แชร์

ขุ่นข้องใจ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-08 12:40:38

4

ขุ่นข้องใจ

หญิงสาวลืมตาตื่นเมื่อแสงสว่างจากภายนอกสาดส่องผ่านกระดาษไขเข้ามา เปลือกตาหนักพริบขึ้นลงหลายครั้ง ในหัวพยายามจัดการทบทวนทุกเหตุการณ์จนแน่ใจแล้วก็เบิกตาโพล่งขึ้นมา

ภาพในหัวฉายซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบครั้ง ราวกับกำลังตอกย้ำว่านางทำสิ่งผิดมากมายเพียงใด หยาดน้ำตาก่อขึ้นหยดลงแต่เหือดแห้งไปเมื่อได้ยินเสียงกุกกักนอกห้อง

ร่างกายที่มีเพียงชุดคลุมสีขาวบางขยับไปชิดตั่งนุ่มด้านใน หัวใจสั่นไหวราวกับภูเขาถล่ม หอบหายใจรวดเร็วกลัวว่าข้างนอกจะมีสิ่งน่ากลัวที่นางคิดอยู่ใน

ประตูไม้ถูกเปิดเสียงแผ่วเบาคล้ายกลัวคนข้างในจะตื่น หญิงสาวอายุราวสิบสี่สิบห้ากำลังหย่อนเท้าข้ามมาอีกด้านของประตู ใบหน้าเรียบเฉยเผยยิ้มดีใจเมื่อสายตาจับจ้องชัดเจนว่าในที่สุดคนด้านในก็ตื่นเสียที

หญิงสาวย่อกายลงข้างเตียงเอ่ยถามเสียงนอบน้อม “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” นางถูกสั่งให้มาดูแลสตรีผู้นี้ตั้งแต่ยามเหมา คล้ายนางจะมีไข้เมื่อสัมผัสตัวแล้วจึงออกไปต้มน้ำ ทำอาหารรอให้นางตื่น

“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วนี่ข้าอยู่ที่ใด” สายตาเลือนลางถามออกไป ขณะเดียวกันก็พึงระลึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือนางกล่าวถ้อยคำน่าอับอายแก่ผู้ใดก็ไม่อาจรู้ได้

“คุณหนูมีไข้ พักผอนก่อนเถอะเจ้าค่ะ บ่าวจะไปนำอาหารและยามาให้ เมื่อคุณหนูกินยาแล้วบ่าวจะเล่าเรื่องราวที่รู้ให้ฟังเอง” เหลียงฟางหรูมองหน้าหญิงรับใช้ซึ่งไม่รู้ว่ามาจากที่ใด แววตาวูบไหวใคร่ครวญ แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากรู้ว่าตนเองประสบพบเจอเรื่องใดมา สุดท้ายก็พยักหน้ารับนั่งรออยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกว่างเปล่า

คล้ายนางจำได้แต่บางคราก็คล้ายจำไม่ได้สักกะพีก ลางเลือนเสียจนนางนึกว่าความฝัน แต่ความฝันคงมิอาจทำให้นางบอบช้ำร่างกายได้เช่นนี้

หญิงรับใช้ในชุดสีขาวนวลท่อนล่างสวมกระโปรงสีเหลืองอ่อนจาง ขณะกล่าวว่าเป็นบ่าวรับใช้ชุดของนางยังดูงดงามกว่าเหลียงฟางหรูเสียอีก

หญิงรับใช้จากไปไม่นานกลับมาในมือถือถาดอาหารเอาไว้มั่น อาหารถูกยื่นมาตรงหน้า เพราะหญิงสาวถูกสั่งไว้ให้ปรนนิบัติคุณหนูตรงหน้าข้างเตียง เหลียงฟางหรูจึงไม่ต้องลุกจากเตียง

อาหารถูกกลืนลงท้องเพียงสามสี่คำก็หยุด เรื่องราวยังเลือนลางผู้ใดจะมีอารมณ์ดื่มกินได้อย่างสำราญ ฟางหรูยื่นชามข้าวต้มคืนจากนั้นรับถ้วยยาไปดื่มรวดเดียวจนหมด “เกิดสิ่งใดขึ้น”

“บ่าวก็ไม่รู้เช่นกันเจ้าค่ะ คุณชายให้บ่าวมาคอยดูแลคุณหนูที่นี่ตั้งแต่ยามหยินเจ้าค่ะ กำชับเพียงให้คุณหนูรออยู่ที่นี่ อีกไม่นานจะกลับมา” สาวใช้ว่าพลางรับถ้วยยาคืนจากเหลียงฟางหรู วางไว้บนถาดไม้ นางเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวใดไปมากกว่าเหลียงฟางหรูเลย รู้เพียงต้องดูแลปรนนิบัติคุณหนูผู้นี้เป็นอย่างดีตามคำสั่ง

“เช่นนั้น ไปเถอะ” เหลียงฟางหรูถอนหายใจเอนตัวพิงเตียงราวกับกำลังเหนื่อยหน่ายใจ ออกจากจวนคราแรกก็ทำเรื่องเช่นนี้จะมีหน้าไปพบเจอผู้อื่นได้อย่างไร

“อย่างนั้นบ่าวขอตัวนะเจ้าค่ะ” หลังสาวใช้ออกจากห้องไป ปล่อยให้เหลียงฟางหรูทบทวนความคิดอยู่ลำพัง ครู่หนึ่งก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองออกมาจากจวนแล้วหนึ่งวัน ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางเป็นตายร้ายดีอย่างไร เช่นนี้คงเกิดเรื่องเป็นแน่

เหลียงฟางหรูผุดลุกหย่อนเท้าลงบนพื้น เดินด้วยฝีเท้าแผ่วเบาไม่ต้องการให้ผู้ใดได้ยิน รับรู้ว่านางกำลังหนีจากที่แห่งนี่ อย่างไรเสียตระกูลบิดาก็มีชื่อเสียงไม่น้อย สอบถามไปเรื่อย ๆ ไม่ไกลคงถึง

นางไม่ได้ฝากเรื่องราวใดไว้ก็หายออกไปจากอาคารไม้ไร้ชื่อ เสี่ยวไป๋ที่กลับมาไม่พบนางก็ออกตามหาอยู่นาน ไม่พบเจอร่องรอยจึงกลับไปนั่งเฝ้าเตียงไม้อยู่ในห้อง

เหลียงฟางหรูถือวิสาสะหยิบพวกกันลมกันฝุ่นมาจากในห้อง ปกปิดใบหน้าตนเองมิให้โดดเด่นหรือถูกจับจ้องมากมาย ขณะหาทางกลับจวน ระหว่างเดินทางก็ถามไถ่ผู้อาวุโสบ้าง ขอทานบ้าง เกือบสองชั่วยามจึงมองเห็นประตูใหญ่จวนเหลียง

หลังพบเห็นที่หมายหัวใจก็พลันกรีดร้องหวีดหวิว นางกำลังกลัวว่าจะถูกลงโทษ บิดานางหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับนางเขาไม่ยินยอมรับฟังคำกล่าวอ้างใด หากเขาคิดเช่นไรก็จะปักใจเชื่อเช่นนั้น

คนงานเฝ้าประตูเอ่ยทักเปิดทางให้ สองเท้าก้าวเขาไปในจวนคุ้นเคยด้วยความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนัก หัวใจเต้นรัวดั่งกลองรบ เดินนิ่งสงบหมายไปให้ถึงโถงชุนเถิง

สาวรับใช้ในจวนเห็นก็รีบวิ่งไปตามนายหญิงใหญ่ของจวนเหลียง ถีเยว่สือดื่มชาอีกคำก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ออกมา นางวางถ้วยชาลงแล้วรีบออกไปยังห้องหนังสือผู้เป็นสามี

เพียงแค่คิดนางก็อารมณ์ดีขึ้นมาก เหลียงฟางหรูหายจากจวนไปทั้งคืน ต่อให้เกิดเรื่องใดหรือไม่ ชื่อเสียงนางก็ไม่มีดีแล้ว ถีเยว่สือเรียกผู้เป็นสามีหน้าประตูห้องหนังสือของเหลียงจินฮ่าวน้ำเสียงตื่นตกใจ ตามด้วยผลักเข้าไปด้านใน ใบหน้าตระหนกเป็นที่สุด

“นายท่าน ฟางหรูกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” บุรุษวัยกลางคนเงยหน้าจากกองม้วนผ้าไหมมองหน้าสตรีซึ่งเขาเรียกว่าภรรยาเอก คิ้วเข้มที่เคยขมวดอยู่ก่อนยิ่งขมวดแน่นขึ้น

นางลูกไม่รักดี! อนุญาตให้ออกจากจวนคราแรกก็เกิดเรื่องเช่นนี้ ต่ำช้า น่าอับอาย เขาเหลือบตามองกองม้วนผ้าไหมอีกคำรบ ก่อนจะวางกระแทกพู่กันในมือลง ลุกพรวดพราดออกจากห้องหนังสือไป

ถีเยว่สือตามไปพร้อมรอยยิ้มเหยียดหยันดูแคลน ทั้งหมดตรงไปยังโถงชุนเถิงเร็วรี่

หญิงสาวยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางโถงด้วยชุดใหม่ท่อนล่างสีชมพูอ่อน ไม่นับว่าดีเลิศ แต่ไม่อับจนดังก่อนหน้า

“ข้าให้ออกไปเพื่อเที่ยวเทศกาลแต่เจ้ากลับใฝ่ต่ำหายไปทั้งคืน มิเกรงกลัวว่าผู้ใดจะติฉินนินทา” สายตาดุดันปราดมองบุตรสาวตั้งแต่เส้นผมยันปลายเล็บเท้า ตำหนินางรุนแรง น้ำเสียงไม่ไหว้หน้าผู้ใด

“ท่านพ่อฟางหรูอธิบายสิ่งเหล่านี้ได้เจ้าค่ะ”

“ฟางหรูเจ้าขอขมาบิดาเสียเถิด ไม่ต้องพูดสิ่งใดให้มากความ มิเช่นนั้นบิดาจะกรุ่นโกรธมากกว่านี้” น้ำเสียงเห็นอกเห็นใจของถีเยว่สือบอกกล่าวแก่บุตรสาวคนโตสามี ใบหน้าเศร้าเสียใจแต่ความรู้สึกเหล่านั้นล้วนส่งไปไม่ถึงดวงตา

“เลี้ยงมาดีเพียงใด เลือดชั่วในตัวนางก็ไม่จางไป ทำตัวไม่ต่างจากมารดาแม้แต่น้อย”

ดวงตาสุกใสกลมโตสั่นระริก นางรู้ว่าบิดาจงเกลียดมารดาแท้ ๆ มากเพียงใดและเกลียดเพราะสิ่งใด แต่ตลอดสิบปีนี้นางไม่เคยตอบหรือโต้เถียงสักครา เหตุนี้กระมังผู้คนมากมายจึงกร่นด่ามารดาทั้งที่ไม่มีผู้ใดยืนยันความผิดนี้ได้

“ท่านพ่อ”

“เมื่อคืนเจ้าไปนอนค้างอ้างแรมที่ใดมา”

“ฟางหรูไม่สบายกายราวถูกพิษจึงหนี หนีได้ไม่นานก็หมดสติไป พอฟื้นขึ้นมารู้ตัวจึงรีบกลับมาที่นี่”

“ประเสิรฐ! ไปนอนค้างกับผู้ใดก็ไม่รู้ ไม่รู้ข้าวสุกเปลี่ยนเป็นข้าวสารแล้วหรือไม่ ใฝ่ต่ำสิ้นดี” เหลียงจินฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ที่ว่างหว่างคิ้วขมวดแน่น ความร้อนสุมอกโมโหโกรธาบุตรสาวที่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสีย

เขาไม่ทันได้คิดสิ่งใดมากมายก็วาดฝ่ามือหนาใหญ่กลางอากาศ สะบัดลงบนแก้มเนียนใส เสียงดังสนั่นลั่นโถงใหญ่

หยาดน้ำก่อเป็นม่านทันที ไม่คิดว่าบิดาจะลงไม้ลงมือกันเช่นนี้...

ท่านแม่...เหตุใดฟางหรูไร้วาสนานัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วย

    บทนำชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วยดวงหน้างดงามผุดผาดของหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีผินมองอีกฝั่งของต้นบ๊วย เมื่อได้ยินบางสิ่งจากคนทั้งสอง อากาศในฤดูคิมหันต์นั้นช่างร้อนเหลือคณา ทิวากรสาดแสงแรงจ้าอยู่กลางท้องฟ้า มิอาจทนอยู่ในเรือนที่อุดอู้ได้ เรือนนอนของนางมีหน้าต่างรับลมเล็ก ๆ อากาศร้อนเช่นนี้จึงไม่อาจทนอยู่ได้ เกิดมาเกือบสิบแปดปีไม่เคยได้ออกไปร่วมงานเทศกาลใดในเมือง ดังคุณหนูตระกูลใหญ่คนอื่น แม้แต่ตอนมารดาอยู่นางก็ยังไม่สามารถออกไปจากจวนได้ตามใจ หลังจากมารดาสิ้นนางยิ่งลำบากกว่าเดิม นอกจากบิดารังเกียจ แม่รองชอบรังแก ยังมีน้องสาวต่างมารดาที่บางคราก็ดี บางทีก็คอยกลั่นแกล้ง นางจึงมีชีวิตที่อาภัพมากยิ่งขึ้น กระทั่งสาวใช้บิดายังไม่ยอมให้นางมีหนึ่งในความฝันของหญิงสาวก็คงเป็นการเที่ยวงานเทศกาลบ้างกระมัง สตรีหากไม่เลยวัยปักปิ่นก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เที่ยวออกไปตระเวนอยู่นอกบ้าน แต่นางแม้เลยวัยปักปิ่นมาแล้วก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปตามใจต้องการ“ลูกอยากไปเจ้าค่ะ” น้องสาวต่างมารดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู มารดาที่เอ็นดูนางอยู่แล้วจึงยิ่งเอ็นดูนางเข้าไปอีก ยกฝ่ามือลูบแก้มบุตรสาวแผ่วเบา ทั้งสองคงกำลังชักชวนกันออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   งานเทศกาล

    1งานเทศกาลแสงสุริยาในฤดูคิมหันต์ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าจนไม่อาจฝืนมองสู้แสงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเหลียงฟางหรูก็ยังคงยืนรออยู่ที่ลานข้างต้นบ๊วยต้นใหญ่ตามคำบอกกล่าวของน้องสาวต่างมารดา กำชับนางไว้เมื่อวานหากอยากไปด้วยก็ย่อมต้องรอ รอนานเท่าใดมิอาจจำได้ทว่าบัดนี้ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินแล้วแต่ทั้งสองก็ยังไม่มา ยามเซินสองเค่อแม่รองและน้องสาวจึงปรากฎตัวให้เห็นสตรีทั้งสองสวมชุดใหม่งดงามท่อนล่างเองก็คงเป็นชุดที่ถูกตัดมาใหม่ ต่างกับนางนักที่ไม่ว่าจะท่อนบนหรือท่อนล่างล้วนเป็นชุดเก่าของมารดาทั้ง เหลียงฟางหรูไม่ใช่ผู้คิดมากจึงมิได้ถือสาริษยาใด ๆเห็นถีเยว่สือเดินนำน้องสาวมาก่อน “คารวะท่านแม่รอง” หญิงสาวยอบกายลงเมื่อเห็นภรรยาของบิดาเดินมา พลางยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ ท่าทางอ่อนหวานอ่อนโยน เหลียงฟางหรูเป็นเด็กสาวหัวอ่อน จิตใจดี ไม่ชอบมีเรื่องกับผู้ใดจึงมักยอมคนอยู่เสมอ ถีเยว่สือขยับริมฝีปากคว่ำลงเล็กน้อยจากนั้นจึงปล่อยมันกลับไปเป็นขีดเรียบ ๆ เช่นเดิม แม้ไม่ชอบใจเหลียงฟางหรูเท่าใดแต่ก็มีเหตุผลที่ไม่อาจแสดงท่าทีรังเกียจนางได้ในตอนนี้“พี่ฟางหรูรอนานหรือไม่” เหลียงฟางหรงผู้เป็นน้องเอ่ยถามพลางไล่มองการแต่งกายผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ร่วมประชันเย็บปัก

    2ร่วมประชันเย็บปักเสียงภายในโรงเตี้ยมชั้นล่างเงียบลงเมื่อหญิงสาวปรากฎตัว คราแรกที่เดินเข้าไปมิได้มีผู้ใดสนใจ แต่ครานี้นางเดินไปกลางโถงผู้คนจึงให้ความสนใจ และเมื่อเห็นใบหน้างดงาม ผิวขาวเนียนราวหิมะโปรยของนาง ผู้คนจึงเงียบเสียงลงสายตามากมายจดจ้องทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเยื้องย่าง หรือหยิบยื่น พอเสียงเงียบลงนางถึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ หวั่นไหวเพราะกริ่งเกร็ง เดิมทีมีเพียงชั้นล่างเงียบแต่บัดนี้ชั้นบนก็เงียบตามไปด้วยหญิงสาวพลันหูอื้อไปชั่วขณะ ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจตนเอง มือสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่คุ้นชิน ไม่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองชั้นบนราวขอความช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าญาติสนิทสองคนด้านบนมิได้สนใจนาง นางยืนเงียบยื่นผ้าปักให้หญิงชราผู้นั้น จนกระทั่งนางเอ่ยถามจึงค่อยโล่งใจขึ้น “คุณหนูท่านชื่อแซ่ใด”“ข้าแซ่เหลียง นามฟางหรูเจ้าค่ะ”“เช่นนี้เอง คุณหนูเป็นบุตรสาวอีกคนของเหลียงซ่างซู” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ รู้สึกว่าเหลียงฟางหรูน่าเอ็นดูนัก นางไม่เหมือนไม่คล้ายบรรดาคุณหนูใหญ่เลยแม้แต่น้อยเพราะบรรดาสตรีเหล่านั้นล้วนวางท่าสูงส่ง เหยียบย่ำผู้ที่ด้อยกว่า ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ช้าไปเสียแล้ว

    3ช้าไปเสียแล้วใบหน้าหมดจดงดงามซบลงบนแผงอกกำยำ ซุกไซ้ราวกับต้องการเฟ้นหาความอบอุ่นจากร่างกายสูงโปร่งตรงหน้าที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อใด สองแขนโอบอุ้มนางขึ้นแล้วเดินผ่านเหล่าบุรุษที่มองมาอย่างงุนงงออกไปด้านข้างหอสุราชายหนุ่มถูกใบหน้างดงามชวนมองทำให้จดจ้องนางตั้งแต่อยู่บนรถเทียมม้าคันใหญ่ เผลอยิ้มตั้งไม่รู้กี่คราตอนเห็นใบหน้าเล็กเรียวนั่นตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกผ่านหน้าต่างรถเทียมม้า กระทั่งนางหายเข้าไปในโรงเตี้ยมจึงนั่งลิ้มรสสุราลือชื่อต่อเสียหน่อยเดิมทีเขาควรต้องรีบไปจากตลาดบูรพาแต่วันนี้เป็นเทศกาลซีซี คิดอยากดูว่านอกจากสตรีที่ไม่เคยเห็นหน้า ยังมีสิ่งใดน่าสนใจอีกหญิงสาวผู้นั้นวิ่งหอบลมหายใจราวกับกลัวว่าจะมีผู้ใดเห็น แต่ด้วยใบหน้าของนางไม่ว่าจะหลบหลีกอย่างไรก็ต้องมีคนเห็น เขาจึงหย่อนตัวลงบนเก้าอี้เช่นเดิมนั่งดูนางอีกสักครู่ ร่างเล็กกระสับกระส่ายผิดวิสัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตราวเม็ดทับทิม พวงแก้มทั้งสองแดงระเรื่อ วิ่งเข้าอาคารนั้นออกอาคารนี้เช่นนี้ไม่ปกติ ชายหนุ่มจึงโผนกายลงจากชั้นสองตามลงไป กระทั่งผู้ติดตามยังมิอาจห้ามปรามได้ทัน...“คุณชาย ให้ทำอย่างไรดีขอรับ” ผู้ติดตาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ขุ่นข้องใจ

    4ขุ่นข้องใจหญิงสาวลืมตาตื่นเมื่อแสงสว่างจากภายนอกสาดส่องผ่านกระดาษไขเข้ามา เปลือกตาหนักพริบขึ้นลงหลายครั้ง ในหัวพยายามจัดการทบทวนทุกเหตุการณ์จนแน่ใจแล้วก็เบิกตาโพล่งขึ้นมาภาพในหัวฉายซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบครั้ง ราวกับกำลังตอกย้ำว่านางทำสิ่งผิดมากมายเพียงใด หยาดน้ำตาก่อขึ้นหยดลงแต่เหือดแห้งไปเมื่อได้ยินเสียงกุกกักนอกห้องร่างกายที่มีเพียงชุดคลุมสีขาวบางขยับไปชิดตั่งนุ่มด้านใน หัวใจสั่นไหวราวกับภูเขาถล่ม หอบหายใจรวดเร็วกลัวว่าข้างนอกจะมีสิ่งน่ากลัวที่นางคิดอยู่ในประตูไม้ถูกเปิดเสียงแผ่วเบาคล้ายกลัวคนข้างในจะตื่น หญิงสาวอายุราวสิบสี่สิบห้ากำลังหย่อนเท้าข้ามมาอีกด้านของประตู ใบหน้าเรียบเฉยเผยยิ้มดีใจเมื่อสายตาจับจ้องชัดเจนว่าในที่สุดคนด้านในก็ตื่นเสียทีหญิงสาวย่อกายลงข้างเตียงเอ่ยถามเสียงนอบน้อม “คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” นางถูกสั่งให้มาดูแลสตรีผู้นี้ตั้งแต่ยามเหมา คล้ายนางจะมีไข้เมื่อสัมผัสตัวแล้วจึงออกไปต้มน้ำ ทำอาหารรอให้นางตื่น“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ แล้วนี่ข้าอยู่ที่ใด” สายตาเลือนลางถามออกไป ขณะเดียวกันก็พึงระลึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือนางกล่าว

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ช้าไปเสียแล้ว

    3ช้าไปเสียแล้วใบหน้าหมดจดงดงามซบลงบนแผงอกกำยำ ซุกไซ้ราวกับต้องการเฟ้นหาความอบอุ่นจากร่างกายสูงโปร่งตรงหน้าที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อใด สองแขนโอบอุ้มนางขึ้นแล้วเดินผ่านเหล่าบุรุษที่มองมาอย่างงุนงงออกไปด้านข้างหอสุราชายหนุ่มถูกใบหน้างดงามชวนมองทำให้จดจ้องนางตั้งแต่อยู่บนรถเทียมม้าคันใหญ่ เผลอยิ้มตั้งไม่รู้กี่คราตอนเห็นใบหน้าเล็กเรียวนั่นตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกผ่านหน้าต่างรถเทียมม้า กระทั่งนางหายเข้าไปในโรงเตี้ยมจึงนั่งลิ้มรสสุราลือชื่อต่อเสียหน่อยเดิมทีเขาควรต้องรีบไปจากตลาดบูรพาแต่วันนี้เป็นเทศกาลซีซี คิดอยากดูว่านอกจากสตรีที่ไม่เคยเห็นหน้า ยังมีสิ่งใดน่าสนใจอีกหญิงสาวผู้นั้นวิ่งหอบลมหายใจราวกับกลัวว่าจะมีผู้ใดเห็น แต่ด้วยใบหน้าของนางไม่ว่าจะหลบหลีกอย่างไรก็ต้องมีคนเห็น เขาจึงหย่อนตัวลงบนเก้าอี้เช่นเดิมนั่งดูนางอีกสักครู่ ร่างเล็กกระสับกระส่ายผิดวิสัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโตราวเม็ดทับทิม พวงแก้มทั้งสองแดงระเรื่อ วิ่งเข้าอาคารนั้นออกอาคารนี้เช่นนี้ไม่ปกติ ชายหนุ่มจึงโผนกายลงจากชั้นสองตามลงไป กระทั่งผู้ติดตามยังมิอาจห้ามปรามได้ทัน...“คุณชาย ให้ทำอย่างไรดีขอรับ” ผู้ติดตาม

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ร่วมประชันเย็บปัก

    2ร่วมประชันเย็บปักเสียงภายในโรงเตี้ยมชั้นล่างเงียบลงเมื่อหญิงสาวปรากฎตัว คราแรกที่เดินเข้าไปมิได้มีผู้ใดสนใจ แต่ครานี้นางเดินไปกลางโถงผู้คนจึงให้ความสนใจ และเมื่อเห็นใบหน้างดงาม ผิวขาวเนียนราวหิมะโปรยของนาง ผู้คนจึงเงียบเสียงลงสายตามากมายจดจ้องทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเยื้องย่าง หรือหยิบยื่น พอเสียงเงียบลงนางถึงเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ หวั่นไหวเพราะกริ่งเกร็ง เดิมทีมีเพียงชั้นล่างเงียบแต่บัดนี้ชั้นบนก็เงียบตามไปด้วยหญิงสาวพลันหูอื้อไปชั่วขณะ ได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจตนเอง มือสั่นเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก็เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่คุ้นชิน ไม่คุ้นเคย นางเงยหน้ามองชั้นบนราวขอความช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่าญาติสนิทสองคนด้านบนมิได้สนใจนาง นางยืนเงียบยื่นผ้าปักให้หญิงชราผู้นั้น จนกระทั่งนางเอ่ยถามจึงค่อยโล่งใจขึ้น “คุณหนูท่านชื่อแซ่ใด”“ข้าแซ่เหลียง นามฟางหรูเจ้าค่ะ”“เช่นนี้เอง คุณหนูเป็นบุตรสาวอีกคนของเหลียงซ่างซู” หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ รู้สึกว่าเหลียงฟางหรูน่าเอ็นดูนัก นางไม่เหมือนไม่คล้ายบรรดาคุณหนูใหญ่เลยแม้แต่น้อยเพราะบรรดาสตรีเหล่านั้นล้วนวางท่าสูงส่ง เหยียบย่ำผู้ที่ด้อยกว่า ต

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   งานเทศกาล

    1งานเทศกาลแสงสุริยาในฤดูคิมหันต์ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าจนไม่อาจฝืนมองสู้แสงได้ แต่ถึงอย่างนั้นเหลียงฟางหรูก็ยังคงยืนรออยู่ที่ลานข้างต้นบ๊วยต้นใหญ่ตามคำบอกกล่าวของน้องสาวต่างมารดา กำชับนางไว้เมื่อวานหากอยากไปด้วยก็ย่อมต้องรอ รอนานเท่าใดมิอาจจำได้ทว่าบัดนี้ล่วงเลยเข้าสู่ยามเซินแล้วแต่ทั้งสองก็ยังไม่มา ยามเซินสองเค่อแม่รองและน้องสาวจึงปรากฎตัวให้เห็นสตรีทั้งสองสวมชุดใหม่งดงามท่อนล่างเองก็คงเป็นชุดที่ถูกตัดมาใหม่ ต่างกับนางนักที่ไม่ว่าจะท่อนบนหรือท่อนล่างล้วนเป็นชุดเก่าของมารดาทั้ง เหลียงฟางหรูไม่ใช่ผู้คิดมากจึงมิได้ถือสาริษยาใด ๆเห็นถีเยว่สือเดินนำน้องสาวมาก่อน “คารวะท่านแม่รอง” หญิงสาวยอบกายลงเมื่อเห็นภรรยาของบิดาเดินมา พลางยิ้มอ่อนโยนให้ทั้งคู่ ท่าทางอ่อนหวานอ่อนโยน เหลียงฟางหรูเป็นเด็กสาวหัวอ่อน จิตใจดี ไม่ชอบมีเรื่องกับผู้ใดจึงมักยอมคนอยู่เสมอ ถีเยว่สือขยับริมฝีปากคว่ำลงเล็กน้อยจากนั้นจึงปล่อยมันกลับไปเป็นขีดเรียบ ๆ เช่นเดิม แม้ไม่ชอบใจเหลียงฟางหรูเท่าใดแต่ก็มีเหตุผลที่ไม่อาจแสดงท่าทีรังเกียจนางได้ในตอนนี้“พี่ฟางหรูรอนานหรือไม่” เหลียงฟางหรงผู้เป็นน้องเอ่ยถามพลางไล่มองการแต่งกายผ

  • ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น   ชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วย

    บทนำชีวิตนี้มีเพียงต้นบ๊วยดวงหน้างดงามผุดผาดของหญิงสาววัยสิบเจ็ดปีผินมองอีกฝั่งของต้นบ๊วย เมื่อได้ยินบางสิ่งจากคนทั้งสอง อากาศในฤดูคิมหันต์นั้นช่างร้อนเหลือคณา ทิวากรสาดแสงแรงจ้าอยู่กลางท้องฟ้า มิอาจทนอยู่ในเรือนที่อุดอู้ได้ เรือนนอนของนางมีหน้าต่างรับลมเล็ก ๆ อากาศร้อนเช่นนี้จึงไม่อาจทนอยู่ได้ เกิดมาเกือบสิบแปดปีไม่เคยได้ออกไปร่วมงานเทศกาลใดในเมือง ดังคุณหนูตระกูลใหญ่คนอื่น แม้แต่ตอนมารดาอยู่นางก็ยังไม่สามารถออกไปจากจวนได้ตามใจ หลังจากมารดาสิ้นนางยิ่งลำบากกว่าเดิม นอกจากบิดารังเกียจ แม่รองชอบรังแก ยังมีน้องสาวต่างมารดาที่บางคราก็ดี บางทีก็คอยกลั่นแกล้ง นางจึงมีชีวิตที่อาภัพมากยิ่งขึ้น กระทั่งสาวใช้บิดายังไม่ยอมให้นางมีหนึ่งในความฝันของหญิงสาวก็คงเป็นการเที่ยวงานเทศกาลบ้างกระมัง สตรีหากไม่เลยวัยปักปิ่นก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เที่ยวออกไปตระเวนอยู่นอกบ้าน แต่นางแม้เลยวัยปักปิ่นมาแล้วก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปตามใจต้องการ“ลูกอยากไปเจ้าค่ะ” น้องสาวต่างมารดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู มารดาที่เอ็นดูนางอยู่แล้วจึงยิ่งเอ็นดูนางเข้าไปอีก ยกฝ่ามือลูบแก้มบุตรสาวแผ่วเบา ทั้งสองคงกำลังชักชวนกันออ

DMCA.com Protection Status