Share

บทที่ 116

Penulis: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
นางเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ตะโกนเรียกว่า “สีเป่า เจ้าอยู่ข้างในหรือเปล่า? เมี๊ยวๆ...เจ้าตอบข้าสักคำสิ!”

เสียง “กุกกัก” ดังออกมาจากในตู้อีกครั้ง

ซูกุ้ยเฟยตะโกนเรียกออกไปด้านนอกหนหนึ่ง “จินหมัวมัว เหมยเซียง เซี่ยจู๋…”

นางตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีคนเข้ามา

“เมี๊ยว!” บุรุษเลียนแบบเสียงแมวร้องขึ้นมาครั้งหนึ่ง

ซูกุ้ยเฟยได้ยินเสียงแมวร้องจึงได้ลดความระวังลง นางเปิดประตูตู้ออก เมื่อเห็นภายในบุรุษร่างกายเปลือยเปล่าอยู่ผู้หนึ่ง นางก็ตกใจจนตะลึงไป

วินาทีถัดมา บุรุษผู้นั้นก็พุ่งออกมากอดรัดนางไว้ “แม่แมวน้อย ที่แท้เจ้าอยู่นี่เอง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะงามเช่นนี้ เล่นสนุกเก่งเช่นนี้ทำเอาข้าทรมานรออยู่นาน ที่แท้ก็คิดจะทำให้ข้าประหลาดใจนี่เอง”

ในตอนที่อวิ๋นฟางยั่วยวนเขานั้น สวมผ้าคลุมหน้าอยู่ตลอด เพียงให้เขารู้สึกว่านางเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง แต่กลับไม่เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางอย่างชัดเจน กระทั่งนางพาเขาเข้ามาในวังหลวงอันโอ่อ่าหรูหรา เขาจึงได้รู้ว่าที่แท้นางเป็นคนในวัง วันนี้ในวังจัดงานเลี้ยง คนมากมายพลุกพล่านจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเขา

เขาถูกตีจนสลบ บนร่างแม้แต่กางเกงชั้นในก็ไม่เหลือ เห็นสตรีที่อยู่เบื้องหน้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 117

    เมื่อซูกุ้ยเฟยได้ยินเสียงก็ได้สติกลับมาในฉับพลัน นางคิดผลักร่างของเขาออกไปอย่างลนลาน “เจ้าเป็นมือสังหารหรือ?”ฝ่ายชายก็ลนลานทำสิ่งใดไม่ถูกเช่นกัน รีบปฏิเสธว่า “ข้าไม่ใช่มือสังหาร ข้าไม่ใช่มือสังหารจริงๆ ไม่ใช่ว่าพระสนมนำข้าเข้าวังแล้วเอาข้ามาซ่อนไว้ที่นี่หรือ?”ซูกุ้ยเฟยเห็นเขาเหมือนพวกบุรุษหนุ่มที่อาศัยหน้าตาพึ่งพาอิสตรี และบัดนี้ก็มิใช่เวลามาซักไซ้ไล่เลียงว่าเขาเป็นมือสังหารหรือไม่ แต่เป็นกรณีที่ในตำหนักของนางมีบุรุษเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน หากให้คนจับได้ นางคงได้ตายอย่างไร้ที่ฝังนางพูดเสียงเข้มว่า “เจ้าจงซ่อนตัวก่อน”บุรุษผู้นั้นยังจะกล้าคิดเรื่องอื่นอีกได้อย่างไร เขาตื่นตระหนกจนทำสิ่งใดไม่ถูกแล้ว แม้เรื่องนี้จะเพิ่งเริ่มและเพลิงปรารถนาบนร่างของเขายังไม่จางหายไป แต่เขาได้ถูกทำให้ตกใจจนไม่อาจเรียกสติกลับมา“เจ้าลุกขึ้นมาสิ!” ซูกุ้ยเฟยกระซิบเสียงเบา“ข้า…ข้ายืนไม่ขึ้นแล้ว” บุรุษผู้นั้นหวาดหวั่นจนร่างกายสั่นเทา ก่อนหน้านี้มิได้คิดถึงผลที่จะตามมา ถูกตัณหาล่อลวงจิตใจ รู้สึกเพียงว่าน่าตื่นเต้น บัดนี้มาเสียใจก็สายเกินไปเสียแล้วซูกุ้ยเฟยคิดว่านี่เป็นตู้เสื้อผ้าในตำหนักด้านข้าง คนทั้งส

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 118

    ยิ่งซูชิงชิงไม่ยอมให้คนเข้าไป ก็ยิ่งแปลว่าข้างในมีเรื่องผิดปกติ นอกจากนี้ เหล่านางกำนัลและหมัวมัวที่ปรนนิบัติอยู่ในตำหนักนางล้วนไปที่ใดแล้ว ผ่านมาค่อนคืนแล้วจึงยังไม่เห็นคนสี่หมัวมัวอยากช่วยระบายโทสะให้ฮองเฮานานแล้ว เมื่อได้โอกาสย่อมไม่มีทางปล่อยไป นางพาคนบุกเข้าไปทันทีทุกสิ่งภายในล้วนไม่เที่ยง สี่หมัวมัวจึงไปค้นหาบนเตียงอีกครั้ง ทว่าบนเตียงก็ไร้ซึ่งความผิดปกติใด กระทั่งใต้เตียงก็ถูกดูไปแล้วเมื่อเห็นว่านางมุ่งหน้าไปทางห้องข้างของตำหนัก ซูกุ้ยเฟยก็ตะโกนเรียกออกมา “สี่หมัวมัว…”สี่หมัวมัวตกใจจนสะดุ้ง คิดอยากด่านางว่าร่ำร้องอะไรซูกุ้ยเฟยก็พูดต่อว่า “ด้านในซ่อนคนไม่ได้หรอก หากไม่เชื่อหมัวมัวก็เข้าไปดูเถิด”สี่หมัวมัวก็เลิกม่านขึ้นเดินเข้าไปจริงๆ ภายในว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่จริงๆ แต่ว่ากลับมีกลิ่นชนิดหนึ่งอวลอาย ทำให้คนรู้สึกอยากอาเจียนสี่หมัวมัวเปิดตู้เสื้อผ้าออก ภายในไม่มีวี่แววของคน แต่เสื้อผ้าอาภรณ์ในตู้เสื้อผ้ากลับกระจัดกระจายเต็มตู้ไปหมด นางตาแหลมจึงพบชุดบุรุษที่ด้านล่างสุดของตู้เสื้อผ้า กระทั่งยังมีสายรัดเอว รองเท้าและถุงเท้าด้วย เนื่องจากไม่พบตัวคน นางจึงไม่กล้าโหวกเหวกโวย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 119

    บุรุษผู้นั้นหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทา เอาแต่คุกเข่าขอความเมตตา “ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย ข้าถูกใส่ร้าย เป็นนางล่อลวงให้เข้าวังไปที่สวนบุปผชาติ ข้ารออยู่ที่นั่นตลอดกระทั่งฟ้ามืด ข้า…ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ เมื่อครู่ก็เป็นนางที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เพราะนางต้องการข้าถึงได้ทำให้นาง”คำพูดของชายหนุ่มเต็มไปด้วยถ้อยคำสกปรกหยาบคาย ลืมเลือนสิ่งที่ซูกุ้ยเฟยกำชับเขาไว้ไปจนหมดสิ้นซูกุ้ยเฟยนึกเสียใจ เมื่อครู่ก็ไม่ควรเกลี้ยกล่อมให้เขาออกไปซ่อนด้านนอก แต่ควรฆ่าเขาไปเสียเลยนางดึงดาบของผู้บัญชาการซางออกมาได้ก็หมายจะฟันลงไป แต่กลับถูกคนปัดออกก็เห็นใบหน้าของเซี่ยอวี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตอนนั้นที่ซูกุ้ยเฟยวางแผนให้ร้ายเขา เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีโอกาสได้แก้แค้นเร็วถึงเพียงนี้ เขากล่าวว่า “คิดไม่ถึงว่าซูกุ้ยเฟยก็มีวันนี้ เรื่องนี้เพียบพร้อมทั้งพยานหลักฐานจริงๆ”เดิมที่เยี่ยนเฟยมิได้มาปรากฏกายในงานเลี้ยง แต่ความเคลื่อนไหวในวังหลังเกิดเรื่องใหญ่โตถึงเพียงนี้ นางย่อมต้องมาร่วมสนุกด้วยอยู่แล้วเป็นธรรมดา “ซูกุ้ยเฟยอายุยังน้อย รูปโฉมก็งดงาม ย่อมไม่อาจทนต่อความว้าเหว่เดียวดายในวังหลังได้ กุ้ย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 120

    ซูกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อยู่ในวังหลังมาหลายปี นางไม่มีทางขุดหลุมฝังตัวเองแน่เซี่ยซางได้กลิ่นแผนการร้ายที่อยู่ภายในเขาเหลือบมองซูถิงหว่านอย่างลึกซึ้งทีหนึ่ง กล่าวด้วยเสียงทุ้มหนักว่า “เมื่อครู่เป็นชายารองเชิญพระชายาไปชมดอกไม้ที่สวนบุปผชาติ หวานหว่านเริ่มชอบชมดอกไม้ตั้งแต่เมื่อใดกัน”เขาจำได้ว่า ซูถิงหว่านเคยพูดว่า ไม่ชอบการปลูกดอกไม้ต้นไม้ที่สุด รู้สึกว่ายุ่งยาก หากนางมีเวลามิสู้ไปฝึกซ้อมวิชากระบี่ดีกว่าซูถิงหว่านรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง “หม่อมฉันรู้ว่าพระชายาเป็นผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้ พอรู้ว่าดอกไม้ในสวนบุปผชาติเบ่งบาน จึงคิดไปดูกับนาง อันที่จริงแล้ว หม่อมฉันคิดว่า ในเมื่อตอนนี้แต่งกับท่านอ๋องแล้ว ได้รู้ว่าท่านอ๋องทรงรักใคร่พระชายา จึงคิดเลียนแบบพระชายาไปชอบพวกดอกไม้ต้นไม้บ้าง เพื่อให้ท่านอ๋องทรงโปรดปรานบ้าง ”นางกล่าวเช่นนี้ก็นับว่ามีเหตุผล เนื่องจากเซี่ยซางเย็นชาไม่สนใจนางมาเป็นเวลานานแล้วในเวลานั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาว่า “ฝ่าบาทเสด็จ” ทำให้ทุกคนรีบคุกเข่าลง และส่งร้องขานเสียงดังว่า “ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี”คนทั้งหมดล้วนไม่กล้าลุกขึ้น ยิ่งไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 121

    อสนีบาตผ่าเปรี้ยงลงมากกลางท้องฟ้า จากนั้นก็เป็นพิรุณห่าใหญ่ก็โหมกระหน่ำลงมาอวิ๋นฟางสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ รอบกายมืดมิดไปหมด เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็เห็นกิ่งไม้นอกหน้าต่างไหวเอนไปมาราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังคำราม นางหวาดกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนไปหมดในเวลานั้นเอง ห้องด้านข้างก็มีเสียงที่ทำให้นางรู้สึกสะอิดสะเอียนดังมา นางมองลอดรอยแยกของประตูออกไป ก็เห็นนางกำนัลและขันทีที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยสองคนกำลังทำเรื่องอย่างว่าอยู่ อวิ๋นฟางไม่รู้สึกประหลาดใจ เรื่องโสมมในวังมีไม่น้อย ชีวิตในส่วนลึกของวังเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว จึงขันทีและนางกำนัลแอบจับคู่กันไม่น้อยการที่นางถูกคนตีจนสลบอยู่ที่นี่ แสดงชัดว่าแผนการรั่วไหลแล้ว ได้แต่รอให้ชายหญิงที่ห้องข้างเสร็จกิจ นางจึงค่อยเคาะกำแพงคนทั้งสองต่างตื่นตระหนก “ผู้ใดกัน”อวิ๋นฟางยื่นศีรษะออกไป บนใบหน้าสวมผ้าคลุมหน้าไว้ ยิ้มให้คนทั้งสอง “ข้าเป็นใครไม่สำคัญ แต่เรื่องที่พวกเจ้าแอบทำที่นี่ล้วนถูกข้าเห็นจนหมดสิ้นแล้ว นางชื่อชุ่ยฮวา เป็นข้ารับใช้ในตำหนักงานทั่วไป ส่วนเจ้าชื่อซุ่นจื่อ เรื่องเมื่อครู่พวกเจ้าคงทำกันบ่อยกระมัง! หากลือออกไป… ”นางรู้ว่าแม้เรื่องนี้จะพ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 122

    เซี่ยซางก็คุกเข่าอยู่ท่ามกลางสายฝนเช่นกัน เขาปล่อยให้สายฝนตกกระทบลงบนร่าง ทั่วทั้งร่างของเขาเปียกโชกไปหมดแล้ว ทว่าท้องฟ้าราวกับเกิดรูรั่วก็ไม่ปาน ฝนยิ่งตกยิ่งหนักแล้วเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดแม้แต่คำเดียว ในคืนนี้ไม่ว่าจะเป็นคำให้การของชายผู้นั้นหรือคำแก้ตัวของซูกุ้ยเฟย ล้วนมีพิรุธไปเสียทุกจุด ที่เสด็จพ่อเลือกที่จะอดทนก็เพียงเพื่อรักษาเกียรติยศของราชวงศ์เท่านั้นซูกุ้ยเฟยเป็นสตรีของฮ่องเต้ แต่นางกลับมีสัมพันธ์สวาทกับบุรุษอื่น ไม่ว่าเรื่องนี้จะจริงหรือเท็จล้วนไม่อาจป่าวประกาศจนรู้กันไปทั่วทว่าฮองเฮากลับทรงไปจับชู้ด้วยองค์เอง ทำเอาคนรู้กันไปทั่ว เยี่ยนเฟยกับอวี้อ๋องยิ่งพยายามลงดาบซ้ำเติม ก่อความวุ่นวายให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่อีก องค์ชายสามยิ่งไร้สามารถถึงกระทั่งแค่เดินก็ยังเป็นปัญหา องค์ชายสี่อ่อนแอขี้ขลาดรู้จักแต่ร้องไห้ องค์ชายห้าเพิกเฉยไม่ข้องแวะ รักษาตัวรอด…ฮ่องเต้รู้สึกหนาวเหน็บในใจที่เขามีโอรสมากมาย แต่กลับไม่มีสักคนที่แบกรับงานใหญ่ได้ เหล่าสนมนางในในวังหลังต่างก็แก่งแย่งชิงดี สู้กันจนตายไปข้าง ฮ่องเต้รู้สึกว่าตนเองช่างโดดเดี่ยวเดียวดายจริงๆเรื่องนี้ทำให้ทูตแคว้นเจาซีเห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 123

    ทางด้านนี้ เฉิงฮองเฮาเดินเข้าไปในตำหนักเฉิงเฉียนโดยตรง นางกล่าวเสียงหนักว่า “ข้าต้องการสนทนากับฝ่าบาทเพียงลำพัง หัวหน้าขันทีเฉาออกไปสักครู่เถิด!”ขณะที่หัวหน้าขันทีเฉากำลังลำบากใจ ฮ่องเต้พลันพูดออกมาว่า “เราหิวแล้ว ไปหาของกินมาให้เราสักหน่อย”หัวหน้าขันทีเฉารีบรับคำติดๆ กันทันทีฮองเฮาเดินไปถึงเบื้องหน้าฮ่องเต้ ไม่กล่าวสิ่งใดก็คุกเข่าลงทันที “เรื่องที่เกิดในตำหนักซูชิงชิงไม่ใช่แผนการของหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่มีทางลดตัวไปใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้ไปทำร้ายความบริสุทธิ์ของสตรีนางหนึ่ง เพราะหม่อมฉันก็เคยถูกให้ร้ายมาก่อน รู้ว่าการถูกคนใส่ความว่าคบชู้สู่ชายรสชาติเป็นเช่นใด หลายปีมานี้หม่อมฉันก็อยู่ไม่สู้ตาย มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เท่านั้น”ดวงเนตรที่เย็นชาดุจน้ำแข็งของฮ่องเต้ตวัดมาที่นาง “เจ้ากำลังพูดว่าหลายปีมานี้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดี เจ้าได้ครอบครองตำแหน่งที่สตรีทั่วทั้งใต้หล้าอยากได้ เจ้ายังมีสิ่งใดที่ไม่พอใจอีก”“หม่อมฉันไม่กล้ากล่าวโทษว่าฝ่าบาททรงไม่ดีต่อหม่อมฉัน บัดนี้หม่อมฉันเป็นถึงฮองเฮาของพระองค์แล้ว ยังจะกล้าไม่พอใจอีกได้อย่างไร ฝ่าบาททรงเป็นโอรสสวรรค์ เป็นเสาหลักของราษฎรทั่วทั้งใต้หล้า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 124

    เมื่อออกมาจากวัง เซี่ยซางก็สั่งให้สารถีส่งคนทั้งสองกลับจวน เป็นเจียงเฟิ่งหัวยืนกรานให้คนขับรถม้าตามเขาไป ในเมื่อเรียกขึ้นรถม้าไม่ได้ เช่นนั้นพวกนางก็จะตามไปอย่างเงียบๆเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ฮ่องเต้สงสัยว่าฮองเฮาเป็นผู้กระทำ จึงพาลโมโหเซี่ยซางไปด้วย เจียงเฟิ่งหัวเดาว่าเป็นเพราะเซี่ยซางไม่ได้รับความเชื่อใจจากฮ่องเต้ จึงทำให้เขาตกสู่ภาวะซึมเศร้าจนอารมณ์แปรปรวนนางคิดไม่ถึงว่า เซี่ยซางซึ่งเป็นบุรุษชาติอาชาไนยผู้หนึ่งจะโศกเศร้าถึงเพียงนี้เพียงเพราะไม่ได้รับความไว้วางใจจากบิดา เขาปรารถนาการยอมรับจากฮ่องเต้มาตลอดไม่ผิด ตัวเซี่ยซางในยามนี้ปวดร้าวเป็นอย่างมาก นางมองออกแล้วเจียงเฟิ่งหัวเห็นฝนตกหนักไม่หยุด หากเซี่ยซางยังตากฝนต่อไปเช่นนี้ เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้แม้นางจะรู้ว่าเซี่ยซางไม่มีทางตายด้วยเหตุนี้ แต่เรื่องที่นางต้องการทำยังไม่สำเร็จ และนางก็ไม่ต้องการสามีที่ในอนาคตเอาแต่ป่วยกระเสาะกระแสะเช่นกันทันใดนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้รถม้าหยุด นางหยิบร่มได้ก็กระโดดลงไปเมื่อซูถิงหว่านได้เห็นท่าสาวเท้าที่รวดเร็วดั่งสายลมของนางก็ตะลึงงัน นางจำได้ว่า ทุกครั้งที่เจียงเฟิ่งหัวลงจา

Bab terbaru

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 330

    นางเดินไปที่เบื้องหน้าของหัวหน้ากองหยางและรองผู้ว่าจาง แล้วกล่าวเสียงหนักว่า “ใต้เท้าหยางและใต้เท้าจาง มือสังหารที่มาลอบสังหารข้าล้วนถูกจับหมดแล้ว รบกวนพวกท่านทั้งสองตรวจสอบว่าเป็นผู้ใดบงการให้พวกเขามาลอบสังหารข้า สกุลจางเกิดเพลิงไหม้ ท่านกั๋วกงและฮูหยินล้วนถูกสังหาร ทำให้ผู้คนโศกเศร้ายิ่งนัก ขอใต้เท้าโปรดตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อมอบคำอธิบายให้ท่านกั๋วกงและฮูหยินด้วย”จางอันอวี่ก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเหิงอ๋องเช่นกัน ยามนี้เหิงอ๋องนำทัพไปออกศึก พวกเขาย่อมรักษาเขตเมืองหลวงให้ท่านอ๋องเป็นอย่างดี ใต้เท้าจางกล่าวด้วยความเคารพว่า “พระชายาโปรดวางพระทัย ผู้น้อยจะจัดการอย่างเข้มงวดพ่ะย่ะค่ะ”อ้าวเสวี่ยมาที่เบื้องหน้าของเจียงเฟิ่งหัวอย่างเร่งร้อน “ทูลพระชายา มือสังหารเสียชีวิตหมดแล้วเพคะ เป็นการตายจากพิษกำเริบ หัวหน้าหน่วยเย่อิ่งตรวจสอบแล้วเพคะ พวกมันไม่ใช่มือสังหารแต่เป็นหน่วยกล้าตายเพคะ”“จะพิษกำเริบได้อย่างไร?” จางอันอวี่สงสัยหยางเจิ้งก็กล่าวเสริมอีกประโยค “ฆ่าคนปิดปากน่ะสิ”หัวคิ้วของเจียงเฟิ่งหัวขมวดแน่น นางถามว่า “หน่วยกล้าตายคือสิ่งใด?” เจียงเฟิ่งหัวยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามือสังหารกับ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 329

    สกุลจางเกิดเรื่อง จางอวี่มั่วกับราชครูเจียงและฮูหยินเจียงล้วนพากันมาแล้วในเวลานี้ สกุลจางโกลาหลไปหมด ฤๅสวรรค์คงได้ยินเสียงร้องไห้ครวญคร่ำของจางอวี่มั่วที่ดังสะเทือนเลือนลั่นไปถึงฟ้า จึงได้ส่งสายพิรุณลงมาดับอัคคีภัยครั้งใหญ่ของจวนสกุลจางสุดท้าย ฮูหยินผู้เฒ่าสกุลจางก็รอเจอหน้าจางอวี่มั่วเป็นครั้งสุดท้ายไม่ไหว เจียงเฟิ่งหัวยังจำได้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าฝืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายกุมมือนางไว้ “สาวน้อย บอกมั่วเอ๋อร์อย่าได้เสียใจ ปกป้องนางด้วย ขอบคุณ…”จางอวี่มั่วมองศพของสองผู้เฒ่าสกุลจาง นางร้องไห้จนสลบไปแล้ว เจียงฮูหยินรีบตระกองนางไว้ในอ้อมแขนสกุลจางเกิดคดีฆาตกรรม คนของเขตเมืองหลวงและกองกำลังรักษาความปลอดภัยนครบาลล้วนมากันหมด เมื่อจับตัวฮูหยินรองสกุลจางได้นางก็มิได้ตื่นตระหนก แต่สารภาพทันทีว่านางเป็นผู้วางเพลิง และเหตุผลก็เป็นเพราะสกุลจางหย่าขาดนางเมื่อเจียงเฟิ่งหัวเห็นสภาพที่อันน่าอนาถภายใน นางก็โมโหจนแทบเสียสติ แต่นางรู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าใครก็สามารถไร้สติได้ มีเพียงนางที่ไม่ได้ เพราะคนร้ายตัวจริงที่ชักนำและบงการให้เกิดโศกนาฏกรรมในครั้งนี้กำลังคุกเข่าอยู่ในลาน นางจะส่งมันไปลงนรกอเวจีขุมที่สิบแ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 328

    เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมิใช่เจียงเฟิ่งหัว เมื่อเข้ามาใกล้แล้วเห็นหน้านางชัดเขาถึงได้รู้ว่านางเป็นใคร ผู้ดูแลหลินของหอเซียงหย่า สตรีที่ทั้งมากรักและไม่สำรวม นางถึงกับเป็นวรยุทธ์เขาไม่คาดว่า ด้วยความสัมพันธ์ของนางกับสกุลจาง ทั้งที่สกุลจางเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้และเจียงเฟิ่งหัวก็มาถึงสกุลจางแล้ว นางยังจะหาคนมาปลอมแปลงเป็นนางได้อีกเรื่องราวถูกเปิดโปง จีเฉินอดทนต่อความเจ็บปวดที่มือคิดจะฉวยโอกาสหนีไปในความวุ่นวาย แต่หลินอวี่จะมอบโอกาสให้เขาได้อย่างไร จึงถีบหลังของเขาจนล้มหน้าคะมำจีเฉินสวมหมวกปิดบังใบหน้าไปกว่าครึ่ง ฟ้าก็มืดแล้วหลินอวี่จึงจำหน้าเขาไม่ได้ นางกล่าวว่า “ให้มารดาดูหน่อยเถอะว่าเป็นเศษสวะตัวใดที่คิดทำร้ายคนกัน”จีเฉินที่นอนหมอบอยู่บนพื้นพลิกมือคิดจะจับมือของหลินอวี่ไว้ ทว่าอ้าวเสวี่ยที่เหินกายมาอย่างกะทันหันเหยียบตัวเขาไว้ ประกายดาบในมือตวัดขึ้น ครั้งก่อนนางก็คิดจะจัดการมันแล้ว แต่ปล่อยให้มันหนีไปได้ทว่าเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยห้าม “อ้าวเสวี่ย รอก่อน” หากเขาวางเพลิงเผาจวนสกุลจาง จนเป็นเหตุให้จางกั๋วกงและฮูหยินของจางกั๋วกงเสียชีวิตจริงๆ เขายังต้องมอบคำชี้แจงให้สกุลจาง กระทั่งยั

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 327

    นางหันไปถามอ้าวเสวี่ยอีกครั้งว่า “เจ้าสามารถติดต่อองครักษ์คนอื่นของจวนอ๋องได้หรือไม่?” ตอนที่เซี่ยซางจากไป ได้ทิ้งคนไว้ให้นาง เพียงแต่นางอยู่ในวังมาตลอดจึงไม่ได้พบอ้าวเสวี่ยควักพลุสัญญาณชิ้นหนึ่งจากร่างโยนขึ้นไปบนฟ้า “เรียบร้อยแล้วเพคะ เมื่อพวกเขาเห็นสัญญาณก็จะตามมาเพคะ”รถม้าเพิ่งไปถึงหน้าจวนสกุลจาง ที่นี่ถูกชาวบ้านที่มาชมดูความวุ่นวายล้อมไว้จนแน่นขนัดไปหมด เมื่อเจียงเฟิ่งหัวเลิกม่านรถขึ้นมองออกไปด้านนอก สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกตระหนกนัก สกุลจางเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ และเพลิงยังรุนแรงยิ่งด้วยนางจะมุดออกมาจากตัวรถแต่ถูกหลินอวี่ขวางไว้ “ครรภ์ของพระองค์ไม่สะดวกโปรดอย่าลงจากรถเลยเพคะ คนเยอะเกินไปหม่อมฉันเกรงว่าพระองค์จะถูกเบียด หม่อมฉันจะไปดูเองว่าที่แท้เกิดสิ่งใด กลับมาทูลแล้วค่อยทรงตัดสินใจก็ได้เพคะ”เจียงเฟิ่งหัวก็กังวลในเรื่องนี้เช่นกัน จึงพยักหน้า “ระวังหน่อย ให้ผู้คุ้มกันตามไปด้วยล่ะ”ผ่านไปครู่หนึ่ง หลินอวี่ก็วิ่งหอบกลับมา “ได้ยินว่าไฟเริ่มไหม้มาจากเรือนของจางกั๋วกงเพคะ คฤหาสน์ของสกุลกว่าครึ่งถูกไหม้หมดแล้ว สกุลจางยังจับคนร้ายได้อีกด้วย เป็นฮูหยินรองของสกุลจางนั่นเองเพคะ”“จาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 326

    เหลียนเย่กล่าวว่า “บ่าวก็คิดถึงอาหารของหอเซียงหย่าแล้วเช่นกันคะ”เจียงเฟิ่งหัวยิ้มน้อยๆ ว่า “อย่างนั้นก็ต้องให้ผู้ดูแลหลินสิ้นเปลืองแล้ว”เมื่อกินข้าวเสร็จและออกมาจากร้านอาหารฟ้าก็มืดแล้ว รถม้าของจวนอ๋องก็มาจอดอยู่หน้าร้านอาหารนานแล้วเช่นกัน อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ บนท้องถนนก็ไม่มีผู้คนนักหลินอวี่กล่าวว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว หม่อมฉันจะส่งพวกพระองค์กลับไป และให้ผู้คุ้มกันของหอตามไปด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวออกจากวังมาก็ตรงไปที่ศาลาการกุศลเลย นอกจากคนขับรถม้าของจวนอ๋อง ก็ไม่ได้พาองครักษ์อื่นมาอีก หลินอวี่จะส่งนาง นางจึงมิได้ปฏิเสธคนทั้งหลายสนทนาไปหัวเราะไปขณะขึ้นรถม้า เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่า ที่ด้านหลังมีสายตาที่มืดหม่นและเยียบเย็นคู่หนึ่งกำลังจับจ้องอยู่ตลอด มุมปากของมันแสยะเป็นรอยยิ้มน่าเกลียด มั่นใจว่าครั้งนี้จะต้องวางแผนซ้อนแผนต่อเจียงเฟิ่งหัวได้แน่เพราะสายสัมพันธ์กับซูเซวี่ยน หลี่เฉิงกับจีเฉินจึงมารวมตัวกันอีกครั้ง พวกเขาเจ็บแล้วไม่จำ คิดเพียงจะแก้แค้นที่ถูกคนวางกับดักที่สกุลจางในวันนั้น แม้จีเฉินจะไม่มีหลักฐาน แต่สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือ นี่เป็นฝีมือของเจียงเฟิ่งหัวจางอวี่มั่วแต่งงาน

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 325

    เจียงเฟิ่งหัวมอบหมายเรื่องนอกวังให้พระชายาอวี้อ๋อง อีกทั้งให้หงซิ่วไปแจ้งหลินอวี่ให้แอบช่วยพระชายาอวี้อ๋อง แล้วก็เตรียมตัวกลับวังเพิ่งถึงครึ่งทาง รถม้าของเจียงเฟิ่งหัวก็ถูกขวางทาง หลินอวี่ปรากฏตัวตรงหน้านาง กะพริบตาโต ๆ ใส่นาง “พระชายาในเมื่อออกมานอกวังแล้ว ก็ไม่เห็นบอกว่าจะไปเยี่ยมหม่อมฉันสักหน่อยเลยนะเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวยิ้มพลางกล่าวว่า “ไม่ได้พบกันนาน ผู้ดูแลหลินขึ้นรถสิ!”หลินอวี่ขึ้นรถม้าอย่างง่ายดาย แทรกตัวเข้าไปนั่งลงข้างเจียงเฟิ่งหัว เหลียนเย่กับอ้าวเสวี่ยก็นั่งอยู่ในรถม้า โชคดีที่รถม้าใหญ่พอ นั่งสี่คนก็ยังไม่รู้สึกว่าเบียดพวกนางไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือนแล้ว เพราะเรื่องกิจการ หลินอวี่ต้องออกเดินทางไกลไปเที่ยวหนึ่งถึงได้กลับมา นางมองไปทางอ้าวเสวี่ย รู้ว่านางน่าจะเป็นองครักษ์หญิงที่เหิงอ๋องส่งมาอารักขาข้างกายพระชายา หน้าตาดูสงบเสงี่ยมงดงามพอตัวที่จริงแล้วอ้าวเสวี่ยอายุมากกว่าหลินอวี่หนึ่งปีอีกด้วย แต่ว่าหลินอวี่เติบโตมาในหอนางโลมตั้งแต่เด็ก และยังประกอบกิจการมาตั้งหลายปี กระทำการใด ๆ จึงชำชาญมากกว่าพอสมควร แต่งตัวก็ยิ่งค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่นางกล่าวอย่างสนิทชิดเชื้อ “น้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 324

    นางเล่าเรื่องทั้งหมดให้ถานหว่านชิงฟัง โชคดีที่พวกนางเตรียมการไว้นานแล้ว สำหรับศาลาการกุศลแล้ว เรื่องนี้ดำเนินการไม่ยากเลย ราชสำนักยังจะให้เงินพวกเขาอีกด้วย เพียงไม่นานศาลาการกุศลก็จะได้เงินก้อนใหญ่มา เมื่อทุกคนมีเงิน ฤดูหนาวนี้ก็ไม่ลำบากแล้วหารือธุระเสร็จ เจียงเฟิ่งหัวพาพระชายาอวี้อ๋องออกไปจากห้องโถงใหญ่ เจอเย่ซู่ซู่หอบตะกร้าสมุนไพรทำยาเดินผ่านมาพอดีเย่ซู่ซู่ก็เห็นเจียงเฟิ่งหัว นางถวายคำนับหนึ่งครั้งอย่างเคารพนบนอบ “หม่อมฉันถวายพระพรพระชายาเหิงอ๋องเพคะ”ตอนแรกนางสามารถเข้าไปอยู่ในจวนเหิงอ๋องได้ แต่กลับถูกหลินเฟิงพามาที่นี่ นางก็พูดอะไรไม่ได้ รู้ว่าศาลาการกุศลบริหารจัดการโดยจวนเหิงอ๋อง นางอาศัยอยู่ที่นี่อย่างไรก็ต้องได้พบท่านเหิงอ๋องอีก แต่ว่าเหิงอ๋องจะต้องไปรบอีกแล้ว นางก็คิดอยากไปจากศาลาการกุศลแล้วเจียงเฟิ่งหัวมองปราดเดียวก็ดูออกว่านางมีความคิดอยากมักใหญ่ใฝ่สูงจะเข้าหาผู้สูงศักดิ์ ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ถามด้วยความเป็นห่วง “แม่นางเย่อยู่ที่ศาลาการกุศลพอปรับตัวได้ไหม?”“ขอบพระทัยพระชายาที่ทรงเป็นห่วงเพคะ หม่อมฉันอยู่ได้สบายดีเพคะ ได้มีที่ซุกหัวนอนก็ถือเป็นความโชคดีของห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 323

    เจียงเฟิ่งหัวตะลึงงัน สิ่งที่พูดมานี้ก็พูดถูกแล้ว ก็เพราะทุกคนล้วนรู้สึกว่าแต่งเข้าเป็นเชื้อพระวงศ์แล้วไม่เพียงแต่ร่ำรวยอู้ฟู่ ยังฐานะสูงส่งอีกด้วย ยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องกินอยู่ เพราะฉะนั้นทุกคนต่างทำใจสละตำแหน่งไม่ได้นางกลับมาเกิดใหม่อีกชาติหนึ่ง มุ่งปรารถนาสิ่งใดกันเล่า ก็ไม่พ้นยศถาบรรดาศักดิ์นั้นที่สูงส่งเหนือใคร ๆเจียงเฟิ่งหัวกล่าวเรียบ ๆ “แล้วแต่ท่านเถิด แต่หากท่านไม่สามารถปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทำร้ายได้ ได้แต่อดทนยอมให้คนอื่นตลอดเวลาเท่านั้นเพื่อรักษาตำแหน่งพระชายาของท่านไว้ ข้าคิดว่าอย่างไรก็ไม่สมควรทำ ต่อให้แต่งกับท่านอ๋อง สุดท้ายคนที่ถูกทำร้ายได้รับความลำเค็ญก็คือตัวท่านเองอยู่ดี ได้ตำแหน่งพระชายาอ๋องมาแล้วมีความหมายอะไร”“แต่ข้าทำอะไรได้บ้างเล่า พวกผู้หญิงเราทำอะไรได้ เกิดอะไรนิดเดียวพวกเขาก็เอาเรื่องหย่ามาขู่แล้ว ไหนเลยจะเว้นหนทางรอดไว้ให้ผู้หญิงอย่างเรา” พระชายาอวี้อ๋องทอดถอนใจ “บอกเจ้าตรง ๆ ก็แล้วกัน หลายปีมานี้ที่ข้าได้ยินมาบ่อยที่สุดก็คือให้กำเนิดบุตรไม่ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกไม่ได้ แต่งกับใครก็ถูกคนชี้หน้าด่าอยู่ดีมิใช่หรือ แต่งกับท่านอ๋องดีกว่า อย่างน้อยมีฐานะสูงส่

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 322

    “เยี่ยนเฟยทรงระวังคำพูดหน่อยจะดีกว่านะเพคะ! ทุกคนล้วนเป็นสตรีทั้งนั้น นางทั้งเป็นหลานสาวท่านและยังเป็นลูกสะใภ้ท่านอีกด้วย เหตุใดเยี่ยนเฟยจึงต้องทำให้นางต้องลำบากใจถึงเพียงนี้เล่า”“คนที่ข้าพูดถึงคือลูกสะใภ้ข้า แล้วเกี่ยวอะไรกับพระชายาเหิงอ๋องด้วย ฮองเฮาประชวร พระองค์มีลูกสะใภ้สองคนดูแลรับใช้อยู่ข้างพระวรกาย พอข้าป่วยแล้วข้าให้ลูกสะใภ้ข้าเข้าวังมารับใช้บ้างไม่ได้หรือไร? เป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้เหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดจึงมีความแตกต่างเช่นนี้ หรือว่าข้าไม่ใช่แม่สามีเช่นนั้นหรือ” เยี่ยนเฟยไปสืบข่าวมาตั้งนานแล้ว ฮองเฮาก็ใช้งานพระชายารองซูไม่น้อยเหมือนกัน นางก็เพียงแค่เลียนแบบตามตัวอย่างที่มีเท่านั้นเจียงเฟิ่งหัวยังไม่เคยเจอคนที่ไร้สมองเช่นนี้ นางรู้สึกว่าเยี่ยนเฟยป่วยจริง ๆ แต่นางป่วยทางจิต“ขอเชิญพระชายาอวี้อ๋องมารับพระราชโองการเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเสียงเข้ม “ข้านำพระราชกระแสรับสั่งจากฝ่าบาทมา หากเยี่ยนเฟยทำให้ธุระสำคัญของเสด็จพ่อล่าช้า เกรงว่ามีแต่จะต้องไปพำนักอยู่ที่ตำหนักเย็นเสียแล้ว”เยี่ยนเฟยดูท่าทางนางแล้วไม่ได้พูดโกหก แม้ว่าโกรธแต่ก็ไม่กล้าพูดมากอีกต่อไป แต่ว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงทรง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status