หลังจากป้อนยาเหล่านี้ไประยะหนึ่งแล้ว เซียวหลินเทียน หลิงเสี่ยง หลิงหว่านและคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบเตียงต่างก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของหลิงอวี๋น้ำค้างแข็งที่อยู่บนใบหน้าของนางกลายเป็นหยดน้ำแล้วหยดลงมายังมิทันที่หลิงซวนจะไปหาผ้ามาเช็ดหน้าให้หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนก็ก้าวไปเช็ดน้ำออกจากใบหน้าของนางด้วยแขนเสื้อของเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงเอ่ยเสียงทุ้ม“อย่าเพิ่งประกาศออกไปว่าช่วยหลิงอวี๋ได้แล้ว! ข้าจะดูว่าหมอเฝิงจะนำยาแก้พิษกลับมาได้หรือไม่!”เมื่อเห็นว่าอาการของหลิงอวี๋ดีขึ้นแล้ว หลิงเสี่ยงก็รู้สึกโล่งใจไปบ้าง เขายิ้มเยาะพลางเอ่ย “กล้าทำร้ายน้องสาวของข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยหมอเฝิงผู้นี้เด็ดขาด!”หลิงเสี่ยงกลอกตาพลางเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “เซียวหลินเทียน ท่านหายาพิษที่เหลืออีกครึ่งห่อเจอแล้วมิใช่หรือ? ขอกระหม่อมเถิด!”“คนเลวทรามเช่นนี้ก็ควรปฏิบัติจะต่อเขาแบบเดียวกับที่เขาทำ ให้เขาได้ลิ้มรสยาพิษของตนดูเสียบ้าง!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ยาอยู่กับท่านจินต้า ประเดี๋ยวข้าจะให้เขาเอามาให้เจ้า!”“ท่านอ๋อง ท่านพี่เสี่ยวเสี่ยง พวกท่านออกไปก่อนเถิด! พวกเราจะผลัดผ้าให้ท่านพี่หลิงหลิง!”เม
“ท่านอ๋อง กระหม่อมพยายามขุดรากของจินซาหลานนี้ก็เลยบาดเจ็บที่ขาพ่ะย่ะค่ะ!”หมอเฝิงชี้ไปที่ขาของตนราวกับจะแย่งเอาความดีความชอบเซียวหลินเทียนเห็นรอยเลือดบนขากางเกงของเขาก็ยิ้มบาง ๆ “หมอเฝิงทำงานหนักแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะเอามันไปช่วยพระชายา!”เซียวหลินเทียนเอาเหง้าส่งให้หลู่ชิ่งและขยิบตาให้ด้วยหลู่ชิ่งเข้าใจทันที เขามิกล้าใช้เหง้าจากหมอเฝิงเจอ ใช้เฉพาะเหง้าที่จ้าวซวนนำมาเท่านั้นหลิงเสี่ยงมองหมอเฝิงพลางยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเดินจากไปหลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์สองคนก็นำน้ำกับอาหารมาให้พวกจ้าวซวนกับหมอเฝิงแยกกันก่อนหน้านี้หมอเฝิงจงใจทำให้ขาของตนบาดเจ็บ เพราะอยากจะถ่วงเวลาให้กลับมาช้าหน่อย เพื่อที่หลิงอวี๋จะได้รอยาแก้พิษมิไหวไหนเลยจะคิดว่าเกิ่งเสี่ยวหาวจะเร่งให้กลับมา แล้วก็แบกเขาวิ่งเข้ามาด้วยตนเองโดยมิคำนึงถึงอาการบาดเจ็บของเขาเลยเขาเหนื่อยล้าจากการค้นหายามาทั้งวัน ทั้งกระหายน้ำทั้งหิว เมื่อเห็นเหยือกน้ำก็ดื่มเกือบทั้งหมดในอึกเดียวเซียวทงกำลังกังวลว่าหลิงอวี๋ตายแล้วหรือไม่ องครักษ์สองคนก็เข้ามาบอกนางว่าท่านอ๋องอี้เชิญให้ไปหาเซียวทงเดินตามองครักษ์ไปที่เรือนของหลิงอวี๋ด้วยควา
“หมอเฝิง!”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ก่อนหน้านี้เจ้าหมดปัญญาจะช่วยพระชายาที่ถูกวางยาพิษมิใช่หรือ? ไฉนตอนนี้เจ้าถึงรู้ว่าการต้มเหง้าในน้ำสามารถล้างพิษได้เช่นกันเล่า?”จากนั้นหมอเฝิงก็ตระหนักได้ว่าตนพลาดแล้ว จึงเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก “กระหม่อม… กระหม่อมคิดว่าหากน้ำของมันสามารถล้างพิษได้ การต้มเหง้าในน้ำก็น่าจะล้างพิษได้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ...”“หมอเฝิง เจ้ามิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตากระมัง!” เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “บอกข้ามา ผู้ใดสั่งให้เจ้าวางยาพิษพระชายา?”“ท่านอ๋อง กระหม่อมถูกใส่ความ! กระหม่อมมิได้วางยาพิษพระชายาจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หมอเฝิงเอ่ยอย่างกังวล “องค์หญิงหกเป็นคนทำพ่ะย่ะค่ะ พบยาพิษอยู่ในห่อสัมภาระขององค์หญิงหก หลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้ว! ท่านอ๋อง ท่านจะใส่ร้ายกระหม่อมเพียงเพื่อต้องการปกป้ององค์หญิงหกมิได้หนาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวทงโกรธมากจนวิ่งเข้าไปตบหน้าหมอเฝิงแล้วก่นด่าอย่างดุเดือด“สารเลว! เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่เจ้าสามารถใส่ร้ายได้จริง ๆ เยี่ยงนั้นรึ?”“บอกข้ามา ฮองเฮาเว่ยให้เจ้าวางยาพิษใช่หรือไม่? ฮองเฮาเว่ยให้เจ้าใส่ร้ายข้าใช่หรือไม่!”นางตบหมอเฝิงไปหลายครั้ง แ
แม้ว่าหลิงอวี๋จะล้างพิษไปแล้ว แต่พิษของจินซาหลานก็ทำลายอวัยวะภายในของนางไป เมื่อนางลุกขึ้นจึงรู้สึกว่าต้องใช้แรงมากนางฉวยโอกาสเข้าไปในมิติตอนที่ไม่มีใครอยู่ ทำการล้างไตล้างเลือดให้ตนเอง และทำการทดสอบบางอย่างด้วยพิษของจินซาหลานยังคงอยู่ในร่างกายของนาง ดังนั้นนางจึงเตรียมจะล้างพิษให้ตนเองอีกครั้งความสึกหรอของร่างกายทำได้เพียงค่อย ๆ ฟื้นตัวเท่านั้นทางด้านของเซียวหลินเทียน มีแม่ทัพกู่ร่วมมือกับแม่ทัพอีกหลายคน จึงสามารถส่งต่อตำรับยารักษาโรคระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันก็สามารถควบคุมโรคระบาดได้แล้วเซียวหลินเทียนให้คนไปส่งสาส์นกราบทูลองค์จักรพรรดิ จักรพรรดิอู่อันจึงอนุมัติให้เซียวหลินเทียนส่งตัวหยางต้าหู่กับแม่ทัพเซี่ยกลับไปยังเมืองหลวงพร้อมกับทรัพย์สินที่ถูกยึดโดยเร็วที่สุดและให้หลิงเสี่ยงเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพแห่งกองทหารรักษาการณ์เว่ยโจวหลิงเสี่ยงรู้สึกกังวลใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาจากมาเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว เขายังหวังที่จะกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อพบท่านปู่ ไหนเลยจะอยากให้ตนอยู่ในเว่ยโจวอีกแม้ว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เมื่อเข้ารับตำแหน่งนี้แล้ว การกลับเมืองหลวงก็จะอยู่ห่างไ
หลิงเสี่ยงหน้าแดงกับสิ่งที่หลิงอวี๋พูด จากนั้นก็จ้องนางแล้วเปลี่ยนเรื่องสองพี่น้องคุยกันเกือบทั้งคืนก่อนจะบอกลากันอย่างมิเต็มใจนักวันรุ่งขึ้น เซียวหลินเทียนก็พาหยางต้าหู่ แม่ทัพเซี่ยและหมอเฝิงเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเพราะความรักตัวกลัวตาย หมอเฝิงจึงสารภาพเรื่องที่ฮองเฮาเว่ยสั่งให้ตนวางยาพิษเซียวหลินเทียนหลังจากที่เขาลงนามกับลงนามในเอกสารแล้ว เซียวหลินเทียนจึงได้ให้ยาแก้พิษเขา แล้วคุ้มกันเขาไว้เพื่อไปเป็นพยานชี้ตัวฮองเฮาเว่ยที่เมืองหลวงเดิมทีเซียวทงรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำให้ฉินซานต้องลำบาก แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเซียวหลินเทียนเกือบจะใส่ความตนเพราะหลิงอวี๋ถูกวางยาพิษ นางก็รู้สึกแค้นใจ และวางแผนว่ากลับไปเมืองหลวงแล้วจะฟ้องเสด็จพ่อกับไทเฮาเซียวหลินเทียนมองออกถึงความเกลียดชังของนาง ในวันที่ออกเดินทาง เซียวหลินเทียนจึงเข้าไปในรถม้าของเซียวทง พลางเอ่ยตรง ๆ“เซียวทง ครั้งที่แล้วที่ฮองเฮาเว่ยคิดจะให้เจ้าหมั้น ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะแขวนตัวตายจึงบังคับให้ฮองเฮาเว่ยล้มเลิกความคิดนี้ได้!”“แล้วเยี่ยงไรเล่า?” เซียวทงมองอย่างระมัดระวัง “เสด็จพี่อย่าคิดจะมาเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้ง แล้วใช้หม่
ก่อนที่พวกเซียวหลินเทียนจะกลับไปถึงเมืองหลวง ที่เมืองหลวงก็มีคลื่นใต้น้ำก่อความวุ่นวายอยู่แล้วก่อนหน้านี้ข่าวที่ว่า เซียวหลินเทียนสามารถยืนได้นั้นมาถึงเมืองหลวงแล้ว จ้าวเจินเจินก็ถูกองค์ชายคังตบหน้า“นางสารเลว เจ้าบอกกับข้าเป็นมั่นเป็นเหมาะมิใช่หรือว่าเจ้าได้ยินว่าขาของเซียวหลินเทียนจะไม่มีวันลุกขึ้นได้อีกแล้ว?”“แต่ความจริงก็คือเขาลุกขึ้นยืนได้แล้ว!”องค์ชายคังโกรธมาก เมื่อก่อนตอนที่เซียวหลินเทียนนำกองทัพไปรบ ความฉลาดและความสามารถของเขาเหนือกว่าของตนยิ่งนักหลังจากที่ขาของเซียวหลินเทียนพิการ เขาก็แอบดีใจที่ฟ้าเปิดให้เขาแล้ว ต่อจากนี้เซียวหลินเทียนจะแข่งขันกับตนมิได้อีกต่อไปไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนออกไปข้างนอก แล้วจะสามารถยืนขึ้นได้เซียวหลินเทียนยืนขึ้นได้แล้วหรือ?จ้าวเจินเจินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางกุมหน้าที่ถูกตบไว้ ในใจเกิดความรู้สึกเสียใจอย่างมากหากนางรู้ว่าขาของเซียวหลินเทียนสามารถรักษาได้ ไฉนนางจะยอมรับปากท่านพ่อมาแต่งงานกับองค์ชายคังเล่า!นางกับเซียวหลินเทียนต่างก็รักกัน เซียวหลินเทียนสัญญากับตนไว้ว่าจะหย่ากับหลิงอวี๋แน่นอน!หากนางยืนหยัดต่อไปอีกสักหน่อย เ
องค์ชายเว่ยทั้งโกรธและเกลียดตระกูลหยาง พวกเขากล้าสมคบคิดกับแคว้นศัตรู เอาชื่อของตนไปทำเรื่องที่ทำลายชื่อเสียงให้เสียหายหลังจากที่องค์ชายเว่ยรายงานเรื่องหยางซ่างจื้อแล้ว เขาก็ยังเอาหลักฐานอีกจำนวนมากที่หยางซ่างจื้อขูดเลือดขูดเนื้อราษฎรมารายงานองค์จักรพรรดิด้วยทั้งยังเสนอตัวว่าจะไปจับกุมหยางซ่างจื้อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่จุนโจวด้วยตนเอง ‘อย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม’ ด้วยขณะที่จักรพรรดิอู่อันลังเลว่าควรจะส่งเขาไปจับหยางซ่างจื้อหรือไม่ สาส์นของเซียวหลินเทียนก็ถูกส่งกลับมาพอดีจักรพรรดิอู่อันโกรธมากเมื่อเห็นว่าครอบครัวของหยางซ่างจื้อขายอาวุธ อาหาร และเครื่องยาสมุนไพรให้กับฉีตะวันออกในเวลานี้ จ้าวฮุยพ่อแท้ ๆ ของจ้าวเจินเจินก็ถือโอกาสซ้ำเติม พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อัน“ฝ่าบาท หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยล้วนเป็นคนสนิทขององค์ชายเว่ย! ครั้งล่าสุดที่เหมืองก็มีคนค้นพบว่าคนขององค์ชายเว่ยกำลังแอบสร้างอาวุธอยู่มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“อาวุธเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็กระจัดกระจายไปมิรู้ว่าไปที่ใดบ้าง ที่แท้หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยก็ลักลอบเอาออกไปกับขายให้กับฉีตะวันออก!”“แม้ว่าตอนนี้ทั้งสี่
ท่านอ๋องเฉิงได้รับจดหมายลับของเซียวหลินเทียน จึงร่วมมือกับเซียวหลินเทียนจับกุมกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วยความรวดเร็วแม้ว่าองค์ชายเว่ยจะรู้เรื่องนี้ในภายหลัง ทว่าก็สายเกินไปแล้วมีคนเกี่ยวพันมากมายถึงเพียงนี้ หรือว่าเขาจะต้องฆ่าปิดปากทีละคนเล่า?เช่นนั้นจะไม่เป็นการบอกองค์จักรพรรดิตรง ๆ หรือว่าตนเองเป็นฆาตกร?คดีแล้วคดีเล่าล้วนมีความเกี่ยวข้องกับองค์ชายเว่ยทั้งทางตรงและทางอ้อม กอปรกับมีจ้าวฮุยเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอีกต่อให้จักรพรรดิอู่อันโง่เขลาก็รู้ว่าองค์ชายเว่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ขณะที่เขาส่งคนสนิทไปจับหยางซ่างจื้อที่หลบหนีไป ก็สั่งให้คนกักขังองค์ชายเว่ยไว้ในตำหนักองค์ชายเว่ยด้วยแค่รอเซียวหลินเทียนพาหยางต้าหู่และคนอื่น ๆ กลับมายังเมืองหลวง จากนั้นค่อยสืบสวนคดีด้วยกันเมื่อจักรพรรดิอู่อันได้รับสาส์นกราบทูลก็สั่งให้กองทัพหลวงจับตัวครอบครัวของแม่ทัพเซี่ย หยางซ่างจื้อ และรองผู้บัญชาการอู๋เข้าคุกทันทีพ่อแม่ของรองผู้บัญชาการอู๋กลับบ้านเกิดเพื่อดูแลตัวเอง จักรพรรดิอู่อันก็ส่งคนไปจับกุมและยึดทรัพย์สินของพวกเขาด้วยหลังจากตกสวรรค์มาลงนรกในชั่วข้ามคืน ฮูหยินอู๋ก็ยัง