แชร์

บทที่ 24 nc

ผู้แต่ง: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-21 11:39:31

บทที่ 24 nc

“แผลหายสนิทแล้ว”

“หายแค่ภายนอก แต่จิตใจข้าไม่”

นางกระชากเสียงใส่ ดึงดันจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่รวบนางไว้ให้นั่งลงซ้อนด้านหน้า

“ไหน จิตใจเจ้าที่ตรงใดกัน ข้าจะทำความสะอาดให้หมดจด ขจัดความขุ่นมัวออกไปให้เอง”

ไม่เพียงเอ่ยด้วยเสียงกระเส่า มือรั้งร่างเล็กพร้อมผ้าในมือ เช็ดถูแผ่นหน้าท้อง ซบหน้าลงหัวไหล่ เลื่อนผ้านุ่มขึ้นหาทรวงอก นางสะดุ้งทันที

“ข้ามือหนักไปหรือ?”

ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปาก มือจับขอบอ่างไว้ไม่กล้าขยับตัว ผ้านุ่มค่อยถูทำความสะอาดเนื้อนุ่มอวบอิ่มแผ่วเบา ในยามนี้นางรู้ตัวแล้วว่าคงหนีไม่พ้นบุรุษด้านหลังเป็นแน่ หากยังขืนตัวไม่อ่อนลงคงเป็นนางเองที่เจ็บตัว

“ท่าน จะเบามือกับข้าสักหน่อยได้หรือไม่”

โจวหมิงเจ๋อชะงักไปครู่ เอียงหน้าไปมองดวงหน้างาม ปากกระจับเม้มแน่น พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ นางเอี้ยวกลับมาจ้องตอบ

“เหตุใดไม่ตอบข้า”

“ไม่ได้”

ไป๋หลินเอ๋อร์สะอึกแล้วนิ่งงัน ก่อนจะเอ่ยถามอีก “ถ้าเช่นนั้น สอนข้าให้ ... ให้ข้าเจ็บน้อยที่สุด”

โจวหมิงเจ๋อปล่อยผ้าออกจากมือ แล้วแทนที่ด้วยฝ่ามือร้อนจัดกอบกุมเนินทรวง “เจ้าอาจเริ่มจากผ่อนคลาย และสนุกกับสิ่งที่ข้าทำ”

“สนุกงั้นหรือ”

“ใช่แล้ว ถ้าข้าทำเช่นนี้ เจ้ารู้สึกเช่นไร” นิ้วแกร่งดึงยอดหัวปลายถันเล็กขึ้น

“อืออ รู้สึกแปลกประหลาด แต่ไม่เจ็บ”

“แล้วถ้าแรงขึ้น”

“อ่า อื้อออ เจ็บ”

นางแอ่นร่างตามนิ้วทันทีเมื่อโจวหมิงเจ๋อดึงยอดหัวอย่างแรงราวต้องการเด็ดยอดนี้ออกจากร่างนาง

“แล้วถ้าข้าทำเช่นนี้” เขาบี้ยอดด้วยสองนิ้ว คลึงจนยอดตั้งแข็งชันพร้อมดึงอย่างแรงอีกครั้ง

“อ่า ท่าน อื้อออ”

โจวหมิงเจ๋อเลื่อนฝ่ามืออีกข้างลงใต้น้ำ ผ่านหน้าท้องแบนราบขยำเต็มมือก่อนจะล้วงลึกลงสู่ง่ามขา บีบต้นขาเล็กอย่างแรง

“อื้ออ ท่าน”

“มือข้าหยาบกระด้าง จับกระบี่มาชั่วชีวิต เจ้ารู้สึกหรือไม่”

โจวหมิงเจ๋อกระซิบทุ้มต่ำข้างใบหู เลื่อนฝ่ามือเข้าหาเนินอวบอูมตรงกลาง จับเต็มมือลงแรงคลึงเคล้น ขยับนิ้วแทรกกลางรอยแยกเย้าแหย่จนพบหนทางเข้าเปียกอุ่น

“นิ้วข้าหยาบกระด้าง เจ้ารู้สึกหรือไม่”

ไป๋หลินเอ๋อร์แอ่นร่างต้องการถอยหนีแต่กายสาวกลับหยัดรับ ปล่อยให้เขาสอดนิ้วเข้าสู่ร่องสวาทไร้แรงขัดขืน นางแหงนดวงหน้าไปด้านหลังชูอกอวบอิ่มแข็งชันตั้งเต้ากลมกลึง ปล่อยใจให้ปลายนิ้วกระด้างหยอกล้อดึงยอดหัวนม มืออีกข้างสอดใส่อยู่ในกายนางลึกเข้าไปทุกที

“อ่า อืออ ข้า”

“แล้วถ้าข้ากัดเจ้าตอนที่นิ้วข้าอยู่ข้างในเช่นนี้ อืมมม” โจวหมิงเจ๋อขยับนิ้วจนพบจุดกระสันในโพรงสวาทบดคลึงแล้วลงแรงขบฟันบนหัวไหล่ใกล้รอยแผลเป็น

“ท่าน อ๊า” ครานี้เสียงครางดังขึ้น ร่างของนางเริ่มหดเกร็ง

ไป๋หลินเอ๋อร์หลับตาลง ร่างกายของนางร้อนขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แรงลงฟันเจ็บจนนางคาดว่าคงขึ้นรอย แต่มันกลับทำให้นางเปียกชื้นขึ้นอีกหลายส่วน

“ทุกอย่างล้วนอาศัยจังหวะ หากเจ้าจับจุดถูก ความเจ็บปวดจะกลายเป็นความหฤหรรษ์”

ทุกคราที่นิ้วเรียวสอดใส่กระชับจังหวะถี่ขึ้น อีกมือยังดึงทึ้งหัวยอดถัน ปากหนาของปีศาจร้ายขยับเข้าใกล้ต้นคอท้ายทอยลงฟันไปเรื่อย ๆ ไม่แรงมาก แต่ด้วยผิวที่อ่อนนุ่มทำให้เกิดรอยแดงเป็นปื้น

“ข้าพยายามเบามือที่สุดแล้วฮูหยิน” น้ำเสียงกระเส่าแรงยามสอดนิ้วเข้าลึกยิ่งขึ้นหยุดนิ่ง โน้มหน้ามาด้านหน้า “จูบข้า”

นางขยับเปลือกตาลืมขึ้นเบี่ยงศีรษะหันดวงหน้าหวานไปทางโจวหมิงเจ๋อ ตอนนี้ร่างกายของนางนั่งเกยทับท่อนขาแกร่ง ท่อนแขนโอบรัดท้ายทอยเขาไว้เคลื่อนใบหน้าไปใกล้ทีละน้อย

ริมฝีปากอุ่นร้อนประกบปากนางในที่สุด เม้มขอบปากบางแทะเล็มด้วยปลายลิ้นแล้วสอดชอนไชควานล้ำลึก ทำดั่งว่าโพรงปากของนางคือสิ่งล้ำค่า ค้นหาทรัพย์สมบัติด้วยการกระดก เลาะแนวฟัน โรมรันเกี่ยวกระหวัดหยอกให้นางตอบสนองทำเช่นเดียวกัน

นิ้วอุ่นสอดทางฉ่ำชื้นใต้น้ำแรงขึ้น บดขยี้ตามใจต้องการ เร่งรัดให้นางก้าวกระโดดเป็นผู้ชำนาญการภายในสองเค่อ

“อือออ หยุดก่อน อือออ”

ปากหนาตามติดประกบ ถอนนิ้วออกจากทางรักแล้วจับเอวเล็กคอดไว้ดึงขึ้นแล้วดันลง

“อืออออ”

แท่งหยกตั้งตระหง่านรองรับปากทางเข้าหวานล้ำ เพียงเขาจับนางกดลงพลันครอบปลายหัวทู่พอดี ทรวงอกนางสะท้านวูบอาการเสียวสะท้านพลันตีตื้นขึ้น

ท่อนเนื้ออุ่นใหญ่แทรกสอดผ่านโพลงรักแสนแคบ นางกลั้นเสียงสะอื้นขณะที่เขาดันนางจนสอดลึกกดนิ่งให้มิดแล้วจึงหยุดการครอบครองริมฝีปาก

“ขยับ หลินเอ๋อร์ ทำข้าดั่งเจ้าควบขี่ม้าศึก”

“แต่ อื้อออ ข้าไม่เคยขี่ม้าศึก”

โจวหมิงเจ๋อยกยิ้มไม่รู้ตัว มุมปากโคงขึ้นก่อนจะหลบใบหน้าลงกดริมฝีปากบนไหล่กลมกลึง

“ถ้าเช่นนั้น อืม เจ้าเคยขี่อะไร”

“ข้า อ่า ที่บ้านข้าเลี้ยงหมูป่า”

โจวหมิงเจ๋อกำเอวเล็กแน่นแล้วผงกศีรษะขึ้นจากไหล่จ้องหน้านางนิ่ง

“หมูป่า?”

“อือออ ใช่แล้ว หมูป่าสีดำตัวใหญ่ มันช่างเชื่องนัก ยามข้า อ่า อืออ”

ไป๋หลินเอ๋อร์เล่าไม่ทันจบ เป็นโจวหมิงเจ๋อจับนางขย่มลงมาเสียเอง แรงโยกทำให้นางคว้าขอบอ่างน้ำไว้ยึดเป็นหลัก เขาจับร่างนางดึงขึ้นสูงแล้วดันลงกระแทกเนื้อโคน

ปัก ปัก แฉะ แฉะ

น้ำในอ่างกระเพื่อมตามแรงสั่นไหว เขาเอนกายพิงอ่างรวบเอวนางไว้ทั้งสองข้าง จับนางขย่มสวมครอบท่อนหยกแข็งจนทางรักนางรวดร้าว

“หมูป่าบ้านของเจ้า แข็งเช่นนี้หรือไม่หลินเอ๋อร์”

จู่ ๆ ท่านเจ้าสำนักโพล่งคำถามขึ้นมาขณะที่นางกำลังพร่าเลือน

“ทะ ท่าน อืออ อ่า ไม่ ไม่เลย ของท่านแข็งยิ่งนัก”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะลองขี่เจ้าบ้าง”

“โจวหมิงเจ๋อ!”

เขายกร่างนางออกดันให้นางคุกเข่าในอ่างน้ำ จับมือนางให้กำขอบอ่างอีกด้านไว้ จับก้นนางยกสูง

เพียะ เพียะ!!

ไป๋หลินเอ๋อร์สะดุ้งยามมือแกร่งฟาดลงแก้มก้นขาวนวล ก่อนจะคลึงขยำลงแรง แล้วดันเอ็นใหญ่ท่อนแกร่งสอดใส่ปากทางรัก กระทุ้งแรงจนนางกระเด้งตัว

“อืออ”

โจวหมิงเจ๋อจับสะโพกเล็กไว้มั่นสูดปากเมื่อมังกรกลางลำตัวฝั่งแน่นลึกล้ำในโพรงรัก เขาถอนเกือบสุดแล้วงัดกระทุ้งขึ้นอีกครั้ง ถอนออกสุดแล้วกระทุ้ง ร่างบอบบางกระเด้งขึ้นทุกคราวที่เขากระทำตอกใส่ จากนั้นโจวหมิงเจ๋อจึงค่อยสอดใส่ถี่ขึ้นจนรัวแรง

“อืออ อ่า อ๊า”

นางจับขอบอ่างแน่น ปล่อยให้อสูรร้ายด้านหลังกระทำต่อนางต่อเนื่องกระทั่งรู้สึกได้ถึงเชือกเส้นเล็กถูกคล้องรอบคอ

“ทะ ท่าน อื้ออ ทำอะไร อ๊า”

โจวหมิงเจ๋อไม่หยุดเสือกกาย แท่งหยกใหญ่โตชำแรกกระแทกทางรักนุ่มนิ่ม ขณะคล้องเชือกรอบลำคออ่อนนุ่ม กระทุ้งตอกใส่พร้อมกระตุกดึงรั้งจนเชือกขึงตึง ทำให้นางจำต้องแอ่นตัวตามจนปล่อยมือจากขอบอ่าง

เขาโอบนางไว้แล้วจับเชือกพันร่างบอบบาง รัดด้วยเชือกอ้อมลงรอบเอว แล้วผลักนางลงที่เดิม ยืนขึ้นย่อหัวเขาเพื่อโหย่งตัวด้านหลัง ตอกลำหยกใส่ร่องสวาท กดศีรษะนางแนบอ่างไม้

“อืม ดีหรือไม่ เจ้าเสียวหรือยัง”

ไป๋หลินเอ๋อร์รู้สึกถึงแรงเชือกรัดตัว แน่นจนเนื้อปลิ้นแดง แท่งหยกยาวใหญ่สอดใส่รูดทางรักผ่านจุดกระสันจนนางรวดร้าว อ้อมมือลงด้านล่างกอบกุมเนินทรวงแล้วดึงยอดหัว

“อ่า ข้า อ๊า เบา มือ อ่า เบา”

ยิ่งนางร้องครวญคราง บุรุษด้านหลังยิ่งลงแรงทั้งดึงทึ้งยอดหัว ทั้งกระหน่ำตอกใส่ร่องรักนุ่มนิ่ม

จังหวะรักเร่าร้อนรุนแรงเจียนขาดใจ นางตาพร่าหยาดน้ำตารื้น ท่อนเนื้อเบียดดุนปากทางคลึงเคล้น ถอนยาวแล้วตอกลง โจวหมิงเจ๋อยืนซ้อนนางด้านหลังย่อเข่าโหย่งตัวดั่งกำลังควบม้า

ปัก ปัก ปัก แฉะ แฉะ แฉะ นางมองน้ำกระฉอกออกนอกอ่าง

เพียะ! เพียะ!

เขากระทุ้งลงแล้วฟาดก้นนาง หัวเราะในลำคอขณะที่นางกรีดร้อง กดใบหน้านางจนปริ่มน้ำ แล้วดึงเชือกรอบคอ

“เจ้าใกล้หรือยัง”

“อะไร อ่า ใกล้อะไร”

“อืม ถ้างั้นเพิ่มแรงอีกสักสองส่วน”

นางขมวดคิ้วนิ่วหน้า หน้าท้องหน่วงร้าว แรงขึ้นอีกสองส่วนทำให้ร่างอ่อนบางของนางเกือบกระดูกหักสองท่อน ร่างใหญ่โตโหย่งสูงกระแทกลงให้ท่อนหยกยาวแทงใส่โพรงรักกดแน่นมิดโคน ทำซ้ำอีกหลายครั้ง

“ท่าน อ๊า เบา อืออ”

ปัก ปัก ปัก แฉะ แฉะ

ยามนี้น้ำในอ่างกระฉอกออกจนเกือบครึ่งอ่างซ้ำเริ่มเย็น ไม่รู้ว่าชายร่างโตเคี่ยวกรำนางมานานเท่าไรแล้ว แต่ทางรักของนางบอบช้ำและแดงก่ำ รวมไปถึงผิวเนื้อนุ่มเป็นรอยแดงจากเชือก

“ข้าใกล้แล้วหลินเอ๋อร์”

“ดี ดี”

“ฮึ อ๊าช์” โจวหมิงเจ๋อครางทุ้มต่ำ ล้วงมือลงด้านล่างใช้นิ้วล้วงลึกรอยแยกกระทั่งพบติ่งเนื้อ ขยับกดบี้เม็ดเล็ก กดแน่นทั้งคลึงแล้วกระทุ้งลำรักลงอีกสองสามครั้ง

ท่อนเนื้อหยกพองตัวคับแน่นยามสุขสม นางได้ยินเสียงครางแหบพร่ายามโจวหมิงเจ๋อกดเอ็นใหญ่จนมิด เขาบี้จุดเล็กกลางร่องไม่ปล่อยให้นางได้เล็ดรอดจนนางต้องกรีดร้อง

ไป๋หลินเอ๋อร์กระตุกเฮือกก้มหน้านิ่ง ร้องเสียงหวานใส ทางรักรัดรึงท่อนเนื้อกระชับจนสัมผัสได้ถึงแรงสั่นกระตุกภายใน หัวปลายกระดกพวยพุ่งน้ำเชื้อสีขาวเข้าสู่โพรงสวาท อุ่นร้อนฉ่ำชื้น

“ท่านทำข้าเจ็บ”

โจวหมิงเจ๋อถอนลำรักออกจากกายสาว แล้วลุกขึ้นยืน จับร่างนุ่มนิ่มยกขึ้นอุ้มเดินไปยังเตียง

“ท่าน ทำอะไรน่ะ ไม่เช็ดน้ำก่อน อืออ โจวหมิงเจ๋อ!!”

นางตาเบิกกว้างแปลกประหลาดใจ เขาวางนางบนเตียงใหญ่แล้วโถมตัวลงทับไว้ แทรกกายจับขานางเปิดออกถ่างจนกว้างด้วยการดึงข้อเท้าเล็กแยกออก มองเนินสาวแดงช้ำอย่างพอใจ ใช้มือลูบน้ำรักของตนเองที่ไหลออก แล้วเคลื่อนแท่งหยกที่พร้อมรบอีกครั้งเข้าไปใหม่

“อีกรอบ ข้าต้องการอีกรอบ”

โจวหมิงเจ๋อปลดเชือกออกจากลำคอนางนำไปมัดข้อมือแล้วลากจนลำแขนเรียวยาวเหยียดตึง โยงไว้บนขื่อคานพร้อมเสียงหัวเราะพอใจ

ร่างนางสั่นไหวไร้เรี่ยวแรง จริงอย่างที่โจวหมิงเจ๋อบอกแต่แรก นางควรกินให้มากหน่อยจะได้มีแรงไว้ต่อกรกับบุรุษปีศาจเช่นเขา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 25 ฮุ่ยหรู

    บทที่ 25 ฮุ่ยหรูเพียะ เพียะ!!ฮุ่ยหรูล้มคว่ำลงทันทีเมื่อฝ่ามือของโจวจางหมิ่นกระทบใบหน้าเป็นครั้งที่สอง ร่างอ่อนแออย่างหญิงตั้งครรภ์สามเดือนกองบนพื้นน้ำตานองหน้า“ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นไรฮุ่ยหรู”“ฮื้ออ ขะ ข้า ข้ายัง พบ นางไม่ได้”เพล้ง!!โจวจางหมิ่นปัดกระถางกำยานล้มคว่ำเฉียดใบหน้าฮุ่ยหรูจนนางผงะออก ดวงตาหวาดกลัวไหวระริก เหลือบมองสามีที่นางแต่งเข้ามายังตระกูลโจวอันร่ำรวยและมากยศฐา“ยามนี้นางอยู่แต่บนหอ ท่านพ่อไม่ยอมให้นางลงมา อร้าย!! อย่า ข้ากลัวแล้ว”ฮุ่ยหรูยกมือไหว้ประลก ๆ น้ำตาไหลนองจนมองไม่เห็นสีหน้าสามี แต่นางรู้ว่าใบหน้าหล่อราวหยกกำลังบิดเบี้ยวจากแรงโกรธ เขากระชากผมนางดึงขึ้นมาจากพื้นเพียะ!!ใช้หลังฝ่ามือฟาดลงใบหน้าอีกครั้งแล้วผลักนางให้ล้มลงกับพื้น ยกเท้าเหยียบนางไว้“เวลาข้าสั่ง ไม่มีข้ออ้างฝ่าฝืน เข้าใจหรือไม่ภรรยารัก”นางพยักหน้ารับ ดวงหน้าแนบพื้นเย็นเยียบ สะอื้นขึ้นแรงก่อนที่โจวจางหมิ่นจะประคองนางขึ้นมาโอบกอดแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนผิดไปจากคราแรก“วันพรุ่ง เจ้าจงไปหานาง คุยกับนางให้นางคลายใจ ชักชวนนางดั่งที่ข้าบอกไว้ เข้าใจหรือไม่ฮุ่ยหรู”มือร้อนลูบผมนางประคองนางไปนั่งที่เตียง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 26 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 26 โจวจางหมิ่นยามเว่ยในช่วงต้นฤดูหนาวชานเมืองหลวงของสำนักคุ้มกันภัยเสวี่ยจง ที่โอบล้อมด้วยป่าไผ่ ยิ่งพาให้อากาศเย็นขึ้นอีกหลายเท่าตัวไป๋หลินเอ๋อร์กระชับเสื้อคลุมตัวยาวที่ชางซิงเยียนกำชับเป็นหนักหนาให้นางสวมมาด้วย แม้ว่านางบอกแล้วว่ามาแค่เรือนหลักเท่านั้นนางเดินผ่านสวนกลางเรื่อยจนมาถึงเรือนหลัก ไม่ทันได้เอ่ยแจ้งเด็กในเรือนพลันเห็นโจวจางหมิ่นยืนนิ่งตรงโค้งประตูวงเดือนทางออกสวนด้านหลังทุกคราที่นางพบหน้าโจวจางหมิ่น ขนแขนนางมักลุกชันอย่างน่าประหลาด และยามนี้ก็เช่นกัน นางมองสีหน้ากระหยิ่มและมุมปากโค้งขึ้นละม้ายโจวหมิงเจ๋อ แต่ก็แค่ละม้าย เพราะส่วนใหญ่บนใบหน้าของชายร่างเกร็งคนนี้ไม่เหมือนโจวหมิงเจ๋อแม้แต่น้อยนางขยับเข้าไปใกล้วางสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นรัวดั่งกลองศึก ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเห็นความแตกต่าง โจวหมิงเจ๋อแม้ว่าการกระทำเย็นชารุนแรง ทว่ากลับมีความเมตตาต่อผู้อื่น ผิดไปจากบุตรชายที่แผ่กลิ่นอายโฉดชั่วทวีคูณ ยิ่งเห็นรอยแผลบนร่างฮุ่ยหรู ยิ่งรับรู้ว่าชายผู้นี้กระทำต่อสตรีเพศราวกับเป็นสัตว์สิ่งของ“ท่านแม่”นางมองร่างสูงของโจวจางหมิ่นโค้งลงคำนับนางราวกับว่าเป็นบุตรชายแท้จริงของนาง ทว

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 27 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 27 โจวจางหมิ่น“เข้าใจผิด!! ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไรบาดหมางกับเจ้า ยิ่งตี้หรือฮูหยินท่านเจ้าสำนัก” โจวจางหมิ่นเดินเข้าใกล้โน้มหน้าลงต่ำ กระชากผมจนดวงหน้าของนางแหงนขึ้น“เจ้าไม่มีสิ่งใดผิด ผิดแค่ว่าเจ้ามาอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่านพ่อต่างหากที่ข้าต้องการให้เขาทุกข์ทรมาน และข้ารู้ว่าท่านพ่อรักเจ้า”“โจวหมิงเจ๋อไม่ได้รักข้า ท่านเข้าใจผิด”“เจ้าไม่รู้จักนิสัยของพ่อข้าดี ท่านพ่อเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ อวี้เจียวจงรักภักดีรับใช้มาเนิ่นนาน เขายังยกให้เฉียนฟานโดยง่ายดาย แต่กับเจ้า..”มือนุ่มดั่งหญิงสาวเชยปลายคางนางขึ้นแล้วบีบ“พบเพียงไม่กี่หนกับยกย่องร่วมชีวิต สัญญาผูกพันนิจนิรันดร์ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้ามีดีอะไร หน้าตาไม่ได้สะสวย ทั้งรูปร่างไม่ได้เสี้ยวหญิงงามเมือง แต่เอาเถิด อย่างไรเสียเจ้าต้องตาย”โจวจางหมิ่นกดริมฝีปากนางล้วงนิ้วเข้า แล้วเผยอปากตัวเองคล้ายแสยะยิ้ม “ให้เขาได้ทุกข์ทนเช่นแม่ข้า ลุกขึ้น บอกลาชีวิตของเจ้าได้แล้ว”แรงบุรุษกระชากดึงนางขึ้นจากพื้น สาบเสื้อหลุดรุ่ยจนพ้นเนินทรวงหนึ่งข้าง โจวจางหมิ่นหลุบตามองก่อนใช้มือบีบขยำลงแรง“ทว่า เจ้าเองก็น่าลิ้มลอง บางคราวข้าก็เคยคิดว่าถ้าได้ร่วมเ

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 28 ความลับ

    บทที่ 28 ความลับไป๋หลินเอ๋อร์ดีดตัวออกจากโจวจางหมิ่นทันทีแล้วโผเข้าหาบุรุษตรงหน้า ให้เขาโอบรัดนางไว้ด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ซบดวงหน้าเปื้อนหยาดน้ำลงอกกระเพื่อมไหวจากแรงสูดลมหายใจไร้เสียงร้องใด ๆ จากโจวจางหมิ่น คมลูกธนูปักลงหัวไหล่ขวาที่รัดลำคอนางไว้ สีหน้าโจวจางหมิ่นปวดร้าว มองโจวหมิงเจ๋อด้วยดวงตากล่าวหา มาดร้าย และคล้ายไม่ต้องการเชื่อในที่โจวหมิ่งเจ๋อทำลงไปนางโอบร่างแกร่งไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเข้าไปใกล้โจวจางหมิ่น“จางหมิ่น...” น้ำเสียงระห้อยโหยแรงเอ่ยชื่อในลำคอ ดวงตาแสบร้อนแดงก่ำ แต่ไร้น้ำตา เขามองร่างสูงเกร็งคล้ายเขาถอยหลังไปอีกสองก้าวในยามนี้โจวจางหมิ่นสีหน้าสงบลงแล้วราวกับว่ายอมรับบางอย่าง ริมฝีปากบิดโค้งคล้ายรอยยิ้มก่อนจะทิ้งร่างลงเหวลึกด้วยป่ารกทึบด้านล่าง“จางหมิ่น จางหมิ่น!!! จางหมิ่นนน”บุรุษแกร่งเช่นโจวหมิงเจ๋อ ชั่วชีวิตกระทำการทารุณคน สังหาร มองเลือดและความตายด้วยความเยือกเย็นไร้ความรู้สึก แต่มาบัดนี้โจวจางหมิ่นที่เขาอุ้มชูเลี้ยงมากับมือทิ้งร่างอัตวิบากกรรมต่อหน้าเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงคุกเข่าเท้าฝ่ามือลงพื้นท่ามกลางใบไม้ร่วงหล่นสีส้มแดงในต้นฤดูหนาว“

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 29 บทพิเศษ จบบริบูรณ์

    บทที่ 29 บทพิเศษยามเหม่าในทุกวัน โจวหมิงเจ๋อมักลุกขึ้นเพื่อลงไปฝึกยุทธิ์กับคนของสำนักคุ้มภัยด้วยตนเองไป๋หลินเอ๋อร์พลิกกายโอบลำแขนอ่อนนุ่มรัดเขาไว้เอ่ยเสียงเบา“ท่านพี่ ยามเหม่าแล้ว”โจวหมิงเจ๋อตวัดรัดท่อนแขนให้ร่างเล็กบอบบางเกยขึ้นมานอนบนแผ่นอก ลูบฝ่ามือร้อนลงแผ่นหลังเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์“เนื้อเจ้านุ่มมือ” ฝ่ามือใหญ่กางออกลูบแผ่นหลังรั้งนางให้ถดขึ้นกระทั่งริมฝีปากจดกันขยับแผ่วเบา“ป่านนี้เด็ก ๆ คงตื่นกันหมดแล้ว”“แล้วอย่างไร ตื่นแล้วก็ให้ยืนรอหน้าห้องไปก่อน”“ท่านพี่”“ยามเช้าเช่นนี้ ควรอยู่กันแต่ในผ้าห่มดีหรือไม่ กกกอดก่ายรัดร่าง”“ฮะ ฮ่า ท่านพี่ หลินเอ๋อร์ลูกสามแล้วเจ้าค่ะ ไม่อยากท้องอีก”“ถ้าเช่นนั้น พี่จะไม่หลั่งน้ำพิสุทธิ์ข้างในเจ้า เช่นนี้หลินเอ๋อร์ยินยอมหรือไม่”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปากดันร่างตนเองออกแต่ถูกรั้งลงใต้ร่างทันควัน จับนางพลิกคว่ำ จูบขบลงฟันบนแผลเป็นรูปเสือ“คำกล่าวนี้ ท่านพี่บอกข้าเป็นพันครั้ง จนข้าขี้เกียจจดจำจะใส่ใจ”“ฮึ ในเมื่อหลินเอ๋อร์ไม่ใส่ใจ เช่นนั้นพี่จะถือว่าเจ้าอนุญาต” โจวหมิงเจ๋ออมยิ้มขณะพรมจูบไต่ลงแผ่นหลังนวลเนียน มือก่อกวนวนเวียนไม่ห่างทั้งลูบคลำ ทั้งล้

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทนำ

    บทนำอว๊ากกกกส์ ..... ควับ .... ควับ .....ชายร่างสูงใหญ่ส่วนชุดเซินอีสีดำคาดผ้ารัดเอวห้อยหยกแดง เนื้อผ้ามันเงาลวดลายมังกรสลับเสือน่าเกรงขามยืนนิ่ง แผ่นหลังเหยียดตรงแม้ว่ามือกำลังขีดเขียนตัวอักษรฝึกสมาธิด้วยพู่กันขนม้าด้ามไม้กฤษณาอวลกลิ่นหอมเส้นผมสีดอกเลาแซมปะปนสีดำขลับมัดรวบขึ้นกลางศีรษะประดับด้วยสายรัดพลอยแดงเม็ดใหญ่ ดวงหน้างดงามราวเทพเซียนทว่ารอบกายกลับแผ่รังสีเย็นชาโหดเหี้ยมแปะ ... โจวหมิงเจ๋อคิ้วเรียวดุจกระบี่กำลังขมวด เพ่งมองหยดเลือดกระเซ็นออกมาจากตัวนักโทษหล่นลงบนกระดาษสาม้วนยาวเบื้องล่าง เขาเงยศีรษะขึ้นจ้องไปยังหนุ่มร่างสันทัดกรอบหน้าเหลี่ยมตาตี๋ผิวดำคล้ำซึ่งบัดนี้แดงฉานชุ่มด้วยเลือดโชกจนน่าสะอิดสะเอียน มือทั้งสองข้างถูกมัดด้วยโซ่ตรวนใหญ่แขวนบนขื่อคานจนตัวลอยเท้าแทบไม่ติดพื้น“ระวังด้วย เลือดหยดลงมาบนกระดาษ” โจวหมิงเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชา อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวรวมไปถึงดวงตาสีนิลลึกล้ำจนยากหยั่งถึง ดำมืดดั่งรัตติกาล“ขอรับ” เฉียนฟานองครักษ์คนสนิทก้มศีรษะรับคำเย็นชาพอกันกับเจ้านาย แล้วรัดแส้สำหรับฟาดม้าพันรอบฝ่ามือหลายทบขึ้นอีกเพื่อลงแรงได้ถนัด สะบัดไปทิศทางตรงข้า

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 1  ยิ่งตี้

    บทที่ 1 ยิ่งตี้ในยุคสมัยชินชิวจ้านกว๋อ การแต่งงานสมรสหมู่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายคล้ายค่านิยมของบ่าวสาว กล่าวคือ หากเจ้าสาวบ้านใดมีฐานะร่ำรวยมั่งมี การแต่งงานแบบยกทีมฝ่ายหญิงขบวนจะยิ่งมากมายยาวเหยียดเมื่อชายใดพึงพอใจหญิงบ้านใด พาแม่สื่อสู่ขอตามประเพณีพิธีการมาเป็นภรรยา พ่อแม่ฝ่ายหญิงนอกจากจะยกลูกสาวตนให้ด้วยความเต็มใจแล้ว ยังใจดีแถมเมียบำเรอกามให้อีกโขยงใหญ่คล้ายสินสอดที่เจ้าสาวนำมาฝากเป็นของกำนัลฝ่ายเจ้าบ่าวยิ่งรวย ขบวนยิ่งยาว ไม่ว่าจะเป็นหลานสาว ลูกพี่ชาย น้องชาย พี่สาวน้องสาวแท้ ๆ ของเจ้าสาว หรือสาวใช้ส่วนตัวก็ตาม ยิ่งเอิกเกริก ยิ่งมีหน้ามีตา แต่หาใช่จะมีแต่หญิงสาวเท่านั้น ฝ่ายเจ้าสาวจะนำเพศชายบุรุษรูปงามรวมไปในขบวนด้วย มาเพื่อทำหน้าที่เต้นระบำ ฟันดาบ หรือแม้กระทั่งเสพสังวาส เพื่อป้องกันมิให้บุตรเขยตนเที่ยวซ่องโสเภณีชายหากเจ้าบ่าวมิชื่นชอบ ชายเหล่านี้จะถูกนำไปเป็นคนรับใช้ภายในจวน หรือขายออกไปก็ย่อมได้ซึ่งของกำนัลเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘ยิ่งตี้’ไป๋หลินเอ๋อร์ นางเป็นเพียงหญิงรับใช้ซื้อมาเพื่อเสริมให้ขบวนยิ่งตี้ยิ่งใหญ่สมฐานะตระกูลฮุ่ย พ่อค้าขายผ้าแพร นางเด

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 2  ตระกูลโจว

    บทที่ 2 ตระกูลโจวงานแต่งตระกูลโจวผู้มากด้วยเงินทอง ชื่อเสียง ด้วยฐานะสำนักคุ้มภัยอันเลื่องชื่อ แม้กระทั่งผู้ครองนครแห่งรัฐฉินยังเกรงใจถึงแปดส่วน ย่อมเอิกเกริกและใหญ่โตมากด้วยผู้คน โต๊ะกินเลี้ยง และงานรื่นเริงสามวันสามคืนมิได้หยุดหย่อนแต่ทว่าเรือนนอนที่จัดไว้ในเหล่ายิ่งตี้เล็กนัก ไป๋หลินเอ๋อร์พลิกตะแคงตัวนอนเบียดเสียดแถวเรียงหนึ่งบนพื้นกระดานในห้องโถงกลาง มีเพียงฟูกนอนไร้ผ้าห่ม ซ้ำอากาศยามนี้ล่วงเข้าปลายหน้าฝนนำพาลมเย็นยะเยือกนางไม่อาจหลับได้ลงจริง ๆ จะพลิกนอนหงายยังไม่ได้ จึงพยุงกายขึ้นนั่ง “เฮ้อ...”“พี่หลินเอ๋อร์” เสียงเล็กกระซิบเรียกแล้วเอนกายขึ้นจากพื้นเรือนเช่นเดียวกัน“ยังไม่หลับอีกหรือจางอวี้”“เจ้าค่ะ ร้อนเกินไป”จริงดั่งที่จางอวี้ว่า แม้ว่าภายนอกฝนลงเม็ดพรำและเย็นยะเยือกแต่ภายในเรือนเล็กกลับอับชื้นจนเหนียวตัว“ถ้าเช่นนั้น ออกไปเดินเล่นดีหรือไม่ พี่ไม่ไหวแล้ว” ไป๋หลินเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนทันที “ออกไปเดินเล่นฟังมโหรสพหรือดูโคมไฟยังดีกว่านอนแออัดราวหมูในคอก”“คิก คิก พี่หลินเอ๋อร์เข้าใจพูดเปรียบเทียบ เจ้าค่ะ ไปก็ไป”ร่างเล็กกว่าของจางอวี้วิ่งตามร่างสูงระหงอวบอิ่มของไป๋หลินเ

บทล่าสุด

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 29 บทพิเศษ จบบริบูรณ์

    บทที่ 29 บทพิเศษยามเหม่าในทุกวัน โจวหมิงเจ๋อมักลุกขึ้นเพื่อลงไปฝึกยุทธิ์กับคนของสำนักคุ้มภัยด้วยตนเองไป๋หลินเอ๋อร์พลิกกายโอบลำแขนอ่อนนุ่มรัดเขาไว้เอ่ยเสียงเบา“ท่านพี่ ยามเหม่าแล้ว”โจวหมิงเจ๋อตวัดรัดท่อนแขนให้ร่างเล็กบอบบางเกยขึ้นมานอนบนแผ่นอก ลูบฝ่ามือร้อนลงแผ่นหลังเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์“เนื้อเจ้านุ่มมือ” ฝ่ามือใหญ่กางออกลูบแผ่นหลังรั้งนางให้ถดขึ้นกระทั่งริมฝีปากจดกันขยับแผ่วเบา“ป่านนี้เด็ก ๆ คงตื่นกันหมดแล้ว”“แล้วอย่างไร ตื่นแล้วก็ให้ยืนรอหน้าห้องไปก่อน”“ท่านพี่”“ยามเช้าเช่นนี้ ควรอยู่กันแต่ในผ้าห่มดีหรือไม่ กกกอดก่ายรัดร่าง”“ฮะ ฮ่า ท่านพี่ หลินเอ๋อร์ลูกสามแล้วเจ้าค่ะ ไม่อยากท้องอีก”“ถ้าเช่นนั้น พี่จะไม่หลั่งน้ำพิสุทธิ์ข้างในเจ้า เช่นนี้หลินเอ๋อร์ยินยอมหรือไม่”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปากดันร่างตนเองออกแต่ถูกรั้งลงใต้ร่างทันควัน จับนางพลิกคว่ำ จูบขบลงฟันบนแผลเป็นรูปเสือ“คำกล่าวนี้ ท่านพี่บอกข้าเป็นพันครั้ง จนข้าขี้เกียจจดจำจะใส่ใจ”“ฮึ ในเมื่อหลินเอ๋อร์ไม่ใส่ใจ เช่นนั้นพี่จะถือว่าเจ้าอนุญาต” โจวหมิงเจ๋ออมยิ้มขณะพรมจูบไต่ลงแผ่นหลังนวลเนียน มือก่อกวนวนเวียนไม่ห่างทั้งลูบคลำ ทั้งล้

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 28 ความลับ

    บทที่ 28 ความลับไป๋หลินเอ๋อร์ดีดตัวออกจากโจวจางหมิ่นทันทีแล้วโผเข้าหาบุรุษตรงหน้า ให้เขาโอบรัดนางไว้ด้วยลำแขนแข็งแกร่ง ซบดวงหน้าเปื้อนหยาดน้ำลงอกกระเพื่อมไหวจากแรงสูดลมหายใจไร้เสียงร้องใด ๆ จากโจวจางหมิ่น คมลูกธนูปักลงหัวไหล่ขวาที่รัดลำคอนางไว้ สีหน้าโจวจางหมิ่นปวดร้าว มองโจวหมิงเจ๋อด้วยดวงตากล่าวหา มาดร้าย และคล้ายไม่ต้องการเชื่อในที่โจวหมิ่งเจ๋อทำลงไปนางโอบร่างแกร่งไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเข้าไปใกล้โจวจางหมิ่น“จางหมิ่น...” น้ำเสียงระห้อยโหยแรงเอ่ยชื่อในลำคอ ดวงตาแสบร้อนแดงก่ำ แต่ไร้น้ำตา เขามองร่างสูงเกร็งคล้ายเขาถอยหลังไปอีกสองก้าวในยามนี้โจวจางหมิ่นสีหน้าสงบลงแล้วราวกับว่ายอมรับบางอย่าง ริมฝีปากบิดโค้งคล้ายรอยยิ้มก่อนจะทิ้งร่างลงเหวลึกด้วยป่ารกทึบด้านล่าง“จางหมิ่น จางหมิ่น!!! จางหมิ่นนน”บุรุษแกร่งเช่นโจวหมิงเจ๋อ ชั่วชีวิตกระทำการทารุณคน สังหาร มองเลือดและความตายด้วยความเยือกเย็นไร้ความรู้สึก แต่มาบัดนี้โจวจางหมิ่นที่เขาอุ้มชูเลี้ยงมากับมือทิ้งร่างอัตวิบากกรรมต่อหน้าเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวลงคุกเข่าเท้าฝ่ามือลงพื้นท่ามกลางใบไม้ร่วงหล่นสีส้มแดงในต้นฤดูหนาว“

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 27 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 27 โจวจางหมิ่น“เข้าใจผิด!! ข้าไม่ได้มีเรื่องอะไรบาดหมางกับเจ้า ยิ่งตี้หรือฮูหยินท่านเจ้าสำนัก” โจวจางหมิ่นเดินเข้าใกล้โน้มหน้าลงต่ำ กระชากผมจนดวงหน้าของนางแหงนขึ้น“เจ้าไม่มีสิ่งใดผิด ผิดแค่ว่าเจ้ามาอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่านพ่อต่างหากที่ข้าต้องการให้เขาทุกข์ทรมาน และข้ารู้ว่าท่านพ่อรักเจ้า”“โจวหมิงเจ๋อไม่ได้รักข้า ท่านเข้าใจผิด”“เจ้าไม่รู้จักนิสัยของพ่อข้าดี ท่านพ่อเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ อวี้เจียวจงรักภักดีรับใช้มาเนิ่นนาน เขายังยกให้เฉียนฟานโดยง่ายดาย แต่กับเจ้า..”มือนุ่มดั่งหญิงสาวเชยปลายคางนางขึ้นแล้วบีบ“พบเพียงไม่กี่หนกับยกย่องร่วมชีวิต สัญญาผูกพันนิจนิรันดร์ ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้ามีดีอะไร หน้าตาไม่ได้สะสวย ทั้งรูปร่างไม่ได้เสี้ยวหญิงงามเมือง แต่เอาเถิด อย่างไรเสียเจ้าต้องตาย”โจวจางหมิ่นกดริมฝีปากนางล้วงนิ้วเข้า แล้วเผยอปากตัวเองคล้ายแสยะยิ้ม “ให้เขาได้ทุกข์ทนเช่นแม่ข้า ลุกขึ้น บอกลาชีวิตของเจ้าได้แล้ว”แรงบุรุษกระชากดึงนางขึ้นจากพื้น สาบเสื้อหลุดรุ่ยจนพ้นเนินทรวงหนึ่งข้าง โจวจางหมิ่นหลุบตามองก่อนใช้มือบีบขยำลงแรง“ทว่า เจ้าเองก็น่าลิ้มลอง บางคราวข้าก็เคยคิดว่าถ้าได้ร่วมเ

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 26 โจวจางหมิ่น

    บทที่ 26 โจวจางหมิ่นยามเว่ยในช่วงต้นฤดูหนาวชานเมืองหลวงของสำนักคุ้มกันภัยเสวี่ยจง ที่โอบล้อมด้วยป่าไผ่ ยิ่งพาให้อากาศเย็นขึ้นอีกหลายเท่าตัวไป๋หลินเอ๋อร์กระชับเสื้อคลุมตัวยาวที่ชางซิงเยียนกำชับเป็นหนักหนาให้นางสวมมาด้วย แม้ว่านางบอกแล้วว่ามาแค่เรือนหลักเท่านั้นนางเดินผ่านสวนกลางเรื่อยจนมาถึงเรือนหลัก ไม่ทันได้เอ่ยแจ้งเด็กในเรือนพลันเห็นโจวจางหมิ่นยืนนิ่งตรงโค้งประตูวงเดือนทางออกสวนด้านหลังทุกคราที่นางพบหน้าโจวจางหมิ่น ขนแขนนางมักลุกชันอย่างน่าประหลาด และยามนี้ก็เช่นกัน นางมองสีหน้ากระหยิ่มและมุมปากโค้งขึ้นละม้ายโจวหมิงเจ๋อ แต่ก็แค่ละม้าย เพราะส่วนใหญ่บนใบหน้าของชายร่างเกร็งคนนี้ไม่เหมือนโจวหมิงเจ๋อแม้แต่น้อยนางขยับเข้าไปใกล้วางสีหน้าเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นรัวดั่งกลองศึก ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเห็นความแตกต่าง โจวหมิงเจ๋อแม้ว่าการกระทำเย็นชารุนแรง ทว่ากลับมีความเมตตาต่อผู้อื่น ผิดไปจากบุตรชายที่แผ่กลิ่นอายโฉดชั่วทวีคูณ ยิ่งเห็นรอยแผลบนร่างฮุ่ยหรู ยิ่งรับรู้ว่าชายผู้นี้กระทำต่อสตรีเพศราวกับเป็นสัตว์สิ่งของ“ท่านแม่”นางมองร่างสูงของโจวจางหมิ่นโค้งลงคำนับนางราวกับว่าเป็นบุตรชายแท้จริงของนาง ทว

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 25 ฮุ่ยหรู

    บทที่ 25 ฮุ่ยหรูเพียะ เพียะ!!ฮุ่ยหรูล้มคว่ำลงทันทีเมื่อฝ่ามือของโจวจางหมิ่นกระทบใบหน้าเป็นครั้งที่สอง ร่างอ่อนแออย่างหญิงตั้งครรภ์สามเดือนกองบนพื้นน้ำตานองหน้า“ข้าบอกเจ้าให้ทำเช่นไรฮุ่ยหรู”“ฮื้ออ ขะ ข้า ข้ายัง พบ นางไม่ได้”เพล้ง!!โจวจางหมิ่นปัดกระถางกำยานล้มคว่ำเฉียดใบหน้าฮุ่ยหรูจนนางผงะออก ดวงตาหวาดกลัวไหวระริก เหลือบมองสามีที่นางแต่งเข้ามายังตระกูลโจวอันร่ำรวยและมากยศฐา“ยามนี้นางอยู่แต่บนหอ ท่านพ่อไม่ยอมให้นางลงมา อร้าย!! อย่า ข้ากลัวแล้ว”ฮุ่ยหรูยกมือไหว้ประลก ๆ น้ำตาไหลนองจนมองไม่เห็นสีหน้าสามี แต่นางรู้ว่าใบหน้าหล่อราวหยกกำลังบิดเบี้ยวจากแรงโกรธ เขากระชากผมนางดึงขึ้นมาจากพื้นเพียะ!!ใช้หลังฝ่ามือฟาดลงใบหน้าอีกครั้งแล้วผลักนางให้ล้มลงกับพื้น ยกเท้าเหยียบนางไว้“เวลาข้าสั่ง ไม่มีข้ออ้างฝ่าฝืน เข้าใจหรือไม่ภรรยารัก”นางพยักหน้ารับ ดวงหน้าแนบพื้นเย็นเยียบ สะอื้นขึ้นแรงก่อนที่โจวจางหมิ่นจะประคองนางขึ้นมาโอบกอดแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยนผิดไปจากคราแรก“วันพรุ่ง เจ้าจงไปหานาง คุยกับนางให้นางคลายใจ ชักชวนนางดั่งที่ข้าบอกไว้ เข้าใจหรือไม่ฮุ่ยหรู”มือร้อนลูบผมนางประคองนางไปนั่งที่เตียง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 24 nc

    บทที่ 24 nc“แผลหายสนิทแล้ว”“หายแค่ภายนอก แต่จิตใจข้าไม่”นางกระชากเสียงใส่ ดึงดันจะลุกขึ้นแต่มือใหญ่รวบนางไว้ให้นั่งลงซ้อนด้านหน้า“ไหน จิตใจเจ้าที่ตรงใดกัน ข้าจะทำความสะอาดให้หมดจด ขจัดความขุ่นมัวออกไปให้เอง”ไม่เพียงเอ่ยด้วยเสียงกระเส่า มือรั้งร่างเล็กพร้อมผ้าในมือ เช็ดถูแผ่นหน้าท้อง ซบหน้าลงหัวไหล่ เลื่อนผ้านุ่มขึ้นหาทรวงอก นางสะดุ้งทันที“ข้ามือหนักไปหรือ?”ไป๋หลินเอ๋อร์เม้มปาก มือจับขอบอ่างไว้ไม่กล้าขยับตัว ผ้านุ่มค่อยถูทำความสะอาดเนื้อนุ่มอวบอิ่มแผ่วเบา ในยามนี้นางรู้ตัวแล้วว่าคงหนีไม่พ้นบุรุษด้านหลังเป็นแน่ หากยังขืนตัวไม่อ่อนลงคงเป็นนางเองที่เจ็บตัว“ท่าน จะเบามือกับข้าสักหน่อยได้หรือไม่”โจวหมิงเจ๋อชะงักไปครู่ เอียงหน้าไปมองดวงหน้างาม ปากกระจับเม้มแน่น พวงแก้มขึ้นสีระเรื่อ นางเอี้ยวกลับมาจ้องตอบ“เหตุใดไม่ตอบข้า”“ไม่ได้”ไป๋หลินเอ๋อร์สะอึกแล้วนิ่งงัน ก่อนจะเอ่ยถามอีก “ถ้าเช่นนั้น สอนข้าให้ ... ให้ข้าเจ็บน้อยที่สุด”โจวหมิงเจ๋อปล่อยผ้าออกจากมือ แล้วแทนที่ด้วยฝ่ามือร้อนจัดกอบกุมเนินทรวง “เจ้าอาจเริ่มจากผ่อนคลาย และสนุกกับสิ่งที่ข้าทำ”“สนุกงั้นหรือ”“ใช่แล้ว ถ้าข้าทำเช่นนี้

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 23 อาบน้ำ

    บทที่ 23 อาบน้ำ“เจ้ามันคนบ้า”ถ้อยคำแรกที่ไป๋หลินเอ๋อร์ได้ยินจากเสียงทุ้มก้องต่ำและดวงหน้าแกร่งคมสันหน้าบึงตึ้งจ้องนางราวกินเลือดกินเนื้อ“ข้าชนะแล้วใช่ไหม” เสียงที่เคยหวานนุ่มแหบเครือ ยิ้มมุมปาก ดวงตาดอกท้อขยับปิดอีกครั้ง“ฮึ” โจวหมิงเจ๋อแค่นเสียงก่อนจะขยับผ้าห่มขึ้นให้จนมิดถึงคอ “ท่านหมอสุยฉวูเพิ่งจะกลับไป โชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร”นางจับมือเขาไว้ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ส่งรอยยิ้มอ่อนระโหย“ข้า..ขอบคุณท่าน โจวหมิงเจ๋อ”บุรุษปีศาจตรงหน้านางกำลังใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นทีละน้อย“รอไว้ให้ข้าอยู่เฝ้าไข้เจ้าเองก่อนเถิด แล้วเจ้าจะถอนคำพูด”“หมายความว่าอะไร”“ท่านหมอสุยฉวูกำชับให้เจ้าพักผ่อนให้มาก และข้าไม่ไว้ใจใครให้เฝ้าไข้เจ้าอีกแล้ว จึงอาสาตนเองมาเป็นทาสรับใช้เจ้าไง”“ทาสรับใช้?”“อย่ามัวพูดมาก นอนเสียก่อน พรุ่งนี้เช้าข้าสั่งโจ๊กปลาไว้แล้ว”โจวหมิงเจ๋อดึงมือออกแล้วเดินไปดับเทียนในห้องจนเหลือเพียงหนึ่งดวง ยังไม่ทันเดินกลับมาไป๋หลินเอ๋อร์ก็หลับสนิทไปแล้ว จึงนั่งลงขอบเตียงดั่งเก่า ใช้ปลายนิ้วปัดปอยผมออก“เจ้ามันคนบ้า หลินเอ๋อร์” เสียงทุ้มกระซิบในลำคอ นัยน์ตาล้ำลึกมองดวงหน้าหวานที่มีร่อง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 22 นายท่านกลับมาแล้ว

    บทที่ 22 นายท่านกลับมาแล้วซ่า...โครม!! เฮือก!!“อะไรกัน!!”ไป๋หลินเอ๋อร์สะดุ้งเฮือกสุดตัวลืมตาเบิกโพลงตกตะลึงยามแหงนดวงหน้าเปียกโชกด้วยน้ำเห็นนายท่านเจ้าสำนักคุ้มภัยยืนค้ำร่างดวงตาวาวแสงลุกโชนด้วยไฟโทสะ“มัดพวกนาง ลากกลับสำนัก”สิ้นเสียงพลันข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกรวบพร้อมถูกกระชากร่างขึ้นจากพื้น ดวงตาดอกท้อเหลียวมองจางอวี้ บัดนี้สีหน้าซีดเผือดตื่นกลัว ดวงตาเบิกกว้างระคนสับสน“ไม่ต้องกลัวจางอวี้”“ฮึ” โจวหมิงเจ๋อแค่นเสียง “เก็บไว้ปลอบใจตัวเองดีกว่า ฮูหยิน”นางตวัดสายตากลับมา แล้วผงะถอยหลัง นัยน์ตาสีเข้มยามโพล้เพล้แดงฉานวาวโรจน์ส่องประกายดั่งปีศาจ ขมึงทึงและบิดเบี้ยว“จางอวี้ไม่มีส่วน หากท่านต้องการลงโทษ ลงโทษข้า” นางโผเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ โจวหมิงเจ๋อขยับร่างหนีจนนางเกือบล้มลงตรงหน้า แต่ชางซิงเยียนคว้านางไว้ได้ทัน“เจ้าคงไม่รู้ว่ายามใดควรทำสิ่งใด หากเจ้ายังเข้าใกล้ข้าในตอนนี้ ข้าคงไม่อาจยับยั้งใจไว้ได้ฮูหยิน” โจวหมิงเจ๋อหันหลังกลับ ทั่วร่างกายคุกรุ่นด้วยความโกรธ“ท่านจะทำอะไร ทำกับข้าอย่างที่ทำกับสตรีในบ้านร้าง!! ใช่หรือไม่”ไป๋หลินเอ๋อร์ตะโกนถามเสียงดัง แล้วจึงสะดุ้งสุดตัวถอยฉากหนีถึง

  • ยิ้งตี้ตระกูลโจว   บทที่ 21 โจวหนิงเหมย

    บทที่ 21 โจวหนิงเหมยไม่ทันสิ้นคำพลันเสียงร้องหวีดโหยหวนดังขึ้นอีกครั้งยาวนาน จนพวกนางต้องยกมืออุดหู“แม่นางในนั้นอาจป่วย”“ไม่พี่หลินเอ๋อร์ ข้าว่านางเป็นบ้า”“อย่างไรเราควรเข้าไปดู”จางอวี้ดึงรั้งมือไป๋หลินเอ๋อร์ไว้ จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่อาจหยุดยั้งพี่สาวคนนี้ได้จึงเดินตามติดด้านหลังแบบจมูกแนบแผ่นหลังเรือนหลังเล็กนี้รูปทรงคล้ายกระท่อมบ้านของไป๋หลินเอ๋อร์ บ้านชาวบ้านสร้างง่าย ๆ มีเพียงห้องเดียวรวมทั้งหมด ครัว ห้องนอน กินข้าว นางค่อยเดินแผ่วเบาไปยังขอบหน้าต่างก้มลงต่ำ แล้วโผล่ขึ้นมาแค่พ้นขอบลูกตา“อื้อออออ กรี๊ดดดด อ๊าชชชช์”หญิงสาวคนหนึ่งรูปร่างผอบบางมากอายุราวสามสิบกว่าปลายสี่สิบหรืออาจมากกว่านั้น ไป๋หลินเอ๋อร์ประมาณไม่ได้เพราะผมขาวแล้วเกือบทั้งศีรษะ นางนั่งก้มหน้าร้องไห้ ปล่อยผมกระเซอะกระเซิง แม้ว่าภายในกระท่อมจะเก่าและโทรม ทว่าการแต่งกายกลับสะอาดสะอ้าน คล้ายกับว่ามีคนคอยดูแล ทั้งเนื้อตัวไม่ได้เปื้อนมอมแมมคลุกฝุ่นไป๋หลินเอ๋อร์และจางอวี้มองหน้ากัน ก่อนที่ไป๋หลินเอ๋อร์จะตัดสินลุกขึ้นยืน“แม่นาง”หญิงสาวคนนั้นเมื่อได้ยินเสียงคนแปลกหน้าพลันผุดลุกขึ้นทันที กวาดมองไปรอบห้อง“กรี๊ดดดดดดด

DMCA.com Protection Status