Share

บทที่ 12

Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ความงามของเจียงเฟิ่งหัวไม่ได้งามเพราะความผอม แต่งามเพราะมีทรวดทรงองค์เอว จุดไหนควรเล็กก็เล็ก จุดไหนควรเต่งตึงก็เต่งตึง งามอย่างไร้ที่ติ

คืนนี้นางสวมกางเกงซับในบางเบาและชุดชั้นในปักลายดอกท้อ ผมยาวดำขลับถูกมวยเอาไว้กลางกระหม่อม เผยให้เห็นลำคอระหง

พอดีจังหวะนั้น เซี่ยซางที่ดื่มจนเมามายบุกเข้าไปในห้องของนาง เขาเดินอ้อมฉากกั้นโดยมิสนใจสิ่งใด ครั้นเห็นภาพตรงหน้า ดวงตาฉายแววลนลานเล็กน้อย กระนั้นกลับมิอาจละสายตาจากนางตรงหน้าได้ สตรีเบื้องหน้างดงามจนทำให้เขาแทบหยุดหายใจ

เจียงเฟิ่งหัวสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบดึงผ้าห่มผืนบางปิดบังร่างกาย ทว่านางดึงมาปิดก็เหมือนไม่ปิด พร้อมกัดริมฝีปากแดง แสร้งทำโกรธเคือง “ท่านอ๋อง เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูเพคะ?”

ความคิดของเขาถูกเสียงตำหนิของนางดึงกลับมา นิ้วมือของเขาชี้ไปที่ป้ายด้านนอก แล้วชี้ไปที่เตียงและเครื่องใช้ภายในห้อง

“ที่นี่คือหอหล่านเยว่ เป็นห้องนอนของข้า พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งของของข้า ข้าเข้ามาห้องนอนตัวเองทำไมต้องเคาะประตู เจ้า เจ้า เจ้า อึก...หลีกไป”

ระหว่างที่พูด เขาทำท่าจะขึ้นไปบนเตียง

ต่อมาเซี่ยซางโผเข้าหานาง นางเองไม่คิดจะหลบหลีก วินาทีต่อมา ภายในอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 13

    วันรุ่งขึ้น เจียงเฟิ่งหัวตื่นมาพบว่าตัวนางอยู่ในอ้อมกอดเซี่ยซางอีกแล้ว เมื่อนึกถึงเมื่อคืนที่นางใช้ผงหอมกับเขา มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น ซูถิงหว่าน ชาตินี้เจ้าค่อยๆ รอไปเถอะ!ขณะที่นางเตรียมยื่นมือไปลูบสันจมูกเขา จู่ๆ เซี่ยซางขยับเหมือนคนกำลังจะตื่นนอน นางจึงรีบหลับตาลงแสร้งทำเป็นนอนหลับสนิทเซี่ยซางพลิกตัวกะทันหัน แล้วยกขาข้างหนึ่งไปก่ายบนขาของเจียงเฟิ่งหัว ไปโดนข้อเท้านางพอดีเจียงเฟิ่งหัวลองดันตัวเขา แต่ดันไม่ไหว นางจึงเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ท่านอ๋อง ท่านทับโดนขาของหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันปวดเหลือเกิน ท่านปล่อยหม่อมฉันสิ หม่อมฉันไม่ใช่คุณหนูซูนะ ท่านดูให้ชัดสิ ท่านทำให้หม่อมฉันเจ็บ”เซี่ยซางถูกเสียงตำหนิของนางปลุกจนตื่น ครั้นลืมตามองเห็นผู้ที่อยู่ในอ้อมกอด ภายในหัวผุดภาพที่เขาบุกเข้ามาในห้องเมื่อคืน เขารู้สึกเพียงปวดหัวจนแทบระเบิด อย่างไรก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากเขาโผเข้าหาเจียงเฟิ่งหัวไม่ได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าตัวเองถูกถอด อีกทั้งสองคนยังดูคลุมเครือ เขารีบดันนางออกห่างทันทีทันใดนั้น มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังเข้าหู เขาจึงหันมองด้านข้าง เห็นเพียงร่างบอบบางของหญิงสาวขดตัวอยู่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 14

    เซี่ยซางพยักหน้าอย่างหน้ามืดตามัว “ข้าจะกลับไปพร้อมเจ้า”เจียงเฟิ่งหัวรีบทำท่าเอาใจ นางย่อตัวให้เขา “ขอบพระทัยท่านอ๋อง”จากนั้นนางหันไปตะโกนใส่ด้านนอก “หงซิ่ว เหลียนเย่ สวีหมัวหมัว เตรียมอาหารเช้าเพิ่มอีกหนึ่งชุด ไปตักน้ำมาเตรียมแต่งตัว วันนี้พวกเราจะกลับจวนตระกูลเจียง ข้าคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่เหลือเกิน”เมื่อเอ่ยถึงกลับตระกูลเจียงและบิดามารดาของนาง ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสุกใสแวววาว กลิ่นอายรอบข้างแสดงให้รู้ว่านางมีความสุข ดีใจจนเหมือนนกน้อยในป่าใหญ่เมื่อสิ้นเสียงของนาง พวกสาวใช้ก็กรูกันเข้ามา เจียงเฟิ่งหัวเห็นตัวเองสวมเพียงชุดชั้นในและกางเกงซับใน จึงรู้สึกเขินอายทันที นางหันมองเซี่ยซางแวบหนึ่งก่อนจะหลบไปหลังฉากกั้น “เชิญท่านอ๋องล้างหน้าแต่งตัวก่อน หม่อมฉันจะรีบไป”เห็นเพียงผมยาวจรดเอวของนางดั่งม่านน้ำ ร่างอรชรอ้อนแอ้น เผยให้เห็นเรือนร่างที่งดงามไร้ที่ติเซี่ยซางมองดูจนตะลึงเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงนางจึงรู้สึกตัวจนหน้าแดงเถือก ขณะนี้สวีหมัวมัวเดินเข้ามาหา ในมือสาวใช้มีเสื้อผ้าหลายชุด นางกล่าว “ท่านอ๋อง วันนี้จะสวมชุดใดเพคะ”เซี่ยซางชี้นิ้ว เลือกชุดตัวยาวสีน้ำเงินค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 15

    ข่าวที่ท่านอ๋องจะกลับจวนเป็นเพื่อนพระชายาแพร่สะพัดไปทั้งจวน พ่อบ้านเฉิงรีบไปเลือกของขวัญที่จะนำกลับไปในห้องเก็บสมบัติเซี่ยซางหันมองแวบหนึ่ง หันไปถามเฉิงจง “พวกนี้จะส่งไปที่จวนตระกูลเจียงหรือ?”เฉิงจงตอบ “เรียนท่านอ๋อง ใช่ขอรับ”เซี่ยซางขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นอีก “พิธีกลับจวนสำคัญมากหรือ? ต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่หรือไม่?”“พิธีกลับจวนเป็นพิธีการสุดท้ายในการแต่งงาน มิใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะฝ่ายหญิงจะให้ความสำคัญมาก ส่วนจะสำคัญอย่างไรนั้นเพียงไม่กี่ประโยคคงพูดไม่ชัดเจน ไม่ว่าอย่างไรลูกเขยพาภรรยากลับไปคารวะพ่อตาแม่ยายพร้อมของกำนัล ถือเป็นธรรมเนียม พิธีกลับจวนทำได้ดีหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวแต่งกับคนดีหรือไม่ ได้รับความสำคัญจากลูกเขยหรือไม่ คนทั่วไปให้ความสำคัญมาก ยิ่งครอบครัวร่ำรวยยิ่งจัดให้สมฐานะ ทว่าท่านอ๋องฐานะสูงส่ง ย่อมไม่ต้องคารวะราชครู ท่านอ๋องกลับไปถือเป็นวาสนาของตระกูลนั้น...” พ่อบ้านเฉิงพูดไม่หยุดเซี่ยซางครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นกวาดมองสิ่งที่พ่อบ้านเฉิงเตรียมไว้ “ไปเอาของมาจากห้องเก็บสมบัติอีก”เดิมทีเฉิงจงเลือกมาไม่กี่อย่าง เพื่อทำตามพิธีเท่านั้น ว่ากันตามฐานะของพระชายาไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 16

    เมื่อเห็นบิดามารดาทำความเคารพตัวเอง ดวงตาเจียงเฟิ่งหัวก็แดงเล็กน้อย นางรู้ว่านี่คือมารยาทของราชวงศ์ จึงปล่อยให้พวกเขาทำเซี่ยซางเห็นนางกำลังจะร้องไห้ จึงพูดเสียงขรึม “เจียง...ท่านพ่อตาแม่ยายรีบลุกขึ้นเถอะ”ทุกคนในตระกูลเจียงลุกขึ้น วินาทีต่อมา เห็นเพียงเซี่ยซางยื่นมือไปรับตัวเจียงเฟิ่งหัวจากสาวใช้กะทันหัน แล้วช้อนตัวอุ้มนางขึ้น พร้อมอธิบาย “เมื่อวานตอนเข้าวัง ข้อเท้าพระชายาพลิก ทำให้เดินเหินไม่สะดวก ข้าจึงต้องอุ้มนางเข้าไป”เจียงเฟิ่งหัวเคยคิดว่าเขาจะอุ้มนางลงจากรถ แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะเรียกพ่อแม่นางว่าท่านพ่อตาแม่ยาย ทำให้นางชะงักไปชั่วขณะ เพราะอย่างไรชาติที่แล้ว เขาไม่แม้แต่จะมองพวกท่านด้วยซ้ำ ตระกูลเจียงรุ่งโรจน์เพราะนางอยู่ช่วงหนึ่ง แต่กลับโดนก่นด่าไปตลอดชีวิต คนตระกูลเจียงต้องทนทุกข์ทรมาน ล้วนเป็นเพราะคนที่นางแต่งงานด้วยไม่ชื่นชอบนางได้ยินเพียงเซี่ยซางกล่าวกับเจียงหวย “ท่านพ่อตา มีที่ให้พักผ่อนหรือไม่ เท้าของพระชายาเดินไม่สะดวก”“ไปนั่งที่ห้องรับแขกเถอะ” เจียงหวยมองดูขาของบุตรสาวแวบหนึ่ง รู้สึกกังวลไม่น้อย แต่กลับไม่ได้ล้ำเส้นเข้าไปตรวจดู“ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ท่านอ๋องทำเป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 17

    เจียงเฟิ่งหัวกอดมารดาพลางปลอบโยน “ลูกก็สุขสบายดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ ท่านแม่ร้องไห้อีกแล้ว”“แม่ดีใจมากจริงๆ” เจียงฮูหยินกลั้นน้ำตาไม่อยู่ “หรวนหร่วนได้แต่งกับชายที่ต้องใจ แม่ดีใจมาก”เจียงหรูเมิ่งเองก็ดีใจแทนน้องสาวมาก จึงเอ่ยเสียงต่ำ “เดิมทีข้านึกว่าน้องสามแต่งเข้าจวนเหิงอ๋องจะต้องหายใจใต้จมูกคนอื่น ดูจากตอนนี้ เหิงอ๋องไม่เพียงเก่งกล้าสามารถ ซ้ำยังดูแลเอาใจใส่ ท่านแม่พูดถูก น้องสามได้แต่งกับชายที่พึงใจอย่างแท้จริง”เจียงเฟิ่งหัวก้มหน้าดื่มน้ำแกง พลางแสร้งทำขวยเขิน แล้วแอบคิด พวกนางคงไม่รู้ ชาติที่แล้วนอกจากไม่มีพิธีกลับจวน เซี่ยซางไม่แม้กระทั่งชายตามองนางด้วยซ้ำ เหิงอ๋องสวมชุดแต่งงานสีแดงสดไปรับตัวชายารองเข้าจวน นางถูกเชิญให้มาดื่มน้ำชาในฐานะนายหญิง ทุกคนล้วนตำหนิติเตียนเหยียดหยามนาง นางกลายเป็นที่ขบขันไปทั่วเมืองเซิ่งจิง เมื่อเห็นพวกเขารักใคร่ปรองดอง ในใจนางราวมีเลือดหลั่งรินงานเลี้ยงแบ่งเป็นสองโต๊ะ ชายหญิงคนละหนึ่งโต๊ะ ระหว่างกลางคั่นด้วยฉากกั้นที่ปักลวดลายดอกเหมย ดอกกล้วยไม้ ต้นไผ่ และดอกเบญจมาศ เซี่ยซางนั่งหันหลังตรงข้ามกับเจียงเฟิ่งหัวพอดี เขาได้ยินเสียงสะอื้นของเจียงฮูหยิน จึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 18

    จวนตระกูลซูเมื่อซูถิงหว่านรับทราบข่าวที่เหิงอ๋องกลับตระกูลมารดาพร้อมพระชายาเหิงอ๋อง นางราวกับแข็งทื่อไปทั้งร่าง “ทั้งที่อาซางรับปากข้าแล้ว ทำไมเขาถึงไปจวนตระกูลเจียง ทั้งที่เขาไม่สนใจเจียงเฟิ่งหัว รับปากว่าวันนี้จะมารับข้า...”บนเตียงคือชุดแต่งงานที่นางต้องสวมใส่ เดิมทีชายารองแต่งเข้าจวนใส่ได้แค่สีชมพูเท่านั้น ทว่าเขายืนยันจะให้นางสวมชุดเจ้าสาวที่หรูหราและจัดงานแต่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเซิ่งจิง จึงได้สั่งตัดชุดแต่งงานสีแดงสดด้วยราคาสูงลิ่วสาวใช้อิ๋นซิ่งที่อยู่ข้างกันกล่าวอย่างสงสาร “นี่เป็นครั้งที่สองที่ท่านอ๋องผิดนัด วันนี้เป็นวันที่คุณหนูออกเรือน เหตุใดท่านอ๋องจึงให้องครักษ์มาแจ้งคุณหนูว่าวันนี้มารับตัวคุณหนูไม่ได้ง่ายๆ เช่นนี้เจ้าคะ หากเลื่อนงานแต่งไปก่อน จะเลื่อนถึงวันใดเจ้าคะ? เป็นถึงคุณหนูตระกูลแม่ทัพถูกลดขั้นจากชายาเอกเป็นชายารองก็รันทดมากพอแล้ว ไฉนท่านอ๋องถึงทำกับคุณหนูเช่นนี้ นางเป็นเพียงบุตรสาวของราชครูเท่านั้น จะมาเทียบกับคุณหนูได้อย่างไร”“ไม่ต้องพูดแล้ว ออกไป” นางหันไปตวาดสาวใช้สาวใช้ไม่พูดสิ่งใดอีก เดินออกจากห้องเพียงลำพัง เพื่อแก้แค้นแทนคุณหนู ดังนั้นจึงนำเรื

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 19

    ฮ่องเต้เข้าใจทันที จึงโอบเอวเล็กคอดของนาง แม้อายุของซูชิงชิงจะมากกว่าหวังเหม่ยเหรินมาก แต่นางยังคงเปี่ยมล้นด้วยความรัญจวน ซึ่งมีเสน่ห์แตกต่างกัน...ในไม่ช้า ฮ่องเต้โอบนางมาสู่อ้อมกอด แล้วดื่มด่ำกับความอ่อนโยนอันไร้ขอบเขตหลังเสร็จกิจ ซูชิงชิงแววตาหวานล้ำ นิ้วเรียวยาวถูวนอยู่ตรงแผงอกของฮ่องเต้ “ฝ่าบาทเคยเห็นหวานหว่านมาก่อน นางระหกระเหินไปชายแดนกับบิดามารดาตั้งแต่เด็ก ลำบากตรากตรำมาไม่น้อย หวานหว่านกลับเมืองเซิ่งจิงเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้นางอายุสิบเจ็ดปีแล้ว สมควรต้องแต่งงานออกเรือน หม่อมฉันในฐานะที่เป็นป้า ย่อมต้องใส่ใจเพคะ”ฮ่องเต้แสร้งลืมเรื่องหลายวันก่อนซูกุ้ยเฟยขอพระราชทานสมรสให้เหิงอ๋องและซูถิงหว่าน “บุตรสาวสุดที่รักของแม่ทัพซู เรื่องแต่งงานย่อมต้องให้ความสำคัญ เจ้าถูกใจบุรุษตระกูลใดก็ไปจัดการเถิด!”“ฝ่าบาทเพคะ!” ซูกุ้ยเฟยทำเสียงเง้างอด แล้วเบือนหน้าแสร้งทำโมโห “ฝ่าบาทคงยุ่งจนหลงลืม ไม่ใส่ใจหม่อมฉันแม้แต่น้อย”ภายในวังหลัง หากฮ่องเต้โปรดปรานสนมคนใดมากหน่อย ขุนนางที่เกี่ยวข้องก็จะพลอยมีหน้ามีตาตามไปด้วย นี่คือสัญญาณที่รู้กันโดยไม่ต้องบอก เห็นได้ชัดว่าในใจฮ่องเต้จะโปรดซูกุ้ยเฟยจนเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 20

    อีกด้านหนึ่ง องครักษ์ตระกูลซูเร่งเดินทางไปหน้าประตูสกุลเจียง ประกาศว่าจะพบเหิงอ๋อง อีกทั้งยังต้องนำจดหมายมอบให้กับมือ“เจ้าคือตระกูลซูไหนกัน วันนี้ที่จวนมีงานมงคล นายท่านสั่งไว้แล้วว่าไม่รับแขก” บ่าวเฝ้าประตูพูดจบก็เตรียมปิดประตู“ข้ามาจากจวนแม่ทัพซูทางใต้ของเมือง ข้ามีเรื่องสำคัญจะพบเหิงอ๋อง” องครักษ์ดูโอหังเล็กน้อยบ่าวเฝ้าประตูชื่อเจียงห้วน มาอยู่กับตระกูลเจียงตั้งแต่เด็ก อ่านออกเขียนได้ และไม่ชอบคนโอหังที่สุด อีกทั้งยังมีน้ำโหเล็กน้อย เขารู้ว่าวันนี้คุณหนูสามกลับจวนตามพิธี ใครก็รบกวนไม่ได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังได้ยินอีกฝ่ายบอกว่ามาจากจวนแม่ทัพซูทางใต้ของเมือง นี่เป็นตระกูลที่เขาเคยไปกับพี่เหลียนเย่ไม่ใช่หรือ?ตอนนั้นเขาได้ยินพี่เหลียนเย่บ่นหนึ่งคำ ‘ที่แท้คุณหนูซูเป็นคู่รักของเหิงอ๋องหรือ!’“หรือคุณหนูตระกูลซูส่งจดหมายมาให้เหิงอ๋องหรือ?” เขาเข้าใจทันที พร้อมเอ่ยในใจ “แย่แล้ว...”บ่าวเฝ้าประตูยิ้มให้เขาก่อน แล้วเอ่ยขึ้น “ในเมื่อมาหาท่านอ๋อง เช่นนั้นข้าจะเข้าไปรายงาน โปรดรอสักครู่ จดหมายในมือเจ้าให้ข้านำไปมอบให้หรือไม่?”คุณหนูสั่งไว้จดหมายต้องมอบให้เหิงอ๋องกับมือ เขากล่าว “ไม่จำเ

Bab terbaru

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 302

    แต่หากฮองเฮาทำให้เขาโมโห เขาก็สามารถทอดทิ้งนาง ทรมานนางได้เช่นกันเพราะเขาคือฮ่องเต้ที่สูงส่งเหนือผู้ใด เคยชินกับการมีสตรีคอยเอาอกเอาใจและเชื่อฟังมานานแล้ว ก็แค่นั้นเอง ดังนั้นฮ่องเต้และฮองเฮาจะมีความผูกพันฉันสามีภรรยาได้สักเท่าไรนางรับรู้ได้ถึงความเย็นชาไร้น้ำใจของฮ่องเต้มีเพียงใช้ชีวิตอย่างไร้ใจไร้ไมตรีเท่านั้นจึงจะไม่เจ็บปวดนางคาดการณ์ไว้นานแล้วว่าเส้นทางที่นางต้องเดินก็คือทางสายเก่าของฮองเฮา แต่เส้นทางของนางกับฮองเฮาก็แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง เพราะนางจะกุมหัวใจของเซี่ยซางไว้ให้มั่น แล้วเหยียบซูถิงหว่านกับสกุลซูทั้งตระกูลขึ้นสู่ตำแหน่งหากมีวันหนึ่ง พวกมันได้รู้ว่า ความร่ำรวยหรูหรายศถาบรรดาศักดิ์ที่พวกมันเคยได้เพลิดเพลินในชาติก่อน ถูกตัวนางในชาตินี้ทำลาย ไม่รู้ว่าพวกมันจะสำนึกเสียใจต่อทุกสิ่งที่เคยทำร้ายนางหรือไม่เส้นทางนี้ทั้งยาวนานและยากลำบากอย่างยิ่ง ทว่าขอเพียงนางค่อยๆ วางแผนไปทีละก้าว ก็ไม่มีอุปสรรคใดที่ไม่อาจเอาชนะ นางมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะได้เห็นฉากที่พวกมันก้มกราบศิโรราบอยู่บนพื้นทางด้านนี้ เหล่าองค์ชายกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการแสดงออกถึงความกตัญญูของตน แ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 301

    เซี่ยซางได้ยินนางกล่าวเช่นนั้นจึงไม่บังคับนางอีก ต้าโจวให้ความสำคัญกับจริยธรรมที่สุด การที่นางกตัญญูต่อเสด็จแม่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจยิ่งเพื่อให้เจียงเฟิ่งหัวสบายขึ้นหน่อย เซี่ยซางสั่งให้คนนำเก้าอี้เล็กๆ มาไว้ข้างเตียง ท้องของนางไม่ใหญ่มาก ประกอบกับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำให้ไม่เหนื่อย อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่ล้วนรออยู่ข้างนอก เขาได้สั่งให้คนไปรับคนทั้งสองมาเช่นกัน บัดนี้นางอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ข้างกายไม่อาจไร้คนดูแลกฎระเบียบภายในวังพวกนี้ เขาย่อมไปทูลขอให้เสด็จพ่อทรงอนุโลมเองเขาเห็นทั้งหมดว่า เจียงเฟิ่งหัวดูแลเสด็จแม่อย่างใส่ใจเพียงใด และก็รู้สึกภาคภูมิใจยิ่งที่ได้แต่งกับภรรยาทั้งงามสง่าและมีคุณธรรมเช่นนี้หมอหลวงหวังไปเขียนใบรายการยาและต้มยาด้วยตนเองอีกครั้งรอจนคนจากไป สี่หมัวมัวก็ก้าวออกมาเบื้องหน้าอย่างกะทันหัน จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าเซี่ยซางเพื่อขอรับโทษ“ล้วนต้องโทษบ่าวที่ไม่ได้ดูแลฮองเฮาให้ดี บ่าวมีความผิดเพคะ บ่าวก็เคยเกลี้ยกล่อมให้ฮองเฮาทรงคลายพระทัยแล้ว แต่พระนางตรัสว่ามักทรงรู้สึกผิด…”แววตาของนางดูร้อนใจคล้ายมีคำพูดที่อยากจะกล่าว แต่ก็ราวกับไม่กล้าเล่าสิ่งใดทั้งสิ้น เซี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 300

    เฉิงฮองเฮาลืมตาขึ้นเล็กน้อย ราวกับสติไม่แจ่มใสนัก น้ำเสียงของนางแหบพร่าและอ่อนแรง “ซางเอ๋อร์มาแล้วหรือ แค่กๆ…แม่ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก” กล่าวจบนางก็หลับตาลงอีกครั้ง ราวกับเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าเหลือเกิน และคล้ายกลับหมดสติไปอีกครั้งแล้วดวงตาของเซี่ยซางแดงระเรื่อ เขาคุกเข่าลงข้างเตียง “เป็นลูกอกตัญญู เสด็จแม่ทรงป่วยหนักถึงเพียงนี้ ลูกกลับไม่รู้เลย เสด็จแม่ทรงไม่สบายที่ใดพ่ะย่ะค่ะ ให้หมอหลวงตรวจดูสักหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาส่ายหน้า หางตามีหยดน้ำตาซึมออกมา ในขณะที่สะลึมสะลือนางก็ร้องไม่หยุดว่า “เจ็บ”นางยิ่งเป็นเช่นนี้เซี่ยซางก็ยิ่งปวดใจ ถามว่านางเจ็บที่ใดนางก็บอกได้ไม่ชัดเจนเซี่ยซางสัมผัสหน้าผากของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “เหตุใดจึงได้ร้อนเช่นนี้”เขารีบให้คนตักน้ำมา บิดผ้าเช็ดหน้าวางลงบนหน้าผากของนาง แล้วตวาดใส่นางกำนัลด้วยความโมโหทีหนึ่งว่า “พวกเจ้าดูแลเสด็จแม่อย่างไรกัน”นางกำนัลตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น “หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้เสด็จแม่ทรงดีขึ้นได้อย่างไร หม่อมฉันได้ยินเสด็จแม่ร้องว่าเจ็บ เหตุใดจึงทรงเจ็บ แล้วเจ็

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 299

    “เช้าวันนี้ตอนที่หม่อมฉันจะเข้าวัง ได้ยินพ่อบ้านเฉิงพูดว่าจะจัดเตรียมชุดกันหนาวให้ชายารองซู ดูเหมือนชายารองซูจะเดินทางไกลนะเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวขึ้นมาอีก“นางจะไปที่ใดกัน ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วนางยังคิดจะไปที่ใดอีก” เฉิงฮองเฮากล่าวเสียงหนัก“แม่ทัพน้อยสกุลซูกลับเมืองหลวงแล้ว ชายารองซูน่าจะไปที่จวนสกุลซูเพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูยังพักอยู่ที่นั่นเพคะ”“นางเฒ่านั่นจะกลับชายแดนแล้ว ได้กราบทูลต่อฝ่าบาททราบแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวกล่าวว่า “ชายารองซูคงมิได้คิดจะกลับไปกับฮูหยินผู้เฒ่าซูกระมังเพคะ!”“นางจะไปก็ไปเถอะ ทางที่ดีที่สุดอย่าได้กลับมาอีกตลอดกาลเลย…”นางเพิ่งกล่าวคำพูดนี้จบ เจียงเฟิ่งหัวก็เอ่ยเตือนว่า “ท่านอ๋องก็จะไปชายแดนแล้วเช่นกันเพคะ ชาวหูมีเจตนาจะก่อสงคราม ท่านอ๋องได้ถวายฎีกาขอออกศึกแล้วเพคะ รอได้รับราชโองการก็จะออกเดินทาง” พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เซี่ยซางบอกนาง นางมิได้โป้ปด ส่วนที่เหลือก็รอให้ฮองเฮาไปคาดเดาเอาเอง“ซูถิงหว่านคิดจะตามกองทัพไปทำศึกด้วย ราชสำนักต้าโจวไม่มีธรรมเนียมให้แม่ทัพพาสตรีในครอบครัวไปออกรบด้วยมาก่อน หากซางเอ๋อร์รับราชโองการแล้วนางคอยติดตามอยู่ด้านข้างจริงๆ นางคิ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 298

    เจียงเฟิ่งหัวรู้ถึงสถานการณ์ของสกุลเฉิง ชาติที่แล้วก็เป็นเช่นนี้ ชีวิตของเฉิงฮองเฮาไม่ดี วันเวลาของสกุลเฉิงก็ไม่ดีไปด้วยแม้นางจะเป็นภรรยาเอกของเซี่ยซาง แต่ก็ทำให้สกุลเจียงทั้งตระกูลพลอยเดือดร้อนมีชีวิตอย่างยากลำบากเช่นกัน ดังนั้นนางจึงเข้าใจเฉิงฮองเฮาเป็นอย่างดีแต่เมื่อได้ฟังเฉิงฮองเฮากล่าวกับนางด้วยตนเองเช่นนี้ ความรู้สึกก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างน้อยที่สุด เฉิงฮองเฮาก็เห็นนางสะใภ้ผู้นี้เป็นคนกันเองแล้วหากเฉิงฮองเฮาเต็มใจช่วยนางจัดการกับซูถิงหว่าน นางก็ไม่รังเกียจจะช่วยพูดให้สกุลเฉิงต่อหน้าเซี่ยซางสักประโยคสองประโยคขอเพียงแม่ทัพเฉิงสามารถคว้าโอกาสไว้ได้ การที่พวกเขาคิดจะไต่เต้ายิ่งขึ้นไป ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของสกุลเจียงแต่อย่างใดศัตรูที่พวกเขามีร่วมกันล้วนเป็นสกุลซู เรื่องดีๆ เช่นนี้เหตุใดนางจะไม่ทำเล่าเจียงเฟิ่งหัวยิ้มบางๆ ว่า “ความหมายของเสด็จแม่คือ หากท่านอ๋องจะออกศึก ทรงหวังให้พระองค์นำชนรุ่นหลังของจวนแม่ทัพเฉิงไปด้วยใช่ไหมเพคะ” ได้แต่ช่วยดันคนรุ่นหลังก่อน เพราะในชาติก่อน แม่ทัพเฉิงก็คว้าโอกาสนี้ไว้ไม่ได้ หากเขาไปขอราชโองการอย่างบุ่มบ่าม เกรงว่าจะทำให้ฮ่องเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 297

    วันถัดมา เจียงเฟิ่งหัวเข้าวังแต่เช้าเมื่อฮองเฮาเห็นนางมา ก็จูงมือนางไปนั่งข้างกายอย่างยินดี แล้วถามไถ่อย่างอบอุ่นว่า “ช่วงนี้สุขภาพดีขึ้นหรือยัง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่?”“ทูลเสด็จแม่ ดีขึ้นมากแล้วเพคะ อยากอาหารและรับประทานได้มากขึ้น และไม่อาเจียนแล้วเพคะ” นางตอบอย่างซื่อตรงตามความจริงฮองเฮาเห็นเจียงเฟิ่งหัวท้องได้สี่เดือนแล้วแต่ยังผ่ายผอมถึงเพียงนี้ ดวงหน้าจะยังคงงามพิลาสเหนือปุถุชน แต่หน้าอกอวบอิ่มขึ้นไม่น้อย ดูแล้วยิ่งมีเสน่ห์ บรรยากาศรอบกายให้ความรู้สึกสดใส นางยิ่งมองก็ยิ่งพอใจที่ตอนนั้น ตนเองเลือกสะใภ้ที่งดงามดั่งดอกไม้ น่ารักน่าใคร่เช่นนี้ให้แต่งกับเขานางกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า “หรวนหร่วนต้องกินให้มากหน่อย ตอนนี้เจ้าคนเดียวต้องกินอาหารสำหรับสามคน ดังนั้นอย่าได้ควบคุมปริมาณอาหารเพื่อความงามเด็ดขาด ไม่ว่าอย่างไรเด็กก็สำคัญที่สุด ส่วนรูปร่างนั้นค่อยไปควบคุมภายหลังก็ได้”“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ เสด็จแม่ทรงวางพระทัยเถิด เด็กๆ แข็งแรงมากเพคะ” แม้ปากของเจียงเฟิ่งหัวจะกล่าวอย่างเคารพ ทว่าภายในใจกับกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ นี่ก็เป็นวัตถุประสงค์ที่นางเข้าวังมาในวันนี้เช่นกัน นางกล่าวต่อ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 296

    มุมปากของเซี่ยซางมีรอยยิ้ม “ที่แท้หวานหว่านก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ”“ท่านอ๋องทรงลองชิมดูสิเพคะ อาหารจานนี้เรียกว่าคลื่นมรกต ทั้งเลิศรสและให้ความรู้สึกสดชื่นมากเลยเพคะ”เซี่ยซางหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมไปคำหนึ่ง สดชื่นจริงดั่งว่า รสชาติมีเอกลักษณ์และมีกลิ่นหอม คล้ายรสชาติที่เจียงเฟิ่งหัวชื่นชอบ แต่เพราะตอนนี้นางตั้งครรภ์จึงเปลี่ยนมาชอบทานเนื้อซูถิงหว่านกล่าวต่อว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันมักชอบกินเนื้อ แต่กลับไม่รู้ว่าเนื้อมื้อหนึ่งของหม่อมฉัน หากอยู่ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดา พวกเขาจะกินได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น”“เป็นแบบนั้นจริงๆ ครั้งนี้ข้าไปบรรเทาทุกข์ที่เจียงหนาน ล้วนกล่าวกันว่าเจียงหนานมั่งคั่ง ราษฎรอุดมด้วยเสื้อผ้าอาหาร แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยเสื้อผ้าอาหารมีเพียงผู้สูงศักดิ์ร่ำรวย ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก รวมกับต้องมาประสบอุทกภัยในช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงอีก ชีวิตของความเป็นอยู่ของชาวบ้านก็ยิ่งลำเค็ญ พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดจากฤดูหนาวนี้ให้ได้ ถึงจะรอถึงช่วงเพาะปลูกในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า” เซี่ยซางบรรยายอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง เขาเกือบจะเรียกหรวนหร่วน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 295

    เจียงเฟิ่งหัวมองดูอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ หันไปทางพวกนาง กล่าวอย่างสงบเยือกเย็น “ทุกคนมากินด้วยกันเถอะ อย่าให้เสียของ คืนนี้สวีหมัวมัวต้มน้ำแกงเนื้อแพะ วันหนาว ๆ กินแล้วจะได้อุ่นท้อง”เหลียนเย่โมโหจนปากคว่ำจะโค้งถึงฟ้าแล้ว สายตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง “ท่านอ๋องทรงทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน พระชายาทรงเริ่มเตรียมมาตั้งแต่บ่าย อย่างน้อยเสวยแล้วค่อยไปสิเพคะ!”หงซิ่วกล่าว “เจ้าพูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ อย่างน้อยท่านอ๋องกลับจวนมาแล้วเรื่องแรกที่ทำก็คือนึกถึงพระชายาของเรา” ยิ่งไปกว่านั้นขณะนี้ร่างกายของพระชายาไม่สะดวกปรนนิบัติ ย่อมทำให้พระชายารองซูฉวยโอกาสได้ ความกังวลของสวีหมัวมัวก็มาเยือนจริง ๆ หงซิ่วก็ได้รับการฝึกฝนมาแล้ว หลาย ๆ เรื่องนางมองได้ทะลุปรุโปร่ง ในช่วงที่เรียนกับพ่อบ้านเฉิงนี้ นางก็ได้เรียนรู้มามาก แต่นางมุ่งไปที่การวางแผนเพื่อพระชายามากกว่า ไม่ว่าท่านอ๋องจะมีผู้หญิงสักกี่คน นางก็รู้สึกว่าการได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องภายในของจวนอ๋องนั้นสำคัญกว่าพระชายามีอำนาจในมือ ใครก็รังแกนางไม่ได้โชคดีที่ท่านอ๋องมอบอำนาจทั้งหมดในจวนให้พระชายาแล้ว ส่วนพระชายารองซู นางก็เพียงแค่อยากล่อลวงท่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 294

    “ท่านอ๋องทรงคิดเห็นอย่างไรเพคะ?” เจียงเฟิ่งหัวถาม“ไม่รบย่อมเป็นการดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ว่าหากพวกมันคิดอยากมารนหาที่ตายจริง ๆ ต้าโจ้วก็ไม่กลัวพวกมัน” แววตาเซี่ยซางลุ่มลึก มีความเหี้ยมเกรียมแผ่ออกมา “เสียงจากขุนนางใหญ่ในราชสำนักที่ถวายคำแนะนำให้เจรจาสันติภาพมีมากกว่าเสียงที่สนับสนุนให้เตรียมรับสงคราม พวกผู้เฒ่าเหล่านั้นกลับไม่รู้ว่ายิ่งถอย พวกเผ่าหูยิ่งกำเริบเสิบสาน พวกมันก็จะยิ่งนึกว่าต้าโจวกลัวพวกมัน เรื่องนี้ก็จะไม่มีวันจบสิ้น”เจียงเฟิ่งหัวน้ำเสียงสบาย ๆ ในแววตาเหมือนมีแสงดาวส่องประกาย นางถึงกับดูเหมือนว่าหลงใหลและบูชาเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว ทำให้เซี่ยซางนึกว่าในสายตาและในใจนางมีแต่เขาและเขาเท่านั้น เติมเต็มความรู้สึกชายเป็นใหญ่ของเขานางยิ้มน้อย ๆ กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “หม่อมฉันเชื่อว่าท่านอ๋องต้องปกป้องประชาราษฎรชาวต้าโจวได้อย่างแน่นอนเพคะ หากจะต้องสู้รบคราวนี้จริง ๆ ต้าโจวของเราก็มีโอกาสที่จะชนะ หม่อมฉันสนับสนุนท่านอ๋องอย่างไม่มีเงื่อนไข ต่อให้เลวร้ายที่สุด พวกเราก็ยังมีศาลาการกุศล ช่วงที่ท่านไม่อยู่ พระชายาอ๋องสาวและพระชายาอ๋องรอง อีกทั้งเหล่าสตรีในเมืองหลวง พวกนาง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status