Share

งานเทศกาล

last update Last Updated: 2024-12-08 12:39:40

1

งานเทศกาล

แสงสุริยาในฤดูคิมหันต์ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าจนไม่อาจฝืนมองสู้แสงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเหลียงฟางหรูก็ยังคงยืนรออยู่ที่ลานข้างต้นบ๊วยต้นใหญ่ตามคำบอกกล่าวของน้องสาวต่างมารดา กำชับนางไว้เมื่อวานหากอยากไปด้วยก็ย่อมต้องรอ รอนานเท่าใดมิอาจจำได้ทว่าบัดนี้ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินแล้วแต่ทั้งสองก็ยังไม่มา ยามเซินสองเค่อแม่รองและน้องสาวจึงปรากฎตัวให้เห็น

สตรีทั้งสองสวมชุดใหม่งดงามท่อนล่างเองก็คงเป็นชุดที่ถูกตัดมาใหม่ ต่างกับนางนักที่ไม่ว่าจะท่อนบนหรือท่อนล่างล้วนเป็นชุดเก่าของมารดาทั้ง เหลียงฟางหรูไม่ใช่ผู้คิดมากจึงมิได้ถือสาริษยาใด ๆ

เห็นถีเยว่สือเดินนำน้องสาวมาก่อน “คารวะท่านแม่รอง” หญิงสาวยอบกายลงเมื่อเห็นภรรยาของบิดาเดินมา พลางยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ ท่าทางอ่อนหวานอ่อนโยน เหลียงฟางหรูเป็นเด็กสาวหัวอ่อน จิตใจดี ไม่ชอบมีเรื่องกับผู้ใดจึงมักยอมคนอยู่เสมอ ถีเยว่สือขยับริมฝีปากคว่ำลงเล็กน้อยจากนั้นจึงปล่อยมันกลับไปเป็นขีดเรียบ ๆ เช่นเดิม แม้ไม่ชอบใจเหลียงฟางหรูเท่าใดแต่ก็มีเหตุผลที่ไม่อาจแสดงท่าทีรังเกียจนางได้ในตอนนี้

“พี่ฟางหรูรอนานหรือไม่” เหลียงฟางหรงผู้เป็นน้องเอ่ยถามพลางไล่มองการแต่งกายผู้เป็นพี่สาว เหลียงฟางหรงเป็นบุตรสาวสุดที่รักของถีเยว่สือนอกจากมารดารักใคร่ตามใจ แม้แต่บิดาก็เอ็นดูนางมากเช่นกัน ทั่วใบหน้าขาวถูกแต่งแต้มเครื่องประทินผิวชั้นดี

สิ่งใดที่คุณหนูสกุลใหญ่มี น้องสาวนางล้วนมีทุกสิ่ง เหลียงฟางหรงเหลือบดวงตาประกายมองสำรวจเรือนร่างพี่สาว เห็นว่านางแต่งกายด้วยอาภรณ์เก่า ๆ ของมารดาที่ล่วงลับก็นึกขันขึ้นมา ชุดสีขาวซีดท่อนล่างเป็นกระโปรงสีเขียวอ่อนดูก็รู้ว่ามันเก่ามากเพียงใด เหลียงฟางหรูไม่มีเงิน ไม่มีอาภรณ์ใหม่ให้สวมใส่ทำได้เพียงนำของ ๆ มารดามาใส่เท่านั้น

ประกายความไม่พอใจในดวงตาน้องสาวพลันหายไปรวดเร็วเมื่อเหลียงฟางหรูสบเข้า กระทั่งอยู่ในชุดเก่า ๆ เช่นนี้ยังมิอาจกลบรัศมีความงดงามของหญิงสาวได้เลย เพราะเหตุนี้เหลียงฟางหรงที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ

ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นที่หนึ่ง จึงไม่พอใจพี่สาวต่างมารดาอยู่เสมอ...

“พี่เองก็มาได้ไม่นาน” เหลียงฟางหรูไม่เคยรับรู้จิตใจของบรรดาผู้คนในจวนนี้ เพราะนางมองทุกสิ่งด้วยหัวใจที่อบอุ่นและความดีงาม ความชั่วร้ายเลวทรามที่ถูกปกปิดจึงมิอาจมองเห็น นางตอบน้องสาวต่างมารดาด้วยรอยยิ้มใสซื่อ ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดของแม่รองรอยยิ้มใสซื่อแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแห่งความรู้สึกผิด

“เจ้าไม่มีเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้แล้วหรือ” นางคงทำให้แม่รองอับอายไม่น้อย หากสวมชุดเช่นนี้ออกไป แม้เป็นเช่นนั้นนางก็ไม่อาจทำสิ่งใดให้ดีกว่านี้ได้ ใบหน้าเรียวเล็กเริ่มมีเหงื่อซึมบ่งบอกว่านางคงรอที่นี่มานานแล้ว สองแม่ลูกหาได้สนใจเม็ดเหงื่อเม็ดโตตรงกรอบหน้าของเหลียงฟางหรู หญิงสาวประสานมือยอบตัวลงอีกครั้งขออภัยสตรีที่เริ่มสูงวัยตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด พลางกล่าวว่า “ขออภัยแม่รอง ฟางหรูไม่มีผ้าใหม่จึงได้แต่นำชุดของมารดามาสวมใส่”

“ช่างเถอะ สวมใส่ผ้าดีก็มิได้แปลว่าเป็นผู้ดี” ใบหน้าที่เริ่มมีริ้วรอยสะบัดเชิดไปอีกทาง ทั้งที่เหลียงฟางหรูกำลังคำนับนางอยู่ ใบหน้างดงามเจือนลงถนัดตา รับรู้ได้ว่าแม่รองไม่พอใจสิ่งที่นางกระทำ จึงไม่เอ่ยสิ่งได้ขึ้นมาให้ถีเยว่สือรำคาญใจอีก นางชินเสียแล้วกับการต้องใช้ชีวิตด้วยการสังเกตสีหน้าผู้อื่นเช่นนี้ หญิงมีอายุหันไปแตะแขนเรียวเร่งบุตรสาวให้ออกจากจวน เกรงว่าหากนานกว่านี้จะไม่ทันกาลเสียเปล่า

“อย่างนั้นไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันงาน”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” หญิงสาวทั้งสองยอบกายรับคำแล้วเดินตามถีเยว่สือออกจากจวนไป นางเดินนำดรุณีน้อยทั้งสองไปหน้าจวนพอถึงหน้าจวนก็เร่งพากันขึ้นรถเทียมม้าไปยังถนนฟูหลิง ถนนฟูหลิงเป็นตลาดฝั่งบูรพาที่คึกครื้นที่สุดในเมือง ไม่ว่าจะมีงานเทศกาลใด ที่นี่ก็มีผู้คนพลุกพล่านเสมอหากไม่อยู่ด้วยกันตลอดเกรงว่าคงพลัดหลงกันได้ง่าย

แต่เหลียงฟางหรูไม่ได้รับรู้เรื่องนั้น...

สองข้างทางประดับโคมไฟตัวอ้วนสีแดงมากมาย ด้านในมีเปลวไฟจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง แคว้นจิ้งไม่มีข้อห้ามสตรีออกนอกจวนหลังยามโหย่ว จึงไม่แปลกหากแถบตลาดบนถนนฟูหลิงจะมีสตรีมากมายเดินเที่ยวเตร่กันอยู่มากมาย

สตรีมากมายแต่งกายด้วยชุดสีสันงดงาม ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องประทิน ชาดแดง แต่ละคนแขวนถุงหอมกลิ่นหอมฟุ้ง เป็นภาพที่นางมิเคยแม้แต่จะจินตนาการถึงเลย

ช่างครึกครื้นยิ่งนัก...เหลียงฟางหรูไม่เคยพบเห็นเทศกาลอย่างนี้ ค่อนข้างตื่นเต้นเหลียวซ้ายทีแลขวาทีดวงตาสุกใสราวกับดวงดาวยามฟ้าโปร่ง แม้จะตื้นเต้นนางก็ยังคงรักษามารยาทที่ถูกสั่งสอนเอาไว้

ดวงตาพิสุทธิ์วาววาบเมื่อเหลียวมองไปยังผู้คนบนถนน ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มบาง นอกจวนเป็นเช่นนี้เอง สายตานางจดจ้องไปยังร้านเครื่องประทินผิว ถัดมาเป็นร้านเครื่องประดับ นอกร้านตกแต่งหรูหราโอ่อ่า แปลกตาเป็นที่สุด

กล่าวว่านางเป็นดั่งชาวบ้านชนบทเพิ่งเข้าเมืองก็ไม่ถือว่าเกินไป แต่ท่าทีนางน่ามองยิ่งนักสำหรับเงาสูงโปร่งบนชั้นสองของโรงน้ำชาฝั่งเดียวกับโรงเตี้ยมใหญ่...

หลังผ่านร้านเครื่องประดับมาเพียงหนึ่งถ้วยชาก็ถึงโรงเตี้ยมที่ซึ่งจัดงานเย็บปัก โรงเตี้ยมเหอชงแห่งนี้จัดงานแข่งเย็บปักมาเกือบเจ็ดปีแล้ว และงานนี้ก็ใหญ่ขึ้นทุกที

แคว้นจิ้งมีผู้คนมาเที่ยวชมมากขึ้นทุกปี เช่นนี้แคว้นจิ้งจึงมีผู้คนเข้าออกมากที่สุดในเจ็ดแคว้นแห่งแผ่นดินต้าอัน สตรีในแคว้นจิ้งออกจากบ้านเรือนตนเองมาก็ล้วนเป็นเพราะสิ่งนี้ รถเทียมม้าหยุดลงก่อนถึงโรงเตี้ยมสามเชียะ ม่านถูกแหวกออกด้วยมือเล็กของเหลียงเซียวสาวใช้คนสนิทของเหลียงฟางหรง เหลียงฟางหรงวางมือบนฝ่ามือของสาวใช้ก้าวลงจากบันไดรถเทียมม้าแช่มช้า ดวงตาเรียวเล็กชะม้ายมองไปด้านหน้าแล้วหลุบลงอย่างเอียงอาย ถีเยว่สือสอนมารยาหญิงให้นางมากมายและนางก็จดจำมันได้เป็นอย่างดี ราวกับถูกส่งผ่านสายเลือดมา เหลียงฟางหรูลงจากรถเป็นคนสุดท้ายโดยไม่มีผู้ใดช่วยเหลือ พอลงมาก็รีบเดินตามไปเร็วรี่

ที่นี่ผู้คนมากมายเดินกันพลุกพล่านไปหมด เหลียงฟางหรูรีบเดินประชิดตัวน้องสาวต่างมารดา กลัวตนเองจะพลัดหลง เหลียงฟางหรงรับรู้ความคิดนั้นจึงเหยียดยิ้มให้กับท่าทางเหลียงฟางหรู นางพอใจเมื่อเห็นว่าพี่สาวต่างมารดาระแวดระวังกังวลเช่นนี้ มันทำให้คิดได้ว่าหากพลัดหลงไป นางคงไม่อาจกลับจวนเองได้...

ขอแค่นางไม่กลับจวนในวันนี้ ไม่ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นก็ย่อมต้องข่าวเล่าข่าวลือไปไกลเป็นแน่

“คารวะเหลียงฮูหยิน” ผู้ดูแลโรงเตี้ยมรีบประสานมือค้อมคำนับผู้ที่เพิ่งเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดทำการค้าในถนนฟูหลิงตลาดฝั่งบูรพาก็ล้วนต้องรู้จักฮูหยินของเหลียงซ่างซู ถีเยว่สือขยับมุมปากขึ้นเมื่อผู้แลเข้ามาทัก

“ยังมีที่ว่างให้ข้าหรือไม่”

“ที่ของเหลียงฮูหยินข้าย่อมต้องเตรียมไว้ให้ ฮูหยินเชิญทางนี้” มือเรียวรีบผายไปอีกทางเมื่อถีเยว่สือถามหาที่นั่งของตนเอง ที่นี่เป็นโรงเตี้ยมมีชื่อนอกจากอาหารรสดีเป็นที่เลื่องลือ การจัดงานเย็บปักนี้ก็มีชื่อไม่แพ้กัน ผู้คนพากันมาก็เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าผู้มีฝีมือเย็บปักเป็นที่หนึ่งหน้าตาเป็นอย่างไร

โรงปักภายในแคว้นก็ล้วนเข้าร่วมงานนี้ หากเป็นผู้ชนะโรงปักผ้าก็จะมีงานตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเป็นการประกาศความสามารถของโรงปักเลยก็ว่าได้

ผู้ดูแลพาหญิงสาวต่างวัยทั้งสี่ขึ้นไปยังชั้นสองของโรงเตี้ยม ที่นั่งกลางอาคารชั้นสองเป็นมุมที่มองเห็นโถงด้านล่างอย่างแจ่มชัด นางนั่งลงฝั่งซ้ายของโต๊ะให้บุตรสาวสุดรักนั่งตรงกลาง ฝั่งตรงข้ามให้เหลียงฟางหรูนั่งลง

“พี่ฟางหรูชอบงานเช่นนี้หรือ” น้องสาวต่างมารดาเอียงคอเอ่ยถามท่าทางใสซื่อ ราวกับน้องสาวตัวน้อย ใบหน้าขาวใสมองอย่างไรก็ไม่เห็นว่าจะมีความคิดลึกลับซับซ้อนซ่อนอยู่ ยิ่งถามด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ผู้ใดจะคิดว่านางเกลียดพี่สาวเช่นเหลียงฟางหรู เกลียดจนถึงขั้นอยากให้อีกฝ่ายย่อยยับเพียงนี้

“หากบอกว่าไม่ก็คงโกหก พี่ไม่เคยออกจากจวนจึงตื่นเต้นเท่านั้น หากเป็นไปได้ก็อยากลองแข่งเย็บปักดูบ้าง”

“หากพี่แข่งจริง เกรงว่าคนเหล่านี้คงสู้มิได้” คำพูดคำจาอ่อนหวาน วันนี้น้องสาวนางน่าเอ็นดูเสียจริง ไม่ว่าจะพูดสิ่งใดก็ชื่นชมนางอยู่ตลอด แม้จะนึกแปลกใจแต่ก็รู้สึกยินดีไปพร้อมกัน

เหลียงฟางหรูยกมือขึ้นปัดปรอยผมที่ปลิวมาปรกหน้าน้องสาวออกอย่างเบามือ มือเรียวลูบไล้แผ่วเบาคล้ายกลัวอีกคนจะเจ็บเมื่อสัมผัส

แม้จะต่างมารดาแต่อย่างไรก็บิดาเดียวกัน เหลียงฟางหรูไม่เคยนึกเกลียดชังน้องสาว ซ้ำยังรักและเป็นห่วงนางอีก ต่างกับอีกฝ่ายที่จงเกลียดจงชังแต่แสร้งรักใคร่ “อะ” เหลียงฟางหรงสะดุ้งเมื่อถูกนิ้วเรียวแตะแก้ม

“พี่ฟางหรูมิลองส่งผ้าปักไปแข่งด้วยหรือ ข้าเห็นพี่เตรียมผ้ามาด้วย” ใบหน้าขาวเนียนขยับหนีมือของพี่สาวเชื่องช้า ในใจนึกรังเกียจสัมผัสเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้กล่าววาจาออกไป นางยังต้องเป็นคนดีในสายตาพี่สาวต่างมารดาผู้นี้อยู่

ขยับแล้วกล่าวเรื่องอื่นเปลี่ยนความสนใจของเหลียงฟางหรู ยามนี้นางต้องให้เหลียงฟางหรูไปจากโต๊ะเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการยากต่อสิ่งที่คิดเอาไว้

“เพียงส่งผ้าปักเท่านี้ก็ได้หรือ”

“ได้สิ หากถูกเลือกสุดท้ายก็จะได้ปักให้ผู้คนได้ดู”

“นั่นสิ ไปส่งผ้าเสียสิ อย่างไรก็นำมาแล้ว” สายตาเบื่อหน่ายมองลงไปชั้นล่างเห็นผู้ที่หมายปองไว้มาแล้ว ถีเยว่สือจึงรีบสำทับคำพูดบุตรสาวอีกแรง หญิงสาวได้ฟังก็ยิ้มตอบบางเบา ล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบผ้าปักสองสามผืนออกมาเลือกเฟ้น

เลือกไม่ได้จึงให้น้องสาวช่วยอีกแรง เลือกได้ก็รีบลงไปส่งผ้าปักเอง เพื่อให้ผู้ดำเนินการกลางโถงได้สอบถามที่มาที่ไปของตนด้วย

“เจ้าค่ะ แม่รอง” ถ้วยชาถูกยกขึ้นมาโคลงไปมา ช่วยให้ยาผงที่เทลงไปเมื่อครู่ผสมกับชาโดยไว ยานี้ไม่มีสีไม่กลิ่น เจ้าของถ้วยชาย่อมไม่รับรู้ว่ามีสิ่งใดแปลกปนอยู่ด้วย

ถีเยว่สือวางถ้วยชาของเหลียงฟางหรูลงแล้วหันไปยิ้มให้บุตรสาว ยกมือลูบหัวนางเสียยกใหญ่ ไม่ว่าบอกสอนสิ่งใดบุตรสาวก็มิเคยทำให้นางผิดหวังเลยสักครา

คราวนี้จะได้กำจัดหนามทิ่มแทงใจ รบกวนสายตาออกไปจากจวนเหลียงได้เสียที...

Related chapters

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ร่วมประชันเย็บปัก

    2ร่วมประชันเย็บปักเสียงภายในโรงเตี้ยมชั้นล่างเงียบลงเมื่อหญิงสาวปรากฎตัว คราแรกที่เดินเข้าไปมิได้มีผู้ใดสนใจ แต่ครานี้นางเดินไปกลางโถงผู้คนจึงให้ความสนใจ และเมื่อเห็นใบหน้างดงาม ผิวขาวเนียนราวหิมะโปรยของนาง ผู้คนจึงเงียบเสียงลงสายตามากมายจดจ้องทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเยื้องย่าง หรือหยิบยื่น พอเสียงเงียบลงนางถึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ หวั่นไหวเพราะกริ่งเกร็ง เดิมทีมีเพียงชั้นล่างเงียบแต่บัดนี้ชั้นบนก็เงียบตามไปด้วยหญิงสาวพลันหูอื้อไปชั่วขณะ ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจตนเอง มือสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่คุ้นชิน ไม่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองชั้นบนราวขอความช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าญาติสนิทสองคนด้านบนมิได้สนใจนาง นางยืนเงียบยื่นผ้าปักให้หญิงชราผู้นั้น จนกระทั่งนางเอ่ยถามจึงค่อยโล่งใจขึ้น “คุณหนูท่านชื่อแซ่ใด”“ข้าแซ่เหลียง นามฟางหรูเจ้าค่ะ”“เช่นนี้เอง คุณหนูเป็นบุตรสาวอีกคนของเหลียงซ่างซู” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ รู้สึกว่าเหลียงฟางหรูน่าเอ็นดูนัก นางไม่เหมือนไม่คล้ายบรรดาคุณหนูใหญ่เลยแม้แต่น้อยเพราะบรรดาสตรีเหล่านั้นล้วนวางท่าสูงส่ง เหยียบย่ำผู้ที่ด้อยกว่า ต

    Last Updated : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ช้าไปเสียแล้ว

    3ช้าไปเสียแล้วใบหน้าหมดจดงดงามซบลงบนแผงอกกำยำ ซุกไซ้ราวกับต้องการเฟ้นหาความอบอุ่นจากร่างกายสูงโปร่งตรงหน้าที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อใด สองแขนโอบอุ้มนางขึ้นแล้วเดินผ่านเหล่าบุรุษที่มองมาอย่างงุนงงออกไปด้านข้างหอสุราชายหนุ่มถูกใบหน้างดงามชวนมองทำให้จดจ้องนางตั้งแต่อยู่บนรถเทียมม้าคันใหญ่ เผลอยิ้มตั้งไม่รู้กี่คราตอนเห็นใบหน้าเล็กเรียวนั่นตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกผ่านหน้าต่างรถเทียมม้า กระทั่งนางหายเข้าไปในโรงเตี้ยมจึงนั่งลิ้มรสสุราลือชื่อต่อเสียหน่อยเดิมทีเขาควรต้องรีบไปจากตลาดบูรพาแต่วันนี้เป็นเทศกาลซีซี คิดอยากดูว่านอกจากสตรีที่ไม่เคยเห็นหน้า ยังมีสิ่งใดน่าสนใจอีกหญิงสาวผู้นั้นวิ่งหอบลมหายใจราวกับกลัวว่าจะมีผู้ใดเห็น แต่ด้วยใบหน้าของนางไม่ว่าจะหลบหลีกอย่างไรก็ต้องมีคนเห็น เขาจึงหย่อนตัวลงบนเก้าอี้เช่นเดิมนั่งดูนางอีกสักครู่ ร่างเล็กกระสับกระส่ายผิดวิสัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตราวเม็ดทับทิม พวงแก้มทั้งสองแดงระเรื่อ วิ่งเข้าอาคารนั้นออกอาคารนี้เช่นนี้ไม่ปกติ ชายหนุ่มจึงโผนกายลงจากชั้นสองตามลงไป กระทั่งผู้ติดตามยังมิอาจห้ามปรามได้ทัน...“คุณชาย ให้ทำอย่างไรดีขอรับ” ผู้ติดตาม

    Last Updated : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ขุ่นข้องใจ

    4ขุ่นข้องใจหญิงสาวลืมตาตื่นเมื่อแสงสว่างจากภายนอกสาดส่องผ่านกระดาษไขเข้ามา เปลือกตาหนักพริบขึ้นลงหลายครั้ง ในหัวพยายามจัดการทบทวนทุกเหตุการณ์จนแน่ใจแล้วก็เบิกตาโพล่งขึ้นมาภาพในหัวฉายซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบครั้ง ราวกับกำลังตอกย้ำว่านางทำสิ่งผิดมากมายเพียงใด หยาดน้ำตาก่อขึ้นหยดลงแต่เหือดแห้งไปเมื่อได้ยินเสียงกุกกักนอกห้องร่างกายที่มีเพียงชุดคลุมสีขาวบางขยับไปชิดตั่งนุ่มด้านใน หัวใจสั่นไหวราวกับภูเขาถล่ม หอบหายใจรวดเร็วกลัวว่าข้างนอกจะมีสิ่งน่ากลัวที่นางคิดอยู่ในประตูไม้ถูกเปิดเสียงแผ่วเบาคล้ายกลัวคนข้างในจะตื่น หญิงสาวอายุราวสิบสี่สิบห้ากำลังหย่อนเท้าข้ามมาอีกด้านของประตู ใบหน้าเรียบเฉยเผยยิ้มดีใจเมื่อสายตาจับจ้องชัดเจนว่าในที่สุดคนด้านในก็ตื่นเสียทีหญิงสาวย่อกายลงข้างเตียงเอ่ยถามเสียงนอบน้อม “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” นางถูกสั่งให้มาดูแลสตรีผู้นี้ตั้งแต่ยามเหมา คล้ายนางจะมีไข้เมื่อสัมผัสตัวแล้วจึงออกไปต้มน้ำ ทำอาหารรอให้นางตื่น“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วนี่ข้าอยู่ที่ใด” สายตาเลือนลางถามออกไป ขณะเดียวกันก็พึงระลึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือนางกล่าว

    Last Updated : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หนทางแก้ไข

    5หนทางแก้ไขฝ่ามือเล็กกุมแก้มเนียนของตนเองไว้มือสั่นเทาไม่คลาย แววตาวูบไหว ความรู้สึกในอกสั่นระคนเสียใจ นางรู้ดีว่าเหตุการณ์นี้ตนเองมีความผิด แต่หากบิดามีใจเมตตาสักน้อยก็ควรฟังนางเสียหน่อยเดิมทีคิดอยากแก้ตัวแต่เห็นเช่นนี้มิสู้เงียบไว้ ถูกลงโทษให้สาสมไปเลยดีกว่า“ท่านพ่อ พี่สาวมิได้ตั้งใจท่านอย่าโกรธไปเลย” หญิงสาวที่มาใหม่กล่าวด้วยถ้อยคำอ่อนหวาน ห้ามปรามบิดากลาย ๆ ไม่ให้เอาโทษพี่สาว เหลียงฟางหรงเป็นเช่นนี้เสมอนางมักวางแผนให้เหลียงฟางหรูถูกบิดามารดาเอาโทษ สุดท้ายจึงแสร้งมาขอร้องอ้อนวอนให้บรรเทาโทษเพราะเป็นเช่นนี้เหลียงฟางหรูจึงไม่เคยทันเล่ห์เหลี่ยมน้องสาว ยังหลงคิดว่านางเป็นสตรีจิตใจดีแต่ซุกซนอยู่เสมอก็เท่านั้น“ฟางหรงเจ้าไม่ต้องพูดแทนนาง มีสตรีใดในเมืองบ้างที่ยังไม่ออกเรือนแต่อยู่นอกจวนทั้งคืนดั่งนาง”“พี่สาวสำนึกแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ อย่าได้เอาเรื่องอีกเลย ลงโทษก็ลงโทษไปแล้ว” หญิงสาวกล่าวจบผินไปหน้า

    Last Updated : 2025-01-19
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หนี

    6หนี“ท่านแม่ เหตุใดนางจึงโชคดีเช่นนี้กัน” เหลียงฟางหรงกล่าวกับมารดาหลังได้ยินเรื่องราวก่อนนี้จากมารดา นางเกลียดพี่สาวต่างมารดาไม่อยากเห็นนางได้ดี หากนางแต่งออกก็อยากให้แต่งกับบุรุษไร้อำนาจ ไร้สามารถ เสเพลด้วยยิ่งดีแต่นี่นางกลับได้รับการสู่ขอจากอำมาตย์ที่มีอำนาจมากกว่าบิดาเสียอีก นางยังต้องเรียกสตรีผู้นั้นว่าฮูหยินสิบเอ็ด เป็นการยกฐานะนางขึ้นมาจากเดิมและไม่แน่นางงดงามเพียงนี้ หากอำมาตย์ฮุยรักใคร่นางมากกว่าฮูหยินคนอื่น วาสนานางมิยิ่งกว่าพระชายาหรอกหรือ“ก็ดีกว่าผู้ที่ต้องแต่งเป็นลูกแม่มิใช่หรือ” ใบหน้าของหญิงสาวหงิกงอ มารดากล่าวจบก็อดยกมือลูบไล้แก้มเนียนอย่างเอ็นดูไม่ได้ เหลียงฟางหรงสะบัดหน้ามองมารดาคิ้วขมวดมุ่นมิสู้ให้นางแต่งเองเสียยังดีกว่าสำหรับนางหากต้องออกเรือนย่อมต้องออกกับผู้มีอำนาจเงินทอง มิเช่นนั้นไม่ออกเสียยังดีกว่า แต่เมื่อบิดารั

    Last Updated : 2025-01-20
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   โจรป่า

    7โจรป่าเหลียงฟางหรงช่วยวางแผนให้พี่สาวหอบสมบัติหนีออกจากจวนก่อนวันที่จะมีเกี้ยวจากตระกูลฮุยมารับ เช่นนี้เหลียงฟางหรูก็ไม่ต้องเข้าเป็นฮูหยินสิบเอ็ดอีกแล้วอากาศยังคงร้อนอบอ้าวทั้งที่อีกไม่กี่เค่อพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว เหลียงฟางหรูผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ที่ได้มาจากน้องสาว อาภรณ์นี้เป็นของบุรุษหากนางออกจากจวนด้วยอาภรณ์สตรีเกรงว่าจะไปได้ไม่ไกลก็ถูกจับกลับมา“ซ่วนซ่วน เจ้าไปยกสำรับมาที” เหลียงฟางหรงกล่าวกับสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง พลางใช้สายตากดดันนางตรง ๆ สาวใช้รับรู้ท่าทีกดดันจึงพยักหน้ารับแล้วรีบเดินออกไปทางครัวโอกาสนี้ดียิ่งนัก เพื่อที่จะได้ออกไปโดยไม่มีผู้ใดเห็น เสียงฝีเท้าลับไป หญิงสาวทั้งสองภายในห้องจึงมองหน้ากันพยักหน้าเตรียมตัวดำเนินการตามแผน“พี่ฟางหรู พี่ต้องหนีให้พ้นนะ ข้าขอโทษที่ช่วยพี่ได้เพียงเท่านี้” หญิงสาวกล่าว

    Last Updated : 2025-01-21
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หลบหนี

    8หลบหนีห้องนอนกลางเก่ากลางใหม่คือสิ่งแรกที่นางเห็นหลังลืมตาตื่นขึ้น เมื่อวานนางถูกทำให้สลบไปหลังจากพยายามดิ้นรนอยู่นาน จำได้เพียงพวกเขาพานางไปทางถนนอวิ๋นซานทิศประจิมนั่นคือเขตที่มีสิ่งของนอกกฎหมายมากที่สุดผ่านทั้งเนินเขา ลำธารแถบชายป่านางรับรู้จากเสียงที่ได้ยิน เวลาเดินทางคงมากกว่าสามชั่วยาม เหลียงฟางหรูมองสำรวจไปทั่วห้อง หากยังอยู่ที่นี่ต่อก็คงไม่แคล้วต้องเป็นเมียโจร นางจำเป็นต้องหาทางหนี หนีจากที่ที่ไม่คุ้นเคย ซ้ำยังไม่รู้ว่าต้องหนีไปที่ใดอีกเหลียงฟางหรูรีบแสร้งนอนหลับต่อไปเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหน้าห้อง กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โชยเข้าจมูกทำให้ร่างกายนางตอบรับสิ่งนั้น“หากเจ้าตื่นแล้วก็กินนี่เสีย ข้าไม่ใช่บ่าวของเจ้า” แป้งย่างที่ติดตัวมานอกจากไม่ได้กินยังหายไปแล้ว ไม่รู้ว่านางหลับไปนานเพียงใดร่างกายจึงหิวโหยเพียงนี้ เหลียงฟางหรูหยัดกายลุกขึ้นนั่งมองหญิงสา

    Last Updated : 2025-01-22
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ได้พบพานอีกครา

    9ได้พบพานอีกคราชายหนุ่มนัยน์ตาเฟิ่งหวงลึกล้ำดำสนิทมองจ้องไปยังต้นไม้นอกหน้าต่าง ขณะกำลังเอนกายพิงตั่งไม้แดงอยู่ในห้อง หวนคำนึงถึงโฉมสะคราญที่เคยรวมเตียงเมื่อวันวานเหตุใดนางจึงรีบหนีไปเสียก่อนยังไม่ได้เอ่ยถ้อยคำต่อกันแม้แต่น้อย ชื่อแซ่ก็มิได้บอกไว้มีเพียงแหวนหยกสีชาดของเขาที่ติดตัวนางไปด้วย ไม่รู้ว่าจนป่านนี้นางถูกต่อว่าลงโทษแล้วหรือไม่ ให้คนสืบข่าวก็ยังไม่ได้เรื่อง“คุณชายขอรับ” บ่าวรับใช้เอ่ยเรียกผู้เป็นนายเสียงเบา เกรงว่าจะขัดอารมณ์อีกฝ่าย ผู้ถูกเรียกผินหน้ามองเชื่องช้าไร้อารมณ์บนใบหน้า จากนั้นพยักหน้าคล้ายอนุญาตให้รายงานต้าซานเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะรายงานเรื่องราวบางอย่างแก่เจ้าของเรือนสุราใต้เชิงเขาเทียนกวางที่สูงละลิ่วแห่งนี้ “พบแม่นางผู้นั้นแล้วขอรับ”ร่างสูงโปร่งงดงามสลักเสลาผุดลุกจากตั่งไม้แดงเร็วรี่เมื่อได้ยินสิ

    Last Updated : 2025-01-23

Latest chapter

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   เริ่มต้นอีกครา (ภาคแก้แค้น)

    26เริ่มต้นอีกครา ม่านฟ้าถูกฉาบด้วยแสงสีเหลืองรำไรยามเย็น หญิงสาวหลือบมองสตรีทั้งสองที่อยู่อีกฝั่งของต้นบ๊วย ไม่ต้องคิดหรือทบทวนสิ่งใดมากมาย เพราะนางจำทุกสิ่งได้เป็นอย่างดี ราวกับยังวนเวียนอยู่ในเหตุการณ์นั้นซ้ำไปซ้ำมานั่งอยู่ใต้ต้นบ๊วยฟังสองแม่ลูกสนทนากันเรื่องออกจากจวนไปเที่ยวเทศกาลซีซี ร่วมชมงานประชันเย็บปักที่โรงเตี้ยมเหอชง ทุกประโยคล้วนแต่เหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน เหลียงฟางหรูเอนกายพิงโคนต้นบ๊วยนั่งอยู่ตรงนี้ต่ออีกครึ่งชั่วยามระหว่างนี้ก็ทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ในครั้งก่อน นางกล่าวไว้แล้วว่าอย่างไรก็ต้องเอาคืน แต่นางมิใช่คนฉลาดเท่าใดนักไม่เช่นนั้นคงไม่ตายอย่างอนาถทั้งที่กล่าวว่าอยากแก้แค้น แต่พอรู้ว่าตนเองยังไม่ตายสิ่งแรกที่คิดถึงกลับเป็นใบหน้าหมดจดหล่อเหลาของเพ่ยเลี่ยงหลิน ครั้งก่อนเพราะนางเขาจึงต้องจบชีวิตไปพร้อมกันโอกาสที่ได้มาในครานี้นางไม่อยากดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง นางไม่รู้ว่าด้วยความสามารถตนเองจะทำเรื่องนี้สำเร็จหรือไม่ แต่ขอเพียง

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ความต้องการสุดท้าย

    25ความต้องการสุดท้าย หิมะแรกที่ตกในวันนี้ฟ้าดินคงตั้งใจเยาะเย้ยความโง่ของนาง อากาศหนาวเหน็บทำให้ร่างกายที่ไม่ได้ขยับไปไหนเย็นยะเยียบ ปลายมือปลายเท้าชาไร้ความรู้สึก ร่างกายแทบทุกส่วนไม่มีความรู้สึกใดราวกับมันกำลังดับสิ้น สูญสลายแต่หัวใจนางกลับเจ็บปวดรวดร้าว คล้ายกับมีผู้ใดใช้มีดแทงเข้ามาช้า ๆ จากนั้นดึงออกพร้อมกับเฉือนเนื้อออกมาทีละน้อย เจ็บปวดยากจะอธิบายได้ชายคนรักนอนนิ่งอยู่ไม่ห่างกายนาง ทั้งสองไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาอีก หิมะยังคงตกหนัก สายลมหอบนำความเย็นมาห่มร่างทำให้ร่างกายที่สูญเสียเลือดไปมากยิ่งสั่นสะท้าน ลมหายใจใกล้หมดลงในทุกขณะนางไม่เคยทำผิดกับผู้ใด เว้นเพียงเพ่ยเลี่ยงหลินที่นางต้องรู้สึกผิด เขาช่วยเหลือนางสารพัดสิ่งแต่นางกลับพาเขามาตายที่นี่ ผู้ที่ทำให้ตายกลับรอดชีวิตไปได้ โลกนี้มีความยุติธรรมอยู่ที่ใดกัน“หึหึ” น่าขันสิ้นดี นางไม่เคยทำผู้ใดเดือดร้อนแต่สุดท้ายกลับพบชะตากรรมเช่นนี้ หญิงสาวหัวเราะแผ่วเบาน้ำเสียงแหบพร่า

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ความจริงทั้งหมด

    24ความจริงทั้งหมด หลังคิดว่าเหลียงฟางหรูอาจไปที่ค่ายโจร เพ่ยเลี่ยงหลินก็มิได้รอช้า เร่งพาคนและกำลังของตนเองขึ้นไปบนเขาตามที่นางเคยบอกเอาไว้ ที่ทางการไม่ยอมปราบปรามโจรป่าเพราะไม่รู้ที่ตั้งค่ายแน่ชัด แต่ยามนี้แม้ไม่ชัดก็ต้องต้องไปเขาตามหาที่ตั้งค่ายกันอยู่นานก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ กระทั่งทหารคนหนึ่งพบกิ่งต้นบ๊วย ถูกปักไว้บนพื้น ราวกับมีคนตั้งใจทิ้งมันไว้ แค่รู้ว่าเป็นดอกบ๊วยเพ่ยเลี่ยงหลินก็คิดได้ในทันทีว่าเป็นเหลียงฟางหรูเขาให้ทหารทั้งหมดตามกิ่งดอกบ๊วย ผ่านช่องเขา ผาหินซับซ้อนในที่สุดก็มาถึงค่ายโจร เพ่ยซื่อจื่อได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงตะโกนจากด้านข้างของค่ายโจร เร่งรุดตามไปด้วยความร้อนใจ อธิษฐานต่อทุกสิ่งขอให้นางปลอดภัยไร้อันตายแต่ดูเหมือนคำอธิษฐานของเขาจะไร้ผล ภาพหญิงสาวร่างกายบอบบางที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ลมหายใจรวยริน ทำให้เขาหายใจไม่ออก เวียนหัวไปชั่วขณะ กระโดดลงจากหลังม้าด้วยมือไม้เยียบเย็น หากเขาคิดการรอบคอบกว่านี้นางคงไม่ต้องบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้ บ

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   แอบช่วยเหลือ

    23แอบช่วยเหลือ นางจำผู้ใดไม่ได้เลย ทว่าเมื่อได้ยินเขากล่าวถึงจวนเหลียง ภาพความทรงจำมากมายก็แวบผ่านไปผ่านมาไม่หยุดหย่อน ราวกับมันกำลังกลับเข้าที่เข้าทาง สุดท้ายนางก็จำเรื่องราวทั้งหมดได้แล้วจำได้ว่าน้องสาวต่างมารดาเป็นห่วงช่วยเหลือนางอย่างไรบ้าง จึงรวบรวมความกล้าหนีออกจากเรือนสุรายามหยิน เพื่อไปช่วยน้องสาวต่างมารดาเหลียงฟางหรงที่ค่ายโจร ซึ่งนางเคยถูกจับไปขังมาก่อน ยังพอจำได้ลาง ๆเรือนสุราอยู่ที่ร่องเขาเทียนกวาง ค่ายโจรอยู่ยอดเขาใช้เวลาเดินเท้าจากร่องเขาไปยอดเขาสองชั่วยาม หากใช้เส้นทางเดียวกับที่โจรใช้หนึ่งชั่วยามก็มาถึงทางเล็กหน้าค่ายเหลียงฟางหรูก้มตัวอยู่หลังพุ่มไม้สูงกวาดสายตามองฝ่าความมืดเข้าไปในค่าย หาที่ ๆ นางเคยถูกกักขัง ค่ายโจรที่นางกลับมาครานี้ดูใหญ่กว่าก่อนไม่น้อยเลย ระหว่างนี้พวกโจรคงไปปล้นสะดมชาวบ้านมาอีกแล้วแต่เหตุใดค่ายโจรใหญ่โตกลับเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง นางนั่งรออยู่ที่เดิมถึงสองเค่อรอให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   หายตัวไป

    22หายตัวไป “ว่ามา” ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งอยู่กลางห้องหนังสือภายในเรือนสุรา เมื่อมู่หรงหยุดฝีเท้าเขาจึงเอ่ยถามข่าวสารนั้น เดิมทีให้คนตามสืบเพราะอยากรู้ข่าวของเหลียงฟางหรูแต่ยามนี้นางไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาไม่อยากรู้ทว่าก็ยังสงสัยว่าเรื่องนี้มันเร่งด่วนอย่างไร คนของเขาจึงเร่งส่งข่าวมา“เรียนซื่อจื่อ สายของเรารายงานว่าเหลียงฮูหยินและคุณหนูรองออกไปร่วมงานสักการะ แต่ถูกดักปล้นระหว่างทางคุณหนูรองเหลียงฟางหรงถูกโจรพาตัวไปขอรับ”“แล้วอย่างไร”“คนของเราคงคิดว่าซื่อจื่ออยากตามสืบตระกูลเหลียงจึงส่งข่าว” เพ่ยเลี่ยงหลินกล่าวถ้อยคำราบเรียบไม่ใส่ใจ เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหลียงฟางหรูจึงเดินออกไปรับหญิงสาวไปเดินเล่นด้านหลังเรือนสมุนไพร“ไปเลยดีหรือไม่” เหลียงฟางหรูหันกลับมามองผู้ถาม เขายืนอยู่กลางห้องด้วยท่าทีสงบนิ่ง ไม่ได้เร่งรีบหรือแสดงอารมณ์อื่น เขามองมายังนางที่นั่งอยู่บนตั่งริมหน้าต่าง หญิงสาวพยักหน้ายิ้มบางเบา ลุกขึ้นยืนว

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ข่าวจวนเหลียง

    21ข่าวจวนเหลียง รถเทียมม้าคันเล็กไม่โอ่อ่ามุ่งหน้าสู่ถนนฟูหลิงแม้เร่งรีบเพียงใดก็มิอาจมองข้ามความปลอดภัยได้ เพ่ยเลี่ยงหลินจำต้องเปลี่ยนชุดแทนที่รถเทียมม้าด้วยม้าเร็วไม่นานนักม้าเร็วก็มาถึงชานเมือง พร้อมด้วยองครักษ์และคนสนิท แม้ใบหน้าจะยังราบเรียบไร้อารมณ์แต่หัวกลับเต็มไปด้วยคำพูดมากมาย คิดมาตลอดทางว่าหากพบหน้านางจะพูดสิ่งใดก่อนดีเรื่องที่ยามนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ หลังพบว่านางตั้งครรภ์เขาไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้แก่ผู้ใดมีเพียงเมิ่งสือซานเท่านั้นที่รู้ เกรงว่านางจะตื่นตกใจจนรับเรื่องนี้ไม่ได้อาชาบึกบึนตัวดำทะมึนราวสีหมึกหยุดฝีเท้าลงเมื่อถึงบริเวณลานพักม้าของเรือนสุรา ดีที่ม้าของเขาเป็นม้าศึกชั้นยอดไม่อย่างนั้นข่มม้าวิ่งมาไกลเช่นนี้ ม้าคงได้เป็นลมตายไปหลายตัวเลย“คารวะซื่อจื่อ” หมาจื่อที่กำลังให้อาหารม้าอยู่ตรงลานพัก วางสิ่งของในมือลงประสานมือคำนับผู้เป็นนาย ไม่ทันคิดว่าส่งสารไปเพียงวันเดียวซื่อจื่อก็มาถึงเรือนสมุนไพรแห่งนี้เสียแล้ว

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ลืมทุกสิ่งเสียสิ้น

    20 ลืมทุกสิ่งเสียสิ้น “คุณหนู จำเสี่ยวไป๋ได้หรือไม่เจ้าคะ” ผู้ถูกถามไม่ได้ตอบแต่ยังคงมองหน้าคนถามนิ่ง ๆ พิจารณาอยู่นานราวกับกำลังจัดเรียงความทรงจำทั้งหมดในยามไม่ได้สติ ครุ่นคิดเรื่องราวก่อนนี้อยู่นานนางก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบาพลางส่ายหน้าปฏิเสธคำถามเมื่อครู่ของเสี่ยวไป๋ นางจำสิ่งใดไม่ได้แม้แต่น้อย จำไม่ได้กระทั่งว่าที่นี่คือที่ใด เด็กสาวตรงหน้าเป็นอะไรกับตนเอง นางลืมทุกสิ่งเสียสิ้น เสี่ยวไป๋เบิกตาโพลงจ้องมองหญิงสาวบนเตียง ไม่คิดว่าเหลียงฟางหรูจะอาการแย่นัก สองสามเดือนนี้นางใช้ชีวิตเหมือนหญิงสาวทั่วไปได้เพียงสิบกว่าวันเท่านั้น “ที่นี่ที่ใดกัน เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” หญิงสาวบนเตียงเอ่ยถามน้ำเสียงเลื่อนลอย สายตาไม่ได้จดจ้องสิ่งใดเพียงไล่มองไปเรื่อยเปื่อย จะกล่าวว่าไม่คุ้นชินกับที่นี่ก็มิใช่เช่นนั้น หากบอกรู้จักก็มิใช่ “คุณหนูท่านรอที่นี่ เสี่ยวไป๋จะตามหมอเมิ่งเด

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ชีพจรแผ่วเบา

    19ชีพจรแผ่วเบา “นางเป็นอย่างไร” เมื่อหมอเดินออกมาจากกระโจมแม่ทัพ เพ่ยซื่อจื่อก็รีบปรี่เข้าไปถามอาการของนาง จากนั้นจึงโบกมือให้เสี่ยวไป๋ข้าไปดูแลนาง ส่วนตนเองพูดคุยกับหมอและเจ้าของกระโจมอยู่ด้านนอก“เรียนซื่อจื่อ นางตกใจมากจึงหมดสติไปเกรงว่าอาจได้รับความกระทบกระเทือนหนัก เมื่อฟื้นขึ้นมาอาจจะยังคงมีอาการเพ้อบ้าง”“รักษาได้หรือไม่” เขาถามหมอในค่ายอย่างร้อนรน นางประสบแต่เคราะห์ร้ายเมื่อเขาไม่อยู่ และเขาเองก็ไม่สามารถอยู่กับนางได้ตลอดจึงยิ่งร้อนใจ หลังกลับจากค่ายเฉิงเชียงเขาต้องไปรับโทษยังวังอ๋องที่ขัดราชโองการ ซ้ำยังบุกรุกค่ายรักษาเมืองเช่นนี้“อาจต้องใช้เวลานาน มีสิ่งหนึ่งที่กระหม่อมไม่รู้ควรพูดดีหรือไม่” ผู้เป็นหมอกล่าวติดขัด เมื่อครู่เขาได้ตรวจอาการนางพบเรื่องแปลกที่ยังไม่อาจสรุปได้หนึ่งอย่าง จึงไม่มั่นใจว่าควรกราบทูลในยามนี้หรือไม่เพ่ยซื่อจื่อขมวดคิ้วแน่นนึกโมโหอยู่ไม่น้อยที่บุรุษตรงหน้าคิดเองไม่ได้ว่าสิ่งใดสำคัญหรือไม่สำคัญ ทั้งที่ตนเองก

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   บุกค่ายเฉิงเชียง

    18บุกค่ายเฉิงเชียง ต้าซานกับมู่หรงยังประมือกับทหารหน้าค่าย ยามนี้ท่ามกลางทหารจึงมีเพียงซื่อจื่อยืนอยู่ ปอยผมหลุดร่วงจากมวยผมกลางศีรษะ หน้าอกขยับขึ้นลงอย่างหนัก เขาเดินทางไกลม้าพักแต่คนไม่ เขากระวนกระวายไม่ได้ดื่มกระทั่งน้ำเปล่า“เพ่ยเลี่ยงหลิงเจ้าอยู่ที่ใด ออกมาเดี๋ยวนี้” เพ่ยซื่อจื่อตะโกนก้องเรียกชื่อแม่ทัพประจำค่าย ทหารรอบข้างเริ่มหันมองกันแม้ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ใด แต่ในเมื่ออีกฝ่ายอาจหาญมากถึงกับเอ่ยชื่อแม่ทัยค่ายเฉิงเชียงตรง ๆ เช่นนี้ เขาก็คงมิใช่สามัญชนธรรมดาเป็นแน่ไม่นานม่านกระโจมก็ถูกเลิกขึ้น ร่างสูงโปร่งในชุดเกราะสีดำทมิฬก้าวเท้าออกมาใบหน้าหล่อเหลา แม้จะเรียบเฉยแต่กลับแฝงแววตาขบขันอยู่ไม่น้อย“ข้ายังนึกว่าผู้ใดกันกล้าเอ่ยชื่อข้าตรง ๆ เช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเพ่ยซื่อจื่อ” น้ำเสียงไม่จริงจังกล่าวพร้อมกับเดินมาหยุดยืนตรงหน้า ทหารโดยรอบรีบลดดาบและทวนลง เมื่อรู้ว่าผู้ที่ยืนอยู่กลางวงล้อมคือเพ่ยเลี่ยงหลินซื่อจื่อแห่งแคว้นจิ้ง พี่ชายแท้ ๆ แม้จะต่าง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status