หน้าหลัก / รักโบราณ / ยาจกยอดมารดา / ตอนที่8. รอยยิ้มละมุน

แชร์

ตอนที่8. รอยยิ้มละมุน

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-06 16:58:20

ต้วนอี้หลาง เดินเข้ามาช่วยบีบไหล่ให้มารดา เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้แก่นาง เด็กชายรู้ดีว่ามารดา ต้องการให้พวกตน มีชีวิตที่ไม่ต้องเร่ร่อน จึงตอบรับเป็นบุตรสาวบุญธรรม ของท่านตาท่านยาย และลงมือทำงานอย่างหนัก

          “อี้หลาง ขอแค่เรามีโอกาสที่จะลืมตาอ้าปาก คำว่าเหน็ดเหนื่อยมันไม่มีในหัวแม่เลยรู้ไหม แม้เจ้ายังเด็กอยู่ ก็ต้องมั่นที่จะหาความรู้ให้มาก เพื่ออนาคตที่ดีรู้ไหม ภายหน้าไร้แม่คอยคุ้มภัย เจ้าจะได้ดูแลตนเองได้”

          หญิงสาวลูบมือน้อยๆ ของบุตรชาย ด้วยความรักใคร่ นี่หรือคำว่าแม่ที่นางเคยใฝ่ฝันอยากเป็น ก็ดีนางไม่ต้องทนเจ็บปวดตอนคลอด ยุคนี้ไม่มีเครื่องมือทำคลอด หากต้องมาอุ้มท้องและคลอดเอง นางคงคิดหนักไม่น้อย

          “ข้าจะปกป้องพวกเขาแทนเจ้าอี้หรู เจ้าเก่งมากในฐานะแม่ ที่สู้เพื่อพวกเขาจนลมหายใจสุดท้าย”

          หญิงสาวบอกกล่าว แก่คนที่จากไปแล้วอยู่ภายในใจ คงไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่าการมีชีวิตอยู่ เพื่อมองอนาคตของลูกๆ

          “ข้าจะทำทุกอย่าง ให้ครอบครัวของเรามีความสุขขอรับ”

          แก๊ก! เด็กชายตวัดสายตา ไปยังเสียงแปลกปลอมในทันที กิ่งไม้แห้งที่อยู่ด้านนอก ถูกเหยียบหัก แม้จะเบาสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ใช่ตัวเขา เด็กชายหันกลับมาที่มารดา โดยที่มือยังคงบีบนวดคลายเส้น ให้แก่ผู้เป็นแม่อย่างตั้งใจ

          “เจ้าเข้าไปนอนเถอะ ทางนี้แม่จัดการเอง”

          หญิงสาวที่ได้ยินเสียงกิ่งไม้หัก เริ่มห่วงใยในความปลอดภัยของบุตรชายเช่นกัน นับตั้งแต่ตื่นมา นางก็ฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก ชาติที่แล้วนางตายเพราะวางใจคนใกล้ตัว หากวันนั้นไม่มึนเมาจากการดื่มฉลอง อย่างน้อยก็คงหนีรอดจากความตายได้

แต่ก็นะ...มันอาจถึงคราวตายของนาง จากคนไม่เคยประมาท ก็ละหลวมปล่อยให้ตนเองดื่มกินจนมึนเมา เพียงเพราะคิดว่าอยู่ในบ้านตัวเอง ไหนเลยคนลงมือก็คือคนในบ้าน

          “ข้าจะอยู่ช่วยท่านแม่ดีกว่าขอรับ”

          เด็กชายวัยสิบขวบ ที่มีรอยยิ้มละมุน หาได้ใสซื่อเยี่ยงเด็กไร้เดียง ทว่ามันคือแววตาพยัคฆ์ ฉายพาดผ่านไปชั่วขณะ สองแม่ลูกยังแสร้งไม่รู้เห็นสิ่งใด

          อี้หรูซึ้งในน้ำใจของพ่อแม่บุญธรรมยิ่งนัก เพราะคนที่ลงมือกับนางและลูก ยังคงวนเวียนหาหนทาง เพื่อเข้ามากำจัดพวกนางอยู่บ่อยครั้ง แต่บิดาก็สามารถปกป้องพวกนางมาได้ตลอด ถึงอย่างนั้นวันที่แมลงกลางคืน หลุดรอดสายตาของบิดาก็ต้องมาถึง และมันอยู่ใกล้ตัวนางกับลูกแล้วในตอนนี้ แค่กำลังรอเวลาลงมือเท่านั้น

“เจ้าช่วยดูหม้อยา รอแม่สักครู่นะ ประเดี๋ยวแม่มา”

แม้ไม่อยากให้ลูกอยู่ห่างสายตา แต่ก็จำต้องปล่อยเขาไว้เพียงลำพังสักครู่ ด้วยไม่อยากให้เกิดความล่าช้า เพราะการรบในแบบที่ตัวเองไร้ซึ่งพลังยุทธ์ ย่อมต้องมีอาวุธในการลงมือ

“ขอรับ”

เด็กชายรับคำมารดา ก่อนจะมานั่งหน้าเตาแทนผู้เป็นแม่ คล้อยหลังมารดา เด็กชายลุกไปเอาเหล็กแหลม ที่ใช้ในการแทงปลาไหลมาแหย่เข้าไปในเตาไฟ ก่อนจะกอดอกเอนกายผิงถังไม้ด้านหลัง พร้อมทั้งหลับตาลงอย่างช้าๆ

เงาร่างสีดำ เคลื่อนเข้ามาภายในห้องปรุงยา คนในชุดดำแสยะยิ้มเหี้ยม เมื่อเป้าหมายหลักของเขา อยู่เพียงลำพังแล้ว หากปล่อยให้รอดไปได้ งานของเขาคงต้องยืดเยื้อออกไปอีกนานทีเดียว

เด็กคนนี้พอร่างกายสะอาดสะอ้าน ดูสง่าสมสายเลือดนัก แต่น่าเสียดายที่เกิดมาจากมารดา ที่อาภัพโชคและเป็นก้างชิ้นใหญ่ของผู้เป็นนาย จึงมีคำสั่งให้กำจัดนางแม่ลูกไปเสีย

“ข้าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งท่านั้น เป็นอันตรายถึงขนาดต้องส่งมือสังหารมาเลยหรือ นายเจ้าช่างขลาดเขลานัก หึๆ”

คำพูดและเสียงหัวเราะของเด็กชาย ซึ่งพิงกายกับถังไม้ โดยที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเยียบเย็น ต่างจากเด็กวัยเพียงสิบขวบนี้เหลือเกิน

“ปากดีใช้ได้นี่...หึๆ”

ชายชุดดำไม่รีบรอ พุ่งเข้าหมายกำจัดเด็กชายในครั้งเดียว ทว่า...ฟิ้ว! ร่างสูงจำต้อง เบี่ยงกายหลบการโจมตี จากด้านหลังเสียก่อน สายตาดุกร้าวหันกลับไปยังที่มาของอาวุธ เป็นลูกดอกจากหน้าไม้ในมือของเป้าหมายสำคัญอีกคน

เด็กชายแสร้งขดตัว ด้วยความตื่นกลัว เมื่อเห็นแล้วว่าคนที่ลงมือ คืนมารดาของเขาเอง ใบหน้าที่เย็นชาของผู้เป็นแม่ ทำให้เขารู้สึกชื่นชมนางยิ่งนัก นี่ล่ะหนาคำว่าแม่ ต่อให้ตรงหน้าคือพยัคฆ์ร้าย ก็พร้อมกางปีกปกป้องลูก โดยไม่กลัวเกรงต่ออันตรายเบื้องหน้า

ชายชุดดำเห็นว่าหญิงสาวมีอาวุธ จึงคิดใช้เด็กชายเป็นทั้งโล่ และข้อต่อลองสำหรับจบภารกิจ จึงพุ่งเข้าหาเด็กชายอีกครั้ง เพื่อจับตัวเอาไว้

“อ๊ากกก!”

แต่ยังไม่ทันได้ถึงตัว มือของเขา กลับต้องปล่อยกระบี่ร่วงลงสู่พื้น เมื่อเหล็กแหลม ที่แดงฉานจากการเผาไฟ เสียบทะลุข้อมือของเขา มันแม่นยำราวจับวาง ขนาดตัวเขาที่เป็นนักฆ่ามานานปี ยังต้องใช้เวลานานนับสิบปี ในการฝึกฝนเพื่อให้ทรงพลังและแม่นยำได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่9. เจ้าเป็นใคร

    แต่เด็กเพียงสิบขวบเท่านั้น ไยจึงทำได้ขนาดนี้ พลังต้องมากพอ จึงสามารถแทงจนทะลุข้อมือของเขาได้ ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ลูกดอกถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชายชุดดำ คิดจะถอยไปตั้งหลักฟิ้ว! เคร้ง! ฉึก! ในจังหวะที่ลูกดอกพุ่งออกมาเฉียดใกล้เขา เด็กชายตวัดเหล็กแหลมในมือเพียงเล็กน้อย ลูกดอกที่ควรเลยผ่านไป กลับพุ่งเข้ากลางลำคอของเขาในทันที ยากนักที่เขาจะหลบเลี่ยงได้ทัน“เจ้าเป็นใครกัน...”เป็นคำถามสุดท้าย ที่ไม่มีโอกาสได้ฟังคำตอบ ด้วยเขาสิ้นใจไปเสียก่อน เด็กชายรีบทิ้งเหล็กแหลมในมือ วิ่งเข้าสวมกอดมารดาเอาไว้แน่น ร่างกายของเด็กชายสั่นเทา ด้วยความหวาดกลัว“แม่ขอโทษที่มาช้า ทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตราย”หญิงสาวปลอบโยนบุตรชาย พร้อมใช้มือลูบแผ่นหลังสั่นเทานั้นให้คลายกังวล หากไม่ตอบโต้ก็คงต้องหลบซ่อนไปชั่วชีวิต ไม่ต่างจากเต่าที่หดหัวแค่ในกระดอง สู้เป็นสุนัขจนตรอก ที่พร้อมหันหน้าสู้จนตัวตาย เมื่อบีบคันไม่ดีกว่าหรือ“เกิดเรื่องใดขึ้น อี้หรู อี้หลาง พวกเจ้าปลอดภัยหรือไม่”ชายชราวิ่งเข้ามาภายในห้อง ด้วยใบหน้าตื่นตระหนก เขาตื่นมาเพื่อผลัดเปลี่ยนกับบุตรสาว ในการเคี่ยวยาส่งให้บ้านสกุลชูในตอนเช้า แต่ไม่คิดว่าจะเห็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-06
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่10.เช้าวันถัดมา

    เช้าวันถัดมาสองตาหลาน ได้ออกจากโรงหมอไปตั้งแต่ฟ้ายังมิทันสาง ส่วนอี้หรูกับมารดา ได้เตรียมตัวออกไปส่งยาให้สกุลชูเช่นกัน หญิงสาวไม่ลืมที่จะปกปิดใบหน้าเอาไว้ เพราะใบหน้านี้ อาจนำความยุ่งยากมาสู้ตนเอง และครอบครัว “อี้หลง อี้หลิง เจ้าสองคน อย่าได้ออกมาด้านหน้าโรงหมอเป็นอันขาด รอแม่กับท่านยายกลับมา ค่อยออกมาวิ่งเล่นในสวนเข้าใจไหม” “ขอรับ/เจ้าค่ะ” คู่แฝดรับคำมารดาอย่างว่าง่าย นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับมารดาและพี่ชาย ไม่ว่าสิ่งใดที่แม่และพี่กำชับไว้ ทั้งคู่ไม่เคยคิดที่จะดื้อรั้นเลยแม้แต่น้อย “ท่านแม่ เราไปกันเถอะเจ้าค่ะ” หญิงสาวหันไปชวนมารดา “ยายจะซื้อขนมมาฝากพวกเจ้านะ อย่าซนเล่า”ต้วนฮูหยินพยักหน้ารับบุตรสาว ก่อนจะหันไปบอกกับคู่แฝด ด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก หากจะว่าไปแล้วในสามแฝด คงมีเพียงสองคนนี้เท่านั้น ที่ยังดูเป็นเด็ก ต่างจากหลานชายคนโต ที่ดูจะเคร่งครึม และพูดน้อยมาก ติดจะเย็นชาไปเสียด้วยซ้ำ แต่นางก็เข้าใจหลานชายคนโตดี การต้องเป็นผู้นำครอบครัวในภายหน้า ต้องฝึกฝนตนเอง ทั้งความคิดและการกระทำให้มาก ทว่านางก็ไม่เคยลำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่11. ผู้คุ้มกัน

    ชายชราไม่สนว่าอีกฝ่าย จะช่วยเหลือด้วยหนี้บุญคุณ หรือเพราะราคาค่าจ้าง ขอแค่ตอนนี้ครอบครัวเขาปลอดภัย สิ่งใดก็หาได้สำคัญไม่ “เป็นท่านลุงไม่ได้หรือขอรับ ที่ไปด้วยตนเอง” “อี้หลาง!” เป็นครั้งแรกที่ชายชรา รู้สึกว่าหลานชาย ทำตัวเสียมารยาท สอดแทรกการสนทนา ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน “ท่านหมออย่าได้ตำหนิเขาเลยขอรับ ข้าเองก็อยากรู้เหตุผลของความกล้านี้เช่นกัน” ชายหนุ่มเกรงเด็กชายจะถูกลงโทษ จึงได้เอ่ยปากช่วยเหลือ และเป็นอย่างที่เขาพูดไป เขาอยากรู้ว่าทำไม เด็กชายจึงอยากให้เขาไปด้วยตนเอง “ท่านลุงมีภรรยา แล้วหรือยังขอรับ” “อี้หลาง เจ้าอย่าได้เสียมารยาทเกินไปนัก ครานี้ตาต้องลงโทษเจ้าจริงๆ แล้วนะ” ชายชรารู้สึกกรุ่นโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว นี่นับเป็นเรื่องที่ก้าวล่วงอย่างแท้จริง “ไม่เป็นไรท่านหมอ ข้าชอบความใจกล้าของเขา เจ้าอยากรู้ข้าก็ไม่ขอปิดบัง ข้านั้นไร้ภรรยา รวมถึงทายาทด้วย” ชายหนุ่มผ่านโลกมาไม่น้อย พอจะเดาความคิดของเด็กชายออก แต่เขาเองก็อยากมั่นใจ ว่าคิดถูกหรือไม่กับการตีความ ในคำถามของต้วนอี้หลาง “เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่12.พวกเขาเป็นใครกัน

    “ท่านตาบอกว่าต้องออกไปนอกเมือง คงไกลพอสมควร ตอนนี้อาจกำลังเดินทางกลับอยู่ เจ้าก็อย่าได้กังวลให้มาก” แม้ปากจะบอกน้องสาวไปแบบนั้น ทว่าคนที่เอ่ยปากขอมารดา ออกมารอท่านตา และพี่ชายอยู่หน้าประตูใหญ่ ก็คือตัวเขาเอง “หากท่านตากับพี่ใหญ่มาถึง ข้าจะไม่คุยด้วยเลยคอยดู” เด็กหญิงแสร้งพูดไปอย่างนั้น เพราะนางจะต้องได้ฟังนิทานก่อนนอน จากพี่ชายคนโต หาไม่แล้วยากนักจะหลับได้สนิท ต้วนอี้หรู ยืนมองลูกๆ ด้วยแววตาเอ็นดู นางอนุญาตให้ทั้งคู่ออกมา ใช่ว่าตัวนางจะปล่อยพวกเขาให้ห่างสายตา การจะกักขังลูกๆ ไว้แต่ในบ้าน เพียงเพราะกลัวถูกทำร้าย แล้วเมื่อไหร่พวกเขาจะมีภูมิคุ้มกันตนเอง ในยามไร้นางและท่านตาท่านยายคอยปกป้อง “เจ้าเหนื่อยมาทั้งวัน ไยไม่ไปพักสักหน่อยเล่า บิดาเจ้ากลับมาค่อยกินข้าวกัน” ต้วนฮูหยิน ลูบต้นแขนบุตรสาว ด้วยความห่วงใย สามีกับหลานชายไปธุระนอกเมือง บุตรสาวรับหน้าที่ทำทุกอย่างแทน แม้จะมีคนในโรงหมอคอยช่วย แต่ก็ยังคงหนักอยู่ดี นับตั้งแต่บุตรสาว ปรุงยารักษาที่สะดวกต่อการใช้ รวมทั้งมีเครื่องประทินผิวสำหรับบุรุษและสตรี ทำให้โรงหมอคับคั่งไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่13. แฝด

    เพราะชายทั้งสามก็อดไม่ได้ ที่จะอุทานอยู่ในใจ ตอนแรกคิดว่าแค่แฝดสอง ทว่าพอเห็นเด็กอีกคน ก้าวลงจากรถม้า พวกเขาถึงกับตื่นตะลึงกันอยู่ไม่น้อย“ไยวันนี้เจ้าดื้อกับตานักนะ” ชายชราอดดุหลานชายไม่ได้“เขาอยู่กับท่านลุงดีแล้วขอรับ ข้าจะไปกับสองแสบนั่นเอง”ปึกๆ มือใหญ่ตบหนักๆ ลงบนบ่าของอี้หลาง นี่คือความน่าสนใจ ที่ดึงดูดให้เขามาด้วยตนเอง เด็กคนนี้มีสายตาเฉียบคมเกินวัย ไม่สิ! นิสัยประเภทนี้ ส่วนมากลูกหลานฮ่องเต้ และทายาทเหล่าแม่ทัพมักจะเป็นกันเพราะต้องเป็นผู้นำ จึงถูกฝึกฝนการต่อสู้ และเรียนรู้ตำรามาอย่างเข้มงวด จึงไม่แปลกที่จะเห็นทายาท ของสายเลือดเหล่านั่น มีความเฉียบคมและเก็บทุกความรู้สึกได้ดีกว่าเด็กโดยทั่วไปแน่นอนว่าคนทั้งสาม มีจุดประสงค์ในการมา ต้วนอี้หลางเลยเลือกที่จะตามติดท่านหมอต้วนไป คงเพราะห่วงในความปลอดภัยของชายชรา เขาเองก็อยากรู้ถึงฝีมือของเด็กชายเช่นกัน“เช่นนั้น...เจ้าเข้าไปรอข้าในเรือน กับท่านป้าและน้องสาวเจ้าก่อน เสร็จแล้วเราค่อยไปกินมื้อค่ำกัน” ชายชราบอกแก่ชายหนุ่ม ซึ่งติดตามมาในคราบของญาติ“ขอรับ” ชายหนุ่มรับคำ“คุณชายเชิญด้านในเจ้าค่ะ”แม่นมหวัง ผายมือให้แก่ชายหนุ่ม ซึ่งนางไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่14.ไม่ได้ไร้เดียงสา

    “คนอย่างพวกเจ้า กลัวผีเด็กเยี่ยงข้าด้วยหรือ”เด็กชายแสยะยิ้มเหี้ยม ภาพนี้มีเพียงสามคนร้ายเท่านั้นที่เห็น ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาตามวัยแม้แต่น้อย ทว่ามันเหมือนปีศาจจำแลงมาในร่างเด็กมากกว่า“รีบลงมือเถอะ แค่เด็กปากมิสิ้นกลิ่นน้ำนม จะไปต่อคำให้เสียเวลาทำไม”หนึ่งในสามคนร้ายรีบเอ่ยขึ้น เมื่อรู้สึกว่างานที่ควรง่าย มันอยากขึ้นอีกนับเท่าตัว มิพูดเปล่า...ชายหนุ่มล้วงเอาอาวุธลับออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะซัดออกไปยังเป้าหมาย ซึ่งก็คือเด็กชายตรงหน้าปัง! เคร้ง! แต่ก่อนที่อาวุธลับ จะทันได้ถึงตัวของสองตาหลาน ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับกระบี่ที่พุ่งมาสกัดเอาไว้ได้ทัน“ท่านพ่อ! อี้หลาง!”อี้หรู วิ่งเข้าไปยืนบังบิดากับบุตรชาย ให้พ้นสายตาของคนร้าย โดยไม่มีใครทันได้เห็นรอยยิ้มของเด็กชาย เขารู้อยู่แล้วว่ามารดามาถึง จึงได้ยอมยืนนิ่งเป็นเป้าให้คนร้ายลงมือ“อย่าเสียเวลากำจัดพวกมันซะ!”สิ้นคำลมหายใจคนพูดก็จบลงเช่นกัน และนั่นทำให้สองคนร้ายที่เหลือ ต้องมองหาทางหนีทีไล่แทน ผู้มาใหม่ยังยืนอยู่ที่เดิม แต่สามารถปลิดชีพสหายของพวกเขาได้ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่พวกเขาจะสุ่มสี่สุ่มห้าลงมือ“พวกเจ้าดวงดียิ่งนัก ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่15.มิรู้ปล่อยวาง

    สิบวันถัดมา ณ จวนสกุลจาง เมืองหลวง จางฮูหยิน นั่งใบหน้าเรียบตึงอยู่ภายในห้องรับแขก ซึ่งเวลานี้บุตรสาวคนโตของสามี กำลังนั่งสะอื้นไห้อย่างคนทุกข์ระทมแสนสาหัส ได้ร้องขอให้สามีของนาง ช่วยจัดการบุตรสาวตัวปลอม ที่ถูกขับออกจากสกุลจาง ไปนานนับสิบปีให้พ้นไปจากสายตา ซึ่งตัวนางเองนั้น ได้แต่งเข้ามาหลังจากอดีตฮูหยินใหญ่ สิ้นไปได้เพียงครึ่งปี ซึ่งตอนนั้นจางอี้หรูเอง ก็ได้ออกเรือนไป โดยมีนาง เป็นมารดาที่ส่งบุตรสาวเข้าหอทว่าเวลาผ่านไปเพียงปีกว่า อี้หรูที่กำลังตั้งครรภ์แก่ ก็ต้องมีอันต้องระเห็จออกจากจวนสกุลโจว เพราะจางหย๋าชินปรากฏตัวขึ้น พร้อมหลักฐานว่าเป็นบุตรสาว ที่แท้จริงของสกุลจางเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนั้น โจวเค่อก็เลือกหย่าจางอี้หรู แต่งกับจางหย๋าชินตามการหมั้นหมาย ของสองสกุลที่มีมาแต่เดิม ซึ่งตอนนั้นนนางเองในฐานะมารดา พยายามยิ่งนักที่จะขัดค้านแต่ด้วยนางก็เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน จึงไม่อาจวิ่งเต้นช่วยลูกเลี้ยงได้ แม้นางจะเสนอรับอี้หรูเป็นลูก อนุคนโปรดของสามี กับทุกคนในจวน ก็เลือกที่จะปฏิเสธความคิดของนาง สุดท้ายจางอี้หรูก็หายไปจากเมืองหลวงนานกว่าสิบปีทว่าบัดนี้ข่าวที่นางเองก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่16. เรือนหลี

    ท่านเสนาบดีจาง เลือกที่จะไม่สนใจอนุหลิน แต่เขารีบที่จะปิดจบคำของของบุตรสาว ด้วยการจะไปคุยกับบุตรเขยเอง หากจะเทียบอำนาจของอดีตภรรยาเอก และภรรยาเอกคนปัจจุบัน เขายอมรับว่าเมิ่งเหยียนเหนือกว่ามาก ด้วยสกุลเมิ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ ผ่านทางเมิ่งไท้ฮูหยิน“แต่ข้าร้อนใจนี่เจ้าคะ นางมีลูกชายส่วนข้า...”หญิงสาวเงียบไป เมื่อนึกถึงว่าตัวนาง ยังไม่มีทายาท มิว่าชายหรือหญิง ครอบครัวสามีก็เวียนวนให้สามีรับอนุ แล้วหากครอบครัวสามีรู้ว่าอี้หรูยังไม่ตาย ทั้งยังให้กำเนิดบุตรชายอีกเล่า ตำแหน่งฮูหยินของนาง คงต้องสั่นคลอนเป็นแน่“บุตรชายของน้องสาวเจ้า ไยไม่รับเขาไปเลี้ยงดูเล่า อย่างไรเสียฐานะของนางก็ไม่อาจสูงไปกว่านี้ได้ รับลูกของนางมาเลี้ยงดู อย่างไรก็เป็นสายเลือดเดียวกัน ไม่แน่เจ้าอาจตั้งครรภ์ในเร็ววันก็เป็นได้”เมื่อบุตรสาวยังไม่ยอม ที่จะสงบใจต่อคำของเขา ท่านเสนาบดีจาง จึงเสนอให้รับหลานชาย ที่เป็นลูกของบุตรสาวอีกคนของเขา ที่เกิดจากอนุไปเลี้ยงดู อย่างน้อยก็เป็นสายเลือดเดียวกัน ดีกว่าไปเอาเด็กที่ไม่รู้หัวนอนมาเลี้ยง“แต่ข้ามีวิธี ที่ดีกว่านั้นเจ้าค่ะ”เมื่อนึกถึงคำว่าลูกบุญธรรม หญิงสาวก็มีความคิดใหม่ผุดขึ้นมาในห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15

บทล่าสุด

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่43.ความจริงอันโหดร้าย

    หลังจากมือธนูล้มลงสิ้นใจตาย ต้วนอี้หรู ค่อยๆ เบนหน้าไม้ ชี้ตรงไปยังต้วนฉี รูปร่างแบบนี้ ง่ายนักต่อการลงมือ แต่จะให้ตายตอนนี้มันสบายไป ในเมื่อตักเตือนไปแล้วยังรั้น ก็ต้องเพิ่มบทเรียนให้อีกสักหน่อย หญิงสาวลดปลายหน้าไม้ลงอีกระดับ ก่อนจะกดกลไล ปล่อยลูกดอกออกไปอีกครั้ง ฟิ้ว! ฉึก! “อ๊ากกก!!! ขะ...ข้า!! ของข้า ท่านแม่ ขาข้า!!!” ต้วนฉีใช้สองมือกุมต้นขา ที่ยังมีลูกดอกปักคาอยู่ ต้วนฮูหยินและเชี่ยจิ่น รีบคลานเข้าไปดูอาการของต้วนฉี ด้วยอาการสั่นเทา “ลูกแม่! เจ้าเจ็บมากหรือไม่” “ท่านแม่มิลองถูกยิงดูเล่าขอรับ อ๊ากก!! พวกสารเลวทำร้ายข้า!! ข้าจะฆ่าเจ้าให้หมด!” ต้วนฉีโวยวายเสียงดังลั่น ทว่ามันกลับไม่ได้ทำให้ผู้ลงมือ รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวหันกลับหาผู้เป็นปู่ เพราะอย่างไรเสียต้วนฉี ก็เป็นสายเลือดของท่านปู่ นางลงมือโดยไม่ขอความคิดเห็น ก็ถือว่าผิดอยู่บ้าง “หลานปู่ เจ้าไม่ต้องกังวล ในเมื่อเขาเลือกเส้นทางตัดสัมพันธ์สายเลือดแล้วแบบนี้ จะเก็บเขาไว้ให้แว้งกัดในภายหน้า ก็คงไม่เป็นผลดีต่อเราทุกคน” “เรื่องนี้อี้หรูทำเกินกว่าเหตุ แต่ใน

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่42.ดูเจ้าไม่แปลกใจเลย

    ภาพการรับมือของต้วนจ้าว ทำให้กลุ่มคนที่ซุ่มดูอยู่บนต้นไม้ จำต้องเบิกตากว้าง แต่ก็มิใช่ทั้งหมด เพราะต้วนอี้หลาง ทำเพียงยกยิ้มมุมปาก เขารู้อยู่แล้วว่าท่านตามิใช่ธรรมดา แต่คงมีเหตุผลที่เก็บซ่อนตัวตนเสียมิดชิด ในช่วงที่เขากับมารดายังบาดเจ็บ นักฆ่าเทียววนเวียนหมายเข้ามาสังหาร แต่กลับไม่มีมดแมงตัวใดหลุดรอด มาถึงเขากับมารดาได้เลย นั่นบอกได้ว่าโรงหมอสกุลต้วน มีดีอยู่ไม่น้อย “ดูเจ้าไม่แปลกใจเลย” เจียงกั๋วจ้าน ถามต้วนอี้หลาง ที่นั่งอยู่กิ่งไม้อยู่ถัดจากเขา เด็กชายหันไปส่งยิ้มกว้างให้แก่ผู้เป็นลุง “ก่อนที่ท่านตาจะพาข้าไปหาท่านลุง เราแม่ลูกบาดเจ็บสาหัสกันอยู่นานทีเดียว และตลอดระยะเวลานั้น มีนักฆ่าวนเวียนราวผึ้งตอมเกสรดอกไม้เชียวละขอรับ ท่านลุงคิดว่าไยมือสังหารจึงไม่เคยเฉียดใกล้เราแม่ลูกเลยเล่าขอรับ” “หากเป็นเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องถึงมือข้าเลยนี่” “ท่านลุงรู้แก่ใจดี ว่าพายุเมื่อมันโหมแรงขึ้น คนเราก็ต้องหาที่หลบภัยให้มั่นคงขึ้น ท่านตาแม้จะมากฝีมือ แต่วัยที่ร่วงโรยตามกาลเวลา ทำให้ท่านตาเกรงว่าเราแม่ลูกจะไร้เกราะคุ้มกาย” “ข้าไม่แปลก

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่41 ไม่แปลกใจ

    ภาพการรับมือของต้วนจ้าว ทำให้กลุ่มคนที่ซุ่มดูอยู่บนต้นไม้ จำต้องเบิกตากว้าง แต่ก็มิใช่ทั้งหมด เพราะต้วนอี้หลาง ทำเพียงยกยิ้มมุมปาก เขารู้อยู่แล้วว่าท่านตามิใช่ธรรมดา แต่คงมีเหตุผลที่เก็บซ่อนตัวตนเสียมิดชิด ในช่วงที่เขากับมารดายังบาดเจ็บ นักฆ่าเทียววนเวียนหมายเข้ามาสังหาร แต่กลับไม่มีมดแมงตัวใดหลุดรอด มาถึงเขากับมารดาได้เลย นั่นบอกได้ว่าโรงหมอสกุลต้วน มีดีอยู่ไม่น้อย “ดูเจ้าไม่แปลกใจเลย” เจียงกั๋วจ้าน ถามต้วนอี้หลาง ที่นั่งอยู่กิ่งไม้อยู่ถัดจากเขา เด็กชายหันไปส่งยิ้มกว้างให้แก่ผู้เป็นลุง “ก่อนที่ท่านตาจะพาข้าไปหาท่านลุง เราแม่ลูกบาดเจ็บสาหัสกันอยู่นานทีเดียว และตลอดระยะเวลานั้น มีนักฆ่าวนเวียนราวผึ้งตอมเกสรดอกไม้เชียวละขอรับ ท่านลุงคิดว่าไยมือสังหารจึงไม่เคยเฉียดใกล้เราแม่ลูกเลยเล่าขอรับ” “หากเป็นเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องถึงมือข้าเลยนี่” “ท่านลุงรู้แก่ใจดี ว่าพายุเมื่อมันโหมแรงขึ้น คนเราก็ต้องหาที่หลบภัยให้มั่นคงขึ้น ท่านตาแม้จะมากฝีมือ แต่วัยที่ร่วงโรยตามกาลเวลา ทำให้ท่านตาเกรงว่าเราแม่ลูกจะไร้เกราะคุ้มกาย” “ข้าไม่แปลกใจเลย ว

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่40 ปิดประตูตีแมว

    หลังจากประตูจวนปิดลง สองแม่ลูกที่เคยแสดงท่าทีหวาดกลัวอย่างรนรานเมื่อครู่ พลันแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหยัน เมื่อไร้สายตาคนภายนอก ก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งหวาดกลัวอีกต่อไปคนไร้ค่าที่คิดว่าตนเอง กำลังถือหมากเหนือกว่า ก็เป็นเพียงแมงเม่าที่บินเข้าหากองไฟ ที่จุดหลอกล่อเอาไว้ ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่ดี “ข้าคิดเอาไว้อยู่แล้ว ว่าสักวันเจ้าต้องโผล่มาที่นี่” ต้วนฮูหยินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน นางไม่มีความจำเป็นต้องกลัวคนอย่างต้วนจ้าว ดีเสียอีกที่เขากลับมา จะได้มิต้องเสียเวลาไล่ล่า “แล้วอย่างไร” ต้วนจ้าวถามกลับ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก็ไม่แล้วอย่างไร แต่ข้ามิชื่นชอบ ให้มีหนามแหลมมากีดขวางเส้นทาง”สิ้นคำของต้วนฮูหยิน บ่าวชายหญิงที่อยู่โดยรอบ ได้เคลื่อนกายโอบล้อมผู้ที่มาเยือนในทันที โดยในมือล้วนมีอาวุธ ซึ่งมันชัดเจนแล้วว่าที่ผ่านมา สองแม่ลูกเอง ก็เตรียมการเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งมันไม่ผิดจากที่เขา คาดการณ์เอาไว้เท่าใดนักรอยยิ้มหยันของสองแม่ลูก รวมถึงสะใภ้คนรอง ไม่ได้ทำให้พ่อลูกสกุลต้วนจากชายแดน รู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย นักฆ่าระดับสูงกว่านี้ เขาพ่อลูกก็เผชิญกันมามิรู้กี่หน

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่39. การกลับมา

    สองวันถัดมา ณ สกุลต้วน ชายชราผู้เป็นใหญ่ในบ้าน เทียวเดินออกมาชะเง้อมองถนน เผื่อว่าบุตรชายที่ออกจากบ้านไปนาน จะผ่านมาให้ได้เห็นบ้าง นับตั้งแต่เขารู้ข่าว ถึงการกลับมาของบุตรชาย ใจที่โหยหาก็ทำให้เขา เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าบุตรชายอย่างมีความหวัง ในอดีตเป็นเขาที่ไม่คิดอ่อนข้อให้แก่บุตรชาย จนนำมาซึ่งการแยกครอบครัว แต่เมื่อเวลาผันผ่านไปหลายปี เขาที่แก่ชรามากแล้ว ก็รู้ตัวดีว่าครั้งนั้น มันหาใช่เรื่องใหญ่ จนถึงขั้นต้องแยกครอบครัว ด้วยบิดาย้ำเตือนให้เขาต้องเลือก สุดท้ายแล้วเขาเองที่ผิดทั้งหมดเป็นเขาเองที่เห็นแก่ตัว เลือกรักษาอำนาจในมือ จนต้องปล่อยบุตรชายออกจากบ้านไป เผชิญกับความทุกข์ยาก ที่เขาไม่อาจรู้ได้เลย ว่าบุตรชายต้องพบเจอสิ่งใดบ้างและตอนนี้ไร้บิดาของเขาแล้ว อำนาจเด็ดขาดจึงอยู่ในมือเขาแล้ว ขอเพียงบุตรชายเอ่ยปาก ว่าอยากกลับมา เขาก็พร้อมนำชื่อบุตรชายและสะใภ้ กลับเข้าผังสกุลโดยไม่ลังเล “ท่านพี่จะมายืนทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ ไยไม่ช่วยลูกเราหาหนทาง ทวงความเป็นธรรมคืนจากสวะพวกนั้น” ต้วนฮูหยินพูดกับสามี ด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าใดนัก เมื่อสองวันก่อนบุตรชาย ได้บอก

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่38.เพราะเขาตั้งใจให้นางอยู่ไม่สุข

    นายท่านโจวรับกระดาษนั้นมาคลี่อ่าน แม้ว่าตัวอักษรจะไม่ได้ยาวเท่าใดนัก แต่มันก็ชัดเจนว่านี่คือคำสั่ง ให้ลงมือต่ออดีตลูกสะใภ้กับหลานชาย“มันคงแค่เรื่องบังเอิญ”หลังอ่านเนื้อความจนจบ ชายชราเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก ทั้งยังไม่กล้าสบตาสามพี่น้องตรงๆ แม้เขาจะมั่นใจว่านี่คือของจริง แต่สกุลโจวยังต้องพึ่งพาสกุลจางและหยาง การทำแบบนี้กับสายเลือดของสองสกุล เท่ากับลากเอาทั้งตระกูลโจวลงสู่เหวลึก“หึๆ ข้าน้อยรู้อยู่แล้วขอรับ ว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ ก็อย่างที่ข้าบอก ข้ามิใช่คนใจกว้าง หากยังมีเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกสักครั้ง ข้าถือว่าได้บอกกล่าวไปแล้ว หากมีสิ่งใดร้ายแรงอย่าได้โทษ ว่าข้าไร้น้ำใจ ส่วนสิ่งนี้...โปรดรักษามันให้ดีหน่อยนะขอรับ เพราะยามเกิดสิ่งใดขึ้นมามา คงเป็นคนที่มีสิ่งนี้เท่านั้น ที่ต้องแบกรับมันอย่างโดดเดี่ยว หาใช่คนที่แอบเอามันไปใช้”ต้วนอี้หลาง ส่งสัญญาณให้ม่อเหลียว นำบางอย่างไปยื่นส่งให้แก่ผู้นำสกุลโจว ชายชรารับกล่องไม้ไปเปิดออกดู ตลอดร่างชาหนึบ ราวกับถูกฟ้าฝ่ากลางแสกหน้าป้ายคำสั่งสกุลโจว มันไปตกอยู่ในมือของเด็กพวกนี้ได้อย่างไร ชายชราอดไม่ได้ที่จะหันไปที่บุตรชายคนโต และลูกสะใภ้ที่ตอนนี

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่37.เจ้าโง่นั่น!

    “โปรดระวังวาจาด้วยขอรับ สกุลเจียงใช่บ้านที่จะพูดจาให้เสียหายได้”พ่อบ้านชู่ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เมื่อหญิงปากกล้าอาจหาญ หมิ่นนายเขาให้เสื่อมเสีย“หากไม่ใช่ลูกติดอนุ แล้วพวกเขาจะเป็นใครได้ ข้าเข้าใจว่าต่อหน้าผู้คน เจ้าเรียกพวกเขาว่าคุณชายคุณหนู แต่ก็อย่างที่เจ้าเห็น ว่าตอนนี้พวกเขา กำลังมาเรียกร้องสิทธิ์อยู่บ้านโจว”“สักคำแล้วหรือขอรับ ที่คุณชายของข้าน้อย บอกว่าจะมาทวงสิทธิ์ อีกอย่างนายท่านทุกคนของสกุลเจียง ไม่รับอนุหรือสาวใช้อุ่นเตียง จะมีเพียงนายหญิงเดียวตลอดชีวิต ข้าน้อยพูดถึงขนาดนี้แล้ว คนฉลาดย่อมเข้าใจนะขอรับ”“สตรีลูกติด! คู่ควรหรือ! อย่าทำเหมือนข้ามิรู้ ว่าสกุลชั้นสูง จะต้องเลือกสิ่งที่ดีและคู่ควรเท่านั้น หาใช่สิ่งของมีตำหนิ”“ฮูหยินน้อยโจว กำลังกล่าวหาว่านายท่านของข้า เป็นคนเขลาอย่างนั้นหรือ...”“ข้าแค่บอกว่านางไม่คู่ควร!”“ไม่ใช่สิ่งที่คนนอก จะสอดรู้ขอรับ”พ่อบ้านชู่ มองไปที่สะใภ้สกุลโจว ด้วยแววตาเอาเรื่อง สตรีหน้าชังผู้นี้กล้าเกินไปแล้ว คิดหยามหมิ่นในการตัดสินใจนายท่านของเขา“นี่เจ้า!”“อะแฮ่ม!”โจวเค่อ กระแอมไอขัดขึ้นเสียก่อน ภรรยาของเขาอยู่ในสังคมชั้นสูงมานาน น่าจะ

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่36.ส่งคืน

    การตอบโต้ระหว่างสี่พ่อลูก ทำให้ผู้นำตระกูล และสมาชิกคนอื่นๆ ที่นั่งรวมอยู่ ถึงกับทำหน้ากันไม่ถูกเลยทีเดียว ด้วยไม่คิดว่าเด็กอายุเพียงเท่านี้ กลับมีวาจาฉะฉาน ทั้งการวางตัวไม่เหมือนคนไร้การอบรมสักนิดทั้งความน่าเกรงขามนั่นอีกเล่า มันส่งผ่านออกมาทางแววตาอันเด็ดเดี่ยว บอกได้ชัดว่าภายหน้า ทั้งสามพี่น้องเมื่อเติบโตขึ้น หากเดินบนเส้นทางของผู้นำ ย่อมเป็นใหญ่ได้ในเวลาอันสั้นเมื่อนึกถึงตรงนี้ ผู้นำตระกูลจึงต้องขบคิด หาหนทางนำเด็กทั้งสาม หรือหนึ่งในสามกลับมาอยู่ในตระกูล เส้นเลือดของครอบครัวจะไหลเวียนได้ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าสามารถทำให้สามแฝด อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา“นางเป็นเด็กผู้หญิง จำต้องรู้สำรวม เจ้าที่เป็นชายจะเข้าใจอันใด”“หากเป็นสตรีที่อ่อนโยน แล้วต้องพบชะตากรรมเช่นท่านแม่ ข้ายินดีสอนให้น้องสาว รู้จักที่จะปกป้องตนเอง มิต้องพึ่งพาบุรุษให้เกินจำเป็น เน้นพึ่งพาตนเองเป็นดีที่สุด”“เด็กคนนี้ ข้า...เห็นไหมเล่า เจ้าเองยังมองว่ามารดาของเจ้าไร้ค่า”“ใต้เท้าโจว คนไร้ค่า...คือผู้ที่ไร้ปัญญาก้าวหน้าด้วยตนเอง แต่ท่านแม่ของข้า นางประเสริฐเกินคนเยี่ยงท่านจะเอื้อมถึง สตรีเช่นนางใช่จะมีให้เห็นดาษดื่นเสียเ

  • ยาจกยอดมารดา    ตอนที่35.ภายในห้องรับแขก

    ภายในห้องรับแขก สามพี่น้องนั่งนิ่งเงียบ ไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตาตื่นใจ กับความมั่งมีของครอบครัวบิดา เพราะถ้าเทียบกับสกุลเจียงแล้ว นี่มิได้ถึงเศษเสี้ยวเลยก็ว่าได้ หากจะมีบิดาทั้งที ก็ต้องหน้าตาดีและร่ำรวย รวมถึงเป็นคนที่ดี คู่ควรมารดาเท่านั้นโจวเค่อผู้หลงตัวเอง กำลังนั่งยิ้มอย่างผู้มีชัย ซึ่งมันทำให้สามแฝดอดขำขันอยู่ในใจไม่ได้ ยิ้มไปเถิดบิดาข้า เพราะอีกไม่กี่อึดใจ มันจะหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อนเลย“พวกเจ้าคิดได้แล้วใช่หรือไม่ จึงมาหาข้าถึงบ้านเยี่ยงนี้ แต่ข้าต้องบอกเอาไว้ก่อนว่ามากสุด พวกเจ้าก็เป็นได้แค่ลูก ที่มิอาจสืบทอดตำแหน่งใดในสกุลโจวได้”โจวเค่อรีบบอกกับลูกที่เกิดกับอดีตภรรยา เขายอมรับว่าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าอี้หรูจะยังรักษาลูกๆ เอาไว้ได้ อีกทั้งเมื่อล่าสุดที่ได้พบนาง ก็เกิดเหตุการณ์ที่เขามั่นใจยิ่งนัก ว่ายากที่นางกับลูกจะรอดชีวิตมาได้ และที่เขาไม่อยากเชื่อสายตา คือเขามีลูกแฝดถึงสามคนแต่เพราะตัวเขานั้น ยังต้องพึ่งพาสกุลจาง และสกุลหยางของภรรยา เพื่อความก้าวหน้าในราชสำนัก จึงไม่อาจหักหาญน้ำใจจางหย๋าชินได้ เพราะมีใครบ้าง ไม่ต้องกำอำนาจหนุนหลัง กับการอยู่ในสังคมสวมหน้ากากนี้“เรียนใต้เท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status