แชร์

บทที่ 113

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ขณะเดียวกัน ณ ตำหนักหลวนเฟิ่ง

ซูกุ้ยเฟยรู้ว่าฮ่องเต้แต่งตั้งองค์หญิงแคว้นเฉาซีเป็นพระสนมหย่าเฟยแล้วก็โกรธสุดขีด นางก็ไม่อยากไปร่วมงานให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะ จึงอ้างว่าไม่สบายเพื่อไม่ไปร่วมงานเลี้ยง

อวิ๋นฟางคุกเข่าลงด้วยความเคารพหน้าซูกุ้ยเฟย “ทูลกุ้ยเฟย จากที่บ่าวแอบสอดส่องอย่างลับ ๆ พยายามค้นหา ในที่สุดก็เจอจุดอ่อนของพระชายาเหิงอ๋องแล้วเพคะ”

ซูกุ้ยเฟยกล่าวเสียงเข้ม “คราวก่อนเจ้าส่งจดหมายบอกข้าให้เกลี้ยกล่อมฝ่าบาทให้เชิญบัณฑิตที่เพียบพร้อมทั้งปัญญาและคุณธรรมจากสำนักศึกษาหลวง เข้าวังมาร่วมงานเลี้ยงรับรองราชทูตจากแคว้นเจาซี เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”

อวิ๋นฟางยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น “กุ้ยเฟย บ่าวค้นพบความลับอย่างหนึ่งของพระชายาเหิงอ๋องเพคะ”

ซูกุ้ยเฟยได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว “เจ้าแน่ใจนะ”

“บ่าวสืบจนแน่ชัดแล้วเพคะ จริงแท้แน่นอน คนผู้นั้นก็ศึกษาอยู่ที่สำนักศึกษาหลวง เป็นศิษย์ของเจียงหวย วันนี้ก็เข้าวังมา ไม่แน่ว่าก่อนที่เจียงเฟิ่งหัวจะแต่งกับเหิงอ๋อง ทั้งสองคนก็รักกันมานานแล้ว”

ซูกุ้ยเฟยจ้องอวิ๋นฟางด้วยแววตาเย็นเยียบ “เจียงเฟิ่งหัวไม่ใช่คนโง่ นางไม่มีทางโง่จนวิ่งเข้าวังมากับผู้ชายคนหนึ่งเพื่อ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 114

    “ลากไปซ่อนในเรือนด้านข้างที่ไม่มีคน แค่นางกำนัลตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง รอให้ซูกุ้ยเฟยถูกเปิดโปง นางก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีแน่”ขณะนี้จุดสำคัญของวังหลวงอยู่ที่ตำหนักหงฝู มีอู๋ซินนำทาง เขาก็นำตัวคนไปซ่อนในตำหนักของซูกุ้ยเฟยโดยที่ไม่มีใครรู้ได้อย่างง่ายดาย......ขณะเดียวกัน ทางนี้ซูถิงหว่านเห็นเจียงเฟิ่งหัวเอาแต่เดินเล่นริมทะเลสาบอย่างไร้จุดหมาย ก็พูดว่า “ที่นี่หนาวเกินไปแล้ว ทุกคนไปกันหมดแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะเพคะ!”“ก็ใช่น่ะสิ ทุกคนไปกันหมดแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ!” ท่าทางอ้อนแอ้นของเจียงเฟิ่งหัวทำให้ซูถิงหว่านรู้สึกสะอิดสะเอียน“พระชายารองอยากไปเดินเล่นที่สวนบุปผชาติไหม?” นางกล่าวในทันใดซูถิงหว่านตาลุกวาว “ได้สิเพคะ ได้ยินว่าดอกไม้ทางนั้นกำลังบานสะพรั่ง หม่อมฉันกำลังอยากไปดูสักหน่อยพอดีเลย”“ข้าก็กำลังอยากไปดูพอดีเหมือนกัน ดอกไม้ในวังบานสะพรั่งหนาแน่นกว่าในจวนเรา” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางเหมือนเป็นคนรักดอกไม้มาก ยื่นมือไปทางซูถิงหว่านอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน “พระชายารองดึงข้าขึ้นไปหน่อยสิ ขั้นบันไดนี่สูงเกินไปแล้ว ข้าก้าวไม่ขึ้น”ซูถิงหว่านตะลึงจนเบิกตากว้าง เจียงเฟิ่งหัวจะบอบบางเพียงไรก็ไม่ต้องท

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 115

    ณ ตำหนักหงฝูเมื่อได้ยินเสียง ‘จับนักฆ่า’ แล้ว ภายในห้องจัดงานที่สงบสุขด้วยเสียงร้องรำทำเพลงก็เกิดความตื่นตระหนกขึ้นในพริบตาเดียว ฮ่องเต้ที่กำลังเมามายก็ตาสว่างทันที องครักษ์ลับทั้งหมดก็ออกมาคุ้มกันอยู่ข้างฮ่องเต้แทบจะในชั่วพริบตาใต้เท้าซางผู้บัญชาการหน่วยราชองครักษ์ทูลรายงานอย่างรวดเร็ว “ทูลฝ่าบาท มีนักฆ่าเข้ามาในวัง กระหม่อมส่งคนไปไล่ล่าแล้ว ขณะนี้นักฆ่าหนีไปทางพระราชฐานชั้นในพ่ะย่ะค่ะ” “ก็ไปตามจับสิ!” ฮ่องเต้ตะคอกด้วยความพิโรธ โกรธเกรี้ยวประดุจฟ้าผ่า “ใครกล้ามาลอบสังหารในวังกัน ไปจับมันมา เราจะทำให้มันแหลกลาญไม่เหลือชิ้นดี”ผู้บัญชาการซางตกอกตกใจจนทั้งตัวสั่นเทา จะเข้าไปพระราชฐานชั้นในย่อมต้องขอพระบรมราชานุญาตจากฮ่องเต้ก่อน ไม่เช่นนั้นไปล่วงเกินเหล่าเจ้านายฝ่ายในเข้า พวกเขาได้หัวหลุดจากบ่ากันถ้วนหน้าแน่ เขารีบขานรับ “พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หันไปพูดกับบรรดาองค์ชายอีกว่า “พวกเจ้านิ่งเป็นสิงโตหินอะไรอยู่ที่นี่ ยังไม่รีบไปดูอีกว่าใครกันมันกล้าบุกเข้ามาในวัง ต้องจับตัวมันให้ได้”พวกเขารับพระบัญชาแล้วออกไป ออกมาจากตำหนังหงฝูแล้ว เซี่ยซางเจอซูถิงหว่านวิ่งหอบแฮ่ก ๆ กลับมา“หวานหว่าน เจ้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 116

    นางเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ตะโกนเรียกว่า “สีเป่า เจ้าอยู่ข้างในหรือเปล่า? เมี๊ยวๆ...เจ้าตอบข้าสักคำสิ!”เสียง “กุกกัก” ดังออกมาจากในตู้อีกครั้งซูกุ้ยเฟยตะโกนเรียกออกไปด้านนอกหนหนึ่ง “จินหมัวมัว เหมยเซียง เซี่ยจู๋…”นางตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีคนเข้ามา“เมี๊ยว!” บุรุษเลียนแบบเสียงแมวร้องขึ้นมาครั้งหนึ่งซูกุ้ยเฟยได้ยินเสียงแมวร้องจึงได้ลดความระวังลง นางเปิดประตูตู้ออก เมื่อเห็นภายในบุรุษร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ผู้หนึ่ง นางก็ตกใจจนตะลึงไปวินาทีถัดมา บุรุษผู้นั้นก็พุ่งออกมากอดรัดนางไว้ “แม่แมวน้อย ที่แท้เจ้าอยู่นี่เอง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะงามเช่นนี้ เล่นสนุกเก่งเช่นนี้ทำเอาข้าทรมานรออยู่นาน ที่แท้ก็คิดจะทำให้ข้าประหลาดใจนี่เอง”ในตอนที่อวิ๋นฟางยั่วยวนเขานั้น สวมผ้าคลุมหน้าอยู่ตลอด เพียงให้เขารู้สึกว่านางเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง แต่กลับไม่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางอย่างชัดเจน กระทั่งนางพาเขาเข้ามาในวังหลวงอันโอ่อ่าหรูหรา เขาจึงได้รู้ว่าที่แท้นางเป็นคนในวัง วันนี้ในวังจัดงานเลี้ยง คนมากมายพลุกพล่านจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเขาถูกตีจนสลบ บนร่างแม้แต่กางเกงชั้นในก็ไม่เหลือ เห็นสตรีที่อยู่เบื้องหน้

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 117

    เมื่อซูกุ้ยเฟยได้ยินเสียงก็ได้สติกลับมาในฉับพลัน นางคิดผลักร่างของเขาออกไปอย่างลนลาน “เจ้าเป็นมือสังหารหรือ?”ฝ่ายชายก็ลนลานทำสิ่งใดไม่ถูกเช่นกัน รีบปฏิเสธว่า “ข้าไม่ใช่มือสังหาร ข้าไม่ใช่มือสังหารจริงๆ ไม่ใช่ว่าพระสนมนำข้าเข้าวังแล้วเอาข้ามาซ่อนไว้ที่นี่หรือ?”ซูกุ้ยเฟยเห็นเขาเหมือนพวกบุรุษหนุ่มที่อาศัยหน้าตาพึ่งพาอิสตรี และบัดนี้ก็มิใช่เวลามาซักไซ้ไล่เลียงว่าเขาเป็นมือสังหารหรือไม่ แต่เป็นกรณีที่ในตำหนักของนางมีบุรุษเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน หากให้คนจับได้ นางคงได้ตายอย่างไร้ที่ฝังนางพูดเสียงเข้มว่า “เจ้าจงซ่อนตัวก่อน”บุรุษผู้นั้นยังจะกล้าคิดเรื่องอื่นอีกได้อย่างไร เขาตื่นตระหนกจนทำสิ่งใดไม่ถูกแล้ว แม้เรื่องนี้จะเพิ่งเริ่มและเพลิงปรารถนาบนร่างของเขายังไม่จางหายไป แต่เขาได้ถูกทำให้ตกใจจนไม่อาจเรียกสติกลับมา“เจ้าลุกขึ้นมาสิ!” ซูกุ้ยเฟยกระซิบเสียงเบา“ข้า…ข้ายืนไม่ขึ้นแล้ว” บุรุษผู้นั้นหวาดหวั่นจนร่างกายสั่นเทา ก่อนหน้านี้มิได้คิดถึงผลที่จะตามมา ถูกตัณหาล่อลวงจิตใจ รู้สึกเพียงว่าน่าตื่นเต้น บัดนี้มาเสียใจก็สายเกินไปเสียแล้วซูกุ้ยเฟยคิดว่านี่เป็นตู้เสื้อผ้าในตำหนักด้านข้าง คนทั้งส

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 118

    ยิ่งซูชิงชิงไม่ยอมให้คนเข้าไป ก็ยิ่งแปลว่าข้างในมีเรื่องผิดปกติ นอกจากนี้ เหล่านางกำนัลและหมัวมัวที่ปรนนิบัติอยู่ในตำหนักนางล้วนไปที่ใดแล้ว ผ่านมาค่อนคืนแล้วจึงยังไม่เห็นคนสี่หมัวมัวอยากช่วยระบายโทสะให้ฮองเฮานานแล้ว เมื่อได้โอกาสย่อมไม่มีทางปล่อยไป นางพาคนบุกเข้าไปทันทีทุกสิ่งภายในล้วนไม่เที่ยง สี่หมัวมัวจึงไปค้นหาบนเตียงอีกครั้ง ทว่าบนเตียงก็ไร้ซึ่งความผิดปกติใด กระทั่งใต้เตียงก็ถูกดูไปแล้วเมื่อเห็นว่านางมุ่งหน้าไปทางห้องข้างของตำหนัก ซูกุ้ยเฟยก็ตะโกนเรียกออกมา “สี่หมัวมัว…”สี่หมัวมัวตกใจจนสะดุ้ง คิดอยากด่านางว่าร่ำร้องอะไรซูกุ้ยเฟยก็พูดต่อว่า “ด้านในซ่อนคนไม่ได้หรอก หากไม่เชื่อหมัวมัวก็เข้าไปดูเถิด”สี่หมัวมัวก็เลิกม่านขึ้นเดินเข้าไปจริงๆ ภายในว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่จริงๆ แต่ว่ากลับมีกลิ่นชนิดหนึ่งอวลอาย ทำให้คนรู้สึกอยากอาเจียนสี่หมัวมัวเปิดตู้เสื้อผ้าออก ภายในไม่มีวี่แววของคน แต่เสื้อผ้าอาภรณ์ในตู้เสื้อผ้ากลับกระจัดกระจายเต็มตู้ไปหมด นางตาแหลมจึงพบชุดบุรุษที่ด้านล่างสุดของตู้เสื้อผ้า กระทั่งยังมีสายรัดเอว รองเท้าและถุงเท้าด้วย เนื่องจากไม่พบตัวคน นางจึงไม่กล้าโหวกเหวกโวย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 119

    บุรุษผู้นั้นหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทา เอาแต่คุกเข่าขอความเมตตา “ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย ข้าถูกใส่ร้าย เป็นนางล่อลวงให้เข้าวังไปที่สวนบุปผชาติ ข้ารออยู่ที่นั่นตลอดกระทั่งฟ้ามืด ข้า…ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ เมื่อครู่ก็เป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เพราะนางต้องการข้าถึงได้ทำให้นาง”คำพูดของชายหนุ่มเต็มไปด้วยถ้อยคำสกปรกหยาบคาย ลืมเลือนสิ่งที่ซูกุ้ยเฟยกำชับเขาไว้ไปจนหมดสิ้นซูกุ้ยเฟยนึกเสียใจ เมื่อครู่ก็ไม่ควรเกลี้ยกล่อมให้เขาออกไปซ่อนด้านนอก แต่ควรฆ่าเขาไปเสียเลยนางดึงดาบของผู้บัญชาการซางออกมาได้ก็หมายจะฟันลงไป แต่กลับถูกคนปัดออกก็เห็นใบหน้าของเซี่ยอวี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตอนนั้นที่ซูกุ้ยเฟยวางแผนให้ร้ายเขา เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสได้แก้แค้นเร็วถึงเพียงนี้ เขากล่าวว่า “คิดไม่ถึงว่าซูกุ้ยเฟยก็มีวันนี้ เรื่องนี้เพียบพร้อมทั้งพยานหลักฐานจริงๆ”เดิมที่เยี่ยนเฟยมิได้มาปรากฏกายในงานเลี้ยง แต่ความเคลื่อนไหวในวังหลังเกิดเรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ นางย่อมต้องมาร่วมสนุกด้วยอยู่แล้วเป็นธรรมดา “ซูกุ้ยเฟยอายุยังน้อย รูปโฉมก็งดงาม ย่อมไม่อาจทนต่อความว้าเหว่เดียวดายในวังหลังได้ กุ้ย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 120

    ซูกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อยู่ในวังหลังมาหลายปี นางไม่มีทางขุดหลุมฝังตัวเองแน่เซี่ยซางได้กลิ่นแผนการร้ายที่อยู่ภายในเขาเหลือบมองซูถิงหว่านอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง กล่าวด้วยเสียงทุ้มหนักว่า “เมื่อครู่เป็นชายารองเชิญพระชายาไปชมดอกไม้ที่สวนบุปผชาติ หวานหว่านเริ่มชอบชมดอกไม้ตั้งแต่เมื่อใดกัน”เขาจำได้ว่า ซูถิงหว่านเคยพูดว่า ไม่ชอบการปลูกดอกไม้ต้นไม้ที่สุด รู้สึกว่ายุ่งยาก หากนางมีเวลามิสู้ไปฝึกซ้อมวิชากระบี่ดีกว่าซูถิงหว่านรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง “หม่อมฉันรู้ว่าพระชายาเป็นผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้ พอรู้ว่าดอกไม้ในสวนบุปผชาติเบ่งบาน จึงคิดไปดูกับนาง อันที่จริงแล้ว หม่อมฉันคิดว่า ในเมื่อตอนนี้แต่งกับท่านอ๋องแล้ว ได้รู้ว่าท่านอ๋องทรงรักใคร่พระชายา จึงคิดเลียนแบบพระชายาไปชอบพวกดอกไม้ต้นไม้บ้าง เพื่อให้ท่านอ๋องทรงโปรดปรานบ้าง ”นางกล่าวเช่นนี้ก็นับว่ามีเหตุผล เนื่องจากเซี่ยซางเย็นชาไม่สนใจนางมาเป็นเวลานานแล้วในเวลานั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาว่า “ฝ่าบาทเสด็จ” ทำให้ทุกคนรีบคุกเข่าลง และส่งร้องขานเสียงดังว่า “ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี”คนทั้งหมดล้วนไม่กล้าลุกขึ้น ยิ่งไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 121

    อสนีบาตผ่าเปรี้ยงลงมากกลางท้องฟ้า จากนั้นก็เป็นพิรุณห่าใหญ่ก็โหมกระหน่ำลงมาอวิ๋นฟางสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ รอบกายมืดมิดไปหมด เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็เห็นกิ่งไม้นอกหน้าต่างไหวเอนไปมาราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังคำราม นางหวาดกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนไปหมดในเวลานั้นเอง ห้องด้านข้างก็มีเสียงที่ทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนดังมา นางมองลอดรอยแยกของประตูออกไป ก็เห็นนางกำนัลและขันทีที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยสองคนกำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่ อวิ๋นฟางไม่รู้สึกประหลาดใจ เรื่องโสมมในวังมีไม่น้อย ชีวิตในส่วนลึกของวังเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว จึงขันทีและนางกำนัลแอบจับคู่กันไม่น้อยการที่นางถูกคนตีจนสลบอยู่ที่นี่ แสดงชัดว่าแผนการรั่วไหลแล้ว ได้แต่รอให้ชายหญิงที่ห้องข้างเสร็จกิจ นางจึงค่อยเคาะกำแพงคนทั้งสองต่างตื่นตระหนก “ผู้ใดกัน”อวิ๋นฟางยื่นศีรษะออกไป บนใบหน้าสวมผ้าคลุมหน้าไว้ ยิ้มให้คนทั้งสอง “ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แต่เรื่องที่พวกเจ้าแอบทำที่นี่ล้วนถูกข้าเห็นจนหมดสิ้นแล้ว นางชื่อชุ่ยฮวา เป็นข้ารับใช้ในตำหนักงานทั่วไป ส่วนเจ้าชื่อซุ่นจื่อ เรื่องเมื่อครู่พวกเจ้าคงทำกันบ่อยกระมัง! หากลือออกไป… ”นางรู้ว่าแม้เรื่องนี้จะพ

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status