดภัย เขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึม กัดฟันกรอดคนที่เหลือต่างรอดจากห่าลูกธนูเหล่านั้นอย่างยากลำบาก คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อนทหารองครักษ์เหล่านั้นต่างก็มีบาดแผลไม่มากก็น้อย ใบหน้าของพวกเขาก็มีรอยไหม้ ดูแล้วน่าสงสารอย่างยิ่งอู๋หลางหรี่ตาลง ดวงตาของเขามืดมนมาก "เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ทำไมถึงเจอกลไกมากมายขนาดนี้ และข้าก็สังเกตเห็นด้วยว่า ไม่น่าจะมีใครเผลอไปแตะต้องกับดักเลย!"ทันใดนั้น เขาก็มุ่งความสนใจไปที่เย่อวิ๋นถูซึ่งก็มีสภาพไม่ต่างกันกับพวกเขา“บอกข้าสิ นี่เจ้าเล่นตุกติกหรือเปล่า!”เขายืนขึ้น คว้าคอเสื้อของเย่อวิ๋นถูไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงอย่างไม่ป
เย่อวิ๋นถูหันไปมองอู๋หลาง "องค์ชายใหญ่ แม้ว่าพวกท่านจะพบสมบัติทองเงินพวกนี้ คนไม่กี่คนของพวกท่านก็ไม่สามารถขนทั้งหมดออกไปได้"ทันใดนั้นอู๋หลางก็เยาะเย้ย มองไปที่เย่อวิ๋นถูด้วยสีหน้าแปลกประหลาดเล็กน้อย“เจ้าคิดว่าข้าขาดเงินหรืออย่างไร?”เย่อวิ๋นถูสับสนเล็กน้อย "องค์ชายใหญ่หมายความว่าอย่างไร?"ทันใดนั้นอู๋หลางก็หัวเราะ ดวงตาของเขาดูเย็นชาและคมเข้มจากนั้นเขาก็พูดว่า "ข้าไม่เคยคิดจะนำสมบัติเงินทองเหล่านี้ออกไป แต่ข้าวางแผนที่จะทำลายพวกมันต่างหาก""ทำลาย?"เย่อวิ๋นถูแสดงสีหน้าตกตะลึงทันทีเขามองดูอู๋หลางด้วยความไม่เชื่อ“ใช่ ทรัพย์สินมีค่าเหล่านี้ ถ้าข้าจะขนย้ายออกจากที่นี่แล้วนำกลับไปที่แคว้นอู๋ตะวันตก ก็ยากพอ ๆ กับการปีนฟ้า แต่ถ้าจะทำลายพวกมันกลับง่ายมาก แค่ระเบิดที่นี่ให้หมด ก็จะไม่มีใครหาพบอีกต่อไปแล้ว เรื่องนี้จะเป็นการโจมตีที่รุนแรงสำหรับแคว้นหนานเย่อย่างแน่นอน และข้าก็จะได้ผลงานใหญ่ เมื่อกลับไป เสด็จพ่อของข้าจะต้องให้รางวัลข้าเพิ่มแน่!"สิ่งที่อู๋หลางพูดนั้นสมเหตุสมผล และเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้นจนจบการค้นหาจุดชีพจรมังกรของแคว้นหนานเย่แล้วทำลายให้สิ้นซาก เป็นเป้าห
“เหตุใดจู่ ๆ จึงเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงเช่นนี้ได้?”ขณะที่เขากำลังสงสัย ประตูหินที่อยู่ไม่ไกลก็พลันพังทลายลงมา"แย่แล้ว ที่นี่ดูเหมือนจะถล่มลงมา!"อู๋หลางดูตกใจเล็กน้อย "ยังไม่ได้จุดระเบิดมิใช่หรือ?"“ทูลองค์ชาย กระหม่อมไม่ทราบสาเหตุ ประตูหินทลายลงมาแล้ว รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”อู๋หลางจ้องมองไปที่ประตูหินที่อยู่ไม่ไกลรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงมากขึ้นรอบตัวเขา สีหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก ราวกับว่าตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาที่นี่ เขาก็ได้ตกหลุมพรางของบางคนเข้าแล้วเขาไม่ควรมาที่นี่ด้วยตนเองเลยแต่เขาก็จำเป็นต้องเอาบางสิ่งในจุดชีพจรมังกรไป เพื่อที่เขาจะได้พิสูจน์ได้ว่าเขาเคยมาที่นี่อู๋หลางรีบวิ่งเข้าไปภายใน สายตาจับจ้องไปที่โลงศพที่แขวนอยู่ด้านบน เขาได้ยินมาว่ามีจุดชีพจรมังกรแห่งนี้มีลูกแก้วมังกรซึ่งเป็นสมบัติที่สืบทอดมาของแคว้นหนานเย่มีเพียงการได้สิ่งนี้ไปเท่านั้น เขาถึงจะไม่มาเสียเที่ยวและการเสี่ยงภัยนี้จะไม่สูญเปล่า“องค์ชายใหญ่!”“ถ้าท่านไม่รีบไปตอนนี้ก็จะไม่ทันแล้ว!”บรรดาผู้ที่แยกย้ายกันไปวางระเบิด ตอนนี้รวบรวมดินระเบิดใหม่แล้ววางพวกมันไว้ที่ประตู ตั้งใจที่
“องค์ชาย!”มีคนอยู่ใกล้ ๆ ตะโกนด้วยความหวาดกลัวยอดฝีมืออันดับหนึ่งโยนคบเพลิงไปทันที หมายจะเผาแมลงกู่ที่บินออกมากลิ่นไหม้คลุ้งขึ้นพร้อมเสียงแตกดังในอากาศ ซากแมลงที่ถูกเผาหล่นลงสู่พื้นทุกอาณาบริเวณยอดฝีมือคนนั้นใบหน้าซีดเผือด ดวงตาหนาวเหน็บมองร่างไร้ชีวิตของอู๋หลาง และตะโกนด้วยเสียงเย็นเยียบ "องค์ชายสวรรคตแล้วและไม่มีใครรอดไปได้แน่ หากพวกเจ้าไม่ต้องการให้คนในตระกูลต้องตายตามไปด้วย ก็จงฆ่าพวกมันให้หมด!”เขาชี้ไปที่เย่อวิ๋นถูและคนอื่น ๆ เย่อวิ๋นถูไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะบานปลายมาถึงขั้นนี้ เช่นนั้นเขาจึงถอยกลับไปพร้อมกับคนของเขาอย่างรวดเร็วขณะนั้นไม่ทราบว่าใครจุดระเบิด เสียงตูมดังขึ้น และประตูหินถูกแรงระเบิดเปิดออกทันทีหลายคนที่อยู่ใกล้เคียงไม่สามารถโต้ตอบได้ ถูกรัศมีของการระเบิดกลืนกินไปในพริบตา!เย่อวิ๋นถูรู้สึกเวียนหัวจากแรงระเบิด โชคดีที่เขาอยู่ห่างจากจุดระเบิด จึงได้รับผลกระทบไม่มากนักเมื่อเห็นผู้คนจากแคว้นอู๋ตะวันตกรีบวิ่งเข้าหาพวกเขา เย่อวิ๋นถูก็มีสีหน้าบอกบุญไม่รับและรู้สึกเสียใจอีกหนที่มายังจุดชีพจรมังกรกับองค์ชายใหญ่ของแคว้นอู๋ตะวันตก!โชคร้ายอะไรเช่นนี้!“ไป เร
นี่คือสุสานของอดีตฮ่องเต้และการมาถึงที่นี่แสดงว่าทางออกอยู่ไม่ไกลเย่อวิ๋นถูรู้สึกมีความสุข รอยยิ้มอดไม่ได้ที่จะปรากฏในดวงตา"เร็ว!"เขาตะโกน พาคนของเขาสองคนไปที่โลงศพที่อยู่ข้างในเขารู้ว่าตอนสร้างสุสานนี้ได้ทิ้งทางลับไว้ ซึ่งอยู่ในโลงศพเเหล่านี้แค่เปิดฝาโลงและมุดเข้าไป ก็จะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ถึงตอนนั้นเขาก็จะปลอดภัย!สีหน้าของเย่อวิ๋นถูเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด เมื่อเขานึกถึงการตายของอู๋หลาง เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมีกลไกที่ร้ายกาจเช่นนี้ซ่อนอยู่ในห้องหินลึกสุดนั้นด้วย!ตราบใดที่แมลงเหล่านั้นสัมผัสกับผู้คน พวกมันก็สามารถเจาะเข้าไปในเนื้อหนัง และปล่อยพิษออกมาได้พิษนั้นร้ายแรงมากจนไม่มีโอกาสรักษา นับเป็นโชคร้ายของอู๋หลางที่ตกเป็นเป้าหมายทันทีที่เขาเข้าไปพวกเขาทั้งสามไปยกฝาโลงขึ้นพร้อมกัน เพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าเป็นโลงไหนพวกเขาจึงได้แต่ลองเปิดทีละฝาเท่านั้นเปิดออกอันหนึ่ง...ข้างในมีศพที่เน่าเปื่อยมาเป็นเวลานาน เหลือเพียงเสื้อผ้าและผิวหนังที่แห้งเหี่ยวสององครักษ์กลั้นความรู้สึกคลื่นไส้ไว้ แล้วไปเปิดโลงต่อไปเนื่องจากเสียเวลาไปเล็กน้อย เย่อวิ๋นถูจึงรู้สึกได้ชัดเจ
เย่อวิ๋นถูอยากจะฆ่าซูเชียนหลิงเสียเดี๋ยวนี้!เนื่องจากนางทำให้เขาเสียเวลา ยอดฝีมือจากแคว้นอู๋ตะวันตกจึงตามมาทัน แล้วยกมือฟันเขาด้วยดาบยาวเย่อวิ๋นถูกลิ้งไปกับพื้นในท่าที่น่าอับอาย แล้วรีบวิ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง แต่การหลบครั้งนี้แม้จะพ้นการโจมตี ทว่ากลับห่างจากทางออกมากขึ้นคนจากแคว้นอู๋ตะวันตกล้อมรอบเขา ดวงตาของเย่อวิ๋นถูแดงก่ำ“พวกเจ้านี่ช่างกล้าหักหลังกันเสียจริง ก่อนหน้านี้เราตกลงกันไว้แล้ว ข้าก็ร่วมมือกับองค์ชายของพวกเจ้าด้วยใจจริง แล้วพวกเจ้ากลับปฏิบัติต่อพันธมิตรเช่นนี้หรือ?”ยอดฝีมือจากแคว้นอู๋ตะวันตกแสยะยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา "องค์ชายของข้าสวรรคตไปแล้ว ตอนนี้มาพูดเรื่องนี้มัน... สายไปแล้ว!"คนเหล่านั้นลงมืออีกครั้ง รีบพุ่งเข้าหาเย่อวิ๋นถูเย่อวิ๋นถูกัดฟันและถอย แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางถอยไปไหนได้อีกแล้ว เพราะข้างหลังเขาคือกำแพงห้อง...เขากำลังจะต้องตาย!จะต้องตายด้วยน้ำมือของคนพวกนี้...แต่ทันใดนั้น คนที่พุ่งเข้ามาข้างหน้ากลับรู้สึกหมดแรงขึ้นมาในทันทีแม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงของแคว้นอู๋ตะวันตกก็ยังรู้สึกว่าเขากำลังสูญเสียความแข็งแกร่งของตัวเองไปดาบยาวหล่นกระทบพื้น ร่างสูงและ
ริมฝีปากของซูเชียนหลิงยังคงสั่นไหว ร่างกายของนางก็สั่นเทาเช่นกัน เมื่อนางเห็นเย่เสวียนถิงเดินเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ รูม่านตาของนางก็หดตัวลง“พวกเจ้า...พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ซูชิงอู่เลิกคิ้วเล็กน้อย "ข้าไม่ได้บอกข่าวเรื่องจุดชีพจรมังกรอยู่ที่นี่หรอกหรือ? เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกว่าเหตุใดข้ามาอยู่ที่นี่ได้"คำพูดของนางคล้ายกับกำลังเย้ยหยันซูเชียนหลิงว่าโง่เขลาดวงตาของซูเชียนหลิงเบิกกว้าง ในที่สุดนางก็เข้าใจว่านางตกหลุมพรางของสตรีที่อยู่ตรงหน้ามาตั้งแต่แรกเริ่ม!ที่เรียกว่าความลับนั้น แท้จริงแล้วเป็นคำสั่งประหารของนาง!“ซูชิงอู่เจ้าใจดำอำมหิตยิ่งนัก! เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้กับข้า!”ซูเชียนหลิงหายใจติดขัดด้วยความโกรธ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอาฆาตแค้นความโกรธในใจของนางเผาผลาญความกลัวจนหมดสิ้น!หลังจากถูกใช้เป็นเพียงหมากมาตลอดจนในที่สุดก็ลงเอยอย่างน่าเวทนาเช่นนี้ สภาพจิตใจของซูเชียนหลิงจึงแตกสลายไม่มีชิ้นดีเส้นประสาทที่ตึงเครียดนั้นเปรียบเสมือนเชือกที่ขาดผึงลงได้ทุกเมื่อเมื่อเผชิญหน้ากับซูเชียนหลิงซึ่งขยับตัวไม่ได้ ซูชิงอู่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก นางหันไปมองทางเย่อวิ๋นถู