Share

บทที่ 40

Author: วิ๋นเจิง
เขาจ้องมองที่เย่เสวียนถิงอย่างไร้ความเมตตา ความสงสัยเคลือบแคลงในดวงตาของเขายังคงไม่จางหายไป แต่เมื่อเขามองไปที่ซูชิงอู่ เสียงของเขาก็ค่อย ๆ สงบลง

“ข้าไม่เชื่อเขา แต่ข้าเชื่อเจ้า”

ซูชิงอู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พี่ห้าเก่งที่สุดที่จะรับมือเรื่องเช่นนี้

เพราะเขาเอ็นดูนางเป็นพิเศษตั้งแต่เด็ก นางซึ่งเป็นน้องสาวที่อายุน้อยกว่าเขาเพียงสองปี

นางเป็นบุตรีภรรยาเอกเพียงคนเดียวในตระกูล นางจึงเป็นดั่งแก้วตาดวงใจท่ามกลางเหล่าพี่ชายทั้งหลาย

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ซูชิงอู่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้แล้ว เมื่อครั้นนางขอความช่วยเหลือต่อพวกเขา พวกเขาคงไม่รีบช่วยเหลือนางอย่างไม่คิดลังเลเช่นนั้น…

สุดท้ายพวกเขาถึงต้องจบชีวิตลง!

ซูชิงอู่หันหน้าไปทางเย่เสวียนถิง นางขยิบตาขวาให้เขา

ท่าทางนั้นมีแววเล่นสนุกเจือปนอยู่

เย่เสวียนถิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รู้สึกราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่กดทับหัวใจของเขาเอาไว้ถูกเคลื่อนออกไปในทันที

มุมริมฝีปากอันเย็นชาของเขาอดไม่ได้ที่จะโค้งขึ้นเล็กน้อย

ซูชิงอู่ถามอีกครั้ง "พี่ห้า ท่านคงมาที่นี่เพราะคำสั่งของท่านพ่อ เขาขอให้ท่านช่วยกล่อมข้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 41

    แม้ว่านางจะสามารถคาดเดาอาการของเขาออก แต่ซูชิงอู่ก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับอาการของซูฉางเซิงประกายในดวงตาของนางลึกซึ้งยิ่งขึ้น ก่อนที่นางจะทันได้เอ่ยปาก ซูฉางเซิงก็จับมือของนางไว้เบา ๆ “น้องอู่”เสียงของเขาหนักแน่นมากขณะพูด หน้าอกของเขาก็กระเพื่อมเล็กน้อย เขาสูญเสียความสุขุมที่เขามีในตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิงเดิมที เขาคอยสนับสนุนซูชิงอู่นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าบ่าวกลับมาบ้าน หากไม่มีใครในครอบครัวที่สนับสนุนซูชิงอู่นางก็จะถูกตระกูลสามีรังแกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตยิ่งกว่านั้นตระกูลของสามีคนนี้ยังมีสถานะไม่ธรรมดา เขายังเป็นถึงองค์ชายอีกด้วย!ซูฉางเซิงกระแอมไอสองครั้ง ใบหน้าของเขาซีดราวกับกระดาษช่วงนี้สุขภาพของเขาแย่ลง เขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นานหมอหลายคนบอกว่าเขาจะมีอายุไม่ถึงยี่สิบปี“ไม่ต้องห่วง นี่เป็นปัญหาเดิมของข้า แค่อาเจียนออกมาเป็นเลือดเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เพื่อที่ซูชิงอู่จะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเขาซูฉางเซิงเป็นคนฉลาดมากเพียงแต่ว่าคนที่ฉลาดเกินวัยมักจะมาพร้อมเรื่องที่ไม่แน่นอนอยู่เสมอเขาได

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 42

    “พูดอีกอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องที่ดีที่พิษนี้ติดตัวข้ามาแต่เกิด”ซูชิงอู่ขมวดคิ้ว "พี่ห้าพูดเช่นนั้นได้ยังไง?"ซู่ฉางเซิงยิ้มและพูดว่า "เมื่อเทียบกับการตายของท่านแม่ ข้ายอมทรมานตัวเองดีกว่า เพราะข้าไม่อยากเห็นท่านแม่ต้องทนทุกข์ทรมาน"ซูชิงอู่เงียบไปนางขยับนิ้วเล็กน้อยนางไม่อยากให้พี่ชายของนางต้องทนทุกข์ทรมานซูชิงอู่คิดสงสัยว่าผู้ที่วางยาพิษแม่ของนางนั้นน่าจะอยู่ในจวนอัครเสนาบดี แต่เวลาผ่านไปนานแล้ว จึงเป็นการยากมากที่จะสืบหาเบาะแสใด ๆ หากไม่ใช่เพราะในเวลานั้น หลิงซื่อยังไม่ได้พาซูเชียนหลิงเข้าจวน นางคงจะสงสัยไปว่าเป็นฝีมือของอีกฝ่ายด้วยซ้ำแต่ไม่ว่าจะเป็นใคร นางก็จะต้องค้นหาผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้ แล้วฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นดวงตาของซูชิงอู่เต็มไปด้วยความโกรธนางหลับตาและระงับอารมณ์รุนแรงที่พลุ่งพล่านซูชิงอู่หายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาสีเข้ม "พี่ห้า นั่งลงก่อนเถอะ ข้าจะช่วยท่านกำจัดพิษก่อน"ซูฉางเซิงไม่รู้ว่าซูชิงอู่กำลังจะทำอะไรแต่เนื่องจากเขาไว้วางใจนางอย่างเต็มที่ เขาจึงโอนอ่อนโดยปราศจากการต่อต้านใด ๆ เมื่อซูชิงอู่พูด นางไม่ได้หลีกเลี่ยงเย่เสวียนถิงเลยนางเลิกคิ้วและยิ้

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 43

    องครักษ์ก้าวไปข้างหน้าทันทีและหยุดผู้คนที่อยู่ข้างนอกทั้งหมดการแสดงออกของนางหลิงน่าเกลียดมากเมื่อนางได้ยินรายงานของพ่อบ้านอวี๋ นางก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงรีบไปที่ห้องบัญชีทันทีนางยังพาฮูหยินผู้เฒ่าซูมาเผื่อไว้ด้วยในขณะนี้ อัครเสนาบดีโกรธจัด นางไม่กล้าที่ยุ่มย่ามกับเขา คนเดียวในครอบครัวที่สามารถช่วยเหลือนางได้คือฮูหยินผู้เฒ่านางนี้ซูชิงอู่เคารพฮูยินผู้เฒ่าซูมาก นางไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าขัดต่อความต้องการของหญิงชราได้ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าซูอายุก็เกินหกสิบเข้าไปแล้วนางมีผมหงอก ใบหน้ามีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าจริงจัง ไร้รอยยิ้ม เป็นหญิงชราที่ค่อนข้างหัวโบราณดวงตาที่ขุ่นมัวของนางบ่งบอกถึงพลัง นางถือไม้เท้าในมือข้างหนึ่ง และแม่เฒ่าอูช่วยพยุงมืออีกข้างของนาง นางยืนอยู่นอกประตูเรือน“ข้าอยู่ที่จวนของตัวเอง และกำลังจะโดนคนอื่นขัดขวางเช่นนั้นหรือ?”เมื่อได้ยินนางพูด เย่เสวียนถิงก็ก้าวเข้ามาเสียงของเขาเย็นชา "ฮูหยินผู้เฒ่าซู"ฮูหยินผู้เฒ่าซูมองไปที่เย่เสวียนถิงและท่าทีของนางก็อ่อนลงเล็กน้อย "หม่อมฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ท่านอ๋องนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่คนรับใช้เหล่านี

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 44

    สาวรับใช้ที่อยู่ด้านข้างรีบวิ่งไปพยุงหญิงชราทันทีและอุทานว่า "ท่านเป็นอะไรไปฮูหยินผู้เฒ่า?!"ทันใดนั้นดวงตาของนางหลิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ "ฮูหยินผู้เฒ่าซู โปรดอย่าให้อะไรเกิดขึ้นกับท่านเลย วันนี้เป็นวันที่พระชายากลับจวนนับเป็นเรื่องน่ายินดี หากเกิดอะไรขึ้นกับท่าน คนนอกจะพูดถึงพระชายาอย่างไร…? พวกเขาจะชี้ไปที่ใบหน้าของนางเรียกนางว่า ‘ดาวหายนะ’ อย่างแน่นอน... "การแสดงออกของนางล้วนแล้วแต่เป็นการสาปแช่งนอกจากนี้ยังเป็นการเตือนผู้คนในจวนด้วยว่าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหญิงชรา ต้นเหตุก็เป็นเพราะซูชิงอู่อย่างแน่นอนเย่เสวียนถิงไม่ได้โง่ เขาจะไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่นางหลิงพูดได้อย่างไร?ตอนนี้ซูชิงอู่ตัดสินใจตัดขาดกับอัครเสนาบดีแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไป“เจ้า นำป้ายชื่อของข้าไปที่พระราชวังเพื่อเชิญหมอหลวงซุนมาที่นี่”“ตามรับสั่งขอรับ!”องครักษ์รีบเร่งไปเชิญหมอหลวงทันทีแต่หญิงชรากลับยืนตัวตรงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะไม่รบกวนท่านอ๋อง"เย่เสวียนถิงพยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี"จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ที่ประตูและไม่พูดอะไรต่อให้ฮ่องเต้จ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 45

    ซูชิงอู่สบตากับเขาเย่เสวียนถิงหลบสายตาของนางโดยไม่รู้ตัวแต่ครู่ต่อมาซูชิงอู่ก็เพิกเฉยต่อหญิงชราโดยสิ้นเชิง แต่นางกลับเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าอ่อนโยนและนั่งยอง ๆ ต่อหน้าทุกคนโดยไม่สนใจนางใช้มือนวดขาของเขาเบา ๆ “ข้าบอกให้พักผ่อนไม่ใช่หรือไง รู้ไหมว่าขาท่านยืนนาน ๆ ไม่ได้”ริมฝีปากบางของเย่เสวียนถิงอ้าค้างด้วยความประหลาดใจดูเหมือนคอของเขาจะถูกอะไรบางอย่างปิดกั้น ทำให้เขาก็ไม่อาจส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้น้ำเสียงของซูชิงอู่เร่งเร้าและดูเป็นทุกข์เป็นร้อน นิ้วของนางแตะจุดฝังเข็มบนตัวของเขา ทำให้เย่เสวียนถิงรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกชาที่ขาของเขาด้วยความเจ็บปวดเริ่มแรกก็หายไปมากในทันทีความเจ็บปวดพุ่งเข้าหาหัวใจของเขาโดยตรง ทำให้เขามองดูเข็มของซูชิงอู่ที่อยู่ใกล้มือ เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบผมบนศีรษะของนางซูชิงอู่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากเขา และอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงก้มศีรษะลง หูของนางแดงเล็กน้อย "อวิ๋นจื่อ รีบหาเก้าอี้มาให้ท่านอ๋องเร็วเข้า!""มาแล้วเจ้าค่ะ!"อวิ๋นจื่อรีบขยับเก้าอี้ไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาและมือที่ว่องไวซูชิงอู่ผลักเขาไปยังที่ที่เย

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 46

    หลิงซื่อประคองฮูหยินผู้เฒ่าพลางค่อย ๆ ปลอบ "นังเด็กชิงอู่คนนี้คงจะถูกผู้มีเจตนาร้ายเสี้ยมสอนมาเป็นแน่ถึงไม่รู้จักมีความเคารพและอกตัญญูถึงเพียงนั้น แค่ตักเตือนสักสองสามคำก็ใช้ได้แล้ว" คำปลอบโยนรังแต่จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ่งมีโทสะมากขึ้นเรื่อย ๆ "ซูชิงอู่ บอกข้ามา ไฉนเจ้าต้องลงไม้ลงมือกับแม่นมของตนเองด้วย? เมื่อสักครู่มีคนเห็นเข้าพอดี เจ้าใช่เพียงทุบตีนางโดยไร้ซึ่งเหตุผลเท่านั้น แต่เจ้ายังขังนางเอาไว้ในห้องเก็บฟืน ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เจ้าถึงขั้นตัดนิ้วมือของนางอีกด้วย!” ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางกล่าวว่า "เมื่อผู้ใดสักคนกระทำความผิด ก็สมควรถูกลงโทษแล้ว ในฐานะที่เป็นพระชายา การที่ข้าลงโทษบ่าวรับใช้มิใช่เรื่องปกติหรอกหรือเจ้าคะ?" ฮูหยินผู้เฒ่าซูโมโหจนพูดไม่ออก "แต่เท่าที่ข้าทราบมา เห็นได้ชัดว่าแม่นมหลินโดนใส่ความอยู่ นางหยิบยาตามที่เจ้าสั่ง เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของตนเองแล้ว เจ้าโยนความผิดทั้งหมดให้นางได้อย่างไรกัน?" ซูชิงอู่ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้กับผู้อื่น น้ำเสียงของนางจึงค่อย ๆ ทวีความเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ "ฮูหยินผู้เฒ่าเลอะเลือนถึงเพียงนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน ? ท่านเชื่อคำพูดของบ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 47

    หลิงซื่อมุมปากกระตุกริก ๆ "เจ้ากำลังแว้งกัดข้า!" ซูชิงอู่ตอบว่า "ข้ามิกัดกับสุนัขหรอก" วาจาของนางที่บ่งบอกชัดแจ้งว่าหลิงซื่อเป็นสุนัข ทำให้หลิงซื่อรู้สึกเดือดดาลนัก คนกลุ่มหนึ่งพาฮูหยินผู้เฒ่ามาส่งห้องว่างติดกับห้องของนาง จากนั้นก็รีบเชิญท่านหมอเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มากับเขาด้วยก็คืออัครเสนาบดีซู หลิงซื่อยืนร้องไห้อยู่ตรงประตูพลางเช็ดน้ำตา นางคร่ำครวญเสียงแผ่วเบากับอัครเสนาบดีซูด้วยความขมขื่นใจ เพื่อบอกว่าซูชิงอู่กระทำเกินกว่าเหตุจนทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหจนหมดสติไป นางยังเอ่ยถึงเรื่องที่อีกฝ่ายไม่เคารพผู้อาวุโส จนแทบจะกลับดำเป็นขาว! เย่เสวียนถิงเม้มปากเล็กน้อย สายตาที่ทอดมองลงบนแผ่นหลังของซูชิงอู่บ่งบอกอารมณ์ที่ออกจะลึกซึ้งอยู่บ้าง ทันใดนั้นเขาก็พลันรู้สึกว่ามิอาจเข้าใจสิ่งที่นางกพลังครุ่นคิดอยู่ในยามนี้ ซูซิงอู่ราวกับมีดวงตาติดอยู่บนแผ่นหลัง จู่ ๆ นางก็หันหลังกลับมาทันที แววเยียบเย็นในดวงตาของนางสลายไปจนสิ้น แทนที่ด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับสายน้ำ "เสวียนถิง ใบหน้าของข้ามีอันใดติดอยู่กระนั้นหรือ? ไฉนท่านจึงเอาแต่จ้องหน้าข้าอยู่เล่า?" เย่เสวียนถิงอดมิได้ที่จะรู้สึกเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 48

    ด้วยเหตุนี้เอง ต่อให้สุดท้ายอีกฝ่ายตายไป เขาก็หาได้เสียใจนัก "ซูฉางเซิง ถึงแม้ว่าข้าจะมิได้ใส่ใจเจ้านัก แต่ข้าก็เชิญอาจารย์มาอบรมสั่งสอนเจ้าอยู่ไม่น้อย ไยเจ้าถึงมุทะลุตามนางเช่นนี้เล่า?" ซูฉางเซิงต่างจากซูชิงอู่ อย่างไรเสีย ซูชิงอู่ก็เป็นบุตรีที่ออกเรือนแล้ว ยามนี้นางจึงถือเป็นคนนอกของจวนอัครเสนาบดี ทว่าเขาเป็นบุตรภรรยาเอกของอัครเสนาบดี ทำให้วาจาพอจะมีน้ำหนักอยู่บ้างในจวน นอกเหนือไปจากนั้น เขาก็มิใช่กบในบ่อ[1] ต่อให้เขามิเคยเดินทางไปที่ใดนัก แต่กลับเรียกได้ว่าแตกฉานในเรื่องตำรับตำรายิ่งนัก "น้องสาวของข้าเคยเป็นคนใจอ่อน แต่ท่านกลับปฏิบัติกับนางราวกับลูกพลับนิ่มและเอาเปรียบเสียจนนางรู้สึกเหลืออด ท่านกินของนาง หาเศษหาเลยจากนางและหลอกใช้นาง เอาแต่คิดว่าทุกอย่างล้วนเป็นของตนเอง เมื่อก่อนตัวนางอาจจะยินยอมพร้อมใจ ดังนั้นข้าจึงเอ่ยสิ่งใดมิได้ ทว่ายามนี้นางมิได้ยินยอมพร้อมใจ การที่นางทวงเอาของ ๆ ตนเองกลับคืนก็ผิดด้วยหรือ?” ทั้ง ๆ ที่น้ำเสียงของซูฉางเซิงเชื่องช้าและแผ่วเบา ทว่าสิ่งที่เขาเอ่ยกลับชัดเจนยิ่ง มิหนำซ้ำวาจาทุกคำก็ฟังดูสมเหตุสมผล หลังจากเขาพูดจบ อัครเสนาบดีซูก็พลันหน้าต

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status