แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-24 15:40:03
ได้ยินเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยเนิบช้าว่า “หม่อมฉันได้ยินท่านพ่อชื่นชมท่านอ๋องมาตั้งแต่เล็กแล้วว่าเพียบพร้อมทั้งบุ๋นบู๊ เฉลียวฉลาดมากความสามารถมาตั้งแต่ยังเยาว์ เคยเข้าไปประลองกับบัณฑิตมากมายในสำนักศึกษาหลวงจนสร้างชื่อได้ในคราวเดียว ต่อมา เผ่าหูรวบรวมไพร่พลสามแสนมาโจมตีต้าโจว กองทัพศัตรูรุดหน้าเหมือนผ่าลำไผ่ เมืองต่างๆ ของต้าโจวถูกตีแตกเมืองแล้วเมืองเล่า เหิงอ๋องในวัยเพียงสิบห้าปีนำกำลังคนสิบกว่าคนบุกเข้าค่ายทหารของศัตรูไปจับเป็นผู้นำทัพศัตรู เผ่าหูถอนทัพ ครานั้นท่านอ๋องคว้าชัยชนะมาให้ต้าโจวได้อย่างงดงาม ท่านอ๋องห้าวหาญเพียงนี้ นับว่าเป็นความชอบที่เสด็จแม่ทุ่มเทสั่งสอนมาเช่นกันเพคะ”

กล่าวถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ในอดีตของเซี่ยซาง ดวงตาเฉิงฮองเฮาทอประกายภาคภูมิใจ แต่ครั้นคิดถึงว่าบุตรชายมีความสามารถโดดเด่นปานนี้แต่กลับไม่ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่อยู่ ซางเอ๋อร์ไม่ได้รับความรักจากฮ่องเต้เป็นเพราะผลกระทบจากตนเองทั้งสิ้น

ดวงหน้าอ่อนเยาว์ของเจียงเฟิ่งหัวฉายแววกังขา “เสด็จแม่เป็นอะไรไปเพคะ?”

“ยามนี้หัวใจทั้งดวงของซางเอ๋อร์อยู่ที่สตรีนางนั้น ข้าเองก็ปวดหัวเหมือนกัน” ฮองเฮามองเจียงเฟิ่งหัวแวบหนึ่งแล้วดึงมือนางมาตรงๆ “ดังนั้นเจ้าต้องเอาใจใส่ซางเอ๋อร์ให้มากไว้”

“หม่อมฉันคิดว่าท่านอ๋องจะเข้าใจความหวังดีของเสด็จแม่เพคะ ในหมู่ชาวบ้านมีคำกล่าวว่าสร้างครอบครัวก่อนจึงสร้างความสำเร็จด้านหน้าที่การงาน ก่อนนี้ท่านอ๋องยังไม่แต่งงาน ความคิดอ่านจึงเอ้อระเหยไปบ้าง เสด็จพ่อไม่วางพระทัยมอบหมายภาระสำคัญให้เขาก็สามารถเข้าใจได้ บัดนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว รอจนแต่งพระชายารองซูเข้าจวน ท่านอ๋องย่อมจะหมั่นแสวงหาความก้าวหน้าเองเพคะ”

ฮองเฮาได้ยินดังนั้น อารมณ์พลันแจ่มใสขึ้นมาในบัดดล ดวงตาทอประกายวาววับ “ความคิดนี้เข้าทีนัก ให้ซางเอ๋อร์ไปขอตำแหน่งเบื้องพระพักตร์ ที่ผ่านมาฝ่าบาทไม่ยินดีให้เขารับตำแหน่งสำคัญ ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีก ซางเอ๋อร์แต่งงานแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่อาจเอ้อระเหยไปวันๆ ได้อีก ฝ่าบาทไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธ”

“ตอนนี้ความจริงก็ไม่จำเป็นต้องรับตำแหน่งสำคัญเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว

ฮองเฮาย่นคิ้ว “วาจานี้หมายความว่าอย่างไร” ปัจจุบันยังไม่มีการแต่งตั้งรัชทายาท อ๋องแต่ละคนต่างแย่งกันสร้างผลงานแสดงความสามารถ ซางเอ๋อร์ก็ย่อมต้องสร้างความชอบถึงจะดี

“ยามนี้แผ่นดินสงบสุข ท่านอ๋องแค่ต้องอยู่ข้างกายฝ่าบาทช่วยแบ่งเบาภาระฝ่าบาทก็พอแล้วเพคะ งานน้อยใหญ่ในเซิ่งจิงมีมากมายเหลือคณานับ อาศัยความสามารถของท่านอ๋อง หม่อมฉันคิดว่าเขาจะทำได้ดีแน่นอนเพคะ ท่านอ๋องทำงานราชการได้ดี ฝ่าบาทก็ย่อมเบิกบานพระทัย”

รูม่านตาฮองเฮาเบิกกว้าง สมกับที่เป็นบุตรีราชครู มีความคิดอ่านลึกซึ้ง อยู่ใต้พระเนตรพระกรรณฮ่องเต้ดีกว่าไปรับตำแหน่งไกลๆ เป็นไหนๆ นางเอ่ยเสียงอ่อนโยน “หรวนหร่วนคิดว่าซางเอ๋อร์เหมาะกับตำแหน่งใดเล่า”

“ได้ยินว่ายามนี้เซิ่งจิงมีตำแหน่งว่างพอดี คือตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวง หม่อมฉันคิดว่าท่านอ๋องสามารถรับตำแหน่งนี้ได้เพคะ ถือเป็นการไปฝึกฝนเรียนรู้ รอให้ฝ่าบาทมอบหมายหน้าที่สำคัญให้” เจียงเฟิ่งหัวดวงตาวาววับ หาเรื่องให้เขาทำ จะได้ไม่ต้องมาพะเน้าพะนอคลอเคลียกับซูถิงหว่านอยู่ได้ทั้งวัน

ฮองเฮาได้ยินดังนั้นก็พลันผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง “ตอนที่ฝ่าบาทยังเป็นรัชทายาทก็เคยรับตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาก่อนเหมือนกัน ตำแหน่งนี้ดี ข้าจะไปขอราชโองการที่ห้องทรงพระอักษรเดี๋ยวนี้ หรวนหร่วนเจ้าอยู่เล่นในตำหนักไปก่อนนะ”

เฉิงฮองเฮาเกรงว่าตำแหน่งดีๆ นี้จะตกไปอยู่ในมือองค์ชายคนอื่นจนพลาดโอกาสนี้ไปจึงให้สี่หมัวมัวแต่งกายให้ตนเองใหม่ ทั้งสั่งให้สี่หมัวมัวตักน้ำแกงใส่ถ้วยวางลงบนถาดอาหารยกมาจากครัวเล็ก แล้วเสด็จไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้

เจียงเฟิ่งหัวรีบลุกขึ้นไปส่ง จนกระทั่งฮองเฮาเสด็จไปไกลแล้ว นางค่อยยืนหลังตรงเดินออกไปจากตำหนักหลักอย่างแช่มช้า

นางจำได้ว่าเซี่ยซางถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทเพราะเขาจะได้สวมเกราะไปตอบโต้การรุกรานของพวกชนเผ่าอนารยชนอีกครั้งในอีกหนึ่งปีให้หลัง ศึกครั้งนั้นเซี่ยซางชนะได้งดงามยิ่งนัก หลังจากนั้นยังสร้างความชอบจากการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แสดงออกถึงความสามารถที่โดดเด่นไม่ธรรมดา ฮ่องเต้ทรงปลาบปลื้มพระทัยยิ่ง เขาจึงถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท

ทว่าในปีนี้ หลังจากเขาแต่งงานกับซูถิงหว่าน คนทั้งสองก็รักกันชื่นมื่น ความรักหวานล้ำ...

ในเวลาเดียวกัน เซี่ยซางออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังสนามม้า เวลานั้น เขายังไม่รู้ว่าภรรยาของตนเองหาตำแหน่งงานที่ทั้งน่าปวดหัวและมีภาระติดพันให้ตนเองเสียแล้ว ต่อไปถึงไม่มีงานราชการ เจียงเฟิ่งหัวก็จะหางานราชการมาให้เขาอยู่ดี ทำให้เขาได้แสดงความสามารถต่อหน้าฮ่องเต้

อาชาชั้นดีสีแดงพุทราตัวหนึ่งตะบึงไปบนสนามม้า สตรีชุดแดงท่าทางองอาจบังคับบังเหียนอย่างคล่องแคล่วอยู่บนหลังม้า

เซี่ยซางกวาดสายตามองไป อยากตะโกนหยุดนางแต่เนื่องจากอยู่ไกลเกินไปนางไม่ได้ยิน เขาจึงขี่ม้าตัวหนึ่งควบตามไปหา

เซี่ยซางขี่ม้าได้เก่งกาจมาก ตอนตามไปถึงเบื้องหน้าซูถิงหว่าน เขาดึงบังเหียนจนตึงพลางอธิบายว่า “หว่านเอ๋อร์ เจ้าเลิกโกรธได้แล้ว ข้ากับเจียงเฟิ่งหัวไม่มีอะไรทั้งนั้น...”

ดวงตาซูถิงหว่านแดงเรื่อ บังคับไม่ให้น้ำตาไหลลงมา “ข้าไม่ได้โกรธสักหน่อย ท่านอ๋องแต่งพระชายาก็ไปใช้ชีวิตกับพระชายาดีๆ เถอะ ข้าจะกลับบ้านแล้ว กลับจวนแม่ทัพที่อยู่ชายแดนโน่น”

เซี่ยซางร้อนใจ ทิ้งม้ากระโจนไปนั่งบนหลังม้าของซูถิงหว่าน “ยังพูดว่าไม่โกรธอีก เจ้ากลับไปแล้วข้าจะทำยังไง ราชโองการประทานสมรสของเสด็จพ่อ ข้าไม่อาจขัดขืน การแต่งงานกับนางเป็นเพียงแผนการชั่วคราวเท่านั้น คนที่ข้าชอบมีเพียงหวานหว่านคนเดียว”

ซูถิงหว่านไม่ทำปั้นปึ่งอีก สีหน้าเบิกบานขึ้นมาทันที ซุกเข้าไปในอ้อมอกของเซี่ยซาง “อาซาง ท่านกับนางไม่มีอะไรกันจริงๆ หรือ?”

“ข้าขอสาบาน...”

ซูถิงหว่านรีบปิดปากเขาไว้ “ข้าไม่ต้องการให้ท่านสาบาน ข้าแค่อยากให้ท่านรักข้าหมดทั้งหัวใจ ในใจมีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”

“ตกลง ข้ารับรองว่าในใจจะมีเจ้าเพียงคนเดียว” เขารับคำด้วยแววตาอ่อนโยน

“น่าเสียดายที่เสด็จแม่ของท่านไม่ชอบข้า ไม่อย่างนั้นนางคงไม่รีบร้อนสู่ขอพระชายาให้ท่านปานนี้” แววตาซูถิงหว่านเต็มไปด้วยความผิดหวัง “อาซาง ข้าเสียสละเพื่อท่านมากมายเหลือเกิน เดิมข้าจะไม่แต่งเป็นชายารองของท่านก็ยังได้ ที่บ้านข้ามีบุรุษมาสู่ขอข้ามากมาย ข้าสามารถเป็นภรรยาเอกของพวกเขา แต่ในใจข้ามีเพียงท่านเท่านั้น ข้าตัดใจแยกจากท่านไปไม่ได้”

เซี่ยซางพึงพอใจกว่าเดิม ตระกูลซูย่อมไม่ยอมให้บุตรีออกเรือนไปเป็นอนุภรรยาของผู้อื่น แต่เขารับรองว่าวันหน้าหากได้ครองบัลลังก์จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้นางอย่างแน่นอน

ตระกูลซูก็ทราบเหมือนกันว่าในบรรดาองค์ชายมากมาย โอกาสของเหิงอ๋องมีมากที่สุดแล้ว หากมิใช่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างฮองเฮากับฮ่องเต้ไม่ดีนัก ด้วยความสามารถของเหิงอ๋อง เกรงว่าฝ่าบาทคงแต่งตั้งเหิงอ๋องเป็นรัชทายาทไปนานแล้ว

กอปรกับซูกุ้ยเฟยไม่มีโอรส นางไร้วาสนากับตำแหน่งไทเฮา ตระกูลซูต้องการอยู่รอดต่อไปก็ต้องคิดหาแผนการอื่น ใครเลยจะคาดคิดว่าฮองเฮาจะสอดมือเข้ามา ทำให้หญิงอื่นคว้าตำแหน่งชายาของเหิงอ๋องไปได้

ซูถิงหว่านแสร้งเป็นขุ่นเคือง “แต่ทำไมท่านถึงกอดนางเล่า!”

“ข้าไปกอดนางตอนไหน”

“ข้าเห็นแล้ว ท่านกอดนาง” ซูถิงหว่านตัดพ้อ “นางงามหรือไม่?”

รูปโฉมล่มแคว้นล่มเมืองของเจียงเฟิ่งหัววาบเข้ามาในหัวเซี่ยซาง ร่างกายแข็งทื่อ อึ้งไปชั่วขณะ “ก็งั้นๆ แหละ!”

“นางงดงามกว่าข้าหรือไม่?”

เซี่ยซางไม่อาจตอบได้ ในใจเขาซูถิงหว่านงดงามที่สุดแล้ว ไม่เพียงแค่งดงาม เขาชอบคนผู้หนึ่งไม่ได้ดูว่านางงามหรือไม่งาม เพียงอยากชอบนางด้วยความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

ซูถิงหว่านเห็นเขาไม่ตอบก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างติดขัดอยู่ในใจ นางแหงนหน้าเอ่ยอย่างมั่นใจว่า “ข้าเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในทุ่งหญ้า ท่านจำไว้ ท่านแต่งงานกับสตรีที่งดงามที่สุดในทุ่งหญ้า ข้าออกเรือนให้ท่านก็คือวาสนาของท่าน”

นางกล่าวเช่นนี้คือการคุยเขื่องโดยไม่ละอาย มิน่าฮองเฮาจึงไม่โปรดนาง คนในใต้หล้าจะเย่อหยิ่งเพียงไหน แต่ผู้ใดเลยจะเย่อหยิ่งได้เกินองค์ชาย

เซี่ยซางหาได้ถือสาไม่ รู้สึกแค่ว่านางนิสัยตรงไปตรงมาไร้เล่ห์เพทุบาย เขาชอบสตรีที่มั่นใจในตนเองเช่นนี้ เขาพูด “ใช่แล้ว ดังนั้นข้าถึงได้เฝ้ารอวันที่หวานหว่านจะแต่งงานกับข้าอย่างไรเล่า”

นางโฉบขึ้นจุมพิตริมฝีปากเขา “อาซาง ท่านต้องรับปากข้าว่า ไม่ว่านางจะงามแค่ไหน ท่านก็ห้ามชอบนาง”

“ข้าไม่ชอบนาง” เขาตอบอย่างหนักแน่น

“นางก็ห้ามชอบท่านเหมือนกัน” ซูถิงหว่านกระหยิ่มยิ้มย่อง “แต่อาซางของข้าหล่อเหลาปานนี้ เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่ชอบท่าน”

ความรู้สึกที่ต่างออกไปวาบผ่านหัวใจเซี่ยซาง เจียงเฟิ่งหัวไม่ชอบเขาจริงๆ นางถึงขั้นเสนอตัวจัดแจงเรื่องมงคลให้พวกเขาด้วยซ้ำ

เขาคิดในใจ เจียงเฟิ่งหัวพูดถูกเรื่องหนึ่ง เขากับซูถิงหว่านทำแบบนี้คือการคบหากันอย่างไม่ถูกต้องตามธรรมเนียมประเพณี เกรงว่าเสด็จพ่อจะผิดหวังในตัวเขามากกว่าเดิม

ขี่ม้าสักพัก เขาพลันเอ่ยว่า “กลับกันเถอะ!”

ซูถิงหว่านลังเลเล็กน้อย “กลับไวปานนี้เชียว?” เมื่อก่อนอาซางไม่เป็นแบบนี้ หรือจะเป็นเพราะเจียงเฟิ่งหัว เขาใส่ใจนาง?

“ข้ายังต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ” น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น มอบความกดดันที่ไม่อนุญาตให้เคลือบแคลงแก่ผู้คน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 8

    อีกด้านหนึ่ง ฮองเฮาขอตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาให้เหิงอ๋องได้จริงๆ นางกำลังดีใจอยู่ก็ได้ยินฮ่องเต้แค่นหัวเราะ “อายุน้อยดีแบบนี้เอง ไร้ทุกข์ไร้โศก กล้าหาญมิพรั่น อยากได้ตำแหน่งก็ไม่มาขอด้วยตนเอง”ฮองเฮารีบร้อนอธิบาย “ความจริงซางเอ๋อร์มีใจแสวงหาความก้าวหน้ามากนะเพคะ ตอนที่เขายังเล็กก็...”ฮ่องเต้วางฎีกาในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วง “เพราถูกเจ้าตามใจจนเสียคนน่ะสิ เขาถึงได้ทำอะไรตามอำเภอใจเช่นนี้ ถ้าเขามีใจแสวงหาความก้าวหน้าจริงก็คงไม่หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องสตรี อยู่ว่างทั้งวี่วัน ต่อให้ยกตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวงให้เขา เขาจะทำได้ดีงั้นรึ?”สีหน้าฮองเฮาบัดเดี๋ยวเขียวคล้ำบัดเดี๋ยวซีดขาว เล็บจิกเข้าเนื้อก็ไม่รู้สึกเจ็บ นางพลันเงยหน้าขึ้นจ้องมองฮ่องเต้ตรงๆ “ฝ่าบาทจะลำเอียงก็ไม่ต้องลำเอียงถึงขนาดนี้ก็ได้กระมัง หากฝ่าบาทมีใจยุติธรรมสักนิด ปฏิบัติกับเขาเช่นเดียวกับองค์ชายคนอื่น เขาจะอยู่ว่างทั้งวี่วันเช่นนี้หรือเพคะ? มีวาจาประโยคไหนของฝ่าบาทที่ไม่ดูถูกดูแคลนเขา ตอนยังเล็กเขาเป็นเด็กเฉลียวฉลาดถึงปานนั้น...”ฮองเฮาพูดพลางรำลึกถึงความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่เมื่อครั้งเยาว์วัยของเซี่ยซาง ล้วนแต่เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 9

    เจียงเฟิ่งหัวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ นางจ้องมองใบหน้าของเซี่ยซางอย่างอึ้งๆ ใบหน้ายังคงเย็นชาแข็งทื่อดุจน้ำแข็ง การกระทำยิ่งหยาบกระด้าง เขาวางนางลงบนตั่งนุ่มโดยไม่ทะนุถนอมเลยสักนิด “ก่อนที่หมอหลวงจะมา ข้าจะตรวจให้เจ้าก่อนว่าบาดเจ็บถึงกระดูกหรือไม่”“ท่านอ๋องทำเป็นหรือเพคะ?” ดวงตาคู่งามของเจียงเฟิ่งหัวทอประกายวาบเซี่ยซางไม่อยากอธิบายว่านั่นเป็นทักษะพื้นฐานที่คนในกองทัพต้องมี น่าเสียดายที่เขาไม่อาจเข้าสู่สมรภูมิอีกแล้ว เสด็จพ่อรังเกียจตนเอง ยามนี้ก็ทอดทิ้งเขาไปแล้วเซี่ยซางเปิดชายกระโปรงของนางขึ้นด้วยตนเอง ถอดถุงเท้าออก เห็นเท้างามเกลี้ยงเกลาของนางแดงเถือก บริเวณข้อเท้าบวมนูน ปลายนิ้วเขากดลงเบาๆ เจียงเฟิ่งหัวก็เจ็บปวดจนน้ำตาหลั่งรินลงมาเซี่ยซางเห็นคนงามที่ดวงตาปริ่มน้ำกัดผ้าเช็ดหน้าไม่ยอมส่งเสียงร้องออกมาตรงหน้าก็พูดว่า “เจ็บก็ร้องออกมาเถอะ ร้องออกมาแล้วก็จะดีขึ้นบ้าง”เจียงเฟิ่งหัวน้ำตาไหลไม่หยุด ดวงตาปิดแน่น ส่ายหัวน้อยๆ เนื่องจากเจ็บปวดสุดทานทน นางถึงขั้นเริ่มกัดหลังมือของตัวเองเซี่ยซางไม่เคยเห็นสตรีที่กลัวเจ็บเพียงนี้มาก่อน เขายังไม่ทันลงมือด้วยซ้ำ ประเดี๋ยวตอนประคบเย็นจะยิ่งเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 10

    กว่าจะประคบเสร็จไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ข้อเท้าของเจียงเฟิ่งหัวค่อยๆ ดีขึ้นทีละนิด ไม่บวมมากเหมือนเดิมแล้วเจียงเฟิ่งหัวราวกับเจ็บปวดจนเจียนสลบ ซบลงในอกเขาด้วยสติเลือนราง ยามนั้นบนหน้าผากและหว่างคิ้วของนางมีหยดเหงื่อเกาะพราว ร่างกายก็เหมือนจะเหงื่อออกจนเปียกชื้น ลักษณะเหงื่อชุ่มไปทั้งตัวชวนให้คนสงสารลูกกระเดือกของเซี่ยซางขยับขึ้นลง หัวใจเต้นรัวแรง เจียงเฟิ่งหัวขยับยุกยิกในอ้อมอกเขาอย่างไม่ยอมอยู่นิ่ง โชคดีที่ในตำหนักมีพวกเขาเพียงสองคน มิฉะนั้นหากปล่อยให้นางกำนัลกับขันทีมาเห็นพวกเขาในสภาพนี้คงได้เข้าใจผิดว่าทั้งคู่เพิ่งกระทำเรื่องที่พบพานผู้คนไม่ได้มาเป็นแน่แท้นอกตำหนัก เฉิงฮองเฮาให้หมอหลวงทิ้งยาแก้ฟกช้ำไว้ให้ก็บอกให้เขาจากไปริมฝีปากนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ทำให้คนไม่อยากเข้าไปรบกวนในตำหนักสี่หมัวมัวเอ่ยข้างหูนาง “บ่าวไม่เคยเห็นท่านอ๋องมีน้ำอดน้ำทนเพียงนี้มาก่อนเลยเพคะ ถ้าพระชายาได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋องก็เป็นการช่วยคลายความกังวลให้ฮองเฮาได้พอดี บุตรีสกุลซูผู้นั้น...”“ซางเอ๋อร์ให้ความสำคัญกับความรู้สึก เขาไม่มีทางทอดทิ้งซูถิงหว่านเพื่อเจียงเฟิ่งหัว ตอนนี้คงต้องดูว่าซางเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 11

    ชาติก่อน ซูถิงหว่านจงใจเลือกวันแต่งเข้าจวนอ๋องให้ตรงกับวันที่นางกลับจวน ชาตินี้ในเมื่อฮองเฮาให้สิทธิ์ขาดกับนาง เช่นนั้นนางจะให้อีกฝ่ายค่อยๆ รอเจียงเฟิ่งหัวเขียนฤกษ์งามยามดีลงบนกระดาษด้วยตัวเอง จากนั้นเอ่ยกับเหลียนเย่ “นำสิ่งนี้ไปมอบให้ท่านอ๋อง ถามเขาว่าเหมาะสมหรือไม่ หากไม่พอใจ เชิญท่านอ๋องมาเลือกฤกษ์ดียามอื่นได้เลย”“เพคะ” เหลียนเย่หันมองแวบหนึ่ง “กำหนดให้เป็นอีกห้าวันให้หลังหรือเพคะ? วันนี้เป็นวันที่ยี่สิบสามเดือนสาม ห้าวันให้หลังคือวันที่ยี่สิบแปดเดือนสาม”เหลียนเย่พูดต่อไป “เหตุใดพระชายาปล่อยให้หญิงผู้นั้นแต่งเข้าจวนเร็วขนาดนี้ หากนางแต่งเข้าจวนจริง พระชายามิหมดโอกาสหรือเพคะ?”“ห้าวันจากนี้เป็นเพียงวันที่ที่ข้าเสนอเท่านั้น อีกไม่นานท่านอ๋องจะมีงานราชการต้องทำ นางไม่ได้เข้าจวนเร็วขนาดนั้นหรอก” เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยเสียงเรียบหงซิ่วและเหลียนเย่รู้สึกมึนงง ท่านอ๋องโปรดสตรีผู้นั้นมาก แทบอยากจะแต่งซูถิงหว่านเข้าจวนทันที จะปฏิเสธแต่งชายารองเข้าจวนในอีกห้าวันได้อย่างไรเหลียนเย่มาถึงห้องหนังสือ จากนั้นนำคำพูดของเจียงเฟิ่งหัวแจ้งแก่เซี่ยซางอย่างละเอียดถี่ถ้วนสีหน้าเซี่ยซางเย็นชาเล็กน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 12

    ความงามของเจียงเฟิ่งหัวไม่ได้งามเพราะความผอม แต่งามเพราะมีทรวดทรงองค์เอว จุดไหนควรเล็กก็เล็ก จุดไหนควรเต่งตึงก็เต่งตึง งามอย่างไร้ที่ติคืนนี้นางสวมกางเกงซับในบางเบาและชุดชั้นในปักลายดอกท้อ ผมยาวดำขลับถูกมวยเอาไว้กลางกระหม่อม เผยให้เห็นลำคอระหงพอดีจังหวะนั้น เซี่ยซางที่ดื่มจนเมามายบุกเข้าไปในห้องของนาง เขาเดินอ้อมฉากกั้นโดยมิสนใจสิ่งใด ครั้นเห็นภาพตรงหน้า ดวงตาฉายแววลนลานเล็กน้อย กระนั้นกลับมิอาจละสายตาจากนางตรงหน้าได้ สตรีเบื้องหน้างดงามจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจเจียงเฟิ่งหัวสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบดึงผ้าห่มผืนบางปิดบังร่างกาย ทว่านางดึงมาปิดก็เหมือนไม่ปิด พร้อมกัดริมฝีปากแดง แสร้งทำโกรธเคือง “ท่านอ๋อง เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูเพคะ?”ความคิดของเขาถูกเสียงตำหนิของนางดึงกลับมา นิ้วมือของเขาชี้ไปที่ป้ายด้านนอก แล้วชี้ไปที่เตียงและเครื่องใช้ภายในห้อง “ที่นี่คือหอหล่านเยว่ เป็นห้องนอนของข้า พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งของของข้า ข้าเข้ามาห้องนอนตัวเองทำไมต้องเคาะประตู เจ้า เจ้า เจ้า อึก...หลีกไป”ระหว่างที่พูด เขาทำท่าจะขึ้นไปบนเตียงต่อมาเซี่ยซางโผเข้าหานาง นางเองไม่คิดจะหลบหลีก วินาทีต่อมา ภายในอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 13

    วันรุ่งขึ้น เจียงเฟิ่งหัวตื่นมาพบว่าตัวนางอยู่ในอ้อมกอดเซี่ยซางอีกแล้ว เมื่อนึกถึงเมื่อคืนที่นางใช้ผงหอมกับเขา มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น ซูถิงหว่าน ชาตินี้เจ้าค่อยๆ รอไปเถอะ!ขณะที่นางเตรียมยื่นมือไปลูบสันจมูกเขา จู่ๆ เซี่ยซางขยับเหมือนคนกำลังจะตื่นนอน นางจึงรีบหลับตาลงแสร้งทำเป็นนอนหลับสนิทเซี่ยซางพลิกตัวกะทันหัน แล้วยกขาข้างหนึ่งไปก่ายบนขาของเจียงเฟิ่งหัว ไปโดนข้อเท้านางพอดีเจียงเฟิ่งหัวลองดันตัวเขา แต่ดันไม่ไหว นางจึงเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ท่านอ๋อง ท่านทับโดนขาของหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันปวดเหลือเกิน ท่านปล่อยหม่อมฉันสิ หม่อมฉันไม่ใช่คุณหนูซูนะ ท่านดูให้ชัดสิ ท่านทำให้หม่อมฉันเจ็บ”เซี่ยซางถูกเสียงตำหนิของนางปลุกจนตื่น ครั้นลืมตามองเห็นผู้ที่อยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวผุดภาพที่เขาบุกเข้ามาในห้องเมื่อคืน เขารู้สึกเพียงปวดหัวจนแทบระเบิด อย่างไรก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากเขาโผเข้าหาเจียงเฟิ่งหัวไม่ได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าตัวเองถูกถอด อีกทั้งสองคนยังดูคลุมเครือ เขารีบดันนางออกห่างทันทีทันใดนั้น มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังเข้าหู เขาจึงหันมองด้านข้าง เห็นเพียงร่างบอบบางของหญิงสาวขดตัวอยู่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 14

    เซี่ยซางพยักหน้าอย่างหน้ามืดตามัว “ข้าจะกลับไปพร้อมเจ้า”เจียงเฟิ่งหัวรีบทำท่าเอาใจ นางย่อตัวให้เขา “ขอบพระทัยท่านอ๋อง”จากนั้นนางหันไปตะโกนใส่ด้านนอก “หงซิ่ว เหลียนเย่ สวีหมัวหมัว เตรียมอาหารเช้าเพิ่มอีกหนึ่งชุด ไปตักน้ำมาเตรียมแต่งตัว วันนี้พวกเราจะกลับจวนตระกูลเจียง ข้าคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่เหลือเกิน”เมื่อเอ่ยถึงกลับตระกูลเจียงและบิดามารดาของนาง ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสุกใสแวววาว กลิ่นอายรอบข้างแสดงให้รู้ว่านางมีความสุข ดีใจจนเหมือนนกน้อยในป่าใหญ่เมื่อสิ้นเสียงของนาง พวกสาวใช้ก็กรูกันเข้ามา เจียงเฟิ่งหัวเห็นตัวเองสวมเพียงชุดชั้นในและกางเกงซับใน จึงรู้สึกเขินอายทันที นางหันมองเซี่ยซางแวบหนึ่งก่อนจะหลบไปหลังฉากกั้น “เชิญท่านอ๋องล้างหน้าแต่งตัวก่อน หม่อมฉันจะรีบไป”เห็นเพียงผมยาวจรดเอวของนางดั่งม่านน้ำ ร่างอรชรอ้อนแอ้น เผยให้เห็นเรือนร่างที่งดงามไร้ที่ติเซี่ยซางมองดูจนตะลึงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงนางจึงรู้สึกตัวจนหน้าแดงเถือก ขณะนี้สวีหมัวมัวเดินเข้ามาหา ในมือสาวใช้มีเสื้อผ้าหลายชุด นางกล่าว “ท่านอ๋อง วันนี้จะสวมชุดใดเพคะ”เซี่ยซางชี้นิ้ว เลือกชุดตัวยาวสีน้ำเงินค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 15

    ข่าวที่ท่านอ๋องจะกลับจวนเป็นเพื่อนพระชายาแพร่สะพัดไปทั้งจวน พ่อบ้านเฉิงรีบไปเลือกของขวัญที่จะนำกลับไปในห้องเก็บสมบัติเซี่ยซางหันมองแวบหนึ่ง หันไปถามเฉิงจง “พวกนี้จะส่งไปที่จวนตระกูลเจียงหรือ?”เฉิงจงตอบ “เรียนท่านอ๋อง ใช่ขอรับ”เซี่ยซางขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นอีก “พิธีกลับจวนสำคัญมากหรือ? ต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่หรือไม่?”“พิธีกลับจวนเป็นพิธีการสุดท้ายในการแต่งงาน มิใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะฝ่ายหญิงจะให้ความสำคัญมาก ส่วนจะสำคัญอย่างไรนั้นเพียงไม่กี่ประโยคคงพูดไม่ชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรลูกเขยพาภรรยากลับไปคารวะพ่อตาแม่ยายพร้อมของกำนัล ถือเป็นธรรมเนียม พิธีกลับจวนทำได้ดีหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวแต่งกับคนดีหรือไม่ ได้รับความสำคัญจากลูกเขยหรือไม่ คนทั่วไปให้ความสำคัญมาก ยิ่งครอบครัวร่ำรวยยิ่งจัดให้สมฐานะ ทว่าท่านอ๋องฐานะสูงส่ง ย่อมไม่ต้องคารวะราชครู ท่านอ๋องกลับไปถือเป็นวาสนาของตระกูลนั้น...” พ่อบ้านเฉิงพูดไม่หยุดเซี่ยซางครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นกวาดมองสิ่งที่พ่อบ้านเฉิงเตรียมไว้ “ไปเอาของมาจากห้องเก็บสมบัติอีก”เดิมทีเฉิงจงเลือกมาไม่กี่อย่าง เพื่อทำตามพิธีเท่านั้น ว่ากันตามฐานะของพระชายาไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 40

    ในฝัน เขากลับไปตอนอายุสิบห้าปีอีกครั้ง เสด็จพ่อตำหนิเขาว่า “ไม่รู้จักลำดับความสำคัญก่อนหลัง”เขาหลบอยู่หลังภูเขาจำลองในสวนบุปผชาติของวังหลวง ร้องไห้ด้วยความเสียใจเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่คลุมผ้าบังหน้าก็เดินมาที่หน้าเขา “กิ๊ว ๆ ๆ โตขนาดนี้แล้วยังร้องไห้แง ๆ เจ้าไม่อายหรือไง”เซี่ยซางเงยหน้าขึ้น เด็กผู้หญิงมีดวงตาอันงดงาม ดำสนิทเปล่งประกาย เขามองเห็นสภาพน่าเวทนาของตัวเองในลูกตาของนางเขาพูดกับนางด้วยความโกรธขึ้ง “เจ้าเป็นใคร วิ่งเข้ามาวังได้อย่างไรกัน”“ข้ามาพร้อมท่านพ่อท่านแม่ของข้าไง แคว้นต้าโจวของเราได้รับชัยชนะในสงคราม ฝ่าบาทจึงทรงจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะ” น้ำเสียงของเด็กผู้หญิงไพเราะเสนาะหูเหมือนเสียงกระดิ่งเมื่อได้ยินว่าชนะสงครามเขาก็ยิ่งโมโห เห็นชัด ๆ อยู่ว่าเป็นความดีความชอบของเขา เสด็จพ่อกลับด่าว่าเขาไม่รู้จักลำดับความสำคัญก่อนหลัง เขากระชากผ้าคลุมหน้าของนางออก ก็เห็นเพียงว่านางฟันหลอ ไม่มีฟันหน้าด้านบน น่าเกลียดถึงขีดสุด ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ “ยัยอัปลักษณ์” เด็กผู้หญิงถลึงตา ‘เพียะ’ ตบหน้าเขาหนึ่งฉาด “เจ้าคือไอ้ขี้แย”นิ้วมือนางเปื้อนน้ำตาของเข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 39

    ขาเรียวยาวอันงดงามกระจ่างใสเปล่งประกาย ขาวเนียนละเอียด นางขัดถูร่างกายตัวเองอย่างแช่มช้อย ผิวของนางขาวยิ่งกว่าหิมะ ดูราวกับเครื่องเคลือบ ไม่ว่าเซี่ยซางได้เห็นวันใดก็ต้องถูกนางดึงดูดอันที่จริงเมื่อครู่อีกแค่ก้าวเดียวนางก็จะได้ตัวเขาไว้ แต่ได้ตัวแล้วสามารถทำอะไรได้เล่า เขาก็เพียงแค่ลุ่มหลงในรูปโฉมโนมพรรณ ไม่ได้ร่วมอภิรมย์กับนางเพราะรักนาง เช่นนี้แล้วจะยั่งยืนได้อย่างไรกันหากนางมีอะไรกับเขา ก็เพียงแต่ทำให้เซี่ยซางรู้สึกว่าเขาได้ทำหน้าที่ของสามีเต็มที่แล้ว มิหนำซ้ำยังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อซูถิงหว่านซูถิงหว่านก็ไม่ได้โง่ รู้ว่านางกำลังให้ท่าเขา หากคืนนี้ยั่วยวนสำเร็จจริง ๆ ไม่ใช่ยิ่งทำให้เซี่ยซางสงสัยในตัวนางหรอกหรือผู้ชายก็เหมือนกันทั้งเพ ยิ่งอยากได้แต่ไม่ได้มาเขาก็ยิ่งอยากได้ หากอยากได้ แล้วให้เขาได้ไปอย่างง่ายดาย เขากลับไม่เห็นคุณค่าเซี่ยซางกลับไปแล้วชะรอยจะนอนไม่หลับ เขาชอบนางหรือไม่ เกรงว่าตัวเขาเองก็สับสน ยิ่งสับสนยิ่งดี ผู้ครองบัลลังก์จะมีผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิตได้อย่างไร เพียงแต่ว่านางอยากเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของเขาตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องต้องจัดการ คดี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 38

    เขาก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เข้ามากอดนางไว้จากด้านข้าง เจียงเฟิ่งหัวขัดขืน เบือนหน้าหนี ไม่อยากเข้าใกล้เขา ยิ่งนางขัดขืนเขายิ่งกอดแน่น ชุดขาวทั้งตัวของเขาเปื้อนคราบสกปรกบนตัวนาง ทำให้ทั้งสองเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเกินทนหงซิ่วกับเหลียนเย่และคนอื่น ๆ เฝ้าอยู่นอกประตู ตัวสั่นงันงก เห็นว่าพระชายาได้รับความไม่เป็นธรรมขนาดนี้ พวกนางไม่กล้าพูดปกป้องสักแอะ แววตาเต็มไปด้วยความสงสารเซี่ยซางกอดเจียงเฟิ่งหัวไว้ หันไปทางบรรดาสาวใช้ พูดเสียงเข้มว่า “นิ่งทำอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยอีก ไปหาเสื้อผ้าสะอาด ๆ มาให้พระชายาของพวกเจ้าสิ”ทุกคนแยกย้ายกันเหมือนฝูงนกฝูงสัตว์แตกรัง ไม่กล้าชักช้าแม้แต่วินาทีเดียวพูดจบเขาก็อุ้มเจียงเฟิ่งหัวเข้าห้องนอนที่อยู่ในห้องด้านข้าง เดิมทีหอหล่านเยว่ก็คือที่อยู่ของเซี่ยซาง เขาย่อมรู้ตำแหน่งการจัดวางต่าง ๆ ในนี้เป็นอย่างดี ในห้องด้านข้างมีน้ำร้อนอยู่ตลอด มีแม้กระทั่งห้องน้ำเขาวางนางไว้บนม้านั่งด้านข้าง นำน้ำมาวางด้วยตัวเอง และลองดูความร้อนเย็นของน้ำ ท่าทางอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่งก็ได้เห็นว่าเจียงเฟิ่งหัวร้องไห้จนตาบวมแล้ว ใบหน้าก็แดงก่ำ นางจับกระโปรงตั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 37

    นางชี้ไปที่โต๊ะ ตาจ้องที่เจียงเฟิ่งหัว “นี่ก็คือไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรือ? ใครอธิบายให้ข้าฟังหน่อยซิ”“ข้า…” เจียงเฟิ่งหัวอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้ สวามีของตัวเองกินข้าวมื้อหนึ่งที่เรือนของนางกลับถูกต่อว่าเช่นนี้ ความเสียใจที่มีอยู่เต็มอกไม่มีทางจะบอกเล่าได้ นางกล่าวเบา ๆ ว่า “ก็ถือเสียว่าเป็นความผิดของข้าเถอะ”“ดูสิ ในที่สุดท่านก็ยอมรับแล้ว ข้ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางหรอกที่ท่านจะไม่ชอบอาซาง ยังเสแสร้งทำเป็นเสียอกเสียใจต่อหน้าเขา ทำเหมือนว่ามีคนรังแกท่าน…”จู่ ๆ เซี่ยซางก็นึกถึงภาพตอนที่องค์ชายรองดูถูกเหยียดหยามเขา เย้ยหยันว่าเขาชอบสาวน้อยขาดการอบรมที่พูดจาไร้มารยาทหวานหว่านเรียนมารยาทมาครึ่งเดือน กลับไม่มีการพัฒนาเลยสักนิด เขาขึ้นเสียงดุทีหนึ่ง “เจ้าโวยวายพอแล้วหรือยัง?”“ท่านตะโกนใส่ข้า…” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดเสียงดังใส่ซูถิงหว่าน นางได้แต่รู้สึกน้อยใจอยู่เต็มอก เมื่อนึกถึงว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง เจียงเฟิ่งหัวงดงามถึงเพียงนี้ และยังจงใจยั่วยวนอีกด้วย นางโมโหจนควบคุมไม่อยู่ “ท่านไม่เห็นหรือว่านางเสแสร้งมาตลอด? นางยั่วยวนท่าน…”“ออกไป” เซี่ยซางกำหมัดแน่น แววตาเย็นยะเยือกเข้า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 36

    ทันใดนั้น ก็มีกลิ่นหอมโชยมา จู่ ๆ ท้องเซี่ยซางก็ร้องดังจ๊อก ๆ สีหน้าเขาก็ดูเคอะเขินขึ้นมาเจียงเฟิ่งหัวขมวดคิ้ว แววตาใส ๆ อันงดงามเหลือบมองที่ท้องของเขา “ท่านอ๋องยังไม่ได้เสวยหรือเพคะ?”เซี่ยซางหิวมาก และนึกถึงที่หลินเฟิงบอกว่าเจียงเฟิ่งหัวทำอาหารอร่อยอีกด้วย เขานึกถึงว่าคราวก่อนเขาได้กินอาหารที่เรือนของนางครั้งหนึ่งและยังกินไม่อิ่ม คิดถึงอยู่ไม่น้อยนางรุกก่อน รอยยิ้มอันแสนหวานปรากฏที่แก้ม “ท่านอ๋องเชิญหม่อมฉันดื่มชาแล้ว หม่อมฉันก็เชิญท่านอ๋องเสวยพระกระยาหารดีไหมเพคะ? ท่านอ๋องไม่ต้องเขินหรอกเพคะ ถึงอย่างไร…”นางหยุดพูดในทันใดเซี่ยซางก็ไม่ได้พูดเปิดเผยเจตนาของนาง รู้อยู่แล้วว่านางเตรียมอาหารไว้ตั้งนานแล้ว “ข้าคงต้องรับคำเชิญอย่างไม่เกรงใจแล้ว”ข้าเองก็อยากดูซิว่าเจ้ายังจะใช้อุบายอะไรอีกในช่วงหลายวันนั้นที่เขาพักอยู่ที่ที่ทำการ นางก็เห็นใจว่าเขาไม่ได้กินอาหารดี ๆ ที่นั่น จึงให้พ่อบ้านเฉิงส่งอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้เขาบ่อย ๆที่ทำการก็ไม่มีอะไรอร่อย ๆ ให้กินจริง ๆ เขาจึงกินดูเล่น ๆ นิดหน่อย ได้ชิมแล้วจึงเพิ่งรู้สึกว่าอร่อยมาก เขาเหมือนจะดื่มด่ำกับความรู้สึกอย่างนี้มากเขากล่าว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 35

    เซี่ยซางตกใจทันที เจ็บแปลบในอกเล็กน้อย แต่เขารู้ดีว่าหญิงสาวจากตระกูลใหญ่อย่างเช่นเจียงเฟิ่งหัวนั้น รู้จักประพฤติตนอยู่ในกรอบ รักษาจารีตยิ่งกว่าใครหลินเฟิงกล่าวอีกว่า “ท่านอ๋องไม่อยากรู้หรือว่าชายใดเป็นคนมอบให้? คิดดูแล้วท่านอ๋องก็ไม่ได้อยากรู้ ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถิด” กระหม่อมไม่เชื่อหรอกว่าท่านไม่หวั่นไหวกับพระชายาแม้แต่นิดเดียว ค่อย ๆ เดาไปก็แล้วกันนะพ่ะย่ะค่ะ!เดินมาถึงประตูเรือนแล้ว เซี่ยซางก็กลับลำ หวานหว่านยังคงรอเขาอยู่ เขาควรไปที่เรือนถานเซียง ไม่ใช่มาที่เรือนของเจียงเฟิ่งหัวขณะที่เตรียมจะเดินจากไปนั้นเอง ทันใดนั้นก็มีเสียงเฮดังมาจากในลาน “พระชายาเก่งจริงๆ”เขาก็หันกลับมา มองเข้าไปด้านในเงียบ ๆที่ริมศาลา จู่ ๆ ก็มีซุ้มไม้ซุ้มหนึ่งเพิ่มเข้ามา ที่ซุ้มไม้มีผ้าไหมสีสันสดใสหลากสีหลายแถบผูกอยู่ เจียงเฟิ่งหัวสวมชุดผ้าบางเบา ทั้งตัวของนางดูอ่อนนุ่มดุจผ้าไหม ห้อยอยู่บนผ้าไหมที่มีสีสันสวยงามแขนเรียวเล็กของนางดึงแถบผ้าไหมหลากสีไว้ขณะที่นางหมุนตัวจากบนลงล่างสู่พื้น ร่างกายของนางดูเบาเหมือนผีเสื้อ ตัวอ่อนเหมือนไร้กระดูก อาศัยพลังของผ้าไหมหลากสีเต้นรำตามใจปรารถนาที่ยิ่งน่าอัศจรรย์

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 34

    วังหมัวมัวออกไปแล้ว เซี่ยซางก็ถอดชุดที่เขาใส่ไปเข้าวังอันแสนยุ่งยากออก ดำลงไปในน้ำทั้งตัวใบหน้าสวยหยาดเยิ้มของเจียงเฟิ่งหัวนั้นปรากฏอยู่ในหัวสมองเขาอยู่เสมอ ทรวดทรงอันสมบูรณ์แบบของนาง ขาเรียวงาม ผิวขาวใส น้ำเสียงอ่อนหวานของนางและเรือนร่างที่ดูนุ่มนวลเย้ายวนใจ…ทันใดนั้นเซี่ยซางก็ผุดขึ้นมาจากน้ำ ต่อยลงน้ำสุดแรงหนึ่งที ทำให้น้ำกระเซ็นไปทั่วหลินเฟิงเดินมาที่หน้าประตูพอดี ได้ยินเสียงจากข้างใน ก็รีบชักกระบี่ออกมาและบุกเข้าไป “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”เซี่ยซางแววตาเย็นเยียบเข้ากระดูก กวาดสายตามองไปทางหลินเฟิงอย่างเย็นชา ตัวของเขาโผล่พ้นน้ำครึ่งตัว แผงอกใหญ่ที่กระชับ แข็งแกร่ง แขนและไหล่ที่แข็งแรง ทรงพลัง หลินเฟิงมอบแวบหนึ่งแล้ว ก็ได้แต่อายไม่หยุด รีบเก็บกระบี่เข้าฝัก“เจ้าหน้าแดงอะไร” เซี่ยซางถามเขาหลินเฟิงไม่อ้อมค้อมแม้แต่น้อย เยินยอว่า “ท่านอ๋องหุ่นดีเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ตอนใส่เสื้ออยู่ดูผอม ถอดเสื้อออกแล้วมีกล้าม ที่สำคัญคือตอนที่ท่านอ๋องเพิ่งขึ้นจากน้ำ ทั้งตัวของท่านส่งกลิ่นอายที่ชวนให้คนหลงใหล”เซี่ยซางเริ่มทำหน้าเข้ม “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”“ไม่มีแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 33

    เซี่ยซางเห็นท่าทางนี้ของนางแล้วก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แววตามีความรักและเอ็นดู พูดกับนางด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่ได้กลับจวนหลายวัน เสื้อผ้า ถุงเท้ารองเท้าสกปรกหมดแล้ว ข้ากลับไป…” เดิมทีเขาอยากพูดว่าหอหล่านเยว่ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจียงเฟิ่งหัวพักอยู่ที่หอหล่านเยว่ ก็คิดว่าไม่ควรพูดวังหมัวมัวกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “พระชายาสั่งให้คนเก็บกวาดหอทิงเสวี่ย[1]ในเรือนตะวันออกแล้ว ด้านในเปลี่ยนเครื่องใช้และตกแต่งใหม่ทั้งหมด ท่านอ๋องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอทิงเสวี่ยดีกว่านะเพคะ”เซี่ยซางผงกหัว “ถ้าเช่นนั้นก็ไปหอทิงเสวี่ยเถอะ!”วังหมัวมัวอยู่ที่นี่ ซูถิงหว่านก็ไม่กล้าบังอาจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วังหมัวมัวใช้ไม้เรียวตีนางโดยอ้างว่าเป็นการอบรมมารยาท นางรีบกล่าวว่า “หม่อมฉันไปรอท่านอ๋องที่เรือนถานเซียงนะเพคะ”เซี่ยซางพยักหน้า “ได้”เมื่อเห็นว่าเซี่ยซางเดินไปไกลแล้ว ซูถิงหว่านก็เบ้ปากบ่นว่า “วังหมัวมัวแส่เรื่องชาวบ้านจริงๆ”ช่วงนี้อิ๋นซิ่งก็ได้เรียนรู้กฎระเบียบมากมายตามไปด้วย รีบกล่าวว่า “คุณหนู ระวังนางมาได้ยินเข้าแล้วใช้ตำแหน่งหน้าที่แก้แค้นเรื่องส่วนตัวนะเจ้าคะ”“ข้าไม่กลัวนางหรอก ม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 32

    เซี่ยอวี้เห็นสถานการณ์แล้ว ก็กล่าวเสียงดังขึ้นมาอีก “ได้ยินว่าน้องห้ารับหลานสาวจากตระกูลของซูกุ้ยเฟยมาเป็นชายารอง ที่แท้น้องหาก็ชอบสาวน้อยไร้การอบรมที่พูดจาไม่รู้กาลเทศะนี่เอง ข้ายังได้ยินมาว่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีคนแต่งงานที่ศาลเจ้าที่ที่นอกเมือง คนผู้นั้นรูปร่างท่าทางเหมือนน้องห้าไม่มีผิด”หากไม่ใช่ว่ากลัวทำให้เสด็จพ่อพิโรธ เขาจะโพนทะนาเรื่องนี้ไปทั่วทุกสารทิศตั้งนานแล้วเมื่อเห็นว่าเซี่ยซางยิ่งเดินห่างไปไกล เซี่ยอวี้ก็กล่าวด้วยสีหน้าหยิ่งยโสว่า “เสด็จพ่อไม่ชอบเขา ข้าก็ไม่ชอบเขาเช่นกัน นึกว่าเป็นโอรสจากฮองเฮาก็สูงส่งจริง ๆ สินะ”เซี่ยซางออกจากวังแล้วก็ตรงกลับจวนเหิงอ๋องซูถิงหว่านเรียนมารยาทและธรรมเนียมมาครึ่งเดือน และก็ไม่ได้เจอเขามาครึ่งเดือน จู่ ๆ เห็นเขาเดินออกมาจากเงา ซูถิงหว่านก็ดีใจออกหน้าออกตา รีบเดินเข้าไปหาเขาจนเดินเข้าไปใกล้แล้ว ซูถิงหว่านจึงเพิ่งหยิบผ้าเช็ดหน้า พาดมือที่ข้างเอว ทำท่าทางอ้อนแอ้นอรชร ก้าวเบา ๆ อย่างอ่อนช้อย สง่างาม ราวกับดอกบัวในสายธาร มาปรากฏตัวหน้าเซี่ยซางนางแต่งตัวอย่างประณีต แต่งหน้าอย่างมีทักษะ ยิ้มให้เซี่ยซาง ถวายคำนับช้า ๆ ดูสุภาพ อ่อนน้อมถ่

DMCA.com Protection Status