แม้ว่าหลิงอวี๋จะล้างพิษไปแล้ว แต่พิษของจินซาหลานก็ทำลายอวัยวะภายในของนางไป เมื่อนางลุกขึ้นจึงรู้สึกว่าต้องใช้แรงมากนางฉวยโอกาสเข้าไปในมิติตอนที่ไม่มีใครอยู่ ทำการล้างไตล้างเลือดให้ตนเอง และทำการทดสอบบางอย่างด้วยพิษของจินซาหลานยังคงอยู่ในร่างกายของนาง ดังนั้นนางจึงเตรียมจะล้างพิษให้ตนเองอีกครั้งความสึกหรอของร่างกายทำได้เพียงค่อย ๆ ฟื้นตัวเท่านั้นทางด้านของเซียวหลินเทียน มีแม่ทัพกู่ร่วมมือกับแม่ทัพอีกหลายคน จึงสามารถส่งต่อตำรับยารักษาโรคระบาดออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันก็สามารถควบคุมโรคระบาดได้แล้วเซียวหลินเทียนให้คนไปส่งสาส์นกราบทูลองค์จักรพรรดิ จักรพรรดิอู่อันจึงอนุมัติให้เซียวหลินเทียนส่งตัวหยางต้าหู่กับแม่ทัพเซี่ยกลับไปยังเมืองหลวงพร้อมกับทรัพย์สินที่ถูกยึดโดยเร็วที่สุดและให้หลิงเสี่ยงเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพแห่งกองทหารรักษาการณ์เว่ยโจวหลิงเสี่ยงรู้สึกกังวลใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาจากมาเป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว เขายังหวังที่จะกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อพบท่านปู่ ไหนเลยจะอยากให้ตนอยู่ในเว่ยโจวอีกแม้ว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่เมื่อเข้ารับตำแหน่งนี้แล้ว การกลับเมืองหลวงก็จะอยู่ห่างไ
หลิงเสี่ยงหน้าแดงกับสิ่งที่หลิงอวี๋พูด จากนั้นก็จ้องนางแล้วเปลี่ยนเรื่องสองพี่น้องคุยกันเกือบทั้งคืนก่อนจะบอกลากันอย่างมิเต็มใจนักวันรุ่งขึ้น เซียวหลินเทียนก็พาหยางต้าหู่ แม่ทัพเซี่ยและหมอเฝิงเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเพราะความรักตัวกลัวตาย หมอเฝิงจึงสารภาพเรื่องที่ฮองเฮาเว่ยสั่งให้ตนวางยาพิษเซียวหลินเทียนหลังจากที่เขาลงนามกับลงนามในเอกสารแล้ว เซียวหลินเทียนจึงได้ให้ยาแก้พิษเขา แล้วคุ้มกันเขาไว้เพื่อไปเป็นพยานชี้ตัวฮองเฮาเว่ยที่เมืองหลวงเดิมทีเซียวทงรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำให้ฉินซานต้องลำบาก แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเซียวหลินเทียนเกือบจะใส่ความตนเพราะหลิงอวี๋ถูกวางยาพิษ นางก็รู้สึกแค้นใจ และวางแผนว่ากลับไปเมืองหลวงแล้วจะฟ้องเสด็จพ่อกับไทเฮาเซียวหลินเทียนมองออกถึงความเกลียดชังของนาง ในวันที่ออกเดินทาง เซียวหลินเทียนจึงเข้าไปในรถม้าของเซียวทง พลางเอ่ยตรง ๆ“เซียวทง ครั้งที่แล้วที่ฮองเฮาเว่ยคิดจะให้เจ้าหมั้น ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะแขวนตัวตายจึงบังคับให้ฮองเฮาเว่ยล้มเลิกความคิดนี้ได้!”“แล้วเยี่ยงไรเล่า?” เซียวทงมองอย่างระมัดระวัง “เสด็จพี่อย่าคิดจะมาเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้ง แล้วใช้หม่
ก่อนที่พวกเซียวหลินเทียนจะกลับไปถึงเมืองหลวง ที่เมืองหลวงก็มีคลื่นใต้น้ำก่อความวุ่นวายอยู่แล้วก่อนหน้านี้ข่าวที่ว่า เซียวหลินเทียนสามารถยืนได้นั้นมาถึงเมืองหลวงแล้ว จ้าวเจินเจินก็ถูกองค์ชายคังตบหน้า“นางสารเลว เจ้าบอกกับข้าเป็นมั่นเป็นเหมาะมิใช่หรือว่าเจ้าได้ยินว่าขาของเซียวหลินเทียนจะไม่มีวันลุกขึ้นได้อีกแล้ว?”“แต่ความจริงก็คือเขาลุกขึ้นยืนได้แล้ว!”องค์ชายคังโกรธมาก เมื่อก่อนตอนที่เซียวหลินเทียนนำกองทัพไปรบ ความฉลาดและความสามารถของเขาเหนือกว่าของตนยิ่งนักหลังจากที่ขาของเซียวหลินเทียนพิการ เขาก็แอบดีใจที่ฟ้าเปิดให้เขาแล้ว ต่อจากนี้เซียวหลินเทียนจะแข่งขันกับตนมิได้อีกต่อไปไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนออกไปข้างนอก แล้วจะสามารถยืนขึ้นได้เซียวหลินเทียนยืนขึ้นได้แล้วหรือ?จ้าวเจินเจินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นางกุมหน้าที่ถูกตบไว้ ในใจเกิดความรู้สึกเสียใจอย่างมากหากนางรู้ว่าขาของเซียวหลินเทียนสามารถรักษาได้ ไฉนนางจะยอมรับปากท่านพ่อมาแต่งงานกับองค์ชายคังเล่า!นางกับเซียวหลินเทียนต่างก็รักกัน เซียวหลินเทียนสัญญากับตนไว้ว่าจะหย่ากับหลิงอวี๋แน่นอน!หากนางยืนหยัดต่อไปอีกสักหน่อย เ
องค์ชายเว่ยทั้งโกรธและเกลียดตระกูลหยาง พวกเขากล้าสมคบคิดกับแคว้นศัตรู เอาชื่อของตนไปทำเรื่องที่ทำลายชื่อเสียงให้เสียหายหลังจากที่องค์ชายเว่ยรายงานเรื่องหยางซ่างจื้อแล้ว เขาก็ยังเอาหลักฐานอีกจำนวนมากที่หยางซ่างจื้อขูดเลือดขูดเนื้อราษฎรมารายงานองค์จักรพรรดิด้วยทั้งยังเสนอตัวว่าจะไปจับกุมหยางซ่างจื้อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่จุนโจวด้วยตนเอง ‘อย่างแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม’ ด้วยขณะที่จักรพรรดิอู่อันลังเลว่าควรจะส่งเขาไปจับหยางซ่างจื้อหรือไม่ สาส์นของเซียวหลินเทียนก็ถูกส่งกลับมาพอดีจักรพรรดิอู่อันโกรธมากเมื่อเห็นว่าครอบครัวของหยางซ่างจื้อขายอาวุธ อาหาร และเครื่องยาสมุนไพรให้กับฉีตะวันออกในเวลานี้ จ้าวฮุยพ่อแท้ ๆ ของจ้าวเจินเจินก็ถือโอกาสซ้ำเติม พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อัน“ฝ่าบาท หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยล้วนเป็นคนสนิทขององค์ชายเว่ย! ครั้งล่าสุดที่เหมืองก็มีคนค้นพบว่าคนขององค์ชายเว่ยกำลังแอบสร้างอาวุธอยู่มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“อาวุธเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็กระจัดกระจายไปมิรู้ว่าไปที่ใดบ้าง ที่แท้หยางซ่างจื้อกับแม่ทัพเซี่ยก็ลักลอบเอาออกไปกับขายให้กับฉีตะวันออก!”“แม้ว่าตอนนี้ทั้งสี่
ท่านอ๋องเฉิงได้รับจดหมายลับของเซียวหลินเทียน จึงร่วมมือกับเซียวหลินเทียนจับกุมกับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วยความรวดเร็วแม้ว่าองค์ชายเว่ยจะรู้เรื่องนี้ในภายหลัง ทว่าก็สายเกินไปแล้วมีคนเกี่ยวพันมากมายถึงเพียงนี้ หรือว่าเขาจะต้องฆ่าปิดปากทีละคนเล่า?เช่นนั้นจะไม่เป็นการบอกองค์จักรพรรดิตรง ๆ หรือว่าตนเองเป็นฆาตกร?คดีแล้วคดีเล่าล้วนมีความเกี่ยวข้องกับองค์ชายเว่ยทั้งทางตรงและทางอ้อม กอปรกับมีจ้าวฮุยเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอีกต่อให้จักรพรรดิอู่อันโง่เขลาก็รู้ว่าองค์ชายเว่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ขณะที่เขาส่งคนสนิทไปจับหยางซ่างจื้อที่หลบหนีไป ก็สั่งให้คนกักขังองค์ชายเว่ยไว้ในตำหนักองค์ชายเว่ยด้วยแค่รอเซียวหลินเทียนพาหยางต้าหู่และคนอื่น ๆ กลับมายังเมืองหลวง จากนั้นค่อยสืบสวนคดีด้วยกันเมื่อจักรพรรดิอู่อันได้รับสาส์นกราบทูลก็สั่งให้กองทัพหลวงจับตัวครอบครัวของแม่ทัพเซี่ย หยางซ่างจื้อ และรองผู้บัญชาการอู๋เข้าคุกทันทีพ่อแม่ของรองผู้บัญชาการอู๋กลับบ้านเกิดเพื่อดูแลตัวเอง จักรพรรดิอู่อันก็ส่งคนไปจับกุมและยึดทรัพย์สินของพวกเขาด้วยหลังจากตกสวรรค์มาลงนรกในชั่วข้ามคืน ฮูหยินอู๋ก็ยัง
ก่อนหน้านี้หลิงเยี่ยนปิดบังเรื่องนี้กับหลิงเสียงเซิงและหวางซือ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับองค์ชายเว่ยในช่วงสองวันที่ผ่านมา หลิงเยี่ยนจึงเริ่มวิตกกังวล แล้วไปสารภาพกับหวางซือตอนนี้ฮองเฮาเว่ยมิอนุญาตให้หลิงเยี่ยนได้เข้าไปเป็นชายารองแล้ว เช่นนั้นจะทำอย่างไรกับเด็กในท้องของหลิงเยี่ยนเล่า?มิว่าในเมืองหลวงจะวุ่นวายแค่ไหน เซียวหลินเทียนก็ยังคงรีบไปที่เมืองหลวงตามกำหนดการระหว่างทางเซียวหลินเทียนนั้นพบปัญหามากมาย มือสังหารสามคนที่ถูกจับได้ในหอเหยี่ยวราตรี เดิมทีต้องถูกพาไปยังเมืองหลวงอย่างลับ ๆแต่มิรู้ว่าข่าวหลุดออกไปได้อย่างไร มือสังหารทั้งสามคนจึงถูกสังหารไปพร้อมกับองครักษ์ที่พาพวกเขาไปเมืองหลวงแล้วหมอเฝิงก็กินยาพิษฆ่าตัวตายระหว่างเดินทางกลับอีกเซียวหลินเทียนมิเชื่อว่าคนรักตัวกลัวตายเยี่ยงหมอเฝิงจะกินยาพิษฆ่าตัวตาย แต่หลังจากตรวจอาหารที่เขากินและผู้คุมแล้วก็มิพบอะไรน่าสงสัยเลยสุดท้ายหลิงอวี๋ก็ได้ทำการชันสูตรพลิกศพหมอเฝิง แล้วพบเข็มเงินจุ่มยาพิษร้ายแรงปักอยู่ที่คอของหมอเฝิงหลิงอวี๋จำได้ทันทีว่า ตอนหลิงผิงถูกขังอยู่ในเรือนของเกิ่งเสี่ยวหาว ชิวเหวินซวงก็ใช้เข็มเงินสังหารผู้คุมสองคนที่
เซียวหลินเทียนเรียกหาใครมิทันแล้ว หลิงอวี๋บอกว่าเมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ต้องกินยาแก้พิษให้ทันเวลามิฉะนั้นพิษจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด แล้วเขาจะหัวใจวายและตายได้ในเวลาอันสั้นเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาแม้แต่จะสวมอาภรณ์ เขารีบหยิบยาแก้พิษที่หลิงอวี๋ให้มาแล้วกลืนลงไปทันทีในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น เซียวหลินเทียนรู้สึกว่าตนมิสามารถยกมือขึ้นได้แล้ว ความรู้สึกเฉื่อยชานั้นแล่นไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วหัวใจเต้นเร็วผิดปกติราวกับว่ามันจะกระโดดออกมาจากอกในไม่ช้านี้เขารู้สึกเวียนหัวจึงนั่งลงไปบนเก้าอี้ในตอนที่เซียวหลินเทียนคิดว่าตัวเองจะต้องตายเพราะหัวใจวาย ความรู้สึกเย็น ๆ ที่อธิบายมิได้ก็แพร่กระจายออกมาจากลำคอของเขาเซียวหลินเทียนรู้สึกว่าความถี่การเต้นของหัวใจของตนลดลงอย่างช้า ๆ และเขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ชัดเจนขึ้นยาแก้พิษที่หลิงอวี๋ให้มาออกฤทธิ์แล้ว!เซียวหลินเทียนเหงื่อท่วมตัว ประสบการณ์ความเป็นความตายในชั่วพริบตา ประสบการณ์ที่ขึ้นจากนรกสู่สวรรค์เช่นนี้เขามิอยากสัมผัสมันอีกแล้วในชีวิตนี้เซียวหลินเทียนรอจนกลับมาเป็นปกติก่อนถึงตะโกนเรียกด้วยเสียงแหบ “หลู่ชิ่ง!”หลู่ชิ่งได้
จ้าวซวนเหลือบมองหมอเฉินอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “หมอเฉิน ทุกคนต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด! หากท่านบริสุทธิ์ ไฉนต้องกลัวการตรวจสอบด้วยเล่า!”“อย่ามาพูดจาไร้สาระ ยกมือขึ้นให้ข้าตรวจสอบเดี๋ยวก็รู้!”จ้าวซวนหยิบโคมไฟรังสียูวีออกมา แม้ว่าหมอเฉินจะมิพอใจ แต่พอเห็นหมอหานกับหมอหลี่ยกมือขึ้นอย่างให้ความร่วมมือ เขาก็มองมือของตนอย่างเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงยกมือขึ้นอย่างสบายใจจ้าวซวนส่องโคมไฟไปที่พวกเขา ครั้นเห็นว่ามือของหมอหานกับหมอหลี่ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่บนฝ่ามือทั้งสองของหมอเฉินเรืองแสงไปด้วยสีเขียว ๆ บนเสื้อผ้าของเขาก็ด้วยสีหน้าของจ้าวซวนเปลี่ยนไปทันที เขาชักดาบออกมาพร้อมกับตะโกนออกไป “มือสังหารคือหมอเฉิน จับตัวเขาไว้!”องครักษ์ที่ฉินซานพามานั้นรีบวิ่งขึ้นมาทันทีแล้วชักดาบมาล้อมหมอเฉินไว้หมอเฉินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนด้วยความโกรธ “องครักษ์จ้าว อย่ามาใส่ร้ายข้านะ… ข้านอนอยู่ในห้องตลอด มิได้ออกไปข้างนอกเลย แล้วข้าจะเป็นมือสังหารที่ลอบสังหารท่านอ๋องได้เยี่ยงไร!”“มิได้ออกไปไหนเลยรึ? เช่นนั้นที่มือเรืองแสงเต็มไปหมดนี่เจ้าจะอธิบายเยี่ยงไร?”หลิงอวี๋กับเซียวหลิ