จากนักฆ่ากลายเป็นองครักษ์และสาวใช้ส่วนตัว จากพยัคฆ์ที่นิ่งและสุขุมดุจภูผาน้ำแข็ง กลับเริ่มละลายและตามหึงสาวใช้ข้างกายจนหน้ามืด "หากเจ้าไม่คิดอะไรกับเขา ก็จงพิสูจน์ให้ข้าเห็น จูบข้าสิอวิ๋นซี!" จากคนที่เคยสุขุมและนิ่งดุจธาราน้ำแข็ง แต่เมื่ออยู่ใกล้นาง และพบกับความใจร้อนและไม่สนใจผู้ใดของนาง ทำให้หัวใจของพยัคฆ์หนุ่มเริ่มถูกละลายทีละนิด... จนเปลี่ยนเป็นความรัก และความหึงหวงโดยไม่รู้ตัว นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเซต "ดวงใจพยัคฆ์แห่งเฉินซาน"
ดูเพิ่มเติมเหลามาม่าเกือบจะหยุดหายใจ ไม่คิดว่าอวิ๋นซีจะหักมือของนางรำต่อหน้านาง “เหลามาม่า เช่นนั้นก็ลองให้นางทดสอบก่อนเป็นไร”“ชะ เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูพวกนางรำก่อน หากว่าเจ้าทำได้ข้าจะ… จะยอมรับเจ้า”“ก็แค่นี้ ทำไมต้องให้ข้าพูดมากด้วย”สาวใช้ที่พานางมาหันมายิ้มและเลี่ยงออกมายืนมอง เมื่อดนตรีเริ่มบรรเลง นางรำที่เหลือก็เริ่มร่ายรำ อวิ๋นซีมองพร้อมกับยืนหาวไปด้วยจนจบเพลง เหลามาม่าไม่มีความมั่นใจเลยสักนิดว่านางจะทำได้“เอาล่ะ ทีนี้เจ้าก็ลองร่ายรำให้ข้าดูสิ ว่าเมื่อครู่นี้เจ้าจดจำได้มากน้อยเท่าใด หากเจ้าจดจำได้เกินสองในสี่ข้าจะรับเจ้าเอาไว้เพื่อไปแสดงในงานเลี้ยงสกุลเพ่ย”“ก็ได้”เพียงเพลงเริ่มบรรเลง อวิ๋นซีก็ร่ายรำตามจังหวะ เหลามาม่าถึงกับตกตะลึงเพราะท่วงท่าและการร่ายรำของนางงดงามจนน่าเหลือเชื่อ นางรำที่ยืนมองอยู่เดิมทีก็แอบปรามาสนางเอาไว้ถึงกับตกใจไปตาม ๆ กัน“ไม่น่าเชื่อเลย”พัดในมือของนางตกลงไปอีกครั้ง สาวใช้คว้ากลับมาได้และยื่นส่งไปให้นางและกระซิบ“ที่เหลือก็ฝากท่านด้วย วันนี้พวกข้าคงต้องขอตัวก่อน”“ไปเถอะ ๆ ที่เหลือข้าจัดการเอง”เหลามาม่าพูดกับสาวใช้แต่สายตานางมิได้มองไปที่ทั้งคู่ เพราะตอนนี้นางม
ตำหนักท่านอ๋อง“ทูลท่านอ๋อง ส่งแม่นางหลิ่วเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ดีมาก มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่”“นอกจากขอลดสาวใช้และบ่าวไพร่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“หึ เป็นไปตามคาด ไม่ไว้ใจข้าสินะ”“นางกล้าหรือพ่ะย่ะค่ะ คนเช่นนาง…”“เสี่ยวอวี้ อย่าพึ่งปรามาสนางเช่นนั้น”เสี่ยวอวี้เงียบลงไปในทันที แต่สายตาของเขายังคงเคลือบแคลงสงสัยไม่หาย แม้ว่าท่านอ๋องจะรับนางเข้าวังแต่เขาก็ไม่มีทางไว้ใจนาง“เจ้ากำลังคิดว่าข้าจะทำอะไรกันแน่ใช่หรือไม่”“กระหม่อมมิกล้า”“เจ้าอยู่ข้างกายข้ามาตั้งแต่ยังเยาว์ เจ้าคิดเช่นไรมีหรือที่ข้าจะไม่รู้ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าไม่ได้ให้นางมาทำหน้าที่แทนเจ้าหรอก”“แต่ว่าพระองค์ตรัสว่าให้นางมาเป็นองครักษ์ข้างกาย… นี่หรือว่า!”“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว น้องห้ากับน้องเก้าจะเดินทางมาถึงหลิงโจวเมื่อใด”“หอหรงเยว่ส่งข่าวมาบอกว่าตอนนี้ท่านอ๋องทั้งสองเดินทางออกจากเมืองหลวงแล้ว อีกไม่เกินสามวันจะถึงหลิงโจว ส่วนท่านอ๋องแปดยังติดศึกที่ชายแดนเมืองหลันโจวยังมาตอนนี้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้แล้ว น้องแปดแต่ไหนแต่ไรก็ใจร้อนมุทะลุ ศึกเช่นนี้เขาไม่มีทางจะปล่อยให้แม่ทัพเล็กออกศึกเป็นแน่ เจ้าไปพัก
มีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ เท่านั้นที่ผุดขึ้นมา เสียงพ่นลมจากปลายจมูกของอีกฝ่ายทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย“แม่นางอวิ๋นซี หากว่าเจ้าอยากจะฆ่าข้าจริง ๆ คงลงมือไปนานแล้ว จำได้ว่าเจ้าปัดอาวุธลับของคนร้ายช่วยข้าเอาไว้ที่หอนางโลม นั่นแสดงว่าเจ้ายังพอมีจิตใจที่ดี และข้าก็ไม่ใช่ศัตรูของเจ้า มิสู้เราสองคนมานั่งคุยกันดี ๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าได้”“เกรงว่าบางเรื่องท่านอ๋องไม่ทราบจะดีกว่า เพราะว่าเรื่องที่ข้าอยากจะรู้ ก็ไม่แน่ว่าจะเกี่ยวกับท่าน”“งั้นหรือ เช่นนั้นหากว่ามันเกี่ยวกับข้าก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ หากว่าช่วยเจ้าได้ข้าก็ยินดี”“ท่านพูดจริงงั้นหรือ”“นับตั้งแต่ที่เจ้าช่วยข้าเอาไว้ ก็นับว่าข้าติดหนี้ชีวิตเจ้าหนึ่งครั้ง หากเจ้าต้องการให้ช่วยทำสิ่งใดข้าย่อมยินดีช่วย ชาจะเย็นแล้วรีบดื่มก่อนเถอะ”“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านอ๋องแล้ว”หลิ่วอวิ๋นซียกน้ำชาขึ้นมาดื่ม นับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่านางยินดีที่จะร่วมสนทนาต่อกับเขาอีกครั้ง“เจ้าบอกว่านัดกับเหรินลั่วหลีที่หอซิงเฟย เหตุใดต้องเป็นที่นั่น แล้ว…”“เดี๋ยวก่อนนะท่านอ๋อง นี่ท่านเริ่มสอบสวนข้าแล้วงั้นหรือ”“ขออภัยแต่ข้าจำเป็นต้องรู้ เ
เมืองหลิงโจว / แคว้นเฉินซานเสียงอาชานับสิบเร่งควบทะยานเพื่อไล่ล่านักฆ่า ที่บังอาจลอบสังหารขุนนางในเมืองหลิงโจว ครั้งนี้เป็นรองเจ้ากรมราชทัณฑ์แซ่อิ่น ซึ่งมารับตำแหน่งที่นี่เกือบสองปีแล้ว เขาถูกฆ่าในห้องหนังสือในยามดึกของคืนเดือนมืด“พวกเจ้าล้อมไปทางตะวันตก ข้าจะตามไปเอง”""พ่ะย่ะค่ะ""“เฉินตงหราน” อ๋องอุดรที่สุขุม พูดน้อยแต่เด็ดขาด สมญานาม “พยัคฆ์แดนเหนือ” แห่งเมืองหลิงโจวเร่งความเร็วม้าคู่ใจ หมายจะโจมตีนักฆ่าในเงามืดที่อยู่ตรงหน้า “หนีไปทางหอซิงเฟย”“ตามไป”""พ่ะย่ะค่ะ""หอซิงเฟยท่านอ๋องนำคนบุกเข้าไปในหอคณิกาชื่อดังกลางเมืองหลิงโจว และเมื่อเข้าไปก็สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนในสถานเริงรมย์ยามค่ำคืนนั้นไม่น้อย แต่เมื่อเห็นป้ายทองของราชสำนักชูขึ้นมา แขกที่อยู่ในนั้นก็เริ่มทยอยพากันออกไป“ค้น!”“พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองเมื่อเห็นว่ามีเงาประหลาดที่รวดเร็วเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน เขาวิ่งไปด้านในและเปิดประตูและพรวดพราดเข้าไป แต่กลับไม่พบสิ่งใดนอกจากสตรีนางรำที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ด้านในและกรีดร้องด้วยความตกใจ“กรี๊ด!! พวกท่านจะทำอะไร!”สายตาของอ๋องหนุ่มพลันหลับเลี่ยงในทันใดเมื่อส
เมืองหลิงโจว / แคว้นเฉินซานเสียงอาชานับสิบเร่งควบทะยานเพื่อไล่ล่านักฆ่า ที่บังอาจลอบสังหารขุนนางในเมืองหลิงโจว ครั้งนี้เป็นรองเจ้ากรมราชทัณฑ์แซ่อิ่น ซึ่งมารับตำแหน่งที่นี่เกือบสองปีแล้ว เขาถูกฆ่าในห้องหนังสือในยามดึกของคืนเดือนมืด“พวกเจ้าล้อมไปทางตะวันตก ข้าจะตามไปเอง”""พ่ะย่ะค่ะ""“เฉินตงหราน” อ๋องอุดรที่สุขุม พูดน้อยแต่เด็ดขาด สมญานาม “พยัคฆ์แดนเหนือ” แห่งเมืองหลิงโจวเร่งความเร็วม้าคู่ใจ หมายจะโจมตีนักฆ่าในเงามืดที่อยู่ตรงหน้า “หนีไปทางหอซิงเฟย”“ตามไป”""พ่ะย่ะค่ะ""หอซิงเฟยท่านอ๋องนำคนบุกเข้าไปในหอคณิกาชื่อดังกลางเมืองหลิงโจว และเมื่อเข้าไปก็สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนในสถานเริงรมย์ยามค่ำคืนนั้นไม่น้อย แต่เมื่อเห็นป้ายทองของราชสำนักชูขึ้นมา แขกที่อยู่ในนั้นก็เริ่มทยอยพากันออกไป“ค้น!”“พ่ะย่ะค่ะ”ท่านอ๋องวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองเมื่อเห็นว่ามีเงาประหลาดที่รวดเร็วเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน เขาวิ่งไปด้านในและเปิดประตูและพรวดพราดเข้าไป แต่กลับไม่พบสิ่งใดนอกจากสตรีนางรำที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ด้านในและกรีดร้องด้วยความตกใจ“กรี๊ด!! พวกท่านจะทำอะไร!”สายตาของอ๋องหนุ่มพลันหลับเลี่ยงในทันใดเมื่อส...
ความคิดเห็น