Share

บทที่ 15

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ข่าวที่ท่านอ๋องจะกลับจวนเป็นเพื่อนพระชายาแพร่สะพัดไปทั้งจวน พ่อบ้านเฉิงรีบไปเลือกของขวัญที่จะนำกลับไปในห้องเก็บสมบัติ

เซี่ยซางหันมองแวบหนึ่ง หันไปถามเฉิงจง “พวกนี้จะส่งไปที่จวนตระกูลเจียงหรือ?”

เฉิงจงตอบ “เรียนท่านอ๋อง ใช่ขอรับ”

เซี่ยซางขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นอีก “พิธีกลับจวนสำคัญมากหรือ? ต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่หรือไม่?”

“พิธีกลับจวนเป็นพิธีการสุดท้ายในการแต่งงาน มิใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะฝ่ายหญิงจะให้ความสำคัญมาก ส่วนจะสำคัญอย่างไรนั้นเพียงไม่กี่ประโยคคงพูดไม่ชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรลูกเขยพาภรรยากลับไปคารวะพ่อตาแม่ยายพร้อมของกำนัล ถือเป็นธรรมเนียม พิธีกลับจวนทำได้ดีหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวแต่งกับคนดีหรือไม่ ได้รับความสำคัญจากลูกเขยหรือไม่ คนทั่วไปให้ความสำคัญมาก ยิ่งครอบครัวร่ำรวยยิ่งจัดให้สมฐานะ ทว่าท่านอ๋องฐานะสูงส่ง ย่อมไม่ต้องคารวะราชครู ท่านอ๋องกลับไปถือเป็นวาสนาของตระกูลนั้น...” พ่อบ้านเฉิงพูดไม่หยุด

เซี่ยซางครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นกวาดมองสิ่งที่พ่อบ้านเฉิงเตรียมไว้ “ไปเอาของมาจากห้องเก็บสมบัติอีก”

เดิมทีเฉิงจงเลือกมาไม่กี่อย่าง เพื่อทำตามพิธีเท่านั้น ว่ากันตามฐานะของพระชายาไ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 16

    เมื่อเห็นบิดามารดาทำความเคารพตัวเอง ดวงตาเจียงเฟิ่งหัวก็แดงเล็กน้อย นางรู้ว่านี่คือมารยาทของราชวงศ์ จึงปล่อยให้พวกเขาทำเซี่ยซางเห็นนางกำลังจะร้องไห้ จึงพูดเสียงขรึม “เจียง...ท่านพ่อตาแม่ยายรีบลุกขึ้นเถอะ”ทุกคนในตระกูลเจียงลุกขึ้น วินาทีต่อมา เห็นเพียงเซี่ยซางยื่นมือไปรับตัวเจียงเฟิ่งหัวจากสาวใช้กะทันหัน แล้วช้อนตัวอุ้มนางขึ้น พร้อมอธิบาย “เมื่อวานตอนเข้าวัง ข้อเท้าพระชายาพลิก ทำให้เดินเหินไม่สะดวก ข้าจึงต้องอุ้มนางเข้าไป”เจียงเฟิ่งหัวเคยคิดว่าเขาจะอุ้มนางลงจากรถ แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะเรียกพ่อแม่นางว่าท่านพ่อตาแม่ยาย ทำให้นางชะงักไปชั่วขณะ เพราะอย่างไรชาติที่แล้ว เขาไม่แม้แต่จะมองพวกท่านด้วยซ้ำ ตระกูลเจียงรุ่งโรจน์เพราะนางอยู่ช่วงหนึ่ง แต่กลับโดนก่นด่าไปตลอดชีวิต คนตระกูลเจียงต้องทนทุกข์ทรมาน ล้วนเป็นเพราะคนที่นางแต่งงานด้วยไม่ชื่นชอบนางได้ยินเพียงเซี่ยซางกล่าวกับเจียงหวย “ท่านพ่อตา มีที่ให้พักผ่อนหรือไม่ เท้าของพระชายาเดินไม่สะดวก”“ไปนั่งที่ห้องรับแขกเถอะ” เจียงหวยมองดูขาของบุตรสาวแวบหนึ่ง รู้สึกกังวลไม่น้อย แต่กลับไม่ได้ล้ำเส้นเข้าไปตรวจดู“ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ท่านอ๋องทำเป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 17

    เจียงเฟิ่งหัวกอดมารดาพลางปลอบโยน “ลูกก็สุขสบายดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ ท่านแม่ร้องไห้อีกแล้ว”“แม่ดีใจมากจริงๆ” เจียงฮูหยินกลั้นน้ำตาไม่อยู่ “หรวนหร่วนได้แต่งกับชายที่ต้องใจ แม่ดีใจมาก”เจียงหรูเมิ่งเองก็ดีใจแทนน้องสาวมาก จึงเอ่ยเสียงต่ำ “เดิมทีข้านึกว่าน้องสามแต่งเข้าจวนเหิงอ๋องจะต้องหายใจใต้จมูกคนอื่น ดูจากตอนนี้ เหิงอ๋องไม่เพียงเก่งกล้าสามารถ ซ้ำยังดูแลเอาใจใส่ ท่านแม่พูดถูก น้องสามได้แต่งกับชายที่พึงใจอย่างแท้จริง”เจียงเฟิ่งหัวก้มหน้าดื่มน้ำแกง พลางแสร้งทำขวยเขิน แล้วแอบคิด พวกนางคงไม่รู้ ชาติที่แล้วนอกจากไม่มีพิธีกลับจวน เซี่ยซางไม่แม้กระทั่งชายตามองนางด้วยซ้ำ เหิงอ๋องสวมชุดแต่งงานสีแดงสดไปรับตัวชายารองเข้าจวน นางถูกเชิญให้มาดื่มน้ำชาในฐานะนายหญิง ทุกคนล้วนตำหนิติเตียนเหยียดหยามนาง นางกลายเป็นที่ขบขันไปทั่วเมืองเซิ่งจิง เมื่อเห็นพวกเขารักใคร่ปรองดอง ในใจนางราวมีเลือดหลั่งรินงานเลี้ยงแบ่งเป็นสองโต๊ะ ชายหญิงคนละหนึ่งโต๊ะ ระหว่างกลางคั่นด้วยฉากกั้นที่ปักลวดลายดอกเหมย ดอกกล้วยไม้ ต้นไผ่ และดอกเบญจมาศ เซี่ยซางนั่งหันหลังตรงข้ามกับเจียงเฟิ่งหัวพอดี เขาได้ยินเสียงสะอื้นของเจียงฮูหยิน จึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 18

    จวนตระกูลซูเมื่อซูถิงหว่านรับทราบข่าวที่เหิงอ๋องกลับตระกูลมารดาพร้อมพระชายาเหิงอ๋อง นางราวกับแข็งทื่อไปทั้งร่าง “ทั้งที่อาซางรับปากข้าแล้ว ทำไมเขาถึงไปจวนตระกูลเจียง ทั้งที่เขาไม่สนใจเจียงเฟิ่งหัว รับปากว่าวันนี้จะมารับข้า...”บนเตียงคือชุดแต่งงานที่นางต้องสวมใส่ เดิมทีชายารองแต่งเข้าจวนใส่ได้แค่สีชมพูเท่านั้น ทว่าเขายืนยันจะให้นางสวมชุดเจ้าสาวที่หรูหราและจัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเซิ่งจิง จึงได้สั่งตัดชุดแต่งงานสีแดงสดด้วยราคาสูงลิ่วสาวใช้อิ๋นซิ่งที่อยู่ข้างกันกล่าวอย่างสงสาร “นี่เป็นครั้งที่สองที่ท่านอ๋องผิดนัด วันนี้เป็นวันที่คุณหนูออกเรือน เหตุใดท่านอ๋องจึงให้องครักษ์มาแจ้งคุณหนูว่าวันนี้มารับตัวคุณหนูไม่ได้ง่ายๆ เช่นนี้เจ้าคะ หากเลื่อนงานแต่งไปก่อน จะเลื่อนถึงวันใดเจ้าคะ? เป็นถึงคุณหนูตระกูลแม่ทัพถูกลดขั้นจากชายาเอกเป็นชายารองก็รันทดมากพอแล้ว ไฉนท่านอ๋องถึงทำกับคุณหนูเช่นนี้ นางเป็นเพียงบุตรสาวของราชครูเท่านั้น จะมาเทียบกับคุณหนูได้อย่างไร”“ไม่ต้องพูดแล้ว ออกไป” นางหันไปตวาดสาวใช้สาวใช้ไม่พูดสิ่งใดอีก เดินออกจากห้องเพียงลำพัง เพื่อแก้แค้นแทนคุณหนู ดังนั้นจึงนำเรื

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 19

    ฮ่องเต้เข้าใจทันที จึงโอบเอวเล็กคอดของนาง แม้อายุของซูชิงชิงจะมากกว่าหวังเหม่ยเหรินมาก แต่นางยังคงเปี่ยมล้นด้วยความรัญจวน ซึ่งมีเสน่ห์แตกต่างกัน...ในไม่ช้า ฮ่องเต้โอบนางมาสู่อ้อมกอด แล้วดื่มด่ำกับความอ่อนโยนอันไร้ขอบเขตหลังเสร็จกิจ ซูชิงชิงแววตาหวานล้ำ นิ้วเรียวยาวถูวนอยู่ตรงแผงอกของฮ่องเต้ “ฝ่าบาทเคยเห็นหวานหว่านมาก่อน นางระหกระเหินไปชายแดนกับบิดามารดาตั้งแต่เด็ก ลำบากตรากตรำมาไม่น้อย หวานหว่านกลับเมืองเซิ่งจิงเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้นางอายุสิบเจ็ดปีแล้ว สมควรต้องแต่งงานออกเรือน หม่อมฉันในฐานะที่เป็นป้า ย่อมต้องใส่ใจเพคะ”ฮ่องเต้แสร้งลืมเรื่องหลายวันก่อนซูกุ้ยเฟยขอพระราชทานสมรสให้เหิงอ๋องและซูถิงหว่าน “บุตรสาวสุดที่รักของแม่ทัพซู เรื่องแต่งงานย่อมต้องให้ความสำคัญ เจ้าถูกใจบุรุษตระกูลใดก็ไปจัดการเถิด!”“ฝ่าบาทเพคะ!” ซูกุ้ยเฟยทำเสียงเง้างอด แล้วเบือนหน้าแสร้งทำโมโห “ฝ่าบาทคงยุ่งจนหลงลืม ไม่ใส่ใจหม่อมฉันแม้แต่น้อย”ภายในวังหลัง หากฮ่องเต้โปรดปรานสนมคนใดมากหน่อย ขุนนางที่เกี่ยวข้องก็จะพลอยมีหน้ามีตาตามไปด้วย นี่คือสัญญาณที่รู้กันโดยไม่ต้องบอก เห็นได้ชัดว่าในใจฮ่องเต้จะโปรดซูกุ้ยเฟยจนเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 20

    อีกด้านหนึ่ง องครักษ์ตระกูลซูเร่งเดินทางไปหน้าประตูสกุลเจียง ประกาศว่าจะพบเหิงอ๋อง อีกทั้งยังต้องนำจดหมายมอบให้กับมือ“เจ้าคือตระกูลซูไหนกัน วันนี้ที่จวนมีงานมงคล นายท่านสั่งไว้แล้วว่าไม่รับแขก” บ่าวเฝ้าประตูพูดจบก็เตรียมปิดประตู“ข้ามาจากจวนแม่ทัพซูทางใต้ของเมือง ข้ามีเรื่องสำคัญจะพบเหิงอ๋อง” องครักษ์ดูโอหังเล็กน้อยบ่าวเฝ้าประตูชื่อเจียงห้วน มาอยู่กับตระกูลเจียงตั้งแต่เด็ก อ่านออกเขียนได้ และไม่ชอบคนโอหังที่สุด อีกทั้งยังมีน้ำโหเล็กน้อย เขารู้ว่าวันนี้คุณหนูสามกลับจวนตามพิธี ใครก็รบกวนไม่ได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังได้ยินอีกฝ่ายบอกว่ามาจากจวนแม่ทัพซูทางใต้ของเมือง นี่เป็นตระกูลที่เขาเคยไปกับพี่เหลียนเย่ไม่ใช่หรือ?ตอนนั้นเขาได้ยินพี่เหลียนเย่บ่นหนึ่งคำ ‘ที่แท้คุณหนูซูเป็นคู่รักของเหิงอ๋องหรือ!’“หรือคุณหนูตระกูลซูส่งจดหมายมาให้เหิงอ๋องหรือ?” เขาเข้าใจทันที พร้อมเอ่ยในใจ “แย่แล้ว...”บ่าวเฝ้าประตูยิ้มให้เขาก่อน แล้วเอ่ยขึ้น “ในเมื่อมาหาท่านอ๋อง เช่นนั้นข้าจะเข้าไปรายงาน โปรดรอสักครู่ จดหมายในมือเจ้าให้ข้านำไปมอบให้หรือไม่?”คุณหนูสั่งไว้จดหมายต้องมอบให้เหิงอ๋องกับมือ เขากล่าว “ไม่จำเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 21

    เซี่ยซางเริ่มรู้สึกเมาเล็กน้อย ประกอบกับอาการเมาค้างจากเมื่อคืน ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้า จึงเผลอหลับไปครู่หนึ่งผู้ที่อยู่ตรงหน้าแจ้งจุดประสงค์ “คุณหนูสั่งให้กระหม่อมนำจดหมายฉบับนี้มามอบให้ท่านอ๋องด้วยตนเองพ่ะย่ะค่ะ”เขาเปิดจดหมายของซูถิงหว่าน ‘อาซาง เห็นตัวอักษรประหนึ่งได้เห็นหน้า...ข้าไปแล้วนะ’หลังจากอ่านจดหมายจบ สีหน้าของเซี่ยซางก็พลันมืดมน หัวใจรู้สึกเคว้งคว้างอย่างยิ่ง หวานหว่านจะจากไปตลอดกาล สำหรับเขาแล้วมันไม่ต่างอะไรกับฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ เวลานี้ เจียงเฟิ่งหัวเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำแกงสร่างเมา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “ท่านอ๋อง ดื่มน้ำแกงสร่างเมาก่อนเถิดเพคะ!”สายตาเย็นชาของเซี่ยซางไร้ซึ่งความอบอุ่น รอบกายแผ่รังสีเยือกเย็น ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ เขาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ยกมือขึ้นคว่ำถ้วยในมือของเจียงเฟิ่งหัว น้ำแกงสร่างเมาที่เพิ่งต้มเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่ทันเย็น ก็หกราดลงบนหลังมือที่ขาวเนียนของนาง ภายในชั่วพริบตาผิวก็แดงเป็นปื้นนางรีบซ่อนมือเอาไว้ อดทนต่อความเจ็บปวด “หม่อมฉันไม่ทันระวังจึงทำหกเพคะ หงซิ่วยกมาใหม่อีกถ้วยหนึ่ง”หงซิ่วทำอย่างรวดเร็ว ตักน้ำแกงมาใหม่อีกถ้วยแล้วรี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 22

    ศาลาพักริมทางสิบลี้ที่อยู่นอกเมืองมีศาลเจ้าที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เซี่ยซางตามซูถิงหว่านได้ทัน ในยามที่ทั้งสองรักกันอย่างลึกซึ้ง ก็ได้อาศัยศาลเจ้าที่มาทำพิธีคำนับฟ้าดิน โดยเป็นความต้องการของซูถิงหว่านนางกล่าวว่า “อาซาง ในเมื่อไม่สามารถแต่งงานกับท่านอย่างเปิดเผยได้ เช่นนั้นเราก็มาไหว้ศาลเจ้าที่กันเถิด ท่านเป็นที่ศรัทธาของผู้คน พวกเราไหว้ท่านคงไม่ผิดหรอก”เดิมทีเซี่ยซางลังเลอยู่บ้าง แต่มิอาจทนต่อคำพูดที่องอาจและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณได้ อีกทั้งรู้ตัวว่าวันนี้ผิดคำสัญญากับนาง ในวินาทีที่ได้พบนาง ความรู้สึกที่ได้สิ่งที่หายไปกลับคืนมาทำให้เขารู้สึกราวกับได้สมบัติล้ำค่า ในที่สุดก็ตกลงทำพิธีคำนับฟ้าดินกับนางที่ศาลเจ้าที่หลังจากที่ทั้งสองทำพิธีคำนับฟ้าดินแล้ว ซูถิงหว่านก็เอ่ยขึ้นต่อ “อาซาง วันนี้เป็นวันที่ข้ามีความสุขและเป็นอิสระที่สุดในชีวิต ในเมื่อเราคำนับฟ้าดินกันแล้ว ก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน ข้าเป็นภรรยาของท่านแล้ว ดีใจเหลือเกิน”เขาไม่สามารถมอบตำแหน่งชายาเอกให้นางได้ ทว่าตอนนี้กลับมาทำพิธีคำนับฟ้าดินกับนางอย่างลับ ๆ ข้างนอก ในใจรู้ดีว่าไม่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียม แต่หวานหว่านเป็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 23

    เมื่อกล่าวถึง ‘ความกตัญญู’ แคว้นต้าโจวก็ให้ความสำคัญกับคำว่ากตัญญูเป็นอันดับแรก พานไท่ฟู่เป็นขุนนางขั้นสูงสุด เป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิตโดยแท้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ข่าวนี้ถึงได้แพร่ไปถึงหูของพานไท่ฟู่ที่กำลังสอนหนังสืออยู่ เมื่อเขาได้ยินว่ามีคนทำพิธีแต่งงานที่ศาลเจ้าที่ ก็โกรธจนควันออกหู ด่าทอว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม หากคนผู้นี้เป็นบัณฑิต ก็ถือว่าอ่านหนังสือของนักปราชญ์ไปก็เสียเปล่าพานไท่ฟู่ตัดสินใจบันทึกเหตุการณ์นี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สอนลูกศิษย์รุ่นหลัง ว่าด้วยเรื่องจริยธรรม ความชอบธรรม ศีลธรรม และความละอาย พานไท่ฟู่สามารถพูดถึงเรื่องนี้ได้ไม่หยุดเป็นเดือน และจะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างในภายหลัง กลับมาที่เรื่องเดิม องครักษ์หลินเฟิงที่ยืนเฝ้าอยู่นอกศาลเจ้าที่ซ่อนดาบไว้ในมืออย่างเงียบ ๆ แสร้งทำเป็นไม่รู้จักคนทั้งสองคนในศาลเจ้าที่ เขารู้สึกอับอายขายหน้าแต่อย่างไรก็ตาม ความอยากรู้อยากเห็นขององครักษ์หลินเฟิงก็เริ่มทำงาน เขาแสร้งทำเป็นคนผ่านทาง เงี่ยหูฟังผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาวิพากษ์วิจารณ์นายของตนหลังจากฟังจบ เขาก็ได้แต่บ่นในใจ ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! เหตุใดคุณหนูซูถึงได้ลากนายท่านไ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status